ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reaus The Killer รีอัส นักฆ่าเลือด

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 องค์กรณ์ลับ “โนลาเฟีย”

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 50


    บทที่ 1 องค์กรณ์ลับ โนลาเฟีย

     

     

     

    ซวก!

    เสียงวัตถุแหลมคมบางอย่าง ตัดผ่านของสิ่งหนึ่งด้วยความเร็วสูงและเฉียบพลัน ดังออกมาจากบ้านร้างแห่งหนึ่งที่เงียบสงัดบนหุบเขาที่ว่างเปล่า นัยน์ตาสีเพลิงส่องสว่างในความมืดเหมือนดวงไฟดวงเล็กๆ ฉายแววตาสนุกสนานและโหดเหี้ยมในคราวเดียวกัน นัยน์ตาคู่นั้นมองดูร่างที่อาบเลือดเบื้องหน้าเงียบๆ พร้อมรอยยิ้มแสยะเผยให้เห็นเขี้ยวที่ถูกซ่อนไว้ในปาก

    หึๆ...เสียงหัวเราะในลำคอเล็กๆอย่างสะใจ พลางเลียหยาดโลหิตที่ยังติดตามใบมีดเงินคมเหมือนหมาป่าที่หิวกระหายเลือดโดยแท้ เมื่อแน่ใจว่าร่างตรงหน้าสิ้นใจอย่างครบถ้วนแล้ว เจ้าของนัยน์ตาสีแดงเพลิงที่กระหายเลือดเมื่อครู่ก็ยืนขึ้น มองเหยื่อด้วยสายตาเย็นชาครั้งสุดท้าย เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงช้าๆพร้อมกับหยิบสิ่งหนึ่งติดไม้ติดมือมาด้วย เขายกสิ่งนั้นขึ้นระดับปากแล้วเป่ามันไปอย่างแผ่วเบา แล้วหันหลังกลับกระโดดผ่านช่องหลังคามุงหญ้าฟางไปโดยง่ายดาย!

    ของสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่มีเพียงร่างหนึ่งที่ไร้ชีวิต หยาดเลือดและขนนกสีเลือดราวมันย้อมมาจากเลือดจริงๆที่อยู่บนตัวศพ!

     

     

    นี่ๆ เธอได้ยินไหม ว่าเจอศพที่ 17 แล้วนะเธอ

    หา! จริงเหรอเนี่ย เจ้า BF มันฆ่า 17 ศพแล้วเหรอเนี่ย แล้วคราวนี้เหยื่อเป็นใครล่ะเธอ

    รู้สึกจะเป็น พ่อค้าคนกลางรายใหญ่ของตลาดเรานะ

    หืม! เจ้านีโอฟ ตัวใหญ่ๆนั่นเหรอเธอ

    ใช่ๆเสียงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องเด่นประจำวันของเมืองนี้ ดังเบาๆในมุมหนึ่งของร้านขายอาหารเล็กๆที่ตั้งชื่อร้านอย่างกิ๊บเก๋ว่า โฟลลาเนีย

     

    เอาเข้าไป วิพากษ์วิจารณ์กันเข้าไปเสียงบ่นพึมพำของเด็กหนุ่มพ่อครัว เจ้าของนัยน์ตาสีดำสนิทที่มีแววหงุดหงิดอยู่เป็นนิจ เส้นผมสีดำละมุนถูกไว้ถึงกลางหลังถูกรวบไว้อย่างไม่เป็นใจ เครื่องหน้าที่จัดว่าดีมาก เข้ากับผิวพรรณสีขาวนวลที่อยู่ภายใต้ชุดพ่อครัวสีขาวสะอาดที่คลุมถึงเข่า และดูท่าว่าหูของเขาจะดีมากซะด้วย เพราะระยะที่เขาหั่นผักกับกลุ่มพูดคุยของสองคนนั้นอยู่ห่างกับเขามาก แถมมีกำแพงกั้นอยู่อีกด้านหนึ่งอีกต่างหาก

    มีอะไรไอ้น้อง บ่นอย่างกับผู้หญิงไปได้เสียงทุ้มของชายคนหนึ่ง เรียกหางตาดุไปปรามแล้วกลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็ว คนที่ทักเด็กหนุ่มเป็นชายหนุ่มร่างโปร่งที่ดูท่าจะสูงมากกว่าคนแรกนิดหน่อย ผมสีน้ำตาลแก่ เข้ากับใบหน้าเรียวและนัยน์ตาสีดำสนิทดูอบอุ่นในสายตาคนอื่นๆ แต่ไม่ใช่เด็กหนุ่มข้างๆนี้ที่มองว่ามันเจ้าเล่ห์เสียไม่มีเขากำลังมองดูการหั่นผักที่ชำนิชำนาญของเด็กหนุ่มตรงหน้าขณะมือของเขายังคงสับแครอทอย่างรวดเร็วและแม่นยำพอๆกัน!

