ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] As You Wish on Christmas

    ลำดับตอนที่ #5 : 4 Days Before Christmas [2]

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 55


     
    4 Days Before Christmas



    คยูฮยอนขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ เขากำโทรศัพท์มือถือเอาไว้ หลังจากที่กดโทรออกหาลีฮยอกแจไปหลายรอบ แต่กดทิ้งก่อนจะโทรติด ไม่ได้...เขาจะเล่าเรื่องน่าอายนี้ให้ใครฟังไม่ได้เด็ดขาด นี่เป็นจูบแรกของเขา จูบแบบกะทันหันใต้หลอดนีออน แถมยังเป็นตอนกลางวันแสกๆ ในห้องสี่เหลี่ยมคับแคบ เชื่อแล้วว่าชีวิตจริงมันโหดร้ายกว่าที่จินตนาการไว้ เขาอยากจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ออกเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงโดนจูบ

    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ และเขาก็เพิ่งได้ลองทบทวนความรู้สึกตอนนั้น ใบหน้าของเขาไม่หายร้อนเสียที ริมฝีปากของเขาก็ด้วย คิดแล้วก็ใช้หน้าจอมือถือสีดำๆ นั้นแทนกระจก บางทีริมฝีปากอาจจะบวมช้ำไปแล้วก็ได้

    แต่เมื่อเห็นทุกอย่างปกติดี คยูฮยอนจึงค่อยโล่งอก อาถรรพ์ช่อมิสเซิ่ลโทมันช่างน่ากลัวจริงๆ ที่ทำให้หัวหน้าคิมเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ขนาดนั้น เขาไม่เคยเห็นแววตาอ่อนโยนของหัวหน้าเลยจนกระทั่งวินาทีนั้น อาจเพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้สบตากันใกล้ๆ และเขาก็คิดว่ารายนั้นคงมีสายตาแบบเดียว

    แบบที่โหดเหี้ยมและเย็นชาเวลาสั่งให้ทำงาน

    ใช่...เขาแน่ใจว่าหัวหน้าคิมทำไปโดยไม่รู้ตัว ก็แล้วจะโทษใครได้ เขาไม่นึกโกรธหรอก เพียงแต่มันน่าอายมากจนคิดว่าจะมองหน้ากันไม่ติดอีกก็เท่านั้น     

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกจนทำมันตก ดีที่เครื่องแข็งแรงทนทาน จึงไม่เป็นอะไร เขาหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่น และกดรับสายเพื่อนสนิทชื่อลีฮยอกแจ

    โจคยูฮยอน ฉันจะบอกแกว่าเลิกงานแล้วรีบลงไปที่ล็อบบี้เลยนะ แฟนแกรออยู่

    หา!” คยูฮยอนตกใจที่จู่ๆ ก็มีแฟน อะไรนะ...ใครวะ แกหาแฟนให้ฉันแล้วเหรอ จะ...จะดีเหรอวะ

    เฮ่ย ก็ซีวอนไง วันนี้ฉันให้แกยืมควงแบบหลอกๆ ไว้นัดแนะแผนกันเองแล้วกัน ส่วนหัวหน้าคิมจะเชื่อแกรึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับแกแล้วล่ะ ฉันช่วยได้แค่นี้แหละ ฮยอกแจหัวเราะเมื่ออีกฝ่ายรับมุกเขาไม่ทัน

    เด็กหนุ่มไม่ดีใจเท่าที่ควรเพราะสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ บางทีเขาควรจะเล่าให้ฮยอกแจฟัง

    ขอบใจนะ แต่ฉัน...ฉันไม่สบายใจเลย

    อะไรวะ เรื่องงานอีกล่ะสิ แกนี่ดีจริงๆ ที่ยอมเป็นทาสรับใช้หัวหน้าคิมจอมโหดอยู่แบบนี้ เขาข่มแกได้เพราะแกยังเด็ก แถมยังไม่มีแฟนซะด้วย เขารู้ว่าแกไม่ต้องมีพันธะ ไม่ต้องไปเที่ยวกับใคร ไม่ต้องโทรหาใคร เลยใช้งานแกได้สบายไง คยูฮยอนเห็นด้วยกับเพื่อน จริงที่ว่าหัวหน้าคิมไม่ฟังเหตุผลในการลางานของเขาหรอก เพราะรายนั้นเชื่อว่าเขาคงไม่มีธุระอะไรที่สำคัญอีกแล้วในชีวิต นอกจากพี่สาว...ที่ตอนนี้ก็มีแฟนไปแล้ว เขาเองยังโสด และหัวหน้าคิมก็เชื่อว่าเขาจะว่างเสมอสำหรับการทำงาน มันไม่ยุติธรรมแกต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กว่านี้ เพราะฉะนั้นแกต้องควงใครซักคนให้เค้ารู้ไว้ว่าแกเองก็มีสาระอย่างอื่นในชีวิตนอกจากงาน

    ใช่! ฉันต้องมีแฟน และก่อนอื่นก็ต้องลางานวันคริสต์มาสอีฟนี้ให้ได้ก่อน ขอบใจนะเว้ยเพื่อน

    คยูฮยอนมีแรงฮึด เขาวางสายจากฮยอกแจ และรีบประตูเดินออกจากห้องน้ำ เขาไม่เข้าใจหัวหน้าคิม ไม่เข้าใจการกระทำแปลกๆ ของรายนั้น รวมถึงเรื่องที่จูบเขาเมื่อครู่นี้ เขาสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่ารายนั้นคงแค่อยากแก้แค้นที่เขาโกหกว่ามีแฟน หรือไม่ก็แค่อยากปั่นหัวเขาก็เท่านั้น

