คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 4 Days Before Christmas [1]
คยูฮยอนตื่นมาตอนเช้าเพราะประโยคนั้น อันที่จริงเขาแทบนอนไม่หลับเพราะคิดมาก เขานึกเจ็บใจและฝันว่าตัวเองกำลังพยายามหาวิธีแก้แค้นหัวหน้าคิมตลอดทั้งคืน เด็กหนุ่มลุกขึ้นมานั่งกอดอกอยู่บนเตียงเพื่อวางแผนสำหรับวันนี้ ถ้าเขาเข้าออฟฟิศด้วยอารมณ์โมโห หัวหน้าคิมก็คงจะยิ่งกระหยิ่มว่าตัวเองพูดถูกเรื่องที่เขาไร้เสน่ห์และไม่มีแฟน เพราะฉะนั้นเขาจะทำตรงกันข้าม เขาจะเล่นละครต่อไปเพื่อให้หัวหน้าคิมเป็นฝ่ายคิดผิด ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลา 6 โมงเช้า แผนขั้นแรกคือเขาควรรีบอาบน้ำแต่งตัว และเข้าบริษัทก่อนหัวหน้าคิม
ตกลงตามนั้น...คยูฮยอนวิ่งเข้าห้องน้ำ และออกมาภายในเวลาไม่กี่นาที เขาสวมเสื้อผ้า วิ่งเข้าไปในครัว อุ่นข้าวกล่องแช่แข็งในไมโครเวฟ ระหว่างนั้นก็ติดกระดุมเสื้อและสวมถุงเท้า
เสียงไมโครเวฟทำให้โจอาราตื่นก่อนนาฬิกาปลุก เธอเดินงัวเงียออกมา และแปลกใจที่เห็นน้องชายแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
“จะรีบไปไหนน่ะ เพิ่งจะ 6 โมงครึ่ง”
“ไปทำงานสิ...” เด็กหนุ่มตอบพลางรีบกินข้าว จากนั้นก็วิ่งออกจากบ้านทันที
นาฬิกาในออฟฟิศบอกเวลา 7 โมงเช้า เมื่อคยูฮยอนมาถึงก็ลงมือเคลียร์งานส่วนตัวให้เสร็จ เก็บกวาดโต๊ะรกๆ ให้เรียบร้อย แถมยังมีเวลากระโดดโลดเต้นอยู่ในออฟฟิศ เขาเปิดเพลงดังๆ ทำตัวให้สดชื่น และก่อนหน้าเวลาปกติที่คังอินและคนอื่นๆ จะเข้ามาในออฟฟิศ เด็กหนุ่มก็วิ่งไปชงกาแฟ เขาหยิบช้อนชงกาแฟขึ้นมา จ้องมองมันและส่งเข้าปากตัวเอง อมเล่นอยู่ครู่หนึ่งก็เอาออกมาจากปาก แล้วบรรจงจุ่มมันลงในแก้วกาแฟ เริ่มคนกาแฟอย่างใจเย็นพลางกลั้นหัวเราะ
หัวหน้าคิมเดินมาพร้อมกับเลขาฯ ประธานบริษัท คยูฮยอนที่ถือถ้วยกาแฟยืนรออยู่ชะงักกึกและรีบซ่อนตัวอยู่มุมห้อง เขาสังเกตเห็นร่างสูงปรายตามองสภาพโต๊ะของเขาและมีสีหน้าแปลกใจ
“ส่งแค่นี้ก็พอครับ ขอบคุณมาก” คังอินหันไปบอกเลขาฯ สาว เธอยิ้มให้เขา และเดินกลับไป คยูฮยอนเห็นคังอินยืนอยู่จึงเดินออกมา และส่งถ้วยกาแฟให้
“กาแฟครับ หัวหน้า”
รายนั้นมองเขาอย่างงงๆ เพราะนอกจากจะมาเช้า และจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ยังชงกาแฟมารอรับด้วย
“ขอบใจ แต่ฉันเพิ่งดื่มมาเมื่อกี๊”
“อ้าว ปกติหัวหน้าจะมาชงกาแฟดื่มเองที่นี่นี่ครับ” คยูฮยอนหน้าเจื่อน มือทั้งสองยังถือถ้วยกาแฟยื่นให้อยู่
คังอินมองตามเลขาฯ ที่เดินออกไป เขาบุ้ยใบ้ไปทางนั้น “พอดีมีคนเลี้ยงกาแฟระหว่างคุยงานน่ะ”
เด็กหนุ่มยอมชักมือกลับ และก้มหน้ามองเครื่องดื่มสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ในถ้วยอย่างนึกเสียดาย ถือว่าวันนี้หัวหน้าคิมโชคดีมาก!
