คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Intro] So Playboy
“ไม่เข้าใจรึไง! เรื่องระหว่างเรามันไม่มีคำว่าจริงจังหรอก”
เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่ยืนอยู่แทบหมดแรงเมื่อได้ยินคำพูดของร่างสูง ริมฝีปากบางขยับอึกอัก ความสับสนทำให้เขานึกอะไรไม่ออก จึงพึมพำเพื่อทวนความจำของตัวเอง “แต่...แต่พี่คังอินบอกว่า...พี่รักผม”
“ใช่! พี่เคยบอกว่ารักนาย ตอนนี้ก็รักอยู่นะ รักมากด้วย” คิมยองอุนลอยหน้าลอยตาพูดโดยไม่หมายความ เขาเห็นใบหน้านั้นจวนจะร้องไห้ ความเอ็นดูครั้งสุดท้ายทำให้เขาขยับเข้าไปและวางมือบนไหล่สั่นๆ ราวกับจะปลอบ
“แต่พี่อยากมีลูก และนายมีลูกให้พี่ไม่ได้...”
พลันนั้นร่างบางเบิกตาขึ้นอีกเล็กน้อยเพราะช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน ริมฝีปากพยายามจะเปล่งเสียงคัดค้านทว่าก็พูดอะไรไม่ออก
คังอินสบตาฝ่ายนั้นอย่างแน่วแน่ ก่อนจะรีบชิงตัดบท
“เพราะฉะนั้น...เราจบกันแค่นี้เถอะนะ”
เพี้ยะ!
ฝ่ามือเล็กปราดเข้าที่ข้างแก้มด้านซ้าย คังอินหน้าหันตามแรง แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิด ชินเสียแล้วกับการต้องเจ็บตัวบ้างหลังจากเลิกรากัน แต่ร้อยทั้งร้อย...คนที่กล้าตบหน้าเขาก็ย่อมไม่กล้ามาตอแยอีก
“คนเลว...”
เด็กหนุ่มน้ำตาไหลอาบแก้ม กำหมัดแน่นเพราะเจ็บใจที่โดนหลอก
คังอินยกยิ้มและเริ่มหัวเราะ นิสัยที่แท้จริงของเขาเปิดเผยออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียนมาโดยตลอด ไม่แปลกหรอก...เขาแค่รู้สึกว่าตัวเองหมดความอดทนกับเด็กคนนี้ และอยากเขี่ยทิ้งไปให้เร็วที่สุด
“นี่พี่พูดจริงๆ นะ คบกันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อนายมีลูกให้พี่ไม่ได้ จะเลิกกันตอนไหนมันก็เหมือนกันแหละ! อีกอย่างพี่ก็ไม่ชอบพูดอะไรยืดเยื้อ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ไม่ต้องโทรมาอีก”
คนตรงหน้าเขาปล่อยโฮแล้ววิ่งหนีไปเพราะทำใจไม่ได้ คังอินมองตามจนลับสายตา จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือก บอกเลิกรายนี้เหนื่อยชะมัด อาจเพราะคบกันมานานเกินไป อีกฝ่ายเลยไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ เสียที
คังอินหันไปมองใครบางคนที่ยืนรออยู่ด้านหลัง
เมื่อสบตากันเข้า ฝ่ายนั้นก็ยักไหล่
“นี่...กูเห็นนะเว้ยว่ามึงแอบส่งสายตามาตำหนิกู” คังอินพูดพลางเลิกคิ้ว
“เปล่านี่! มึงทำถูกแล้ว...” ซีวอนเบ้ปากอย่างประชดประชัน เขาคลายมือที่กอดอกอยู่ และยิ้มให้เพื่อน “เป็นสุภาพบุรุษมาก สมควรได้รับการยกย่อง”
