Christmas Say:
มีบางอย่างเปลี่ยนไป อะไรบางอย่างที่ทำให้ผมยืนตื่นเตนอยู่หน้ากระจก หรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ผมออกมายืนรอใครบางคนในช่วงเทศกาลแบบนี้ที่ไม่ใช่นิสัยผมเลย มองเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้วก็ทำให้ผมคิดอะไรไปมากมาย
เมื่อไรกันที่ผมเลิกคิดถึงแพนทีน ถึงจะมีเจ็บปวดอยู่ในใจแต่ผมไม่เคยคิดจะติดต่อเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่สิไม่ได้อยากเจอและไม่สนด้วยว่าเธอจะเป็นยังไงบ้าง
และแปลกที่สุดในตอนนี้คือ…ดันมายืนรอผู้หญิงคนนึงที่เธอมักจะอยู่ข้างผมเสมอ
เหมือนตอนนี้ เธอมาอยู่ข้างผมเมื่อไรกันนะ
“ใจลอยไปถึงไหนแล้ว มายืนข้างๆ ตั้งนานยังไม่รู้ตัว”
“ฉันก็ไม่รู้ตัวมาตั้งนานแล้วนิ”ผมเพิ่งสังเกตว่าวันนี้คริสตัลดันใส่เสื้อยืดยี่ห้อเดียวกับผมอย่างหน้าอัศจรรย์ คิดว่าคริสตัลจะมาด้วยชุดเดรสสีหวานซะอีกแต่เธอแต่ตัวสบายๆ เสื้อยืดสีขาวแขนยาวกับกระโปรงขาวสลับดำที่ดูเข้ากับเธออย่างไม่น่าเชื่อ
“นายว่าแปลกไหม เราใส่เสื้อเหมือนกันแบบไม่นัดหมาย”
“ไม่เห็นแปลก ไปกันเถอะ”
“เราจะไปไหนเหรอ?”
“เราจะไปบินกัน!”
ในที่สุดผมก็พาเดินมาถึงสนามสเก็ทบอร์ดที่อยู่ระหว่างโคเรียนทาวน์กับแจแปนทาวน์ เป็นอีกทีหนึ่งที่ผมมาหมกตัวอยู่กับพวกมาเฟียจูเนียร์ แต่พักนี่ไม่ค่อยได้มาเพราะยุ่งๆ กันหมดก็เลยคิดถึงนิดหน่อย
“เรามาทำอะไรกันเหรอ”
“มาบินไง”
“อ่อ ฉันเคยผ่านมาแล้วเห็นนายกำลังเล่นอยู่ เจ๋งมากเลย”คริสตัลขึ้นไปยืนบนสเก็ทบอร์ดที่ถูกทิ้งเอาไว้ในลานด้วยสีหน้าตื่นเต้นทำให้ผมรีบไปประคองเธอเอาไว้ก่อนที่หน้าจะทิ่ม
“ทรงตัวดีนี่ ปกติคนไม่เคยเล่นหน้าทิ่มหมด”
“อย่าลืมสิ ฉันประธานชมรมโคฟเวอร์แดนซ์นะ เรื่องทรงตัวเนี่ยเด็กๆ”
“ฉันกลัวแขนเธอจะหักอีกรอบก็เท่านั้น”ผมบอกก่อนจะเริ่มปล่อยคริสตัลให้อยู่บนนั้น“อยากลองเล่นไหม”