คังอินเห็นดังนั้นจึงถาม “เป็นอะไรน่ะ วันนี้นายทำตัวแปลกๆ มาเช้าผิดปกติแถมเก็บโต๊ะซะเรียบร้อย”
“เคลียร์งานที่หัวหน้าสั่งมาทั้งหมดเสร็จแล้วด้วยนะครับ”
คังอินเลิกคิ้วขึ้น และพยักหน้าทั้งที่ยังไม่หายสงสัย “ดี...จะได้เริ่มทำงานพรีเซนต์สุดสัปดาห์นี้กัน”
“หัวหน้าครับ” เขาเรียกร่างสูงเอาไว้ก่อนที่รายนั้นจะเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว คังอินหันมา และรอฟัง “คือ...หัวหน้ารู้สึกมั้ยครับว่าวันนี้ผมอารมณ์ดีผิดปกติ”
“อืม” คังอินตอบโดยไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายถามทำไม
คยูฮยอนสูดหายใจแล้วยิ้มร่า เขาแกล้งทำตัวร่าเริงอย่างแนบเนียน “ผมมีเรื่องดีๆ ในชีวิตและอยากจะแชร์กับหัวหน้า ถ้ายังไง...เข้าไปคุยในห้องหัวหน้าได้มั้ยครับ”
“อะไร...จะขายประกันหรือชวนเข้าศาสนา ฉันไม่เอาทั้งสองอย่าง”
“โธ่! ไม่ใช่ซักหน่อย” คยูฮยอนโวยวายแบบน่ารักๆ จากนั้นก็แกล้งยืนบิดไปมาอย่างเอียงอายเพื่อความสมจริง อีกฝ่ายจึงยกมือลูบท้ายทอยด้วยความงุนงง และในที่สุดก็ยอมให้เข้าไปคุยในห้อง
“มีอะไรก็ว่ามา” คังอินนั่งลงที่โต๊ะ และผายมือให้คยูฮยอนนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า เด็กหนุ่มรีบนั่ง และจ้องหน้าคู่สนทนา แต่อีกฝ่ายง่วนๆ กับการเก็บเอกสารบนโต๊ะจึงไม่ได้มองตอบ
“เมื่อคืน...เอ่อ...แฟนผมโทรมาน่ะครับ เค้าบอกว่าจะสุดสัปดาห์นี้จะกลับมาฉลองคริสต์มาสกับผม”
คังอินเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเด็กหนุ่มพูด เขานึกสงสัยกับรอยยิ้มน่ารักและพวงแก้มที่ขึ้นสีเล็กน้อยนั้น แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะไม่เชื่อตั้งแต่แรก จึงถามลองเชิงไปตามปกติ
“ฝันเหรอ”
“เปล่านะครับ! นี่เรื่องจริงนะ” คยูฮยอนหงุดหงิด
“เหรอ แล้วแฟนนายอยู่ไหนล่ะตอนนี้”
“ทำงานอยู่ที่อเมริกาครับ ไปดูแลบริษัทเครือข่ายของพ่อ นานๆ จะได้กลับมาที่เกาหลี เค้าเลยอยากเจอผม”
คำตอบนั้นฉะฉานเพราะคิดไว้อยู่แล้ว หัวหน้าคิมสบตาเขาและจู่ๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
“แล้วแฟนนายคนนี้...เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”
“อะไรนะ ไม่สำเร็จเหรอ”
ฮยอกแจโพล่งใส่คนที่นั่งกุมขมับอยู่ตรงหน้า
