คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [03] Got a Baby
เสียงมือถือที่ตั้งเวลาปลุกเอาไว้ทุกเช้าเรียกสติของคังอินกลับมาอีกครั้ง เขาพลิกตัวเพื่อกดปิดมันเหมือนทุกวัน แต่วันนี้มีบางอย่างแปลกไป ร่างของเขาหนักอึ้ง และไม่สามารถพลิกตัวได้ คังอินรู้สึกแปลกๆ เขาพยายามเอื้อมมือออกไป แต่จนสุดแขนก็ยังเอื้อมไม่ถึงโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ข้างโคมไฟ
โทรศัพท์แผดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตามที่ตั้งค่าไว้ คังอินเริ่มหงุดหงิด และรู้สึกไม่สบายตัว จึงสบถออกมาเล็กน้อย เขาขยี้ตาด้วยอาการงัวเงียและหงุดหงิด ก่อนจะดันตัวลุกขึ้น ทว่า...เขาไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งได้
น้ำหนักบางอย่างกดทับบนตัวเขา คังอินสะดุ้ง ลืมตาโพล่ง และเห็นว่าบนตัวเขาก็ไม่ได้มีใครนั่งทับไว้เหมือนภาพที่จินตนาการ ร่างสูงยกมือลูบใบหน้าตัวเองอย่างโล่งใจ นั่นสินะ...คิดมากไปได้ ใครจะบ้าถูกผีอำตั้งแต่เช้า
คังอินหัวเราะเพราะนึกขำตัวเองที่คิดอะไรเป็นตุเป็นตะ จากนั้นจึงสะบัดผ้าห่มออกเตรียมลุกจากเตียง พอดันตัวขึ้น เขาก็ผงะกับสิ่งที่เห็น
หน้าท้องของเขานูนขึ้นมาเหมือนภูเขาขนาดย่อม!
ร่างสูงเบิกตากว้าง และตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามองไปรอบๆ ห้อง และเริ่มตบหน้าตัวเอง
เจ็บ...แสดงว่าไม่ได้ฝัน
คังอินใจเต้นแรงเพราะความกลัว นี่เขาเป็นอะไร! แน่นอนว่าคงไม่ใช่ท้องอืดหรืออ้วนลงพุง ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ช่าง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ เมื่อคืนเขาก็ยังปกติดี...หน้าท้องของเขาก็ยังดีๆ อยู่เลย
คิดแล้วก็ก้มลงมองหน้าท้องตัวเองอีกครั้งและเริ่มคิดว่าลักษณะแบบนี้มันเหมือนกับว่าเขากำลัง...ตั้งท้อง!
ร่างสูงชาไปทั้งตัว เขาพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆ นั่นออกไป แต่เพราะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ คังอินจึงลองเอื้อมมือไปแตะ
เมื่อถูกสัมผัส บางอย่างก็ขยับขลุกขลักอยู่ในท้องของเขา!
คังอินร้องลั่นและผงะถอย แต่รู้ดีว่าหนีอย่างไรก็ไม่พ้น ตัวอะไรก็ไม่รู้อยู่ในท้องของเขา และทุกครั้งที่มันขยับตัว เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนทุกครั้ง คังอินกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ความคิดเดียวที่แวบเข้ามาคือต้องขอความช่วยเหลือ แต่ใครล่ะจะเชื่อเรื่องบ้าๆ นี่ เขามองไปที่โทรศัพท์มือถือขณะที่มันยังคงแผดเสียงอยู่
ไอ้ซีวอน...เขาต้องโทรหาไอ้ซีวอน!
คังอินค่อยๆ ขยับร่างที่หนักอึ้งจนเอื้อมมือไปหยิบมือถือได้ เขาปิดเสียงปลุก และกดโทรออกอย่างรีบร้อน
สัญญาณรอสายดังเป็นจังหวะเนิบๆ แต่ยิ่งทำให้เขากังวลใจ ตอนนี้เขาตัวสั่นไปหมด เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่อุณหภูมิร่างกายเย็นเฉียบ เขาพยายามผ่อนลมหายใจช้าๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองยังคงหายใจอยู่ นอกจากเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นตึกตักด้วยจังหวะเร็วผิดปกติแล้ว เขายังได้ยินเสียงหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในท้อง!
