ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF+FANART GOT7 [AllxJackson] By Silverfeather29

    ลำดับตอนที่ #59 : [SF-14] RED FRUIT (MARKSON)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 58


    3/16

    RED FRUIT

    MARK X JACKSON

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มาร์คเดินเข้ามาในศูนย์ออกกำลังกายของมหาวิทยาลัย ในวันหยุดแบบนี้ที่นี่มักจะเต็มไปด้วยนักศึกษาและบุคลากรผู้แสวงหาหนทางกำจัดไขมันในร่างกายและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ร่างกาย แต่สำหรับเขาก็แค่มีอารมณ์อยากมาเล่นเอาเหงื่อออกบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายพิเศษอะไรหรอก

     

    “ขอบัตรค่ะ”

     

    บัตรประจำตัวนักศคกษาถูกส่งให้พนักงานหญิงหน้าเคาน์เตอร์ที่จ้องเขาตาปรอย ชายหนุ่มก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจ พอได้บัตรคืนก็หมุนตัวเดินเข้าไปในตัวอาคาร กระชับกระเป๋าที่ภายในบรรจุน้ำขวดและเสื้อผ้าเตรียมเปลี่ยนตอนกลับเอาไว้

     

    “ระวัง!

     

    เสียงเตือนลั่นมาก่อนลูกบาสสีส้มจะพุ่งเฉียดปลายเส้นผมเขาไปนิดหน่อย ยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้หลุดสีหน้าอะไรออกมา แต่พอหันไปมองคนที่วิ่งเข้ามาก็เผลอใจเต้นแปลกๆ

     

    ...ลูกหมา...

     

    นั่นคือคำจำกัดความของคนตรงหน้า รูปร่างสมส่วนค่อนไปทาง...ตัวเล็ก (เตี้ย) ผิวขาวสว่างนวลเนียนนอกเสื้อกล้ามตัวโคร่งสีดำเปียกเหงื่อแนบไปกับรูปร่างของนักกีฬา ใบหน้ากลมเรียว จมูกโด่งปลายรั้นดูดื้อดึง ปากอิ่มเอิบสีแดงจัด ตากลมโตเบิกขึ้นอย่างคนตระหนก พอเห็นเขาหันไปมอง คิ้วเรียวโค้งลงอย่างรู้สึกผิดยิ่งทำให้ดูน่าเอ็นดูมากไปอีก

     

    “พี่ ผมขอโทษนะครับ ผมรับลูกไว้ไม่ได้อ่ะ พี่เจ็บอะไรรึเปล่า”

     

    “...นิดหน่อย...”

     

    ...ผมโกหก...

     

    “ฮืออออออ”เขาร้องเสียงเหมือนร้องไห้ รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กมาทางผม ยื่นใบหน้าที่ผมคิดว่ามันน่ารักมากๆเข้ามาใกล้ๆเพื่อดูว่าผมเจ็บตรงไหน พอเห็นรอยแดงบนแขนผม เขาก็รีบผงกหัวขอโทษจนเส้นผมนุ่มสีบลอนด์ปลิว ที่จริงรอยแดงนั่นเพราะผมซุ่มซ่ามไปจนประตูห้องเมื่อเช้าต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวกับเขาสักนิด

     

    “ผมขอโทษจริงๆครับ”

     

    “...ผมเจ็บนิดหน่อยนะ...แขนข้างนี้เคยผ่าตัดซะด้วยสิ”

     

    “...”

