ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    D&D (Devil & Demon)

    ลำดับตอนที่ #3 : สิ่งที่เสียไป กับ สิ่งที่ได้มา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 666
      1
      4 ก.ค. 49

    ตอนที่ 3 สิ่งที่เสียไป กับ สิ่งที่ได้มา


     

                    เฮ้ ตื่นได้แล้วพี่ใหญ่

     

                    อ้าว เอ๋ นี้ฉันหลับไปเหรอเฟอเมสสลึมสลือตื่นขึ้นมาแถมยังบิดขี้เกียจอีกต่างหาก

     

                    แล้วคิดว่าอะไรล่ะ ว่าแต่ฉันมีเรื่องจะถามอะไรนายหน่อยผมรีบเข้าเรื่องเพราะสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี

     

                    ฮิๆ ถามมาเลยฉันน่ะรอบรู้หลายเรื่องนะจะบอกให้เฟอเมสตอบด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ ส่วนผมก็คิดว่าขอให้มันจริงล่ะกัน

     

                    นายรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับร่างสิงสู่ของพวกปีศาจ

     

                    ร่างสิงสู่!!??อืม.....ก็เป็นคนที่ถูกสิง จะไม่มีสติอยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ส่วนร่างกายที่ถูกสิงจะมีแรงมากกว่าปกติหลายเท่า ขนาดที่ว่าบีบเหล็กให้งอหรือกัดกระดูกให้แตกยังได้ ว่าแต่นายก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

     

                    ก็รู้ แต่ฉันกำลังพูดถึงกรณีสิงสู่เกินสองครั้งในร่างเดียวกัน

     

                    ครั้งที่สอง อ้อๆ แบบนี้เอง ว่ากันว่าการสิงสู่จะไม่ทำซ้ำ เพราะร่างกายจะต่อต้าน แต่ว่าก็มีบางประเภทที่สามารถทำแบบนั้นได้ หลังจากครั้งที่สองไปแล้วประสาทสั่งการจะเชื่อมต่อได้ดีกว่าครั้งแรก พวกนี้อาจเคลื่อนไหวตัวได้เหมือนปกติทุกอย่างไม่มีอาการติดขัดหรือตอบสนองช้า เห็นว่าสามารถทำการสิงสู่ร่างได้นานขึ้นด้วย ฉันเองก็รู้เท่านี้ล่ะ เพราะกรณีแบบนี้ไม่มีให้พบเห็นมากนักเฟมเมสบอกเสร็จก็อดคิดไม่ได้ว่าคำว่าครั้งที่สองมันต่างจากครั้งที่สิบหรือร้อยด้วยไหม

     

                    สงสัยวันนี้พวกเราจะได้เห็นกันแล้วล่ะ เพราะตอนนี้มีพวกร่างสิงสู่แบบขาประจำอยู่อย่างน้อย 4 คน

     

                    พูดจริงเหรอ!!?? แบบยินยอมด้วยหรือเปล่าผมพยักหน้าตอบพลางมองไปที่ฟิซิโอ้ซึ่งตอนนี้หลับไปแล้ว

     

                    มันมาเตือนเรื่องห้ามเราใช้ปืน เพราะทางมันเองก็ต้องการเดินทางเฉยๆ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ........เฟอเมส พวกเราย้ายไปที่อื่นกันเถอะ

     

                    ที่ไหน!!??”เฟอเมสถามพลางรีบลุกขึ้นตามหลังผมมา

     

                    ห้องเก็บสัมภาระท้ายเครื่อง พวกมันคิดจะลงมือแล้วถึงตอนนี้ผมเย็นสั่นไปทั้งตัวจนแทบจะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ และท่าทางพวกมันเองก็เตรียมพร้อมไว้ด้วยเหมือนกันขนาดเข้าสิงพวกแอร์เพื่อไม่ให้เข้ามาขวางทาง

     

                    ถึงเวลาที่พวกข้าจะล่าแกคืนบ้างแล้ว โฮลี่ ไกด์แอร์ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงจุดพักเอียงหน้าที่ขาวซีดมาบอกด้วยน้ำเสียงแหบพล่าเหมือนเสียงคนแก่

     

                    ตามสบายแต่หวังว่าแกคงไม่เข้ามาอยู่ในสถิติของปีศาจที่ฉันฆ่าไปด้วยหรอกนะ

     

                    นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกขู่หรือตกเป็นเป้าหมาย ในกลุ่มปีศาจก็มีสังคมของมันอยู่ และในสังคมนั้นก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมเลย โฮลี่ ไกด์ที่ฆ่าปีศาจนับพัน ขัดขวางทุกวิถีทางต่อการหาอาหาร เป็นเหมือนมีดที่คอยกรีดแทงพวกมัน โฮลี่ ไกด์ผู้มีดวงตาสีเทาประดุจเมฆหมอกใต้แสงจันทร์ ผมสีแดงเลือดราวกับทะเลโลหิต ฉายาที่พวกมันเรียกผมคือ โว ที่แปลว่า ฉิบหาย ชื่อของ โวแมน เดอะ เกรอาย จึงเป็นเหมือนชื่อจริงของผมที่ใช้ในโลกของพวกมัน

     

                    และคราวนี้ชื่อเสียของผมก็ดูจะเป็นสาเหตุที่ดึงดูดเอาพวกปีศาจตามมาด้วย พวกมันไม่ได้มีความรู้สึกซับซ่อนขนาดจะเป็นโกรธเป็นแค้นแทนเพื่อนๆ ที่ตายไป แต่ว่ามันรู้สึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ มันรู้ว่าการคงอยู่ของผมส่งผลกระทบต่อการกินของพวกมัน........ไม่ช้าก็เร็ว

     

                    ระหว่างที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยผมกับเฟอเมสก็ลงมาอยู่ที่ห้องเก็บสัมภาระแล้ว ซึ่งมันค่อนข้างกว้างใช้ได้เลยมีพื้นที่ที่กั้นด้วยผ้าตะข่ายไว้เก็บของเป็นบล็อกๆ ไป ถึงเรื่องสถานที่จะไม่เป็นอุปสรรคสักเท่าไร แต่ปัญหาที่ผมกำลังวิตกอยู่ก็คือ พวกปีศาจมันรู้แล้วว่าผมไม่สามารถสวดไล่ได้ตราบใดที่พวกมันยังแกว่งมีดหรือเศษกระจกไปมาอยู่แบบนี้จนไม่อาจเข้าไปแตะตัวมันใกล้ๆ ได้