ซีวอนนั่งมองโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุด เขาเท้าคางลงกับโต๊ะ ครู่หนึ่งก็เบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง เขานึกอยากให้ไอ้คังอินเลิกโทรมาก่อนที่เขาจะใจอ่อน และอดไม่ได้ที่จะรับ มือถือสั่นต่ออีกครู่หนึ่งแล้วนิ่งไป แต่ไม่นานนักก็สั่นขึ้นมาอีกรอบ ซีวอนกระสับกระส่าย ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกดรับ
“ไอ้ซีวอน...”
“โทรมาทำไม” เขาถามเรียบๆ
“มึง...มึงต้องไม่เชื่อกูแน่ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ กู...ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่...มันเกิดขึ้น” ซีวอนขมวดคิ้วขณะที่ปลายสายพูดตะกุกตะกัก วกไปวนมา “เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ นะเว้ย มึงเป็นอะไรวะ เกิดอะไรขึ้น”
“กู...” คังอินทั้งกลัว ทั้งแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อถึงคราวต้องพูดคำนั้นออกมาจริงๆ เขาต้องฝันไปแน่ๆ เขาบอกตัวเองว่าเขาแค่ฝัน แต่แล้วเมื่อก้มลงไปมองหน้าท้องของตัวเอง เขาก็รู้สึกขนลุกเมื่อเห็นว่ามันเป็นความจริง!
“ทำไม” ซีวอนถามเร่ง และคังอินก็ทำใจไม่ได้
“โธ่เว้ย! คือมันพูดยากว่ะ มันไม่ใช่เรื่องปกติ กูไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง กูเองก็ไม่เข้าใจ” เขาข่มความกลัวเอาไว้แล้วพล่ามแบบอ้อมค้อมต่อ แต่ถูกซีวอนขัด
“มึงก็พูดมาสิวะ...มึงเป็นอะไร”
ลำคอของคังอินแห้งผาก “กู...คือกู...”
“...”
“...กูท้อง”
เกิดความเงียบชั่วครู่เพราะซีวอนนิ่ง และเมื่อไอ้คังอินไม่ได้หัวเราะเฉลยว่าเป็นการล้อเล่น เขาจึงลองทบทวนสิ่งที่ได้ยินอีกครั้งเพราะไม่แน่ใจ
“...มึงท้อง?”
“เออ! กูไม่รู้ว่ากูท้องได้ยังไง แต่มันเป็นไปแล้วเว้ย จู่ๆ ท้องกูก็ป่องขึ้นมา แล้วก็มีตัวอะไรไม่รู้ดิ้นอยู่ข้างใน ไอ้ซีวอนมึงต้องช่วยกูนะเว้ย กู...กูกลัว!”
ซีวอนยกมือลูบท้ายทอยตัวเองแล้วเหลือบดูปฏิทิน
“วันนี้วันที่ 4 ตุลาคม...”
“แล้วมึงจะรายงานทำไมวะ!” คังอินตะโกนกลับมาอย่างอารมณ์เสีย
“ก็ไม่ใช่เอพิลฟูลเดย์นี่หว่า แล้วก็ไม่ใช่วันเกิดกูด้วย นี่มึงคงไม่ได้กะแต่งเรื่องมาเซอร์ไพร์สกูหรอกใช่มั้ย”
“เออสิวะ! นี่มึงคิดว่ากูหลอกมึงเหรอ กูพูดจริงเว้ย! กูท้อง!”