“ไอ้เวร!” คังอินเพิ่งรู้ตัวว่าถูกกัดเข้าอย่างจัง ซีวอนหัวเราะและเดินออกไป ดูก็รู้ว่าไม่ได้จะประชดจริงจังนักเพราะยังอารมณ์ดีอยู่ คังอินมองอย่างนึกหมั่นไส้ แล้วจึงรีบเดินตามเพื่อประชดกลับ “ใช่สิ...ใครมันจะเป็นสุภาพบุรุษอย่างมึงวะ ไม่ทันใจโว้ย! กูอยากเลิกเดี๋ยวนี้ ไม่ได้อยากเลิกปีหน้า ถ้าขืนใช้วิธีของมึง กว่าเค้าจะยอมเลิก ดีไม่ดีก็คงท้องให้กูได้จริงๆ ซะก่อน”
“แล้วมึงจะทำยังไงต่อ” ซีวอนปรายตามองเพื่อนที่เดินมาตีคู่
“อ้าว! ก็เข้าผับแดกเหล้าแล้วหาเด็กใหม่ไปนอนด้วยสิวะ สละโสดทั้งที ต้องฉลองกันหน่อย!” ได้ฟังแล้วก็น่าเหนื่อยใจ ซีวอนกลอกตา รีบจ้ำหนี แต่อีกฝ่ายก็ก้าวเร็วๆ ตามมาจนทัน “คืนนี้ไปผับกัน เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำแบบนี้ซักทีวะ!” สุดท้ายเขาก็โพล่งออกมาอย่างเหลืออด แต่คังอินทำหน้างงแถมยังถามกลับ
“กูทำอะไร”
“ก็...หลอกเด็กมาฟันแล้วเขี่ยทิ้งแบบนี้ไง!”
คังอินหัวเราะกับสีหน้าจริงจังของเพื่อนสนิท ไม่อยากเชื่อเลยว่ารายนั้นจะตำหนิเขาเพราะเรื่องนี้ “เฮ้ย! ซีเรียสไปได้ มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนแบบนี้ แล้วกูก็ไม่ได้หลอกนะเว้ย เค้ามาหากูเอง อาจจะต้องตะล่อมนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นก็ถือว่าแค่สนุกกัน แล้วที่กูขอเลิกก็มีเหตุผลนะเว้ย เพราะกูอยากมีลูก แต่เค้ามีให้กูไม่ได้”
“สัด! ถ้ามึงอยากมีลูก มึงคงไม่ยุ่งกับเด็กผู้ชายตั้งแต่แรกหรอก”
“ก็เออสิวะ!” คังอินหัวเราะลั่นอย่างไม่ได้รู้สึกผิด “ช่วยไม่ได้เว้ย! ก็กูมันเพลย์บอยนี่หว่า”
“เพลย์บอยเค้าไม่หลอกเปิดซิงเด็กอินโนเซ้นส์กันหรอกโว้ย อย่างมึงน่ะไม่ได้เรียกเพลย์บอย เค้าเรียก...เหี้ย”
คนถูกด่าแทบสำลักเสียงหัวเราะตัวเอง พอตั้งหลักได้ก็สวนกลับด้วยความหงุดหงิด “เฮ้ย...ไอ้ซีวอน มากไปแล้วนะเว้ย ทำปากดีไปเถอะ มึงเองก็ไม่ได้ต่างจากกูนักหรอก”
ซีวอนชะงัก เขาหันมามองอีกฝ่าย “กูไม่เคยทำแบบมึง”
“แต่มึงก็คบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้านี่หว่า กูถามจริงเถอะ! เดือนนี้มึงนอนกับผู้หญิงมากี่คนแล้ว”
“แต่กูไม่เคยหลอกเค้า” ซีวอนบอกนิ่งๆ
คังอินหัวเราะแล้วเริ่มอธิบายตามทฤษฎีที่แวบเข้ามา