     

    เขาเงียบไปผมเลยเงยหน้าขึ้นมอง เกือบหลุดหัวเราะเพราะเด็กตรงหน้ายืนน้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้อยู่มะรอมมะร่อ

     

    “แต่ไม่เป็นไรหรอก ทายาแป๊ปเดียวก็หายแล้ว”ผมบอกเขา อดไม่ได้ที่จะยกมือไปสัมผัสกลุ่มผมสีอ่อนนั่น เขาชะงักนิดหน่อย ผมเลยหดมือกลับ ลืมตัวไปเลยว่าพวกเราเพิ่งเจอกัน เผลอคิดว่าคนตรงหน้าเป็นลูกหมาจริงๆรึยังไงกันนะ มาร์ค

     

    “คือ...ให้ผมช่วยอะไรไหมฮะ”

     

    “อืม...”ผมทำท่าคิด เหลือบมองตากลมที่จ้องมาลุ้นๆ

     

    “นายชื่ออะไร”

     

    “ผมแจ็คสันหวังครับ วิทย์กีฬาปีสอง”

     

    “ฉันมาร์ค บริหารปีสี่”ผมแนะนำตัว “พรุ่งนี้ฉันอยากไปซื้อรองเท้ากีฬา นายช่วยไปเลือกช่วยฉันหน่อยได้ไหม”

     

    แจ็คสันพยักหน้าจนผมปลิว “ได้ครับ พรุ่งนี้ผมว่างพอดี”

     

    “นี่เบอร์ฉัน”ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้เขา แจ็คสันดูตกใจนิดๆ ช่างเป็นเด็กที่แสดงออกทุกอย่างออกมาเสียทุกอย่าง ทั้งสีหน้าทั้งท่าทาง ดูไร้เดียงสาเสียจนน่าแกล้ง...

     

    “ผมขอยิงนะ”เขาบอกพลางกดโทรออก แค่สามวินาทีแล้วเขาก็ตัด ส่งคืนมาให้ผม “เพื่อนเรียกแล้ว ผมต้องไปก่อนนะครับ ขอโทษที่ทำให้พี่เจ็บตัวนะครับ เจอกันพรุ่งนี้”เขาเก็บลูกบาสแล้ววิ่งกลับไปทางสนามเดิม

     

    ผมก้มหน้ามองเลขสิบหลักที่โชว์หราอยู่ในจอแล้วยิ้มกว้าง

     

    ...แล้วเจอกัน เจ้าลูกหมา...

     

     

     

     

     

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นผมรีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตอนเก้าโมง เลือกชุดไม่นานเพราะจัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เสื้อยืดสีขาวสกรีนลายดำสวมทับด้วยเสื้อยีนฟอกสีกางเกงยีนเรียบๆ ฉีดพรมน้ำหอมที่เพื่อนสนิทมันชอบล้อนักหนาว่าผมชอบอาบน้ำหอมก่อนมาเรียน แน่ใจว่าดูดีแล้วก็หยิบกระเป๋าเงิน โทรศัพท์และกุญแจรถออกมาจากห้อง ขับรถออกไปจากคอนโด มองหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาเก้าโมงห้าสิบนาที ผมนัดแจ็คสันไว้สิบโมง น่าจะทันนะ

     

    ถึงที่นัดผมก็เห็นเด็กที่หมายตาไว้ยืนมอซ้ายขวาอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ วันนี้แจ็คสันอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งสีดำ กางเกงเป้าย้วยสีเดียวกัน ผมว่ามันทำให้ขาเขาดูสั้นกว่าเดิมนะ อาจจะเป็นสไตล์ของเขาก็ได้ ถึงยังไงเขาก็ยังดูน่ารักใต้หมวกสเนปแบคปล่อยหน้าม้านั่นอยู่ดี

     

    “ผมนึกว่าผมจะต้องรอเก้อซะแล้ว”เด็กนั่นหัวเราะยิ้มกว้างทันทีที่ผมลดกระจกลง อ่า...รอยยิ้มของเขามันสว่างไสวชะมัด...ผมไม่ได้พูดเวอร์นะ คุณต้องมาเห็นจริงๆ ว่าแจ็คสันของผม (?) น่ารักขนาดไหน

     

    “รถติดนิดหน่อยนะ”

     

    “ไม่เป็นไรครับ ผมพูดเล่นน่ะ”แจ็คสันขึ้นมานั่งบนเบาะข้างคนขับ ตากลมมองสายเบลล์ที่ผมคาดไว้ แล้วหันไปรูดมาใส่บ้างเหมือนกัน...อืม ช่างสังเกตดีนะ...

