คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [09] Just say out
ซีวอนยืนรอใครบางคนอยู่ที่ลานจอดรถหน้าสถานเริงรมย์เจ้าประจำ และไม่นานนักรถตู้คันหนึ่งก็แล่นเข้ามา เมื่อรถจอดสนิทแล้ว คนที่เขารออยู่ก็เปิดประตูลงมาหา ตามด้วยเพื่อนร่วมทีมหลายคนที่ทยอยลงจากรถแล้วรีบเดินไปประจำจุดต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ คุณซีวอน” แทคยอนบอกด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็มองเข้าไปในรถของซีวอน “ไหนล่ะครับคุณยองอุน”
“ผมเปิดห้องแล้วผมก็ทิ้งเค้าไว้ในโรงแรมชั้นบนน่ะครับ ตอนนี้โจคยูฮยอนอยู่ที่นี่แล้ว แต่ผมมีเรื่องต้องตกลงกับคุณก่อน”
ซีวอนบอก
แทคยอนเริ่มขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เคยตกลงกันไว้ก่อนจะมาที่นี่ “คุณซีวอน เราคุยกันแล้วนี่ครับ คุณบอกว่าจะยอมให้ผมจัดการทุกอย่างตามหน้าที่...”
“ใช่ครับ แต่ต้องหลังจากที่ผมพยายามเกลี้ยกล่อมคยูฮยอนแล้ว แต่ไม่สำเร็จ อีกเดี๋ยวผมจะพาคยูฮยอนไปเจอไอ้คังอิน จากนั้นเราค่อยว่ากัน” คำพูดของซีวอนทำให้แทคยอนไม่สบอารมณ์นัก
“คุณก็ยังใจอ่อนเหมือนเดิม คยูฮยอนกับลูกในท้องคุณยองอุนไม่ใช่มนุษย์นะครับ พวกเค้าเป็นมนุษย์ต่างดาว!”
“ก็เหมือนกันแหละครับ ถ้ามองในมุมกลับกันแล้วพวกเราเองก็เป็นมนุษย์ต่างดาวสำหรับเค้า คุณบอกเองว่าเค้าก็ไม่ได้เลวร้าย แล้วผมก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของคยูฮยอนเลย ผมอยากเป็นแบบเค้า ผมอยากเลิกสนใจไอ้คังอินแล้วปล่อยให้มันตายๆ ไปซะ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมเลยต้องวุ่นวายอยู่แบบนี้ไง ผมโคตรนับถือคยูฮยอนเลย เพราะเค้ากล้าทำในสิ่งที่ผมไม่กล้า ผมอิจฉาเค้าด้วยซ้ำ ผมอยากแก้แค้นไอ้คังอินบ้าง ผมอยากทำให้มันเสียใจที่มองข้ามผม และทำให้ผมรู้สึกแย่มาตลอด จากนั้นผมก็จะหายตัวไป ผมจะไม่สนใจมันอีก ผมอยากจะนั่งยูเอฟโอหายออกไปจากชีวิตมัน แต่เพราะผมไม่ใช่เอเลี่ยน ผมเลยทำไม่ได้!”
ซีวอนกล้าพูดความจริงกับแทคยอนโดยไม่ใส่ใจว่าฝ่ายนั้นจะคิดอย่างไร เขาไม่สนใจด้วยว่าแทคยอนจะรู้อยู่แล้ว เขาก็แค่อึดอัดที่ต้องเก็บความในใจเอาไว้ และคอยหลีกหนีมันอยู่ตลอด
แทคยอนสบตาเขา และเอ่ยเสียงเรียบ “ก็แล้วทำไมคุณไม่พูดแบบนี้กับคุณยองอุนล่ะครับ ก็เพราะเค้าไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับเค้า...คุณจะโทษว่าเป็นความผิดเค้าที่มองข้ามคุณมันก็ดูจะไม่ยุติธรรมนะครับ ในเมื่อคุณไม่กล้าทำตัวให้อยู่ในสายตาของเค้าเองเพราะกลัวความผิดหวัง คุณก็น่าจะยอมรับ ที่ผมเคยบอกว่าถึงคุณจะยอมตายเพื่อเค้า คุณก็เป็นได้เท่าที่เป็นอยู่ นั่นก็เพราะคุณไม่ร้องขอจะเป็นมากกว่านี้ ผมไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นไม่ได้...”
