ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF+FANART GOT7 [AllxJackson] By Silverfeather29

    ลำดับตอนที่ #60 : [SF -13] SHIRT (MARKSON)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 58


    4/16

    SHIRT

    MARK X JACKSON

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “นี่...”

     

    แจ็คสันเงยหน้าขึ้นตามเสียงทุ้มต่ำของคนบนเตียงชั้นบน มองมือเรียวสวยแบบเดียวกับบนปกของอัลบั้มใหม่ล่าสุดยื่นแผ่นกระดาษอะไรลงมาให้เขา พอเขาไม่รับสักทีก็สะบัดเร็วขึ้น จนต้องเอื้อมมือไปหยิบมาดู

     

    “อะไรของพี่เนี่ย...ห้าง H ลดราคา? พี่อยากไปเหรอ?”ส่งเสียงถาม พวกเขาเปลี่ยนเป็นเตียงสองชั้นเลยทำให้การพูดคุยที่ปกติก็แทบไม่มีอยู่แล้วน้อยลงมากไปอีก แถมยังไม่ได้มองหน้ากันตรงๆอีก ทั้งที่อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ

     

    “อีกหน้า”

     

    มือขาวพลิกกระดาษโบรชัวร์ดู ตากลมลุกวาวสะดุดกับของชิ้นหนึ่งเข้าอย่างจัง

     

    “เสื้อลดราคา!!! มาร์คๆ เสื้อลดราคาแหละ”

     

    แจ็คสันโผล่หัวขึ้นไปโบกใบปลิวนั้นไปมา ใบหน้าประดับรอยยิ้มกว้างขวาง ระริกระรี้อย่างกับเด็กประถมตัวเล็กๆ มาร์คยิ้มนิดๆเอนตัวชิงใบปลิวนั้นไป

     

    “รู้แล้ว ก็เอาให้ดู”

     

    ปากแดงอิ่มยู่ยื่นอย่างเป็นนิสัย ท้าวคางบนเหล็กกั้นชั้นสองโหนตัวเท้าเขย่งเตียงชั้นล่างของตัวเอง มองพี่ชายคนโตของวงที่นั่งพิงกำแพงเล่นแม็คบุคอย่างทุกวัน

     

    “ไปได้มาจากไหนอ่ะ ฮยองพาไปซื้อหน่อยสิ”

     

    “บ่ายนี้มีซ้อม”

     

    “อ่า...เลิกซ้อมก็ได้ พาผมไปหน่อยนะ”คนตัวเล็กยังอ้อนไม่หยุด

     

    “มันดึก”

     

    “มาร์คคคคค~~~~~”เสียงแหบ้องเรียกชื่ออ้อนๆ พอเห็นมาร์คไม่สนใจจริงๆก็ปีนบันไดขึ้นไปก่อกวนต่อถึงชั้นบน เหวี่ยงนีโมไปมุมเตียงเข้ามานั่งกระแซะข้างร่างโปร่งผมบลอนด์เทา

     

    “พาผมไปหน่อย น้า~ นะครับ”

     

    พอโดนอ้อนมากๆไม่รำคาญจนไล่ไปเลย ก็จะใจอ่อนวางสิ่งที่ทำอยู่หันมามองลูกหมาขี้อ้อนตอนนี้...แจ็คสันยิ้มกว้างรับสายตาเอือมๆของอีกคน “ถ้าไปจะให้อะไร?”

     

    “อะไรก็ได้ที่พี่อยากได้ ซักผ้า ล้างจาน จัดที่นอน ร้องเพลงกล่อม ทำให้ได้หมดอ่ะ”

     

    “อะไรก็ได้สินะ...”ดวงตาสวยมีแววเจ้าเล่ห์ กำลังจะเอ่ยอะไรออกไป ก็โดนนิ้วป้อมชี้คาดโทษไว้ก่อน

     

    “ที่ไม่ใช่เรื่องอย่างว่า”

     

    “รู้ได้ไงว่าจะขออะไร”คิ้วเข้มเลิกถามยิ้มๆ อ้อมวงแขนยาวเกี่ยวลำคอขาวเข้ามาใกล้

     

    “อย่างพี่อ้าปากขึ้นก็เห็นลิ้นไก่แล้ว”

     

    “เหรอ? อืม...คิดไม่ออก ตกลงแล้วกัน จะขออะไรเดี๋ยวคิดอีกที”

     

    “จริงเหรอ? เย้!!!