    รีอัส รู้สึกว่านายจะเก็บไม่เรียบร้อยนะ เมื่อคืนน่ะชายหนุ่มผมน้ำตาลเอ่ยเบาๆกับชายหนุ่มอีกคน ที่สะบัดหางตาด้วยความรำคาญมาอีกครั้ง

    ก็ใครมันจะเก่งเหมือนนายล่ะ รีคิอัสชายหนุ่มผมดำตอกกลับเสียงแดกดัน

    โอ๊ะ! ขอบคุณสำหรับคำชมคนที่ถูกเรียกว่า รีคิอัส เอ่ยพร้อมยื้นน้อยๆและกวนๆ

    คุณรีคิอัสขา~~~”เสียงเรียกจากหน้าเคาเตอร์ เรียกให้ชายหนุ่มผมน้ำตาลหันหน้าไปโปรยเสน่ห์ต้อนรับลูกค้าสาวคนใหม่ทันที

    ครับ รอสักครู่ครับเขาตะโกน และกระซิบข้างหูรีอัสด้วยความเร็วที่เร็วมากๆ! รีอัสเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาเมื่อรีคิอัสเดินไปแล้วช้าๆ

    อีกตั้งแปดชั่วโมงเขาพึมพำเบาๆ แล้วก้มหน้ากวาดผักทั้งหมดลงอ่างอะลูมิเนียมที่มีน้ำอยู่เต็ม แล้วหันไปหยิบเนื้อหมูสีแดงสดมาหั่นต่อไป...

     

     

    รีอัส ไปได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอกเสียงเรียกของหญิงสาวที่หาได้ยากในห้องครัว เรียกให้เจ้าหนุ่มผมดำวางมีดที่พึ่งเช็ดเมื่อกี้ลง แล้วรีบวิ่งตามคนอื่นๆไป ตอนนี้เป็นเวลาปิดของร้านอาหารแห่งนี้ และแทนที่พวกพนักงานทั้งหลายจะหยุดพัก ที่ไหนได้มันเป็นเวลาของงานจริงๆต่างหาก...

     

    นายว่าวันนี้ ใครจะได้ไปทำภารกิจบ้างหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีดำและผมสีน้ำตาลประบ่าถามขึ้น ขณะที่พวกเขาเดินไปหลังร้านที่มีเพียงถังขยะใบหนึ่งเท่านั้น

    ไม่รู้สินะ ราน่า ใครมันจะไปรู้ล่ะ ก็ริคิอัสเล่นเดาสั่งมั่วทุกวันอย่างนั้น ขอให้อย่างเป็นฉันเลย ช่วงนี้ยิ่งฟลุกถูกบ่อยๆด้วยรีอัสบ่นพลางเอาแขนก่ายข้างหลัง ราน่าหัวเราะเบาๆและหยุดโดยฉับพลันเมื่อพวกเขามาหยุดที่หน้าถังขยะ รีอัสและราน่ามองหน้ากันไปมาเหมือนโยนความรับผิดชอบ

    นายนั่นแหล่ะ ไม่ต้องมามองฉัน ฉันเป็นผู้หญิงนะราน่าด่าแว๊ด ทำให้รีอัสทำหน้าบูดทันที แต่เขาก็ไม่ได้ต่อเถียงต่อ เพราะรู้ตัวว่าเถียงตอนไหนเขาก็แพ้ทุกครั้งละน่า ชายหนุ่มเดินอ้อมถังขยะใบนั้นแล้วใช้เท้าซ้ายถีบเบาๆ แต่ถึงจะถีบเบาๆถังขยะใบนั้นก็ออกไปไกลเป็นเมตรอยู่ดี! ที่ตรงที่ถังขยะใบนั้นเคยทับอยู่ มีประตูกลใบหนึ่งอยู่ตรงนั้น รีอัสเปิดมันออก ราน่ายิ้มขอบคุณและเดินลงไปคนแรก ตามด้วยรีอัสที่เหวี่ยงตัวเข้าไปพร้อมกับปิดประตูกลดังแป๊กเล็กๆ

    ภายหลังประตูนั้นเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ใหญ่จริงๆ แถมสิวิไลกว่าข้างนอกเยอะ ผนังของอุโมงค์เป็นเหล็กกล้าทนทานอย่างดีมันเงาวับอย่างดี ตรงหน้าพวกเขามีประตูปิดอุโมงค์ที่ดูยังไงก็ทำลายลงไม่ได้ เรน่าและรีอัสเดินไปที่แป้นที่อยู่ข้างๆประตูยักษ์ และทันทีที่เขาเข้าใกล้ แป้นสีเงินวับนั้นก็สร้างสัญญาณสี่มิติออกมาทันที

    สวัสดีค่ะ ขอรหัสค่ะ

    รีอัส/ราน่าทั้งสองเอ่ยพร้อมกัน พร้อมกับที่จอภาพสี่มิติ แสดงผลข้อมูลของทั้งสองและฉายแสงสีฟ้าอ่อนออกมาตรวจอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

    สวัสดีคุณรีอัส มาร์โทร่าและคุณราน่า เอราน่า ยินดีต้อนรับค่ะ ขอให้โชคดีนะคะจอสี่มิติเอ่ย แต่สีหน้าของทั้งสองกลับเซ็งยิ่งกว่าเก่าเมื่อได้ยินคำต่อท้าย