ซีวอนเริ่มไม่แน่ใจเพราะน้ำเสียงจริงจังของเพื่อน แต่เขาก็ยังสงสัย “คือจู่ๆ มึงก็โทรมาโวยวาย บอกว่ามึงท้อง มึงขอให้กูช่วย แต่...มึงว่ากูควรจะเชื่อมึงมั้ยวะ”
คังอินเงียบไปครู่หนึ่ง ขอบตาของเขาร้อนผ่าว และเสียงก็สั่นจนคุมไม่ได้
“กูเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่ะ แต่ตอนนี้กูท้อง แล้วกู...กูจะตายมั้ยวะ”
เสียงสะอื้นของคังอินทำให้ซีวอนใจหาย เขาคิดว่าฝ่ายนั้นอาจจะแกล้งอำเขาเล่น หรือเป็นแผนขอคืนดี แต่ที่ผ่านมาถึงจะแกล้งแบบจริงจังแค่ไหน มันก็ยังไม่เคยร้องไห้ อันที่จริงไอ้คังอินมันไม่เคยอ่อนแอให้ใครเห็นเลยด้วยซ้ำ
“ใจเย็นๆ นะ โอเค! กูเชื่อมึงก็ได้ ว่าแต่...มึงท้องกับใครวะ”
คังอินสูดน้ำมูกก่อนจะพึมพำชื่อนั้นอย่างหวาดๆ
“กูว่า...ต้องเป็นโจคยูฮยอนแน่ๆ เลย กูนอนกับเค้าอีกรอบเมื่อคืน”
“อ๋อเหรอ แล้ว...เค้า...เอ่อ...โทษนะ...เค้าเสียบมึง?”
“เปล่าโว้ย! เออ นั่นสิ! กูเป็นคนเสียบนะเว้ย แล้วกูจะท้องได้ยังไง! แต่ถึงเค้าจะเสียบกู กูก็ท้องไม่ได้อยู่ดี กูเป็นผู้ชายนะเว้ย ผู้ชายที่ไหนจะท้องได้!” คังอินโวยวายลั่น ซีวอนเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อให้ตัวเองหายขัดเขินหลังจากต้องพูดเรื่องลามกนั่น เขากระแอมเรียกความมั่นใจจากนั้นก็ถามต่อ
“โอเค! บางทีมึงอาจจะไม่ได้ท้อง มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้ท้องอืดหรือ...ลงพุง”
“กูคิดมาหมดแล้ว และตอนนี้กูแน่ใจว่ากูท้อง! แต่กูไม่รู้ว่าไอ้ตัวที่อยู่ในท้องกูมันคืออะไร! มัน...เฮ้ย!!!!!!!”
ซีวอนตกใจกับเสียงร้องของเพื่อน “มึงเป็นอะไรวะ!”
“มันดิ้นอีกแล้ว!” คังอินประสาทเสียเพราะกลัวสุดขีด ซีวอนนั่งไม่ติด แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาลนลาน เดินวนอยู่กับที่
“แล้ว...แล้วกูจะช่วยมึงยังไงดี เอางี้ๆ กูจะไปหามึงที่คอนโดนะ”
“ไม่! กูไม่อยากให้ใครเห็นกูในสภาพนี้ มัน...ทุเรศสุดๆ”
คังอินสะอึกสะอื้นสมเพชตัวเอง เขาดึงผ้าห่มมาคลุมตัว และบรรยายสถานการณ์ให้เพื่อนฟัง “คือตอนนี้ท้องกูใหญ่มาก กูใส่กางเกงในไม่ได้ แล้วก็คงใส่กางเกงไม่ได้ด้วย ชุดคลุมอาบน้ำก็ปิดท้องกูไม่ได้...”
“ไม่เป็นไร กูรับได้”
“แต่กูรับไม่ได้! กูอยากตายยยยยยยยย!”
“เฮ้ย! มึงอย่าคิดสั้นนะเว้ย รอก่อน...กูจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” ซีวอนพูดพลางวิ่งไปคว้ากุญแจรถ ส่วนคังอินก็ยังคงตะโกนโหวกเหวกอยู่ในสายเป็นระยะๆ
“กูจะเอามันออกไปจากท้องกู! ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไร มันต้องตาย!”