“ผมไม่ได้จะมาเถียงกับคุณนะ” ซีวอนแกล้งบอกปัดเพื่อเปลี่ยนเรื่องพูด “ผมจะเข้าไปหาคยูฮยอนแล้ว คุณห้ามลงมือจนกว่าผมจะบอก”
“ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ...ผมจะลงมือทันทีที่มีโอกาส เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของผม ผมจะไม่ตามใจคุณแค่เพราะว่าผมชอบคุณนั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดี”
ซีวอนสะอึก เขาพูดอะไรไม่ออกที่ถูกอีกฝ่ายพูดกระทบกระเทียบ ทั้งคยูฮยอนและคุณแทคยอนตอกย้ำความผิดพลาดของเขาซ้ำๆ นั่นทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ไม่ใช่ไอ้คังอิน ไม่ใช่คยูฮยอน
นึกแล้วก็น่าขำ...ไม่มีใครที่ถูกลงโทษในเรื่องนี้มากไปกว่าเขาอีกแล้ว
ซีวอนเดินมายังบันไดหนีไฟของผับตามที่คยูฮยอนส่งข้อความมาบอกเขา และเมื่อมาถึงประตูทางเข้า เขาก็เห็นคยูฮยอนยืนรออยู่แล้ว
“ไปกันเถอะครับ ผมอยากเจอหน้าผู้ชายเลวๆ คนนั้นจะแย่อยู่แล้ว อยากเห็นว่าตอนนี้เค้าน่าสมเพชแค่ไหน”
ซีวอนเบือนหน้าไปแค่นหัวเราะ “ใช่...ตอนนี้มันน่าสมเพชมาก คงสะใจนายแล้วสิ แค่นี้ก็คงพอแล้ว ถ้าสนุกพอแล้วก็เลิกเล่นบ้าๆ ซะที!”
คยูฮยอนกระตุกยิ้มแล้วเดินนำออกไปจากบริเวณนั้น ซีวอนเดินตามไปอย่างเงียบๆ แม้จะโมโหแต่เขาตั้งสติไว้แล้วว่าจะไม่คิดอะไรฟุ้งซ่านให้รายนั้นอ่านใจได้อีก โดยเฉพาะเรื่องที่องค์กรของแทคยอนมาที่นี่เพื่อกำจัดคยูฮยอนและลูก
ทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปยังโรงแรมที่อยู่ชั้นบนสุด จากนั้นซีวอนก็เปลี่ยนเป็นคนนำทาง เขาพาคยูฮยอนมาที่ประตูหน้าห้องห้องหนึ่ง แล้วจึงไขกุญแจเปิดเข้าไป
คังอินที่นั่งรออยู่บนโซฟาแทบจะผุดลุกทันทีเมื่อเห็นคยูฮยอน แต่เพราะไม่สะดวกจะลุก เขาจึงได้แต่เอามือยันพนักโซฟาเอาไว้ และมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างรู้สึกผิด ฝ่ายคยูฮยอนเดินเข้ามาแล้วสบตาเขาด้วยแววตาที่คาดเดาได้ยากอย่างเคย
“พี่คังอินดูเปลี่ยนไปมากเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยกมือกอดอก หัวเราะในลำคอขณะพิจารณาชุดคลุมท้องที่คังอินใส่อยู่ “ผมแทบจำพี่ได้ไม่ได้แน่ะ ตอนนี้พี่ดูไม่เหมือนเพลย์บอยคนนั้นที่ผมเจอ แต่เหมือนพวกขี้แพ้...น่าไม่อาย”
“นายเองก็เปลี่ยนไป...”
คังอินมองชุดหนังรัดรูปที่คยูฮยอนใส่ รวมทั้งสไตล์การแต่งหน้าทำผมและท่าทางที่ดูมั่นใจในตัวเอง ตอนนี้เด็กหนุ่มแทบไม่เหลือเค้าความไร้เดียงสาเหมือนครั้งก่อนที่ได้เจอ
โจคยูฮยอนเหลือบตาลงมองหน้าท้องกลมโตของคังอินทั้งที่ ยังกอดอกอยู่ เห็นได้ชัดว่าหลังจากนั้นเด็กในท้องก็ดิ้นเบาๆ คล้ายกับว่าทั้งสองสื่อสารถึงกันได้
“ลูกคงคิดถึงนาย”
กลายเป็นคังอินที่พูดออกมา คยูฮยอนได้ฟังก็เบือนหน้าไปทางอื่น ก่อนจะปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
“เด็กนี่ไม่ใช่ลูกผม...เป็นแค่ความผิดพลาด”
ซีวอนหันขวับ เขานึกโมโหที่คยูฮยอนพูดแบบนี้ต่อหน้าไอ้คังอิน และกำลังคิดจะเข้าไปเถียงแทน แต่จู่ๆ คังอินก็เลื่อนตัวลงจากโซฟา นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น
“คยูฮยอน...พี่ขอโทษ พี่รู้แล้วตัวเองทำผิด พี่มันเลว! นี่เป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตพี่ และมันก็สาสมแล้ว พี่ไม่กลัวที่จะต้องรับผิดชอบ แต่เด็กคนนี้เค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เค้าไม่สมควรจะถูกลงโทษไม่ใช่เหรอ นายอยากให้พี่ตายก็ไม่เป็นไร แต่สัญญากับพี่สิว่าจะพาลูกของเรากลับไปกับนายด้วย”
คยูฮยอนหัวเราะเสียงดังแล้วก้าวมายืนค้ำหัวคังอิน
“ลูกของเรางั้นเหรอ ผมไม่สนใจหรอก เอากลับไปก็เป็นภาระเปล่าๆ แล้วผมก็ไม่อยากนึกถึงเรื่องนี้อีก”
“คยูฮยอน...ขอร้องล่ะ พี่ไม่อยากให้เค้าตาย เค้าเองก็มีหัวใจนะ เค้ารู้ว่าจะอะไรเกิดขึ้นถ้านายทิ้งเค้า เค้าเสียใจมากนะ เค้ารักพี่ แล้วเค้าก็รักนาย...”
