ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rafsros : เรฟารอส บุตรแห่งอัลทาเรีย

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter: 5 ด่านสุดท้าย

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 51


     

    Chapter: 5 ด่านสุดท้าย

     

     

     

     

     

    แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึงสถานที่สอบด่านสาม ก็ต้องหยุดกึกด้วยความงงงวย

    แล้วนี่มันอะไรกันล่ะเนี่ยเกรที่มาถึงก่อนเอ่ยขึ้น

    สถานที่ที่ไม่น่าจะมีในเมืองกลับอยู่ตรงหน้าพวกเขา เหวลึกที่เมื่อมองลงไปก็เห็นเพียงหินโสโครกและลำธารสายเล็กๆพาดผ่าน และไม่ต้องถามด้วยว่าพอตกลงไปแล้วจะเป็นยังไง...

     

    อ้าว มาถึงแล้วเหรอจ๊ะ เร็วจัง นึกว่าจะไม่เหลือรอดแล้วนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ไม่มีใครผ่านไปด่านหน้าได้หรอกน้ำเสียงใจดีกล่าว แต่คำพูดนี่มันไม่ช่างเป็นการตัดกำลังใจโดยแท้เลย

    รุ่นพี่สาวคนหนึ่งเดินออกมาจากร่มไม้ที่ตนเองซ่อนอยู่ ใบหน้าอ่อนเยาว์รับกับเส้นผมสีทองดัดเป็นลอนติดริบบิ้นสีแดงแลดูน่ารัก เธอมาพร้อมกับรุ่นพี่อีกห้า-หกคนที่อยู่ด้านหลัง

    เอาล่ะ แค่ผ่านเหวนี่มาได้ก็ถือว่าผ่านแล้วล่ะ ห้ามมาสิเธอกล่าวและนั่งลง ณ ที่ตรงนั้นราวกับว่ากำลังรอพวกเขาอยู่จริงๆ และมันเป็นการรอที่นานจนถึงกับต้องนั่งรอ

    เล่นท้าซึ่งๆหน้าเลยรึเนี่ยเด็กสาวที่มากับเขาเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก พอเห็นสายตาเย้ยหยันอย่างนั้นแล้วอยากอัดคนสักปาบ!

    ข้ามไปเหรอ สงสัยต้องใช้เวทย์สินะเกรกล่าวยิ้มๆ สายตามุ่งมั่นสนุกสนานปรากฏบนแววตาสีเทานั้น เด็กหนุ่มขยับมือไปด้านหน้าแล้วเริ่มร่ายเวทย์ในทันที

    ซอลเซอร์ เกรส!”

    ฉับพลันดินที่อยู่รอบตัวเด็กหนุ่มก็ก่อเป็นสะพานให้เขา แต่พอถึงครึ่งทางมันก็หยุดเสียดื้อๆ

    เอ๋!”เกรร้องออกมาด้วยความฉงน เขาก็ไม่ได้หยุดเวทย์นี่ รุนพี่สาวยิ้มน้อยๆ

    ทำได้ทุกทาง แต่ก็ใช่ว่าจะข้ามมาง่ายๆเมื่อไหร่ล่ะจ๊ะ

    หนอย!”

    เดี๋ยวนะ...นั่นมัน อาณาเขตเกราะเวทแห่งแสง แย่ล่ะสิ ฉันยิ่งเป็นสายวอทเทียอยู่ด้วย พวกนายล่ะ

    สายเวรเนอร์เมนาสกล่าวเรียบๆแต่ดูเครียดจัดอยู่ในๆ ทั้งสามหันมามองซัน ความหวังเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม คนโดนจ้องถอนหายใจเฮือก

    ไม่รู้สินะ ว่าแต่ว่าต้องใช้เวทย์สายอะไรในการเจาะอาณาเขตเกราะเวทย์แห่งแสงนั่นได้

    ธาตุตรงข้ามกับแสง ก็รัตติกาลไงเล่า แต่คนที่มีธาตุสายนี้ถือว่าหายากพอควรล่ะนะ พอๆกับธาตุแสงนั่นแหละเด็กสาวตอบอย่างไม่พอใจนัก เพราะเมื่อครู่รุ่นพี่สาวได้ยิ้มเยาะมาให้พวกเขาอีกครั้ง