     

                    ให้ตายเถอะ ไม่เคยคันมืออยากยิงพวกมันเท่านี้มาก่อนเลยผมต้องบ่นออกมาอย่างทนไม่ไหว ไอ้ตอนจะหามันสักตัวกว่าจะเจอก็เล่นเอาเหนื่อย แต่พอเจอมันตรงๆ กลับทำอย่างเคยไม่ได้ อะไรมันจะน่าหงุดหงิดขนาดนี้

     

                    .........9 ตัว เทโรทีน มีบทสวดอะไรที่ไล่พวกมันไปได้ไหมเฟอเมสหันมาถามแต่เขาก็คงรู้ล่ะว่าตอนนี้พึ่งพาบทสวดขับไล่อะไรไม่ได้แล้วเนื่องจากมือที่ขยับไปจับปืนตามสัญชาตญาณ

     

                    ฉันไม่ใช่ เอ็กซ์โซซิส นะ ถ้าจะใช้บทสวดก็ต้องมีการแตะต้องร่างสิงสู่ด้วย ตามหลักมันต้องมีลูกทีมอยู่ช่วยสามหรือสี่คนคอยกดร่างสิงสู่ไว้ นอกเสียจากนายจะหยุดพวกมันทั้ง 9 ตัวให้อยู่เฉยๆ ได้

     

                    งั้นปลุกเสกของศักดิ์สิทธิ์สิ ไม้กางเขนหรืออะไรก็ได้

     

                    ฉันไม่ใช่ นักบวช เฟ้ยจะได้เสกของได้ตามใจชอบ พวกน้ำมนต์หรือการอวยพรสู่สิ่งของพลังศักดิ์สิทธิ์ของฉันมันอยู่ได้แค่ 10 วินาทีเท่านั้นล่ะ

     

                    .......อย่างกับนักบวชของเก๊เลยนายเนี่ยมันว่าผมโดยไม่ได้ดูตัวเองเลย

     

                    แล้วแต่จะคิดเถอะ.........แต่ฉันบอกไปแล้วนี้ว่าไม่ถนัดการขับไล่ปีศาจ

     

                    ใช่แล้วผมไม่ถนัดการขับไล่เลยแม้แต่น้อยมันเป็นเหมือนของเล่นขั้นเวลา เพราะสิ่งที่ถนัดที่สุดคือการฆ่าพวกมันต่างหาก และไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะปืนเพียงอย่างเดียว คาโรโร่ ได้สอนทุกอย่างที่สามารถจะใช้ฆ่าคนได้ เพราะงั้นถึงตอนนี้ผมจะไม่มีปืนสักกระบอกแต่ถ้าเป็นของมีคมสัก 10 หรือ 20 ชิ้นล่ะก็ผมมีติดตัวแน่ล่ะ

     

                    ตั้งแต่แว่นตาดำที่ผมมักจะพกติดตัว ตรงขาแหวนสามารถหมุนออกซึ่งตรงแกนมันจะเป็นเหล็กแหลมไว้ใช้แทงทะลุกะโหลกได้สบายๆ และแผ่นเหล็กอ่อนที่เก็บไว้ตรง ปกคอเสื้อ กับ เข็มขัด ซึ่งพอดึงออกมาแล้วมันคมพอจะตัดกระจกกันกระสุนหรือจะตัดหัวใครสักคนโดยไม่ต้องออกแรง ที่แขนเสื้อยังมีลวดใยเหล็กแบบพิเศษที่มีความยืดหยุ่นสูง แถมยังมีถึงสองชนิดแบบที่มีคมกับแบบที่ไม่มีคม ไม่นับพวกมีดพับปลายที่สามารถเก็บตัวใบมีดไว้กับวัสดุพิเศษที่กันการตรวจของเครื่องตรวจจับโลหะ ซึ่งพอผมควักของเล่นพวกนี้ออกมาก็รู้สึกว่าผิดนิดหน่อยเพราะดูเหมือนผมจะทำให้เฟอเมสกลัวขึ้นมาแทนซะแล้ว

     

                    นะ นี้นายเป็นนักบุญหรือฆาตกรหั่นศพกันแน่ เทโรทีนเฟอเมสชี้นิ้วที่สั่นระริกเพราะความกลัวมาที่ผม

     

                    .......ก็แล้วแต่ว่า สิ่งที่หั่นมันเป็นคนหรือปีศาจ

     

                    ดูเหมือนอาจารย์ของเฟอเมสเองก็คงเป็นพวกอ่อนหัดเพราะนอกจากการใช้ปืนแล้วเฟอเมสไม่เหมือนคนที่พอจะทำอย่างอื่นได้เลย แต่จะว่าก็ไม่ได้เพราะโฮลี่ ไกล์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเจ้าเฟอเมสนี้ล่ะ ประมาทและหลงติดไปกับชีวิตที่ใกล้เคียงอมตะจนลืมไปว่า ข้างหลังชีวิตที่สองนั้นมันแลกมาด้วยสิ่งใด อะไรคือสิ่งที่เสียไป และอะไรคือสิ่งที่ได้มา.........แต่ไม่ใช่เรา

     

                    ระวังมันเริ่มแล้วคำเตือนสุดท้ายที่ผมจะบอกต่อเฟอเมสก่อนที่ตัวผมเองจะหายไปหลังกองสัมภาระ

     

                    เฮ้ย เดี๋ยวก่อน!!?? เทโรทีนเฟอเมสตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นผมหายไปปล่อยให้เขาอยู่สู้กับพวกปีศาจตามลำพัง และพวกมันก็กำลังอยากจะละเลงเลือดอยู่พอดี

     

                    พวกมันเริ่มลงมือกันเพียงแค่ตัวเดียวก่อนมันวิ่งไต่มาตามเพดานราวกับเป็นแมงมุม เฟอเมสรีบหันหลังวิ่งหนี อ้อ ผมบอกได้เลยว่าเขาพลาดแล้ว เล็บมือถูกตะบบลงไหล่ทั้งสองจนฝั่งไปถึงข้อนิ้วที่สองตัวของเฟอเมสถึงยกขึ้นลอยเหนือพื้นในสภาพหมดทางดิ้นรน พวกปีศาจตัวอื่นๆ ก็หัวเราะก่อนจะเดินเข้ามารุมแทะกัดกินอย่างสบายอารมณ์

     

