ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] As You Wish on Christmas

    ลำดับตอนที่ #2 : 6 Days Before Christmas

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 55


      6 Days Before Christmas 

     

     

    สิบโมงกว่าแล้ว คยูฮยอนแอบย่องเข้ามาที่ออฟฟิศและเตรียมแฟ้มงานที่เพิ่งทำเสร็จ เขาสูดหายใจลึกๆ และเคาะห้องหัวหน้าคิม ก่อนจะเปิดเข้าไป ร่างสูงกำลังพิมพ์งานอยู่ที่โต๊ะ เมื่อเขาเข้ามารายนั้นก็แค่เหลือบตามองและไม่สนใจอีก

    “คือวันนี้หิมะตก ผมรอนั่งเมล์นานมากเลยนะครับ กว่ารถจะมาแล้วไหนจะเจอรถติดอีก ผมอุตส่าห์ออกมาจากบ้านเร็วกว่าทุกวันแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายก็สาย...นิดหน่อย”

    อีกฝ่ายเหลือบตามองเขา จากนั้นก็ก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร ก้มลงทำงานต่อ คยูฮยอนถอนหายใจเบาๆ เขาก็ไม่คิดว่าหัวหน้าคิมจะเชื่อเหตุผลเดิมๆ ของเขาหรอก

    หัวหน้าครับ ผมขอโทษ...เด็กหนุ่มครางเบาๆ และยื่นแฟ้มงานให้ ผมทำเสร็จแล้วนะ แต่เผอิญว่าเมื่อคืนผมฟุบหลับไปคาโต๊ะ ไม่ทันได้ตั้งนาฬิกาปลุก ก็เลยตื่นมาทำงานสาย

    ถึงจะได้ยินคำสารภาพตามจริงแล้ว แต่หัวหน้าคิมยังคงสนใจแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และไม่มีทีท่าว่าจะเอื้อมมือมารับงานของเขา คยูฮยอนจึงร้อนรน ความเย็นชาของหัวหน้าคิมทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนแส้เฆี่ยนในฝัน แล้วตอนนี้อนาคตของเขาก็คงมืดมนยิ่งกว่าความมืดที่เจอเมื่อคืนเสียอีก

    ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ตื่นสายอีก หัวหน้าอย่าโกรธผมเลยนะ หัวหน้าตรวจดูงานที่ผมทำมาก่อนสิ ผมตั้งใจทำมากเลยนะครับ ถ้าหัวหน้าไม่ชอบใจรูปไหนก็บอกมาเลยนะ ผมจะนั่งแก้ให้เดี๋ยวนี้เลย

    คยูฮยอนพยายามต่อรองเพื่อให้อีกฝ่ายหายโกรธเขา คังอินหยุดพิมพ์ และเงยหน้ามองเด็กหนุ่มด้วยแววตาเฉยชา แต่แล้วเมื่อเห็นสีหน้าแย่ๆ ที่เหมือนจะร้องไห้ของคยูฮยอน เขาก็ใจอ่อน ยอมเอื้อมมือมารับแฟ้มงานไปเปิดดูผ่านๆ

    อืม ไม่ต้องแก้อะไรหรอก แค่นี้แหละ

    คยูฮยอนใจหาย เขาตีความเป็นอย่างอื่น

    หัวหน้า...จะไล่ผมออกเหรอครับ

    อะไรของนาย คังอินเริ่มงงกับท่าทีของอีกฝ่าย เขาส่ายหน้ากับตัวเองและหันไปพิมพ์งานต่ออีกครั้ง

    ก็หัวหน้าไม่เคยเฉยเมยกับผมขนาดนี้ ด่าผมก็ได้นี่นา บอกสิว่างานผมห่วย โยนใส่หน้าผมแล้วให้เอากลับไปแก้ หรือไม่ก็ใช้งานผมหนักๆ ใช้ผมไปซื้อกาแฟ...

    ไปกันใหญ่แล้ว ที่ฉันบอกว่าไม่ต้องแก้เพราะว่าบริษัทต้องการแค่ไอเดียเริ่มแรกของนักออกแบบ ฝ่ายบริหารจะเอาไปดูและส่งคอมเมนท์มาอีกที ฉันไม่มีสิทธิตัดสินใจอะไร ก็เลยยังบอกไม่ได้ว่านายต้องแก้ตรงไหน เข้าใจรึยัง

    คยูฮยอนหน้าขึ้นสี นึกอับอายที่คิดเป็นตุเป็นตะ แถมพูดอะไรโง่ๆ ออกไป แต่เขาก็ยังไม่สบายใจที่หัวหน้าเมินเฉยใส่เขาอยู่ดี ปกติเขาไม่ชอบสำนึกผิด แต่เขาก็ไม่ชอบให้หัวหน้าโกรธเขาเหมือนกัน แต่ผมว่าหัวหน้าก็ควรจะด่าผมหรือลงโทษผมบ้าง เรื่องที่ผมมาสาย...

    นายก็มาสายทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

    คยูฮยอนหัวเราะแฮะๆ “แต่วันนี้สายกว่าปกติน่ะครับ ผมก็เลยรู้สึกผิด ผมรู้ว่าหัวหน้าไม่พอใจ ผมขอโทษจริงๆ”

    “ถ้างั้นก็ทำงานชดเชยเวลา 2 ชั่วโมงที่นายมาสายดีมั้ยล่ะ

    คังอินเสนอ คยูฮยอนจึงรีบพยักหน้า

    ได้ครับ ผมจะอยู่จนค่ำ ทำงานชดเชยเวลาที่ตื่นสาย

    คังอินส่ายหน้าและยกยิ้มอย่างร้ายกาจ ฉันหมายถึง...ช่วงพักกลางวันต่างหากล่ะ โจคยูฮยอน

     

     

