ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : บันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "ฝันให้ไกล...ไปให้ถึง" (อัพแล้ว 100%)
เรื่องโดย ~หมูสนาม~ นิสิตแพทย์ มศว MD20
เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2552
ตอบ หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตนั้นมีการเรียนการสอนทั้งหมด 6 ปีการศึกษา จากนั้นก็จะกลายเป็นคุณหมอเต็มตัวแล้ว แต่จะเป็นหมอที่เรียกว่าแพทย์ทั่วไปหรือที่เขาเรียกกันย่อๆว่า GP(General Practice or Physian) ซึ่งหมอทั่วไปก็มีลักษณะงานดังนี้
จะเห็นได้ว่าหากเป็นโรคยากๆหรือโรคที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง แพทย์ทั่วไปก็จะต้องส่งต่อคนไข้ให้แพทย์เฉพาะทางด้านนั้นๆ
เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2552
การมีความฝันนั้น...คือสิ่งที่ดี
ความฝันนั้น...มีความหมายมากล้นเหลือ
ความฝันนั้นมีเพื่อสร้างแรงผลักดัน...ให้แก่จิตใจ
ความฝันนั้น...มีความหมายมากล้นเหลือ
ความฝันนั้นมีเพื่อสร้างแรงผลักดัน...ให้แก่จิตใจ
แต่มิใช่มัวแต่นั่งรอ...ให้ความฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมาเพียงอย่างเดียว
เมื่อมีความฝันแล้วก็ต้องพยายามลงมือทำ
พยายามทำให้ถึงความฝันนั้น
ฝันนั้นอยู่แค่เอื้อมมือของเราเท่านั้น
ลองถามตัวเองว่า
เราลองพยายามที่จะไขว่ขว้ามันหรือยัง?
ฝันไปให้ไกล
ไปให้ถึง...
อย่างอาชีพ"แพทย์" หรือ "หมอ" ก็เป็นอาชีพที่หลายๆ คนมีความฝันที่อยากจะเป็น กว่าที่จะเราจะจบมาเป็นหมอได้นั้นก็ไม่ใช่ของง่าย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินความสามารถของเรา
หากเรานั้นมีความตั้งใจ สิ่งที่ยากกว่าก็คือ "ทำอย่างไรจึงจะเป็นหมอที่ดีได้" มากกว่า
วันนี้ว่าที่EXTERNแบงค์อ่านหนังสือเบื่อๆ เลยแวะมาเช็กบทความดูเล่นๆว่ามีน้องคนไหนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเรียนแพทย์หรือไม่ ก็เลยได้เจอคำถามของน้องคนหนึ่งที่โดนใจ ว่าแล้วก็เอาคำถามของน้องคนนั้นมาตอบให้ในตอนนี้ซะเลย (เหอๆ ตอนแรกว่าช่วงนี้จะไม่อัพตอนเพิ่มอยู่แล้วเชียว แบบว่าอ่านหนังสือสอบก็จะไม่ทันอยู่แล้ว)
ตอบ หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตนั้นมีการเรียนการสอนทั้งหมด 6 ปีการศึกษา จากนั้นก็จะกลายเป็นคุณหมอเต็มตัวแล้ว แต่จะเป็นหมอที่เรียกว่าแพทย์ทั่วไปหรือที่เขาเรียกกันย่อๆว่า GP(General Practice or Physian) ซึ่งหมอทั่วไปก็มีลักษณะงานดังนี้
- ตรวจร่างกาย วินิจฉัยโรค สั่งยา ผ่าตัดเล็ก รักษาอาการบาดเจ็บโรค และอาการผิดปกติต่างๆ ของผู้ป่วย
- ตรวจผู้ป่วยและตรวจหรือสั่งตรวจทางเอ็กซเรย์หรือการทดสอบพิเศษถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
- พิจารณาผลการตรวจและผลการทดสอบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์อื่นตามความจำเป็น และวินิจฉัยความผิดปกติ
- สั่งยา ทำการผ่าตัดเล็กหรือการรักษาอย่างอื่นและแนะนำผู้ป่วยในเรื่องการปฏิบัติตนที่จำเป็นสำหรับการทะนุถนอมสุขภาพหรือการกลับคืนสู่สภาพปกติบริหารยาและยาสลบตามต้องการ
- ทำการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในระยะก่อนคลอด ทำการคลอดและให้การดูแลรักษามารดา และทารกหลังคลอด
