ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF+FANART GOT7 [AllxJackson] By Silverfeather29

    ลำดับตอนที่ #51 : [SF] ai ai no kasa (MARKSON)

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 58


    ai ai no kasa

    Mark x Jackson

     

     

     

     

     

    สองเท้าใต้รองเท้าผ้าใบกีฬาคู่เก่งถีบจักรยานลงจากเนินระมัดระวังไม่ให้ไหลไปกับแรงโน้มถ่วงจนหน้าคะมำ สองมือกำเบรกไว้แน่นค่อยๆปล่อยเมื่อถึงทางราบของถนนสายหลักสายเล็กของบ้านเรือนบริเวณนี้

     

    หยุดจอดหน้าร้าน 24 ชั่วโมง ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเพื่อยืนยันว่ากะเวลาไม่ผิด ผลุบเข้าไปในร้านไม่ถึงห้านาทีก็ออกมาพร้อมขนมปังก้อนเล็กและขวดนมรสจืดอีกหนึ่งขวด ยืนกินขนมปังหันหน้าออกไปทางถนนเส้นเล็กราวกับรออะไรบางอย่าง

     

    ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเป้าหมายอยู่ลิบๆ สำรวมกริยาไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไปแม้ว่าอวัยวะในอกกำลังเต้นตุบตับตื่นเต้น

     

    รถลีมูซีนสีดำแล่นผ่านไปด้วยความเร็วไม่มากนัก กระจกดำทึบนั่นทำให้ไม่เห็นว่าใครเป็นใคร แต่แค่เห็นทะเบียนรถแจ็คสันก็รู้แล้วว่ามิสชั่นวันนี้สำเร็จเหมือนเคย ยิ้มน้อยๆกับตัวเอง แบกกระเป๋าเป้ใส่หลัง เดินไปทิ้งขยะ ก้าวขาคร่อมจักรยานแม่บ้านของตัวเอง ปั่นตามรถคันนั้นไป

     

    ...ที่จริงก็ไม่ได้ตามหรอก ก็นี่มันทางไปโรงเรียนเขานี่นา...

     

    ...โชคดีแต่เช้าเลย...

     

     

     

     

     

     

     

    “เฮ้ยไอ้แจ็ค! มาสายอีกแล้วนะมึง มีจักรยานไว้ทำไมวะ”เพื่อนในห้องส่งเสียงถาม แจ็คสันโยนกระเป๋าลงโต๊ะ หันไปตอบคำถาม

     

    “จักรยานรุ่นคุณยายนะมึง ไม่ใช่เสือภูเขา”

     

    “เออ คราวหลังรีบตื่นแล้วกันนะมึง”มันโบกมือหันไปสนใจหนังสือไอดอลในมือต่อ

     

    “เป็นไง เจอไหมล่ะ รักแรกของมึงน่ะ”

     

    “หุบปากไปเลยจินยอง”

     

    “หึหึ”

     

    จินยองหรือปาร์คจินยองเป็นเพื่อนในห้องคนเดียวที่รู้ว่าเขาไปทำอะไรถึงได้มาสายทุกเช้า

     

    “นั่นไงล่ะ มาแล้ว”

     

    เสียงสาวๆกรี๊ดกร๊าดกันตามสเตปทันทีที่มาร์คต้วนคนหล่อประจำโรงเรียนเดินเข้ามาในห้อง มาร์คทำสีหน้าเฉยชาเหมือนเคย แต่หมอนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอกนะ

     

    ...อย่าดูดีมากได้ไหมละ...หวั่นไหวนะ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คาบพละวันนี้เป็นการตรวจสอบสมถะภาพทางร่างกาย พวกผู้หญิงใส่กางเกงพละขาสั้นและเสื้อพละสีขาวดูน่ารัก ส่วนพวกผู้ชายก็ใส่กางเกงวอร์มสีน้ำเงินกันไป

     

    แจ็คสันวอร์มร่างกายท่าทางมุ่งมั่น ศักดิ์ศรีนักกีฬาโรงเรียนค้ำคอเขาอยู่ และที่สำคัญ เขาไม่อยากแพ้มาร์ค...

