ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อดอกรักผลิบาน สานฝันหัวใจเขาและเธอ ^^

    ลำดับตอนที่ #2 : วันเปิดเทอมวันแรก

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 48








             เช้าวันใหม่สำหรับชายหนุ่มคนหนึ่งได้เริ่มต้นขึ้น วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก  ทุกสิ่งดูดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่สาดส่องลงมา เสียงนกน้อยร้องเพลงคลอเคลียเขาไปตลอดทางจากหอพักไปอาคารเรียนรวม เสียงนกน้อยช่างไพเราะ ฟังน่าระรื่นหูนัก เช้านี้อาจดูเป็นเช้าที่สดใส



               แต่ไม่ใช่สำหรับณัฐ นิสิตหนุ่มปี 1 ไฟแรงที่พึ่งเข้ามาเรียนในคณะแพทยศาสตร์ มศว แห่งนี้ ทุกสิ่งรอบตัวเขาดูมืดมิดไปหมด ยิ่งคิดภาพต่างๆก็โผล่ขึ้นมา

      

                “จินนี่….จินนี่ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย  ผมมันไม่ดีตรงไหน”   ณัฐพูดพร้อมกับคว้าแขนของจินนี่ไว้



                 “มันสายไปแล้วณัฐ” จินนี่เอ่ยขึ้น



                “ฉันรอเธอมานานมากแล้ว ฉันให้โอกาสเธอแต่เธอไม่ไขว่คว้ามันเอง แล้วยิ่งเธอมาเรียนที่ ไอ้มหาลัยบ้านนอกเนี้ย ไกลก็ไกลอยู่ตั้งนครนายก ฉันรับไม่ได้จริงๆ  เธอมันไอ้น่าโง่\"   ไอ้หน้าโง่…ไอ้หน้าโง่…ไอ้หน้าโง่   คำพูดนี้ก้องอยู่ในหัวของณัฐตลอดเวลา จนกระทั่ง   ตูม*****



                \"โอ้ะ ขะ ขะขอโทษมากๆครับ ผมเดินไม่ระวังเอง”  ณัฐเอื้อมมือไปฉุดเด็กสาวคนนั้นขึ้นมา



                 \"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็เดินไม่ ระวังเหมือนกัน”  หญิงสาวลุกขึ้น แล้วส่งยิ้มให้เขา เธอมีผิวขาวผ่อง สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กระโปรงสั้นกว่าเข่า ทุกสิ่งดูสะอาดสะอ้าน ผมสีทองสดใสของเธอส่องเป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ณัฐสบตาเธอแล้วเกิดความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก



                 \"บะบาย ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีก\"   และแล้วสาวน้อยก็ได้วิ่งจากไป ภายในลำคอของณัฐร้อนผ่าวขึ้น พร้อมทั้งเดินใจลอยยิ่งกว่าเดิมจนถึงอาคารเรียนรวม



                 อาคารนี้เป็นอาคาร 5 ชั้น เป็นสถานที่ซึ่งคณะต่างๆใช้เรียนวิชาทั่วไปร่วมกัน ด้านหน้าเป็นที่จอดรถจักรยาน หนึ่งในพาหนะหลักของชาวนิสิต มศว องค์รักษ์ ที่รวดเร็วเป็นอันดับ 2 รองจาก รถกระป้อซึ่งวิ่งวนรับส่งนิสิตอยู่รอบมหาลัย



                 ด้วยความที่ไม่ต้องการไปสาย ณัฐจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดจนถึงชั้นห้า เมื่อเข้าชั้นเรียน ณัฐเลือกเก้าอี้ตัวหน้าสุดของแถว แล้วก็ฟุบตัวลงนอนทันทีด้วยความเหนื่อยโดยไม่สังเกตว่าที่นั่งข้างๆ ก็มีคนนอนฟุบที่โต๊ะอยู่เหมือนกัน



                  ติ้งต่องติ้งติ้งต่อง เสียงระฆังดังขึ้นคนทั้งสองตื่นขึ้นพร้อมกัน



          ณัฐร้องออกมาด้วยความแปลกใจ  \"โอ้ะนี่เธอ”



                  \"อิอิ โลกกลมนะเราเจอกันอีกแล้ว”   เด็กสาวคนเดิมได้กล่าวขึ้น พร้องทั้งสยายผมสีทองสดใสของเธอที่พันกันมั่วอยู่

                  \"ไม่นึกว่าจาได้มาเรียนห้องเดียวกัน ฉันชื่อ สายชล สวัสดีจ้า”



