ตอนที่ 16 : Unexpected EP.14 - How to love
EP.14
มีเพียงความเงียบในห้องสี่เหลี่ยมที่มีกระจกรอบข้าง แต่มันก็ถูกปิดให้มืดทึบด้วยม่านสีชา ในห้องที่มีไฟสีส้มสลัวมีเพียงฉันที่นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยพิเศษอย่างไร้คำพูด ได้แต่มองหน้าผู้ชายที่ ปกติมันจะยิ้มให้ฉัน หรือไม่ก็ใช้สายตาทะเล้นๆของเค้าก่อกวนประสาทของฉันอยู่ตลอด ตอนนี้เค้ากับหลับสนิทเพราะโดนยาที่คุณหมอให้ ทำให้สลบไสลไม่ได้สติแม้สักนิดและน่าจะถึงเช้านั้นละ
ถ้าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้มันอธิบายเป็นคำพูด ฉันคงนึกถึงคำว่า…รู้สึกผิดเป็นคำแรก!
ใช่…ฉันทำให้เค้าต้องมานอนไม่ไหวติงและช้ำไปทั่วตัวโดยที่สาเหตุมันมาจากฉันเอง ถ้าฉันไม่เจอเลนตอนนั้นถ้าไม่มีเรื่องกัน ถ้าสงบปากสงบคำ และไม่กวนหมอนั้น เค้าคงไม่ติดใจเอาความหรือไม่ก็อาจจะจำฉันไม่ได้ไปแล้ว แต่ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะความดื้อด้านของฉันเอง
“ปริ้น แกกำลังจะออกไปโรงพยาบาลอีกหรอ”เสียงทักของนิวเยียร์ทำให้ฉันหันมองหลังจากที่แอบกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเช้า
“อืม แกละจะไปไหน!”
“ฉันกับพี่ปีย์ก็ว่าจะไปเยี่ยมเย็นนี้อะ แต่ฉันขอไปกลับไปบ้านก่อนแปปนึง แม่โทรตามวะ”
“อ่อ ได้ งั้นเจอกันที่โรงพยาบาลนะ”
“ฝากดูเพื่อนพี่ด้วยนะ”เป็นพี่ปีย์ที่เสริมขึ้น
ฉันแยกกับพวกพี่ปีย์หลังจากที่ติดรถมาลงหน้าโรงพยาบาลโชคดีที่บ้านยัยนิวเยียร์ผ่านที่นี้นะ ฉันแวะซื้อแอปเปิ้ลหน้าโรงพยายาลเพื่อไปให้ผู้ป่วย
รู้หรือไม่ว่า…แอปเปิ้ลคือผลไม้ที่นิยมใช้ขอโทษนะ ฉันเคยได้ยินจากที่ไหนสักที่
กึก ฉันเลื่อนประตูห้องที่มีเจ้าของชื่อที่คุ้นเคย แต่แล้วก็ได้แต่ชะงักตัว เมื่อเห็นว่ากำลังมีแขก
“พี่ท็อปรู้ไหมค่ะว่าชะพลูตกใจแค่ไหน”เสียงของผู้หญิงตัวเล็กพูดทั้งน้ำตา ซึ่งฉันก็ขยับตัวไปทางประตูเพื่อไม่ให้เค้าเห็น
ผู้หญิงคนนั้น…นั้นมันคนที่ฉันเจอนิ ชะพลู ใช่เธอชื่อชะพลู!!