     

    ยืดตัวผ่อนลมหายใจ สะบัดข้อมือข้อขาเตรียมพร้อมเต็มที่ แอบเหลือบมองคุณชายบ้านรวยที่ยืนอยู่ข้างๆ เขามัวแต่ยืดร่างกายเลยไม่ได้มองว่ามาร์ควอร์มร่างกายยังไง แต่เห็นสาวๆกรี๊ดกัน คงเท่น่าดูเลย

     

    ไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว ตั้งท่าเตรียมตัววิ่ง

     

    ปี๊ด!

     

    พุ่งออกตัวไป วิ่งด้วยสุดกำลังที่มี ลมบางๆพัดผ่านใบหน้า เสียงกรี๊ดดังไล่หลังมาไม่อาจรบกวนเขาได้ ในคลองสายตาเห็นแต่เส้นชอล์กสีขาวข้างหน้านั่นเท่านั้น

     

    วิ่งเข้าเส้นชัย รอฟังเสียงประกาศเวลาขณะยืนยันเข่าหอบอยู่

     

    “แจ็คสัน 9.6 วินาที มาร์คต้วน 9.8 วินาที...”

     

    เสียงกรี๊ดมาตามมาดังคาด แจ็คสันหัวเราะแผ่วๆ โล่งใจ แม้จะชนะแค่ 0.2 วินาทีก็ตาม สัมพัสบนไหล่เรียกให้เขาหันไปมอง ก่อนหัวใจจะเต้นแรงชนิดแทบจะหลุดออกมากองบนพื้น

     

    “...มาร์ค”

     

    “นายวิ่งเร็วจัง”

     

    “อะ เอ่อ ขอบคุณ”

     

    มาร์คยิ้มบางๆ เดินออกไปดื่มน้ำ ทิ้งให้เขายืนเคว้งใจเต้นตาลอยอยู่ที่เดิม รู้ตัวอีกทีก็ตอนจินยองมันเหยียบเท้าเรียกสติ

     

    “เพ้อหนักแล้วมึง”

     

    ...ก็มาร์คชมเชียวนะ...

     

    ฮือ เขิน -////-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              จมูกรั้นถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ มองสายฝนโปรยปรายนอกอาคารอย่างเบื่อหน่าย ทั้งๆที่รู้ว่าช่วงนี้หน้าฝน ฝนจะตกมาตอนไหนก็ไม่รู้ แต่วันนี้ดันซวยลืมเอาร่มมาด้วย

     

    นั่งรอให้ฝนหยุดตกมาเกือบชั่วโมง ได้แต่ตัดใจเก็บของลงกระเป๋า เดินออกจากห้องว่างเปล่าเพราะคนอื่นกลับไปหมดแล้วตั้งแต่เย็น

     

    เปลี่ยนรองเท้ามายืนนิ่งอยู่หน้าประตู กระชับกระเป๋าเตรียมจะวิ่งสู้ฝ่าฝน สะดุ้งสุดตัวเพราะจู่ก็มีมือจับที่ไหล่ เกือบร้องว๊ากไปแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงทุ้มเรียกเสียก่อน

     

    “นาย”

     

    “อะ...มาร์ค”

     

    “เอานี่ไปสิ”

     

    มองร่มใสบนมืออีกคน เงยหน้าพลางส่ายหน้า

     

    “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวนายก็เปียก”

     

    “ฉันมีรถมารับ นายเอาไปเถอะ”มาร์คยังคงยืนยันจะเอาให้ แต่แจ็คสันก็เอาแต่ส่ายหน้าเช่นเดียวกัน

     

    “งั้น...ไปด้วยกันเลยแล้วกัน”

     

    “เฮ้ย!”ร้องตกใจเพราะจู่ๆข้อมือเขาก็โดนจูงออกไปด้านนอก กลิ่นอายดินและละอองฝนปลิวมาตามอากาศ แต่กลิ่นน้ำหอมจากมาร์คกลับเป็นกลิ่นที่ปั่นป่วนแจ็คสันได้ร้ายแรงที่สุด

     

    มาร์คกางร่ม ดึงเพื่อนร่วมชั้นเข้าไปยืนในร่มคันเดียวกัน ปล่อยมือออกขณะออกเดินไปหน้าโรงเรียน