    หัวหน้าคิมลงโทษเขาด้วยการให้อดข้าว

    แม้คยูฮยอนจะไม่ได้บ่นสักคำ แต่ตอนนี้ท้องของเขากำลังร้องประท้วงอย่างหนัก เขาไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า แม้แต่น้ำสักหยด ช่วงเช้าเขานั่งทำงานชิ้นใหม่ที่หัวหน้าคิมเอามาโยนให้ และพอถึงตอนพักกลางวัน หัวหน้าคิมก็ให้เขาเข้ามานั่งทำงานต่อในห้องส่วนตัว คงอยากนั่งเฝ้าเพราะกลัวเขาจะหนีไปกินข้าว

     

    เอ้า! ลองดูนี่ คังอินวางกระปุกใส่พริกไทยที่เป็นรูปคนหัวกลมๆ ทำด้วยเซรามิคทาสีขาวลงบนโต๊ะตรงหน้าเด็กหนุ่ม จากนั้นก็เริ่มอธิบายงาน นี่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเมื่อเจ็ดปีก่อน ก็อย่างที่นายเห็น มันล้าสมัย แล้วก็ดูธรรมดาเกินไป ฟังก์ชั่นการใช้งานก็แคบ ไม่น่าสนใจ แต่บริษัทต้องการปรับปรุงและทำการผลิตในรูปแบบใหม่ เสนอฟังก์ชั่นที่หลากหลายและแตกต่าง รูปแบบสวยงามทันสมัย และเป็นคอนเซปต์เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ ฉันอยากให้นายลองคิดดูและร่างแบบออกมาซัก 30 แบบ โดยปรับปรุงจากโครงสร้างเดิม

    คยูฮยอนนั่งอมปลายดินสอและมองตุ๊กตาหัวกลมๆ นั่นจนเพลิน แต่เขาก็ยังสงสัย หมายความว่าจะให้คิดแบบใหม่ โดยยังคงคอนเซปต์ความเป็นคนหัวกลมๆ นี่อยู่ใช่มั้ยครับ

    ประมาณนั้น ลองดูก่อนก็แล้วกัน

     

    คังอินนั่งทำงานของตัวเอง และปล่อยให้คยูฮยอนคิดแบบไปเรื่อยๆ เด็กหนุ่มวาดแบบลงบนกระดาษ แต่เริ่มคิดอะไรไม่ออกเมื่อท้องร้องไม่หยุด คังอินเหลือบตามองเมื่อได้ยินเสียงโครกคราก

    ขอโทษครับ

    คยูฮยอนพูดอ้อมแอ้ม และลงมือวาดต่อ แต่สมองไม่แล่นเพราะไม่มีอะไรไปหล่อเลี้ยง เขากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก และเมื่อมันเข้าไปถึงกระเพาะ เขาก็หวังว่าจะอิ่ม

    อนาถชะมัด...เขาล่ะเซ็งชีวิตพนักงานบริษัทต๊อกต๋อย คิดแล้วก็อยากมีแฟนเป็นมหาเศรษฐี จะได้ไม่ต้องทำงาน

     

    คังอินมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้น เดินออกไปจากห้อง คยูฮยอนถอนหายใจเฮือกแล้วฟุบโต๊ะ เขามองตุ๊กตาเซรามิคที่อยู่ตรงหน้า แล้วใช้ดินสอเขี่ยเล่นไปพลางๆ

    อืม...หัวกลมๆ แบบนี้ ถ้าใส่แว่นแล้วคงเหมือนหัวหน้าคิม

    คยูฮยอนนึกสนุก ลองวาดลงไปบนกระดาษ เขานึกถึงคำพูดของฮยอกแจ ที่บอกว่าหัวหน้าคิมเย็นชาและแข็งกระด้างเหมือนเซรามิค ใช่เลย...แบบนี้เลยล่ะ

     

    เอ แต่ก็ต้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย งั้น...เจาะรูเล็กๆ ตามตัว เอาไว้เสียบไม้จิ้มฟัน สำหรับคนที่ต้องการคลายเครียดเพราะถูกใช้งานหนัก จะได้เอาไม้จิ้มฟันทิ่มเล่น เขาเขียนกำกับลงไปข้างใต้ภาพ และหัวเราะคิกคักกับตัวเอง ส่วนคอนเซปต์วาเลนไทน์ก็เอาเป็นว่าวาดหัวใจตรงหน้าอก แล้วเจาะรูๆ นึงตรงนั้น เผื่อว่าใครจะอยากเอาลูกศร...แทงเข้าที่หัวใจ

    คยูฮยอนชะงักมือที่จดยิกๆ เขาไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา และเมื่อคิดทบทวนแล้ว เขาก็รู้สึกว่าประหลาดมากถ้าจะเขียนลงไปแบบนั้น

     

    ไม่ได้ๆ ไม่สมเหตุสมผล คิดดูสิโจคยูฮยอน คนอย่างหัวหน้าคิมคงไม่มีหัวใจหรอกเขาหยิบยางลบกำลังจะลบรูปและคำอธิบายทั้งหมดนั่น แต่คังอินเปิดประตูกลับเข้ามาเสียก่อน คยูฮยอนจึงเพียงพลิกด้านหลังของกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา และเริ่มวาดรูปใหม่

    อะ...กินซะ กินไปทำงานไปคงพอไหวนะ หัวหน้าคิมยื่นข้าวกล่องกับน้ำเปล่ามาให้เขา เด็กหนุ่มมองอย่างไม่เชื่อสายตัวเอง มือที่เอื้อมไปรับสั่นเล็กน้อยเพราะกำลังคิดว่าอีกฝ่ายจะใส่ยาพิษอะไรลงไป