“รู้ไงยัยตัวดี ถึงได้ไม่โทรบอก”
“จะใจร้ายไปหน่อยละมั้งค่ะ เป็นห่วงนะรู้ไหม ดูสิ เจ็บมากใช่ไหม ปกติไม่ชอบมีเรื่องนิค่ะ ทำไมทำแบบนี้ละ”เธอพูดตัดพ้อเสียงที่เจือจางเพราะร้องไห้ ทำให้คนป่วยต้องดึงเธอไปโอบกอด
ตึก ตึก ตึก ฉันมองภาพตรงหน้าแต่ทำได้แค่ยกมือขึ้นปิดปาก ภาพตรงหน้าเหลือเกินจะพูดนะตอนนี้
“โอ๋ๆ อย่าร้องนะ จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก โอเคไหม”พี่ท็อปพูดพร้อมกับยกยิ้มตาเดิม
เพราะฉันแท้ๆ ฉันทำให้ตัวจริงของเค้าต้องเสียใจ แย่ชะมัด
แต่ทำไมฉันถึงได้หน้าชาแบบนี้นะ เหมือนรู้สึกเป็นก้างอย่างบอกไม่ถูก
สกายนายเดินเร็วๆสิ ใช้ให้ถือของแค่นี้ชักช้าจริงๆเลย”
เพราะเสียงของคนที่กำลังตรงมาทำให้ฉันหันมอง ชายหญิงที่ดูวัยรุ่นเดินตรงมาท่าทางเร่งรีบ และดูเหมือนกำลังมองหน้าเลขห้องอะไรสักห้องอยู่ทำให้ฉันผละออกหน้าประตูเล็กน้อยเพื่อไม่รู้ว่าฉันกำลังแอบฟังการสนทนาของคนในห้อง
“ครับคุณภรรเมีย สมายช่วงนี้เธอขี้บ่นจังนะ เป็นช่วงมามากหรือเปล่าเนี้ย”
“นี่ สกาย!!”หญิงสาวหันไปแห้วจนชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
“ว่าแต่ห้องไหนอะตัวเอง ยังไม่ถึงอีกหรอหนักชะมัด”
“1713ค่ะ เค้าช่วยไหมตัวเอง!”ฉันต้องย่นคิ้วอีกครั้ง เมื่อห้องนั้นเป็นห้องเดียวกับพี่ท็อปนะสิ
“งั้นก็ห้องนี้นะสิ”ชายหนุ่มพูดพรางชี้ป้ายหน้าห้อง แต่ทั้งสองก็ต้องหันมามองฉันที่ยืนอยู่เก้ๆกังๆอยู่ มันเดินหนีไม่ทันจริงๆให้ตาย
“คุณ…มาเยี่ยมพี่ท็อปหรอค่ะ”หญิงสาวหน้าตาหน้ารักที่มีชื่อสมตัวสมาย เธอคลี่ยิ้มเต็มปากให้ฉันอย่างเป็นมิตร ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งสวย เธอพูดเบาๆก่อนจะผลักผู้ชายที่เดินมาด้วยให้เข้าไปในห้องก่อน
“อ่อค่ะ แต่ว่าจะกลับแล้ว”
“ดูเหมือนคุณจะยังไม่ได้เข้าไปเลยนะคะ”เธอถามพร้อมกับมองที่ถุงแอปเปิ้ลฉัน
“ฝากให้เค้าด้วยนะคะ บอกว่าจากน้องรหัส เอาไว้จะมาเยี่ยมใหม่”
“น้องรหัส อ่อ..ปริ้นเซสสินะคะ”
“รู้จักฉันด้วยหรอค่ะ”
“รู้สิค่ะ ฉันเป็นเพื่อนกับชะพลูนะคะ”พะเพื่อนผู้หญิงคนนั้น แสดงว่าเธอก็รู้จักฉันสินะ
“อ่อ ค่ะ”
“จะไม่เข้าไปหรอค่ะ ยัยนั้นอยากคุยกับคุณอยู่เหมือนกันนะคะ เห็นว่ามาเช้าเพื่อจะเจอคุณ”
“คุย…กับฉัน”ฉันทวนคำ ใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้ว่าพี่ท็อปสารภาพรักฉันหรอ หรือรู้ว่าฉันทำมห้เค้าเจ็บตัว เลยจะคุยด้วย
มาขนาดนี้แล้วยัยปริ้น เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวนะ จะหนีงั้นหรอ ลุยสิ อย่าทำตัวขี้แพ้หน่อยได้ไหม
“ก็ได้ค่ะ คุยก็คุย”ฉันตอบรับก่อนจะเห็นรอยยิ้มเต็มหน้าผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง เธอดูใจดีและน่ารักจัง ไม่เหมือนรอยยิ้มของคนที่มองศัตรูเลย ก็ฉันเป็นคนทำให้เพื่อนเธอเสียใจนิ ฉันก็ต้องเป็นศัตรูเธอถูกไหมละ หรือนี้แค่รอยยิ้มที่หลอกให้ฉันตายใจ
“อ้าวสมาย เห็นสกายว่าเธออยู่หน้าห้องคุยกับใครละ”
“นี่…คนที่เธออยากเจอ”ทันทีที่เราเดินเข้ามา สมายก็ดึงมือฉันให้เค้ามาในห้องที่น่าอึดอัด
เต็มไปด้วยสายตาสงสัยของชะพลู เธอจำฉันไม่ได้งั้นหรอ? และชายหนุ่มที่มาด้วยเมื่อกี้ และผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา เค้ามาเมื่อไรละ ทำไมฉันไม่เห็น?