“ได้เหรอ นายจะสอนฉันจริงๆ นะ”
“อืม ดูนี่นะ”ผมเลื่อนสเก็ทบอร์ดอีกอันมาเลื่อนไปตามถนนก่อนจะทรงตัวบนนั้นด้วยท่ายากที่ทำเป็นและเริ่มกระโดดขึ้นบนเก้าอี้รวมถึงขอบไม้กระดานที่ตั้งอยู่และสุดท้ายคือเลื่อนไปยังสุดสนามก่อนจะตีลังกาและกลับมาหาคริสตัล
“คริสมาส ฉันอยากทำแบบนั้นบ้าง”เห็นแค่นี้เธอก็ยกยิ้มและดูตื่นตาตื่นใจอีกแล้ว
“มีอะไรที่เธอไม่ตื่นเต้นบ้างไหมเนี่ย”จนผมเลื่อนกระดานมาหมุนอยู่รอบตัวเธอ
“ก็มันน่าตื่นเต้นนี่ สอนหน่อยสิฉันอยากทำได้”
“ฉันจะสอนท่าเบสิกก่อนแล้วกัน ส่วนท่าต่างๆ รอแขนเธอหายก่อน”
“ก็ได้ สัญญานะ”ไม่ลืมที่คริสตัลจะยกมือมารอประทับ ซึ่งผมก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะออกปากไปแล้วด้วย
“งั้นวันนี้ลองเลื่อนดู เลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ แบบนี้”นักเรียนฝึกหัดของผมทำตามอย่างตั้งใจ เธอดูสนุกแต่ก็เกร็งๆ เมื่อเริ่มทำ
“ฉันอยากลองเลื่อนไปไกลๆ แล้วตีลังการแบบนายบ้างจัง”
“ไม่ได้ฝึกวันสองวันแต่เป็นปี มันอันตรายถ้าทำผิดวิธี”
“แต่ฉันอยากลองบินแบบนายดูนี่”
“จะให้เป็นวันเดียวและบินได้ก็พอมีวิธีอยู่นะ”
“ยังไงเหรอ”ดวงตาเธอเป็นประกายจนผมใจอ่อนอีกครั้ง
“แบบนี้ไง”ผมโดดจากสเก็ทบอร์ดอีกอันขึ้นไปบนอันเดียวกับเธอ ก่อนที่จะประคองแขนเธอให้ยกขึ้นกลางอากาศ “หลับตาซะ ฉันจะพาเธอบิน”
คริสตัลเม้มปากเล็กน้อยทันทีที่แผนอกของผมสัมผัสแผ่นหลังของเธอ ตอนนี้แม้แต่ตำแหน่งหัวใจเราก็ตรงกัน มือของผมก็กางประสานกับเธอไว้ จากนั้นก็เริ่มเลื่อนกระดานที่เราอยู่อันเดียวกันให้เลื่อนไปตามทางตรงและเร็วขึ้นในทุกจังหวะจนแผ่นกระดานเลื่อนไปเองโดยที่ผมควบคุมทิศทางของมันเอาไว้
“ยังกับบินได้เลย”
“เป็นไงเจ๋งใช่ไหม”
“มากอะ!”
“ฉันชอบเวลาแรงลมปะทะหน้า มันทำให้หัวสมองฉันโล่งและไม่ต้องคิดอะไรดี”
“ฉันก็ชอบ…”
“ชอบเล่นสเก็ทบอร์ด”
“เปล่า ชอบนายอะ ง่อววว!”