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้แจ็คสันรื่นเริงไฮเปอร์ทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้ผิดแปลกจนเพื่อนในวงสงสัยหรือแปลกใจเพราะยังไงเจ้าก้อนกลมอิมพ็อตฮ่องกงผู้นี้ก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ก็มีแต่มาร์คที่ยิ้มมากขึ้นอารมณ์ดีมากขึ้นตามรูมเมทนั่นแหละที่ทำให้ทุกคนแปลกใจนิดหน่อย

     

    “เอาล่ะ พักได้ อีก 10 นาที ซ้อมต่อนะ”อิมแจบอมประกาศเลิกแถมชั่วคราว ยูคยอมไถลนอนบนพื้นห้องซ้อมแบบหมดสภาพ แล้วก็โดนจินยองและยองแจใช้หลังแทนหมอน แบมแบมวิ่งไปหาแจ็คสันนั่งงุ๊งงิ๊งคิดมุขเกรียนๆอยู่มุมห้อง ลีดเดอร์คนเก่งก็ออกไปคุยงานกับเมเนเจอร์ข้างนอก ส่วนมาร์คก็เดินไปหามุมวิเวกนั่งอัดหูฟังฟังเพลงเพื่อซ้อมท่าเต้นในใจเงียบๆ

     

    ว่าจะไม่สนใจอะไรก็ได้ยินเสียงหัวเราะลั่นจากสองเกรียนมุมห้อง เงยหน้ามองก็เห็นแจ็คสันกำลังไล่ตามไซร้ซอกคอเจ้ารองน้องเล็กอยู่ แบมแบมก็เอียงตัวหนีหัวเราะปากกว้างไปทั่วห้อง ไอ้ตัวเล็กของผมก็วิ่งตามกอดรัดเหวี่ยงกันกลางห้อง มาร์คมองแล้วก็หัวเราะ ส่ายหน้าแล้วหันไปเล่นเพลงทอนตัวเองใหม่ซ้ำในมือถือ รู้สึกถึงแรงสะกิดไหล่ เงยหน้ามองก็เห็นจินยองที่มานั่งข้างๆตอนไหนก็ไม่ทราบกำลังยิ้มให้ภาพสองคนกลางห้อง

     

    “เป็นไง ไม่หึงเหรอ? เล่นกันนัวแบบนั้น”

     

    “ไม่นี่”

     

    “หึๆ จริงเหรอ?”กระแซะถามอีก รอบนี้มาร์คเลยหันไปล็อคคอยีเส้นผมดำจนยุ่งด้วยความหมั่นไส้

     

    “จะให้คิดหึงน้องนุ่งก็เกินไปนะ”

     

    จินยองหัวเราะ ดิ้นหลุดออกไป มาร์คยิ้มกับความกวนประสาทของจินยอง ส่ายหน้าเงยหน้าพอดีทันตากลมที่มองมาทางนี้พอดี แจ็คสันแลบลิ้นให้เขา ก่อนจะกลับไปเล่นนัวกับแบมแบมต่อ สุดท้ายคนที่มาหยุดเด็กซนทั้งสองก็คือแจบอม การซ้อมครั้งใหม่เริ่มขึ้น กว่าจะเลิกก็จนกว่าทุกคนเห็นว่ามีพัฒนาจากวันก่อน น่าพอใจในระดับหนึ่งก็หยุด แยกย้ายกันกลับหอ

     

    “มาร์คคคค~ ป่ะๆๆๆ ไปกันเถอะ”เจ้าลูกหมาพุ่งเข้าไปหาพี่ใหญ่ทันที มาร์คปาผ้าหนูใส่หัวทองสีอ่อนชุ่มเหงื่อนั้นเต็มแรง แจ็คสันพองแก้มจะงอนแต่ก็ต้องกลั้นยิ้มเมื่อมือเรียวตามลงมาขยี้เบาๆซับเหงื่อให้ เมมเบอร์คนอื่นหัวเราะล้อๆ

     

    “วันนี้มาร์คสันไปเดตกันเหรอครับ? จะกลับกันกี่ทุ่มดีล่ะครับ?”