“ก็หัวหน้าไม่เชื่อฉัน! ให้ตายสิ! อุตส่าห์เนียนๆ มาตลอด แต่ตกม้าตายเอาตอนที่ถูกถามว่าแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ยแหละ ฉันตกใจ ก็เลยลนลาน แล้วก็ไม่ยอมตอบ เค้าเลยรู้หมดว่าฉันโกหก”
คยูฮยอนนึกโกรธตัวเองที่ทำพลาด ฮยอกแจนั่งลงและยื่นแก้วน้ำให้ เขารับมาอย่างขอบคุณ จากนั้นจึงยกขึ้นดื่ม
“ตอนคิดภาพแฟนในจินตนาการคนนั้น แกไม่ได้คิดเหรอว่าเค้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
เด็กหนุ่มแทบสำลักน้ำ แน่นอนว่าเขาคิด แต่มันก็พูดออกไปยาก เขาเลยสารภาพกับเพื่อนตามตรง “ก็ฉันลืมไปว่าหัวหน้าคิมยังไม่เคยรู้ เอ่อ...เกี่ยวกับรสนิยมของฉันน่ะ แล้วถ้าเค้ารู้ว่าฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง เค้าจะรังเกียจรึเปล่า จะตัดเงินเดือนฉันรึเปล่า ฉันก็เลยลังเล”
“อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว แกคิดภาพว่าแฟนแกเป็นผู้ชาย แต่พอหัวหน้าคิมถาม แกก็กลัวที่จะต้องตอบออกไปตามตรง เพราะกลัวเค้าจะรังเกียจแก แต่ขณะเดียวกันแกก็ไม่กล้าโกหกว่าเป็นผู้หญิง ก็เลยอึกอักตอบไม่ถูก” ฮยอกแจสรุปคร่าวๆ และเพื่อนสนิทก็ก้มหน้าลง พยักหงึกๆ เขาเลยได้ทียิ่งซ้ำเติม “โธ่! แกก็เป็นซะแบบนี้ ทำไมไม่ยอมรับใจตัวเองซักทีวะ แล้วนี่หลบตาฉันทำไม ไม่ต้องอายหรอกน่า ฉันไม่ได้...”
ฮยอกแจชะงักไปเพราะความคิดหนึ่งที่แล่นเข้ามา เขาทบทวนท่าทางแปลกๆ ของเพื่อน และลองเดาออกไป
“แกคิดว่าผู้ชายคนนั้นคือซีวอนใช่มั้ย”
“อะ...เฮ้ย! เปล่านะ” คยูฮยอนไม่เคยโกหกลีฮยอกแจได้ รายนั้นมองเขาด้วยสายตาคมกริบ เด็กหนุ่มจึงเริ่มเหงื่อตก
“โธ่! แล้วก็ไม่บอก จะได้ให้ยืมควงไปโชว์หัวหน้าคิม”
คยูฮยอนนึกว่าเพื่อนจะโกรธ แต่รายนั้นกลับพูดหน้าตาเฉย เขาจึงค่อนข้างงง “แก...ไม่โกรธฉันเหรอ นั่นแฟนแกนะ”
“ฉันเข้าใจ ผู้ชายที่แกเคยเจอแล้วได้รู้จักจริงๆ ก็มีแค่ไม่กี่คน แล้วซีวอนก็เป็นผู้ชายในฝันของใครหลายๆ คนด้วย ถ้าแกจะชอบก็ไม่ได้แปลกอะไรนี่หว่า”
“แกใจกว้างจัง”
“แต่ไม่ได้บอกว่าจะยกให้นะ...” พูดพลางจิกตาใส่ คยูฮยอนจึงรีบเบือนหน้าหลบ เขาไม่อยากเห็นความมุมที่น่ากลัวของลีฮยอกแจหรอก ไม่อยากเลยจริงๆ
คยูฮยอนพยายามจะเริ่มแผนต่อไปตามคำแนะนำของเพื่อน เขาจะต้องแก้ตัวอีกครั้ง และทำให้หัวหน้าคิมเชื่อให้ได้ว่าเขามีแฟนแล้ว เพราะฉะนั้นหลังพักกลางวันเขาจึงมาดักรอหน้าลิฟต์เพราะรู้ว่ารายนั้นลงมาซื้อกาแฟที่ร้านด้านล่าง