Krystal Say:
ตึก กึก
“ยัย! ฉันหิวแล้วไปหาอะไรกินเถอะ”สเก็ทบอร์ดถึงกับหยุดกลางคันเลย นี่ฉันพูดบ้าอะไรไปเนี่ย
“แค่แซวเล่นไม่เห็นต้องทำหน้าเย็นเลย ชิ”เป็นอีกครั้งที่คริสมาสไม่ได้ถามความสมัครใจฉันเลย และพามากินจาจางเมี่ยนบะหมี่ดำที่โคเรียนทาวน์
“ดูนายจะชอบนะ”
“อืม ก็อร่อยดี”
“ป้าค่ะ ขอซุปสาหร่ายเพิ่มด้วยนะคะ”
“วันเกิดใครเหรอ?”ความเชื่อของคนเกาหลีน่ะ ที่จะต้องกินซุปสาหร่ายในวันเกิด ฉันแค่อยากให้คริสมาสลองทำอะไรแบบฉันดูบ้าง
“ของเค้าค่ะ”
“มีความสุขมากๆ นะพ่อหนุ่ม ขอให้คบกันไปนานๆ นะลูก”คุณป้าพูดเองนะฉันไม่ได้เตี๊ยมอะไรเลย คือฉันกำลังจะหันไปบอกคุณป้าแต่เธอก็เดินเข้าครัวไปแล้ว
“ทำไมเค้ารู้ว่าวันเกิดใคร”
“ปกติคนเกาหลีจะทานซุปสาหร่ายในวันเกิด ความเชื่อสมัยก่อนว่ากันว่าเป็นอาหารมื้อแรกที่แม่จะทานเป็นอย่างแรกหลังรู้ว่าตั้งครรภ์เพื่อให้ความอบอุ่นลูกน่ะ”
“เธอก็เลยสั่งให้ฉัน”
“อืม เราให้ความสำคัญกว่าขนมเค้กอีกนะ”คริสมาสทำหน้าเหมือนไม่ใส่ใจแต่เขาก็ยกซุปขึ้นดื่มจนหมดทำให้ฉันอดยิ้มซะไม่ได้
“อบอุ่นขึ้นมาจริงๆ ด้วย”
“ใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ถือว่าฉลองวันเกิดให้นาย”
และหลังจากที่ทานมื้อเย็นจบ คริสมาสก็ยอมตามฉันมาเดินเล่นแถมถ่ายรูปให้ฉันอีกหลายรูปอย่างไม่น่าเชื่อถ้าแบบนี้เรียกความสุขฉันก็คงจะเกือบจะสำลักมันจนฟินไม่ลืมหูลืมตาแล้วล่ะ
“นายถ่ายรูปเก็บไว้บ้างสิ เดี๋ยวฉันถ่ายให้ก็ได้”
“ไม่อะ ผู้ชายถ่ายรูปคนเดียวน่าอายจะตายไป”เขาตอบและกระดกน้ำอัดลมที่ซื้อมาดับกระหาย ที่จริงเราก็เดินถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาสร่วมถึงไฟประดับที่อยู่ที่นี้มาไกลพอสมควรแล้วนะ
ถ้าฉันเสนออะไรไปแล้วโดนปฏิเสธจะเสียเซลล์ไหมน่ะ…
“งั้นก็ถ่ายด้วยกันไหม”ฉันพูดเสียงในลำคอด้วยความเขินอายเพราะกลัวคำตอบนั้นมากจริงๆ
“หืม ว่าอะไรนะเสียงเพลงตามถนนมันดังจะตายพูดดังๆ หน่อย?”
“ฉันบอกว่าถ่ายรูป…เอ่อ”ครั้งนี้คริสมาสขยับใบหน้ามาใกล้กัน ริมฝีปากของเรามีเพียงกระป๋องน้ำอัดลมกั้นกลางอยู่เท่านั้น นี่เกือบลืมไปเลยว่าจะพูดอะไรเมื่อสายตาเรามาประสานกันแบบกระชั้นชิด
“ก็บอกว่าให้พูดดังๆ ไม่ได้ยิน ทำมาพูดเบาเดี๋ยวฉันก็เข้าใจว่าเธอบอกรักฉันอยู่หรอก!”
“ห้ะ!”ดะได้ยินเหมือนฉันใช่ไหมทู๊กคนนนนนนนนนนนนนนน
“แค่ล้อเล่น ทำหน้าเหมือนจะบอกจริง?”
“อะเอ่อเปล่านะ ถะถ่ายรูป…ด้วยกันไหม”เกือบลืมสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรกไปเลย ฉันเห็นรอยยิ้มของคริสมาสแบบที่อยากเห็นมาตลอดอย่างไม่ตั้งตัว เขาอารมณ์ดีแบบไม่มีเหตุผลเลย คือมันทำให้ใจฉันกำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ “นายบอกไม่ชอบถ่ายคนเดียว ถ่ายด้วยกัน”
และขณะที่เขาจะปฏิเสธฉันก็เอื้อมมือไปจับกล้องในมือเขาและบังคับให้หันมาทางเราก่อนจะกดชัตเตอร์แบบรัวๆ ไปเลย
“นี่!”