     

    “หนึ่งทุ่มก็กลับแล้ว”มาร์คเป็นคนตอบ มือเรียวจับผ้าขนหนูขยี้ซับเหงื่อให้ร่างเตี้ยกว่า แจ็คสันก็ยืนว่าง่ายอยู่ข้างๆ

     

    “แหม ไม่ปฏิเสธเรื่องเดตเลยนะครับ อ่ะๆ อย่าให้แฟนๆจับได้ละกันนะพี่ 55555”

     

    ว่าแล้วก็ยกขโยงกันออกไป มาร์คขยี้เรือนผมสีอ่อนจนมั่นใจว่าแห้งดีแล้วก็ยึดผ้ากลับคืน เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองและของแจ็คสันบนโซฟา โยนใบหนึ่งคืนเจ้าของ จัดฮูตคลุมศีรษะเพื่อไม่ให้เด่นเกินไปนักตอนอยู่ด้านนอก แจ็คสันค้นๆเอาแว่นตาดำกับหมวกมาใส่ จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็เดินไปปิดไฟ ปิดเครื่องเสียงออกไปจากห้อง

     

    “ไปยังไงอ่ะ เดินไหม หรือรถแท็กซี่”แจ็คสันเป็นคนถามขึ้นตอนพวกเราเดินลงมาถึงชั้นล่าง

     

    “เดินก็ดีนะ”

     

    หัวกลมพยักหน้าหงึกหงักเดินนำออกไปก่อน มีแฟนๆนั่งรออยู่หน้าตึกสองสามคน ไม่รู้ว่ามารอใครก็เลยไม่ได้ทักทาย พวกเธอก็เหมือนไม่ได้มารอเขาด้วย แจ็คสันกับมาร์คเดินเรื่อยไปตามทางเท้า อากาศอบอุ่นตอนเย็นในหน้าร้อนแบบนี้เหมาะสำหรับการเดินชมวิวไปรอบๆเมือง ถ้าพวกเขาไม่ได้เป็นไอดอลคงเดินจูงมือกันชมวิวเหมือนคู่รักคนอื่นๆ แต่เพราะยังมีชื่อเสียงค้ำคอ แม้จะอยู่กันสองต่อสองก็ยังต้องเว้นระยะห่างไม่ให้ดูน่าสงสัย

     

    “พี่ได้เอาใบปลิวนั่นมาไหม? แล้วพี่จะเอาอะไรป่ะ? ผมอยากได้เสื้อแล้วก็อืม...ไปกินจาจังยอนกัน!

     

    “ซื้อกลับหอดีกว่า”

     

    “ง่า...เอางั้นก็ได้ แวะซื้อโกโก้ปั่นด้วยนะ”แจ็คสันเกาะแขนยิ้มกว้างอ้อน พอให้เขาสตั๊นแล้วมือขาวก็ผละออกไป มาร์คส่ายหน้าเดินตามอีกคนห่างๆ มองแผ่นหลังที่เล็กลงของคนตรงหน้าแล้วก็อดเป็นห่วงอยู่ลึกๆไม่ได้ ช่วงที่ผ่านมาแจ็คสันโถมทั้งไดเอตทั้งออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อจะได้เฟิร์มหุ่นให้ดูดี มาร์คว่าแต่ก่อนก็ดีอยู่แล้ว แต่มาตอนนี้ ตรงนี้ แจ็คสันตัวเล็กลงจริงๆก็ดูน่ารักดีไม่หยอก ยิ่งย้อมผมสีอ่อนก็ยิ่งน่ารัก

     

    ...น่ารักน่าหวงมากกว่าเดิมเสียอีก...