เมื่อเห็นร่างสูงกลับออกมาจากร้าน และกำลังเดินตรงมาทางนี้ คยูฮยอนก็กดลิฟต์ และคว้าโทรศัพท์มือถือมาแนบหู
“ครับ ใช่ครับที่รัก ผมอยู่ที่ทำงาน เนี่ย...เพิ่งกินข้าวเสร็จ จะกลับไปทำงานต่อแล้ว”
คังอินมองคนที่ยืนคุยโทรศัพท์ คยูฮยอนเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกจ้อง จึงค่อยๆ แกล้งหันมาด้วยท่าทางประหลาดใจแล้วก้มศีรษะให้เล็กน้อย ระหว่างนั้นประตูลิฟต์ก็เปิด ทั้งสองเดินเข้าไป และคยูฮยอนก็กดชั้นออฟฟิศ ทำเป็นคุยไปเรื่อยๆ ระหว่างลิฟต์เคลื่อน
“แหม ปากหวานจังนะ ผมก็คิดถึงที่รักเหมือนกัน อื้อ...เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว อะไรนะ...จองร้านไว้แล้วเหรอครับ คืนคริสต์มาสอีฟ...ที่โรงแรม ว้าว...อยากให้ถึง ‘คืนนั้น’ เร็วๆ จัง”
เด็กหนุ่มเน้นคำและปรายตาไปทางหัวหน้าคิมที่ถือแก้วกาแฟยืนมองอยู่ข้างๆ เขาเห็นสีหน้าของรายนั้น และนึกตงิดใจว่า ‘คืนนั้น’ ของเขาจะถูกแปลความหมายไปในทางอื่นหรือเปล่า
“ครับ จะรอนะครับ บาย” คยูฮยอนแกล้งกดวางสาย และลิฟต์ก็ถึงชั้นที่กดไว้พอดี คังอินเดินนำออกไปก่อน จากนั้นก็พูดอย่างเรียบเฉยโดยไม่หันมา
“เก่งนะ คุยโทรศัพท์คนเดียวได้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้”
“เอ๋! หัวหน้าพูดอะไรน่ะ” เด็กหนุ่มตกใจ แต่ก็หัวเราะกลบเกลื่อน รายนั้นจึงหันมามองและขยับยิ้ม
“ลิฟต์ฝั่งนี้อับสัญญาณ มือถือเครือข่ายไหนก็ใช้ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ”
คยูฮยอนก้มมองหน้าจอมือถือตัวเองและพบว่าไม่มีสัญญาณแม้แต่ขีดเดียว เขายืนกัดริมฝีปากอยู่ตรงนั้นขณะร่างสูงเดินหายเข้าไปในออฟฟิศ สุดจะทนแล้วกับรอยยิ้มเยาะเย้ยที่สื่อเป็นนัยๆ ว่า ‘อย่างนายน่ะเหรอจะมีแฟน’ หัวหน้าคิมต้องคิดอย่างนั้นแน่ เขาหงุดหงิดที่ทำพลาดทุกครั้งจึงส่งข้อความเสียงหาเพื่อนสนิท เพื่อขอความช่วยเหลือสำหรับไม้ตายขั้นสุดท้าย
“ลีฮยอกแจ...เอาแฟนมาให้ยืมหน่อย ฉันทนไม่ไหวแล้วโว้ย!”
เขามองเข้าไปในออฟฟิศและหรี่ตาลง รับรองว่าแผนนี้จะต้องได้ผล หัวหน้าคิมจะต้องพูดไม่ออกแน่ถ้าได้เจอกับแฟน(เพื่อน) ของเขา
หึ! ชเวซีวอนทั้งหล่อทั้งรวย ดูดีสมเป็นทายาทบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างที่เขาโกหกเอาไว้ คยูฮยอนมั่นใจว่าหัวหน้าคิมจะต้องตะลึง และเสียใจที่เคยสบประมาทเด็กอย่างเขาแน่นอน
“คยูฮยอน...”