- เก็บรักษาบันทึกเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ได้ตรวจโรคที่เป็นและการรักษาที่ได้ให้หรือสั่ง
- ผสมยาอาจรับผิดชอบและสั่งงานสำหรับพยาบาลในโรงพยาบาลหรือสถาบันอื่น
จะเห็นได้ว่าหากเป็นโรคยากๆหรือโรคที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง แพทย์ทั่วไปก็จะต้องส่งต่อคนไข้ให้แพทย์เฉพาะทางด้านนั้นๆ
ดังนั้นหากใครมีความฝันไปมากกว่านั้น เช่น อยากเป็นหมอสูติทำคลอด เป็นหมอเด็กรักษาเด็กน้อย เป็นหมอศัลยกรรมเพราะตนเองเป็นคนชอบผ่าตัด ก็ต้องเรียนต่ออีกเป็น Intern และ Resident ของสาขานั้นๆ และหากต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงขึ้นไปอีกก็ต้องเรียนต่อเป็น Fellow ครับ เช่น จบมาเป็นหมอศัลยกรรมก็สามารถผ่าตัดเกี่ยวกับช่องท้องได้หมด แต่หากเราอยากทำนม เสริมดั้งจมูก หรือทำตาสองชั้นได้ก็ต้องเรียนต่อหมอศัลยกรรมพลาสติกครับ
สรุปรวมระยะเวลาที่ใช้ในการเรียนทั้งหมดก็ประมาณ 6 ปี++ (++ คือบวกระยะเวลาของสาขาเฉพาะทางที่เราสนใจ) แต่น้องๆไม่ต้องตกใจนะว่า...จบมาจะแก่หง่ำเหงือกไปซะก่อน 55 เพราะระหว่างที่น้องเรียนสาขาเฉพาะทางช่วงนั้นน้องก็มีคำนำหน้าว่าคุณหมออยู่แล้ว และเป็นการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย
ว่าที่EXTERNแบงค์มีข้อมูลของแพทย์เฉพาะทางคร่าวๆมาให้ดู(ไม่ครบทุกสาขานะ)
หมอดมยาหรือวิสัญญีแพทย์ (Anesthetist)
ลักษณะของงานมีดังนี้
1. ประเมินผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัดเพื่อการเตรียมการทำวิสัญญีได้โดยถูกต้องและปลอดภัย
2. ตรวจหรือสั่งตรวจทางเอ็กซเรย์หรือการทดสอบพิเศษถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
3. พิจารณาผลการตรวจและผลการทดสอบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์อื่นตามความจำเป็น และวินิจฉัยความผิดปกติก่อนเตรียมการให้ผู้ป่วยรับการทำวิสัญญี
4. แนะนำผู้ป่วยในเรื่องการปฏิบัติตนที่จำเป็นสำหรับการทะนุถนอมสุขภาพหรือการกลับคืนสู่สภาพปกติก่อนและหลังเข้ารับการผ่าตัด
5. ประเมินความพร้อมของผู้ป่วยพร้อมทั้งพิจารณาขั้นตอนวิธีการทำวิสัญญีสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับการผ่าตัดเฉพาะโรคหรือเฉพาะสภาวะรวมถึงการประเมินระยะเวลาที่ต้องใช้ในการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดหัวใจ (Cardiac Surgery) ผ่าตัดทางระบบประสาท (Neuro Anesthsia) เพื่อให้การวางยาสลบหรือการให้ยาชาเป็นไปอย่างถูกต้องกับโรค สภาพของผู้ป่วยและการยอมรับของร่างกายของผู้ป่วย การแพ้ยา และอื่นๆเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและป้องกันมิให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในระหว่างและหลังการผ่าตัด
6. บริหารยาสลบตามต้องการเช่นการให้ยาสลบโดยการสูดดมยาเทคนิคต่างๆ หรือให้ยาสลบทางเส้นเลือดหรือที่เรียกว่า Nerve Block รวมถึงการให้ยาชา ยาแก้ปวด หรือยาหย่อนกล้ามเนื้อขึ้นอยู่กับประเภทของคนไข้และการผ่าตัด
7. จัดเตรียมอุปกรณ์ สำหรับการผ่าตัดในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ เช่นอาจต้องใช้ จอภาพ (Monitor) พื้นฐาน ใส่ท่อสายยางต่างๆที่ต้องใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละกรณี ซึ่งความต้องการจะแตกต่างกันไป