ซีวอนรี่ออกจากบ้านทั้งที่ยังถือโทรศัพท์แนบหู ไอ้คังอินคลั่งไปแล้ว และครู่หนึ่งสายก็ถูกตัด ซีวอนพยายามโทรกลับไปใหม่ แต่ปลายสายก็ไม่รับ เขาร้อนใจ แอบฝ่าไฟแดงไปเสียหลายครั้งทั้งที่มันไม่ใช่นิสัยของเขา เขายอมขับเร็วให้คนอื่นด่า และถึงขั้นยอมตัดใจแซงในเขตห้ามแซง
เขาไม่รู้ว่าขับรถแบบนี้แล้วรอดมาถึงคอนโดไอ้คังอินได้อย่างไร แต่เมื่อมาถึงเขาก็ไม่คิดอะไรนอกจากรีบกดรหัสเปิดประตู แล้ววิ่งเข้าไปในห้อง
“ไอ้คังอิน...”
เขาโผล่หน้าเข้ามาในห้องนอน แล้วเห็นเพื่อนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ ฝ่ายนั้นหันหลังให้เขา เขาจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วเรียกอีกรอบ
“ไอ้คังอิน...กูมาแล้ว” ซีวอนเริ่มได้ยินเสียงร้องไห้กระซิก และร่างใหญ่ของเพื่อนสนิทก็สั่นเพราะแรงสะอื้น
“กูพยายามจะออกไปหยิบมีดในครัว แต่กูก็เดินไปไหนไม่ได้ กูเลยคิดว่าจะใช้คัตเตอร์ แต่มันคงแทงไปไม่ถึงไอ้ตัวที่อยู่ในท้องกู อีกอย่าง...กูกลัวเลือด กูเลยไม่กล้ากรีดข้อมือตัวเอง” รายนั้นดูเหนื่อยอ่อน พูดไปสะอื้นไป
ซีวอนเห็นใบหน้าของคังอินจากด้านข้างเพียงบางส่วน ตากับจมูกแดงเรื่อเพราะเพิ่งหยุดร้องไห้ ซีวอนพูดเสียงอ่อนลงเพราะสงสารเพื่อน
“มึงใจเย็นๆ สิวะ กูอยู่นี่แล้วไง แต่ก่อนอื่น...ขอกูดูท้องมึงหน่อย”
“ไม่เอา กูโป๊อยู่” คังอินกระชับผ้าห่มที่ใช้พันตัวไว้แน่น ซีวอนจึงถอนหายใจเฮือกแล้วเอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม
“อย่างกับกูไม่เคยเห็นมึงโป๊งั้นแหละ”
“อย่าดึง! กูเปิดเอง...”
คังอินสูดน้ำมูกแล้วค่อยๆ คลายผ้าห่มออกอย่างระมัดระวัง เปิดออกแค่ให้เห็นท้องนูนๆ ส่วนบน จากนั้นก็รีบห่อตัวเองเอาไว้ตามเดิม เหลือบตาขึ้นอีกที ก็เห็นซีวอนถอยหนีไปอยู่ตรงมุมห้องแล้ว
“มึง...ท้องจริงเหรอวะ!” รายนั้นพึมพำพลางเบิกตากว้าง
“จะถามทำไมอีก บอกว่าไม่ท้องแล้วมันจะยุบไปเลยได้มั้ยล่ะ!” คังอินโวยวายใส่ ซีวอนจึงรีบเดินเข้ามา แต่ยังคงรักษาระยะห่างให้พอปลอดภัย
“โอเคๆ กูเชื่อสนิทใจเลย ว่าแต่...คยูฮยอนไปไหนแล้ววะ”
คังอินสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินชื่อนั้น ยิ่งพอภาพใบหน้าน่ารักแวบเข้ามา เขาก็ยิ่งกลัวจนขนลุก “อย่าพูดถึงเด็กนั่นให้กูได้ยิน! กูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าไปไหนแล้ว แต่เมื่อคืนพอโดนกูตวาด เค้าก็เชิดหน้าเดินออกจากห้องไปเลย เล่นเอากูงง”
“อ่าฮะ แล้วมึงได้ตามไปดูรึเปล่าว่าเค้าแค่เดินออกไป...หรือเดินๆ อยู่แล้วหายตัวไป” ซีวอนลองตั้งสมมติฐาน แต่ทำให้คังอินหน้าเหวอ
“มึงจะสื่ออะไรวะ”
“คือ...กูพูดตามตรงนะ” ซีวอนกัดริมฝีปากเล็กน้อยเพราะหวั่นๆ ที่ต้องพูด แต่แล้วก็ข่มความกลัวเอาไว้ เขาตัดสินใจโพล่งออกมาเสียงดังให้จบๆ เรื่อง
“กูว่าถ้าเค้าทำให้มึงท้องได้ เค้าก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ!”