     

    กว่าพวกเขาจะเดินมาถึงห้างคนในห้างก็เริ่มหนาตาเสียแล้ว แจ็คสันคอยให้เขาเดินไปถึงและเดินไปด้วยกัน คงเพราะไม่อยากให้หลงกันไปไหน ตั้งแต่เดินกันมาถึงนี่ยังไม่มีคนจำพวกเขาได้ ดีเหมือนกันเพราะพวกเขาก็อยากจะเดินซื้อของเงียบๆกันแค่สองคน แต่พอมาถึงบูทกลับมีแฟนคลับจำได้และเข้ามาขอถ่ายรูป แจ็คสันทำท่าจะอนุญาต ผมเลยห้ามไว้เพราะไม่อยากทำให้ห้างวุ่นวาย แจ็คสันเลยเปลี่ยนมาเป็นเซ็นให้แทน พวกเธอของคุณและเดินออกไปให้พวกผมเลือกเสื้อผ้า ผมได้ยินนะว่าพวกเธอหัวเราะคิกคักมองมาทางนี้อยู่ตลอด...ก็โอเค ก็ไม่ได้อึดอัดมากนักหรอก...

     

    “มาร์คๆ เสื้อตัวนี้สวยอ่ะ”แจ็คสันหันมาโชว์เสื้อเชิ้ตสีดำลายสก็อต ผมมองและส่ายหน้า

     

    “นายมีเสื้อแบบนั้นแล้ว”

     

    “เออ จริงด้วย”วางเสื้อตัวเดิมลง หันไปค้นกับอีกราว สงสัยลืมไปแล้วมั้งว่ามาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อตัวไหน มาร์คก็ไม่ได้ว่าอะไร เดินไปจับๆเสื้อเชิ้ตอีกฝั่ง รอแจ็คสันเลือกเสื้อ วันนี้เขาไม่ได้อยากมาซื้อ ก็แค่อยากพาแฟนมาเที่ยวก็เท่านั้นเอง

     

    “มาร์คๆ”หันไปตามเสียงเรียกก็เจอเสื้อตัวหนึ่งจ่อหน้า มือขาวยกมันลงเอาทาบๆตัวเขา ใบหน้าคมหวานครุ่นคิดอะไรบางอย่าง มองจากตรงนี้ก็เพลินดี แจ็คสันน่ะเปลี่ยนสีหน้านาทีละอารมณ์ด้วยซ้ำ แต่พอโตขึ้นก็นิ่งขึ้น ไม่ซนเหมือนก่อนแล้ว แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี...

     

    “มาร์คชอบไหม?”

     

    “หืม? ตัวนี้เหรอ”

     

    “ก็ใช่สิ จะตัวไหนอีก”ลูกหมาตรงหน้าทำปากเป็ดยื่นงอน ยังถือเสื้อเชิ้ตตัวนั้นค้างไว้เหมือนรอเขาตัดสินใจ

     

    “ไหนบอกมาซื้อเสื้อตัวเอง?”ถามกลับยิ้มๆ อยากยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นแก้มกลมนั้นออกระเรื่อ

     

    “ก็...คิดว่าเหมาะดี ว่าไงอ่ะ”

     

    “แล้วนายว่ายังไง หล่อไหม?”

     

    “อื่ม ก็เหมาะดี ฮยองใส่เสื้อเชิ้ตขึ้นนะ”

     

    “หมายถึงฮยองน่ะ แจ็คสันว่าหล่อไหม”

     

    แล้วก็โดนกำปั้นหนักๆบนอกเอาซะแทบจุก แก้มกลมแดงก่ำ “เป็นโรคหลงตัวเองไหง? พ่อคนหล่อ”

     

    “อ้าว แจ็คสัน!”เสียงเรียกทุ้มอบอุ่นทักมาอีกทาง ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน แจ็คสันยิ้มกว้างฝากเสื้อให้มาร์คถือแล้ววิ่งไปหาคังจุนที่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น พี่ชายในรูมเมทของแจ็คสันโอบกอดร่างแฟนเขาเต็มอ้อมแขน

     

    “ตัวเล็กลงรึเปล่าเราน่ะ?”

     

    “ก็นิดหน่อยฮะ คังจุนฮยองมาซื้อของเหรอ? อ้อๆ มาร์คๆ”คนตัวเล็กหันมาเรียกเขา มาร์คโค้งทักทายตามมรรยาทและขอตัวเดินไปอีกทาง ปล่อยให้ทั้งสองได้พูดคุยกันไป

     

    มาร์คก้มมองเสื้อเชิ้ตสีขาวมีแถบดำตรงกลางที่แจ็คสันทิ้งไว้ให้นิ่งๆ ถอนหายใจและเดินไปที่ราวแขวนเสื้อ...