    อืม งั้นถ้าเกราะเวทย์นั้นระดับสูง เวทย์ที่ใช้ก็ต้องสูงกว่าใช่ไหมล่ะซันยกมือด้านหนึ่งลูบคาง ขณะที่แววตาของเขาพราวระยับอย่างคนรักสนุกชอบกล

    เดรอนทำลายได้ไหมอยู่ๆเด็กหนุ่มก็ถามภูติรัตติกาลของตนที่รอรับมุกอยู่แล้ว

    ...ตามประสงค์ เจ้านาย...เสียงยวนยีราวคนรักสนุกดังขึ้นมาในหัวของเด็กหนุ่ม ซันยิ้มรับคำตอบนั้น ก่อนที่ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เส้นสายสีดำนับพันเรียวเล็กราวสายเข็มแต่ดูส่องประกายเจิดจ้าอย่างประหลาด พุ่งเข้าเจาะอาณาเขตแห่งแสงอย่างรวดเร็วและรุนแรง!

    อะ อะไรน่ะคราวนี้ถึงคราวที่รุ่นพี่หอขาวจะเป็นคนตกใจบ้าง เส้นสีดำนั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงแต่เกราะแห่งแสงที่ยังไม่หายไป ทำเอาพวกเกรถึงกับหน้าเสีย

    ไม่จริงน่า เจอเวทย์แรงขนาดนั้นแต่ยังไม่สะเทือนเลยเกรพึมพำออกมาอย่างขวัญเสีย

    ...

    ฮึๆ ฉันยอมแพ้พวกเธอแล้วล่ะจู่ๆรุ่นพี่สาวหอขาวก็พูดขึ้นอย่างนั้น สร้างความสงสัยให้พวกเขาอยู่มากโข

    เปรี๊ยย!~ เสียงแตกของอะไรบางอย่างดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยกำแพงเวทย์นั้นจะเริ่มมีรอยร้าวลามไปทั่วและแตกออกเป็นละอองเวทย์ลอยไปทั่วส่องแสงระยิบระยับและจางหายไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความทึ่งของทุกคน รุ่นพี่ผู้เป็นคุมด่าน

    ฉัน เพอซิส เครนซิส ปี 4 ขอขาว เป็นรองหัวหน้าหอ แล้วเธอล่ะ

    อืม ผม เรฟารอส คาเวเรีย ดีใจจังที่รุ่นพี่ทักผมก่อนแบบนี้น่ะนะเด็กชายกล่าวก่อนเงยหน้าขึ้น ตอนนั้นเองที่พวกเขาเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ดวงตาด้านซ้ายของเขาที่เคยเป็นสีน้ำเงินสวยกลับกลายเป็นสีดำของรัตติกาล!~

    หืม เนี่ยนะเหรอ ผมยืมพลังจากเดรอนน่ะครับ พอดีตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูพลังนิดหน่อย

    เดรอน ภูติเหรอก

    ครับ อ่าก่อนอื่นเนี่ย เกร นายจะทำสะพานไม่ใช่เหรอ!~”เด็กหนุ่มหันไปเตือนสติเพื่อนของตนที่เหมือนจะลืมสิ่งที่ควรจะทำเสียแล้ว

    อะ เอ่อ ซอลเซอร์เกรส!~”

    สะพานดินเริ่มก่อตัวอีกครั้งและครั้งนี้มันก็สามารถจะเป็นสะพาดลาดไปถึงอีกฝั่งได้สำเร็จ พวกเขาเดินผ่านมาได้อย่างสบายๆ แถมได้รับการต้อนรับอย่างดีอีกต่างหาก ทั้งที่เมื่อครู่ยังไม่ถูกกันเลยแท้ๆ

    ฉัน ขอโทษด้วยนะ ที่กริยาไม่สุภาพใส่พวกเธอน่ะ แต่มันเป็นหน้าที่ขอโทษนะเพอร์ซิสเข้ามาขอโทษพวกเขา สีหน้าของเธอดูหม่นลงเล็กน้อย

    ไม่หรอกค่ะ พวกหนูต่างหากที่เข้าใจผิดเอง ต้องขอโทษด้วยนะคะเด็กสาวโค้งอย่างสุภาพ เพราะเมื่อรู่เธอทำประอับกริยาที่ไม่สมควรออกไปอยู่มาก รุ่นพี่ยิ้มส่งให้พวกเขาเมื่อเดินจากไปด่านต่อไป