“หน้านายตลกชะมัด ฮาๆ”ฉันหันกล้องมาดูและเห็นหน้าคริสมาสที่กำลังก้มลงมองฉันด้วยสายตาตกใจ ไม่เห็นมีผู้ชายมาดนิ่งในรูปนี้เลย ฉันว่าเขาเปลี่ยนไปเยอะนะ
“อยากตาย?”
“เลิกไร้สารแล้วไปที่ๆ นึงกันได้แล้ว ก่อนที่มันจะปิด”เวลาบนหอนาฬิกาตรงหน้าทำให้ฉันดึงคริสมาสที่สบถด่าฉันให้ลบรูปเมื่อกี้ยังดังไม่หยุด ใครจะเชื่อว่าตอนนี้ฉันฉวยอาการั้งข้อมือเขาไว้แบบเนียนๆ ความรู้สึกฉันบ่งบอกว่าคนภายนอกต้องคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแน่ๆ เลย เราทั้งใส่เสื้อเหมือนกัน จับมือกัน และคริสมาสก็กำลังทำเป็นงอนฉันอยู่
พระเจ้าค๊า…ช่วยประทานพรให้ผู้ชายคนนี้เห็นความจริงใจของลูกสักทีเถอะ
“ที่นี้?”
“ตึกทำงานของพ่อฉันเอง”
และทันทีที่มาถึงชั้นบนสุดทุกอย่างก็กว้างสุดลูกหูลูกตาเรามองเห็นทุกอย่างบนตึกห้าสิบชั้น และที่นี้แหละจะสามารถเห็นอะไรได้กว้างและมากกว่าที่อื่น
“ทำไมเราไม่ไปจุดชมวิวล่ะ”
“ไปเวลานี้คนก็เต็มหมดแล้ว อีกอย่างนะที่นี้แหละสุดยอดแล้ว”ฉันล่กคริสมาสมายังจุดที่ให้ซีมาเตรียมงานเอาไว้ให้ “แต๊นแต่น เซอร์ไพรส์!”
“เรื่องเวอร์ๆ เนี่ยขอให้บอกนะ”หลังจากที่ดึงม่านตรงหน้าออก ทำให้เห็นแคมป์ปิ้งเล็กๆ ที่ฉันเตรียมไว้ มีที่นั่งสำหรับสองคน มีกองไฟ มีเต้นท์ขนาดสองคนที่กางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับโอวัลตินร้อนของโปรดคริสมาสและแครกเกอร์มาชเมลโล่ของโปรดของฉัน
“ไปกันเถอะ ฉันคิดแผนนี้มาทั้งคืนเลยเชื่อไหม”
“ไม่เชื่อ!”ถึงคริสมาสจะพูดแบบนั้นก็เถอะ เขาก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเต้นท์และเล่นอุปกรณ์ที่ฉันให้ซีมาเตรียมเอาไว้
“นี่ผ้าห่ม ส่วนนี่ก็โอวัลติน”
“ขอบใจ”ฉันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคริสมาสจากนั้นเขาก็รับของไปก่อนจะใช้สายตาให้ฉันนั่งลงข้างๆ เขา “ยิ้มอะไรขนาดนั้นเนี่ย ฉันไม่ได้ขอเธอเป็นแฟนนะเว้ย!”
“ก็ฉันมีความสุข ที่ได้ทำอะไรให้นายแบบที่ตั้งใจและอยากทำมานานแล้ว”ว่าแล้วฉันก็เอามาชเมลโล่มาปิ้งค์ไฟแล้วแปะลงแครกเกอร์กินอย่างอร่อย นี่เป็นของกินเล่นสุดโปรดเวลาไปออกแคมป์กับที่บ้านเลยนะ
“ทำเป็นด้วยเหรอ”
“เป็นสิ ถึงมันจะเป็นของกินเล่นของชาวตะวันตกแต่ที่เกาหลีก็นิยมไม่แพ้กันนะ”
“เธอก็มีหลายมุมที่ฉันคิดไม่ถึง”
“พูดแบบนี้หมายถึงฉันเริ่มประทับใจเธอขึ้นมาแล้วช้ะ?”