หน้าท้องของคังอินสั่นเบาๆ คยูฮยอนเบือนหน้าหนีแทบจะในทันที เขากำมือแน่นจนสั่น แล้วตัดใจโพล่งออกมา
“สมควรแล้ว...สมควรตายๆ ไปซะทั้งคู่เลย”
เด็กหนุ่มวิ่งไปที่ประตู ซีวอนตกใจรีบตะโกนแก้สถานการณ์
“แต่ไอ้คังอินมันรักนายนะ!”
คยูฮยอนหันมามองหน้าเขา จากนั้นก็ค่อยเหลือบไปมองอีกคนด้วยสายตาดูถูก คังอินไม่พูดอะไร เอาแต่ก้มหน้านิ่ง
“นั่นคำพูดของคุณ...ไม่ใช่เค้า” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะหันไปอีกทาง “คำว่ารักและสิ่งที่เรียกว่าความรักมันไม่มีผลอะไรกับผมอีกแล้ว ผมแข็งแกร่งขึ้นและเอาชนะความรู้สึกเจ็บปวดนั่นได้แล้ว ตอนนี้ผมเป็นอิสระ...”
ซีวอนสูดหายใจ เขาปล่อยให้คยูฮยอนออกไปจากห้อง แต่พอประตูปิดสนิทและเขาหันไปมองคังอิน เขาก็รู้สึกว่านี่ไม่ควรจะเป็นจุดจบ
ซีวอนวิ่งออกจากห้อง เขาตามคยูฮยอนได้ทันหน้าบันไดหนีไฟ
“เดี๋ยวก่อน! ฉันรู้นะว่านายยังรักไอ้คังอินอยู่ แล้วนายก็ไม่ได้รังเกียจลูกของนายอย่างที่พูดด้วย นายแค่รู้สึกผิด!”
“ใช่!” คยูฮยอนหันกลับมาตะโกนใส่เขา “ถ้าผมพาเด็กนั่นกลับดาวไปด้วยและต้องเห็นหน้ากันทุกวัน ผมก็คงจะนึกถึงเรื่องนี้อีก ผมจะรู้สึกว่าผมมันโง่ ผมไม่เชื่อที่ใครๆ บนดาวของผมเตือนว่าโลกนี้มันน่ากลัว” จู่ๆ แววตาของเด็กหนุ่มก็หม่นลงอย่างน่าใจหาย พร้อมกับคำพูดประชดประชันตัวเองที่ซีวอนไม่คิดว่าจะได้ยินจากบุคลิกนี้ของอีกฝ่าย “น่าสมเพชจริงๆ โจคยูฮยอนผู้ไร้เดียงสา สุดท้ายก็ถูกมนุษย์โลกหลอกให้ตายใจ คิดว่าความอ่อนโยนและคำพูดหวานๆ นั่นคือความรัก”
ซีวอนรู้สึกแย่ไปด้วยเพราะเขาไม่เคยเห็นคยูฮยอนเป็นแบบนี้ เขาไม่รู้หรอกว่าควรจะพูดอย่างไรให้อีกฝ่ายเข้าใจ จึงพูดไปตามที่คิด
“ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไง แต่อย่างน้อยนายก็เคยได้รู้จักความรักไม่ใช่เหรอ นายรักไอ้คังอินจริงๆ แล้วก็แน่ใจว่าอยากอยู่กับมันตลอดไป แต่ไอ้คังอินสิน่าสงสาร...เพราะชีวิตนี้มันยังไม่เคยได้รู้จักความรักเลย!”