    อืม ว่าแต่ชื่อเด็กคนนั้นมันคุ้นๆหูนะ ชื่อใครนะหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้น

    ถ้าจำไม่ผิดนะ...ไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อจากนั้น เพอร์ซิสก็ตัดบทเสียดื้อๆ

    ช่างเถอะ ดูทางนั้นดีกว่ารู้สึกจะมาแล้วนะเธอพูดพร้อมกับส่งสายตาดุๆไปให้ ทำให้คนอื่นๆต้องไปโดยดี

    ...ท่านกลับมาอีกครั้งแล้วสินะคะ ท่านเรฟ...เด็กสาวรำพึงในใจ โดยไม่รู้เลยว่านัยน์ตาของเธอนั้นฉายแววยินดีออกมาครู่หนึ่ง แววตาที่ไม่เคยมีใครเห็นจากเธอคนนี้...

    ...แม่คะ คนๆนั้นใครเหรอคะ...

    ...ท่านคนนั้นคือผู้ที่จะช่วยเรายังไงล่ะจ๊ะ...

    ...มีคนทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอคะ...

    ...มีสิจ๊ะ ถ้าเป็นท่านล่ะก็ ยังไงก็สามารถทำได้จ๊ะ...

    ใช่ ไม่ว่าสิ่งได้ ท่านก็ทำได้จริงๆ ทำได้แม้กระทั่งสละตัวเองเพื่อผู้อื่น

     

    ขณะที่เด็กหนุ่มทั้งสามและเด็กหญิงอีกหนึ่งได้ถกเถียงเกี่ยวกับด่านที่สี่ เนื่องจากเดินมานานแล้วก็ยังไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย

    นี่เดินมาตั้งนานแล้วนะ หรือว่าด่านสี่นี่จะเป็นด่านการอดทนกันเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มเสนอความคิดเห็นกับเพื่อชายอีกสามที่เอาแต่เงียบ

    ไม่หรอกน่า มันน่าจะเป็นอะไรที่ชัดเจนกว่านี้ อย่างเช่น...เกรกล่าวยังไม่ทันจบ เมนาสก็ร้องเตือนขึ้นมาก่อน

    วงแหวนเวทย์!~”

    แต่ไม่ทันเสียแล้ว ตอนนี้พวกเขาถูกพันธนาการอยู่ในวงแหวนเวทย์สีดำสนิทเสียแล้วพร้อมกับความง่วงที่เริ่มแทรกซึมเข้ามากัดกินจิตใต้สำนึกของทั้งสี่ และหมดไปในที่สุด...

     

     

     ท่านเรฟครับ ถึงเวลาประชุมแล้วนะครับเสียงๆหนึ่งแทรกเข้ามาในจิตใต้สำนึกของเขา มันช่างเป็นเสียงที่ดูอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกินตามความคิดของเขา น้ำเสียงที่คุ้นเคยแต่จำไม่ได้ น้ำเสียงที่อบอุ่นนั่น...

     

    แสงบางอย่างเข้าคลอบคลุมการมองเห็นทั้งหมดของเขา แสงที่ดูสบายตาก่อนที่มันจะดับลง พร้อมกับที่ภาพเหตุการณ์บางอย่างที่ไหลวนเข้ามาในสมองราวกับภาพยนตร์เรื่องยาวที่ไม่มีวันสิ้นสุด รอบด้านมีแต่ความมืดมิด มีเพียงแสงจากภาพตรงหน้าเท่านั้นที่พอจะมองเห็นได้

    ภาพบุคคล สถานที่ น้ำเสียง ความรู้สึก และทุกๆครั้งที่มันเปลี่ยนภาพไปสมองเขาก็บีบรัดอัดราวมีเส้นด้ายมาพันธนาการมันไว้และไม่ต้องการให้บางอย่างเผยออกมา บางอย่างที่เขาไม่สมควรรู้ในตอนนี้... ความเจ็บปวดนี้ทำเอาเด็กหนุ่มทรุดลงพร้อมร้องไห้ในทันที ความเศร้า ความโหยหาบางอย่างหมุนวนในจิตใจและร่างกายไม่หยุดหย่อน เขาอยากหยุด อยากหยุดมันจริงๆ!