     

     

     

     

     

     

     

    “อุ่ย คุยซะเพลินเลย โทษทีนะฮยอง”

     

    “ไม่เป็นไรๆ”คังจุนยิ้มสวย “นายคุยเก่งเหมือนเดิมเลยนะ พี่ไปก่อนแล้วกันนะ เจอกันใหม่”

     

    “ครับ บ๊ายบายฮะฮยอง”โบกมือให้พี่ชายร่วมรายการ ยิ้มมองอีกคนจนหายลับไปกลางฝูงชน หันไปมองคนที่มาด้วยกันอย่างมาร์คที่ไม่รู้ไปไหนแล้ว เดินไปรอบๆบูทก็ไม่เห็น กำลังจะยกมือถืออยู่แล้วถ้าสายตาไม่เหลือบไปเห็นร่างคุ้นเคยนั่งอยู่หน้าร้านกาแฟชื่อดังตรงหน้าพอดี

     

    “มาร์ค ทำไมมานั่งนี่ละ ผมหาตั้งนาน”รีบไปนั่งฝั่งงตรงข้ามถามมาร์คที่นั่งจิบกาแฟอยู่เงียบๆ

     

    “หากาแฟกิน...นี่โกโก้”บอกพลางยื่นแก้วเครื่องดื่มโปรดของอีกคนให้ แจ็คสันรับไปดื่ม มองใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่มีร่องรอยอารมณ์ให้เห็นเหมือนเคย พลันก็เห็นถุงกระดาษข้างกายอีกคน

     

    “อ้าว ฮยองซื้อเสื้อเหรอ?”

     

    “อืม...”

     

    “ง่า ผมยังไม่เจอเสื้อที่อยากได้เลยอ่ะ เสียดายจัง ไปเถอะ”

     

    มาร์คไม่ได้ขัดอะไร จิบกาแฟอึกสุดท้าย ลุกขึ้นถือถุงกระดาษตามอีกคนที่เดินพูดจ้อยๆไปตลอดทางเพื่อกลับหอ แต่เพราะมืดพอสมควรแล้ว ทั้งสองเลยเลือกขึ้นแท็กซี่กลับแทน

     

    “อ่า...ลืมซื้อจาจังยอนอ่า”แจ็คสันร้องขึ้นมาตอนมาถึงหอแล้ว มาร์คขยี้หัวคนขี้ลืมแล้วเดินเข้าไปก่อน

     

    “หาอะไรกินในห้องไปก่อนแล้วกันนะ”

     

    แจ็คสันมองตามอีกคนไปอย่างคิดอะไรบางอย่าง มาร์คไม่ได้มีท่าทีผิดแปลกอะไรเลย แต่เขากลับรับรู้ได้ว่าพี่ชายของวงกำลังอารมณ์ไม่จอย...เขาทำอะไรผิดอีกรึเปล่านะ? จะว่าไป วันนี้อุตส่าห์ได้ออกไปข้างนอกสองคนแท้ๆ แต่เขาเหมือนไม่ค่อยได้สนใจมาร์คเลยแฮะ

     

    “กลับมาแล้วเหรอ? มีข้าวเหลือในครัวนะ”จินยองยังเป็นออมม่าที่ดีบอกสมาชิกที่กลับมาถึงห้องคนสุดท้าย แจ็คสันพยักหน้ารับรู้ เดินเข้าไปในห้องตัวเอง

     

    มาร์คอยู่ในนั้นอย่างที่คาด แต่ไฟห้องไม่เปิด ร่างเงาดำบนเตียงชั้นล่างนั่นก็เลยดูน่ากลัวไปนิด กำลังเอื้อมมือไปเปิดก็ต้องชะงักเพราะเสียงทุ้ม

     

    “อย่าเพิ่งเปิด”

     

    “มันมืดนะฮยอง เป็นค้างคางรึไงชอบอยู่มืดๆ”

     

    “มานี่หน่อยสิ”

     