“มโน!”
แล้วคริสมาสก็แย่งแครกเกอร์ฉันไปกินกับโอวัลตินเฉย ชิมาหาว่ามโน ฉันมโนจริงไม่มโนงานเล็กแบบนี้หรอกย่ะ!
หาว!
ให้ตาย เมื่อคืนนี่ทั้งวางแผนทั้งตื่นเต้นปนกันนอนไหลับอาการเลยมาเล่นฉันตอนนี้
22:22 น.
อย่าหลับนะยัยคริสตัล หาวววววววว!
“อดหลับอดนอนที่ไหนมา ฉันเห็นเธอห้าวหลายรอบแล้วนะ”
“ก็เมื่อคืนฉันตื่นเต้นจนนอนไม่หลับนะสิ ความผิดนายเลยนะรู้ป่าว”
“ดี ทีหลังได้ไม่ชวน”
“ไม่ๆ ล้อเล่นเฉยๆ โถ่คริสมาสหัวก็ไม่ล้านขี้น้อยใจจัง”ฉันนี่รีบหันไปง้อแถมไม่ทันเลยไง
“อะ…”แต่จู่ๆ คริสมาสที่นั่งอยู่ข้างกันก็เอนตัวไปด้านหลังและตบที่ไหล่เหมือนเชิญชวนฉันให้เข้าไปไกลดั่งในซีรีย์ไม่มีผิด
“อะไรเหรอ”แกล้งโง่สิ อย่าให้เขารู้ว่ามโนไปไกลถึงไหนแล้วมันไม่เป็นกุลสตรี โอ้ยบิดนิ้ว!
“ฉันให้เวลาเธอพักสายตาสิบนาที”
“บนไหล่นาย?”
“หรือไม่เอา!”
“เอาสิ ไม่เอาก็โง่แล้ว”อย่างกับฝันเลย ฉันเอนตัวลงไหล่เขาทันทีโดยที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคริสมาส นี่ถ้าเป็นความฝันฉันก็ไม่อยากตื่น
“เธอมีความสุขไหม”
“นายล่ะ”
“ฉันถามก่อนยังจะย้อนอีก”
“ฉันไม่ได้ย้อน แค่จะบอกว่าถ้านายมีความสุขฉันก็มีความสุขเหมือนกัน”
“ขอบคุณนะคริสตัล จุ๊บ”
กริ๊ดดดดดดดดดดด ฟินไปดาวอังคารแล้วจ้า!!
ฟุบ!
“เฮ้ เป็นไร”แต่แล้วหัวฉันก็ผงกตกลงจากไหล่เขาอย่างจัง ฝัน? “เอาแต่หัวเราะในลำคอ ปลุกก็ไม่ตื่น”
“ฉันหลับไปนานแล้วเหรอ”
“ก็ชั่วโมงกว่า”
23:30 น.
โอ้ยบ้าจริง! ฝันจริงด้วยทำไมเหมือนเวลาผ่านไปนิดเดียวเองเนี่ย
“ปวดไหล่ชะมัด”แล้วอะไรก็ไม่ร้ายเท่ากับหมอนี่บ่นไม่หยุด ถ้ารู้ว่าบ่นแบบนี้ฉันจะไม่ผิงไหล่เขาเลย
หลอกกกกกกกกกกกกกกก! ทำไมจะไม่เอาละ ยอมโดนบ่นไปสิ!