“ครับ” เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นและรอรับคำสั่งจากคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้อง หัวหน้าคิมมีสีหน้าแปลกๆ รายนั้นมองไปทั่วออฟฟิศราวกับกำลังหาตัวคนร้าย แต่สุดท้ายก็หันกลับมาที่เขา
“เข้ามาในห้องฉันหน่อย”
“ทะ...ทำไมเหรอครับ” เขาคงทำอะไรผิดไป และก็คงถูกเรียกตัวเข้าไปต่อว่า หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เขาโกหกว่ามีแฟน
“เถอะน่า เข้ามาเร็วๆ เดี๋ยวนี้เลย”
รายนั้นผลุบกลับเข้าห้อง คยูฮยอนรู้สึกผิดสังเกตจึงตามเข้าไป เมื่อมองตามสายตากึ่งกังวลกึ่งโมโหของหัวหน้าคิมไปที่เพดานห้องแล้ว เขาก็หัวเราะพรืดเมื่อเห็นว่าปัญหาของหัวหน้าคิมคืออะไร
‘มิสเซิ่ลโทช่อใหญ่แขวนอยู่บนหลอดไฟเหนือโต๊ะทำงาน’
ไม่รู้เหมือนกันว่าใครแกล้งเอามาแขวนไว้ แต่ก็น่าชื่นชมที่แขวนได้ตรงตำแหน่งพอดี
“หยุดหัวเราะได้แล้ว เอามันลงมาซิ”
“หัวหน้าไม่ชอบเหรอครับ สวยดีออกนะ”
“พูดแบบนี้แสดงว่านายเป็นคนต้นคิดใช่มั้ย!”
“ไม่ใช่! ผมถามเฉยๆ” คยูฮยอนร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายโยนความผิดมาให้เขา “คงเป็นสาวๆ ที่แอบปลื้มหัวหน้าอยู่มั้งครับ”
คังอินแค่นหัวเราะและเหลือบตามองช่อใบไม้นั่นอีกรอบ
“สูงขนาดนี้ผู้หญิงที่ไหนจะเอาขึ้นไปแขวนได้”
“งั้นก็ต้องเป็นหนุ่มๆ ที่แอบปลื้มหัวหน้าอยู่แน่เลย”
มุกนี้ไม่ขำ และหัวหน้าคิมก็กำลังปาดคอเขาด้วยสายตาที่ตวัดฉับใส่ คยูฮยอนรีบหุบยิ้มแล้ววิ่งไปยืนเล็งช่อมิสเซิ่ลโท มันอยู่สูง แล้วเขาก็ไม่รู้จะปลดลงมาอย่างไรดี จึงมองหาสิ่งของบนโต๊ะ และหยิบไม้ทีขึ้นมาลองเขี่ย แต่ไม่ได้ผลเพราะมันผูกเชือกติดกับโครงสี่เหลี่ยมที่หุ้มหลอดไฟอยู่ ดูแล้วคงต้องปีนขึ้นไปแกะออกเท่านั้น
“ขออนุญาตเหยียบบนเก้าอี้ได้มั้ยครับ”
คังอินนิ่งคิดและพยักหน้า คยูฮยอนจึงถอดรองเท้าออก ดีที่สวมถุงเท้าอยู่ คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ที่จะเหยียบเก้าอี้ประจำตำแหน่งของหัวหน้า คิดแล้วก็ปีนขึ้นเก้าอี้เลื่อนตัวใหญ่
“ระวังนะ” ร่างสูงพูดพลางเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ เขากอดอกแหงนหน้ามองระหว่างที่คยูฮยอนกำลังพยายามเอื้อมมือไปคว้าช่อมิสเซิ่ลโท มันอยู่สูงจนเขาจนเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย ในที่สุดก็คว้าได้ แต่ดึงลงมาไม่ได้ เพราะโครงหลอดไฟอาจจะหล่นลงมาด้วย เขาจึงต้องค่อยๆ แกะเชือกที่มัดอยู่ออก
“คนที่เอามาแขวนไว้นี่พยายามมากเลยนะครับ เค้าคงจะแกล้งเพราะปลื้มหัวหน้าจริงๆ ผมว่าหัวหน้าก็ออกจะมีเสน่ห์นะ ถ้าไม่ปิดกั้นตัวเองแล้วเอาแต่บ้างานแบบนี้ก็คงมีแฟนไปนานแล้ว...”
คยูฮยอนพูดออกมาโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะสนใจฟังหรือไม่ เขาก็แค่พูดไปตามที่คิด และครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะของหัวหน้าคิม
“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันยังไม่มีแฟน”
“หา!” เพราะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเลยขยับตัวเพื่อหันมามองคนด้านล่าง จังหวะนั้นเก้าอี้เลื่อนที่เหยียบอยู่ไถลออก เด็กหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว จึงเสียหลักร่วงลงมา
คยูฮยอนไม่ได้ร้องออกมาเลย แค่รู้สึกหวิวๆ ตอนที่รู้ตัวว่ากำลังจะหล่นกระแทกพื้น เขาหลับตาแน่น เตรียมเจ็บตัว แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด หัวหน้าคิมรับเขาไว้ และพอลืมตาขึ้น คยูฮยอนก็รู้สึกหวิวยิ่งกว่าเมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของฝ่ายนั้น
หัวหน้าคิมจ้องมองใบหน้าของเขาผ่านแว่นสายตา ระยะห่างที่ไม่มากนักทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าหายใจ แต่กลับรู้สึกได้ถึงลมหายใจเป็นจังหวะของร่างสูงที่เป่ารดแก้มของเขา
‘มิสเซิ่ลโทใบหนึ่งปลิวลงมาจากด้านบน หล่นลงบนศีรษะของคยูฮยอนโดยไม่รู้ตัว’
“หัวหน้าครับ...คือ...” คยูฮยอนพยายามจะบอกให้อีกฝ่ายเลิกกอดเขา และถอยออกไปห่างๆ เขาจะได้รีบสอยมิสเซิ่ลโทช่อนั้นลงมาให้สำเร็จเสียที แต่ตอนนี้เขาพูดไม่ออกเพราะอีกฝ่ายจ้องมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ และคาดเดาอะไรไม่ได้เลย
คังอินมองเห็นใบไม้เล็กๆ ที่ติดอยู่บนเรือนผมของเด็กหนุ่ม เขายกมือขึ้น จะหยิบมันออกให้ แต่ทันทีปลายนิ้วสัมผัสกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ร่างสูงไม่สนใจใบไม้อีก เขาลูบเบาๆ ที่ปอยผมของคยูฮยอนก่อนจะปัดมันไปทัดหู คนถูกกระทำยืนงง หัวใจเต้นแรงเพราะสัมผัสอ่อนโยนที่คิดว่าไม่มีวันได้รับจากคนๆ นี้ น่าแปลกที่คยูฮยอนรู้สึกเหมือนขยับตัวไม่ได้ หายใจไม่ออก และงี่เง่าจนไม่รู้จะทำอะไรนอกจากมองตาฝ่ายนั้นอย่างตั้งคำถาม
ไม่มีรอยยิ้มจากริมฝีปากของร่างสูง มีคยูฮยอนมองเห็นรอยยิ้มจางๆ จากดวงตาใต้กรอบแว่น คังอินขยับเข้ามาอีกเล็กน้อย เขาเลื่อนมือลงมาประคองข้างแก้มที่ขึ้นสีเรื่อ
“หัวหน้า...”
และจูบริมฝีปากที่กำลังเผยอพูด
โจคยูฮยอน หนุ่มน้อยที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ สาบานด้วยเกียรติของโอตาคุว่าเขาไม่เคยเห็นฉากติดเรทใดๆ นอกจากในการ์ตูน เขาจินตนาการถึงจูบแรกที่สุดเพอร์เฟค เกิดขึ้นในที่ที่โรแมนติกที่สุด ช่วงเวลาที่ดีที่สุด อย่างเช่นระหว่างออกเดทกับคนที่รัก ยืนอยู่ริมทะเลในตอนกลางคืน จูบอบอุ่นใต้ท้องฟ้าที่พร่างพรายด้วยแสงนวลๆ จากดวงดาว ที่สำคัญ...ในจินตนาการนั้นเขาเป็นฝ่ายจูบก่อน และเขาจูบกับผู้หญิง
มันอาจจะเป็นภาพในฝันที่วาดเอาไว้นานมากแล้วก็จริง แต่จนถึงตอนนี้โจคยูฮยอนก็ขอสาบานอีกว่ายังไม่เคยกล้าจินตนาการว่าจูบกับผู้ชายหน้าไหน หรือถูกผู้ชายหน้าไหนจูบ
โธ่เว้ย! แล้วมันไม่เหมือนกันรึไงวะเนี่ย!!!!
เด็กหนุ่มคงตะโกนออกมาแล้วถ้าตอนนี้ริมฝีปากไม่ถูกปิดทับอยู่ ความคิดแล่นเร็วมาก แต่ประสาทสั่งการช้า ร่างกายจึงถูกตรึงอยู่กับที่ เขายังคงลืมตาโพลง กลอกลูกกะตาไปเรื่อยๆ ขณะที่จิตสำนึกตะคอกใส่ตัวเอง
‘ผลักสิ...ผลักออกไป...ยืนให้เค้าจูบอยู่ได้...’ ‘อะไรนะ! ไม่กล้าเหรอ จะบ้ารึไง! ถีบ...ถีบมั้ย...ถีบแล้วโดนไล่ออก?...’
