ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่หมอ มศว เล่าเรื่อง (Ultimate Version)

    ลำดับตอนที่ #15 : บันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "นี่เหรอ..คืนวันสิ้นปี" (อัพแล้ว100%เศร้าเหลือเกิน)

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 52


    เรื่องโดย ~หมูสนาม~  นิสิตแพทย์ มศว MD20

    เขียน ณ วันที่ 1 มกราคม 2552


                    ช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่คงเป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนเฝ้ารอคอยให้มาถึง....

                    ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนได้เฉลิมฉลองสนุกสนานกับเพื่อนฝูงและญาติมิตร..

                    ช่วงเวลาที่ทุกคนได้ร่วมกันนับถอยหลัง เตรียมพร้อมเข้าสู่สักราชใหม่
                                                                                
                                                             9

                                                              8
                                                                    
                                                              7
                                                                         
                                                               .

                                                               .
         
                                                               .

                                                               3

                                                               2
     
                                                               1

                             Happy New Year ขอความสุขจงมีแด่ท่านทุกคน....


                    ช่วงเวลานี้ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า...

                    ถึงกระนั้นช่วงเวลาปีใหม่ก็อาจเป็นช่วงเวลาที่ทุกข์และโศกเศร้าที่สุดด้วย...

                    ดังเช่นคืนวันสิ้นปี 2008 นี้เอง...

                    นิสิตแพทย์แบงค์ตื่นนอนแต่เช้าตรู่...มองดูแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่สาดส่องทะลุเข้ามาในห้องนอน และยิ้มอย่างเป็นสุขที่วันดีๆวันหนึ่งได้เข้ามาถึง วันนี้นิสิตแพทย์แบงค์มีแผนงานที่สำคัญตระเตรียมไว้ในหัวเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้จะทำอะไร แผนที่ว่าคือไปเยี่ยมอวยพรอาจารย์หมอที่โรงพยาบาลเลิดสิน เนื่องด้วยวาระดิถี...วันขึ้นปีใหม่

                    แต่วันนี้...หาใช่วันดีอย่างที่นิสิตแพทย์แบงค์คิดไว้ไม่... ขณะที่นิสิตแพทย์แบงค์กำลังขับรถเดินทางไปใกล้ถึงที่หมายคือ "โรงพยาบาลเลิดสิน" เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา...กรี้ง...กริ้ง....กริ้ง 



                    "ฮัลโหล มีอะไรเหรอปิ้น...โทรมาหากูแต่เช้าเชียว" นิสิตแพทย์แพทย์แบงค์พูดขึ้นหลังรับโทรศัพท์ (ขออภัยที่บทสนทนานี้ ใช้คำไม่สุภาพ เนื่องจากมันเป็นภาษาเวลาพูดกับเพื่อนนะครับ)

                   "โห้รับแล้ว...โล่งอกไปที นึกว่าเป็นอะไรไปซะอีก" นิสิตแพทย์ปิ้นถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

                   "ทำไมเหรอ??  นึกว่ากูเป็นอะไรไป" นิสิตแพทย์แบงค์ถามด้วยความสงสัย

                   "อ้าว เมิงไม่รู้เรื่องเมื่อคืนเหรอ..."

                   "หา!! เมื่อคืนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น" นิสิตแพทย์แบงค์เริ่มรู้สึกตกใจ

                   "มีสิ..รุนแรงซะด้วยก็ ผับหรูที่เมิงไปCount down เมื่อปีก่อนเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ขึ้น กูก็เป็นห่วงนึกว่าปีนี้เมิงจะไปcount down ที่นั้นอีก" นิสิตแพทย์ปิ้นเอ่ยขึ้น

                   "ผับซานติกา ที่เอกมัยน่ะนะที่เกิดไฟไหม้ มีใครเป็นอะไรเหรอเปล่า" นิสิตแพทย์แบงค์ถามด้วยความเป็นห่วง

                   "มีสิ..แถมเยอะซะด้วย มีทั้งเจ็บทั้งตายเลย เห็นว่ามีตายกัน 59 คน บาดเจ็บอีกร่วมร้อยนะ"  


                   หลังได้ยินนิสิตแพทย์ปิ้นพูดจบ...นิสิตแพทย์แบงค์รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาในทันที เพราะ ซานติกาผับอันนี้เองที่เมื่อคืนนิสิตแพทย์แบงค์คิดจะไปฉลอง count down กับเพื่อนๆเหมือนกับช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาที่ไปฉลองที่นั้น 2 ปีติดกันมาแล้ว นิสิตแพทย์คงเป็นคนหนึ่งที่อยู่ที่นั้นแล้ว ถ้าหากว่า...เพื่อนก้งนั้นไม่เปลี่ยน Plan ไปเที่ยวอำเภอปลาย ที่ จ.แม่ฮ่องสอนซะก่อน