                    ตอนแรกที่คิดจะให้เฟอเมสเป็นเหยื่อดึงความสนใจของพวกมันก่อนจะหาโอกาสเก็บมันทีล่ะตัวจากข้างหลัง แต่ดูท่าจะใช้ไม่ได้ผลซะแล้วเพราะเฟอเมสอ่อนหัดกว่าที่คิดไว้เยอะ เขาไม่รู้วิธีป้องกันตัวหรือแม้จะควบคุมสติได้ดีพอภายใต้สถานการณ์เขย่ากึ๋นเช่นนี้

     

                    .......ใช้นิ้วกดไปที่ก้านกระดูกที่เลื่อนต่ำลงมาจากข้อมือสิสุดท้ายผมก็ต้องเผยตัวออกมาพร้อมกับให้คำแนะนำมันจนได้สิน่ะ

     

                    เฟอเมสพอได้ยินเสียงผมก็รีบทำตามทันทีซึ่งการบีบลงไปที่จุดนั้นแรงๆ จะทำให้มือหมดแรงกำลงได้อาการชาที่นิ้วจะอยู่นานหลายวินาทีซึ่งพอจะทำให้เฟอเมสหลุดออกมาจากการยึดตัวไว้กลางอากาศ

     

                    หมอบลง แล้วอย่าละสายตาไปจากพวกปีศาจอีกผมบอกพลางเข้าไปก้าวหน้าอีกก้าว เพื่อทำให้พวกปีศาจสังเกตเห็นชัดขึ้น

     

                    มาสิ พวกแกอยากจะฆ่าฉันไม่ใช่หรือไง โวแมน ที่พวกแกชิงชังจนเก็บกดความรู้สึกอยากจะฆ่าไว้ไม่ไหว

     

                    โวแมน!!?? นี่นายคือโวแมน เดอะ เกรอาย เหรอ เทโรทีนเฟอเมสหันมาจ้องผมด้วยความตกตะลึง ก็ไม่น่าแปลกหรอกนะใครๆ ก็มองแบบนั้นเวลาได้ยินชื่อที่พวกปีศาจใช้เรียกผมกัน

     

                    บอกแล้วไงอย่าละสายตาจากพวกปีศาจ มีชีวิตให้ตายเยอะนักหรือไงกันผมเตือนก่อนจะขยับขาเข้าไปหาพวกปีศาจอีกก้าวซึ่งสามารถกระตุ้นให้พวกมันกระตุกตามได้เป็นระยะ

     

                    ไม่มีเสียงระฆังเตือนพวกมันต่างก็กรูเข้ามาหาผมและต่างยกอาวุธที่ถือไว้ ซึ่งสำหรับพวกมันแม้ว่าจะเป็นเพียงขวดนมเด็กก็ใช้เป็นอาวุธได้อยู่แล้ว แต่ที่ต้องระวังให้มากที่สุดก็คือการที่ถูกมันจับตัวได้ ไม่ดีเลยถ้าจะเสียแขนหรือขาไปเพราะถูกกระชากออกจากร่างไปเหมือนกับดึงแขนขาตุ๊กตา และไม่ต้องสงสัยว่ามันจะเคี้ยวกระดูกได้เร็วกว่าหมาพันธุ์ร็อคไวเลอร์

                   

                    ของมีคมที่ผมมีถ้าพูดกันจริงๆ มันไม่มีประโยชน์มากนักหรอก ต่อให้ใช้แทงเหล็บเสียบทะลุกกระโหลกมันอย่างมากก็ทำให้มันเป็นอัมพาตไปครึ่งตัว ถ้าแทงเข้าที่กระดูกสันหลังไม่ตรงจุดก็อาจเสียการควบคุมแค่แขนหรือขาไปข้าง ถึงจะปาดคอมันแต่ก็อีกหลายนาทีกว่าเลือดมันจะออกจนหมดตัว เพราะงั้นการยัดกระสุนเข้าไประเบิดสมองมันให้กระจุยเป็นทางเลือกที่ง่ายและได้ผลเร็วที่สุดแล้ว

     

                    .........หยิบยื่นพลังของท่าน ประทานเส้นด้ายแห่งสวรรค์สู่เรา ผูกมัดมัน พันธนาการไว้ใต้ฝ่ามือท่าน

     

                    การประทานพรมีหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่ผมพอใช้ได้ก็คือการประทานพรใส่วัตถุ อย่างในตอนนี้ผมได้ประทานพรใช้เชือกที่ใช้มัดของ ถึงมันจะไม่ได้มีอนุภาพเหมือนกับในหนังที่ใช้ตัดร่างของพวกผีเป็นสองเสี่ยงได้ แต่มันก็ทำให้พวกปีศาจอ่อนแอลงได้ เหมือนกับไปรบกวนการสิงสู่ร่างทำให้ควบคุมร่างไม่ได้ดังใจ เป็นทางเดียวที่ช่วยลดความเร็วเหนือมนุษย์ของพวกมันลงมาได้บ้าง

     

                    ปลายเชือกถูกผูกอยู่ที่พื้นซึ่งเหนียวแน่นพอจะหยุดพวกมันไว้ได้ครู่ใหญ่ แต่เชือกยาวเพียงไม่กี่เมตรไม่เพียงพอจะหยุดพวกมันทุกตัวได้ เลยต้องคิดแผนขึ้นมาแทน เปลี่ยนจากวิธีเดิมๆ มาเป็นทำให้เชือกเป็นเหมือนตาข่ายสูงจากพื้นขึ้นมาไม่กี่เซน ซึ่งพอพวกมันเข้าเหยียบก็เหมือนถูกตรึงให้หยุดอยู่กับที่เป็นหนูติดกับอย่างไงอย่างงั้น

     

                    พวกปีศาจเองก็ไม่มีความระวังพอจะสังเกตเห็นเชือกที่ร้อยกันเป็นตาข่ายที่พื้นซะด้วยงานนี้อาจง่ายกว่าที่คิด ทว่าเรื่องผิดคาดที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้มันเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ พวกมันวิ่งเข้ามาอยู่ในตาข่ายได้โดยไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใดจนคิดว่าพลังศักดิ์สิทธิ์มันหายไปแล้ว

     

                    มีดสองเล่มที่อยู่ในมือได้ปาออกไปปักกลางหน้าผากของพวกมันสองตัวแต่ก็ไม่ช่วยอะไรได้เลย มันพุ่งตัวเข้ามาถึงตัวเร็วมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากกลิ้งตัวกลับหลังเพื่อหลบทิ้งระยะออกมา