    โชคดีงั้นเหรอ แล้วครั้งนี้วางอะไรไว้อีกล่ะ

    นั่นสิไม่ทันที่ทั้งสองจะคิดจบ ประตูก็เปิดออกเข้าไปสู่อุโมงค์ภายใน และช่วงเวลาช้าๆที่อยู่ในการเปิดปากอุโมงค์ เสียงบางอย่างก็กระทบหูพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    และเมื่อประตูเปิดออกจนสุด พวกเขาก็เห็นขวานยักษ์ขนาดเท่าช้างๆกวัดแกว่งไปมาระหว่างทางเข้าสู่ประตูอีกด้านมากมาย ใบมีดของขวานยักษ์ส่องประกายวิบวับเหมือนกำลังขู่คนที่จะมาเข้าใกล้มัน แต่รู้สึกจะไม่ได้ผลสำหรับสองคนนี้

    เลดี้ เฟริสครับรีอัสเอ่ยพร้อมยักคิ้วให้เรน่าคืนครั้งหนึ่ง

    รู้แล้วน่าเรน่าเอ่ยพร้อมถอยหลังไปประมาณสามก้าวและวิ่งไปข้างหน้ารวดเร็วปานลม! เธอกระโดดไปที่ขวานด้ามแรกและอีกด้าม อีกด้ามอย่างรวดเร็วและไร้ความกลัวแม้แต่น้อย! รีอัสมองดูเธอด้วยสายตาธรรมดาๆ แล้วกระโดดตามเธอไปทันที ไม่นานพวกเขาก็มาถึงประตูอีกด้านด้วยความสามารถที่แทบเกินมนุษย์ทั่วไป

    ประตูบานนี้ไม่มีอะไรพิเศษแค่กดปุ่มเดียวมันก็เลื่อนออกให้แล้ว แต่สถานที่ที่อยู่เบื้องหน้าคือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มากๆ ปราสาทสองชั้นแต่กินพื้นที่หลายไร่ ปราสาทเป็นลักษณะกรีกโบราณดูสวยงามอีกแบบ รอบๆตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพธิดาเทพเจ้าอ่อนช้อยสวยงามอย่างที่สุด ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่กลางป่ารกทึบขนาดใหญ่ รีอัสและเรน่าเดินผ่านรูปปั้นนานารูปที่พวกเขาเห็นมาตลอดจนชินตา จนมาหยุดที่ประตูขนาดใหญ่ที่ปิดสนิทราวไม่ต้อนรับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่เขาจะเสียเวลาไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ฟ้าเริ่มจะมืดแล้วด้วย

    รีอัส/เรน่าพวกเขาเอ่ยพร้อมกันอีกครั้ง

    ลูคัสอีกเสียงหนึ่งดังมาจากหลังพวกเขา

    ลูคัส!”ทั้งสองร้องขึ้นอย่างดีใจเมื่อหันหน้าไปด้านต้นเสียง ที่นั่นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำลังยืนยิ้มให้พวกเขา เส้นผมที่ปล่อยถึงกลางหลังและนัยน์ตาสีดำเช่นเดียวกับรีอัสมีแววสนุกสนานอยู่เป็นนิจ เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนต่างกับอีกสองคนที่อยู่ในชุดพ่อครัวสีขาวสะอาด

    นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะเรน่าถามเสียงยินดี ที่ได้เจอชายหนุ่มคนนี้อีก

    ก็เมื่อกี้อ่ะนะ ตามหลังพวกนายมาติดๆเลยคนที่ชื่อลูคัสเอ่ย

    แล้วเป็นไงล่ะงานรีอัสถาม

    สบาย เรียบร้อยดีเขาตอบพร้อมโยนของสิ่งหนึ่งมาให้รีอัส เขาชูขึ้นมาดูอย่างสงสัย มันเป็นกล่องผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินสองคูนสองนิ้ว

    แล้วไอ้ข้อมูล มันอยู่นี่เหรอ

    อืมหืมลูคัสตอบรับแล้วแย่งของคืนจากรีอัสที่ทำหน้ามุ่ย พวกเขาเดินเข้าไปในประตูเพิ่งเปิดออก

    สงสัยต้องไปเช็คระบบประตูแล้วล่ะ ช้าขนาดนี้รีอัสบ่นงึมงัมตามนิสัยเจ้าตัว ภายหลังประตูบานนั้นเปิดออก ข้างในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่รูปทรงกลมสวยงาม ราวกับพวกเขากำลังเหยียบย่ำอยู่ในปราสาทที่เลอค่ายิ่ง ที่ตรงนี้เขามองเห็นระเบียงชั้นสองได้ชัดเจน ผนังตรงกลางที่ตรงกับประตูทางเข้ามีธงขนาดใหญ่มีตราสัญลักษณ์สักอย่างที่เป็นรูปดาบสั้นสองเล่มไขว้กัน มีตัวอักษรเอ็นอยู่ตรงกลาง ที่นี่คือองค์กรลับ องค์กรนักฆ่าที่ลือชื่อและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก องค์กรที่ชื่อว่า โนลาเฟีย โนลาเฟียเป็นองค์กรที่ไม่ขึ้นตรงต่อใคร เป็นองค์กรอิสระที่ฆ่าเฉพาะผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรงแต่รัฐบาลเอาผิดไม่ได้หรือกรณีจำเป็นอื่นๆเท่านั้น ไม่มีใครเคยเห็นโนลาเฟีย เพราะมันไม่มีประตูและถูกปิดกั้นโดยป่าเล็กๆที่ไร้ผู้คนหมายจะเข้าไป ทางเข้านั้นมีแค่ 5 ทางคือทางลับหรืออุโมงค์ที่พวกรีอัสผ่านมา อยู่หลังร้านค้าที่เปิดขึ้นมาบังหน้า ประกอบไปด้วย ร้านอาหารโฟลาเนีย ร้านขายอาวุธฟลอทเนีย ร้านขายของชำเฟีย ร้านขายยา ฟาโลเนีย และร้านขายเสื้อผ้า โลนาเฟีย น่าแปลกที่ร้านค้า 5 ร้านนี้พวกตำรวจแทบจะไม่สงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย องค์กรนี้จะรับเฉพาะนักฆ่าที่ไร้ครอบครัว และที่สำคัญต้องหน้าตาดีเท่านั้น...