                   นิสิตแพทย์แบงค์ก็พยายามปัดความคิดเรื่องร้ายๆออกไปก่อน และมุ่งคิดถึงเรื่องไปอวยพรอาจารย์หมอที่ รพ.เลิดสินเป็นอันดับแรก แต่เมื่อไปถึงห้องพักอาจารย์ปรากฏว่าห้องมันล๊อค 

                   "อาจารย์ไปไหนนะ' นิสิตแพทย์คิดในใจ จากนั้นจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาอาจารย์เพื่อถามว่าตอนนี้อาจารย์อยู่ที่ไหน

                   "อ้อแบงค์...อาจารย์อยู่ที่ ICU ศัลยกรรมรีบมาหาที่นี่เลย" นี่คือคำตอบที่นิสิตแพทย์แบงค์ได้รับ นิสิตแพทย์แบงค์จึงมุ่งหน้าไปที่ ICU ศัลยกรรมของ รพ.เลิดสินทันที เมื่อไปถึงก็พบว่าอาจารย์กำลังดูแลเคสคนไข้คนหนึ่งอยู่...

                   "มาแล้วเหรอแบงค์...ดูคนไข้คนนี้สิ แผลBurn(แผลถูกไฟไหม้) เกรด 3 โดนไปกว่า 70% ของร่างกายเลย คนนี้ถูกส่งมาจากซานติกาผับเมื่อคืน" อาจารย์พูดขณะดูแลคนไข้ที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยผิวหนังแดงๆซึ่งปกคลุมไปด้วยน้ำเหลืองใสๆที่ซึมเยื่อมออกมาตลอดเวลา ร่วมกับผิวหนังบางส่วนก็หลุดลอกออกมาเนื่องด้วยสาเหตุมาจากความร้อนที่สูงมาก

                   หลังจากได้คุยกันสักพักถึงเรื่องนี้อาจารย์ก็ได้เปิด Internet ให้นิสิตแพทย์แบงค์ดู


    ซานติกาผับ เอกมัย

    ซานติก้า ซานติกาผับ เอฟเฟคเคาท์ดาวน์ ผิดคิวระเบิดไฟลุก 59 นักเที่ยว สังเวยรับปีใหม่

    ไฟโหมรับปีใหม่ "ซานติก้าผับ" ย่านเอกมัย เหตุเอฟเฟคพลุผิดคิวระเบิดแรงเกินไปสะเก็ดไฟลุกไหม้ติดฝ้าเพดานที่เป็นเชื้อเพลิง นักเที่ยวนับพันหนีตายอลหม่าน อีกกว่าครึ่งร้อยหนีออกไม่ทันไฟคลอกตายสยอง ต่อหน้านักผจญเพลิงที่พยายามช่วยเต็มที่

      



         



            วันนี้(1 ม.ค.)เมื่อเวลา 00.20 น. ร.ต.ท.สุทิน พงศ์คำพรรณ ร้อยเวร สน.ทองหล่อรับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงซานติก้าผับ ตั้งอยู่เลขที่ 235/11ซอยเอกมัย 9 - 11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 และประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถดับเพลิงขนาดใหญ่ประมาณ 10 คัน หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ
           
           ที่เกิดเหตุภายในผับดังกล่าวเป็นอาคารเดี่ยวในพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตรปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ยกระดับ 3 ชั้น เป็นชั้น 1 ชั้น 2 และชั้นใต้ดิน ภายในอาคารเกิดเพลิงโหมลุกไหม้อย่างหนักและสะเก็ดไฟยังตกลงมาสู่พื้นอย่างรวดเร็วทำให้นักเที่ยวถูกไฟลวกตามร่างกายจำนวนมาก นักเที่ยวที่อยู่ด้านในประมาณ 1,000 คน ต่างวิ่งหนีตายกันออกมาด้านนอกอย่างอลหม่าน แต่ยังมีบางส่วนไม่สามารถหนีเปลวเพลิงออกมาได้ ถูกไฟคลอกและขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่พยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างหนัก ประกอบกับอาคารที่ถูกความร้อนอย่างหนักจนเกิดการทรุดตัว ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จนผู้ที่ติดอยู่ด้านในที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ถูกไฟคลอกตายอยู่ด้านหน้าทางออก เป็นที่น่าอนาถอย่างมาก อีกทั้งแม้ประตูทางออกมีถึง 5 ประตูแต่เนื่องจากนักเที่ยวบางส่วนไม่ทราบและพยายามแย่งกันออกทางประตูด้านหน้าจึงทำให้เหยียบกันตายอยู่ด้านหน้าประตูทางออกอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บที่หนีตายออกมาได้ก่อนซึ่งส่วนใหญ่จะถูกไฟลวกตามร่างการถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงอีกจำนวนมาก
           