     

                    พรสั่วๆ พรรคนั้นใช้กับพวกเราไม่ได้หรอกนะเสียงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นจากประตูห้องทางเข้า พอหันไปมองจึ่งเห็นเด็กผู้ชายอายุประมาณ 14 15 กำลังนั่งดูอยู่

     

                    ปีศาจนะไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นเองได้หรอก แต่รู้ไหมอะไรที่ทำให้พรของนายใช้ไม่ได้ผลเด็กน้อยถามพลางยกมือขึ้นให้พวกปีศาจหยุดมือ ราวกับเป็นเจ้านายที่ออกคำสั่งได้ตามใจชอบ

     

                    .........แบบนี้เอง ร่างสิงสู่ที่โสมมผมเข้าใจได้ในทันทีหลังจากสังเกตดูร่างที่พวกมันใช้กันซึ่งแต่ล่ะคนกักขะไม่เบาเลย

     

                    ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือมนุษย์มันก็มีบาปด้วยกันทั้งนั้น ความชั่วช้าสามาน สิ่งแปดเปื้อนในสังคม ทุเรศดีไหมล่ะ พลังของพระเจ้ากลับถูกความชั่วร้ายของมนุษย์ทำลายลงซะเอง

     

                    เอ่อ เรื่องนี้ฉันเองก็เข้าใจถึงแก่นเลย

     

                    ........โฮลี่ ไกด์ ไม่สิ โวแมน คนที่มีความสามารถเช่นนายพวกเราเองก็ไม่อยากจะฆ่าหรอกนะ เอางี้ไหม.....มาเป็นพวกเดียวกับเราเด็กน้อยเอ่ยปากชวนแถมยังเดินเข้ามาหาอย่างไม่มีท่าทางหวั่นกลัวอาวุธในมือผมด้วย

     

                    พวก...........ผมได้กลิ่น......กลิ่นของความไม่ชอบมาพากล บางอย่างที่สลับซับซ่อน

     

                    ใช่แล้ว สงครามศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเริ่มต้น ถึงเวลาที่โลกจะแบ่งออกเป็นสองส่วน นายมีสิทธิจะเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายพระเจ้า หรือ ฝ่ายปีศาจเช่นพวกเรา สงครามที่จะบัญญัติสิ่งที่เรียกว่าความดีขึ้นมาใหม่ อย่าปฏิเสธเลย โวแมน พวกเราจับตาดูนายอยู่ระยะหนึ่งแล้ว เรารู้ เราเห็น เรารู้สึกถึงความเป็นคนโลกมืดของนายได้ ยื่นมือของออกมา ครอบครัวของนายอยู่ที่นี้แล้ว

     

                    ผมทิ้งมีดในมือลงอย่างอ่อนแรง เดินตรงเข้าไปหาพวกมันราวกับถูกดูดเข้าไป พวกปีศาจต่างเปิดทางให้เหมือนผมเป็นคนสำคัญที่จะก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งอะไรสักอย่าง.......คนโลกมืดเหรอ จะพูดแบบนั้นก็คงได้มั่ง ไอ้ชีวิตที่ต้องจมอยู่กับความแค้นตามลำพัง ใช้ชีวิตยามราตรีทำตัวออกห่างแสงสว่าง ชิงชังผู้คนพอๆ กับที่เกลียดชังพวกปีศาจ

     

                    เรารู้อยู่แล้วว่านายต้องเข้าใจ โวแมนเด็กน้อยเอ่ยขึ้นอีกครั้งทันทีที่ผมเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ใกล้พอจะได้กลิ่นเห็นของเจ้าปีศาจที่สิงอยู่อยู่ในตัวเด็กคนนี้

     

                    เอ่อ เข้าใจ แต่ว่าไอ้ชาติชั่วที่ไหนล่ะที่เป็นสาเหตุการตายของครอบครัวฉัน ถ้าไม่ใช่พวกแกผมไม่สนหรอกว่าต้องเลือกฝ่ายไหนไปทำไม สงครามศักดิ์สิทธิ์คืออะไร เพราะชีวิตที่สองนี้มันได้อุทิศให้แก่ความแค้นของคนที่ตายไปเรียบร้อยแล้ว พอคิดแบบนั้นจึ่งไม่มีความลังเลอีกต่อไปที่จะแทงยัดเข็มเหล็กที่ดึงมาจากขาแหวนใส่กลางกะโหลกของมันจนมิด

     

                    เจ้าคนโง่~~~”มันตะโกนด่าด้วยสีหน้าโกรธสุดขีดดวงตาลุกวาวเป็นกระจายสีเขียว

     

                    สงบใจไว้ก่อน เมคุม่า บอกแล้วไงว่าเขาไม่ใช่คนที่ยอมเลือกเพียงคำพูดของเราไม่กี่คำเสียงของฟิซิโอ้ร้องเตือนไว้ก่อนที่เจ้าเด็กหัวเป็นรูปจะกระโจนเขามาเล่นงาน

                   

                    แต่มันเล่นแทงข้าหัวเป็นรูเลยน่ะเฟ้ย แบบนี้ต้องสิงอยู่จนกว่าแผลจะหายเลยนะปีศาจที่ดูเหมือนจะชื่อเมคุม่าหันไปร้องโวยวายใส่พลางใช้นิ้วกดลงบนรูที่หน้าผากเพื่อไม่ให้เลือดไหลออกมา

     

                    นิดเดียวเอง ใช้อะไรแปะไว้หน่อยก็โอเคแล้วฟิซิโอ้เห็นเป็นเรื่องตลกถึงจะไม่น่าขำเท่าไรก็ตาม

     

                    เจ้าเด็กนี้ก็ร่างสิงสู่ถาวรเหมือนกันเหรอผมอดถามไม่ได้เพราะจากที่ฟังดูมันมีการสื่อสารที่ดูมีความคิดและเป็นห่วงร่างสิงสู่มากกว่าปกติ

     

                    ถูกแล้ว เด็กเจ้าของร่างชื่อ โมอา ส่วนเจ้าปีศาจที่สิงอยู่นี้ชื่อ เมคุม่า แต่เห็นแบบนี้ เมคุม่า สิงคนในครอบครัวนี้มาเกินร้องปีแล้วล่ะ จากพ่อสู่ลูกมาเรื่อยๆ น่าสนใจใช่ไหมล่ะฟิซิโอ้ทำเป็นพูดให้น่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ยอมรับเลยได้คุยกะมันไม่ถึงชั่วโมงกลับได้ความรู้ที่บางทีอาจใช้เวลาเป็นร้อยปีด้วยซ้ำ