    องค์กรโนลาเฟียมีประทานองค์กรคนเดียว คือ The King Nolafre รองลงมาคือ รองประทานอีกสองคนคือ The Dawn Knife ฝ่ายขวาและ The Night Knife เป็นฝ่ายซ้าย รองลงมาอีกคือผู้พิทักษ์ทั้ง 6 ประกอบไปด้วย The Blood feather, The White feather, The Black feather, The Silver feather, The Gold feather และ The Diamond feather  

    รีอัส หรือที่ทางตำรวจและชาวบ้านเรียกว่า The Blood feather นามย่อคือ BF เป็นหนึ่งใน 6 ของผู้พิทักษ์โนลาเฟีย และเป็นคนที่ถูกพูดถึงเมื่อเช้านั่นเอง ราน่า คือ The White feather (WF) ลูคัสคือ The Black feather (BF) ทั้งสองคนนี้ก็เป็นหนึ่งใน 6 ของผู้พิทักษ์โดนลาเฟียเช่นกัน

     

    ซวก!

    เสียงลูกศรที่พุ่งผ่านอากาศมาทางรีอัส ทำให้เจ้าตัวหลบฉากออกจากที่เดิมทันที ฉึก - ธนูที่เกือบจะเอาชีวิตเด็กหนุ่มเมื่อครู่พุ่งเสียพื้นตรงที่รีอัสเคยยืนไปจนปลายลูกศรมิดพื้น แสดงให้เห็นถึงความเร็วและแรงของลูกธนูที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย

     

    คู่หูล้างองค์กร ทะเลาะกันอีกแล้วละสิราน่าเอ่ยเสียงปลงๆพลางมองไปที่ต้นเหตุของธนู ที่ถ้าฟังดีๆจะได้ยินเสียทะเลาะกันอย่างชัดเจน รีอัสดึงลูกธนูนั้นออกจากพื้น และเดินตามพวกราน่าไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุทันที ยังไม่ทันทีทั้งหมดจะเดินไปถึงที่หมาย เสียงทะเลาะของคู่หูล้างองค์กรที่ราน่าเรียกก็ดังกระทบหูแล้ว

     

    แกไอ้ซีรีอัส! แกเอาหนังสือฉันไปไว้ไหน ไม่งั้นแกเจออีกรอบแน่!”เสียงร้องประกาศศึกของหญิงผู้หนึ่ง เร่งให้พวกรีอัสเร่งฝีเท้าขึ้นไปดูเหตุการณ์โดยเร็ว เมื่อไปถึงก็เจอเหตุการณ์ที่เห็นถึงต้องกุมขมับอีกรอบ ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังทำสงครามน้ำลายกันอยู่และไม่ช้ามันจะกลางเป็นสงครามจริงๆ คนทางซ้ายเป็นหญิงสาวผู้มีนัยน์ตาสีฟ้าใสและผมสีบรอนดัดเป็นลอนตรงปลายเล็กน้อย หน้าตาจัดว่าดีมาก คนด้านขวาเป็นชายหนุ่มรูปร่างดี เจ้าของนัยน์ตาสีส้มแปลกและผมสีเงินแปลกไม่ได้หงอกที่ตัดซอยสั้นจนถึงบ่า

    ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่ได้เอาไป เธอต่างหากที่เอารองเท้าฉันไป!”

    ไม่ได้เอาไปโว้ย อย่ามั่ว

    ถ้าเธอไม่ได้เอาไปใครจะเอาไปได้เล่า!”

    มันก็เอาไปได้ทั้งองค์กรไม่ใช่รึไงเล่า ห้องนายมันสาธารณะนี่!~”เสียงทะเลาะของสองคนนั้นยังไม่หยุดจนกระทั่งความอดทนของราน่าหมดลง

    หยุดได้แล้ว!”เสียงตะโกนก้อง เรียกให้ทุกเสียงสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณนั้นเงียบลงฉับพลัน

    ซิริอัส นายหารองเท้านายใต้เตียงรึยัง บูวาน่าด้วย เธอค้นหนังสือเล่มนั้นตรงหลังตู้หนังสอรึยัง

    ยังคราวนี้ทั้งสองตอบอย่างพร้อมเพรียงและวิ่งกลับไปที่ห้องของตนเองทันที ทำเอาใครหลายๆคนแถวนั้นถึงกับถอนหายใจเฮือกด้วยความปัญญาอ่อนของทั้งสอง