คยูฮยอนหันกลับไปและไม่ยอมพูดตอบ ซีวอนจึงขยับยิ้ม
“แต่นายเก่งมากนะ...นายให้บทเรียนกับมัน และในที่สุดนายก็ทำให้มันรู้จักความรัก ถึงจะไม่ใช่กับนาย แต่ก็กับลูกของนาย”
คยูฮยอนหันมาสบตาเขาอีกครั้ง และหัวเราะอย่างเห็นว่าไร้สาระ “คุณอย่าพยายามเกลี้ยกล่อมผมอีกเลย ผมเกลียดเค้า เกลียดเด็กในท้องเค้า ผมอยากให้ตายไปซะทั้งคู่ คุณเอาเวลานี้ไปดูใจเค้าดีกว่า!”
“คยูฮยอน นายทำแบบนี้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา นายอาจจะฆ่าไอ้คังอินกับลูกโทษฐานที่ทำให้นายเจ็บปวดได้ แต่หลังจากกลับดาวไปแล้วนายแน่ใจเหรอว่าความรู้สึกผิดนี้มันจะไม่ตามนายกลับไปด้วย”
ซีวอนพูดในสิ่งที่เขารู้สึก และคงจะเป็นเช่นนั้นจริง เพราะจู่ๆ โจคยูฮยอนก็เริ่มแสดงท่าทีไม่มั่นใจ
“ทำไมจะต้องรู้สึกผิดด้วย...”
แต่แล้วเด็กหนุ่มก็เชิดหน้าขึ้นเพื่อตัดใจจากสิ่งที่คิด “พี่คังอินสมควรตาย ผมแน่ใจว่าต้องการแบบนี้ แล้วผมก็จะไม่เปลี่ยนใจ!”
ฟึ่บ!
แสงเลเซอร์พุ่งผ่านหน้าซีวอน ปะทะเข้ากับร่างที่ยืนพูดอยู่ ซีวอนตกตะลึงที่เห็นคยูฮยอนโดนยิงที่ไหล่ เขาหันขวับไปมองที่มาของลำแสงนั้น
“คุณแทคยอน!”
แทคยอนถือปืนกระบอกหนึ่งค้างไว้ในท่าเล็งจากเมื่อครู่ เขาก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ สายตาจับจ้องไปที่โจคยูฮยอน เป้าหมายที่เขาต้องกำจัด
“อย่านะครับ”
ซีวอนร้องบอก แต่แทคยอนยังคงมีสมาธิกับสิ่งที่เขากำลังคิด
“คุณซีวอน คุณก็ได้ยินแล้วนี่ครับ โจคยูฮยอนบอกว่าจะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด เพราะฉะนั้นคุณก็น่าจะเลิกพยายามขอร้องเค้าได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคุณเองจะเสียความรู้สึกเปล่าๆ เอเลี่ยนนิสัยร้ายกาจแบบนี้ สมควรตายไม่ใช่เหรอครับ”
คยูฮยอนใช้มือกดทับบาดแผลเพื่อไม่ให้เลือดไหลออกมามากกว่านี้ เขาสบตาแทคยอนด้วยความอาฆาต ขณะพยายามขยับถอยไปเพื่อหาทางเอาตัวรอด
“พอที! ไม่มีใครสมควรตายทั้งนั้น!”
ซีวอนเอาตัวเข้าขวางระหว่างปืนกระบอกนั้นกับโจคยูฮยอน แทคยอนจึงชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิด เขาจัดการคยูฮยอนไม่ได้แน่ถ้า ซีวอนยังขวางอยู่แบบนี้
“หลบไปเถอะครับ ผมต้องทำตามหน้าที่”
“ถึงคยูฮยอนจะปล่อยให้ไอ้คังอินกับลูกต้องตาย แต่ฆ่าเค้าแล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ เค้าไม่ใช่คนเลวนะครับ เค้าเองก็ได้บทเรียนที่สาสมจากโลกนี้แล้ว เค้าคงไม่มีวันกลับมาสร้างปัญหาอีกหรอกครับ”
ซีวอนพูดเพราะแน่ใจ เขาไม่สนว่าคยูฮยอนจะมองเขาอยู่ด้านหลังด้วยสายตาแบบไหน คุณแทคยอนเองก็เช่นกัน สายตาที่ตั้งคำถามอยู่เรื่อยๆ ของฝ่ายนั้นไม่ได้ทำให้เขาหมดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจที่คุณพูด ผมออกจะทึ่งด้วยซ้ำที่คุณเห็นอกเห็นใจพวกเอเลี่ยนขนาดนี้ แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ตอนคยูฮยอนทำผิด เค้าก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องถูกลงโทษยังไง” แทคยอนมองไปที่คยูฮยอนราวกับจะบีบให้ตอบคำถามนั้นในใจ เด็กหนุ่มเหลือบตามอง หวังจะหาทางอ่านใจแทคยอนเพื่อหาทางหนี แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะร่างสูงถูกฝึกมาให้คิดแค่สิ่งที่ทำอยู่