     

    “แล้วพี่จะไปห้างไหนล่ะ? ผมช่วยพี่เลือกได้แต่ผมไม่มีเงินซื้อให้หรอกนะ บอกไว้ก่อนเลย”

     

    “ห้าง CY แล้วนี่กินข้าวเช้ารึยัง?”

     

    “ยังครับ ผมไม่ค่อยกินอยู่แล้วน่ะ ชอบตื่นสายแล้วไปกินคาบเที่ยงเลย ไม่ก็ไปกินคาบเย็นรวมกัน แล้วเอาไปปล่อยกับกีฬา สนุกดีนะ ได้เล่นกันเพื่อนเยอะแยะเลย...อ๊ะ ผมพูดมากไปรึเปล่า ขอโทษนะครับ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอก” เพลินหูดี...คำสุดท้ายไม่ได้พูดออกไป กลัวจะดูรุกเขาจนเกินไปหน่อย เสียงแหบหวานแจ้วๆแบบนี้ทำให้ไม่เหงาดี ผมไม่ค่อยพูด ดังนั้นเลยชอบฟังเสียงรอบข้าง ปกติจะฟังเพลง แต่ตอนนี้ผมว่าเสียงของแจ็คสันน่าฟังกว่าเพลงพวกนั้นร้อยเท่าเลย

     

    พวกเรามาถึงห้างตอนสิบเอ็ดโมง รถติดมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้เสียอีก อากาศวันนี้ก็ร้อนซะ แค่ช่วงเวลาไม่กี่นาทีในการเดินเข้าห้าง แก้มกลมของแจ็คสันก็ขึ้นสีชมพูอ่อนแล้ว นี่ก็จะผิวบางไปไหนเนี่ย

     

    “พี่จะซื้อไปเล่นกับกีฬาอะไรอ่ะ ผมจะได้แนะนำถูก”แจ็คสันถามขณะที่พวกเรายืนอยู่หน้ารองเท้านับร้อยคู่บนผนัง เอาจริงๆปกติผมก็ไม่ได้สนอยู่แล้วว่าจะใช้เล่นกับอะไร แค่เป็นรองเท้า ผมก็เอาไปเล่นกับทุกกีฬานั่นแหละ ที่พาแจ็คสันมาด้วยวันนี้ก็แค่อยากมาเดตกับเด็กคนนี้เฉยๆ

     

    “วิ่งตอนเย็นน่ะ ฉันมีเวลาว่างแค่ตอนเย็นๆ”

     

    “ตรงข้ามกับผมเลยอ่ะ”เขาหัวเราะ เดินไปที่ชั้นรองเท้าข้างๆแล้วพูดต่อ “ผมว่างช่วงเช้าๆ ช่วงบ่ายกับเย็นเป็นเวลาเรียน เมื่อวานงดคลาสผมเลยได้โอกาสไปเล่นบาสพอดี”

     

    ผมพยักหน้า คิดไว้ในใจว่าจะหาเวลาตอนเช้าให้มากขึ้นซะแล้ว กำลังเหม่อคิดอะไร แจ็คสันก็ยื่นรองเท้าจ็อกกิ้งสีดำสนิทมาให้ ผมถือมันไว้ มองพิจารณาแล้วก็หันไปหาคนเลือกให้ที่ยังทำหน้าอึนๆน่ารักอยู่ข้างๆ

     

    “นายนี่ชอบสีดำเนอะ...”

     

    “ทำไมอ่า? พี่ไม่ชอบเหรอ? พี่เลือกสไตล์รองเท้าก่อนแล้วค่อยเลือกสีก็ได้นะ”

     

    ...เด็กนี่ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย...ผมถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไร หันไปเรียกพนักงาน ยื่นรองเท้าให้พร้อมบอกเบอร์ไซต์ให้เธอไปเอามาลองสวมดู

     

    “ชอบสิ นายเลือกให้ ฉันก็ชอบหมดนั่นแหละ”

     

    “...”