    ขอบคุณครับ เอ่อ แล้วหัวหน้าไม่ทานเหรอครับ

    ไม่ล่ะ ดื่มกาแฟมาแล้ว รายนั้นนั่งลงตามเดิม และหยิบเอกสารที่กองๆ อยู่มาเปิดอ่านดู เด็กหนุ่มดื่มน้ำเป็นอย่างแรก และจึงเปิดกล่องข้าววางไว้บนโต๊ะ มือหนึ่งถือช้อนอีกมือถือดินสอ เขาเงยหน้ามองคังอินที่ดูเคร่งเครียดกับงานชิ้นใหม่ที่เพิ่งขุดมาทำเมื่อครู่

    กินกาแฟแทนข้าวได้ที่ไหนกันล่ะครับ หัวหน้าต้องรู้จักดูแลตัวเองบ้างนะ ระวังเรื่องสุขภาพแล้วก็เลิกขมวดคิ้วเวลาทำงานได้แล้ว ห้องนี้อุดอู้ ทำไมหัวหน้าไม่เปิดม่านหน้าต่างล่ะครับ หรือไม่ก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ มองสีเขียวๆ หัวหน้าควรจะเอาต้นไม้มาปลูกดูเล่น หรือไม่ก็...

    น่ารำคาญ...ช่วยทำงานเงียบๆ ได้มั้ย

    คยูฮยอนรีบตักข้าวเข้าปากเพื่อบังคับให้ตัวเองเงียบ ก็ไม่ได้อยากจะพูดหรอกนะ...แต่ใครจะอดได้ในเมื่อคนตรงหน้าทำตัวแบบนี้

     

    เสร็จแล้วครับ 30 แบบตามที่สั่ง

    ก่อนถึงเวลาเลิกงานเล็กน้อย เด็กหนุ่มก็ยื่นปึกกระดาษคืนให้หัวหน้าคิม รายนั้นรับไปและวางไว้ข้างตัว คยูฮยอนยิ้มกว้างและเริ่มบิดขี้เกียจ เขสดีใจที่เป็นอิสระอีกครั้ง

    ระหว่างนั้นเลขาฯ ของคังอินเข้ามา เธอเป็นผู้หญิงแสนธรรมดาที่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เลขาฯ เต็มตัวเท่าไหร่นัก เพราะคังอินไม่ชอบมีเลขาฯ หน้าห้อง เขาจึงให้เธอไปนั่งทำงานรวมกับคนอื่นๆ ในออฟฟิศ

     

    หัวหน้าคิมคะ ยังไม่กลับเหรอคะ อ้าว! สวัสดี คยูฮยอน

    คยูฮยอนยิ้มให้เธอ เขานั่งสงบเสงี่ยมอยู่ที่เก้าอี้ขณะฟังทั้งสองคนคุยกัน

    อีกเดี๋ยวจะกลับแล้วล่ะ เชิญคุณก่อนเลย

    เอ่อ หัวหน้าคะ ฉันมีเรื่องจะเรียนถามค่ะ คือได้ข่าวว่าวันหยุดช่วงคริสต์มาสปีนี้ หัวหน้าจะให้พนักงานมาทำงาน แล้วลาหยุดได้เป็นรายบุคคลจริงเหรอคะ

    เธอถามอย่างหวั่นใจ ส่วนคยูฮยอนฟังแล้วก็ไม่เข้าใจนัก

    คังอินนิ่งคิดและพยักหน้า เขาพูดอย่างจริงจัง พอดีแผนกเรามีงานด่วนต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อนปีใหม่ เพราะประมาณสัปดาห์แรกหลังจากปิดปีใหม่แล้วจะมีพรีเซนต์งานทันที ผมเลยอยากจัดการให้เรียบร้อยแต่เนิ่นๆ ก็เลยจำเป็นต้องใช้เวลาช่วงนี้ทำงานกัน คุณรู้เรื่องนี้ก็ดีแล้ว ผมอยากให้คุณช่วยแจ้งพนักงานในแผนกทุกคน ว่าถ้าใครจะลางาน หรือปฏิเสธจะมาช่วยงานในวันศุกร์และเสาร์นี้ จะต้องมีเหตุผลที่รับฟังได้ และมาขออนุญาตกับผมเป็นรายบุคคล

    หา! หัวหน้าจะไม่ให้เราหยุดงานเหรอครับ ไม่ยุติธรรมเลย!”

    คยูฮยอนเผลอโพล่งออกมา คังอินจึงมองอย่างไม่พอใจ

    ทุกคนจำเป็นต้องช่วยกัน เพราะถ้างานไม่เสร็จทันกำหนด แผนกเราก็เสียหาย ใครจะรับผิดชอบล่ะ

    แต่...แต่มันเป็นวันหยุดนะ

    เด็กหนุ่มเสียงอ่อนลง และเงียบไปในที่สุด เพราะโดนหัวหน้าคิมมองด้วยหางตา ทว่าเลขาฯ ที่ยืนเงียบอยู่นานเริ่มรวบรวมความกล้า

    หัวหน้าคิมคะ ฉันจะขอหยุดงานค่ะ” เธอคุมเสียงไม่ให้สั่น “มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น แต่ฉันวางแผนไว้แล้วว่าจะไปเที่ยวที่บ้านเกิดของแฟน แล้วฉลองคริสต์มาสกับครอบครัวของเค้า มันสำคัญมากนะคะหัวหน้า เรากำลังดูใจกัน และอาจจะแต่งงานกันในอนาคต

    คังอินมองเธอ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยักไหล่

    ได้สิ ผมอนุญาต

    อะไรนะคะ! จริงเหรอคะ เธอดีใจเพราะไม่ได้คาดคิดว่าจะง่ายแบบนี้ คังอินพยักหน้าอีกรอบและบอกเธอ

    ผมเข้าใจคนที่กำลังมีความรัก คุณคงอยากใช้เวลาทั้งหมดกับคนที่คุณรัก เพราะฉะนั้นผมจะอวยพรให้คุณมีความสุขนะ

     

    หลังจากเลขาฯ คนนั้นกลับไปแล้ว คยูฮยอนก็เริ่มเก็บของเตรียมกลับบ้าง เขาพูดขึ้นมาลอยๆ