“ไปพาใครมาอีกละครับคุณเมียสุดประเสริฐ”
“เลิกกวนประสาทได้ไหมสกาย ให้พี่ท็อปบอกดีกว่า เนอะ”ว่าแล้วสมายก็จับฉันไปใกล้พี่ท้อปมากขึ้น
“หายไปไหนมา คิดว่าทิ้งกันไปแล้วซะอีก”
“เกือบจะทิ้งแล้วค่ะ แต่สมายกักตัวไว้ก่อน ลางสังหรณ์ว่าเธอคือปริ้นเซสมันบอก”สมายพูดแล้วก็ยกยิ้มอีกรอบ
“เมียแกเป็นหมอดูแล้วหรอวะไอ้กาย”
“เออวะ ฉันก็เริ่มสงสัยละเนี้ยไอ้ซัน”
เสียงบ่นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ทำเอาทั้งห้องขำไปใหญ่ ยกเว้นฉันนะT^T อึดอัดเหมือนโดนขังอยู่ในห้องปิดตาย
“เธอ ปริ้นเซสสินะคะ”
แล้วฉันก็ต้องหลุดออกจากภวังค์แล้วมองไปยังผู้หญิงที่เดินมาประชิดตัว นี่ถ้าจะตบบอกเลยนะสวนนะ แต่ฉันก็ได้แต่จ้องกลับแบบงงๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการจ้ะ ชะพลูนะ”
อะไรละเนี้ย เธอดึงมือฉันไปอย่างถือวิสาสะ แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร
เป็นมมิตรหรอ?
“ปริ้นเซสค่ะ”ฉันตอบและรอดูเชิงเธอต่อ
บรรยากาศของคนรอบข้างก็ดูจะลุ้นไม่น้อยเลยที่เรากำลังมองตากันและจับมือกันอยู่แบบนี้
“นี่ ยัยชะพลู เธอจะจ้องปริ้นเซสเค้าทำไมขนาดนั้นเนี้ย”เป็นสมายที่ขัดขึ้น จนห้องที่กดดันห้องฉันเหมือนได้มีอากาศหายใจอีกครั้ง
“สวยมากเลยนะ ยิ่งแต่งตัวที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษาดูโตเป็นสาวน่ารักมากเลย”
ชะชมฉันหรอ คือนี้คงไม่หันมาแล้วพูดว่าล้อเล่นเหมือนที่พี่ท็อปทำอีกใช่ปะ
หรือคนสมัยนี้เค้าด่ากันด้วยคำชม รู้สึกอ่อนต่อโลกขึ้นมาเลยสิให้ตาย! =//=
“ขอบคุณค่ะ คุณเองก็น่ารักมาก”ฉันยังตอบทั้งที่มองสถานการณ์เกมส์นี้ไม่ออก
“ปริ้นอย่าไปชมมาก เดี๋ยวยัยนี้ได้ลอยติดเพดาน”เสียงพี่ท็อปทำเอาคนอื่นขำ แต่ยกเว้นชะพลูที่ตวัดสายตางอนๆใส่ๆ
เล่นกันน่ารักจัง - -! เคยรู้สึกอยู่ดีๆก็เหงาทั้งที่ไม่ได้อยู่คนเดียวไหม เป็นอะไรที่เหมือนเค้าพูดกันรู้เรื่องแค่พวกเค้าเท่านั้น มีเพียงคุณที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ฉันกำลังประสบปัญหานี้อยู่เลยละ
“ท็อป ท็อป ตาท็อปเป็นยังไงบ้าง!!”
บรรยากาศต่างๆยังคงไม่ดีขึ้น แล้วตอนนี้ก็นำพาผู้หญิงอีกคนมาในห้อง เธอคนนี้ที่อยู่ที่รีสอร์ทตอนนั้น ที่ดูสนิทชิดเชื้อ...แต่เชื่อไหมว่าไม่พูดพร่ำเธอก็เดินผ่านฉันกับชะพลูไปก่อนจะกอดพี่ท้อปแนบแน่น
“คุณนายครับ ใจเย็นครับ เจ็บแผล”พี่ท็อปพูดติดตลกก่อนจะดึงเธอออก
ทำไมตอนนี้เหมือนรู้สึกมีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบละ ทำไมชะพลูถึงยิ้มพอใจที่พี่ท็อปกอดสาวสวยคนนี้ แล้วทำไมชะพลูถึงดึงฉันไปข้างๆเตียง
“ยังมาปากดีอีกไอ้ลูกชาย แม่ตกใจแทบแย่บินกลับจากญี่ปุ่นมารู้ไหมว่าใจเสียแค่ไหน”
O//O มะแม่หรอ แม่พี่ท็อป!!! สาวขนาดนี้อะนะ บ้าไปแล้ว!!
“คุณป้าค่ะ ใจเย็นสิค่ะ เดี๋ยวว่าที่ลุกสะใภ้ก็ตกใจแย่”ชะพลูไม่รอช้าที่จะทักทายคุณแม่พี่ท้อปก่อนเลย
ใช่สิ…ว่าที่ลูกสะใภ้เธอไงชะพลู หึ!!