    ไม่กล้าสู้หน้าแต่ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ทุกอย่างบรรลุตามแผน คยูฮยอนชั่งใจอยู่หน้าห้องหัวหน้าคิมนานมากกว่าที่เขาจะกล้าเคาะและเปิดเข้าไป รายนั้นนั่งทำงานอยู่ ไม่มีช่อมิสเซิ่ลโทอยู่บนเพดานแล้ว แต่มันไปอยู่ในถังขยะแทน หัวหน้าคิมเงยหน้าขึ้น และดูจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาเข้ามากะทันหัน

    ขอโทษนะครับ คือว่า...วันนี้หัวหน้าจะกลับกี่โมง

    รายนั้นมีสีหน้าแปลกใจ และถามกลับ ทำไมเหรอ

    ผม... เด็กหนุ่มอึกอักเพราะไม่รู้จะโกหกอย่างไรให้แนบเนียน สุดท้ายก็เลยลองพูดไปตามตรง

    คือเย็นนี้ถ้าหัวหน้าว่าง...ผมจะชวนไปทานข้าว...

    หัวหน้าคิมมองเขาและครู่หนึ่งก็หลบสายตาไป แกล้งทำเป็นเปิดแฟ้มแล้วง่วนอยู่กับงาน

    อืม คิดว่าว่างนะ เลิกงานแล้วจะออกไปเลยรึเปล่าล่ะ

    ครับ

    ได้...งั้นเดี๋ยวออกไปด้วยกัน คังอินยิ้มให้ และคยูฮยอนก็สะอึกจนพูดต่อไม่ออก เราจะไปร้านไหนกันดี คิดไว้รึยัง

    เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ และพยายามเค้นคำพูดออกมาให้ได้ก่อนที่รายนั้นจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ คือว่าพอเลิกงานแล้วผมจะลงไปรอที่ล็อบบี้นะครับ ส่วนเรื่องร้านที่เราจะไปกัน...ผมจะถามแฟนอีกที

    คังอินชะงัก เขาพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ สุดท้ายก็แค่นหัวเราะออกมา แฟนนายกลับมาจากอเมริกาแล้วเหรอ

    ใช่ครับ!” คยูฮยอนรีบปั้นหน้าสดใส ตอนนี้เค้ารออยู่ที่ล็อบบี้ เค้าชวนผมไปทานข้าว ผมเลยบอกเค้าว่าต้องถามหัวหน้าก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าเย็นนี้ต้องทำงานอะไรต่ออีกรึเปล่า เค้าเลยให้ผมชวนหัวหน้าไปทานข้าวด้วยกันน่ะครับ

    “เดี๋ยวนะ...ที่นายบอกว่ามีแฟนแล้วนี่เรื่องจริงเหรอ ทำไมก่อนหน้านี้นายไม่เคยพูดถึงแฟนนายเลย”

    คังอินขมวดคิ้วและมองคยูฮยอนอย่างจับผิด เด็กหนุ่มใจเต้นเพราะมันไม่จริง แต่ก็ต้องปั้นหน้าโกหกเพื่อความสำเร็จ

    “จริงสิครับ ก็เมื่อก่อนหัวหน้าทึกทักเอาเองว่าผมคงยังไม่มีแฟน แล้วผมก็ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกหัวหน้าเลยนี่ครับ หัวหน้าไม่เคยถามผมเลยว่าผมมีแฟนรึเปล่า หัวหน้าคิดไปเองทั้งนั้นเลย”

    พอประชดไปแบบนั้นก็ได้เห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มอารมณ์บูด เด็กหนุ่มเผลอยิ้ม ดีใจที่ทำให้หัวหน้าคิมเสียความมั่นใจได้บ้าง

    ช่างเถอะ บอกเค้าว่าขอบใจมากที่ชวนไปกินข้าว แต่พอดีฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ คงไปด้วยไม่ได้หรอก

    อ้าว! ไหนเมื่อกี๊หัวหน้าบอกว่า...

    ต้องไปธุระที่ธนาคาร คังอินบอกปัดและก้มหน้าทำงานของเขาต่อ เด็กหนุ่มจึงค่อยโล่งอก อย่างน้อยเลิกงานแล้วหัวหน้าคิมก็คงจะออกไปจากบริษัททันที แผนจะให้ลงไปเจอกับแฟนหนุ่มจอมปลอมของเขาก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่

    งั้น...หัวหน้าจะลงไปที่ล็อบบี้กี่โมงครับ แฟนผมอยากเจอหัวหน้ามากๆ เด็กหนุ่มพยายามตะล่อมอีกฝ่ายตามแผน

    คังอินเงยหน้าขึ้น และมองคยูฮยอนอย่างนึกสงสัย เค้าจะอยากเจอฉันทำไม...นายเล่าเรื่องฉันให้เค้าฟังรึไง

    อ๋อ ครับ ผมบอกเค้าว่าหัวหน้าใจดีมากๆ ทำงานเก่ง แล้วก็เป็นคนที่น่านับถือ

    โกหก...

    ผมพูดจริงนะ! อีกอย่าง...แฟนผมทำธุรกิจอยู่ เค้าเคยเปรยๆ ว่าอยากได้เซรามิคสวยๆ เป็นสินค้านำเข้า คยูฮยอนแกล้งโม้ไปเรื่อย อย่างไรเสียเขาก็ต้องให้หัวหน้าคิมเจอซีวอนให้ได้ หวังว่าถ้าเป็นเรื่องงาน อีกฝ่ายจะยอมไปเจอ  

    ฉันจะออกไปธนาคารทันทีที่เลิกงาน

    ได้ครับ งั้นเจอกันข้างล่าง

    คังอินรีบชิงถาม แล้วตกลงว่าแฟนนายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

    คยูฮยอนมีท่าทางมั่นใจขึ้นมากกว่าทีแรก คงเพราะคำพูดของฮยอกแจ ใช่แล้ว...เขาควรจะยอมรับตัวเอง เขาไม่สนหรอกว่าหัวหน้าคิมจะมองเขายังไง