     

                    เฮ้ๆ จะคุยกันอีกนานไหม รีบทำให้มันจบเรื่องเลยดีกว่า ไหนๆ เจ้านี้ก็ไม่คิดจะเลือกอยู่ฝ่ายเราอยู่แล้วเมคุม่าร้องขู่จนผมต้องจับเข็มขัดสะบัดออกมาเตรียมจะรับมือ

     

                    การที่เขาไม่เลือกฝ่าย ก็แปลว่าเขาอาจเป็นศัตรูกับฝ่ายพระเจ้าด้วยก็ได้ถูกไหม สหายข้าฟิซิโอ้ชี้ให้เห็นแง่มุมที่ลึกว่า ซึ่งแสดงถึงความฉลาดพอตัว

     

                    ก็จริงของนาย.......แต่ว่าเพียงเมคุม่าเหลือบมาสบตากับผมอีกครั้งมันวิ่งอย่างรวดเร็วขนาดที่ผมไม่ทันแม้แต่กระพริบตา มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เสียงหัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวอย่างสุดขั้วหัวใจ เพราะตั้งแต่เป็นโฮลี่ ไกด์มายังไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตอะไรที่จะเร็วขนาดนี้มาก่อนเลย

     

                    .........อย่าให้ถึงตายล่ะฟิซิโอ้เตือนเบาๆ พร้อมกับที่เมคุม่าอัดศอกเข้ากลางสีข้างผม เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างชัดหู แต่ถึงจะถูกอัดเข้าอย่างหนักแต่กลับไม่ได้ปลิ้วตามแรง ร่างค่อยๆ เซไปก่อนจะหมดแรงทรงตัวจนต้องทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นอย่างหมดท่า

     

                    หนักมือไปแล้ว เมคุม่า ฝืนใช้ร่างกายมากๆ เดี๋ยวโมอาก็ตื่นขึ้นมาร้องไห้อีกหรอกฟิซิโอ้ร้องเตือนอย่างกับรู้ดี

     

                    ไม่ต้องห่วงน่า ยังต้องสิงอยู่อีกนานกว่าแผลจะหาย กว่าจะถึงตอนนั้นพวกอาการอื่นก็หายไปเอง

     

                    แต่ชั่วพริบตาที่พวกมันเอาแต่สนใจผมและดูแคลนความสามารถของโฮลี่ ไกด์ ตัวของเฟอเมสก็ไปยืนอยู่ข้างหลังของเมคุม่าพร้อมกับปืนสีดำจ่อที่ท้ายถอย

     

                    สู่ออบกอดของพระเจ้าเฟอเมสลั่นไกออกมาแต่เสี้ยววินาทีนั้นเองเมคุม่าก็เอียงหัวหลบและใช้ฟันงับเอากระสุนเอาไว้

     

                    .........ผมกับเฟอเมสต่างพูดอะไรไม่ออกเพราะตะลึงงันไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้พวกเราต่างตระหนักถึงความสามารถของร่างสิงสู่อย่างถ่องแท้แล้ว

     

                    เจ้าบ้า บอกแล้วใช่ไหมว่า ห้ามยิงปืน........โอโนมุดรอยยิ้มของฟิซิโอ้สลายหายไปจากใบหน้าเหลือเพียงรอยย่นระหว่างคิ้วที่แสดงความโกรธจัดถึงขั้นเรียกให้ปีศาจมาสิงสู่ร่างในทันที

     

                    ไม่ยอมให้สิงร่างได้หรอกผมรู้ว่าถ้าเกิดมีปีศาจระดับเจ้าเมคุม่าเพิ่มมาอีกตัวจนรอดยากแน่เลยรีบกระโจนด้วยร่างกายที่พอจะขยับไปได้ ความหวังเดียวก็คือแตะร่างมันพร้อมกับบทสอบไล่ปีศาจก่อนที่มันจะควบคุมร่างได้เต็มที่ ทว่าเรื่องผิดคาดก็ไม่ได้เกิดขึ้นวันล่ะครั้งซะล่ะ

     

                    อย่าเอาพวกเราไปเทียบกับปีศาจที่อยู่ข้างหลังนายสิ โวแมน พวกเรานะมันคนละระดับกันฟิซิโอ้บอกขณะยื่นมือข้างหนึ่งมาบีบแขนผมเอาไว้ซึ่งดูจากแรงบีบคงเป็นส่วนที่ยังไม่ได้ถูกควบคุม แต่เอ๋ เจ้านี้มันถึงขนาดแบ่งการควบคุมร่างได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ!!??

     

                    ผิดแผนไปไหนหน่อย แต่ก็........ฆ่ามันซะฟิซิโอ้บอกกับพวกปีศาจคนอื่นๆ จนพวกมันตรงเข้ามาร่วมวงจัดการกับผมและเฟอเมสอย่างหิวกระหาย ทางผมก็หาทางจะสลัดให้หลุดจากฟิซิโอ้ แต่ดูจะช้าไปแล้วแรงของมันเพิ่มมากขึ้นคงจากการสิงสู่ร่างที่สมบูรณ์แล้ว

     

                    เนื้อของโฮลี่ ไกด์รสชาติจะเป็นอย่างไงน่า

     

                    อร่อยอย่าบอกใครผมยังไม่ยอมง่ายๆ ใช้อีกมือที่ขยับได้ดึงเข็มขัดออกเพราะด้านในมันใส่เหล็กอ่อนเอาไว้ใช้เป็นดาบชั่วคราวได้ แต่ก่อนที่จะได้สะบัดมือเจ้าโอโนมุดก็เหวี่ยงผมจนตัวลอย ถึงจะอยู่ในสภาพตัวไม่ติดพื้นผมก็ยังสามารถขยับมือได้จนบังคับให้ปลายดาบอ่อนไปเฉียดหน้าของมันจนเป็นแผลเลือดไหลซิบ

     

                    แต่เหมือนแกจะไม่มีปัญญาได้ชิมหรอกคำพูดของผมดูจะยั่วโมโหเจ้าโอโนมุดได้ผลมันโกรธจนตาโต มันคงแย่น่าดูถ้าเจ้าปีศาจนี้จะใจเย็นเหมือนกับเจ้าฟิซิโอ้ด้วย

                   