    ผมรู้แล้วว่าทำไมหัวหน้าถึงป็อบ

    อะไรนะ คังอินขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะกำลังปิดคอมพิวเตอร์

    เพราะหัวหน้าปากหวานแบบนี้นี่เอง สาวๆ ในบริษัทถึงพากันคลั่งหัวหน้ากันใหญ่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าหัวหน้าจะพูดอะไรเลี่ยนๆ ออกมาได้ ฮั่นแน่! หรือว่า...หัวหน้าเองก็กำลังมีความรักอยู่เหมือนกัน

    คังอินมองใบหน้าทะเล้นด้วยความเอือมระอา ฉันเป็นเพื่อนเล่นนายรึไง เก็บของแล้วกลับบ้านไปได้แล้ว

    ให้เขามานั่งอยู่ในห้องด้วยเกือบทั้งวัน บทจะไล่กลับก็ไล่ส่งๆ หัวหน้าคิมไม่มีมารยาทเอาเสียเลย

     

    คริสต์มาสอีฟปีนี้หัวหน้าไปเที่ยวไหนเหรอครับ

    ไม่ไป ก็เพิ่งพูดว่าจะอยู่ทำงาน

    คยูฮยอนมองและลองถามดู หัวหน้าชอบทำงานเหรอครับ

    งานคือชีวิตของฉัน

    แล้ว...เป็นชีวิตที่มีความสุขเหรอครับ

    คังอินลอบถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นมองคยูฮยอน เขาไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่ลุกขึ้นเก็บกระเป๋า

    ฉันก็จะกลับแล้ว ให้ฉันไปส่งมั้ย

    เอ่อ จะดีเหรอครับ รบกวนหัวหน้าเปล่าๆ คือผมเกรงใจ... คยูฮยอนตอบไปตามตรง คังอินจึงเดินออกไปจากห้อง และกดปิดไฟ

    จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเก้าอี้ล้มตึง คังอินเลยวิ่งกลับเข้ามาแล้วกดเปิดไฟ เขาเห็นคยูฮยอนลงไปนั่งคุดคู้อยู่ที่พื้น พอไฟสว่างปุ๊บรายนั้นก็เงยหน้าขึ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “อะไรของนาย”

    “เปล่าครับ...ไม่มีอะไร” เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาแล้วใช้หลังมือปาดน้ำตาแบบลวกๆ ก่อนจะถอนหายใจอีกที คังอินไม่สบายใจ เขาเข้าไปช่วยพลิกเก้าอี้ขึ้นมาตั้ง

    “นายไม่สบายเหรอ เมื่อกี๊เป็นลมรึเปล่า”

    “ไม่ใช่ครับ” คยูฮยอนบอกโดยไม่สบตาอีกฝ่าย นึกแล้วก็อายนิดๆ นอกจากพี่อารากับฮยอกแจแล้วก็ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นเขาในสภาพแบบนี้นักหรอกนะ

    คังอินไม่เชื่อ เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากคยูฮยอน และฝ่ายนั้นก็สะดุ้งโหยง รีบก้าวถอย

    “ตัวไม่ร้อนแต่หน้าซีดมากเลยนะ ให้ฉันไปส่งที่บ้านเอามั้ย อากาศแย่ๆ แบบนี้เดี๋ยวขึ้นรถเมล์แล้วเกิดเป็นลมไปอีก...”

    “ผมไม่ได้เป็นลมซะหน่อย!

    คยูฮยอนเถียง แต่แล้วก็เพิ่งได้คิดทวนที่หัวหน้าคิมพูดเมื่อกี๊ เอ๊ะ! จะไปส่งเขาใช่ไหมนะ หัวหน้าคิมพูดแบบนั้นใช่ไหม

    “อ้อ...แต่ผมก็รู้สึกมึนๆ นิดหน่อยน่ะครับ ถ้าหัวหน้าจะไปส่งก็ขอบคุณมากเลย” คยูฮยอนยิ้มร่า

    ก็แหม...มีคนขับรถไปส่งมันดีกว่านั่งรถเมล์เป็นไหนๆ นี่นา

     

     

    สุดท้ายหัวหน้าคิมก็ขับรถมาส่งเขาถึงบ้าน สบายสุดๆ เพราะไม่ต้องยืนรอรถเมล์ท่ามกลางอากาศหนาวและหิมะตก แถมได้นั่งฟังเพลงเพราะๆ ในรถ และสูดกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศมาตลอดทาง

     

    ไฟฟ้าในบ้านปิดอยู่ ตัวบ้านจึงมืดสนิทเมื่อมองจากด้านนอก คยูฮยอนรู้ทันทีว่าพี่สาวยังไม่กลับ เขานึกฉุน อยากโทรไปตามตัวเสียเดี๋ยวนั้น แต่อย่างไรก็ต้องลงรถและเข้าบ้านก่อน

    ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง

    อืม...ไม่เป็นไร แล้วนาย...สบายดีแล้วใช่มั้ย

    “ครับ งั้นผมขอตัวนะครับหัวหน้า”

    เด็กหนุ่มเปิดประตูรถลงไป และเดินไปที่ประตูบ้าน มือหนึ่งหยิบโทรศัพท์ อีกมือไขกุญแจและเตรียมเปิดเข้าไป เขาหันมองที่รถเพื่อจะบอกลาหัวหน้าคิมอีกครั้ง แต่แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อรายนั้นมายืนอยู่ด้านหลังเขา

    ละ...ลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย นั่นสินะ ไม่ยักได้ยินเสียงปิดประตูรถ หรือเพราะเขากำลังง่วนๆ อยู่ จึงไม่ได้ยิน

    คังอินยกมือลูบท้ายทอยตัวเอง และพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง คยูฮยอนจึงตั้งใจรอฟัง