    กลอกตาไปมาหน่ายๆ เดินตามเสียงเรียกไปยืนอยู่ข้างเตียงตัวเองที่ตอนนี้โดนคนอื่นยึดครอง

     

    “มีอะไรอ่ะ เอ๊ย!!”ร้องลั่นมือรีบยึดบันไดปีนไปเตียงบนไว้ไม่ได้ตัวล้มลงไปกระแทกที่นอน ใจหล่นวูบตั้งสติได้ก็รู้ว่าร่างโดนเหวี่ยงลงมาจากคนร่วมห้อง เงยหน้าไปมองก็ต้องกลืนน้ำลายดังอึก ดวงตานั้น...ดวงตาอบอุ่นของมาร์ค ตอนนี้กลับมีแววบางอย่างที่ทำให้เขาขนลุกชัน

     

    “อะ อะไร โกรธอะไรผมอีกรึเปล่า?”

     

    “เดาลองดูสิ”

     

    “เอิ่ม...ผมเล่นกับแบมเหรอ?”

     

    “ไม่”

     

    “เอ่อ...พี่คังจุนเหรอ?”

     

    “ไม่”

     

    “อ้าว แล้วมันเรื่องอะไรอ่ะฮยอง ผมเดาไม่ถูกหรอกนะถ้าฮยองไม่บอกอ่ะ”โวยวายงอนแทน เพราะเดายังไงก็เดาไม่ถูก กระพริบตาปริบๆเอนตัวตามแรงกอดจากคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า

     

    “ไมโกรธ....แค่คิดถึง”

     

    “คิดถึงอะไรล่ะ ก็อยู่ห้องด้วยกันอยู่ทุกวัน”

     

    “คิดถึงสิ อยู่ห้องด้วยกัน...แต่ไม่ได้เห็นหน้ากันเลย...”แจ็คสันขำ ลูบหลังที่แข็งขึ้นกว่าแต่ก่อนเพราะการฟิตกล้ามเนื้อของพี่ใหญ่ของวง แนบใบหน้ากับอกอุ่น

     

    “ก็ลงมาคุยกับผมบ่อยๆสิ รึจะให้ผมปีนขึ้นไปล่ะ?”

     

    “ไม่ต้องหรอก...นอนด้วยกันเลยแล้วกัน”

     

    ขนอ่อนลุกชันเพราะลมหายใจร้อนตรงซอกคอ สัมผัสเปียกชื้นลากจากข้างคอขึ้นมาตรงกกหู แจ็คสันกลืนน้ำลายอึก รู้ทันทีว่ามาร์คต้องการอะไร รีบผลักคนเป็นพี่ออกทำหน้าค้อนปะหลักปะเหลือก

     

    “ไม่โว้ย!!! ไม่ให้”

     

    “แจ็คสัน~

     

    “ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย ไม่! ก็บอกว่าไม่ไง พรุ่งนี้มีซ้อมทั้งวัน ผมอยากจะซ้อมให้เต็มที่”

     

    “แล้วฮยองล่ะ?”ถามอีกคนตาแป๊ว เผื่อว่าคนตัวเล็กจะยอมใจดีบ้าง แต่แจ็คสันก็ตัดความหวัง ผลักอีกคนออก ลุกขึ้นรั้งใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ จูบข้างแก้มเบาหยอกเย้า แล้วเดินออกไปจากห้อง

     

    “ห้องน้ำนะครับ...ฮยองที่รัก”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แถม

     

     

     

     

    “อืม...”แจ็คสันตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของรูมเมทร่วมห้อง ผ้าห่มผืนบางคลุมร่างเปลือยเปล่าของพวกเขาไว้กันอุจาด มือขาวผลักใบหน้าของชายหนุ่มออกไป ลุกขึ้นหาวเสียงดัง เหลือบตาปรือๆไปมองมาร์คที่กลิ้งหันหน้าเข้ากำแพงไปนอนต่อ มือขาวเกาเส้นผมสีอ่อนแกรกๆ ลุกออกจากเตียงไปหาผ้าขนหนูออกไปอาบน้ำข้างนอก เดินผ่านกระจกก็ต้องชะงัก

     