                    เฟอเมสเอาปืนมาผมยังคิดว่าถ้าจะรอดก็มีแต่ต้องใช้ปืนสู้แล้ว

     

                    เฮ้ย แล้วจะให้ฉันใช้อะไรล่ะเฟอเมสแหกปากร้องแต่ก็หันไปยิงใส่พวกปีศาจสองตัวจนหัวกระจุยเต็มพื้น

     

                    เอานี่ไปผมโยนดาบอ่อนที่ใช้อยู่ให้ซึ่งเฟอเมสก็รับไปถือด้วยสีหน้าจังงันราวกับหวังว่ามันจะเป็นของปลุกเสกขั้นเลิศ

     

                    พูดเล่นใช่ไหมเฟอเมสหันมาถามแต่ผมไม่มีเวลาเล่นด้วยแล้วจึ่งคว้าปืนมาจากมือเขาเองเลย

     

                    ตกลงกันได้หรือยังพอหันกลับมาเจ้าโอโนมุดก็มายืนอยู่หน้าผมจนแทบจะติดกัน

     

                    ตายซะผมยกปืนขึ้นจ่อคางมันก่อนจะเหนี่ยวไกแต่มันก็ไวมากจนถอยหลบไปได้ แต่ยังหรอกผมยังตามติดเข้าไปใช้ปืนไล่ยิงมันต่อ กระสุน 3 นัดถูกยิงออกไปพร้อมกัน โดยสองนัดที่ใบหน้าและลำตัว แต่นัดสุดท้ายเล็งไปที่ขา ผมรู้ว่ามันน่าจะหลบได้ถ้ายิงใส่ตรงๆ แต่ถ้าเล็งไปหลายๆ จุด มันก็มองตามทุกนัดไม่ไหวแน่

     

                    ก็อย่างที่คิดไว้เลยมันโยกหัวหลบกระสุนนัดแรกได้อย่างง่ายๆ ก่อนจะใช้นิ้วมาคีบหยุดกระสุนที่ตรงเข้าตรงหัวใจ แต่มันมองไม่เห็นกระสุนนัดที่สามที่กำลังจะเจาะตรงเข่า แต่แล้วผมก็ลืมนึกไปว่ามันยังมีอีกตัว เมคุม่า มันพุ่งตัวใส่มือจับกระสุนไว้ก่อนจะเข้าเป้า

     

                    บ้าชะมัดผมไม่คิดว่ามันอยู่ด้วยกันสองตัวแล้วจะร้ายขนาดนี้ แถมกระสุนในปืนก็เหลือเพียงนัดเดียวแล้วด้วย

     

                    เฟอเมส กระสุนพอหันไปมองเจ้าเฟอเมสมันก็วิ่งหนีพวกปีศาจไปจนอยู่อีกมุมห้องแล้ว

     

                    ไม่มีแล้วเฟ้ย แค่พกปืนผ่านด่านตรวจมาได้ก็แทบแย่แล้วเฟอเมสตะโกนบอกก่อนจะวิ่งหนีต่อ

     

                    อ้าว กระสุนหมดแล้วเหรอโอโนมุดถามแบบเย้ยหยันอย่างน่าโมโห

     

                    งั้นก็คราวพวกข้าบ้างล่ะเมคุม่าแสยะยิ้มบ้างและขยับเข้ามาหาอย่างช้าๆ ราวกับกำลังขู่ให้กลัว

     

                    ........เดี๋ยวเมคุม่า ท่าทางมันแปลกๆเสียงฟิซิโอ้กลับมาพูดเตือนเอาไว้ มันยังอุสาสังเกตเห็นที่ผมร่ายบทสวดปลุกเสกใส่กระสุนนัดสุดท้ายตอนหันไปคุยกับเฟอเมสอีก แต่ว่านี้เป็นการเสี่ยงดวงครั้งสุดท้ายจะได้ผลหรือเปล่าอย่างไงก็ต้องยิงล่ะ

     

                    กระสุนถูกลั่นออกมาขณะที่เมคุม่าหันไปฟังฟิซิโอ้พอดี วิถีกระสุนตรงเข้ากลางแสกหน้า แต่ถึงเจ้าเมคุม่าไม่ได้มองอยู่ประสาทหูมันต้องได้ยินแน่ดูได้จากมือที่กระตุกขึ้นมากันส่วนหน้าไว้อย่างได้พร้อมกับเสียงปืนที่ดังขึ้น

     

                    สายตามันเหลือบมามองกระสุนปืนราวกับความเร็วที่กำลังพุ่งไปหาเป็นเพียงแมลงวันตัวหนึ่ง เมคุม่าค่อยๆ ใช้นิ้วกลางลดมาแตะกับนิ้วโป้งเพื่อใช้ดีดกระสุนปืนออก ทว่าคราวนี้ต้องเป็นฝ่ายมเมคุม่าที่ต้องตกใจบ้างเพื่อนิ้วมันกระจุยออกเมื่อถูกกระสุนทะลวงผ่านไป

     

                    นี้มัน!!??”เมคุม่ารู้ตัวทันทีว่านี้คือกระสุนปลุกเสกถึงจะสายไปหน่อยแต่มันก็ไม่คิดจะใช้ฟันคาบกระสุนแบบทีแรกอีกเลยเบี่ยงหัวหลบแทน กระสุนเลยได้แต่เฉียดหน้าจนฉีกแก้มมันจนขาดไปเกือบถึงหู

     

                    บ้าชะมัดใกล้ขนาดนั้นยังหลบได้อีกผมกะว่าพอจัดการได้ตัวหนึ่งไปก่อน แต่ดูท่าต้องเลิกหวังซะแล้ว พวกนี้มันทั้งไว แข็งแรง แล้วก็การโต้ตอบอันน่าเหลือเชื่อ

     

                    เมคุม่าฟิซิโอ้เหมือนกับกำลังจะร้องห้ามแต่ไม่ทันแล้วพอโดนเข้าไปถึงขนาดนี้ทำให้เมคุม่าขาดสติวิ่งอย่างรวดเร็วเข้ามายกร่างผมขึ้นเหนือหัวและทุ่มลงพื้นจนยุบลงไปเป็นคืบ เล่นเอากระดูกลั่นไปทั้งตัวแถมไอ้ที่หักอยู่แล้วก็ดูท่าจะอาการหนักขึ้นไปอีก

     