เมื่อรู้ตัวว่าต้องถูกฆ่าแน่ๆ โจคยูฮยอนก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ความคิดของแทคยอนมุ่งมาที่เขา และพร้อมจะปลิดชีวิตเขาโดยไม่ลังเล
“คยูฮยอนทำผิดก็เพราะรักไอ้คังอินนะครับ”
คนถูกเอ่ยชื่อเปลี่ยนมามองแผ่นหลังของซีวอน ซึ่งยืนขวางหน้าเขาเอาไว้ และไม่ยอมให้แทคยอนทำร้ายเขา
“แต่คุณยองอุนก็ไม่ได้รักคยูฮยอนไม่ใช่เหรอครับ แล้วการตั้งท้องครั้งนี้คุณยองอุนก็ไม่ได้เต็มใจเลยแม้แต่นิดเดียว” แทคยอนให้เหตุผลที่หนักแน่นเสียจนซีวอนเริ่มจะเถียงไม่ออก เขาใจเต้นแรงเมื่อฝ่ายนั้นก้าวเข้ามาใกล้ “หลบออกมาอยู่ข้างๆ ผมเถอะครับคุณซีวอน จากนั้นคุณก็แค่หลับตาไว้ซะ...หรือจะอุดหูด้วยก็ได้”
“ผม...” ซีวอนขยับตัว แต่กลับทำตรงข้ามกับที่แทคยอนบอกเขาเหลือบมองและถอยไปใกล้คยูฮยอนมากกว่าเดิมเพื่อให้แน่ใจว่าบังได้มิด และเด็กหนุ่มจะปลอดภัย
“คุณซีวอน! ถ้าคุณยังทำแบบนี้เราอาจไปช่วยคุณยองอุนได้ไม่ทันการณ์นะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ แต่คุณจะยอมให้เพื่อนคุณตาย เพื่อจะช่วยชีวิตคนที่ทำร้ายเพื่อนคุณงั้นเหรอ” แทคยอนพูดเพื่อเตือนสติคนตรงหน้า
พอได้ยินว่าอาจไปช่วยไอ้คังอินไม่ทัน ซีวอนก็เริ่มหวั่นใจ ช่วยเพื่อนอาจสำคัญก็จริง แต่เขาก็ไม่อยากให้โจคยูฮยอนต้องถูกฆ่าเช่นกัน เขาไม่ใช่วีรบุรุษ และไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องปกป้องทุกคน เขาก็แค่ไม่อยากให้มีใครต้องตาย
“งั้นคุณแทคยอนก็ปล่อยคยูฮยอนไปสิครับ เราจะได้ไปช่วยไอ้คังอินกัน” ซีวอนรู้ว่าโง่มากที่พูดไปแบบนั้น แทคยอนส่ายหน้าอย่างผิดหวังในตัวเขา จากนั้นก็ขยับเข้ามาใกล้อีก
ซีวอนหันไปมองคยูฮยอนที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านหลัง เลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลไม่หยุด แต่เด็กหนุ่มฝืนความเจ็บปวดกดแผลเอาไว้แน่น คยูฮยอนผิดสังเกตที่เห็นซีวอนจ้องเขา และลอบพยักหน้าให้เบาๆ คยูฮยอนพอจะรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร เขาจึงมองเข้าไปในดวงตาของซีวอน ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง และซีวอนก็หันกลับไป
ขณะแทคยอนมุ่งความสนใจไปที่ซีวอน คยูฮยอนก็หลบตาลง เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบมีดพับออกมาซ่อนไว้ด้านหลังและคลี่ใบมีด เขาลอบมองสถานการณ์เบื้องหน้าจนแน่ใจ และรอจังหวะ
จากนั้นก็ตวัดใบมีดจ่อไว้ที่ลำคอของชเวซีวอน
แทคยอนตกใจจึงก้าวถอย ซีวอนเองก็แทบหยุดหายใจเพราะมองเห็นใบมีดคมวับที่พร้อมจะเชือดคอเขา แค่เพียงคยูฮยอนลงน้ำหนัก
“คุณนั่นแหละถอยออกไป คุณเจ้าหน้าที่”
แทคยอนปะทะสายตากับคยูฮยอน จากนั้นเขาก็ลดปืนลงและยอมถอยออกไปตามคำสั่ง คยูฮยอนบังคับให้ซีวอนเดินกลับไปที่ประตูห้อง จากนั้นก็เปิดเข้าไป ทั้งสองผลุบหายเข้าไปในห้องและคยูฮยอนก็กระแทกประตูปิด