     

    เวลาไม่ถึงนาที แต่แจ็คสันกลับรู้สึกนานนับปี

     

    คนที่เขาแอบชอบยืนอยู่ข้างๆ แถมยังใกล้เสียจนกลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงเต้นตุบตับของอวัยวะในอก ก้มหน้าก้มตาซ่อนแก้มที่คงแดงจัดไว้ ดีเหลือเกินที่มาร์คไม่ได้สนใจเขาเท่าที่ควร

     

    เวลาความสุขมักไม่คงทน...พอถึงรถ มาร์คก็ยื่นร่มมาให้เขาถือ ยิ้มให้เขา เปิดประตูเข้าไปในรถ แจ็คสันยืนอยู่ตรงนั้นสักพักมองรถหรูที่แล่นออกไป

     

    ยกมือกุมหน้าอกด้านซ้ายฟังเสียงหัวใจรัวแรงของตนเอง

     

    ...มาร์คต้วนเป็นอันตรายต่อหัวใจเขาจริงๆ...

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้มีเรื่องประหลาด...

     

    ขณะที่เขาปั่นจักรยานออกจากเขตโรงเรียนในช่วงห้าโมงที่ไม่มีนักเรียนคนไหนอยู่แล้ว กลับเจอกับมาร์คต้วนที่เดินอยู่ข้างทาง

     

    “มาร์ค”

     

    “อ้าว แจ็คสัน”มาร์คมีท่าทีแปลกใจ

     

    แจ็คสันจอดจักรยานข้างๆทางเดิมเพื่อถามไถ่

     

    “รถนายล่ะ”

     

    “อ้อ วันนี้ต้องไปรับมี๊น่ะ ฉันเลยเดินกลับบ้านเอง”

     

    “อ่า...”แจ็คสันลังเลใจที่จะชักชวน “เอ่อ...จะ...จะไปด้วยไหม?”

     

    มาร์คเลิกคิ้ว มองจักรยานรุ่นคุณยายแล้วหลุดหัวเราะ แจ็คสันหน้าแดงวาบนึกเคืองอีกคนไม่น้อยที่โดนหัวเราะใส่

     

    “อย่าเพิ่งโกรธสิ”มาร์ครีบห้าม “ฉันปั่นแล้วกัน นายซ้อนนะ”

     

    “เฮ้ย ไม่ดิ”

     

    “เอาน่า”

     

    พูดไม่พอยังแย่งตำแหน่งคนขับ ไล่เจ้าของรถไปนั่งซ้อนหลัง แจ็คสันทำตัวแข็งเกร็ง นอกจากมาร์คจะเป็นคนที่เขาแอบชอบแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มนั่งซ้อนท้ายคนอื่นอีก

     

    “สบายๆหน่อยก็ได้ ฉันไม่พานายล้มหรอก เชื่อฉันสิ”

     

    “...อืม...”

     

    ...เชื่อฉันสิ...

     

    ไม่รู้ทำไม แต่แค่คำๆเดียวทำเอาอบอุ่นไปทั้งหัวใจเลย

     

     

     

     

     

     

     

    เป็นวันหนึ่งในเทอมฤดูฝน ครูคณิตศาสตร์มีธุระด่วน คาบนี้เลยกลายเป็นคาบว่าง พวกผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดกันอยู่หน้ากระดาน วาดร่มเขียนชื่อตัวเองกับมาร์คกันใหญ่ ในตอนที่เจ้าของชื่อไปครูที่ห้องพักครู

     

    พวกผู้ชายบ่นกันขรมเพราะแทบไม่มีที่ว่างให้มีชื่อตนอยู่ใต้ร่มคันนั้น

     

    “แม่ง เกมปัญญาอ่อน พวกผู้หญิงก็เชื่อกันไปได้”

     

    “ที่มึงด่าเพราะไม่มีใครเขียนชื่อมึงรึเปล่า”

     

    “รู้ทัน มึงก็เหมือนกันแหละครับ”

     

    เพื่อนในกลุ่มนั่งซุบซิบกันตามประสาผู้ชายปากไม่อยู่สุข

     

    แจ็คสันนั่งท้าวคางมือค้างอยู่บนดินสอที่กำลังเขียนการบ้านวิชาภาษาที่ตนยังไม่ทำมา เงยหน้ามองกระดานที่กำลังโดนละเลงซะคิดว่าถ้าร่มนั่นมีอิทธิฤทธิ์จริงมาร์คคงมีแฟนเป็นฮาเร็มใหญ่แน่ๆ

     

    หัวเราะในความคิดไร้สาระของตัวเอง จดจ่อทำการบ้านต่อ

     

    ...แต่อืม...ร่มเหรอ...