เมื่อซีวอนสรุป สิ่งที่อยู่ในท้องของคังอินก็ดิ้นอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่คังอินที่ตกใจข้อสรุปดังๆ ของเพื่อน แต่อีกชีวิตในท้องก็สะดุ้งเพราะเสียงนั้นเช่นกัน หน้าท้องของคังอินไหวแรงๆ จนสั่น เห็นเป็นระลอกคลื่นขนาดย่อม ทั้งสองอ้าปากร้องลั่นพร้อมกัน ขณะที่คังอินขยับไปไหนไม่ได้ ซีวอนก็วิ่งหนีไปอยู่หน้าประตู และยืนผวาอยู่ตรงนั้น
“ไอ้ซีวอน! มึงกลับมาเดี๋ยวนี้! ถ้ามึงกลัวแล้วกูจะทำยังไง!”
“ผะ...ผี!”
คังอินอ้าปากค้างมองเพื่อนที่พูดคำนั้นออกมา เขาลนลานปฏิเสธเพื่อปลอบตัวเอง
“ไม่...ไม่ใช่โว้ย! ไม่ใช่ผี ต้องไม่ใช่สิ!”
ซีวอนเบิกตาจ้องหน้าท้องของคังอิน พยักหน้าอย่างเห็นด้วยและพูดเร็วปรื๋อเพราะสติแตก “ต้องเป็นเอเลี่ยนแน่ๆ เลย! กูว่าใช่แน่! ต้องใช่แน่ๆ เว้ย! กูเคยดูหนังเรื่องนึงที่มีเอเลี่ยนมาแพร่พันธุ์ มันจะให้ผู้ชายตั้งท้องแทนแล้วพอถึงกำหนดคลอด ลูกเอเลี่ยนก็จะใช้กรงเล็บแหวกท้องออกมา!”
“สัด! มึงจะพูดทำไมเนี่ย!”
ซีวอนขาสั่น ก้าวไม่ออก “กู...กูว่าแล้วเชียว คยูฮยอนแม่งท่าทางแปลกๆ กูว่าแล้วต้องมีอะไรแปลกๆ”
“แล้วแม่งไม่บอกกู ก่อนหน้านี้เล่า! โอ๊ยยยยยยยยย!”
แล้วคังอินก็ร้องออกมาอีกรอบเพราะจู่ๆ ท้องของเขาก็ขยายขึ้นอีกเหมือนลูกโป่งโดนสูบลม ซีวอนมองตาค้าง จากนั้นก็เข่าอ่อน ทรุดอยู่หน้าประตู
“โอย! กูกำลังจะตาย...กูเจ็บท้องมากเลย” คังอินหายใจหอบ และมองสิ่งที่ดิ้นไม่ยอมหยุด ซีวอนได้สติ ลุกขึ้นและเดินเข้ามา พยายามจะหาทางช่วย
เขาร้องออกมาเสียงดัง พลางเดินไปทั่ว “เดี๋ยวนะ! ใจเย็นๆ ใจเย็นก่อน!”