    ให้ตายสิ เป็นถึง The Gold feather กับ The Diamond feather อย่างดีแต่ทะเลาะกันเป็นเด็กอนุบาลวันยังค่ำลูคัสเอ่ยเสียงเหนื่อยหน่าย

    งั้นฉันขอเอาของไปให้ ไอ้คิงก่อนนะ

    เออ แล้วเจอกันรีอัสเอ่ยแล้วเดินวนไปตามทางชั้นสองเพื่อไปห้องตัวเองที่อยู่ไกลจากชาวบ้านเขาเป็นโข ในที่สุดรีอัสก็มาถึงห้องตัวเองด้วยระดับฝีเท้าที่เหมาะกับการเป็นนักฆ่าโดยแท้ ภายในห้องของเขาเป็นห้องที่ถือว่ากว้างขวางพอสมควร เตียงไม้ขนาดใหญ่ที่มักจะไม่ได้ใช้งานสักเท่าไหร่ถูกตั้งไว้กลางห้อง ข้างๆมีโต๊ะตั้งโคมไฟเล็กๆ อีกด้านเป็นโต๊ะเขียนหนังสือที่ไม่รู้เอามาไว้ในห้องนี้ทำไม เพราะเจ้าของห้องมันไม่เคยคิดจะอ่านอะไรกับเขาหรอก ตรงข้ามเตียงเป็นคู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเสื้อผ้าแค่ 5-6 ชุดเท่านั้นเอง ภายในห้องมีห้องน้ำภายในสะดวกสบาย ไม่ต้องไปแย่งกันอาบ

    ชายหนุ่มเดินไปที่เตียง และนั่งลงเหมือนคิดอะไรสักครู่แล้วเอากระจกขึ้นมาส่องหน้า รีอัสยกนิ้วขึ้นและบรรจงถอดคอนแทคเลนส์สีออกจากดวงตาทั้งสองข้าง เผยให้เห็นดวงตาที่แท้จริงที่เป็นสีแดงเพลิงเหมือนยามค่ำคืน กฎอีกอย่างองค์กรนี้คือ จะต้องปิดสีผมและสีตาธรรมชาติของตนเองที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่หรอก รีอัสยิ้มนิดหน่อยแล้วลุกเดินไปที่ห้องน้ำ แต่เขาก็หยุดที่หน้ากระจกอีกครั้งพร้อมมองผมสีดำของตนที่เลยจนถึงกลางหลังแล้ว

    ยาวไปแล้วมั้งเนี่ย สงสัยต้องให้ราน่าตัดให้อีกแล้วล่ะ

    ...พึ่งตัดไป 2 สัปดาห์เองนะ...รีอัสคิดในใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่ายกับร่างกายของตนเองแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

    ภายในห้องที่ปิดกั้นความสว่างเบื้องนอกที่ตอนนี้ใกล้หมดลงเพราะเป็นเวลาพลบค่ำ มีเพียงจอภาพขนาดใหญ่ที่กำลังฉายภาพบางอย่าง ที่คนดูเพียงคนเดียวในห้องกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก

    ก๊อกๆๆ

    เสียงเคาะประตู ทำให้คนที่กำลังจดจ่อต่อสิ่งเบื้องหน้าจำต้องเบือนความสนใจออกมาเป็นคนที่เดินเข้ามาทั้งที่ยังไม่อนุญาต ชายผมดำและตาสีดำสนิทเจ้าเดิม เดินเข้าในห้องพร้อมกับกล่องที่เจ้าตัวให้เพื่อนดูก่อนที่จะมาที่ห้องนี้ไม่กี่นาที สายตาของเขาจับจ้องไปยังประธานองค์กรที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ นัยน์ตาสีฟ้าเรืองมีแววสดใสเจ้าเล่ห์พราวระยิบในความมืดมิดในห้อง เส้นผมสีน้ำตาลปล่อยยาวถึงกลางหลังไม่ได้รวบ และคนๆนี้คือ รีคิอัส หรือ The King of Nolafre ยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากถามด้วยสำเนียงคุ้นหู

    กลับมาแล้วเหรอ คูรัส ไหนล่ะข้อมูล

    ไม่ต้องมาทวงหรอกน่า ทำเป็นจิกไปได้คูรัสเอ่ยเสียงแผ่ว แล้วโยนกล่องกำมะหยี่ไปให้คนที่นั่งอยู่บนเบาะนวม ซึ่งรับได้อย่างสบายๆ

    แล้วไอ้ข้อมูล มันอยู่นี่เหรอประโยคที่เหมือนกับใครบางคนเปะๆเอ่ยขึ้นมาจากคนที่นั่งอยู่ในห้อง

    ถ้าไม่เอาก็ เอาคืน

    เอาๆ โถ ทำเป็นงกรีคิอัสยียวนพูด แล้วหันไปมองกล่อมกำมะหยี่นั่น ขณะที่สายตาสีดำของใครอีกคนจ้องไปที่จอภาพใหญ่ที่อยู่ด้านหลังหัวหน้าของตัวเองด้วยความสงสัย