                  \"เออ สะสะสวัสดีคับ”    ณัฐพูดอย่างเขินอาย



                  “เธอนี่ตลกดีนะ เหมือนใครบางคนที่ฉันเคยรู้จัก คิกๆๆ ”   เธอหัวเราะ



                  “เอ๋ นั้นเน็กไท้ MD นี่หน่า เธออยู่คณะแพทย์สินะ คณะเดียวกันเลย”    เธอพูดพลางหยิบตุ้งติ้งคณะให้ณัฐดู



                  “เชื่อแล้วล่ะว่าโลกมานกลม ผมณัฐยินดีที่ได้รุ้จักครับ”   เขาพูดโดยเก็บความเขินอายเมื่อครู่แรกเอาไว้

        

               ตั้งแต่วันนั้นสายชลกับณัฐก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ทำงานกลุ่มด้วยกันเสมอ และแล้วเวลาก็ได้ล่วงเลยมาถึงช่วงประกาศผลคะแนนกลางภาค คะแนนของสายชลจัดว่าอยู่ในอันดับต้นๆของคณะ ผิดกับณัฐซึ่งค่อนข้างย่ำแย่ ทำให้สายชลตัดสินใจว่าต้องเริ่มทำอะไรซักอย่างแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงรีบวิ่งไปหาณัฐทันที



                 “คืนนี้ 2 ทุ่มเจอกันที่ดาดฟ้าโรงบาล ไม่มาโกรธจิงๆด้วยนะ”   เธอพูดกะเขาโดยมิได้สบตา



                “ดะ..ดะเดี๋ยวก่อนสายชล ทำไมนัดซะดึกแถมเป็นที่ดาด...”    เขาพูดยังไม่จบสายชลก็วิ่งออกจากห้องไปแล้ว (เอ้อ...ไปซักหน่อย ก็ได้วะ) เขานึก

        

                  โรงบาลที่สายชลนัดณัฐไว้นั้น ชื่อ โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่สูง 17 ชั้น ตั้งสูงตระง่าอยู่ใน รั้วของ มศว องค์รักษ์แห่งนี้ เป็นสถานที่รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆของชาวนิสิต องครักษ์ สามารถรองรับผู้ป่วยได้ถึง 500 เตียง มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง CT Scan หรือเครื่อง MRI เป็นสถานที่เรียนของปี 1 และปี4-6 คณะแพทยศาสตร์ มศว และจัดได้ว่าเป็นตึกสูงแห่งเดียวในนครนายกก็ว่าได้



              แอ้ด............ เสียงดังขึ้นเมื่อประตูชั้นดาดฟ้าถูกเปิดออก ณัฐก้าวออกมายังระเบียงชั้นดาดฟ้า ท้องฟ้าก็มืดแล้ว ทุกสิ่งดูช่างเงียบสงัดเหลือแต่เพียงเสียงของสายลมที่พัดเอื่อยๆ เบื้องหน้าของเขา คือเรือนร่างของหญิงสาวที่คุ้นตา สายชลนั้นเองเธอยืนหันหลังให้เขา แขนทั้งสองข้างเท้าอยู่กับระเบียง

        

                    “สายชล เธอนัดเรามาที่นี่ทำไม”   เขาเอ่ยคำพูดขึ้นในที่สุด



                    “ทำไมนะเหรอ ก็เพราะนายนั้นแหละ ฉันสิควรเป็นคนถามว่าทำไม”   เธอกลับหลังหันแล้วเดินมาหาเขา



                    “นายทำแบบนี้ได้ยังไง เรื่องคะแนนสอบ ทั้งๆที่นายเป็นคนติวให้ฉันแท้ๆ นายกลับ....”   ตาของทั้งสองจ้องกัน



                    “ขอโทษนะที่ทำให้เธอ ผิดหวัง ฉันกาคำตอบมั่วๆเองแหละ เธอจะมายุ่งเรื่องฉันทำไมฉันจะทำยังไงมันก็เรื่อง ของฉันไม่ใช่เหรอ ฉันมะชอบที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว ถึงฉันทำตัวอย่างนี้ ฉันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนิ ฉันก็มีอดีตที่เลวร้ายเกี่ยวกับที่นี่ ฉันอยากจะไปให้พ้นๆซะ”          เขาตะคอกใส่เธอ เขาพูดอย่างนี้แสดงว่ายังตัดใจจากจินนี่ไม่ได้



                   เผียะ.......... เกิดความเงียบขึ้นชั่วครู่ หลังจากสิ้นเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้า