“โอ๊ย! มึงนั่นแหละใจเย็นๆ” คังอินพูดสวน ซีวอนจึงหยุดเดินวน เขามองหน้าท้องนูนๆ ของเพื่อนที่ขยับโยนไปมา จากนั้นก็เอื้อมมือไปแตะอย่างระมัดระวัง
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะเด็กน้อยน่ารัก ไม่ต้องตกใจนะ ไม่มีอะไร นิ่งซะๆ”
คังอินมองหน้าซีวอนอย่างตั้งคำถาม ไม่คิดว่าเพื่อนจะใช้วิธีนี้ แต่เมื่อฝ่ามือของรายนั้นสัมผัสกับหน้าท้องของเขา ตัวที่อยู่ในท้องก็ค่อยๆ สงบลง และนิ่งไปในที่สุด ซีวอนรู้สึกแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นใจที่เขาเองก็บอกไม่ถูก เหมือนว่าเขาสามารถสื่อสารและเข้าใจเด็กในท้องไอ้คังอินได้ เขาไม่แน่ใจนัก แต่เขารับรู้ได้ว่าเสียงหัวใจดวงเล็กๆ ข้างในนั้นกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติอย่างสงบ แวบหนึ่งเขาคิดขึ้นมาว่าถึงอย่างไรเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของไอ้คังอิน และเขาก็เชื่อว่าเด็กนี้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร และเป็นตัวอะไรก็ตาม
เพื่อนทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกัน โล่งอกที่ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ซีวอนนั่งแหมะลงกับพื้นอย่างหมดแรง เขาเงยหน้ามองคังอิน
“โคตรตื่นเต้นเลยว่ะ” ซีวอนพ่นลมหายใจออกมาทางปากเฮือกใหญ่ “ตอนกูเอื้อมมือไปแตะ...กูนึกว่าเด็กในท้องมึงจะเอาอะไรแหลมๆ ทะลุออกมาทิ่มมือกูซะอีก กูเคยเห็นฉากนี้ในหนัง ตอนนั้นกูไปดูที่อเมริกา น่ากลัวมากเลยนะเว้ย! ทำเอากูร้องลั่นโรง พวกเอเลี่ยนงี้...ตัวใหญ่ๆ น่าตาน่าเกลียด ฟันแต่ละซี่...”
“ถ้าขืนมึงเล่าอีก...”
พอคังอินพูดพร้อมส่งสายตาอาฆาตมาให้เขา ซีวอนก็รีบหุบปาก เขาไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย แต่เวลาตื่นเต้นมากๆ เขาจะชอบบ้าจี้พูดไม่หยุดทุกทีเลย
“มึงแน่ใจเหรอว่าเอเลี่ยน...” จู่ๆ คังอินก็ถามออกมา ซีวอนมองหน้าเพื่อนแล้วก็ไม่คิดว่าควรจะตอบตามจริง เขาจึงแกล้งทำเป็นไม่แน่ใจ
“ไม่รู้ว่ะ...พูดไปงั้นแหละ”
“แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกวะ! กูก็เคยดูหนังเอเลี่ยนนะเว้ย แต่กูก็ไม่คิดว่ามันจะมีจริง มันไม่น่าเป็นไปได้ กูต้องฝันไปแน่ๆ ใช่มั้ยวะไอ้ซีวอน”
ซีวอนทำได้แค่ยักไหล่ “งั้นกูก็คงฝันด้วย สงสัยว่าเราสองคนจะฝันร้าย”
แล้วก็มองหน้ากันอย่างหวาดๆ ก่อนที่จะต่างคนต่างเงียบ ซีวอนนั่งมองท้องคังอิน จากนั้นก็ถามขึ้นเพราะทนความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ไม่ไหว
“แล้วมึงจะทำยังไงต่อไปวะ”
“อะไรนะ” คังอินไม่ทันฟัง
“กูถามว่ามึงจะทำยังไงต่อไป นั่งเงียบไม่ใช่วิธีแก้ปัญหานะเว้ย”
“มึงเลิกถามแบบนี้สักทีได้มั้ย! กูไม่เข้าใจว่าทำไมมึงต้องถามกูแบบนี้ทุกครั้งเลย” คังอินมีสีหน้าหงุดหงิดเพราะจนปัญญา ซีวอนยักไหล่ และอธิบายเหตุผล
“คนเราจะทำอะไรต้องมีแผนเว้ย กูแค่เตือนสติมึงให้ทำในสิ่งที่คิดดีแล้ว”
“กูจะทำแท้ง!”