แทคยอนที่ยืนมองอยู่ค่อยๆ ลดปืนลง เขาเริ่มหัวเราะเยาะตัวเอง และหัวเราะเยาะการกระทำของซีวอนด้วย เขาไม่นึกเลยว่าจะเจอใครที่กล้าบ้าบิ่นขนาดยอมให้เอเลี่ยนจับเป็นตัวประกันแบบนี้
“คุณกับคยูฮยอนกลายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่นะ”
แทคยอนพึมพำ
เมื่อกลับเข้ามาในห้องแล้วคยูฮยอนก็ปล่อยตัวซีวอน เขาเก็บมีดพกใส่กระเป๋าตามเดิมขณะลอบมองซีวอนที่กำลังรีบใส่กลอนประตู
“ผมไม่คิดว่านี่เป็นบุญคุณหรืออะไรหรอกนะ”
คยูฮยอนพูดอย่างเย็นชา แต่ซีวอนก็ไม่ได้สนใจ เขารีบมองหาไอ้คังอิน และเห็นว่ารายนั้นนอนอยู่บนพื้น เขาจึงรีบวิ่งไปดูอาการด้วยความตกใจ
“ไอ้คังอิน! ลืมตาสิวะ มึงไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” ซีวอนคุกเข่าลงและเขย่าตัวเพื่อนเบาๆ เขาค่อยโล่งใจที่คังอินยังมีสติปรือตาขึ้นมองเขา แม้อาการจะดูแย่มากแล้วก็ตาม
“กูกำลังจะคลอด...”
ซีวอนเบิกตากว้างและลนลานจนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เขามองคยูฮยอนอย่างขอความเห็นใจ แต่รายนั้นก็แค่สบตาด้วยแวบหนึ่ง แล้วรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง
“ต้องกลับแล้ว”
เด็กหนุ่มชะโงกดูเหตุการณ์นอกหน้าต่าง และหันกลับมา ซีวอนอยากจะลองพูดเกลี้ยกล่อมคยูฮยอนดูอีกสักครั้ง แต่เขาก็พูดมันออกไปแล้วทางสายตา คยูฮยอนรับรู้ ทว่าก็ยังเฉย
“จะไปก็รีบไปสิ ระวังตัวด้วยล่ะ พวกที่องค์กรอาจจะดักรออยู่ข้างล่าง” ซีวอนตัดใจบอก เพราะอย่างน้อยเขาก็อยากให้คยูฮยอนได้กลับดาวไปอย่างปลอดภัย ทว่าคยูฮยอนกลับมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ
“ทำไม....” เด็กหนุ่มพึมพำถาม
ซีวอนสบตาคยูฮยอนเพื่อตอบคำถามนั้น เขาไม่ได้คาดหวังให้ คยูฮยอนใจอ่อนและเข้าใจความรู้สึกของเขา เขาแค่อยากจริงใจกับสิ่งที่ตัวเองรู้สึกในเวลานี้
“อีกไม่นานคุณก็จะเป็นอิสระ....”
คยูฮยอนพูดตอบเขาด้วยแววตาเรียบเฉย แล้วครู่หนึ่งรายนั้นก็เบือนหน้ากลับไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะกระโดดออกไป
เสียงร้องโอดโอยของเพื่อนสนิทดังขึ้นเพราะเด็กในท้องดิ้นแรงมากจนน่ากลัว ซีวอนยกมือปิดปากตัวเองไม่ให้เผลอร้องออกมาอีกคน เขามองดูเหตุการณ์และคิดว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์
เขาลองแตะหน้าท้องของไอ้คังอินและปลอบลูกของมันเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางทีเด็กอาจกำลังจะคลอดแล้วจริงๆ และถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปเรียกคุณแทคยอนมาช่วย
“อย่าไป...” ไอ้คังอินคว้าแขนเขาไว้ก่อนจะทันได้ลุกขึ้น ซีวอนมองหน้าเพื่อน จากนั้นก็นั่งคุกเข่าตามเดิม พยายามเงี่ยหูฟังประโยคตะกุกตะกัก “กู...กำลังจะตาย กูอยากให้มึง...อยู่ตรงนี้ด้วย”
ซีวอนกลอกตาแล้วพูดประชดอย่างร้อนใจ
“จะให้กูอยู่ดูมึงตายเนี่ยนะ! คือกูไม่ได้จะทิ้งมึงนะเว้ย กูจะไปตามคนมาช่วย เดี๋ยวกูรีบกลับมา”