“จริงไหมปริ้น”
“ห้ะ…เอ่อว่าไงนะคะ”ฉันเหวอไปพักใหญ่ที่จู่ๆเธอก็ส่งคำพูดมาไม่ทันตั้งตัวโดยที่คุณแม่พี่ท็อปเอาแต่ตวัดสายตามาทางฉันด้วยการสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มบางๆ
“สวัสดีค่ะ”มันไปเองอัตโนมัติเลย แล้วแม่พี่ท็อปก็ยกมือรับ
“สวัสดีจ้ะ สวย น่ารัก แฟนแกหรอลูกชายตาถึงนะเรา”เธอใช้สายตามองพี่ท็อปอย่างกรุ่มกริ่ม แต่ตอนนี้ใครก็ได้หาเครื่องช่วยหายใจให้ฉันทีสิ เหมือนจะขาดอากาศไปพักนึง=[]=!!
“แม่อะ จีบอยู่ๆ”พี่ท็อปพูดจบก็ส่งยิ้มให้ฉัน
เดี๋ยวนะ สรุปมันอะไรกัน ฉันงง งงมากถึงคำว่าที่สุดเลย ณ จุดๆนี้
“ชะพลูครับ มานั่งกับซันมา ปริ้นเค้าทำตัวไม่ถูกแล้วนะ ซันว่าชะพลูเจ้ากี้เจ้าการมากไปแล้วนะครับ”
“ก็ปริ้นเซสเธอดูไม่กล้าพูดนิค่ะ ชะพลูก็แค่แนะนำให้คุณป้ารู้จักในฐานะหลานคุณป้าแล้วก็น้องพี่ท็อปก็เท่านั้นนิซัน ทำไมซันต้องดุละค่ะ”
"โอ๋ๆ ดีกันนะ ไม่ดุครับไม่ดุ"
น้อง????????
น้องนี้แปลว่าชะพลูคือญาติพี่ท็อปใช่ปะ!!...เอิ่มมมมม อยากจะทึ้งหัวตัวเองให้กับความโง่เขลาU//U
เอาสิ ตอนนี้ปริ้นเซสคนนี้ปวดสมองมากกว่าสอบเคมีผสมชีวะผสมฟิสิกส์ซะอีก คือตลอดเวลาฉันเข้าใจผิด ถึกถักไปเอง มั่วนิ่ม มโน เอาเป็นว่าทุกสิ่งคิดเองไปใช่ปะ….T^T เลอเลิศจริงๆยัยบ้าปริ้นเซส!!
เล่าเรื่องนี้ให้ยัยนิวเยียร์ฉันว่ามันฮาท้องแตกแหงๆ น่าอายชะมัด>//<
แล้วบรรยากาศที่ฉันว่ามันตึงเครียดก็จบด้วยความวุ่นวายของคู่รักสองคู่คือ พี่สมาย-พี่สกาย พี่ชะพลู-พี่ซัน ฉันเพิ่งรู้ว่าสองคู่นี้เค้าแต่งงานกันแล้วทั้งที่อายุแก่กว่าฉันแค่ปีเดียวเอง แต่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกเค้าเหมาะสมกันจัง วันนี้ฉันหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยละ ซึ่งตอนนี้เราก็นั่งคุยกันว่าด้วยเรื่องหลังแต่งงานของพี่ๆ โดยที่คุณแม่…หมายถึงคุณแม่พี่ท็อปกลับไปก่อน เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง
“พี่ท็อป งั้นชะพลูกลับแล้วนะ รบกวนเวลาสวีทกับน้องปริ้นมานาน”
“ไม่ใช่สักหน่อยค่ะพี่ชะพลู”ฉันรีบปฏิเสธพัลวัน
“ไว้ไปเจอกันนะน้องปริ้น”
“ค่ะพี่สมาย กลับดีๆนะคะ”
“เฮ้อออออ เหนื่อยไหม”เสียงของคนบนเตียงทำเอาฉันอดหัวเราออกมาคนเดียวไม่ได้
ไม่เหนื่อยค่ะ แต่ตลกตัวเองชะมัด”ฉันตอบก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอีกข้างเตียงเช่นเดิม
“ตลกอะไร ไหนว่ามาสิ”ถ้าฉันบอกเค้าไป พี่ท็อปคงต้องคำในเรื่องที่ฉันมโนเป็นแากเป็นตอนนี้แหงๆ ไม่เอานะ ฉันอาย!