    ฉัน...คือ...ฉัน... ยิ่งถูกจ้องคังอินก็ยิ่งพูดไม่ออก เขาจึงเงียบไป และพูดออกมาอีกครั้ง ฉันอยากได้กาแฟร้อนสักถ้วย

    คยูฮยอนร้องอ๋อ และยิ้มเจื่อนๆ ได้ครับ งั้นเชิญด้านในก่อน

     

    เมื่อเด็กหนุ่มกดสวิตช์ไฟหน้าบ้าน ไฟในตัวบ้านก็สว่างพรึ่บ เขาเปิดประตูบ้านเข้าไป และหันมาบอกคังอิน

    ตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมจะไปชงกาแฟมาให้ พูดพลางเดินไปที่ห้องครัว แล้วหายเข้าไปหลังบานประตู แต่ยังไม่ได้ชงกาแฟ เพราะอย่างแรกที่ทำคือรีบกดโทรศัพท์หาพี่สาว เสียงสัญญาณดังนานก่อนจะตัดไป คยูฮยอนไม่ยอมแพ้ โทรไปอีกครั้ง

    ฮัลโหล ในที่สุดปลายสายก็ตอบกลับมา

    พี่อยู่ไหน ทำไมดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับบ้านคยูฮยอนรีบดุพี่สาวทันที รายนั้นจึงถอนหายใจ

    นี่เพิ่งสามทุ่มเองนะ

    สามทุ่มก็ดึกแล้ว! พี่เป็นผู้หญิงนะ กลับบ้านดึกมันไม่ดี

    เด็กหนุ่มหงุดหงิดที่โจอาราเอาแต่ส่งเสียงอืมๆ อยู่ในลำคอ และครู่หนึ่งก็มีเสียงผู้ชายดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์

    พี่อยู่กับแฟนใช่มั้ย

    ใช่...

    หนอย! รีบกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้น...ไม่งั้น... คยูฮยอนไม่รู้จะขู่พี่สาวอย่างไรดี นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

    โจอาราหัวเราะเบาๆ และพูดท้า ทำไม จะทำอะไร ไล่พี่ออกจากบ้านเหรอ ดีสิ...พี่จะได้ย้ายไปอยู่คอนโดแฟนซะเลย

    นี่! ผมไม่ทำอย่างนั้นหรอกน่า! รีบกลับมาเลยนะ

    พี่มาเที่ยวกับเพื่อนที่บริษัทอีกหลายคน ไม่ได้มากับแฟนต่อสองซักหน่อย กังวลไปได้

    คยูฮยอนไม่ค่อยเชื่อคำที่พี่สาวพูด ถึงอย่างไรก็เป็นห่วงอยู่ดี

    รีบกลับมาเถอะนะ...คิดถึงพี่จะแย่แล้ว คราวนี้ลองใช้ไม้อ่อน แต่ฝ่ายนั้นกลับรู้ทัน เอ่ยแซวแรงๆ อย่างเคย

    อยู่บ้านคนเดียวเหงาเหรอจ้ะ คนโสด

    ร้ายกาจไม่ต่างกันเลย ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ แอบไปนัดแนะคำนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!

     

    ฮึ่ย! ไม่ได้อยู่คนเดียวซักหน่อย

    เด็กหนุ่มตะโกนใส่และกดวางสาย เขานิ่งอยู่สักพักและคิดได้ว่าพี่สาวคงงงที่เขาพูดออกไปแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่คนเดียวจริงๆ นี่นา ยังมีคนรอกาแฟอยู่ข้างนอกอีกคน

    คยูฮยอนรีบเดินไปจัดแจงชงกาแฟ และไม่นานนักก็ได้กาแฟร้อนหอมกรุ่นถ้วยหนึ่ง เขายกออกไปด้านนอก

     

    หัวหน้าคิม กาแฟได้แล้วครับคยูฮยอนเดินเข้าไปหาคังอินที่ยืนอยู่หน้าตู้ปลา รายนั้นรับถ้วยกาแฟ และยกขึ้นจิบ

    ขอบใจนะ ไม่น่าเชื่อว่านายจะชงกาแฟอร่อย คังอินพูดพลางยกขึ้นจิบอีก คยูฮยอนจึงหัวเราะ

    หัวหน้าใช้ผมชงมาสองปีแล้วนะครับ ทำไมผมจะไม่รู้ว่าหัวหน้าชอบรสชาติแบบไหน

    จริงสิ...เมื่อก่อนโจคยูฮยอนชงกาแฟเป็นเสียที่ไหน แต่พอเข้ามาฝึกงานแล้วโดนหัวหน้าคิมใช้ให้ชงกาแฟ เขาก็เลยได้ประสบการณ์ในเรื่องนี้ควบคู่ไปกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย

    ตุ๊กตาเซรามิคตัวนั้น... คังอินชี้ลงไปที่พื้นตู้ปลา เขามองเด็กหนุ่มอย่างตั้งคำถาม ขณะที่รายนั้นหน้าซีดไปแล้ว

    เอ่อ ครับ เซรามิค

    ใช่ตัวที่ฉันให้นายเป็นของขวัญวันจบการฝึกงานรึเปล่า

    คยูฮยอนกลืนน้ำลาย ก่อนจะตอบตามตรง

    ครับ ใช่ครับ ผม...ชอบมันมากเลยนะครับหัวหน้า และเพราะว่ามันเป็นรูปแมว ผมก็เลยเอามาประดับตู้ปลา แมวอยู่กับปลา น่ารักดีนะครับ ตอนนี้มันก็เลยกลายเป็นแมวน้ำ...