     

    แจ็คสันเงียบอีกแล้ว เหลือบไปมองก็เห็นแก้มกลมแดงก่ำก้มหน้างุดเหมือนเขินอยู่ ผมยิ้มไม่ได้ทักหรือพูดอะไรต่อ รุกหนักเดี๋ยวไก่ตื่น ผมบอกแล้วนี่...

     

     

     

     

     

     

     

    สุดท้ายผมก็ได้คู่นั้นที่แจ็คสันเลือกให้ พวกเราเดินไปชั้นสามเพื่อหาร้านอาหารทานในตอนเที่ยง ถึงแจ็คสันจะเกรงใจ แต่ผมก็ยืนยันที่จะเลี้ยงเขาอยู่ดี

     

    “กินเนื้อได้ใช่ไหม?”

     

    “ได้ครับ ผมกินได้หมดอ่ะ ผมมันลิ้นจระเข้นะ ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ผมกินเผ็ดไม่ได้นะ บอกไว้ก่อน อย่าคิดแกล้งผมเชียวล่ะ ผมน่ะแพ้รสเผ็ดจริงๆ”เขาบอกย้ำให้ผมเข้าใจ ผมพยักหน้า ใจจริงก็อยากเห็นใบหน้าแดงๆตอนกินของเผ็ดจัดของแจ็คสันอยู่หรอก แต่พอคิดไปคิดมา ก็ไม่เอาดีกว่า เผื่อเด็กนี่โกรธผม ผมก็จีบเขายากน่ะสิ...

     

    ร้านสไตล์ปิ้งย่างเป็นร้านที่ผมเลือก ดีที่วันนี้คนน้อย ถึงจะแปลกใจเพราะปกติจะเยอะจนเต็มร้านก็ตาม ผมเดินนำหน้าแจ็คสันไปโต๊ะสุดท้าย จัดการสั่งชุดใหญ่ไปเสร็จสรรพ หันไปบอกคนที่มาด้วย

     

    “สั่งได้เลยนะ ตามสบาย”

     

    “โหยพี่ มันแพงมากเลยนะ”แจ็คสันทำตาวาวจิ้มเมนูในมือตัวเอง

     

    “เอาน่า พี่มีจ่าย”

     

    “ดูเสี่ยมากอ่ะพี่ 55555 นี่มีเด็กยัง? ขอเป็นเด็กพี่หน่อยดิ”

     

    “เอาไหมล่ะ? เดี๋ยวเสี่ยมาร์คจะดูแลเด็กหวังเอง”ผมแย๊บมุกกลับยิ้มๆ แต่ในใจนี่แทบจะโพล่งออกไปแล้วว่าเอาไหมครับน้อง พี่ส่งเสียน้องเรียนได้นะ แต่น้องต้องเป็นของพี่นะ งี้เลย...

     

    “โอ๊ยจี้อ่ะพี่ พอเหอะ”เขาหัวเราะจนแก้มแดง

     

    ...น่ารักจริงๆเลย เด็กอะไร...

     

     

     

     

    พอกินข้าวเสร็จก็ออกมาเดินเล่นที่ตลาดข้างๆห้าง ปกติผมไม่ได้มาเดินหรอก เพราะไม่ชอบอากาศร้อนแถมขี้เกียจไปเบียดคนอื่นด้วย แต่เพราะแจ็คสันชวนมาเลยตามใจหรอกนะ

     

    คนเยอะมหาศาลอย่างที่คาด ถึงตอนนี้จะเป็นตอนบ่ายก็เถอะ คนก็ยังเยอะอยู่ดี นี่ไม่ไปห้างแต่มารวมกันอบู่นี่หมดใช่ไหม? แจ็คสันเดินนำหน้าผมไปนิดหน่อย ตากลมมองร้านข้างทางด้วยความสนใจ ผิดกับผมที่เอาแต่มองเขา ไม่ได้โรคจิตอะไรหรอกนะ แค่คนมันเยอะมากเลยกลัวหลงกันต่างหาก