    เขาอมยิ้มและทิ้งปริศนาเอาไว้ในอีกฝ่ายสงสัยเล่นๆ

    หัวหน้าคิดว่ายังไงล่ะครับ แต่ถ้าไม่อยากเดา ไว้เจอกันตอนเลิกงาน...เดี๋ยวก็รู้ หัวหน้าคิมพูดไม่ออก เด็กหนุ่มจึงค่อนข้างดีใจที่แผนนี้สำเร็จไปหนึ่งขั้น เขารีบออกไปจากห้อง และรีบกดโทรศัพท์ไปหาชเวซีวอนทันที เอาล่ะ...ต่อจากนี้เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น เขาจึงต้องนัดแนะแผนกันเสียหน่อย

     

    สวัสดี คยูฮยอน หนุ่มหล่อตัวสูงที่นั่งรออยู่รีบลุกขึ้น และเข้ามากอดเขาตามประสาเพื่อน

    ไง! ไม่ได้เจอกันนานนะ เห็นว่านายไปต่างประเทศบ่อย

    คยูฮยอนทักเพื่อนเก่า ถึงจะเรียนมหาลัยเดียวกัน ได้รู้จักกันเพราะฮยอกแจ แต่เขากับซีวอนก็ไม่ได้สนิทกันเท่าที่ควร

    อืม ช่วงนี้งานยุ่งมากๆ แต่ดีใจที่ได้เจอนาย

    ขอบใจที่มาช่วยนะ คยูฮยอนบอกอีกฝ่าย และนั่งลงที่โซฟา เขาผายมือให้ซีวอนนั่งด้วย

    ไม่ต้องขอบใจหรอกน่า ไม่ได้รบกวนอะไรเลย เรื่องง่ายๆ แค่แกล้งเป็นแฟนกันใช่มั้ยล่ะ

    “ใช่แล้ว!” จากนั้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อซีวอนเอื้อมมือมาโอบไหล่ คยูฮยอนหันขวับไปมองมือที่ลูบต้นแขนเขาอยู่ จากนั้นก็หัวเราะแหะๆ

    แต่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้

     

    ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน พนักงานหลายคนก็เริ่มทยอยลงมาจากออฟฟิศชั้นบน คยูฮยอนรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของผู้คนที่มองมา อาจเพราะซีวอนดูดีมากจนคนอื่นอิจฉา หรือเพราะว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาๆ ที่ดูไม่เหมาะสมกับรายนั้นเลย

    ลิฟต์ตัวหนึ่งเปิดออกและหัวหน้าคิมก็กำลังเดินมา คยูฮยอนรีบขยับเข้าไปซบซีวอนตามสัญชาตญาณ เล่นละครทั้งทีก็ต้องให้เหมือนจริง ไม่อย่างนั้นแผนล่มอีกแน่

    หัวหน้าคิมมองมาทางเขาแล้ว เด็กหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่เห็นในทีแรก เขาสบตาซีวอนและยิ้มหวาน แต่ครู่หนึ่งเมื่อฝ่ายนั้นเดินเข้ามาใกล้ คยูฮยอนก็เริ่มทำตามแผน

    อ้าว หัวหน้า เด็กหนุ่มลุกขึ้นและดึงซีวอนให้ลุกตาม ก่อนจะรีบควงแขนโชว์นี่...พี่ซีวอน แฟนผมครับ

    ซีวอนออกอาการงงเมื่อคยูฮยอนไม่ได้นัดแนะว่าเขาแก่กว่า แต่ก็รีบพยักหน้าเออออไปด้วยอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มเริ่มหวั่นเมื่อหัวหน้าคิมไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา เขากลัวว่ารายนั้นคงจะไม่เชื่อ

    พี่ซีวอนเพิ่งกลับมาจากอเมริกา จะอยู่ที่นี่แค่ไม่กี่วันเอง เค้าเลยอยากจะใช้เวลาอยู่กับผมให้เต็มที่ ใช่มั้ยครับพี่ซีวอน

    อ่อ! เออ...ใช่ครับ คริสต์มาสปีนี้อากาศหนาวกำลังดี เราสองคนกะว่าจะอยู่ด้วยกันทั้งคืนเลย

    คยูฮยอนหันขวับไปมองฝ่ายนั้น และแอบเอาศอกกระทุ้งสีข้าง เมื่อหันมาก็เห็นว่าหัวหน้าคิมมองอยู่ เขาจึงแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน แหม! พี่ซีวอนพูดอะไรก็ไม่รู้ นี่เรื่องส่วนตัวนะครับ...อายเค้า

    ถึงจะอายแต่ก็แถไปได้แบบเนียนๆ พอหัวหน้าคิมกระแอม ออกมาขัดจังหวะถึงได้รู้ว่ามันคงมากไปหน่อย

    พี่ซีวอนมีอะไรจะคุยกับหัวหน้าคิมไม่ใช่เหรอครับ

    ซีวอนมองเขาอย่างงุนงง คยูฮยอนจึงขยิบตาให้ ซีวอนร้องอ๋อ จากนั้นก็ยื่นมือให้ร่างสูงที่ยืนปั้นหน้านิ่งอยู่ตรงข้าม

    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คยูฮยอนคุยเรื่องคุณให้ฟังเยอะเลย ดูท่าทางคุณจะใจดีอย่างที่เค้าบอก เมอรี่คริสต์มาสล่วงหน้านะครับ พอซีวอนพูดจบ คังอินก็เอื้อมมือไปจับมือตอบ

    เช่นกันครับ

    คือ...อย่างที่แฟนผมบอก ช่วงวันหยุดคริสต์มาสปีนี้เราวางแผนจะไปฉลองด้วยกัน ผมจองโรงแรมที่หรูที่สุดในโซลไว้แล้ว ได้กลับมาทั้งทีน่ะครับ...โอกาสที่ผมจะได้อยู่กับคยูฮยอนไม่ได้มีบ่อยๆ เพราะฉะนั้นผมว่าจะขออนุญาตคุณ ให้แฟนผมลางานในช่วงคริสต์มาสที่จะถึงนี้ หวังว่าคุณคงเห็นแก่ความรักของเรานะครับ

    สมแล้วที่เป็นผู้ชายสารพัดประโยชน์ของลีฮยอกแจ แค่มาพูดลางานให้เขายังดูดีประหนึ่งพูดสุนทรพจน์ เวิร์คแค่ไหนก็ลองดูสีหน้าของหัวหน้าคิมในตอนนี้เถอะ...อึ้งกิมกี่ไปเลย!