    พอเห็นสายตาของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มก็รีบหุบปาก คังอินไม่ได้ว่าอะไร เขายักไหล่และสบตาคยูฮยอนอย่างจับผิด

    นายคงโกรธฉันแล้วพาลเอาหย่อนลงไปมากกว่า

    โห...รู้ได้ยังไงเนี่ย คยูฮยอนนับถือหัวหน้าคิมก็แบบนี้แหละ จับผิดเขาได้ทุกเรื่อง ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเดาแม่นขนาดนั้น

    แหะ แต่ผมก็หย่อนไว้นานแล้วนะครับ พูดพลางทำตาปริบๆ เขาไม่กล้าโกหก เลยแค่อยากให้อีกฝ่ายเมตตา

    คังอินส่ายหน้าอย่างนึกขำ เขายิ้มน้อยๆ และเบือนหน้าไปดูปลาทองที่อยู่ในตู้ พวกมันว่ายเอื่อยๆ และดูมีความสุขจนน่าอิจฉา ร่างสูงลากนิ้วลงบนกระจก และปลาทองตัวหนึ่งก็ไล่งับนิ้วเขา

    ปลาทองนายน่ารักดีนะ มันคงหิว ดูสิ...ไล่งับนิ้วฉันใหญ่เลย

    คยูฮยอนเหลือบมองกระป๋องอาหารเม็ดที่อยู่ข้างๆ เขาหยิบมันขึ้นมาและตัดสินใจส่งให้ร่างสูง

    ให้มันสิครับ

    คังอินมองอย่างไม่แน่ใจนัก แต่ก็รับไป เขาวางถ้วยกาแฟลง และเริ่มเปิดกระป๋อง หยิบอาหารเม็ดโรยลงด้านบนของตู้ ปลาทองทั้งหมดว่ายขึ้นเหนือผิวน้ำ งับอาหารเม็ดที่ลอยอยู่อย่างหิวโหย

    จริงๆ แล้วมันไม่ได้หิวขนาดนั้นหรอก มันแค่ตะกละ

    คยูฮยอนชะโงกหน้าไปมอง และเอานิ้วจิ้มหัวพวกมันเล่นตอนโผล่ขึ้นมางับอาหาร เขาหันไปบอกหัวหน้าคิม ขณะไล่ชี้ทีละตัว

    ตัวนี้ชื่อเคโรโระ ส่วนตัวนี้ชื่อทามามะ ตัวนี้ชื่อกีโรโระ อีกตัวชื่อคุรุรุ ตัวสุดท้ายที่กำลังว่ายลงไปนั่นชื่อโดโรโระ

    คังอินหันไปมองคนด้านข้าง เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

    เดี๋ยวนะ...ตกลงว่านี่ปลาทองหรือกบ

    หะ! หัวหน้ารู้จักเคโรโระด้วยเหรอครับ คยูฮยอนโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น คังอินพยักหน้าและหันกลับไปดูปลาต่อ

    เมื่อก่อนฉันชอบอ่านการ์ตูนมากเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาตาม เลยเลิกอ่านไปแล้ว

    คยูฮยอนเผลอทำหน้าเสียดาย ดูจากรูปลักษณ์และนิสัยแล้ว หัวหน้าคิมอาจจะเป็นโอตาคุที่รุ่งมากๆ คนหนึ่งเลยก็ได้

    ผมมีหนังสือการ์ตูนอยู่ในห้องนอนเป็นตู้ๆ เลย ถ้าหัวหน้าอยากจะยืมไปอ่านล่ะก็ได้เลยนะครับ

    อืม อยาก ขอยืมเดี๋ยวนี้เลยได้มั้ย

    หะ! เดี๋ยวนี้เลยเหรอครับ คยูฮยอนรับมุกอีกฝ่ายแทบไม่ทัน คิดอีกที...นั่นคงไม่ใช่มุก หัวหน้าคิมดูจริงจังกับการจะเข้าไปในห้องเขา และก็เป็นเขาเองก็พลั้งปากชวนโดยไม่ได้ตั้งใจ

    เข้าไปได้มั้ย

    คังอินถามย้ำอีกครั้ง และคยูฮยอนก็เกรงใจเกินกว่าจะปฏิเสธ ตอนนี้ห้องเขาก็ไม่ได้รกอะไร เพราะเพิ่งจะเก็บกวาดครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ เขาจึงพยักหน้าและเดินนำไปที่ห้อง

     

    เมื่อกดสวิตช์ไฟ และเปิดประตูห้องแล้ว คยูฮยอนก็พุ่งไปตะครุบเก็บกางเกงในที่วางแผ่ไว้บนเตียง

    เชิญเลยครับ เลือกดูได้เลย เด็กหนุ่มชี้ไปที่ชั้นหนังสือเพื่อเบนความสนใจอีกฝ่าย คังอินเดินเข้าไป และจดจ่ออยู่ตรงนั้น จึงเป็นโอกาสให้คยูฮยอนรีบเก็บกางเกงในใส่ลิ้นชัก และเดินตามไปช่วยเลือก

    “แปลกนะ” จู่ๆ หัวหน้าคิมก็พูดขึ้นมา “ทำไมบ้านนายถึงติดตั้งสวิตซ์ไฟไว้นอกตัวบ้าน แล้วก็นอกห้อง...”

    “เอ่อ...” คยูฮยอนไม่แน่ใจว่าควรบอกหรือไม่ เพราะอีกฝ่ายอาจจะหัวเราะเยาะเขา แต่เมื่อรายนั้นจ้องมองเหมือนจับความผิดปกติอะไรบางอย่างได้แล้ว ปิดบังไปก็จะโดนสงสัยหนักขึ้นเปล่าๆ

    “นายกลัวความมืดใช่มั้ย”

    ยังไม่ทันจะตัดสินใจบอก หัวหน้าคิมก็ดันเดาถูกเสียอย่างนั้น

    คยูฮยอนเลยพยักหน้าส่งๆ

                     “ก็นิดหน่อยน่ะครับ ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอก”

                    คังอินรู้ว่าคยูฮยอนต้องกังวลเรื่องนี้มากแน่ๆ แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรอีก เขายักไหล่แล้วเดินไปเลือกการ์ตูนบนชั้น

    หัวหน้าชอบการ์ตูนแนวไหนเหรอครับ ผมมีวันพีช สแลมดังค์ โคนัน หรือว่าการ์ตูนน่ารักๆ แบบเลิฟฮินะ...

    คยูฮยอนหยิบหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นตรงหน้า แต่ยังไม่ทันได้เอาออกมาจากซอง มือของคังอินก็ทาบลงบนมือของเขา คยูฮยอนสะดุ้งเฮือก ยืนตัวแข็ง เขาไม่กล้าหันไปมอง แต่รู้ว่าหัวหน้าคิมกำลังมองเขาอยู่ มองแบบไม่กระพริบตาเสียด้วย

    มือนั้นค่อยๆ กดมือของเขาให้ดันหนังสือเล่มนั้นเก็บเข้าที่เดิม

    เอ่อ...หัวหน้าไม่ดูเล่มนี้ก่อนเหรอครับ พอหันมาถาม มืออีกข้างของร่างสูงก็เอื้อมแปะชั้นหนังสือเหนือศีรษะเขา สายตาคมจ้องมา คยูฮยอนจึงแทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ ตายล่ะ...แย่แน่ๆ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าหัวหน้าคิมจะเป็นคนฉวยโอกาสแบบนี้ เขาอุตส่าห์ไว้ใจให้เข้ามาถึงห้องนอน ไม่นึกเลยว่าจะกลายเป็นไว้ใจคนผิด

     

    ฉันจะดูเล่มนี้

     

    พูดพลางใช้มือข้างที่แปะอยู่บนชั้นหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งตรงนั้นลงมา พอเห็นว่าเป็นการ์ตูนต้องห้าม คยูฮยอนก็เผลอร้องแล้วคว้าออกจากมือร่างสูงทันที

    นายอ่านการ์ตูนประเภทนี้ด้วยเหรอ คังอินถามพลางยกยิ้ม

    อ่อ...เอ่อ...เล่มนี้...ของพี่สาวผมน่ะครับ เธอแค่ฝากมาเก็บไว้ ผมคงให้หัวหน้ายืมไม่ได้หรอกครับ ถ้าอยากจะยืมก็ต้องขอพี่สาวผม

    คยูฮยอนหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วรีบเก็บขึ้นชั้นตามเดิม คังอินจึงรีบปฏิเสธ ไม่ได้จะยืมหรอก แค่สงสัยว่าทำไมมีการ์ตูนประเภทนี้อยู่บนชั้นหนังสือของนาย

    ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับ คยูฮยอนตอบอ้อมแอ้ม และเปลี่ยนประเด็นทันทีที่เกิดความเงียบ เอ่อ...จะดูเล่มอื่นมั้ยครับ ถ้าไม่ยืมก็ไม่เป็นไร วันหลังก็ได้นะ ผมว่าหัวหน้าออกไปดื่มกาแฟต่อดีมั้ยครับ เดี๋ยวเย็นหมด

    อืม งั้นวันหลังจะมายืมนะ

    คังอินพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องนอนเขา

    พลาด...พลาดอีกแล้ว ชวนเข้าบ้านก็แล้ว ชวนเข้าห้องก็แล้ว นี่ยังชวนให้มาอีกรอบซะด้วย คยูฮยอนผิดเองที่พูดอะไรออกไปไม่คิด นี่แสดงว่าหัวหน้าคิมก็อาจจะเข้ามาป้วนเปี้ยนในบ้านเขาได้อีกเรื่อยๆ มีความลับอะไรก็คงโดนขุดคุ้ยหมด

     

    ฉันกลับแล้วนะ พรุ่งนี้หวังว่านายจะเข้างานตรงเวลา แล้วก็ช่วยเคลียร์งานส่วนตัว เตรียมทำงานส่วนรวมในสุดสัปดาห์นี้ด้วย

    คังอินวางถ้วยกาแฟเปล่าลงที่โต๊ะและลุกขึ้น

    ขอบใจสำหรับกาแฟ

    หัวหน้าครับ... คยูฮยอนผุดลุกตาม เขาไม่กล้าพูดเท่าไหร่นัก แต่ก็ตัดสินใจว่าจะลองเลียบๆ เคียงๆ ถาม ถ้าหากผม...อยู่ทำงานในช่วงคริสต์มาสนี้ไม่ได้ เอ่อ คือผมจะขอ...

    จะไปไหนล่ะ หัวหน้าคิมถามเสียงแข็ง เด็กหนุ่มจึงหน้าเสีย

    ผมว่า...จะไป...เอ่อ...

    คังอินเดินออกไปจากบ้านเขาโดยไม่สนใจฟังให้จบ คยูฮยอนยืนงง เขาได้ยินเสียงรถแล่นออกไป และทุกอย่างก็เงียบกริบ ตอนนี้เพิ่งรู้ตัวว่าเขาโดนหัวหน้าคิมปฏิเสธอย่างเย็นชาและโหดร้าย

     

    โธ่...วันหยุดคริสต์มาสที่แสนวิเศษ

    เขาจะไม่ยอมเสียมันให้กับงานแน่! คอยดู!

     

    ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางทิ้งไว้ในครัว คยูฮยอนรีบวิ่งไปรับสาย เผื่อพี่สาวตัวดีจะโทรกลับมา แต่แล้วก็ผิดคาดเพราะเป็นเบอร์ของลีฮยอกแจ เพื่อนสนิทของเขาเอง

     

    ไง...

    ฉันมีข่าวดีมาบอกแกเว้ย เนี่ย! ฉันหาปาร์ตี้จับคู่ให้แกได้แล้ว เป็นปาร์ตี้คริสต์มาสอีฟแบบเก๋ๆ ไม่หรูหรามาก คิดว่าแกคงชอบ ที่สำคัญนะ งานนี้ค่าเข้าแพงลิบ แสดงว่าคนที่แกจะเจอต้องเป็นระดับไฮโซและเศรษฐีเท่านั้น!” ฮยอกแจสาธยายโดยไม่เว้นให้อีกฝ่ายพูดบ้าง พอได้จังหวะคยูฮยอนจึงรีบพูด

    เฮ้ย! นี่แกเอาจริงเหรอวะ ฉันยังไม่ได้ตกลงเลยนะ อีกอย่าง ฉันไม่มีเงินพอหรอก ถ้ามันจะแพงขนาดนั้นน่ะ!”