                   “เลิกบ้าซักทีณัฐ เธอคิดว่า เธอทำแบบนี้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา มันไม่ได้สำคัญหรอกนะว่าเธอทำให้ใครเดือดร้อนรึเปล่า เพราะฉันร็ว่าเธอไม่ทำแบบนั้นหรอก แต่มันสำคัญที่เธอ ทำให้เพื่อนเป็นห่วงตังหาก”   เธอพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย พลางจ้องหน้าของชายหนุ่ม



                 “ อดีตก็คืออดีต อย่ามัวไปกลัดกลุ้มอยู่กับมัน แต่ไม่ใช่ถึงกลับลืมมันไป ใช้มันเป็นบทเรียนเพื่อทำวันนี้ให้ดีที่สุด”   คำพูดของเธอทำให้แววตาที่ขุ่นมัวของชายหนุ่ม  กลับมาสดใสอีกครั้ง



                  “ ฉะ..ฉะ.ฉันขอโทด เราจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วล่ะ”   ในที่สุดเขาเอ่ยคำพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความสำนึกผิด



                  “ คิดได้ก็ดีแล้ว เรายังต้องฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิต อีกมากมาย ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้เราจะเรียนจบ เป็นแพทย์ที่ดีได้อย่างไรจ๊ะ”   เธอพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ ^^



                  “ บางทีก็มีสิ่งดีๆที่เธอมองข้ามไปนะ เธอคิดว่าที่กรุงเทพ เธอจะได้เห็นสิ่งสวยงามอย่างนี้เหรอ ”



                     ณัฐพึ่งรู้สึกตัวว่าท่ามกลางความมืดของรัตติกาลที่อยู่รอบตัว ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย แข่งกันทอแสงระยิบระยั้บลงมา อีกทั้งเมื่อมองจากดาดฟ้าลงไปยังเบื้องล่าง ก็สามารถเห็นแสงไฟจากหอพัก เป็นดวงแสงเล็กๆนับไม่ถ้วน ช่างงดงามนัก



                      “ ขอบใจมากนะสายชล เราหายกลุ้มใจไปเยอะเลยล่ะ”   เขาส่งยิ้มให้สายชลบ้าง ตอนนี้เขากำลังรู้สึกว่าผู้หญิงไม่เหมือนหญิงคนอื่นที่เขาเคยพบมา เธอช่างอ่อนโยนแต่ก็มีความเข้มแข็ง แฝงอยู่ในเวลาเดียวกัน



                       “ ไม่เป็นไรหรอก เราเพื่อนกันนะจ๊ะ เพื่อนก็ต้องเป็นกำลังใจให้เพื่อนยามเมื่อเขาไม่มีใครนิ อิอิ กลับหอกันเถอะ”   เธอพูดขึ้น ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือที่วางไว้ แต่ทันใดนั้นเธอเซ ทรงตัวไม่อยู่ ขณะที่...



                     ฟิ้ว..........สายลมเย็นพัดผ่านมาสัมผัสร่างของเธอ ผมทองยาวสลวยของเธอ สยายเป็นประกายสะท้อนกับแสงดาว ชายหนุ่มรีบรับเธอไว้ทันที



             “เป็นอะไรมากไหมสายชล”   เขารู้สึกเป็นห่วงเธอมาก



             “ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ สงสัยจะหน้ามืดล่ะ ขอบคุนที่ช่วยรับฉันไว้นะ แต่เอ้ ช่วยปล่อยมือที่ประคองฉันหน่อยได้ไหม ”   ชายหนุ่มพึ่งรู้สึกตัวมามือทั้ง 2 ของเขากำลังโอบร่างของเธออยู่ เขาจึงรีบเอามือออก หน้าของเขาแดง พร้อมทั้งเกิดความรู้สึกเขินอายอย่างที่สุด



           จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับหอ ณัฐยังคงรู้สึกได้ถึงไออุ่น จากเธอเมื่อตอนที่ร่างของคนทั้งคู่สัมผัสกัน



                                                                                                                                                           –To be continued -



    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-



                        นี่ก็เป็นเรื่องแรกที่แต่งนะคราบ อาจจะแต่งไม่ดี



               ก็อยากให้ลองอ่านตอนต่อๆไปดู รับรองสนุกฮะ



               ยังไงก็ อ่านแล้วเม้นให้หน่อยน้า    โหวดด้วยก็ดีน้า      



          ร้ากผู้อ่านน้า --++**GoDGiLaคุง**++--    Thanks…







                                                                                                                                                          





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×