    คยูฮยอนเม้มริมฝีปากเก็บรอยยิ้มสะใจเอาไว้ เขากระแซะเข้าหาซีวอนอีกครั้ง และส่งสายตาอ้อนวอนหัวหน้าคิม

    นะครับ หัวหน้า

    คังอินยิ่งลำบากใจเมื่อทั้งคู่จ้องเขาราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ และเขาก็นึกโมโหที่ไม่อาจปฏิเสธได้

    ตามสบาย

    คยูฮยอนเกือบจะร้องออกมาด้วยความดีใจ ถ้าไม่ติดว่าน้ำเสียงนั้นช่างฟังดูประชดประชัน แถมตอนนี้หัวหน้าคิมก็รีบจ้ำออกไปจากบริษัทโดยไม่พูดอะไรอีก ทิ้งให้เขากับซีวอนยิ้มเก้อกันอยู่สองคน

    อย่าถือสาเลยนะ หัวหน้าคิมก็แบบนี้แหละ ไม่ค่อยมีมารยาท เด็กหนุ่มหันมาบอกอีกฝ่าย

    ซีวอนยักไหล่ เขามองตามคนที่เดินออกไปด้วยความสงสัย

    ดูเหมือนเค้าจะไม่พอใจเอามากๆ เลยนะ

    แน่ล่ะ สมน้ำหน้า...คงโมโหที่ไม่มีใครช่วยทำงานในวันหยุดน่ะสิ คยูฮยอนหัวเราะร่าออกมา และบอกกับซีวอน ขอบใจมากนะ ทั้งเรื่องนี้แล้วก็เรื่องปาร์ตี้จับคู่ด้วย

    ไม่เป็นไร นายเป็นคนน่ารัก ฉันเชื่อว่านายต้องเจอใครซักคนที่ดีพอสำหรับนายแน่นอน คยูฮยอนยิ้มรับคำอวยพร เขาอยากเลี้ยงมื้อค่ำเป็นการขอบคุณซีวอน แต่พอจะพูดออกไป ฮยอกแจก็โทรเข้ามาหาฝ่ายนั้นเสียก่อน คยูฮยอนยิ้มบางๆ ขณะมองซีวอนคุยโทรศัพท์ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็คงต้องปล่อยให้ซีวอนไปกินมื้อค่ำกับเพื่อนสนิทแทน

     

    น่าโล่งใจที่วันนี้พี่สาวของเขากลับบ้านตามเวลาปกติ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องวุ่นวายโทรตามอีกแน่ วันนี้เขาไปกินข้าวแล้วก็แวะที่เกมเซ็นเตอร์หน้าบริษัทเพื่อฉลองชัยชนะ เลยกลับดึกไปนิด แต่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ทำมากมายอยู่แล้ว ถ้าจะให้กลับมานั่งดูทีวีตั้งแต่หัวค่ำล่ะก็...มันน่าเบื่อจะตายไป คยูฮยอนเหวี่ยงกระเป๋าไว้บนโต๊ะ และรีบเดินไปที่ตู้ปลา สิ่งบันเทิงเริงใจอย่างหนึ่งที่ต้องทำเสมอเมื่อกลับมาถึงก็คือนั่งดูปลาทองแสนน่ารักว่ายไปมาในตู้นี่แหละ

    เอ๊ะ!’

    เด็กหนุ่มชะงักกึกอยู่หน้าตู้กระจกเมื่อเห็นสิ่งแปลกปลอม เขาคงตาฝาดที่เห็นปลาตัวเบ่อเริ่มว่ายนิ่งๆ อยู่กลางตู้ ส่วนปลาทองของเขาหายไป หลังจากตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ปลาหน้าบึ้งตัวนั้นก็หันมาทางเขา

    อ๊ากกกกกกกกกกกก!!! พี่อารา!”

    คนที่อยู่ในครัวรีบวิ่งออกมา และถึงกับงงเมื่อเห็นน้องน้ำตาคลอ อะไร...เป็นอะไรไป ร้องลั่นเชียว

    ไอ้ตัวนั้น...มัน...มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง มันกินเคโรโระ...คุรุรุ...โดโรโระ...

    บ้าเหรอ! กบพวกนั้นยังสบายดีย่ะ คงหลบอยู่หลังก้อนหินล่ะมั้ง ไหนดูซิ อาราเดินเข้าไปที่ตู้และเอานิ้วเคาะกระจกแรงๆ ปลาทองขี้กลัวจึงค่อยๆ โผล่ออกมาทีละตัวสองตัว คยูฮยอนค่อยใจชื้นขึ้น อย่างน้อยปลาทองของเขาก็ปลอดภัย แต่ปัญหาคือไอ้ปลาตัวบิ๊กบึ้มนี่สิ...มันมาจากไหน!

    อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! ปลาตัวนี้มันมาได้ยังไงกัน เด็กหนุ่มยืนกอดอก คาดคั้นจากพี่สาว

    ว่ายมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก

    พี่อารา! ไม่ตลกนะ

    โอเค...คือเจ้าตัวนี้มันน่าสงสารมาก มันเป็นปลาที่แฟนพี่เลี้ยงไว้ แต่พอดีเค้าได้ปลาตัวเล็กๆ มาชุดนึง ขืนเลี้ยงไว้ด้วยกันก็กลัวว่าเจ้านี่จะกินหมด แฟนพี่ว่าจะแยกไปตู้ใหม่แต่ยังไม่มีเวลา พี่ก็เลยเสนอว่าให้เอามาฝากเลี้ยงในตู้นายก่อน อาราอธิบายพลางยิ้มสดใส แต่คยูฮยอนเริ่มหน้าบูด

    อ๋อ...เอาใจแฟน กลัวว่ามันจะกินปลาตัวอื่นของแฟน ก็เลยให้มันมากินปลาทองของน้องแทนเนี่ยนะ!”

    โจอาราแค่นหัวเราะอย่างหน่ายๆ มันไม่กินหรอกน่า!”

    รู้ได้ยังไง!”

    ปลาทองนายอ้วนเป็นหมูขนาดนั้น เจ้านี่จะงับเข้าไปได้ยังไง

    ก็จริงอย่างที่พี่สาวบอก ถึงเจ้ายักษ์นี่จะตัวใหญ่แค่ไหนแต่ปากมันก็ไม่ได้กว้างมาก ปลาทองเขาก็ตัวใหญ่ใช่เล่น คงกินยากหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็วางใจไม่ได้ เจ้าปลาตัวนี้ท่าทางไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย   

    ถ้ามันไม่กิน มันก็อาจจะรังแกปลาทองของผมก็ได้นี่ มันมีฟันด้วย น่ากลัวชะมัด

    มันไม่ทำหรอกน่า มันเป็นปลารักสงบ ดูสิ...นิ่งเชียว คงยังปรับตัวกับบ้านใหม่ไม่ได้ น่าสงสารออก

    ทีแรกคยูฮยอนมองปลาตัวนั้นอย่างอคติ แต่มองอีกทีมันก็ดูน่าสงสารจริงด้วยแฮะ พวกเคโรโระก็ว่ายหนีไปซ่อนกันหมด ไม่มีตัวไหนยอมคบด้วย อีกอย่างมันก็ตัวโตเกินไปสำหรับตู้ปลาขนาดกลางของเขา

    ดูแล้วเหมือนปลาที่อยู่ในกล่องแพ็คขายตามซูเปอร์มาร์เกตแต่ใครล่ะจะกินเจ้านี่

    มันมีลายสีดำพาดตรงตาด้วย

    คยูฮยอนก้มลงมองปลาตัวนั้นใกล้ๆ เขาเห็นลวดลายแปลกประหลาดตรงดวงตาของมัน แม้จะไม่ชัดนักแต่หากลองลากนิ้วเชื่อมลายเหล่านั้นแล้ว มันก็ออกจะเหมือนแว่นตา

    อื้อ ใช่ แฟนพี่บอกว่ามันเป็นปลาสายตาสั้น อาราก้มลงมามองด้วย

    จริงเหรอ

    ไม่รู้...แต่เหมือนมันใส่แว่นอยู่ ไม่เห็นรึไง  

    คยูฮยอนชักเซ็งกับมุกของพี่สาว แต่มันก็จริงตามนั้น ปลาตัวนี้เหมือนจะใส่แว่น แถมทำหน้ามู่ทู่ได้เหมือนใครบางคนอีก

    งั้นน่าจะเรียกว่า...ปลาหัวหน้าคิม

    เด็กหนุ่มเผลอหัวเราะคิกเมื่อนึกถึงใบหน้าของร่างสูง อาราจึงมองด้วยความงุนงง

    อะไรของนาย จู่ๆ ก็หัวเราะ เมื่อกี๊ยังโวยวายอยู่เลย

    ก็...หน้ามันตลกดี พันธุ์อะไรเหรอ ว่าแล้วก็รีบเปลี่ยนประเด็น เฉไฉไปถามเรื่องอื่น

    ปลามังกร เป็นปลามงคลของจีนเชียวนะ ว่ากันว่าเลี้ยงไว้แล้วจะโชคดี อายุยืน เงินทองไหลมาเทมา

    คยูฮยอนหรี่ตาใส่พี่สาวและพูดประชด อ่าฮะ...ถ้าดีขนาดนั้นก็ช่วยรีบๆ เอามันกลับไปอยู่กับแฟนพี่แล้วกัน

    ตกลงเลี้ยงไว้ก่อนนะ น่า...พี่ฝากไว้แป๊บนึง ช่วยพี่หน่อยสิ

    เด็กหนุ่มใจอ่อนเมื่อพี่สาวขอร้อง อีกอย่างมันก็คงไม่เลวร้ายอะไรนัก ถึงเขาจะชอบปลาตัวเล็กๆ น่ารัก และเจ้านี่ก็ช่างห่างไกลจากสเปคปลาในฝันของเขา แต่เลี้ยงไว้ก่อนก็ไม่น่าเสียหาย ในเมื่อก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

    อะๆ ก็ได้ แต่ถ้ามันรังแกพวกเคโรโระของผมล่ะก็...ผมจะย้ายมันไปไว้ในอ่างล้างจาน!”

    นี่! อย่าเชียวนะ...นายต้องดูแลมันดีๆ เจ้าตัวนี้มันหิวบ่อย เพราะฉะนั้นระหว่างที่พี่ไม่อยู่บ้าน นายต้องให้อาหารมันทุกวัน ไม่งั้นมันอาจจะป่วย ห้ามลืม! เข้าใจมั้ย แล้วถ้านายทำอะไรมันล่ะก็...พี่จะย้ายตัวเองไปอยู่คอนโดแฟน!”