“สัด...กูบอกให้มึงคิดดีๆ ก่อน”
“กูคิดแล้ว...แล้ว...แล้วนี่กูจะเอามันออกทางไหนวะ” คังอินค้นพบความจริงที่น่าหวั่นใจหลังจากคิดอีกที
ซีวอนหัวเราะฝืดๆ แล้วเริ่มวิเคราะห์ “กูว่าต้องผ่าท้องนั่นแหละถึงจะเอาออกมาได้ แต่กูสงสัยว่าเด็กในท้องมึงเข้าไปอยู่ตรงส่วนไหน เพราะมึงไม่มีมดลูก ทางที่ดีมึงควรไปหาหมอ ไปลองอัลตราซาวนด์ดู”
“ไม่! กูไม่อยากเป็นข่าวดังไปทั่วโลกนะเว้ย! นี่มันเรื่องปกติซะที่ไหน”
“ใช่! แต่มึงจะทำยังไงล่ะ รอให้คลอด ให้เค้าแหวกท้องมึงออกมาเหรอ”
ซีวอนย้ำ คังอินจึงผวา หน้าซีดไปตามระเบียบ
“ตกลงเป็นเอเลี่ยนจริงๆ เหรอวะ”
ซีวอนพูดอย่างนึกรำคาญ “ถ้าไม่ใช่แล้วไง...มึงจะสบายใจขึ้นมั้ยล่ะ กูจะบอกให้นะเว้ย...ตัวอะไรที่เข้าไปอยู่ในท้องมึงได้มันก็ไม่ดีไปกว่าเอเลี่ยนหรอก!”
“เฮ้ย! แต่...แต่...มันคงไม่แย่ขนาดนั้นมั้ง” คังอินอึกอัก
“...”
“นี่กูจะตายจริงๆ เหรอวะ”
ประโยคนั้นทำให้ทั้งสองได้แต่นั่งมองหน้ากัน ไม่มีใครตอบคำถามได้ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งซีวอนก็ลุกขึ้น พร้อมทั้งสูดหายใจ
“กูจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่ ยังไงมึงก็ต้องไปตรวจ กูมีรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน กูจะขอให้เค้าตรวจมึงแล้วปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เค้าเก่งมากเลยนะเว้ย ตั้งแต่เรียนจบมา เคยทำคลอดมาหลายคนแล้ว”
“แต่เค้าจะช่วยอะไรกูได้วะ เค้าเคยทำคลอดเอเลี่ยนเหรอ!” คังอินตะโกนออกมาอย่างเหลืออด เด็กในท้องจึงดิ้นเบาๆ อีกรอบ เขาจึงรีบหุบปากและตบท้องตัวเองราวกับจะปลอบลูก หน้าท้องของเขาจึงสงบลงอีกครั้ง
“ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย กูก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากคลอดแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าออกมาเป็นเด็กทารกปกติก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าออกมาเป็นตัวประหลาด มีเมือกเหนียวๆ ลื่นๆ ฟันคมๆ กูว่ากูอาจจะตายตามมึงไปอีกคน”
ซีวอนพูดเบาที่สุดเพื่อไม่ให้สิ่งที่อยู่ในท้องของคังอินตกใจและอาละวาดขึ้นมาอีก คังอินหมดทางเถียง เขาพยายามลุกขึ้นจากเก้าอี้ ในสภาพห่อตัวด้วยผ้าห่มมิดชิด แต่เพราะท้องหนัก ร่างนั้นจึงเซ
“เฮ้ย! ระวัง” ซีวอนเข้ามาช่วยพยุง คังอินจึงมองหน้า และรีบสะบัดออก
“มึงไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ กูยิ่งทุเรศตัวเองเข้าไปใหญ่”
“แต่มึงท้องอยู่นะเว้ย จะลุกจะเดินก็ต้องระวัง กระเทือนนิดเดียวก็ไม่ได้” ซีวอนพูดอย่างจริงจัง คังอินจึงโอดครวญ
“โอย! คุณเพื่อนครับ กูอยากให้แท้งจะแย่แล้ว กูจะระวังไปทำไมวะ!”