“ไม่เอาอะ อาย”ฉันตอบทั้งที่ยังยกยิ้มบนใบหน้า
“อายอะไร จะสารภาพรักพี่หรอ”
“ตลกละพี่ท็อป ใครรักใคร อย่ามามั่ว”ฉันหันไปค้อนเค้า โดยที่รอยยิ้มสดใสของพี่ท็อปก็ทำให้ฉันต้องหลบสายตา
“พี่…รักปริ้นนะ”
“….”ความเงียบมามาอีกแล้ว ชอบทำอะไรให้ช็อคทุกทีเลยสินะ ฉันเลือกไม่เงยหน้า แต่ลุกจากเก้าอีกอย่างรวดเร็ว
“เข้าห้องน้ำนะ”ฉันพูดจบก็ก้าวเท้าไม่รอคำตอบคนที่นั่งยิ้มชอบใจไปเลย
เฮือกกกก รู้สึกอีกที่ก็กลั้นหายใจไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ฉันนั่งลงที่ปิดประตู เหมือนโดนสูบพลังงานไปหมด วันนี้มันเป็นวันอะไรกันเนี้ย
จากนั้นฉันก็มองตัวเองในกระจกในห้องน้ำ เพิ่งจะรู้นะว่าหน้าตัวเองตอนนี้มันแดงยิ่งกว่าน้ำแดงเฮลบลูบอยซะอีก เลือดสูบฉีดีเป็นบ้าเลยอะแดงระเรื่อแบบไม่ต้องแต่งหน้า บ้าจริงไม่กล้าออกไปทั้งแบบนี้อะ
สุดท้ายฉันก็จำจใจเดินมาที่เตียง ดีตรงเค้าหลับไปแล้ว แต่ไม่ได้ห่มผ้าเลย แอร์เย็นขนาดนี้ไม่เย็นหรืองไง แทบยิ่งโดนแผลคงจะยิ่งเพิ่มความเจ็บระบมแน่ๆ
ฉันยกผ้าที่ปลายเท้าเค้าขึ้นห่มอย่างระวังเพื่อไม่ให้เค้าตื่น จากปลายเท้าขึ้นมาที่หน้าอกก่อนจะยกมือเค้าที่กอดอกอยู่วางทับผ้าไว้
>//<
“มะไม่ได้หลับหรอ”ฉันตัวแข็งทื่อเลยเมื่อหันมามองพบว่าพี่ท็อปนอนลืมตาไม่พูดอะไร แล้วหน้าเราตอนนี้ใกล้กันมากเพราะว่าปรับระดับเตียงให้ส่วนหัวสูงขึ้นมา
“ใครจะหลับเร็วขนาดนั้น ปวดแผลด้วย”พี่ท็อปพูดเสียงอ่อนๆ ก่อนจะทิ้งหัวที่หนักลงที่ไหล่ฉัน
“นะนี้….เอาหน้าออกไปเลยนะ”
“มานี้เลย มาดูแลเลย”ยังไม่ทันจะถอยห่างเพราะกลัวจับโดนแผลเค้า เค้าก็ใช้ท่อนแข็งรั้งเอวฉันไประยะประชิดอีกครั้ง ตอนนี้เรียกได้ว่าหน้าอกฉันแนบชิดกับตัวเค้าเลย ว่าง่ายๆคือเค้ากอดฉันอยู่ แล้วฉันก็เอนไปสอบเพราะว่าไม่ได้เกร็งตัวไว้ไง แล้วถ้าดิ้นจะโดนแผลเค้าไหมละ เวรกำจริงๆ
ตอนนี้ได้แต่เกยหน้ากับอกเค้า แล้วหายใจถี่ๆ
“พี่ท็อปปล่อยปริ้นนะ”
“แบบนี้สบายดีออก ไม่สบายหรอ”ดูเค้าพูดสิ เอาแต่ใจตัวเองชะมัด!
“ไม่สบาย พี่ท็อปกอดเอวปริ้นอยู่จะสบายได้ยังไง แล้วปริ้นทับตัวพี่ท็อปอยู่นะไม่เจ็บหรือไง”
“ตัวเบายังกับนุ่น สงสัยต้องขุนให้หนักกว่านี้ คนอื่นได้อุ้มไม่ไหว พี่จะได้อุ้มคนเดียว ดีปะ”
“ไม่ดี ถ้าปริ้นอ้วนขนาดนั้นคงไม่มีใครชอบแล้วละคะ”ฉันตอบพร้อมคิดภาพตาม ตัวตันๆ น้ำหนักเป็นหลายสิบโล ไม่ดีที่สุดT^T
“ถึงวันนั้น พี่ก็ยังรักปริ้นนะ”
“….”
“ไม่ใช่แค่อ้วนนะ ถึงจะแก่ จะเหี่ยว ฟันไม่มี เดินไม่ไหว อะไรก็ตาม พี่ก็ยังรักปริ้น”
“…..”
“ได้ยินไหมค่ะ น้องรหัสของพี่”
“…..”