    โจอาราลั่นคำขาดแล้วเดินหนีเข้าห้องไป ทิ้งให้คยูฮยอนยืนอ้าปากค้าง พักนี้พี่สาวขู่เขาบ่อยเกินไปแล้ว แหงล่ะ...เธอรู้ว่าเขาอยู่คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด เหตุผลข้อใหญ่คือเขากลัวความมืด ถึงพี่อาราจะชอบปิดไฟแกล้งเขาบ่อยๆ แต่นั่นก็ยังดีที่เธออยู่ด้วย เขาจึงไม่ได้รู้สึกกลัวจนเกินไป แต่ถ้าพี่สาวย้ายออกไปล่ะก็...ถึงจะอยู่ในบ้านที่เปิดไฟทั้งวันทั้งคืน สำหรับคยูฮยอนแล้วมันก็น่ากลัวอยู่ดี

    เด็กหนุ่มหันไปมองปลาหัวหน้าคิมและแยกเขี้ยวใส่มัน

    ได้สิ ฉันจะดูแลแกอย่างดีเลย แต่ห้ามรังแกเพื่อนๆ ในตู้เด็ดขาด เข้าใจมั้ย!”

    ปลาหัวหน้าคิมเบือนหน้าหนีแล้วสะบัดครีบเอื่อยๆ มันเคลื่อนตัวไปหลบอยู่มุมตู้ พยายามจะซุกตัวอยู่ในซอกหิน โดโรโระที่แอบอยู่ก่อนจึงว่ายออกมาอย่างขวัญเสีย

    ให้ตายเถอะ... เด็กหนุ่มกลอกตาแล้วลากเก้าอี้มานั่งลงตรงนั้น ลองสังเกตพฤติกรรมเจ้าปลาตัวใหญ่ไปพลางๆ

     

    มีคนมาเคาะประตูบ้าน คยูฮยอนผุดลุก และนึกสงสัยว่าใครกันนะมาตอนดึกๆ แบบนี้ ปกติแล้วเขาไม่เคยมีแขก บางทีอาจจะเป็นแฟนของพี่อารา หรือไม่ก็เพื่อนที่ทำงาน

    พี่สาวเขาคงอาบน้ำอยู่ จึงไม่ได้ยินเสียงเคาะ เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องออกไปรับแขก คยูฮยอนเดินไปเปิดประตู และเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือหัวหน้าคิม

    มาอีกแล้วเหรอเนี่ย!

    สะ...สวัสดีครับ ร่างสูงจ้องเขา แต่ไม่พูดอะไร ใบหน้านั้นขึ้นสีจนแดงกร่ำ เด็กหนุ่มจึงผิดสังเกต หัวหน้ามีธุระอะไรรึเปล่าครับ ถ้าจะสั่งงาน...ความจริงโทรมาก็ได้ ไม่เห็นต้องลำบากมาถึงนี่...

    ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนนายจริงๆ เหรอ

    คำถามแปลกๆ บวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้เด็กหนุ่มยิ่งตกใจ แต่เขาก็พยายามจะไม่หลุดพิรุธ

    ครับ คยูฮยอนแกล้งเชิดหน้าขึ้นและตอบอย่างมั่นใจ เขาอมยิ้มเล็กน้อยขณะถามต่อ หล่อใช่มั้ยล่ะครับ

    โกหกใช่มั้ย ดูไม่เหมือนแฟนกันเลยซักนิด

    คยูฮยอนนึกโมโหที่จู่ๆ ฝ่ายนั้นก็พูดออกมาอย่างไร้เหตุผล จะบอกว่าเขาดูไม่เหมาะกับซีวอนสินะ มันน่าเจ็บใจชะมัด

    ใครๆ ก็บอกผมแบบนี้ แต่หัวหน้ารู้ไว้เลยนะ...ผมกับพี่ซีวอนคบกันมานานแล้ว และเรารักกันมาก

    คังอินพูดไม่ออก จะหมุนตัวกลับไปที่รถเสียหลายรอบ แต่ก็ลังเล คยูฮยอนเห็นท่าทางนั้นจึงตั้งข้อสงสัย

    หัวหน้ายังไม่เชื่อผมอีกเหรอ

    นายก็แค่หาเรื่องจะลางาน ควงใครก็ไม่รู้มาขออนุญาตฉัน แล้วนายคิดว่า...คิดว่าฉันจะเชื่อนายเหรอ คังอินได้ทีรีบพูดจี้จุด แต่ก็พูดตะกุกตะกักเพราะความมั่นใจของเขามันสั่นคลอนเต็มที

    หัวหน้าไปดื่มมาเหรอครับ คยูฮยอนไม่ได้ใส่ใจคำพูดของร่างสูง แต่เขานึกขำว่าฝ่ายนั้นเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง

    หัวหน้าคิมลอบถอนหายใจและตอบเขาตามตรง

    ก็นิดหน่อย

    ไม่หน่อยแล้วนะ! ผมว่าหัวหน้าเมาแล้ว ไว้เราค่อยคุยกันดีมั้ยครับ นี่หัวหน้าขับรถกลับได้มั้ย ผมว่าหัวหน้าเรียกแท็กซี่ดีกว่า ขับรถตอนเมามันอันตรายมากนะครับ ผม...

    โจคยูฮยอน...