“ฉันขอไปล้างหน้าที่ห้องน้ำแปปนะ”ฉันเห็นคริสมาสกำลังกดดูข้อความที่คนส่งมาอวยพรอยู่หลังจากที่ฉันเดินมา
“อืม”
ความจริงฉันไม่ได้ออกมาล้างหน้าหรอกอากาศเย็นแบบนี้ใครจะไปล้างลง แต่มาเอาของที่ซ่อนไว้ตั้งหาก
แผ่นกระดาษเปล่า…
ก็นั้นแหละ เซอร์ไพรส์ที่เตรียมไว้!
พรึบ!
ฉันปิดสวิทไฟชั้นบนสุดให้เหลือแต่ดวงที่อยู่ไกลที่สุดไว้
“ทำอะไร…ของเธอวะ”
“แฮปปี้เบิดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิดเดย์ แฮปปี้เบิดเดย์ แฮปปี้เบิดเดย์…ทูยู”ฉันถือมาพร้อมเค้กก้อนเล็กที่ให้เค้าถือก่อนจะเริ่มหยิบกระดาษที่พกมาเขียนข้อความลงไป
‘สุขสันต์วันเกิดนะ นายมีความสุขไหม?’ฉันเขียนลงเพราะรู้ดีว่าคำถามพวกนี้คริสมาสไม่มีทางพูดออกเสีบงมาถ้าฉันไม่ทำแบบนี้
และเขาก็ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าทำให้ฉันเขียนต่อ
‘ฉันขอให้นายมีความสุขแบบนี้ตลอดไป เพราะเมื่อนายมีความสุขมันทำให้ฉันมีความสุขตามไปด้วย’
เขายิ้มและพยักหน้าอีกครั้ง
‘ฉันดีใจที่นายชวนฉันมาในคืนนี้ คงอยู่ในความทรงจำฉันตลอดไป’
คราวนี้เขานิ่งและมองแผ่นป้ายต่อไป
‘ต่อให้ปีหน้า ปีต่อไปหรือปีไหนๆ ฉันคงคิดถึงวันนี้เสมอ ดูเหมือนว่าวันเกิดนายจะเป็นวันที่ฉันมีความสุขมากกว่าซะอีก’
ฉันก้มลงมองนาฬิกาและเขียนต่อ
‘นอกจากเค้กก่อนนี้ คงมีสิ่งนี้ที่ฉันจะมอบให้นาย…มองออกไปบนฟ้าสิ’
บู้ม!
ทันทีที่เขามองไป พลุจากทั่วสารทิศก็พร้อมใจแตกบนฟ้าพอดิบพอดี ฉันเห็นรอยยิ้มของเขา ยิ้มที่ไม่ปิดบังและยิ้มโดยไม่ปกปิดจนอดไม่ได้จะถ่ายรูปนี้เก็บเอาไว้
บู้ม บู้ม บู้ม!
“แฮปปี้เบิดเดย์นะคริสมาส ฉัน…..บู้ม!”ฉันพูดประโยคนั้นออกไป ดังพอสมควรแต่ถูกกลบเพราะเสียงพลุทำให้คริสมาสมองด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ว่าไงนะ เธอทำไม? บอกให้พูดดังๆ ฉันไม่ได้ยิน”แล้วคริสมาสก็เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะช้อนหลังให้เท้าฉันขยับเข้าหาตัวเขาอย่างจงใจ “ทีนี้ก็พูดซะ”
บู้ม!
บู้ม บู้ม บู้ม!
เป็นร้อยๆ ดอกที่ถูกจุดบนท้องฟ้าและพอมองที่นาฬิกา 23:59น ยังอยู่ในวันเกิดของเขา
“ฉันชอบนายจริงๆ นะ คิดจะเลิกแต่ฉันก็ทำไม่ได้เลย ไม่ได้จริงๆ”คำพูดพวกนี้ฉันเคยพรำบอกเขาเป็นร้อยเป็นล้านครั้ง แต่มาวันนี้มันกับเป็นคนที่พูดออกไปยากจนแทบไม่มีเสียง
บู้ม!