“มึงก็น่าจะรู้ว่าลูกมึงอึดกว่ามึง แข็งแรงขนาดนี้ไม่แท้งง่ายๆ หรอก มึงนั่นแหละจะตายก่อนถ้าขืนทำอะไรโง่ๆ”
คังอินเดินไปที่เตียงและยอมให้ซีวอนช่วยพยุงจนนั่งลงได้ จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอน “กูปวดหลังมากเลย ทรมานโคตรๆ พวกผู้หญิงทนได้ยังไงวะ”
“มึงนอนไปเถอะ เอางี้...เดี๋ยวกูออกไปข้างนอก จะซื้อของใช้ที่จำเป็นมาให้มึง” ซีวอนบอกพลางเดินไปที่ประตู แต่คังอินรีบเรียกไว้เสียก่อน
“อะไรวะ...ของจำเป็น?”
อีกฝ่ายหันกลับมาแล้วสาธยายให้ฟัง
“ชุดคลุมท้อง อาหารเสริม ยาบำรุง...”
“จะเอามาทำบ้าอะไร! บำรุงให้มันแข็งแรงจะได้แหวกท้องกูออกมาได้สะดวกรึไง! แล้วนี่มึงจะทิ้งกูไปไหน ถ้ามันแหวกท้องกูออกมาระหว่างนี้...”
“บ้าเหรอ มึงห้ามคิดแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะ มึงดีกับเค้าเข้าไว้ แล้วเค้าก็จะดีกับมึง ถ้าเค้าดิ้นมึงก็ปลอบไปเหมือนเมื่อกี๊ แล้วกูจะรีบไปรีบกลับ มึงควรจะดูแลตัวเองดีๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ แล้วก็พวกอาหารเสริม มึงจะได้ไม่เป็นอะไรซะก่อนไปถึงมือหมอ รอเดี๋ยวนะเว้ย ถ้ามีอะไรรีบโทรมาเลย โอเค?”
ซีวอนไม่รอคำตอบ เขาวิ่งออกไปจากห้อง คังอินจึงได้แต่อึกอักเพราะพูดอะไรไม่ทันเสียแล้ว เขานอนมองหน้าท้องตัวเองอย่างหวาดๆ
‘พี่อยากมีลูก...แต่นายมีลูกให้พี่ไม่ได้’
จู่ๆ ประโยคที่เคยพูดก็แวบขึ้นมา เขาขนลุก...เพราะมันช่างบังเอิญ
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคังอินคงนึกโมโหตัวเอง โมโหใครก็ตามที่ลงโทษเขาด้วยวิธีแสนพิสดารนี้ ไม่หรอก...เขาก็แค่ฝันไป ความรู้สึกผิดที่ผ่านมาทำให้เขากังวลและฝันอะไรที่เป็นการลงโทษตัวเอง เขาก็แค่ต้องทำใจให้สบาย บอกตัวเองว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขาเลยสักนิด
เอาล่ะ! เขาเหนื่อยจะแย่ ตอนนี้เขาคิดว่าควรจะหลับตาลง หลับไปสักตื่น แล้วพอลืมตาขึ้นอีกครั้ง อะไรก็ตามที่อยู่ในท้องเขาจะหายวับไป เขาจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับชีวิตประจำวันที่เหมือนเดิมทุกประการ
ความคิดเห็น