    คังอินขัดขึ้นมา เด็กหนุ่มจึงเงียบและสบตาเขา

    ฉันไม่ได้โกรธที่นายควงใครมาหลอกฉัน ฉันรู้ว่านายอยากลางานเหมือนคนอื่น ฉันเข้าใจดีนะ แต่ฉันแค่อยากให้นายสารภาพออกมา แล้วฉันจะยกโทษให้ ฉันจะไม่เอาความที่นายโกหกฉัน

    คยูฮยอนคิดว่าหัวหน้าคิมไม่เข้าใจอะไรเลยต่างหาก รายนั้นพูดเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาทำเป็นความผิดใหญ่หลวง

    มันช่างร้ายกาจ...ร้ายกาจที่สุด! จู่ๆ ก็มาพูดว่าถ้าสารภาพจะยกโทษให้...หัวหน้าคิมเป็นผู้พิพากษารึไงนะ มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินเขา!

    ทำไมล่ะครับ ผมจะอยากไปเที่ยวกับแฟนบ้างไม่ได้เหรอ ทำไมหัวหน้าจะต้องพยายามบังคับให้ผมยอมรับว่าโกหกด้วย หัวหน้าอยากอยู่ทำงานในคืนคริสต์มาสอีฟก็อยู่ไปคนเดียวสิ แต่ผมอยากอยู่กับคนที่ผมรัก มันเป็นช่วงเวลาสำคัญนะครับ ผมเชื่อว่าใครๆ ก็ต้องอยากใช้เวลาอยู่กับใครซักคนในคืนคริสต์มาสอีฟกันทั้งนั้นแหละ!”   

    คำพูดของเขาคงแรงเกินไป ร่างสูงจึงถึงกับนิ่ง คยูฮยอนเพิ่งรู้สึกผิดก็ตอนนี้ เขาอาจจะใช้อารมณ์มากไปหน่อย แต่มันก็อึดอัดถ้าไม่ได้พูดตรงๆ และหัวหน้าคิมก็อาจจะไม่รู้ตัวเสียที

    เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้ร่างสูงคิดอะไรอยู่ แต่จากสายตาที่มองมา รายนั้นคงเสียใจกับคำพูดของเขาแน่ ไม่หรอก...เขาไม่คิดจะขอโทษ แต่จะตอกย้ำแบบนิ่มนวล ว่าแล้วก็ลองถาม และหวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจ และยอมให้เขาลางานไปมีความสุขแต่โดยดี

    หัวหน้าไม่มีคนที่อยากอยู่ด้วยในคืนคริสต์มาสอีฟเหรอครับ

    ทุกอย่างเงียบไปนานขณะที่ละอองขาวๆ โรยลงมา หิมะที่หยุดไปเมื่อกลางวันเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้งเมื่ออากาศเย็นลงตอนกลางดึก แต่คังอินไม่ได้สนใจ ตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องไปยังคนตรงหน้า อาจเพราะอากาศหนาว ริมฝีปากจึงสั่น

    มีสิ...

    คยูฮยอนกระพริบตาช้าๆ และมองร่างสูงอย่างไม่แน่ใจนัก เขาคงถามจี้ใจดำเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวของหัวหน้าเข้าแล้ว บางทีหัวหน้าอาจจะมีแฟน แต่เพราะต้องทำงานก็เลยยอมสละเวลาที่จะอยู่กับแฟน ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ เพราะฉะนั้นก็เลยน้อยใจที่เขาจะไปเที่ยวกับแฟน และไม่ยอมอยู่ช่วยทำงาน

    ...แต่เค้าคงจะอยู่กับคนอื่น

    คยูฮยอนเบิกตาขึ้นเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ หัวหน้าคิมยังจ้องเขาอยู่ ไม่ยอมละสายตาไปเสียที เด็กหนุ่มเริ่มหวั่น เขาลองคิดไปว่าหัวหน้าคิมอาจจะชอบคนมีเจ้าของแล้ว เลยพยายามตัดใจด้วยการทำตัวเป็นคนบ้างาน

    ให้ตายเถอะ! ไม่ว่าจะคิดยังไงสัญชาตญาณก็บอกตัวเองว่าคนที่หัวหน้าคิมพูดถึงนั่นมันเขาชัดๆ นี่แสดงว่าหัวหน้าคิมเชื่อเขาแล้วใช่มั้ย! เชื่อแล้วสินะ!

    เย้!

    ....คิดแบบนั้นได้ที่ไหนกันเล่า! นี่ไม่ใช่เวลามาดีใจซักหน่อย เห็นเค้าความยุ่งยากแล้วมั้ยล่ะโจคยูฮยอน

    หัวหน้าเมามากแล้วนะ กลับเถอะครับ ผม...หนาวมากเลย อยากเข้าไปในบ้านแล้ว

    เด็กหนุ่มแกล้งยืนลูบแขนตัวเอง และเหลือบตาไล่คนตรงหน้า ถ้าร่างสูงไม่กลับไปเสียเดี๋ยวนี้ เขาคงจะต้องคิดเข้าข้างตัวเองจนบ้าตายแน่ๆ เขาไม่อยากจะถือสาอะไรคนเมาหรอกนะ มีคนบอกว่าคำพูดของคนเมาน่ะเชื่ออะไรไม่ได้ เขาควรจะคิดแบบนั้นบ้าง

    “บ้าจริงๆ เลย” จู่ๆ หัวหน้าคิมก็พึมพำออกมา แล้วหันมาจ้องหน้าเขาด้วยแววตาเจ็บปวด

    “ที่เราจูบกันวันนี้...นายไม่รู้สึกอะไรเลยสินะ”

    คยูฮยอนยืนตัวเกร็ง ไม่กล้าแสดงสีหน้า ก็จะให้เขาตอบว่าอะไรล่ะ แล้วหัวหน้าคิมต้องการอะไรจากเขากันแน่เนี่ย!