    รอยแดงเป็นปื้นปรากฏตรงข้างลำคอ ไม่บอกก็รู้ว่าฝีมือคนยังนอนอุตุอยู่บนที่นอนเขานั่นแหละ

     

    ถอนหายใจหนัก เดินกลับเอาหาผ้าขนหนูเล็กอีกผืนมาคล้องคอปิด เดินออกไปอาบน้ำข้างนอก ชั่วโมงครึ่งก็เดินกลับมาในห้อง มาร์คขึ้นไปนอนด้านบนแล้ว แต่เตียงเขาสิ สภาพไหนสภาพนั้น ยับยังไงก็อย่างนั้น คราบไหนก็คราบนั้น

     

    “โอ๊ย!”มาร์คร้องเพราะผ้าขนหนูฟาดมาถูกหน้าเต็มจนสะดุ้งตื่น งัวเงียขึ้นมาก็เห็นคนตัวเล็กกอดอกทำหน้ามุ่ยอยู่ชั้นล่าง

     

    “ตื่นลงมาเก็บเลยนะ!”บอกเสียงขุ่นเคือง หันหลังไปหาเสื้อผ้า พลันดวงตาก็ปะกับเสื้อเชิ้ตสีขาวแถบดำบนชั้นของตัวเอง มือขาวยกมันขึ้นมามองงงๆ เขาไม่ได้ซื้อมานี่...รึว่าจะเป็นมาร์ค?

     

    “วันนี้ไปทำงาน ก็ใส่ตัวนั้นนะ”เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลัง รอบเอวถูกอ้อมแขนยาวกระชับกอดเข้าไปชิดร่างของอีกคน คางแหลมวางไว้บนไหล่ ยื่นหน้ากดจูบบนข้างแก้ม

     

    “ฮยองซื้อมาเหรอ?”

     

    “อืม ก็นายเป็นคนเลือก”

     

    “ผมว่ามันเหมาะกันฮยองไง ไม่ได้จะซื้อมาใส่เองสักหน่อย”บอกพลางพลิกเสื้อไปมา

     

    “ฉันว่ามันก็เหมาะกับนาย ก็เลยซื้อมาให้เราใส่”

     

    “เราเหรอ? ฮยองจะใส่ด้วยเหรอ? งั้นฮยองก็เอาไปใส่เลยดิ”หันไปมองหน้าอีกคน แต่มาร์คกลับยิ้มและส่ายหน้า

     

    “ถ้าอยากให้ฉันใส่ นายก็ต้องใส่”

     

    “...ตั้งใจให้เป็นเสื้อคู่ช่ะ?...”

     

    มาร์คยิ้มกว้าง แต่แค่นั้นก็รู้แล้วล่ะว่าชายหนุ่มต้องการอะไร... แจ็คสันถอนหายใจยอมแพ้ สะบัดเสื้อมาใส่ มาร์คยิ้มพอใจ มือเรียวช่วยเขาใส่กระดุมจนเสร็จ ถอยหลังมองอย่างพิจารณาแล้วก็พยักหน้า

     

    “น่ารัก...แต่อย่าไปอ้อนใครล่ะ...หวง”

     

    “หวงอย่าที่ว่าจริงเหอะ...”แจ็คสันบ่นงึมงำ ร้องโวยวายเพราะโดนมาร์คขยี้ผมยุ่งอีกแล้ว

     

    “ก็เพราะรู้ว่าตั้งใจทำให้เห็น เลยไม่หวง...แต่ถ้าไปทำตอนฮยองไม่ได้อยู่ด้วย ฮยองจะหวงจนหึงเลยนะ”

     

    มาร์คก้มหน้าไปจ้องตากลมที่มองกลับมานิ่ง ใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากอิ่มเอิบสีแดงอย่างหยอกล้อ ดวงตาสวยทอประกายเจ้าเล่ห์ “แล้วรู้นะครับ ว่าทำฮยองหึง จะโดนอะไร”

     

    “...”

     

    “ตั้งใจทำแค่งานนะครับ...ที่รัก”

     

     

     

     

     

     

     

     

    ….

    หลักฐานค่ะ 5555555555555555


    ส่องเสื้อตัวในพี่มาร์คดีๆสิคะทุกคน...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×