    นั่นอะไรชายผมดำถาม เรียกผู้ที่เป็นหัวหน้าเงยหน้าขึ้นมามามองหน้า

    นายไม่รู้รึไง ตอนไปที่เมืองลิเซียน่ะ

    จะไปรู้เรอะ ฉันไปทางเมืองมาเรน ไม่ใช่ลิเซีย แล้วนี่มันอะไร

    ผลของเหรียญมังกรแดงเมื่อสามปีก่อนชายผู้เป็นหัวหน้าตอบเบาๆขณะหันไปมองที่เสื้อคลุมของตัวเองและลูบไปตามเนื้อผ้าที่มีอะไรบางอย่างภายใน

    โห ตอนนั้น คนตายไปกี่คนก็ไม่รู้สิ ว่าแต่ว่านายจะขุดค้นมาอีกเพื่อ...

    ตอนนี้นายคงไม่รู้ว่า ฝ่ายตรงข้างน่ะ ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวแล้วนะสิ้นเสียงบอกเล่าของท่านหัวหน้า นัยน์ตาสีดำที่เคยนิ่งอยู่เสมอกลับส่อประกายตื่นตระหนกออกมาทันทีเมื่อมองผู้ที่มีศักดิ์ใหญ่กว่าตนเอง

    และพวกนั้นก็กำลังจะรวบรวมเหรียญ...

    บ้าน่า! ถ้ารวมเหรียญเข้าด้วยกัน ภัยพิบัติเกิดแน่คูรัสตวาดเสียงหวาดหวั่นที่ได้ยินไม่ได้บ่อยนักจากคนๆนี้

    นายรู้แล้วล่ะสิ ฉันถึงให้นายไปหาข้อมูลนี่มาไงรีคิอัสเอ่ยพร้อมโชว์กล่องกำมะหยี่ขึ้นมาพร้อมเปิดมันออก

    ฟู่

    เสียงควันสีเทาลอยขึ้นมาจากในกล่องเล็กๆนั่น ก่อเกิดเป็นเหมือนจอเรืองแสงสีฟ้าเรือง พร้อมทั้งข้อมูลที่มีอยู่เต็มหน้า

    แล้วนายจะทำยังไงล่ะ ถ้าฝ่ายนั้นเคลื่อนไหว

    เราก็ต้อง หาเหรียญให้เร็วกว่าฝ่ายนั้น แค่นั้น

    แต่ คนที่จะครอบครองเหรียญจะต้องมีลักษณะที่เหรียญต้องการนะ เหมือนนายไง รีคิอัส

    แล้วนายไม่รู้รึไงว่าฉันคัดคนเข้าองค์กรยังไงรีคิอัสเอ่ยเสียงเจ้าเล่ห์พลางมองผ่านกระจกใสที่สามารถมองเห็นไปถึงห้องโถงข้างล่างอย่างชัดเจน ไปที่ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องโถง

    อ๋อลูคัสร้องเสียงเข้าใจ แล้วส่ายหน้าเบาๆพลางคิดสงสารเพื่อนตัวเองจับใจ ที่ต้องมีงานใหญ่ให้ทำอีกแล้ว

    เหลือเพียงอีกคนเดียวริคิอัสเปรยขึ้นอีกครั้ง เรียกสติของชายผมดำ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย

    คนที่สำคัญที่สุด ในการประกอบพิธี สงสัยต้องให้ไอ้พวกนั้นมันใช้สมองคิดเอาเองแล้วกันรีคิอัสเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

    เฮ้อลูคัสถอนหายใจอีกครั้งด้วยความเหนื่อยหน่ายเจ้านายตัวเอง ที่มีอะไรให้ต้องคิดอยู่เรื่อย

     

     

    รีอัส นายเห็นลูคัสมันไหมเสียงเรียกชายหนุ่มตาแดงที่เพิ่งเดินเข้ามา มีผลให้เจ้าตัวหันไปทางเสียงเรียกทันที คนที่ถามเขาเมื่อกี้เป็นชายหนุ่มผลน้ำตาลอ่อนยาวประบ่าและนัยน์ตาสีเขียวที่สดใสเสมอๆ นาม คินิอัส

    มันไปหา ไอ้รีคิอัส เดี๋ยวก็คงมาเองหรอก แล้วนายรู้ได้ไงว่า ไอ้คูรัสมันมาแล้ว

    ราน่าบอกเมื่อกี้

    ว่าแล้วเชียว

    ว่าอะไรยะเสียงแวดๆอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนที่คุ้นเคย ทำให้ชายหนุ่มรีบปิดหูทันที

    ไม่ต้องกลัวฉันขนาดนั้นก็ได้เสียงแวดยังคงดังอยู่ ขณะที่ชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดงหัวเราะแหะๆ อย่างเถียงไม่ออก

     

    หวีด~~~ เสียงหวีดโหยหวนจากไมที่ใดที่หนึ่งดังทั่วอาคารเหมือนตั้งใจให้เกิด มีผลทำให้ทุกคนที่อยู่ในองค์กรต้องปิดหูโดยพลัน เนื่องจากการได้ยินของพวกเขามันเกินคนธรรมดาไปหน่อย