“ใคร...คุณแทคยอนของมึงน่ะเหรอ ไม่เอา...กูไม่ยอมให้มันฆ่าลูกกูหรอก มึงห้ามไปเรียกมันมา มึงไม่ต้องไปเรียกใครทั้งนั้น มึงแค่อยู่ข้างๆ กู ตอนกูกำลังจะตายก็พอ” คังอินพูดไปก็ร้องโอดโอยเพราะเจ็บท้อง ซีวอนยิ่งร้อนรน เขาแทบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะสงสารเพื่อน และเขาก็สงสารตัวเองที่ทำอะไรก็ไม่ได้เสียด้วย
“ไอ้คังอิน มึงพูดเหมือนมึงไม่กลัวตาย”
“โคตรกลัวเลย มึงห้ามไปไหน กูกลัวต้องตายอยู่ตรงนี้คนเดียว มึงว่ากูจะได้ทันเห็นหน้าลูกรึเปล่าวะ หรือว่ากูจะขาดใจตายไปซะก่อน”
“กูก็กลัวว่ะ คือถ้าเค้าแหวกท้องมึงออกมาได้จริง หน้าตาเค้าอาจจะไม่ได้น่ารักเหมือนตอนอัลตราซาวน์นะเว้ย”
ซีวอนพูดไปก็น้ำตาคลอ ความคิดวิ่งวุ่นในหัวเต็มไปหมด แค่คิดว่าจะต้องเห็นเอเลี่ยนแหวกท้องไอ้คังอินออกมา แค่คิดว่าจะต้องเห็นไอ้คังอินตาย แค่คิดว่าหลังจากนี้เขาจะรับมือกับลูกไอ้คังอินอย่างไร แค่นี้เขาก็แทบจะอยากตายก่อนมันให้รู้แล้วรู้รอด
“กูขอโทษนะเว้ยที่ลากมึงมาเกี่ยว ขอโทษที่สร้างปัญหาให้มึงตลอด แต่มึงก็ไม่เคยทิ้งกู กูขอบใจมาก” คังอินหายใจหอบเพราะเด็กในท้องดิ้นแรงเสียจนเขาเหนื่อย ซีวอนคว้ามือคังอิน บีบเอาไว้แน่น
“มึงจะพูดเรื่องนี้อีกทำไมวะ มึงไม่ต้องขอโทษหรอก กูผิดเอง กูรู้ว่ามึงสร้างปัญหาแต่กูก็ไม่ห้าม กูให้ท้ายมึงตลอดเพราะกลัวว่ามึงจะโกรธที่กูขัดใจ...กูก็แค่กลัวว่า จะไม่ได้อยู่ใกล้มึงอีก”
แล้วเขาก็ดันบ้าจี้ดราม่าตอบ หลังจากพูดจบก็เพิ่งรู้ตัวว่าพูดไปร้องไห้ไป ตอนนี้ท้องของไอ้คังอินบวมขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังจะแตก และนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้สารภาพผิด
คังอินส่ายหน้า แล้วบอกเขา “ไม่ใช่ความผิดมึงหรอก กูมันเลว กูทำร้ายจิตใจคนอื่นไว้มาก ก็สมควรแล้วล่ะ”
ซีวอนเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาแทบทนมองหน้าไอ้คังอินไม่ได้ เพราะเจ็บปวดที่เห็นฝ่ายนั้นทรมาน
“ไอ้คังอิน...กูยอมแล้ว กูจะพูดทุกอย่าง! กูมีเรื่องจะบอกมึงว่ะ ไม่ว่ามึงจะคิดยังไงกูก็อยากบอก ที่ผ่านมากูหลอกมึงว่ากูนอนกับนางแบบสาว แต่จริงๆ แล้วกูไม่เคย กูรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบผู้หญิง....ตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบมึง”
คังอินนิ่ง และจ้องมองเพื่อนที่ร้องไห้หนักเหมือนจะตายเสียเอง เขาหลุดขำออกมาเพราะประโยคที่ซีวอนพูดเมื่อครู่
“เพิ่งมาบอกเอาตอนนี้เนี่ยนะ”
“ก็กูไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่หว่า มึงกำลังจะตาย กูคงไม่ได้มีโอกาสได้บอกมึงอีกแล้วถ้าไม่บอกตอนนี้ กูรู้ว่ามึงไม่คบเพื่อนที่เป็นเกย์ มึงคบกับกูมาได้ตั้งนานเพราะกูโกหกมึงว่ากูไม่ใช่ แต่กูก็ชอบมึงไปแล้ว มึงอย่าโกรธกูเลยนะ ยกโทษให้กูเถอะ” ซีวอนพูดไม่หยุดขณะยกมือข้างหนึ่งป้ายน้ำตา อีกข้างก็ยังคงจับมือคังอินไว้
“กูไม่ได้โกรธมึงเลย จริงๆ แล้วกู....กูก็...”
“...”