     

    “พี่ ผมไปดูนั่นก่อนนะ”แจ็คสันหันมาบอกผมก่อนจะหายไปในฝูงชน ผมใจหายวาบ ร่างกายมักไปก่อนสมอง รู้ตัวอีกแจ็คสันก็หันมามองผมตื่นๆ ในขณะที่มือของผมกุมมือเขาอยู่

     

    “เดี๋ยวพี่ไปด้วย”

     

    “อะ เอ่อ ครับ...พี่มาร์ค...คือ มือ”

     

    “จับไว้อย่างนี้แหละ...ฉันกลัวหลง”ผมให้เหตุผลงี่เง่าไปเพราะคิดไม่ออก แจ็คสันหน้าแดงไม่แน่ใจว่าเพราะอากาศร้อนหรือเป็นเพราะผม แต่ยังไงผมก็ไม่ปล่อยหรอก ผมกางมือสอดปลายนิ้วประกบมือเขาแน่น มือของแจ็คสันไม่ได้นิ่มแต่ก็อุ่นแถมยังเล็กพอดีมือผมพอดีอีก

     

    พวกเราเดินผ่านร้านต่างๆมากมาย ซื้อบ้างไม่ซื้อบ้างแล้วแต่จะถูกใจโดยที่มือของเรายังกุมกันแน่น

     

    “พี่มาร์คๆ ผมอยากกินผลไม้”

     

    แจ็คสันบอก ลากผมไปที่ร้านขายผลไม้ข้างทาง เขาเดินออกมาจากร้านพร้อมแตงโมสับหนึ่งถุง ผมพาเขาเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ใกล้สวนอาหาร มองเขาจิ้มแตงโมในถุงกินอย่างเอร็ดอร่อย ปากแดงๆนั่นยังจ้อไม่หยุดแม้จะกำลังกินอยู่ก็ตาม

     

    “เนี่ย จะร่างกายแข็งแรงต้องหมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารให้ครบหมู่แล้วก็กินผลไม้เยอะๆ! พี่มาร์คชอบกินผลไม้อะไรครับ”

     

    “พี่ไม่ค่อยชอบ...”

     

    “ไม่ได้นะพี่มาร์ค พี่ต้องหัดกินผลไม้เยอะๆรู้ไหม”เขาหันมาดุ ทำหน้าตาจริงๆจัง ยื่นชิ้นแตงโมจ่อปากผม “กินเลยนะครับ ผมบังคับนะเนี่ย”

     

    ผมส่ายหน้า แต่ก็ยอมอ้าปากให้เด็กข้างตัวป้อน พอเห็นปากแดงยิ้มกว้างพอใจ ก็รู้สึกว่าตัวเองทำถูกจริงๆ เคี้ยวผลไม้เย็นๆในปาก ตาก็มองปากแดงๆอิ่มเอิบวาวน้ำเคี้ยวตุ้ยๆของคนข้างตัวไปเพลินๆ

     

    ...ผมว่าผมอยากลองชิมผลไม้อะไรบางอย่างนะ...

     

    “อืม ที่จริงพี่อยากกินผลไม้อยู่อย่างหนึ่งนะ”

     

    แจ็คสันหันขวับมามองอย่างสนใจ “อะไรล่ะพี่?”

     

    “อืม ก็ผลที่มันอิ่มๆ สีแดงก่ำชนิดว่าถ้าฟัดไปแรงๆคงกลายเป็นสีม่วงช้ำ...”ผมเริ่มพูดพลางมองไปที่ผลไม้ที่ว่าบนใบหน้าของอีกคน “มองดูแล้วละสายตาไม่ได้ แถมตอนนี้ยังแวววาวเพราะเคลือบน้ำอีก...น่าจะรสหวานอร่อยน่าดูเลย...”ผมใช้นิ้วดันคางเล็กขึ้นมา แจ็คสันดูตื่นๆ ผมว่าเขาเข้าใจว่าผมต้องการสื่อว่าอะไรล่ะนะ

     

    “ให้พี่ชิมได้ไหมครับ แจ็คสัน”

     

    “ไม่ได้ครับ...”