    อะแฮ่ม สวัสดียามค่ำนักฆ่าทุกคน ขอให้มารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ทันทีที่ เสียงนับนี้หมดลงครับ ถ้ามาไม่ทันทางเราจะมีของขวัญให้ทุกคนที่สายนะครับ 5 4 3 2 1...เสียงยียวนกวนประสาทของหัวหน้าองค์กรตัวดี เรียกให้ทุกคนในองค์กรวิ่งเข้ามารวมตัวกันโดยเร็ว เพราะเมื่อไหร่ที่ King คนนี้ บอกถึงเรื่องดีๆขึ้นมาอย่างเช่น โชคดี ของขวัญ หรืออะไรก็ตามมันมักจะหมายถึงนรกของพวกเขานั่นเอง

    พวกรีอัสไม่ได้รีบนัก ก็พวกเขาอยู่ในห้องโถงแล้วนี่จะรีบไปทำไมกัน! รีคิอัส เดินลงมาจากชั้นสองด้วยบันไดซ้ายด้วยท่าทางเป็นกันเองแต่ก็สง่างามไปด้วยกันอย่างลงตัว เขาแอบขยิบตาให้ซีอัส ที่เมื่อเห็นแล้วถึงกับกลืนน้ำลายได้อย่างยากลำบาก ทำไมมันรู้สึกแปลกๆหว่า... รีคิอัสเดินมาจนถึงเวทีเล็กๆที่ยกระดับจากพื้นดินเล็กน้อย ข้างหลังเป็นธงตราสัญลักษณ์องค์กรอันเบ้อเริ่ม

    เอาล่ะทุกคน วันนี้เช่นเคย เป้าหมายวันนี้มี 5 คน พลาโด จาก้า นักโกงพนันตัวดี เจ้าเล่ห์มากจนใครก็จับไม่ได้ อันนี้หมายถึงพวกตำรวจนะ คนที่สองเป็นเจ้าแม่ซ่อง ฮาร่า จาเน็ต ชอบหลอกพวกเด็กหญิงมาขายตัว อันนี้ง่ายๆ คนที่สาม มาโดร่า คาร์ส เป็นพ่อค้าคนกลางซื้อข้าวโดยกดราคาเอาไว้ จนชาวบ้านขาดทุนย่อยยับ อันนี้ยากขึ้นมาหน่อย คนต่อไป คือ มาโก ดาเร็จ นักหลอกขายยาปลอม ชาวบ้านตายหลายคน อดีตเป็นแพทย์แต่ทำให้คนไข้ตายจนทางตำรวจถอนใบอนุญาต จนแค้นหนัก งืม... คนต่อไป เกโด จาวาว่า อืม ทำไมชื่อมันเหมือนหมาจังหว่า เอาเถอะ พ่อค้าเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ลักลอบค้าของเถื่อน อันนี้ยากเพราะมีบอดีการ์ดเยอะ แต่เป้าหมายของเราคือ คนเพียงเดียวเท่านั้น นอกนั้นห้ามฆ่าเด็ดขาดรีคิอัสเน้นย้ำประโยคสุดท้าย เพื่อเน้นถึงปรัชญาขององค์กร คนดีเราสนับสนุน คนชั่วเราเชือดทิ้ง...

    เอาล่ะ มาลุ้นคนทำภารกิจกันดีกว่า จาวาอัสสิ้นเสียงเรียก ชายผมน้ำตาลแก่ ตาทองก็เดินขึ้นไปพร้อมกับกล่อมทึบกล่องหนึ่ง ที่ชอบทำให้ทุกคนในองค์กรหายใจไม่ทั่วท้องกันทั่วหน้า จนใครบางคนเรียกกล่องทึบนี้ว่า กล่องสยบนักฆ่า ไปแล้ว รีคิอัสล้วงเข้าไปในกล่อง และขณะจับคลำก็ทำสีหน้าแสดงไปด้วย ยังกับเขารู้ว่าแผ่นไหนเป็นของใครอย่างนั้นแหละ

    อ้า!”หัวหน้าองค์กรจอมป่วนร้องเสียงดัง ทำให้นักฆ่าที่กำลังลุ้นจนตัวโก่งสะดุ้งโหยงกันหมด ได้แล้ว คนที่รับภารกิจที่ 1 พลาโด คือ... งืม... ราน่า สาวงามอีกคนในคณะผู้พิทักษ์ครับ ปรบมือให้ด้วยสิ้นเสียงประกาศผู้โชคดีซึ่งได้แต่ยิ้มเห่ยรับชะตากรรมด้วยความจำยอม คนที่ไม่โชคดีก็ต่างปรบมือแบบโล่งใจสุดๆ เหลืออีก 4

    ภารกิจที่สอง ฮาร่า จาเน็ต คนที่สองนี้คือ ไวโอน่า ยินดีด้วยครับรีคิอัสประกาศยิ้มๆ พลางมองไปที่สาวน้อยอีกคนในองค์กร เจ้าของผมสีม่วงเข้มและตาสีชมพูส่อประกายเหนื่อยหน่ายกับตนเองเมื่อโดนประกาศชื่อเป็นวันที่สามติดต่อกันแล้ว

    ภารกิจที่สาม อ้าว โดนคณะผู้พิทักษ์อีกแล้วครับ แจ๊กพ็อตจริงๆ ซีรีอัสครับท่าน พ่อหนุ่มผมเงินของเราเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ขณะคนที่ได้รับภารกิจถึงกับก้มหน้าสลด

    ภารกิจที่สี่ โอะ เหมาะสมมากครับ บูวาน่าครับคราวนี้คือหญิงสาวอีกคนในผู้พิทักษ์ เธอลุกขึ้นสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วเดินจากไปยังห้องตัวเองเพื่อเตรียมตัว...