เอิ่ม…สงฉันไปห้องฉุกเฉินทีค่ะ ฉันว่าฉันไม่โอเค คล้ายว่าจะช็อคกลางอากาศ เหมือนร่างกำลังล่องลอยไปพร้อมวิญญาณ คำพูดที่ขี้อ่อนกำอ้อมกอดที่ได้รับตอนนี้มันส่งผลต่อหัวใจมากเลย
“ขอโทษนะ”ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันพูดพร้อมกดปลายจมูกลงต่ำลงที่อกเค้า เหมือนว่าจะร้องไห้
“ปริ้น เป็นอะไร”พี่ท้อปก้มลงมองที่หน้าฉันอย่างตกใจ ก่อนจะปล่อยอ้อมกอดเปลี่ยนเป็นประคองหน้าฉันไปดู ซึ่งฉันยังคงนั่งอยู่บนเตียงเค้าเช่นเดิม
"พี่ท็อปเจ็บตัวแบบนี้ก็เพราะปริ้น"
"คิดมากนะเด็กโง่ ไม่เอาไม่ร้องนะคะคนดี"
T^T น้ำตามันไหลแล้วมันพูดไม่ออก มันจุกจนบอกไม่ถูก ซึ่งฉันก็ได้แต่เบี่ยงหน้าไปมาให้หลุดจากการประคองของพี่ท้อปแต่ก็โดนมือหนาจับก่อนจะเลื่อนหน้าฉันไปใกล้
สัมผัสอุ่นๆเข้ามายังริมฝีปากฉันแบบไม่ตั้งตัว ซึ่งตอนนี้ฉันเหมือนถูกสาปให้แข็งทื่อ ดวงตาที่เบิกโตถูกปิดลงอีกครั้งเมื่อพี่ท็อปเริ่มพลิกหน้าเพื่อไม่ให้จมูกเราชนกัน น้ำตาฉันเหิดหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่พี่ท็อปยังคงมอบความละมุนในรสจูบนั้นมาที่ฉัน
ก๊อก ก๊อก ฉันกับพี่ท็อฟถึงกับผละหน้าออกแบบอัตโนมัติ เมื่อเสียงเค้าะนั้นมันบ่งบอกว่ามีคำกำลังเข้ามา
“พี่มาร์ช พี่ธันเดอร์ พี่ปีย์ ยัยนิว”ฉันทำอะไรไม่ถูกได้แต่เรียกชื่อคนที่กำลังเดินเข้ามาซึ่งพวกเค้าก็ได้แต่อมยิ้มมุมปาก
“พวกเราคงไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรหรอกนะ”
“เห้ยบ้าไอ้นิว แกพูดอะไรของแก”ฉันสวนนิวเยียร์ทันควันเลย โกหกไปด้วย เขินจนทำอะไรไม่ถูกมันเป็นแบบนี้เอง
“หรอ ตัวแกขึ้นไปทำอะไรบนเตียงละนะ”
“ห้ะ? เอ่อ…”
ฉันได้แต่ยกนิ้วทัดผมก่อนจะเม้มปากที่โดนสัมผัสเมื่อกี้ก่อนจะกระโดดลงมาที่เก้าอี้โดยที่ไม่ตอบอะไร
“เป็นไงไอ้เสือ ตอนแรกคิดว่าจะนอนยอดข้าวต้มซะอีก แหม!วันนี้มันนั่งได้ละวะ กำลังใจดีหรอวะ”
“เงียบน่าไอ้มาร์ช”
“หึ”เสียงพี่มาร์ชกับพี่ปีหัวเราะในลำคอยิ่งเพิ่มขีดความอายให้ฉันอย่างบอกไม่ถูก
“นี่ของเยี่ยมทั้งคนไข้และเฝ้าไข้เลย ซื้อมาฝาก รู้ว่าแกคงไม่พิศวาสกับข้าวโรงพยาบาล นี้เลยกระเพาะปลาน้ำแดง หูฉลาม แล้วก็ผัดคะน้าน้ำมันหอยที่ฟินที่สุดในสยามประเทศ”พี่ธันเดอร์พูดจบก็วางกล่องอาหารใหญ่ๆในมือลงที่โต๊ะตรงโซฟา เดลิฟเวอรี่ที่สุดอะบอกเลย^^
“เรื่องเวอร์ๆนี่ถนัจริงๆ ขอบใจนะ”พี่ท็อปว่าแล้วก็ยิ้มรับก่อนจะเอามือลูบหัวฉันไปมา
วันนี้เค้าดูหมั่นเขี้ยวๆ ฉันมากเลยนะฉันว่า…