                    อย่าพึ่งฆ่ามันเมคุม่าฟิซิโอ้ร้องห้ามแต่เมคุม่าไม่ฟังยังยกเท้าขึ้นเตรียมจะกระทืบลงมา คงกะจะกระทืบให้ตัวผมขาดสองท่อนเลยล่ะมั่ง แต่ผมก็ไม่ยอมอยู่ให้โดนฆ่าแน่เลยพลิกตัวหลบมาถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีทางหลบพ้นความเร็วของพวกมันไปได้แน่

     

                    หยุดแค่นั้นล่ะเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมกับปืนกลมือที่ยัดเข้าไปในรอยฉีกขาดตรงแก้มของเมคุม่า ถึงเธอจะส่วมแว่นตาดำเอาไว้อยู่ แต่สีผมและทรงผมของเธอผมก็จำได้แม่นว่าเป็นแอร์ฮอสสเตรจที่มาช่วยผมพยุงยัยป้าอ้วนที่ถูกสิงทีแรก

     

                    แกเป็นใครฟ่ะเมคุม่าถามอย่างหงุดหงิดแต่มันก็ยกเท้ากลับไปช่วยให้ผมรอดตายไปได้อีกสักระยะ

     

                    จีเวล แห่งตระกูล ซูเลย์มาเรสเธอตอบพลางใช้ปืนพยักหน้าไปทางพวกปีศาจตัวอื่นๆ เหมือนกับจะบอกให้ออกคำสั่งให้มันหยุดไล่กินเฟอเมสด้วย

     

                    .........เฮ้ย หยุดฟิซิโอ้สั่งแทนเมคุม่าที่ยังทำท่าไม่พอใจจนไม่อยากจะทำตามที่จีเวลต้องการ

     

                    ลุกไหวไหม คีวิลจีเวลหันมาถามผมแต่ไม่ชอบเลยแฮะเวลาถูกเรียกด้วยชื่อนั้น

     

                    แล้วตระกูลนักล่าอย่าง ซูเลย์มาเรส มายุ่งอะไรกับเรื่องของพวกเราด้วยมิทราบ........หรือว่ามีใครจ้างวานมางั้นเหรอฟิซิโอ้ถามอย่างชาญฉลาดเหมือนเดิม

     

                    ผิดแล้ว ก็แค่ทนเห็นคนรู้จักตายไปต่อหน้าไม่ได้เท่านั้นเอง หรือนายว่าไงคีวิลจีเวลหันมาถามความเห็นผมและทำหน้าเหมือนกับกำลังโกรธเรื่องที่ผมจำเธอไม่ได้ ก็แน่ล่ะใครจะไปจำได้คนในตระกูลนี้ขึ้นชื่ออยู่สองเรื่อง

     

                    หนึ่งก็คือการวางระเบิดสองก็คือการเปลี่ยนโฉมหน้า คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่พบนั้นเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือผู้ชายทั้งแท่ง พวกนี้ปลอมได้แม้กระทั่งเพศของตัวเอง และแน่ล่ะแม้กระทั่งนิสัยก็ยากจะแยกออกแล้วว่ามันชายหรือหญิงกันแน่

     

                    ......ไหนบอกว่าไม่ชอบสาวผมทองไง จีเวล

     

                    ใครรับฟังความเห็นนายกันย่ะ รีบลุกขึ้นแล้วไปที่ประตูลำเลี้ยงสัมภาระเร็วเข้าจีเวลร้องไล่แต่ตัวเธอก็ร้ายพอจะเดาได้ว่าฟิซิโอ้กำลังจะลงมือเพื่อหยุดผมไว้จึ่งควักมือถือขึ้นมาขู่

     

                    แค่ฉันกดปุ่มเดียว ระเบิดที่วางไว้บนเครื่องบินก็จะระเบิดทันที ว่าไงอยากจะตายด้วยกันไหม แต่อ้อ ลืมไปพวกนายมีชีวิตเดียวนี่น่ะจีเวลขู่ได้ผลเพราะดูจากที่พวกมันพยายามป้องกันร่างเต็มที่ตอนสู้กับผมแล้วก็น่าจะเดาได้ว่ามันให้ความสำคัญกับร่างมากแค่ไหน

     

                    ทำแบบนี้ คงรู้ตัวใช่ไหมว่าจะต้องถูกพวกฉันตามล่าไปด้วยฟิซิโอ้บอกแต่ก็ยกมือห้ามไม่ให้ปีศาจตัวอื่นลงมือ

     

                    พูดอย่างกะนายเป็นพวกเดียวในโลกที่ตามล่าตระกูลฉันงั้นล่ะ ไม่ว่าจะคนหรือปีศาจต่างก็ต้องการหัวคนในตระกูลฉันด้วยกันทั้งนั้น แต่พวกฉันก็อยู่อย่างสุขสบายมาได้หลายร้อยปีแล้วนะจีเวลไม่กลัวคำขู่แม้แต่น้อยเพราะอาชญากรค่าหัวแพงอย่างเธอใช้ชีวิตเช่นนี้มาโดยตลอด

     

                    พูดง่ายๆ แล้วจะไม่มีใครต้องเจ็บตัว ต่อให้พวกนายเร็วแค่ไหน แต่คงไม่เร็วเท่าฉันกระดิกนิ้วหรอกจีเวลบอกเสร็จก็ลดปืนลงก่อนจะค่อยๆ เดินมารวมกลุ่มกับผมที่ท้ายเครื่องซึ่งเป็นประตูไว้ลำเลี้ยงสัมภาระออก

     

                    แล้วเอาไงต่อล่ะ จะให้โดดลงจากเครื่องเหรอผมถามเพราะค่อนข้างมั่นใจว่าเธอกำลังแหกตาพวกปีศาจอยู่

     

                    นายนี้เคยเดาอะไรผิดบ้างไหมจีเวลหันมาแกล้งทำหน้าแปลกใจก่อนจะหันไปทุบปุ่มข้างๆ ที่ใช้เปิดประตูทันทีที่มันถูกเปิดออกแรงดูดอันมาหาศาลก็แทบจะพาผมลอยออกจากเครื่องไปยังดีที่รู้ตัวทันและหาอะไรยึดไว้ได้ก่อน ส่วนเฟอเมสเองก็ได้จีเวลช่วยจับขาไว้ก่อนจะลอยหายไป

     

                    กำลังจะหนีเหรอ.......หรือว่า!!??”ฟิซิโอ้หัวไวพอจะเข้าใจได้ว่าพวกผมไม่เหตุที่ต้องให้หนีเลยถ้ามีการวางระเบิดไว้จริงๆ แต่มันช้าไปแล้วที่จะเข้ามาหยุด