     

    ยุกยิกๆ

     

    .

    .

    .

     

     

    “เฮ้ย! ไอ้แจ็ค! เขียนอะไรอยู่วะ”

     

    แจ็คสันสะดุ้งรู้ตัวก็ตอนเพื่อนเรียก มองหน้ากระดาษแล้วหน้าแดงฉ่า นี่เขาเขียนอะไรลงไปเนี่ย!

     

    “เฮ้ยยยยยยย ร่มคู่มาร์คแจ็คสันว่ะเมิงงงง”ไอ้เพื่อนทรยศตะโกนล้อเสียงดัง ตั้งใจจะประกาศให้คนทั้งห้องรู้

     

    “ไอ้ห่า! ไม่ใช่”รีบปฏิเสธ แย่งสมุดตัวเองกลับคืนมา พอดีกับที่ประตูห้องเรียนเปิดออก มาร์คเดินเข้ามาทำสีหน้างงงวยกับบรรยากาศในห้องและลายแทงร่มบนกระดาน

     

    “เห้ย! มาร์ค! ดูนี่ดิ แจ็คสันเขียนให้มึงว่ะ”

     

    “เดี๋ยว! อย่า”ห้ามเสียงหลง ดึงตัวเพื่อนไว้ แต่ไอ้เพื่อนตัวแสบกลับโยนสมุดเขาให้ลูกรับอีกคนวิ่งลิ่วเอาไปให้คนหน้าห้องดู

     

    ...ถ้ามองไม่ผิดสีหน้ามาร์คดูเครียดขึ้นนะ...

     

    หัวใจแทบหยุดเต้นตอนอีกคนเงยหน้าขึ้นมามอง ริมฝีปากเรียวกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง นั่นทำให้เขาขลาดกลัวจนต้องรีบวิ่งออกมา

     

    เสียงเพื่อนเรียกชื่อดังตามหลังมา แต่เขาไม่สนใจแล้ว วิ่งลงมาหยุดที่บันไดหนีไฟชั้นสอง ทรุดตัวนั่งกอดเข่ากับพื้น ซุกหน้าลงกับฝ่ามือ... แล้วจู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา

     

    ...โดนเกลียดแน่ๆ โดนมาร์คเกลียดแน่ๆ...

     

    ...ไม่เอาแล้ว...

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันปัจฉิมนิเทศของโรงเรียนถูกจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลังผ่านฤดูหนาวและฤดูสอบอย่างสาหัสสากัญมาแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็จบมัธยมปลายเสียที

     

    แจ็คสันได้เรียนต่อที่ม.โตเกียวตามที่ได้ตั้งใจไว้ ส่วนมาร์คจะบินไปเรียนต่อสายบริหารธุรกิจที่ต่างประเทศ

     

    ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันอีก แจ็คสันพยายามหลบเลี่ยงไม่อยู่ในห้องตอนพักเที่ยงหรือพักระหว่างวิชา เพื่อนต้นเหตุก็โกรธเสียจนพวกมันต้องมาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ มาร์คก็ไม่ได้มีท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อน ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ทุกอย่าง

     

    ...แจ็คสันไม่คิดว่ารักแรกเขาจะจบตั้งแต่ไม่เริ่มแบบนี้...