“เออเรื่องไอ้เลน นิวเยียร์บอกฉันหมดละ เพื่อนมันที่พามาเป็นรุ่นน้องสาขาเราพอดีฉันส่งคนไปคุยละ มันบอกจะไปบอกไอ้เลนอีกทีว่าไม่ให้มายุ่งกับพวกเราอีก”
“ฉันอะไม่เท่าไร แต่อย่าให้มายุ่งกับปริ้นอีกก็พอ”พี่ท็อปพูดเสียงเรียบ นั้นทำเอาหัวใจฉันรู้สึกแย่ตามเลยทั้งที่มือยังลูกผมฉันอยู่แต่สายตาเค้าดูไม่ค่อยโอเคเท่าไรเลย
พี่ท็อปมักคิดถึงฉันมาก่อนเสมอหรอ เค้าเป็นแบบนี้มานานแล้วรึเปล่านะ ฉันไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยอะ
“พูดแล้วเจ็บใจวะ มันมาเล่นเราถึงในมหาลัย อย่าให้เจออีกนะแม่ง แต่เมื่อคืนพวกมันก็โดนไปเยอะแหละ ดีที่ฉันกับรุ่นน้องเจอมันที่ลานจอดรถ มันก็บอกจะไม่ยุ่ง แต่ไม่รู้จะเชื่อได้รึเปล่า”
“แกไม่ได้เป็นอะไรใช่ปะปริ้น พอรู้เรื่องฉันตกใจแทบแย่”
“ไม่อะนิว พี่ท็อปนั้นละ”ฉันพูดพรางมองไปที่ตัวเค้าที่มีแต่รอย
“เออ ว่าแต่เมื่อคืนแกกับน้องนิวหายไปไหนกันวะ”แล้วคำถามพี่มาร์ชก็ทำเอาพวกเราเอออ่อตามไปแถวๆ
ยกเว้นพี่ปีย์กับนิวเยียร์ที่อมยิ้มเขินๆไม่ยอมตอบ
“ไอ้นิว แกหายไปไหนมา อย่ามาปิดฉันนะ”
“อะไรละแก ฉันก็อยู่แถวๆในงานแหละ แกแค่ไม่เห็นเอง”
“ใช่ป่าวน้องนิว พี่เห็นไอ้ปีย์มันดึงใครไปห้องดนตรีก็ไม่รู้นะ”แล้วพี่มาร์ชก็แสยะยิ้มพิฆาตที่ทำเอายัยนิวเม้มปากไม่ตอบอะไรอีก
“พวกแกแม่งชอบแกล้งน้องรหัสฉันวะ คนเค้าจะบอกรักกันสองคน จะอยากรู้ไปทำไมวะ”
“พี่ปีย์!!”แล้วก็เป็นยัยนิวที่ตบเค้าที่ไหล่พี่ปีย์ด้วยความเขินจนวัดจากระดับการเม้มปากมันเหมือนมีเลือดซิบๆออกมาแล้วนะฉันว่า
“โห้ว! สละโสดไปหนึ่ง กำลังจะสละอีกหนึ่ง ไม่สิของไอ้ท็อปนี้เรียกก้าวขาไปละก้าวครึ่ง เหลืออีกนิดนึงฮาๆ”แล้วพี่ธีนเดอร์ก็วกเค้าเรื่องฉันจนได้สินะ
>//<
“เฮ้อ แบบนี้ต้องรีบหาแล้ววะ อยากมีความรักกับเค้าดูบ้าง”
“ไอ้ธัน ไปไกลๆไป จะอ้วก”พี่มาร์ชรีบผลักหัวพี่ธันเดอร์ออกไปจากไหลใหญ่ๆทันทีที่พี่ธันเดอร์ทำเป็นซบ
“เห็นว่าหน้าตาสดชื่นฉันก็แฮปปี้ละ เอาเป็นว่าขอตัวก่อนนะ มีนัดครับ”
“อ้าวไอ้นี้ ไหนว่ามาเยี่ยมฉันแกยังไม่ได้คุยกับฉันเลยนะเว้ยไอ้มาร์ช”
“เหอะ แกคงไม่อยากจะคุยกับฉันนานๆหรอกจริงไหมไอ้ท็อป พวกแกก็น่าจะรู้ตัวแล้วตามฉันมานะ”
พี่มาร์ชพูดทิ้งประโยคให้ฉันทำตัวไม่ถูกอีกละ ก่อนที่ทั้งหมดจะลุกตามจริงๆ คือฉันพยายามปฏิเสธแล้วนะแต่ไม่มีใครเชื่อฉันเลยอะว่าเมื่อกี้เราไม่ได้ทำอะไรกันอยู่ ทั้งที่จริงคือมันทำไง>//<
“อะไรของพวกมันวะ มาขัดจังหวะ เสร็จแล้วมันก็ไป”
แล้วไอ้ผู้ชายบนเตียงก็ทำเอาฉันเขินไปอีกรอบ โดยที่ตอนนี้ฉันไม่กล้าจะนั่งใกล้ๆเค้าเลย เลยมานั่งอยู่ที่โซฟา
“มานี้หน่อยดิ”
“ไม่!”