     

                    แล้วไว้เจอกันใหม่ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะค่ะ จีเวลหันไปส่งจูบให้กับพวกฟิซิโอ้ก่อนจะถีบผมให้ตกลงมาจากเครื่องและเธอก็พาเฟอเมสกระโดดตามผมลงมาที่หลัง

     

                    แต่ระหว่างที่ล่วงลงมานั้นผมก็ได้มองกลับขึ้นไปทันเห็นสีหน้าที่แสดงความผิดหวังของฟิซิโอ้ได้เป็นครั้งแรกที่มันเห็นจีเวลเตรียมร่มชูชีพเอาไว้เพื่อพาพวกผมลงสู่พื้นทะเลข้างล่างได้อย่างปลอดภัย

     

                    แม้แต่คนรู้จักของโวแมนก็สุดยอดไปเลย แม้ผมล่ะทึ่งจริงๆเฟอเมสเริ่มโวกเวกอีกครั้งเมื่อรู้ตัวรอดกันมาได้แล้ว

     

                    ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากจะรู้จักหรอก

     

                    พูดงี้หมายความว่าไงย่ะ เดี๋ยวแม่ก็ปล่อยตกน้ำซะเลยจีเวลหันมาตวาดใส่ผมทันที

     

                    ว่าแต่........เธอมาทำอะไรบนเครื่องบินเหรอ คงไม่ได้กะนั่งฟรีแน่ๆ

     

                    ก็มาหานายน่ะสิ อย่าบอกนะว่าลืมไปแล้วว่านายเคยทำอะไรตอนพวกเราเจอกันครั้งสุดท้ายผมพยายามคิดถึงครั้งสุดท้ายที่เจอกับจีเวล ผมพบเธอครั้งแรกเมื่อ 10 ปีก่อนขณะยังเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่แสนซน พ่อของเธอชื่อครักเกอร์เคยมาหาผมเรื่องงานเพื่อขอให้ผมไปฆ่าภรรยาของเขาที่ถูกปีศาจสิง และนั้นเลยทำให้ผมเข้าไปมีตัวตนในครอบครัวนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง

     

                    จีเวลไม่เคยโทษผมว่าเป็นคนฆ่าแม่ของเธอเลย แต่มักจะโทษว่าเป็นเพราะพวกปีศาจที่เป็นสาเหตุ และจุดนั้นเองที่ได้นำพาคนในตระกูลนี้เข้าสู่เกมส์ล่าปีศาจของโฮลี่ ไกด์ด้วย ส่วนตัวผมเองก็ไม่ค่อยสุงสิงกับคนในตระกูลนี้สักเท่าไร นอกเสียจากจีเวลที่มักจะถูกส่งมาฝึกงานกับผมเป็นประจำ และครั้งสุดท้ายที่เธออยู่กับผมก็เมื่อ..........ปีก่อน ขณะกำลังไล่ล่าปีศาจหัวหมอตัวหนึ่งอยู่

     

                    จำได้ล่ะ ตอนที่ไปล่าปีศาจแถวประเทศอาหรับคราวนั้น

     

                    แล้วจีเวลจ้องเขม็งมาที่ผมราวกับคาดคั้นให้พูดต่อ

     

                    ...........แล้วฉันก็ฆ่าปีศาจตัวนั้นก่อนจะเผ่นออกมานอกประเทศผมต่อให้จบ

     

                    โดยทิ้งให้ฉันอยู่ที่นั้นตามลำพัง นี้นายเห็นฉันเป็นลูกแมวที่อยากจะทิ้งก็ทิ้งเหรอย่ะ

     

                    ไม่ได้ทิ้ง ก็พ่อของเธอบอกแค่ว่าฝากเธอไว้กับฉันจนกว่างานจะเสร็จ

     

                    แต่อย่างน้อยก็น่าจะพามาส่งที่สนามบินหน่อยสิ ไม่ใช่ปล่อยให้ฉันโดนไล่จับตัวอยู่คนเดียว

     

                    เอาน่า รู้ว่าแค่นั้นเธอเอาตัวรอดได้อยู่แล้วจริงไหม

     

                    ไม่ต้องมามั่วเลย ตะกี้น่าจะปล่อยให้ตายๆ ไปซะให้หายแค้น

     

                    อย่าโกรธน่าคราวหลังจะพาไปแถวเกาะทะเลใต้ด้วย

     

                    จะพาไปทิ้งอีกเหรอไงย่ะจีเวลตะโกนว่าจนรู้สึกเหนื่อยเลยหยุดไปเอง ส่วนคราวนี้ผมก็ต้องหันมามองเจ้าเฟอเมสที่ทำท่าแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

     

                    นายก็จะไปที่สาขาใหญ่ใช่ไหม แบบนี้คงช้ากว่ากำหนดการหน่อยแล้วล่ะนะผมปลอบใจไม่เก่งเลยได้แต่บอกให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้

     

                    ไม่เป็นไรครับ เพราะหน้าที่ผมลุล่วงแล้วเฟอเมสรีบส่ายหน้า

     

                    ลุล่วง??”ผมกับจีเวลพูดขึ้นพร้อมกัน

     

                    งั้นขอแนะนำตัวอีกที ผมเฟอเมส อีเวอสัน เป็นทั้งลูกบุญธรรมและศิษย์ของท่านพ่อคาโรโร่ ซึ่งถูกส่งมาให้มาเป็นบอดี้การ์ดและคนในแฟมิรี่ของคุณโวแมนนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปครับ

     

                    ลูกบุญธรรมของเจ้าบาทหลวงบ้า..........ให้ตายเถอะ ทำไมฉันถึงไม่เอะใจเลยนะ

     

                    ถึงคาโรโร่จะเป็นพวกแปลกๆ และไม่อยู่กะล่องกะลอย แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะอุตาลิไปรับเด็กคนอื่นมาเป็นลูกแบบนี้ คนที่ชอบดื่มเหล้าและทิ้งคนอื่นไปโดยไม่บอกกล่าวอย่างนั้นคิดหาความรับผิดชอบที่ไหนขนาดจะรับเด็กคนหนึ่งมาเลี้ยงไว้........แต่จะว่าไปเรื่องชอบทิ้งคนอื่นโดยไม่บอกกล่าวนี้ผมคงจะติดนิสัยมาจากเขาด้วยล่ะมั่ง

     

                                                                    ............................


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×