    ...ฮึก พอเถอะ หยุดเถอะ ขอร้อง!...

    เรฟ อย่าแกล้งน้องสิลูกน้ำเสียงอบอุ่นเจือความขบขันดังก้องกังวานไปทั่ว รอบตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปโดยทันที ความเจ็บปวดคลายลงจนหายไปในที่สุด พื้นที่สีดำถูกกลืนกินด้วยพื้นที่สีขาวและตามมาด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี ท้องฟ้าสดใสโปร่งไร้เมฆ อากาศหอมหวานจากกลีบเกสรที่อยู่รอบทุ่งหญ้า

    ฮือ พี่เรฟแกล้วหนูน้ำเสียงเล็กๆของเด็กเพียงไม่กี่ขวบ เรียกความสนใจของเขาให้เงยมองภาพเบื้องหน้า ภาพเบื้องหน้าเขาดูเรือนลางแตกต่างกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดูเด่นชัด บุคคลสี่คนที่น่าจะเป็นครอบครัวๆหนึ่งนั่งเล่นอยู่กลางทุ่ง

    อ้าวๆ ยังไงเจ้าเรฟ ไปแกล้งอะไรเรฟี่เค้าอีกล่ะหะเสียงชายวัยกลางคนดูอบอุ่นเอ่ยขึ้น

    ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ยัยนั่นตกเนินเองต่างหากง่ะคราวนี้เป็นเสียงเด็กชายที่แย้งขึ้น น้ำเสียงที่ทำเอาซันเบิกตาด้วยความตกใจ นั่นมันเสียงเขาตอนเล็กๆนี่ ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็

    ...ไม่น่า หรือว่า...ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะคิดอะไรต่อ ภาพทุกอย่างก็เลือนหายไปในทันใด พร้อมกับสติของเขาที่เลือนหายไปเช่นกัน...

     

    ณ ที่ๆของโลกแห่งความจริง ร่างทั้งสี่ยังคงนอนอย่างปรกติสุขอยู่บนวงแหวนเวทย์สีดำเรืองแสง โดยมีเหตุการณ์วุ่นวายอยู่รอบนอกวงแหวนนั่นแทน

    บ้าน่า ทำไมมีเพียงเด็กคนนั้นที่ฉันไม่สามารถเข้าไปได้ล่ะเด็กสาวผู้มีเรือนผมสีดำสนิทและนัยน์ตาสีเหลืองสดตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด

    ด่านที่สี่คือด่านทดสอบความเข้มแข็งภายในจิตใจ ซึ่งพวกเขาจะใช้ เวทย์เซอร์จีสคอนเนียส ในการทดสอบ

    เวทย์เซอร์จีสคอนเนียส มาจากคำสี่คำในภาษาเวทย์ เซอร์ คือโจมตี จีส คือทางจิต คอนคือค้นหา และเนียสคือเสนอ,ตีแผ่ รวมกันเป็นเวทย์ที่ใช้สำหรับเจาะเข้าไปในความทรงจำของศตรูและเข้าไปดึงส่วนที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมา ถือเป็นเวทย์ที่ร้ายแรงสำหรับคนที่มีจิตอ่อน และง่ายดายสำหรับผู้ที่มีจิตแข็งแกร่ง สามารถจะฝ่าฟันทุกอย่างไปได้ แต่สำหรับซันนั้น เวทย์นี้กลับใช้ได้เฉพาะถึงคำที่สามที่แปลว่าการค้นหาความทรงจำขึ้นมาเท่านั้น และความทรงจำนั้นกลับเป็นความทรงจำทั้งหมดไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าถึงตอนนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้ว เมื่อจะเข้าไปอีกครั้งก็เหมือนจะโดนพลังบางอย่างดีดกลับเสียทุกครั้ง

    แย่ล่ะ ถ้าหยุดไม่ได้แล้วล่ะก็ เด็กคนนั้นแย่แน่ๆชายอีกคนเอ่ยอย่างร้อนรน แต่ในขณะที่สถานการณ์เริ่มเลวร้าย วงแหวนเวทย์ดำนั้นก็ถูกทับซ้อนด้วยวงเวทย์สีขาวและโดนระเบิดทิ้งอย่างรวดเร็ว ฝุ่นที่เกิดจากการระเบิดฟุ้งกระจายไปทั่วเป็นม่านหมอกบดบังทัศนียภาพในการมองเห็น

