ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่หมอ มศว เล่าเรื่อง (Ultimate Version)

    ลำดับตอนที่ #14 : บันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "ลาก่อน..Steth ที่รัก" (อัพแล้ว 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 52


    เรื่องโดย  ~หมูสนาม~  นิสิตแพทย์ มศว MD20
     
    เขียน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.


                เรื่องนี้...เป็นเรื่องเศร้าสำหรับพี่ที่เกิดขึ้นไม่นาน ตอนนั้นพี่กำลังเรียนอยู่ Ward อายุรกรรมปี 5 หลังจากที่นิสิคแพทย์แบงค์(พี่เอง) Round Ward กับพี่แพทย์ใช้ทุนเสร็จไม่นาน พี่ก็กลับมายังสถานที่ที่เรียกว่า "คอก" น้องๆหลายคนคงจะงงว่า "คอก" ที่พี่กำลังพูดถึงคืออะไร ? -----> เอ๋...มันใช้คอกวัว คอกควายรึเปล่านะ >_<


                คำตอบก็คือไม่ใช่...แต่ก็ใกล้เคียง(ในความคิดพี่)   "คอก" นั้นคือสถานที่ที่เหล่าอาจารย์ได้จัดสรรค์ไว้เป็นพิเศษ สำหรับนิสิตแพทย์โดยเฉพาะ โดยทุก Ward ของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ก็จะมี "คอก" อยู่ประจำแต่ละ Ward เช่น Ward สูตินรีเวช ก็จะมี "คอกสูติ" Ward เด็กก็จะมี "คอกเด็ก" เป็นต้น และที่พี่ีกำลังจะพูดถึงก็คือ "คอกของ Ward  อายุรกรรม หรือเรียกสั้นๆว่า คอกMed"


                "คอก" ก็คือพื้นที่ส่วนหนึ่งของ Ward ที่ถูกแบ่งออกมาเพื่อใช้เป็นสถานที่บรรจุนิสิตแพทย์เอาไว้ภายใน ที่เรียกว่า คอกก็เพราะว่า บริเวณที่ใช้เป็นคอกนั้นอาจารย์จะจัดแจงเอาฉากมากั้นไว้อย่างดี เอาฉากมาล้อมเอาไว้ทุกทิศทุกด้าน มีรู(ช่อง)ที่ไว้เข้าออกเพียงทางเดียว  อย่าเพึ่งคิดว่าข้างในคอกจะหรูหราเหมือนรีสอร์ทนะ จริงๆข้างในมีเพียงโต๊ะยาวๆตัวหนึ่งกับเก้าอี้สำหรับนั่งอีกไม่กี่ตัว ซึ่งไม่เพียงพอต่อจำนวนนิสิตแพทย์เลย แถมร้อนมากมีพัดลมอยู่ไม่เกิน 2 ตัว ซึ่งบางทีก็เสียซะด้วย

                 ประโยชน์ของคอกคือ

                 1. เป็นสถานที่ใช้อ่านหนังสือ เป็นที่เขียนรายงานและเป็นสถานที่นั่งพักผ่อนเวลาอยู่เวร

                 2. เป็นสถานที่กิน นอนของนิสิตแพทย์ ที่ใช้คำว่ากินนอนก็เพราะมีนิสิตแพทย์จำนวนหนึ่งใช้พื้นที่นี้ในการพักผ่อนนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นแบบฟุบหลับลงกับโต๊ะ แบบนอนเอาหัวพาดกับกำแพง หรือแบบนอนยาวเลยก็มี บางคนก็ใช้เป็นที่กินข้าว กินขนม  จึงมีเศษขยะมากมาย เช่นกองขวดน้ำ เศษกระดาษ กอง sheet ที่ไม่ใช้แล้วอยู่ในนี้ นี่จึงอาจเป็นสาเหตุที่อาจารย์ต้องเอาฉากมากั้นเอาไว้ทุกด้าน เพราะลองคิดดูสิครับ....หากคนไข้หรือญาติคนไข้มาเห็นนิสิตแพทย์อยู่ในสภาพนี้ คงแปลกพิลึกเลย

                 
                เอาหล่ะมาฟังเรื่องของนิสิตแพทย์แบงค์กันต่อ หลังได้ Round Ward เสร็จนิสิตแพทย์แบงค์ก็กลับมาพักผ่อนยังคอก เนื่องด้วยคืนก่อนนิสิตแพทย์แบงค์อยู่เวรมีเคสคนไข้เข้ามาหลายเคส(Case)มาก จึงทำให้ลงเวรดึก ประกอบกับวันนี้มีสอบ formative กอ่นเรียนจึงต้องอ่านหนังสือต่อจนยิ่งนอนดึกกว่าเดิม ทำให้เมื่อกลับมายัง "คอก" ในตอนเช้าวันนี้ นิสิตแพทย์แบงค์เหนื่อยมาก รู้สึกเหมือนพลังชีวิตหดหายไปหมดก็เลยฟุบหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็คือเวลาที่เพื่อนมาตามไปสอบ นิสิตแพทย์แบงค์ก็รีบวิ่งตาลีตาเหลือกไปเข้าห้องสอบ โดยมิรู้เลยว่าลืมของสำคัญคือ Stethoscope หูฟังคู่ชีพเอาไว้ใน "คอก"