“ฉันเชื่อ งั้นก็อยู่ตามใจเธอ”
“หมายความว่าไง…อือ”คริสมาสประคองหน้าฉันเข้าไปประกบอย่างไม่มีสัญญาณใดกล่าว ตอนนี้มีเสียงพลุดังประทุอยู่ในร่างกายฉันอกับพลุที่อยู่บนท้องฟ้า ปลายลิ้นของคริสมาสกลืนกินเข้าไปรวดเร็ว ทั้งที่ฉันไม่ได้ลืมตาและเขาเองก็สบตาฉันอยู่
มันอาจจะเกิดอะไรที่ผิดลาดไป แต่พอเขาเห็นว่าเป็นฉันก็ยังทำมันอยู่เขาเปลี่ยนองศาและรุกล่ำเข้ามาจนฉันเขินอายจนกำชายเสื้อเขาไว้แน่น แรงดันประทุในร่างกายหัวใจฉันเหมือนมีดวงไฟอยู่หลายสิบดวงที่กำลังจะแตกออกมาเหมือนพลุที่ยิงขึ้นไปบนฟ้า กลิ่นไอจากตัวเขาถูกส่งมาที่ฉัน กลิ่นกายของเขาฉันได้ครอบงำมันเป็นครั้งแรก
“เดี๋ยว…”แต่มีบางอย่างบอกว่าเขาอาจจะสับสน “นายมองฉันเป็นใคร”
“…”คริสมาสกอดฉันอยู่และฉันก็กอดเขาเช่นกัน เรากอดกันแต่ฉันรู้สึกว่าเขากอดคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน
“ตอบมาชัดๆ ฉันไม่อยากเป็นตัวแทนใคร”ฉันเม้มปากแน่น จ้องสายตาของคริสมาสที่หนักแน่นและมองตรงมาเหมือนไม่มีสติจนฉันเริ่มกลัว กลัวเขาเห็นใครที่ไม่ใช่ฉัน
“นี่โง่ขนาดไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร”คริสมาสกดริมฝีปากลงที่แก้มฉันข้างนึง “กลิ่นหวานเหมือนลูกกวาดที่ฉันชอบกินและหน้าตางี่เง่าที่ชอบเดินตามฉันต้อยๆ ตั้งแต่เด็ก ฉันมองเธอเป็นคนอืนไม่ได้หรอกคริสตัล!”
บู้ม! พลุลูกสุดท้ายดังขึ้นสนั่นจนทำให้ตัวฉันและเขาสั่นสะเทือนไปด้วย จากนั้นฉันก็เขย้งปลายเท้าเพื่อจูบริมฝีปากเขาโดยไม่คิดถึงความถูกต้องอะไรแล้ว ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงหน้าด้านมากก็ได้ที่ชอบการจูบแบบดูดดื่มแบบนี้ถ้าหากคนที่อยู่ตรงหน้าคือคริสมาส ถึงมันจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ…ฉันก็เต็มใจ
“ขอบคุณ…ที่ทำให้วันเกิดของฉันมีความหมายอีกครั้ง!”
เพียงกระซิบสั้นๆ แต่ทำฉันไม่อาจจะลืมตาขึ้นมองทุกอย่างได้เลย เราจูบกัน จูบกัน จูบกันแล้วจริงๆ อ่า!!!

ก่อนนอนมาอัพให้ฟินกันไปข้างงงง พี่คริสใจเย็นดิ
ฮอลลลลลลลลล เลือดร้อนนะเนี่ยคริสตังตั้งตัวทันไหม?
บรรยากาศโรแมนติกอ่า สองคนอากาศเย็นๆ โอ้ยเข้ากะช่วงนี้มาก
มีพลุอีก มีเซอร์ไพรส์ไม่หยุด โอ้ย ๆๆๆๆๆ
อิจฉาไปไหมละ ใครขอฟินมาเราจัดให้
ไปนอนละคะ พรุ่งนี้รับปริญญาละ ตื่นเจ้นจุงงงง
กำลังฟินนนนนนนนนนน