    แค่กๆ ใครน่ะ

    เกือบแล้วไหมล่ะน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความโล่งอกอย่างแท้จริงดังออกมาจากที่เกิดเหตุ เมื่อฝุ่นนั้นจางลง รุ่นพี่ผู้ที่ควบคุมด่านก็ก้มลงทำความเคารพแทบไม่ทัน

    ท่านผู้อำนวยการ!”ชายผู้อยู่หน้าสุดทักด้วยความตกใจ ชายหนุ่มที่ดูท่าทางอายุคงยังไม่ถึงสามสิบอยู่ในเสื้อสูทสีขาวล้วนตรงขอบขลิบลายสีเงินดูสุภาพ เส้นผมสีทองยาวสยายไปจนถึงหลังมัดรวบอย่างเรียบร้อย นัยน์ตาสีครามมองพวกเขายิ้มๆราวทักทายก่อนหันไปมองเด็กหนุ่มที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยสายตาเศร้าสร้อย เขาวางเด็กหนุ่มลงที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งที่ใกล้ที่สุด

    เขายกมือด้านหนึ่งขึ้นบนเหนือหัวของเด็กหนุ่มผมน้ำเงิน แสงสีขาวสว่างส่องลงมาก่อนจะค่อยๆซึมซาบเข้าไปในหัวของเขา สีหน้าเจ็บปวดเมื่อครู่ค่อยๆจางลงและกลับเป็นสีหน้าสงบนิ่งเหมือนคนหลับทั่วไปช้าๆ

    ท่านจะฟื้นความทรงจำตอนไหนก็ได้ หากแต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่ท่านยังมีโอกาสใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอยู่เขาพูดกับเด็กหนุ่มที่ยังหลับอยู่ด้วยแววตาและน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อยจนน่าใจหาย เขาค่อยๆลุกขึ้นหันไปมองนักเรียนผู้เป็นผู้คุมสอบในด่านนี้ยิ้มๆ เมื่อเห็นท่าทางกระดากกระเดิกในความผิดพลาดคราวนี้

    ไม่เป็นไรหรอก พวกเธอไม่ได้ทำผิดพลาด แต่เพราะดันมาเจอเด็กคนนี้เข้าก็เลยเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ยังไงก็ทดสอบต่อไปเถอะ เดี๋ยวช่วยปลุกเด็กพวกนี้ด้วยนะ ฉันอยากให้เขาโดนทดสอบถึงด่านสุดท้าย ทำได้นะ

    ครับ/ค่ะ

    อืม แล้วเจอกันนะเขากล่าวและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว และอีกไม่นานกว่านั้นนักพวกซันก็ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวข้างเดียวเช่นไมเกรนแต่ไม่ใช่

    โอ๊ย ปวดหัวชะมัดเลย แถมยังเจอฝันบ้าๆนั่นอีก ไม่น่าเลยเสียงบ่นของเกรดังขึ้นมาเป็นเสียงแรกๆตามความคาดหมาย ก่อนจะรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มผมน้ำเงินที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันซึ่งตอนนี้ยังคงไม่ได้สติพิงอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ขณะที่คนอื่นๆฟื้นมาหมดแล้ว

    เฮ้ เรฟๆ ตื่นได้แล้วเกรเขย่าร่างนั้นเบาๆและเพิ่มแรงมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายังคงไม่ยอมตื่นอยู่ดี

    ไม่มีประโยชน์หรอกครับจู่ๆเดรอนก็ปรากฏกายออกมาด้านนอก ท่าทางของเขาในตอนนู้นิ่งสงบปนเปไปกับความวิตกกังวล ชายหนุ่มนั่งยองๆลงข้างเกรพร้อมกระซิบบางอย่างต้องการให้รู้เพียงสองคน

    หยุดเอาไว้ไม่ทันครับ ความทรงจำบางส่วนหลุดลอดออกมาแล้ว แต่คงไม่ต้องห่วง ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญหรือเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนั้นแต่อย่างไร คงจะเกี่ยวกับคนรอบๆตัวนั่นละครับ อย่างพวกที่อยู่ในโรงเรียนนี้บางคนก็อาจจะจำได้ บางคนก็ยังจำไม่ได้ แล้วแต่ว่าใครจะมาให้เห็นหน้าเร็วที่สุดก็เท่านั้น