     

    “...”

     

    “ตรงนี้ไม่ได้ครับ...”

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    “อืม”

     

    ในซอกข้างกำแพงใกล้ตลาด ผมดันร่างเตี้ยกว่าติดกำแพง แนบริมฝีปากกดจูบบนกลีบเนื้ออิ่มแดงที่เจ้าตัวเพิ่งอนุญาตให้ชิมมันได้เมื่อครู่อย่างเร่งเร้า แจ็คสันร้องในลำคอบอกผมว่ารุนแรงเกินไป ผมผ่อนแรงลง จับลำคอเนียนลูบไล้ปลอบให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย กดจูบซ้ำๆรอบปากอิ่มก่อนสอดปลายลิ้นเข้าไปเชยชิมรสหวานหอมภายในโพรงปากเล็กนิ่ม หยอกเอินลิ้นเล็กไม่ประสา อ่อนหวานแผ่วเบาสร้างความเชื่อมั่น ก่อนจะร้อนเร่งรุกเร้ามากขึ้นตามอารมณ์ที่มีคนตรงหน้าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา

     

    “อืม พอพี่ ฮือ”

     

    ผมไม่สน แนบประกบจูบต่อ มือข้างหนึ่งกำมือของเขาแนบกำแพง แจ็คสันเบี่ยงหน้าหนี

     

    “ยังไม่พออีกเหรอ อ๊ะ อือออ”

     

    ผมจูบเขาไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หยาดน้ำใสๆไหลลงมาจากมุมปากอิ่มแดงขึ้นสีช้ำอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ผมผละออกเล็กน้อยลากลิ้นเก็บเกี่ยวมันขึ้นมา กดจูบบนมุมปากอิ่มสีช้ำ ใช้จมูกดุดดันปลายจมูกรั้นน่ารัก จุ๊บเบาๆทิ้งท้าย เลื่อนใบหน้าออกมาเพื่อมองดูแจ็คสันที่กำลังหน้าแดงก่ำ ดวงตากลมปรือปรอยมีหยาดน้ำตาบางเบา ผมยิ้มก้มลงไปจูบซับน้ำตาให้เขา กระซิบข้างใบหูนิ่ม

     

    “อร่อยมากเลย”

     

    แจ็คสันชกอกผมแบบไม่ออมแรง ทำเอาจุกไปเลย แต่แก้มนั่นก็ยังแดงปลั่งอย่างน่ารักอยู่ล่ะนะ

     

    “บ้ากาม”เขาด่า ผลักผมออกไปเดินลิ่วออกไปจากซอกตึก ผมรีบวิ่งตามมา ใส่เสนปแบคก้มหน้าอาจซ่อนอากาเขินได้มากกว่านี้ถ้าผมไม่เห็นใบหูแดงก่ำพ้นเส้นผมสีอ่อนนั้นก่อนน่ะนะ

     

    ผมยิ้มยึดมือเล็กนั่นไว้อีกครั้ง เขาขัดขืนนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยให้ผมกุมมือต่อ

     

    “กลัวหลงไง...”

     

    “เป็นเด็กสองขวบรึไง”แจ็คสันบ่นงึมงำไม่มองหน้า ผมยิ้มกว้างก้มหน้าลงไปกระซิบข้างใบหูเขา จงใจให้ได้ยินชัดๆ

     

    “ตอนนี้พี่ก็หลงนะ...หลงเด็กที่ชื่อแจ็คสันหวังล่ะ นายรู้จักไหมล่ะ?”

     

    “...บ้า”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×