    เอาล่ะครับ ช่วงเวลาที่พวกท่านกำลังจดจ่อมาถึงแล้วครับ ภารกิจสุดท้ายนี้คนรับภารกิจมีสองคนครับเพราะยากพอสมควร เอาล่ะ จัดจาดาดา จัดจัดจัดดาดา เอาล่ะครับ ทุกท่านได้มาแล้ว สองคนผู้โชคดีคือ อุว้าว ทำไมมันโชคดีอย่างนี้ ผู้พิทักษ์องค์กรไปยกแผงเลยครับพี่น้อง...เมื่อถึงตรงนี้ โดยเสียงประกาศของท่านหัวหน้า รีอัสและลูคัสที่นั่งอยู่ข้างๆกันถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอ

    สองคนนั้นคือ... รีอัสและลูคัสครับ เพราะฉะนั้นผู้พิทักษ์ที่เหลือมีเพียงคนเดียว คือ The Silver feather ครับ เรซิอัส ของเราเองครับ...เสียงปรบมือดังกระหึ่งอีกครั้ง รีอัสเหลือบมองดูชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่นั่งกอดอกอยู่มุมห้องเหมือนไม่อยากยุ่งกับใคร ใบหน้ารูปสลักไม่แสดงความรู้สึกเป็นนิจ ผมสีเงินยวงยาวถึงกลางหลังถูกมัดไว้หลวมๆเหมือนไม่ตั้งใจ นัยน์ตาสีฟ้าใสมองดูหัวหน้าของตัวเองที่อยู่บนเวทีที่กำลังพูดอย่างเมามันเหมือนจับฉลากลอตเตอร์รี่ที่มีแววเหนื่อยหน่ายอยู่นิดหน่อย เขาอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีเทาและกางเกงสีดำดูสบายๆ

    โห เรซิอัสมันโชคดีชะมัดเลยอ่ะราน่าเอ่ยขึ้นขณะเหลือบมองดูคนโชคดีเช่นกัน

    ไม่แน่นาลูคัสเอ่ยเสียงเรียบขณะมองไปที่เวที เรียกสายตาสงสัยจากสองคนข้างๆ แล้วรีอัสและราน่าก็ได้คำตอบเมื่องมองไปที่เวที ที่มีคนๆหนึ่งวิ่งขึ้นไปบนเวทีที่มีหัวหน้าองค์กรกำลังพูดอย่างเมามันส์โดยไม่สนใจว่าใครมันจะไปฟัง คนที่พึ่งวิ่งขึ้นไปบนเวทีสะกิดรีคิอัสด้วยท่าทางหวาดๆ คนถูกสะกิดเหลือบไปมองช้าๆแล้วรับเอาจดหมายซองดำสนิทมา รีคิอัสหยุดพล่ามสักครู่ขณะอ่านข้อความในจดหมายนั่นช้าๆ ริคิอัสยิ้มเหี้ยมขณะอ่านจนคนข้างล่างต่างหวาดไปตามๆกัน

    เอาล่ะครับ มีงานเพิ่มอีกงานครับ อืม...นักเผาป่าครับ ขออีกหนึ่งคนนะครับ จาวาอัสรีคิอัสเรียกกล่องสยบนักฆ่าอีกครั้ง เขาล้วงเข้าไปไม่นานก็ได้กระดาษมาแผ่นหนึ่ง เขามองสักครู่พร้อมหัวเราะหึๆเหมือนได้ดั่งใจ แล้วประกาศเสียงดัง

    คนที่ได้ภารกิจนี่คือ... เรซิอัสครับ แหมเหมาะกับเจ้าชายน้ำแข็งของเราเสียจริงๆครับเสียงปรบมือดังขึ้นอีกรอบ พร้อมกับเจ้าของฉายา เจ้าชายน้ำแข็ง จะถอนหายใจออกมา ประมาณว่า คิดแล้วเชียว

    ระยะเวลาในการทำภารกิจก็เช่นเดิมนะครับ ภายในคืนนี้ หวังว่าคงทำเสร็จนะครับ แล้วเจอกันคืนนี้นะครับรีคิอัสกล่าวแค่นั้นแล้วเดินจากไปยังห้องทำงานตัวเองทันที

     

    ไปกันเถอะ คืนนี้อีกยาวนานรีอัสยืนขึ้นกล่าวกับเพื่อนอีกสองคนที่ยืนขึ้นเช่นกัน

    อย่างนายเนี่ยนะ จะยาวนานลูคัสมองชายหนุ่มตาสีเลือดด้วยสายตาแหยงๆ รีอัสยิ้มให้นิดหน่อยแล้วเดินขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ต้องรอข้อมูลเหยื่อ เพราะซองเอกสารมันอยู่ในห้องพวกเขาเรียบร้อยแล้ว!...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×