    อย่างนั้นเองเหรอ ค่อยยังชั่วฉันละนึกว่าเขาจะจำเรื่องราวตอนนั้นได้หมดแล้วซะอีก ตกใจหมด

    นั่นสินะครับเดรอนกล่าวก่อนจะโบกมือผ่านใบหน้าของผู้เป็นนายและหายไปในทันที สักครู่นัยน์ตาสีน้ำเงินก็ปรือลืมขึ้นมา แรกทีนัยน์ตานั้นว่างเปล่าไร้ซึ่งแวว กระพริบตาถี่ๆหลายที เรฟถึงได้สตินัยน์ตามีแววอีกครั้ง

    อ้าว เกร นายโตขึ้นเยอะเลยนี่นั่นคือประโยคแรกที่เอ่ยพอเจอหน้าเด็กหนุ่มตระกูลชาน เกรทำหน้าบูดขึ้นมาในทันที

    ...นั่นแหละ ประโยคที่ฉันไม่อยากได้ยินมากที่สุด...

    ช่างฉันเถอะ พวกเราเสียเวลามานานแล้วนะ จะไปสอบต่อได้รึยังเด็กหนุ่มชวนพลางฉุดเรฟให้ลุกขึ้นมาจากใต้เงาไม้เสียที

    นายไม่เป็นไรนะเด็กสาวที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันเอ่ยถามทันที เมื่อเด็กหนุ่มก้าวเข้ามาในระยะรัศมี

    อืมเรฟเลือกที่จะตอบสั้นๆ เพราะตอนนี้เขาปวดหัวจนไม่อาจมีอารมณ์จะไปตอบคำถามใครได้ในตอนนี้ ภาพแห่งความทรงจำบางอย่างทาบทับเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็วจนแทบจะทรุดลงไปแต่ก็ยั้งตัวไว้ก่อนและพอดีกับที่คนอื่นๆไม่ได้สนใจเขาแล้ว จึงไม่มีใครเห็นอาการผิดปกตินี้

    เธอไม่เป็นไรนะรุ่นพี่ชายผู้คุมด่านรุดเข้ามาถามพวกเรฟอย่างหวั่นวิตกเล็กน้อย

    ไม่เป็นไรหรอกครับเรฟตอบกลับ เดินตามรุ่นพี่ชายไปยังด่านทดสอบสุดท้าย

    บอกไว้ก่อนนะ ที่จริงพวกนายน่ะผ่านการสอบเรียบร้อยแล้วละ แต่ด่านต่อไปนี้คือด่านพิเศษซึ่งถ้าพวกนายผ่านด่านนี้ได้ พวกนายจะได้สิทธิพิเศษตอนอยู่ในเอรานาฟ ก็ดีนะถ้าได้มีสิทธิประโยชน์อย่างนั้น แต่พูดตรงๆฉันไม่นึกว่าพวกนายจะไปชนะหนึ่งในนั้นได้หรอก

    ปี 6 หอเงินเก่งขนาดนั้นเลยหรือครับในที่สุดเมนาสก็ปริปากออกมาจนได้

    จะให้พูดตรงๆอีกละ ไม่ใช่แค่ปีหกหรอก ตั้งแต่รุ่นปีหนึ่งถึงปีสุดท้ายของฟอเงินแต่ละปีล้วนได้รับสมญานามว่าปีศาจไม่ก็เทพ

    ขนาดนั้นเลยเกรแอบว่าลับหลังเบาๆ

    ถึงแล้ว ขอให้พวกนายโชคดีแล้วก็มีชีวิตรอดผ่านวันนี้ไปให้ได้ก็แล้วกันชายหนุ่มกล่าวก่อนเดินจากไป โดยทิ้งลูกระเบิดให้ทุกคนได้แก้รหัสกันเอาเอง สักพักเสียงทะเลาะกันของใครบางคนบนยอดไม้สูงก็เรียกสายตาของทุกคนให้กลับไปมอง