                พอนึกได้หลังสอบเสร็จ มาดูอีกที Stethoscope อันแรกในชีวิตของนิสิตแพทย์แบงค์ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 4 ก็ Disappear หายไปกับสายลมซะแล้ว

                ถ้าจะบอกว่า  "น้ำคู่กับเรือ"

                                   "เสือคู่กับป่า"

                                   "หมอก็คงคู่กับ Stethoscopeนี่หล่ะ" 

                 
                 
    ถ้าพูดถึงสมัยเรียนปี 3 กำลังจะขึ้นปี 4 สิ่งที่ต้องเตรียมตัวและต้องทำก่อนจะขึ้นเรียนในชั้นคลีนิกก็คงมีอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือเตรียมตัดเสื้อกาวน์ อย่างที่สองก็คงเป็นการซื้อ Stethoscope นั้นแหละ โดยตอนนั้นคนจัดซื้อของคณะกำหนดสั่งไว้สองรุ่นของ 3m Littmann รุ่นแรกคือรุ่น classic II S.E. ซึ่งเป็นแบบมาตรฐาน ธรรมดา คุณภาพดีพอควรประมาณว่าหากเราหูไม่หนวกก็ต้องฟังได้ยินบ้างหล่ะ ราคาก็ประมาณ 2200 บาท รับประกัน 3 ปี ส่วนอีกรุ่นคือรุ่น cardiology III อันนี้ advance มากเหมาะสำหรับฟังเสียงหัวใจโดยเฉพาะ มีสองด้านด้านหนึ่งสำหรับฟัง adult(ผู้ใหญ่) อีกด้านสำหรับ pediatric(เด็ก) ราคา 5000 กว่าบาท รับประกัน 5 ปี ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็สั่งรุ่นพื้นฐานและถูกกว่าอยู่แล้ว แต่คราวนี้ก็มีปัญหาคือ

                  สีอะไรดี???

                   การเป็นนิสิตแพทย์ทำให้ถูกกำจัดสิทธิหลายๆอย่างที่...วัยรุ่นจะทำได้ เช่น สำหรับผู้หญิงอยากจะตัดผมเปรี้ยวๆ ก็ทำไม่ได้ อยากย้อมผมสีฉูดฉาดก็ทำไม่ได้ อยากแต่งชุดนิสิตรัดๆกระโปรงสั้นก็ยิ่งทำไม่ได้ รองเท้าก็ต้องสีสุภาพ ต้มหูก็ห้ามห้อยแบบแนวๆอันใหญ่ๆ หรืออันแบบธรรมดาแต่มันยาวเกินติ่งหูก็ไม่ได้ -----> อาจารย์เขาว่ามันไม่สุภาพครับ

                   แต่ก็ใช่ว่าชีวิตของนิสิตแพทย์จะจืดชืด เดี๋ยวนี้ทางบริษัทขาย Stethoscope ก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ 07'ได้ทำสีของ Stethoscope ออกมาหลากสีสันมากมาย ถ้าเทียบกับสมัยก่อนน้องๆคงเห็นหมอรุ่นเก่าใช้หูฟังที่มีแต่สีดำกับสีเทา สมัยนี้หูฟังมีสีให้เลือกมากกว่าแต่ก่อนมากครับ นี่คือสีที่มีทั้งหมดตอนนี้ครับ ^_^


    มีสีให้เลือกมากมายเลยใช่ไหมครับ ^_^

     สี Caribbean blue



                  สี Plum                                                               สี Ceil blue


    สี Raspberry                                                                                    

                        สีStethอันแรกของนิสิตแพทย์แบงค์ คือ สี Seafoam green -------> เซ็งมากหายไปแล้วครับ เศร้า T_T คราวนี้ไปซื้อใหม่แล้วแทนอันที่หายไปปรากฎว่า เขาขึ้นราคาจาก 2200 บาท เป็น 2600 บาท ถึงช่วงจ่ายตังแล้ว ยิ่งเศร้ากว่าเดิมอีกครับผม

                        

    อันนี้ Stethoscope อันใหม่ของพี่ สี Pine green คราวนี้ขอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำหายอีกแล้วครับ >_< 

    PS. ของจริงสีสวยกว่าที่เห็นนะ :-)




    ขอขอบคุณที่มาภาพ บริษัท 3m Litthmann ครับ
     
                     จบแล้วนะครับสำหรับบันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "ลาก่อน..Steth ที่รัก"  ไว้มีอะไรพี่จะมาเล่าสู่กันฟังอีก

                                                                                                                                               

                                                                                                                  Happy New Year 2009

                                                                                              c(^_^) ขอให้มีความสุขทุกๆคนนะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×