           ส่วนด้านใน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เนื่องจากอาคารดังกล่าวถูกความร้อนอย่างหนักจนเพดานเกิดการทรุดตัว เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อระบายควันและบายความร้อน ก่อนรอจนแน่ใจว่าอาคารจะไม่ทรุดตัวลงมาจึงเข้าดำเนินการตรวจสอบด้านใน และลำเลียงผู้เสียชีวิต ออกมาได้ทั้งสิ้น 53 ศพ และตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่อาจตกค้างอยู่ภายใน ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากเนื่องจากเกรงว่าอาคารจะทรุดตัวลงมาอีก
           
           จากการสอบสวน นายสมชาย เฟรนดี้ อายุ 28 ปี นักเที่ยวที่มาฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ซานติก้าผับ กล่าวว่า ตนมาเที่ยวที่ซานติก้า ผับ ก่อนเกิดเหตุทางร้านมีการจัดพลุเอฟเฟค ไว้ที่บริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อจุดฉลองหลังจากที่มีการเคาท์ดาวน์แล้ว โดยเมื่อเคาท์ดาวน์เสร็จทางร้านได้จุดพลุดังกล่าว แต่พลุเกิดระเบิดรุนแรงกว่าจนลุกลามไปติดยังฝ้าเพดานที่หุ้มด้วยฟองน้ำเก็บเสียงซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับจังหวะนั้นมีเสียงตะโกนว่าไฟไหม้ ผู้ที่มาเที่ยวจึงเกิดการแตกฮือพยายามยื้อแย่งกันออกมาภายนอก อีกทั้งนักเที่ยวที่อยู่บนชั้น 2 นั้น จะไม่มีทางออกต้องวิ่งแย่งกันลงมาด้านล่างเพื่อออกทางประตูทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
           
           ด้าน พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหาย และระบุตัวผู้กระทำผิดได้ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ที่เสียชีวิตเบื้องต้นได้รับรายงานว่า เกิดจากไฟคลอก สำลักควันและเหยียบกันเองขณะที่แย่งกันออกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งส่วนนี้ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนกระจายออกไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และสอบปากคำพยานแวดล้อม หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะเรียกตัวมาแจ้งข้อหา และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นประสานให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และมีการตั้งศูนย์รับแจ้งผู้สูญหายเพื่อประสานในการตรวจสอบผู้เสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สิน โดยผู้ใดที่จะตรวจสอบว่าเพื่อน หรือญาติพี่น้อง อยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่สามารถแจ้งได้ที่ สน.ทองหล่อ
           
           ต่อมาทราบว่ามีผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลเสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย ซึ่งรวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 59 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 212 คน

    ทีมาเรื่องและภาพ: ทีมข่าวอาชญากรรม www.manager.co.th และ เดลินิวส์ วันที่ 1 มกราคม 2552


                   

                   "น่าเสียดาย...อนาคตของชาติทั้งนั้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่... แบงค์จำเอาไว้นะชีวิตคนเราเกิดมามีครั้งเดียว จะทำอะไรต้องคิดถึงคนที่คอยเป็นห่วงอยู่ข้างหลังซึ่งก็คือคุณพ่อและคุณแม่เสมอ ไม่มีใครหรอกที่จะรักเราและรู้สึกเสียใจมากที่สุด เมื่อถึงวันที่เราไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วเท่ากับท่าน อย่าปล่อยใจ...ไปกับความสุขความคึกคะนองเพียงชั่วครู่... สำหรับหมอนะวันปีใหม่ไม่ใช่วันที่ควรเฉลิมฉลองอะไรมากมาย วันปีใหม่นี่สิเป็นวันที่หมอต้องเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมรับมือกับเหตุร้ายที่มักอุบัติขึ้นในวันเทศกาลนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเหตุร้ายมักเกิดคู่กับงานเทศกาลแห่งความสุขเสมอ ไม่ว่าจะวันปีใหม่ วันสงกรานต์ หรือทุกๆวันหยุดเหมือนเทวทูตสั่งให้มันเกิดขึ้นมา...ซะทุกคราไป"    นี่คือคำพูดสุดท้ายที่อาจารย์มอบให้พี่ก่อนจะลำลา...แยกย้ายกัน


    "จุดเเรกคือ...พบ
    จุดจบคือ...จาก
    เมื่อพบต้อง...พราก
    เมื่อจากต้อง...เจอ"
    ความสุข-ความทุกข์เป็นของคู่กัน
    สรรพสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
    ชิวิตคนเราก็ไม่แน่นอน... 


    ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้้เสียชีวิตและญาติด้วยครับ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×