    ฉันจะเอา

    ฉันก็จะเอา

    เสียงทะเลาะกันแบบเด็กๆดังลั่น ก่อนที่รุ่นพี่กลุ่มหนึ่งจะปรากฏตัวหน้าพวกเขา โดยมีคนสองคนกำลังลับฝีปากกันอยู่ด้วยความเมามัน ขณะที่คนอื่นๆกุมขมับจำยอม

    พวกนายน่ะหยุดได้แล้วน้ำเสียงสั่งเฉียบขาดจากผู้ที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม นัยน์ตาสีชาดูเคร่งขรึมอยู่ใต้กรอบแว่นทรงรี เส้นผมเงินพิสุทธิ์ดูนุ่มลื่นถูกตัดถึงติ่งหูอย่างเรียบร้อย ชุดที่พวกเขาใส่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ปีหก หอเงิน...

    อึ๊ย หอเงินจริงด้วย ถ้างั้น...เกรบ่นพึมพำอย่างหวาดเสียว เมื่อรู้ถึงความจริงที่เขาอาจจะต้องเผชิญหน้าภายในเร็วๆนี้

    หวัดดีจ้า น้องสุดที่รักน้ำเสียงหวานแหววแต่ดูสยองขวัญสำหรับเด็กหนุ่มดังขึ้น พร้อมกับรุ่นพี่สาวคนหนึ่งที่เดินมาด้านหน้าเกร เส้นผมสีดำยาวจรดเอวถูกรวบเอาไว้ นัยน์ตาสีเทาเช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม ยิ่งทำให้เด็กสาวดูเหมือนเกรภาคผู้หญิงมากๆ

    ง่า สวัสดีฮะ พี่เด็กหนุ่มตอบรับพร้อมยิ้มเห่ยๆ

    โป๊ก! โอ๊ย!

    ฮือ ตีหัวผมทำไมอ่ะเกรร้องประท้วงมือทั้งสองข้างกุมหัว นัยน์ตาเล็ดออกมาน้อยๆด้วยความเจ็บ ทำให้เด็กสาวด่าเข้าให้อีกชุด

    ทำตัวยังกับเด็กอมมือ ตัวโตยังกับหมีควายแล้ว ยังมาร้องงอแงอีก!”ก่อนจะเกิดสงครามพี่น้องร่วมสายเลือดตีกัน ชายหนุ่มผู้หยุดสงครามปากในครั้งแรกได้กลับมาเป็นกรรมการอีกครั้งด้วยรังสีเยือกแข็ง ทำเอาคนรอบข้างรีบหาที่หลบภัยกันพายุหิมะที่อาจจะตก ถ้าสองพี่น้องนี่ยังไม่ยอมหยุดทะเลาะกันแบบเด็กๆอีก

    อึ๊ย! จ้าๆ เข้าใจแล้วล่ะ แอลล่ะก็เด็กสาวผู้น่าจะเป็นพี่สาวของเกรถอยห่างออกไปเข้ากลุ่ม โดยมีรุ่นพี่ชายอีกคนแซว

    นายก็หยุดนิสัยสร้างพายุหิมะพร่ำเพรื่อได้แล้วน่า ฉันล่ะขี้เกียจเก็บกวาด

    ท่าทางขี้เล่นจนเป็นนิสัย รูปร่างสันทัดในชุดนักเรียน ผมสีทองตัดสั้น นัยน์ตาสีส้มดูแปลกตาร่าเริงที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่มักจะประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ

    ดี งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้นาย ด้วยการสร้างโลงน้ำแข็งให้คำพูดตอกคืนของเจ้าชายน้ำแข็งไม่ทำให้คนพูดสะเทือนเล็กน้อย แต่กลับหัวเราะออกมาอย่างรักสนุก

    โอ๊ย ถ้านายทำให้ฉันนะ ฉันคงจะเป็นเกียติมากเลย แต่ว่าตอนนี้เดี๋ยวทดสอบเจ้าพวกนี้ดีกว่านะ ยังไงๆฉันก็ขอนายแล้วกันนะ เรฟสารส่งท้าเจาะจงโจ่งแจ้ง ขณะที่คนโดนท้ายังคงยิ้มสบายๆไปให้