“...ก็ชอบมึงเหมือนกัน”
ซีวอนสูดน้ำมูกแล้วจ้องหน้าคังอินนิ่งๆ เขาเริ่มขมวดคิ้วและถามอย่างไม่แน่ใจนัก “มึงจะหลอกให้กูเสียดายใช่มั้ยเนี่ย”
“เปล่า กูก็แค่อยากพูดความจริงก่อนตายบ้าง หลังจากนี้มึงจะลงเอยกับไอ้แทคยอนนั่นรึเปล่ากูก็ไม่รู้ แต่ที่ผ่านมากูหึงมากเลยนะเว้ย กูไม่อยากให้มึงคบกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น ผู้ชายที่จะใกล้ชิดมึงได้ต้องเป็นกูคนเดียว มึงไม่เคยรู้เลยรึไงวะว่ากูหวงมึงแค่ไหน เพราะมึงเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างกู...” คังอินกลั้นใจพูดจนจบและในที่สุดเขาก็ร้องไห้ เพราะยิ่งพูดก็ทำให้ได้รู้ว่าที่ผ่านมาเขาเห็นแก่ตัวแค่ไหน “ที่กูไม่อยากให้มึงชอบผู้ชาย เพราะกลัวว่าตัวเองจะชอบมึง”
“กูเข้าใจ...”
ซีวอนพยักหน้ารับรู้ แต่การยอมรับความจริงก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บ เขาเกลียดเวลาแบบนี้...เวลาที่ทุกอย่างมักจะสายเกินไปเสมอ เขาไม่โทษไอ้คังอินเลยที่มันเองก็เพิ่งมาสารภาพกับเขาในวินาทีสุดท้าย เมื่อเห็นท่าทางทรมานหนักของรายนั้น เขาก็รู้สึกกลัวที่จะต้องทนเห็นคนที่ตัวเองรักตายไปต่อหน้าต่อตา
คังอินมองหน้าเขา จากนั้นก็ฝืนพูดทั้งที่ไม่มีแรง “เพราะมึงไม่ใช่สเปคกู กูเลยพยายามจะไม่คิดอะไร แต่ที่ผ่านมามึงดีกับกูมาก...”
“กูดีใจนะ แต่ตอนนี้มึงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว มึงจะแย่อยู่แล้วนะ”
คังอินเงียบไป แต่ซีวอนอดไม่ได้ที่จะถาม
“เมื่อคืนที่มึงบอกว่าอยากได้อะไรจากกู มึงอยากได้อะไรวะ”
“อ้อ...คือกู...อยากรู้ใจตัวเอง...”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าสงสัย คังอินก็กลั้นใจพูด
“...ขอจูบได้มั้ย”
ซีวอนนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนจะแปลกใจกับคำขอ เขายกมือเช็ดน้ำตาที่เปรอะแก้ม จากนั้นก็หลุดขำออกมาพลางพยักหน้า เขาก้มตัวลงและกดริมฝีปากลงที่ริมฝีปากอีกคู่ นิ่งอยู่ไม่นานนักก็ผละออก
“ขอบใจ...อย่างน้อยนี่ก็เป็นจุดจบแบบที่กูฝันไว้”
คังอินพึมพำบอก จากนั้นก็ผวาเฮือกเพราะบางอย่างในท้องกำลังดันตัวเพื่อจะหลุดออกมา ซีวอนเบิกตากว้าง เขาตกใจเมื่อเห็นส่วนที่ดันขึ้นจากหน้าท้องของไอ้คังอินมีลักษณะคล้ายศีรษะทารก
คังอินร้องลั่น ส่วนซีวอนก็ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ตอนที่รู้ตัวว่าจะเสียคนที่ตัวเองรักไป...เขาก็รู้สึกเหมือนกำลังจะตายเสียเอง
พลันนั้นแสงสว่างก็สาดวาบเข้ามาทางหน้าต่าง
เมื่อซีวอนหันไปมอง เขาก็เห็นโจคยูฮยอนยืนอยู่ในห้องแล้ว รายนั้นกลับเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ ทว่ากำลังจ้องมองมาที่เขากับไอ้คังอินด้วยดวงตาที่ไร้แวว พลันนั้นซีวอนก็แทบหยุดหายใจเมื่อเห็นวัตถุขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกับยูเอฟโอลอยขึ้นปรากฏอยู่นอกหน้าต่าง
โจคยูฮยอนเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พร้อมแสงจากยูเอฟโอที่ดูเหมือนจะสาดสว่างขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งดวงตาของซีวอนมองไม่เห็นอะไรอีกนอกจากสีขาวสว่างจ้า
เขาได้ยินเสียงเด็กร้อง
นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่รับรู้ก่อนจะหมดสติไป
ความคิดเห็น