    หลังจากสบตากันอยู่นานคังอินก็ขยับเข้ามาใกล้ เขาเอื้อมมือออกไปเพราะอยากสัมผัสคนตรงหน้า แต่คยูฮยอนรีบถอยเข้าไปในบ้าน กำลูกบิดประตูเอาไว้แน่น

    “หัวหน้ากลับไปเถอะครับ...ไว้หายเมาแล้วเราค่อยคุยกัน”

    คยูฮยอนบอกโดยไม่กล้าสบตาหัวหน้าคิมอีก รายนั้นนิ่งอยู่สักพักแล้วจึงพยักหน้า

    อืม...แล้วเจอกัน

    ในที่สุดหัวหน้าคิมก็ยอมล่าถอยไป เด็กหนุ่มมองตามรถที่แล่นออกไปจากหน้าบ้านเขา จากนั้นก็รีบกลับเข้าบ้าน

     

    สีหน้ากังวลของเขาเปลี่ยนเป็นตกใจและแสดงพิรุธเมื่อเห็นพี่สาวยืนมองอยู่ข้างตู้ปลา

    ใครมาน่ะ

    เอ่อ...บุรุษไปรษณีย์

    คยูฮยอนตอบไปโดยไม่ทันคิด พี่สาวจึงสวน

    บุรุษไปรษณีย์ที่ไหนเค้าขับรถเก๋งมาส่งจดหมายตอนนี้ยะ แล้วไหนล่ะ...จดหมาย? พัสดุ?

    เด็กหนุ่มไปต่อไม่ถูก เขาอึกอักอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจพูดออกมา โอเค! พูดความจริงก็ได้...ไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์หรอก!”

    แล้วเค้าเป็นใครล่ะ อยากรู้จังว่าใครกันนะมาหาน้องชายสุดที่รักของพี่ซะดึกดื่น แถมยังออกไปคุยกันนานสองนานโจอาราแกล้งแซว เด็กหนุ่มจึงหัวเราะหึหึอยู่ในลำคอ เอาล่ะ! บอกมานะ ถ้าไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์แล้วเป็นใคร

    คยูฮยอนสบตาพี่สาวพลางยิ้มยก และพูดอย่างหนักแน่น

                    “ซานตาครอส      

                     อาราส่งเสียงฮึ่มอยู่ในลำคอและสะบัดหน้าเดินหนีเข้าห้องไป เด็กหนุ่มจึงหัวเราะ แต่ครู่หนึ่งเมื่อหันไปเห็นปลาหัวหน้าคิมที่โผล่ออกมาจากหลังก้อนหิน เขาก็กลับมาเครียดเหมือนเดิม

    ไม่น่าเลย...ไม่น่านึกถึงเลย ถึงฝ่ายนั้นจะกลับไปแล้ว แต่ตัวตายตัวแทนอยู่ในตู้นี่ มองทีไรก็อดนึกถึงไม่ได้ ไอ้ปลาตัวนี้ก็ดันใส่แว่น แถมมองเขาแบบตาไม่กระพริบ (ถึงปลาจะกระพริบตาไม่ได้อยู่แล้วก็เถอะ...เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ความผิดมันเลย) ทำให้เขายิ่งหงุดหงิด และรู้สึกว่าไม่ชอบสายตาหลังกรอบแว่นของหัวหน้าคิมเลยจริงๆ

    ฉันควรจะโยนแกทิ้งลงโถส้วมซะ เด็กหนุ่มพูดอย่างนึกแค้น ครู่หนึ่งปลาหัวหน้าคิมก็ว่ายออกมาจากมุมตู้ มาหยุดอยู่ข้างๆ ตุ๊กตาเซรามิครูปแมวที่มีตะไคร่เกาะเล็กน้อย มันอิงแอบอยู่ตรงนั้น และไม่ยอมว่ายไปไหน เขาจึงนึกหมั่นไส้ลองเอาด้ามกระชอนแหย่ลงไป

                    ปลาหัวหน้าคิมดูท่าทีอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตรงเข้างับด้ามไม้

    เฮ้ย!!!!” คยูฮยอนร้องลั่น และดึงด้ามกระชอนออกมา โชคดีที่ปลาหัวหน้าคิมยอมปล่อย ไม่อย่างนั้นคงติดปลายไม้ขึ้นมาด้วย

                    “ปลาอะไรดุชะมัด! นี่ฉันชักไม่ไว้ใจแกแล้วนะ ถ้าแกทำอะไรพวกเคโรโระล่ะก็...

                    พูดไปก็เท่านั้น ปลาหัวหน้าคิมสะบัดหน้าใส่เขาและว่ายไปแอบหลังแมวเซรามิคซึ่งตัวเล็กกว่ามันหลายเท่า

                    “คนอะไร...ตัวใหญ่แต่ขี้ใจน้อยชะมัด

                    ‘นั่นสินะ...คนอะไร

     

    คยูฮยอนนิ่งไปเมื่อทบทวนคำพูดของตัวเอง อะไรนะ...เมื่อกี๊เขาพูดออกมาว่า คนงั้นเหรอ? เขาหมายถึงเจ้าปลานี่ต่างหาก อะไรนะ...เขาพูดว่า คนพูดว่า คนเหรอ!!!!!!!!!

                    “ฉันหมายถึงแกนะเว้ย ฉันด่าแก ฉันไม่ได้...ไม่ได้หมายถึง...อ๊า!...ให้ตายสิ!!!!!”

                    โจอาราเปิดประตูออกมาด้วยความหงุดหงิด เธอถือโทรศัพท์แนบหู คงกำลังคุยกับแฟนอยู่

    เลิกทะเลาะกับปลาแล้วไปอาบน้ำนอนซะ! น่ารำคาญจริง!”

                    คยูฮยอนเห็นด้วยกับพี่สาวยกเว้นประโยคหลัง ยิ่งยืนอยู่ตรงนี้เขาก็จะยิ่งฟุ้งซ่าน คิดมาก และเป็นบ้าไป เขาควรจะแช่น้ำอุ่นๆ ทำใจให้สบาย และเตรียมตัวเข้านอน 

    .
    .
    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×