    รุ่นพี่คือใครเหรอครับ

    ประโยคต่อมาแทบเอารุ่นพี่หนุ่มสะดุดพื้นเรียบๆหัวคะมำ

    อย่าบอกนะว่านาย...ความจำเสื่อมชายหนุ่มจ้องหน้าเรฟอย่างไม่น่าเชื่อ

    อาจจะนะครับ

    นั่นแหละนายชายหนุ่มสรุปในทันที

    แต่ช่างเถอะ เรามาจับฉลากกันดีกว่าจะได้ไม่ต้องเถียงกันไง โอเคมะอยู่ๆรุ่นพี่คนนั้นก็สรุปเองเออเองจนว่าที่รุ่นน้องอย่างพวกเกรก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าคนพวกนี้พูดเรื่องอะไรกัน ด้วยความคันปาก เกรจึงโพล่งถามออกไปเสียอย่างนั้น

    หมายความว่ายังไงน่ะครับ

    ก็หมายความว่าเราจะประลองกันไงเขากล่าวพร้อมเหยียดยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจจริง

    ไม่ต้องขยายให้มากความ เอาล่ะ พวกนายมีสี่ พวกฉันมีหก งั้นถ้าพวกฉัน ใครจับได้กระดาษเปล่าหมายความว่าไม่ได้ประลองนะ เอาล่ะงั้นเดี๋ยวฉันขอก่อนแล้วกันว่าแล้วก็ล้วงมือลงไปในกล่องกระดาษใบเล็กที่ไม่รู้เตรียมมาตอนไหน

    อะ ฮ้า เหลือง เอใครจะได้น้า ต่อไปเอ้าเขาส่งให้พี่สาวของเกรที่ตอนนี้สายตาจ้องมองมาที่เรฟด้วยสายตาวิบวับหน้ากดดัน และเมื่อผลออกมาก็เห็นได้ว่าเธอได้ฉลากสีเขียว

    ฉันขอเอาสีอะไรก็ได้ แต่ขอให้ไม่ใช่สีเขียวเกรพูดเสียงค่อยเมื่อเห็นว่าพี่สาวของตนนั้นได้ประลองเป็นแน่แท้

    ผลสรุปออกมาคือคนที่ได้ประลองมีพี่สาวของเกรคนหนึ่ง รุ่นพี่ผู้ชายอีกสองคนที่ดูคนหนึ่งท่าทางบ้าเลือดน่ากลัว อีกคนที่เอาแต่สนุกไปวันๆ และอีกคนคือพี่ผู้หญิงที่มีลักษณะเรียบร้อย ไม่น่าจะหล่นลงมาปนกลุ่มกับคนพวกนี้ได้เลยสักนิด...

    เอาล่ะถึงตาพวกนายแล้วล่ะนะรุ่นพี่ชายคนแรกที่จับกล่าวยิ้มๆ เขากระซิบบางอย่างข้างหูเรฟ เด็กหนุ่มที่ได้ยินก็เอาแต่ยิ้มขันๆ

    ...ดูท่าพวกนั้นคงอยากสู้กับท่านน่าดูเลยครับ ท่านเรฟ...เดรอนที่ดูอยู่หัวเราะขำๆ

    ...แหมก็นะ ดูคุ้นๆแต่จำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ถ้าได้สู้ด้วยสักครั้งคงจำอะไรได้บ้างล่ะ...เรฟตอบกลับในใจ น้ำเสียงของเขาในตอนนี้คงอยากประลองเต็มแก่

    เขาล้วงมือเข้าไปหยิบกระดาษในกล่องและกำมันไว้อย่างนั้นไม่แบออกมา รอให้คนอื่นลุ้นกันต่อไป เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มได้สีแดงซึ่งเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงท่าทางน่ารักนั่น เกรวาสได้สีฟ้าซึ่งคู่กับรุ่นพี่ท่าทางน่ากลัวนั่น เกรจับคู่ได้กับพี่สาวของตนที่ตอนนี้เด็กหนุ่มก็เข่าทรุดหมดอาลัยตายอยากไปเรียบร้อยแล้ว

     

    งั้นนายก็คู่กับฉันสินะรุ่นพี่ผมทองยิ้มให้เขาพร้อมเรียกทวนเข้ามาในมือ จะได้แก้มือเมื่อคราวก่อนเสียเลย

              ใจร้อนจริงรุ่นพี่หญิงท่าทางเรียบร้อยเอ่ยขึ้น ส่ายหน้าเป็นเชิงปลงๆ

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×