“คืองี้นะเว้ย...มึงกับกูก็เป็นเพลย์บอยด้วยกันทั้งคู่ ต่างกันแค่รสนิยม มึงชอบนอนกับสาวๆ ประสบการณ์สูง ส่วนกูชอบเด็กผู้ชายอินโนเซ้นส์ เพราะฉะนั้นวิธีการมันก็ต่างกันใช่มั้ยล่ะ สาวๆ ของมึงโอเคกับวันไนท์สแตนด์ มึงเลยโชคดีไป แต่ของกูนี่สิ มึงต้องเข้าใจว่าเด็กมันยังไม่เคยนะเว้ย เพราะฉะนั้น! กูก็เลยต้องใช้เทคนิคหลอกล่อบ้าง แล้วพอเลิกกัน...กูก็อุตส่าห์หวังดี เพราะว่าเด็กน่ารักอ่อนแอนิสัยอินโนเซ้นส์แบบนั้นน่ะมักจะตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ กูเป็นห่วงอนาคตเค้า กูเลยสอนให้เค้ารู้ไงว่าโลกแห่งความจริงมันออกจะ...โหดร้าย”
ซีวอนถอนหายใจเสียงดัง จากนั้นก็รีบเดินจ้ำไปที่รถ
คังอินมองแผ่นหลังของเพื่อนแล้วยิ้มกระหยิ่ม เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ซีวอนไม่เคยเถียงชนะเขาได้สักครั้ง สุดท้ายก็ทำเป็นงอนแล้วเดินหนีไป
คังอินยืนมองซีวอนหยิบกุญแจรถขึ้นมาเปิดล็อคอัตโนมัติ เขาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่น
“เจอกันที่เดิมตอนสี่ทุ่มนะเว้ย กูไม่ได้บังคับ...แต่มึงต้องไป”
“นั่นมันรสนิยมมึง ไม่เกี่ยวอะไรกับกู”
ซีวอนหันมาตะโกนตอบ คังอินยิ้มนิ่งๆ และยักไหล่เป็นเชิงไม่สนใจ ซีวอนจึงเดินกลับมา พูดตรงๆ ด้วยความอึดอัด
“มึงเลิกชวนกูไปบาร์เกย์กับมึงซักทีเถอะว่ะ แล้วไปทีไรมึงก็ทิ้งกูไว้ที่โต๊ะคนเดียวตลอด กูโคตรอึดอัดเวลามีผู้ชายเข้ามาจีบกู”
“มึงก็บอกไปสิว่ามึงมากับแฟน”
“หา?” ซีวอนหน้าเหวอ เขาหลบสายตาคนตรงหน้า ความคิดแล่นช้าไปเล็กน้อย กว่าจะเข้าใจที่เพื่อนพูดก็กินเวลาหลายวินาที “แฟน? หมายถึง...มึงน่ะเหรอ! เฮ้ย...เดี๋ยวนะ! จะบ้ารึไง!”
คังอินหัวเราะกับท่าทางตกใจของซีวอน “ก็แค่ให้แกล้งบอกไป ส่วนมากแล้วพวกนั้นจะไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้วเว้ย เอาตัวรอดน่ะรู้จักมั้ย”
“กูไม่ไปจะง่ายกว่ามั้ย” ซีวอนเริ่มหงุดหงิด
“ไม่ได้! ถ้ามึงไม่ไปแล้วใครจะเป็นพ่อสื่อให้กูล่ะ ไปเถอะน่า ถือว่า...ช่วยให้เพื่อนสมหวัง” เมื่อได้ยินคังอินพูดเช่นนั้น ซีวอนก็แค่นหัวเราะ
“คนที่แล้วมึงสัญญาว่าจะดีกับเค้าให้มากกว่านี้ แต่แล้วไม่กี่วันมึงก็บอกเลิกเค้า พอมาถึงคนเมื่อกี๊มึงก็อุตส่าห์คบมาได้ตั้งนาน แต่จู่ๆ มึงก็บอกว่าเบื่อแล้ว อยากหาคนใหม่ ก็เลยหาข้ออ้างทิ้งเค้า แล้วเมื่อไหร่มึงจะเจอคนที่ใช่ซักทีวะ”
“ก็ใช่ทุกคนนั่นแหละ แต่มันใช่คนละแบบไง เพราะฉะนั้นกูก็เลยอยากลองหลายๆ แบบน่ะสิ แบบเดียวมันก็จำเจน่าเบื่อไม่ใช่รึไง” คังอินไม่ได้รู้สึกผิดที่พูดออกมา แล้วพอหันไปเห็นสีหน้าไม่พอใจของซีวอน เขาก็ยกยิ้ม
“นี่...การคบใครซักคนมันก็เหมือนการเดินทางเว้ย มันไม่มีที่สิ้นสุด”