8. เก็บรักษาบันทึกเกี่ยวกับผู้ป่วย และการรักษาที่ได้ให้หรือสั่ง
9. อาจจะอยู่เฝ้าระวังในระหว่างการทำการผ่าตัดผู้ป่วย
10. อาจผสมยาอาจรับผิดชอบและสั่งงานสำหรับพยาบาลในโรงพยาบาล
จิตแพทย์ (Psychiatrist )
ลักษณะของงาน
1. ตรวจร่างกาย วินิจฉัยอาการทางจิต สั่งยารักษาอาการผิดปกติของผู้ป่วย โดยการใช้เครื่องมือทดสอบที่เป็นมาตรฐานร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม การสัมภาษณ์ วิเคราะห์ และแปลผลการทดสอบ
2. ตรวจผู้ป่วยและตรวจหรือสั่งตรวจทางเอ็กซเรย์ หรือการทดสอบพิเศษถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
3. พิจารณาผลการตรวจและผลการทดสอบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์อื่นตามความ จำเป็น และวินิจฉัยความผิดปกติ
4. บำบัดรักษาอาการความผิดปกติทางจิตโดยสั่งยาหรือการรักษาอย่างอื่นและแนะนำผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยในเรื่องการปฏิบัติตนที่จำเป็นสำหรับรักษาตนให้พ้นจากการป่วยไข้
5. เก็บรักษาบันทึกเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ได้ตรวจโรคที่เป็นและการรักษาที่ได้ให้หรือสั่ง
6. อาจรับผิดชอบและสั่งงานสำหรับพยาบาลในโรงพยาบาลหรือสถาบันอื่น
หมอตาหรือจักษุแพทย์ (Ophthalmologist)
ลักษณะของงาน
1. ตรวจสายตา และสั่งให้ทำแว่นตาหรือให้การรักษาตาด้วยวิธีการให้ยาหรือผ่าตัด
2. ตรวจสายตาให้ทราบข้อบกพร่องโดยใช้เครื่องมือและวิธีการทดสอบต่างๆ
3. สั่งขนาดของเลนส์สำหรับประกอบแว่นตา
4. ให้คำแนะนำในการฝึกสายตาตามความจำเป็นเพื่อรักษาสายตาให้ดีขึ้น
5. ตรวจตา วัดสายตา วัดความดันตา ตรวจดูกระจกตาความลึกของช่องหน้าลูกตาลักษณะม่านตา ปฏิกริยาต่อแสงสว่าง ตรวจดูจอประสาทตา
6. อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติ หรือคนใกล้ชิดได้เข้าใจถึงลักษณะของโรคตาการกำเนิดโรค แนวทางเลือกในการรักษา
7. สำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับการผ่าตัดต้องตรวจตาและร่างกายทั่วไปและอธิบายการดำเนินการรักษา ข้อดีข้อเสียจากการผ่าตัดและผลหลังการผ่าตัดวิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัดภาวะแทรกซ้อนจากยาชาหรือยาสลบ
8. จักษุแพทย์ ต้องติดตามผลแทรกซ้อนจากการให้ยาเช่นกลุ่มสเตียรอยด์ กลุ่มยาที่มีผลต่อไตบางตัว
9. เก็บรักษาบันทึกเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ได้ตรวจโรคตาที่เป็นและการรักษาที่ได้ให้หรือสั่ง
จะบอกว่าแม้น้องๆจะเรียนจบเป็นแพทย์เฉพาะทางตามที่ฝันไว้ได้สำเร็จแล้วการเรียนนั้นยังไม่จบสิ้นนะครับ อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตน้องต้องหมั่นค้นคว้าหาความรู้ใหม่ตลอดเวลาเพราะยาใหม่ๆวิธีการรักษาใหม่ๆสามารถโผล่ออกมาได้ทุกเมื่อ
อย่างว่าที่EXTERNแบงค์ก็มีความฝันที่จะเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน แล้วน้องๆหล่ะครับสนใจเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านไหนกัน
ฝันให้ไกล
ไปให้ถึงนะครับ และอย่ามัวนั่งรอให้ฝันของเรานั้นเป็นจริง
ตัวเรานั้นแหละที่ต้องเป็นคนไขว่ขว้าฝันนั้นด้วยตัวเราเอง
โชคดีครับน้องๆทุกคน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น