“มาหน่อยนะ พูดเยอพี่เจ็บท้อง”แล้วเค้าก็สวมบทคนป่วยโดนยิงมาบับคั้นให้ฉันเดินไปมาจนได้ แต่พอเดินมาถึงก็ดึงฉันขึ้นไปนั่งราวกับไม่เคยโดนรุมมาก่อน แรงผู้ชายนี้มันน่ากลัวนะ
“วันนี้จะยอมให้วันเดียวนะ ถ้ามาเยอะแบบนี้ทุกวันปริ้นจะต่อยพี่ท็อปให้หงายเลย”
“กลัวแล้วคร๊าบ กล๊วกลัว ในเมื่อวันนี้มีโอกาสงั้นก็ต้องใช้สิทธิให้เต็มที่เนอะ”
“อะไร”ฉันมองเจ้าของสายตาทะเล้นอย่างไม่วางตา แผนร้ายแน่ๆ พูดจากำกวม
“คืนนี้ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันนะ”
“O.O”
“นอนคนเดียวมันเหงาอะ นะๆ คืนเดียว โอเคปะ”
“ไม่โอเคเฟ้ย เตียงเล็กแค่นี้สองคนจะนอนได้ไง ถ้าพี่พยาบาลเค้ามาดูตอนกลางคืนละ ไม่เอาอะ”
“ไม่ดูหรอกน่า นะๆ ๆ”พี่ท้อปฉวยโอกาสที่ฉันจะลุกนี้ รัดเอวฉันจากด้านหลังก่อนจะใช้หน้ากดลงมาที่หัวไหล่อย่างขี้อ้อน
“ไม่เอา!!”
“นี้พี่เจ็บตัวเพื่อปริ้นเลยนะ”
“รู้ แล้วก็ขอโทษด้วย อีกอย่างคือซึ้งใจมาก แต่แบบนี้คนอื่นมาเห็นมันไม่ดี”
“งั้นแลกกัน”
“แลกอะไร?”
“ไม่นอนที่นี้ งั้นถ้ากลับคอนโดเมื่อไร ปริ้นจะดูแลจนกว่าพี่จะหายโดยเชื่อฟังคำสั่งพี่ทุกคำ โอเค๊!”
“ได้ แบบนี้ค่อยโอเคหน่อย”
ก็แค่ดูแลตอนอยู่หอพักคงไม่เยอะหรอกเนอะ อีกอย่างแผลที่มีแค่ช้ำๆ ไม่นานก็คงหาย แบบนั้นยังไงก็สบายอยู่แล้ว ตกลงไปก็ไม่เห็นจะแปลก
“สัญญาแล้วนะ”
“….อืม”พี่ท็อปยกยิ้มแบบนั้นอีกละ ยิ้มที่ผิดปกติ ซึ่งตอนนี้ฉันเหล่มองเค้าก็ต้องเบือนหน้ากลับเมื่อเค้าใช้มืออีกข้างรวบเอวฉันไม่ปล่อยแล้วใช้อีกมือมาเกี่ยวก้อยกับฉัน แต่เพราะเมื่อกี้ฉันหันไปมองหน้าเค้าไงลายจมูกเลยชนกันแบบไม่ตั้งใจ
เอ๊ะหรือเค้าตั้งใจก็ไม่รู้สิ พอฉันหันหน้ากลับปลายจมูกเลยไปกดที่ผมฉันแผ่วเบา
“เจ้าเล่ห์นัก สัญญาแล้วก็ปล่อยได้แล้ว จะกินไหมกระเพาะปลา หูฉลาม คะน้าน้ำมัดหอยเนี้ย”
“กินคร๊าบ หิวชะมัด”ว่าแล้วเค้าถึงจะยอมปล่อยฉันเป็นอิสระ ให้จัดการอาหารพวกนี้ให้คนเจ้าเล่ห์
บทจะเจ้าเล่ห์พี่ท็อปก็เจ้าเล่ห์จริงๆเลยนะ ถึงจะพยายามทำใจให้ไม่เขินแต่ความเป็นจริงที่ใจฉันคือมันเขินแบบที่สุด เขินแบบมากๆ แต่ฉันไม่กล้าจะแสดงออก จะบอกให้นะ ฉันไม่รับใครเข้ามาในใจง่ายๆนะขอบอก!!
อีกครึ่งมาแล้ว อัพดึกเลยค่ะ
วันนี้ไปช็อปมา วันจ่ายสุดๆ 55555
เหนื่อยมากมาย แต่ก็มาปั่นต่อให้ฟินกัน
ขอไม่พูดเยอะ แต่ตอนต่อไปบอกเลยว่า คู่นี้จะหวานแบบไม่มีก้าง
อุตะ!! เพิ่มความหวานอีกระดับจ้า หึหึ
พี่ท็อปจอมเจ้าเล่ห์จะมาพาทุกคนให้ตกหลุมรัก
เม้นสิจ้ะ เม้นเยอะจะมาเร็ว 555555
ไม่ไหวละคะ เดินทิ้งวันเพลียมาก ขอไปพักแล้ว
ฟินกันไหมค๊า สนุกไหม เม้นบอกกันบ้างนะคะ
รักเธอรีดเดอร์ ม๊วฟ ๆ ๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ท๊อปก็ใช่ย่อย้อนได้อ้อนใหญ่เลยนะ -/////-