ไม่แน่ใจว่ายืนให้อีกฝ่ายประกบริมฝีปากอยู่นานเท่าไหร่ ขอสาบานอีกรอบว่าไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะสติหลุดไปไกล และเห็นได้ชัดว่าไอ้ ‘สติ’ คงยืนกรี๊ดๆ อยู่ข้างเขา ถ้ามันจะช่วยกลับเข้าร่าง เขาก็คงจะขอบคุณมันมากกว่านี้
คยูฮยอนยกมือข้างหนึ่งขึ้นคว้าแขนเสื้อร่างสูง แต่พอจะออกแรงผลักอย่างที่ควรทำ...ก็หมดแรงไปเสียเฉยๆ เขามึนหัว เหมือนจะขาดอากาศหายใจ มือที่กำแขนเสื้อเกร็งแน่นเมื่อรู้สึกว่าสติเริ่มกลับมาและรับรู้ได้ว่าริมฝีปากของตัวเองเปียก เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้หัวหน้าคิมกำลังงับเบาๆ ที่ริมฝีปากล่างของเขา พร้อมทั้งขยับเปลี่ยนมุม
“โอ๊ย!”
เขาร้องลั่นเมื่อรู้สึกแปลบที่ดั้งจมูก ร่างสูงเองก็ผละออกเพราะตกใจพอกัน ดูเหมือนกรอบแว่นตาจะกระแทกจมูกเขาตอนฝ่ายนั้นเปลี่ยนองศา คยูฮยอนลูบดั้งตัวเอง หายใจหอบเพราะเมื่อครู่กลั้นหายใจนานเกินไป และเมื่อเหลือบตามองอีกฝ่าย สติก็ทำหน้าที่ เรียกภาพทั้งหมดกลับมา
‘หัวหน้าคิม...จูบเขา’
ความรู้สึกช้าๆ ทำให้ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว มือที่ลูบจมูกอยู่ค่อยเลื่อนลงปิดปากตัวเองแทน คังอินเห็นแววตาตระหนกของเด็กหนุ่ม และรู้สึกว่าฝ่ายนั้นต้องการคำอธิบาย
“อ่อ...นี่...นี่ไง...”
ร่างสูงยกมือขึ้นหยิบใบมิสเซิ่ลโทบนศีรษะของคยูฮยอนลงมาโชว์ เขาอึกอักอยู่ในลำคอ แต่ครู่หนึ่งก็สูดหายใจและพูดออกมาอย่างคิดดีแล้ว “คงเป็นเพราะอาถรรพ์ช่อมิสเทิ่ลโทแน่ๆ ว่ามั้ย”
หา......?
คยูฮยอนเผลอทำหน้าเหวอ เขาคงฝันไปสินะ ฝันว่าถูกหัวหน้าคิมขโมยจูบแรกแล้วหลังจากนั้นก็ค้นพบความจริงที่น่ากลัวว่าอาถรรพ์มิสเซิ่ลโททำให้หัวหน้าคิมจูบเขาโดยไม่รู้ตัว
แล้วจะโทษใครได้...ซานตาครอสมั้ย...หรือใครก็ช่างที่บัญญัติไว้ว่าคนที่ยืนอยู่ใต้มิสเซิ่ลโทจะต้องโดนจูบ
“อ่อ...” เด็กหนุ่มอุทานออกมาเพียงเท่านั้น แล้วค่อยขยับตัว เดินออกไปจากห้อง แต่เมื่อปิดประตูแล้วก็เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองเดินเท้าเปล่าออกมา จึงกลับเข้าไป ก้มหน้างุดๆ หยิบรองเท้า
“นาย...ไม่โกรธนะ?”
ประโยคคำถามลอยๆ จากปากหัวหน้าคิมทำให้คยูฮยอนชะงัก เขาส่ายหน้าเร็วๆ และรีบวิ่งออกไปโดยไม่มองหน้าฝ่ายนั้นเลย
.
.
.
ความคิดเห็น