    ไม่ต้องห่วง โรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเป็นโรงแรมในเครือชเวกรุ๊ป ฉันจะให้ซีวอนจัดการทุกอย่างให้นายเอง แค่นายตอบตกลง ฉันก็จะเอาบัตรวีไอพีสีทองๆ ไปให้นาย...พรุ่งนี้เลย

    คยูฮยอนตาวาว หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก คิดดูแล้วมันก็เข้าท่า เขาจะได้เจอกับคนที่ดูดีทั้งฐานะและหน้าตา แถมมีเวลาทั้งคืนที่จะศึกษาดูใจก่อนลงเอยกับใครสักคน เยี่ยมไปเลย!

    งานมีเมื่อไหร่ เขาถามรายละเอียดอย่างสนใจ

    คืนคริสต์มาสอีฟ ตั้งแต่ประมาณ 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืน

    เด็กหนุ่มเกือบจะพลั้งปากตกลงไปแล้ว แต่จู่ๆ ใบหน้าของหัวหน้าคิมก็แวบเข้ามา เขาจึงนึกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นได้ คยูฮยอนร้องออกมาพร้อมกับลากเสียงยาวจนเพื่อนตกใจ

    เป็นอะไรวะ

    ฮือ...ไปไม่ได้ เขาตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

    อ้าว ทำไมล่ะ

    คยูฮยอนเดินออกมาจากห้องครัวและทรุดตัวลงที่โซฟา เขารู้สึกเซ็งทุกทีที่นึกถึงเรื่องนี้ ก็หัวหน้าคิมน่ะสิ ออกคำสั่งห้ามทุกคนในแผนกหยุดงานในช่วงคริสต์มาสนี้ ต้องมาทำงานตามปกติ เพราะต้องช่วยกันปั่นงานพรีเซนต์ผลิตภัณฑ์ของปีหน้าให้เสร็จก่อนจะหยุดปีใหม่

    เฮ้ย! ขนาดนั้นเลยเหรอ หัวหน้าคิมนี่แย่จัง

    ฮยอกแจหงุดหงิดแทนเพื่อน

    อื้อ! ห้ามลา ห้ามขาด ถ้าไม่มีเหตุผลอันควร

    ฮยอกแจสงสัยในคำพูดของคยูฮยอน เขาจึงถาม

    เหตุผลอันควรนี่เช่นอะไรบ้าง

    ก็...ป่วย...

    งั้นแกก็ป่วยสิวะ!”

    ถ้าป่วยกะทันหันก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ไปโชว์สิ คนอย่างหัวหน้าคิมรอบคอบจะตาย คยูฮยอนโอดครวญเพราะเห็นว่าหมดทาง

    ฮยอกแจรีบเสนอตัวช่วย

    ซีวอนมีเพื่อนเป็นหมอ ฉันให้เค้าขอให้แกได้

    ดูเหมือนว่า ชเวซีวอนจะเป็นผู้ชายสารพัดประโยชน์สำหรับลีฮยอกแจ คยูฮยอนก็ดีใจอยู่หรอกที่เพื่อนอุตส่าห์คิดหาทางช่วย แต่เหมือนจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด

    ถ้าแกล้งป่วย ฉันก็โผล่ไปงานคริสต์มาสที่บริษัทไม่ได้น่ะสิ

    เอ่อว่ะ! ลืม ฮยอกแจพึมพำ แล้วเงียบไปเพราะใช้ความคิดก่อนจะถามอีก มีเหตุผลอันควรอะไรอีกมั้ย

    คงต้องไปเที่ยวกับครอบครัวหรือกับแฟน ประมาณนี้แหละ

    เฮ้ย! เหตุผลนี้ก็ได้เหรอวะ! งั้นแกก็บอกว่าพ่อแม่จะกลับมาจากต่างประเทศ มารับไปเที่ยว

    คยูฮยอนหน้าสลดลงเล็กน้อย เขาล้มตัวลงนอนเหยียดบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจที่ต้องพูดถึง หัวหน้าคิมรู้ว่าพวกเค้าไม่มาหรอก มันมีข้อมูลอยู่ในใบสมัครของฉัน

    เอ่อ ขอโทษๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ... ฮยอกแจตบปากตัวเองเบาๆ และรีบเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วเรื่องไปเที่ยวกับแฟนนั่น มันใช้เป็นเหตุผลอันควรได้ด้วยเหรอวะ

    ก็เห็นมีหลายคนที่มาขอลางาน เพราะต้องไปเที่ยวกับแฟน หัวหน้าคิมก็อนุญาต แถมยังอวยพรให้มีความสุขอีก เฮ้อ! นี่ถ้าฉันมีแฟนบ้างก็คงไม่ต้องกลุ้มขนาดนี้หรอก

    งั้นแกก็มีแฟน...

    คยูฮยอนหัวเราะ เขาเองก็นึกขอบคุณเพื่อนที่อุตส่าห์หาปาร์ตี้จับคู่ให้ แต่มันไม่ทันการณ์ก็เท่านั้น

    ฉันต้องมีก่อนวันคริสต์มาสอีฟเว้ยถึงจะลางานได้ เข้าใจมั้ย

    ได้ยินดังนั้นฮยอกแจก็ส่งเสียงหัวเราะหึหึมาตามสายโทรศัพท์ จากนั้นก็พูดช้าๆ และชัดเจน

    แกก็...แกล้งทำเป็นมีสิวะ จะไปยากอะไร



    .
    .
    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×