“โครตชั่ว...” ซีวอนพึมพำตามอารมณ์โดยไม่ได้ตั้งใจ
“อ้าว! ด่ากูอีกแล้ว ถ้ากูชั่ว...มึงก็ชั่วเหมือนกันนั่นแหละ เพราะทุกคนที่กูจีบติดได้ก็เพราะมึง อย่างคนที่เพิ่งตบหน้ากูเมื่อกี๊มึงก็เป็นคนไปขอเบอร์มาให้กูไม่ใช่เหรอวะ” คังอินยกมือกอดอก ยืนหัวเราะหึหึ
“อะไรนะ...นี่มึง!” ซีวอนอยากด่ากลับแต่ด่าไม่ออก ที่คังอินพูดมาก็จริง เขามักทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้เพื่อน และยังไม่เคยทำพลาด เขารู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น และโมโหตัวเองที่ยังยอมช่วยไอ้คังอินอยู่เรื่อยๆ เขาจึงอาละวาดกลับไป “อ๋อ! นี่มึงโทษกูใช่มั้ย งั้นต่อไปกูจะไม่ช่วยมึงอีกแล้ว!”
“เฮ้ย! กูขอโทษๆ กูไม่ได้ตั้งใจจะโทษมึงนะเว้ย อย่างอนน่า ก็ถ้ามึงไม่ช่วยกูแล้วใครจะช่วย มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเท่าที่กูเคยคบมา แล้วกูก็ไว้ใจมึงคนเดียวเลยนะ ถ้าไม่ได้มึงช่วยจีบเด็กให้กูคงต้องเหงาเปล่าเปลี่ยว มึงเป็นเพื่อนที่ดีมาก น่ารักมาก แล้วกูก็รักมึงมากๆ เลยนะ”
“พอๆ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี” ซีวอนก้มลงเล่นกุญแจรถที่ถือไว้ในมือเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกแปลกๆ ที่เขารับมือกับมันไม่ถูก
“งั้น...วันนี้ไปกับกูนะ เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้ามึงเอง” คังอินยิ้มตาหยี อีกฝ่ายจึงพูดอะไรไม่ได้ ปฏิเสธก็ไม่ได้ จำใจต้องพยักหน้าส่งๆ
ที่ผ่านซีวอนก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นไม่ถูกต้องเอาเสียเลย เขาไม่ควรตามใจไอ้คังอิน ไม่ควรช่วยมันจีบใครเพื่อให้มันฟันแล้วทิ้ง ไม่ควรใจอ่อนเวลามันขอให้ช่วย และไม่ควรรู้สึกดีเวลาที่ถูกมันชม ถึงอย่างนั้น...ซีวอนก็ไม่เคยทำได้ ทว่าระยะหลังๆ มานี้เขาวางตัวลำบากขึ้น เขายังรู้สึกดีกับคำชมของเพื่อนเวลาที่เขาจีบเด็กให้มันได้สำเร็จ แต่ขณะเดียวกันเขาก็อึดอัดที่ต้องเป็นเหมือนส่วนเกินในขณะที่ไอ้คังอินคบกับใคร เขารังเกียจตัวเองที่ดีใจเมื่อไอ้คังอินเลิกกับคนที่คบอยู่ และเสียใจยิ่งกว่าที่มันเริ่มขอร้องให้เขาช่วยหาคนใหม่ให้
คังอินยิ้มกว้างให้เขาอีกครั้ง ก่อนจะโบกมือ “โอเค แล้วเจอกัน”
ซีวอนเบือนหน้าหนี แกล้งมองไปที่ประตูรถ และนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ สิ่งที่ทำให้ซีวอนกังวล ณ ตอนนี้คือความคิดบางอย่างที่ออกจะแปลกประหลาด เขารู้สึกไม่ชอบใจ...และไม่ชอบเห็นสีหน้าดีอกดีใจของเพื่อนในเวลานี้เลยจริงๆ
ความคิดเห็น