     

    เด็กหนุ่มยืนอยู่ในแถว แอบเหลือบมองมาร์คที่ถัดไปอีกห้าที่นั่ง ใบหน้าหล่อสวยตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์ใหญ่กำลังพูด ผิดกับเขาที่ไม่ได้สนใจตั้งแต่แรก

     

    “...ตั้งแต่นี้ไปก็ขอให้นักเรียนตั้งใจ เป็นคนดีที่มีคุณภาพของประเทศเราต่อไป ขอบคุณและยินดีที่จบการศึกษานะ”

     

    สิ้นพิธี ดอกไม้ประดับอกก็ถูกโยนกระจายไปทั่วทั่งโดมพร้อมเสียงไชโยโห่ร้องยินดีกันดังสนั่น

     

    แจ็คสันโยนมันทิ้งส่งๆ หันไปมองมาร์คที่เงยหน้ามองกลีบดอกไม้สีมพูที่ร่วงหล่นยิ้มๆ ภาพงดงามที่แจ็คสันสัญญาว่าจะเก็บไว้ในความทรงจำ ไปอีกตราบนานเท่านาน

     

    ...ความทรงจำของรักแรก...

     

    .

    .

    .

     

     

    นักเรียนกรูกันออกมาถ่ายรูป พูดคุยกันอยู่หน้าโดมทำพิธี พวกผู้ชายฮอตๆจะโดนตามล่ากระดุมเม็ดที่สองของเสื้อตัวใน เพราะมีความเชื่อที่ว่ากระดุมเม็ดที่สองมันอยู่ใกล้หัวใจ ถือเป็นของแทนใจสุดล้ำค่าที่จะมอบให้คนพิเศษเพียงแค่คนเดียว

     

    แจ็คสันยืนมองพวกผู้หญิงไปรุมมาร์คแล้วก็อึดอัดแทน ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นจะนึกรำคาญบ้างรึเปล่านะ

     

    “เฮ้ย แจ็ค ไม่ไปแย่งกับเขาเหรอวะ”จินยองเดินมาคล้องคอเพื่อนตัวเตี้ยที่เหม่อมองรักแรกของมันนิ่งๆอย่างน่าสงสาร

     

    “อืม ไม่ล่ะ กูคงไม่ได้หรอก”

     

    “ยอมแพ้แล้วเหรอ?”

     

    “อืม”

     

    “ยังไม่ได้สู้เลยป่ะวะ”จินยองยังคงถามต่อ

     

    “อะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ได้ว่ะ...อ้าว กระดุมมึงถูกชิงไปแล้วนี่”ชี้นิ้วถามถึงกระดุมที่หายไปของเพื่อนสนิท “ให้ใครไปวะ”

     

    พอถามเรื่องนี้จินยองก็นิ่งไป ก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์พยักเพยิดไปทางต้นไม้ใกล้ๆโรงเรียนที่มีร่างๆหนึ่งยืนอยู่

     

    “เฮ้ย นั่นมันอิมแจบอมห้องสองป่ะ? คนที่เงียบๆน่ากลัวๆหน่อย นี่มึงชอบเขาเหรอ?”

     

    “เหอะ... ไม่ใช่แค่ชอบ พวกกูคบกันตั้งนานแล้วเถอะ”

     

    “เห้ยยยยย!!!”เบิกตาโตตกใจ จินยองกับแจบอมอ่ะนะ!

     

    “ตกใจอะไร? หมอนั่นตอนอายน่ารักดี กูชอบ กูก็จีบแล้วติดซะด้วย คบกันมาสามเดือนแล้วว่ะ เนี่ย...กูประสบความสำเร็จแล้วนะ มึงไม่ลองดูสักตั้งล่ะวะ”

     

    แจ็คสันส่ายหน้า ยังไงก็ไม่เอาอยู่ดี

     

    “เอ่อ...ขอโทษนะ แจ็คสันใช่ไหม?”

     

    “หืม?”หันไปหาผู้ชายตัวสูงโย่งคนหนึ่งที่เดินทำหน้าอายๆมาหา เขาว่าเขาคุ้นๆหน้าหมอนี่นะ แต่จำไม่ได้อ่ะ

     

    “คือ...ถ้านายไม่หวง ฉันขอกระดุมนายได้ไหม?”

     

    “เอ่อ...”แจ็คสันกำลังอึ้ง นี่เขากำลังโดนสารภาพรักอยู่รึไง แต่เออ หมอนี่ก็ผู้ชาย อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด เขาเองก็ไม่รู้จะหวงไว้ทำไมด้วย เลยจับกระดุมเม็ดที่สองกระชากออกมา

     

    “ขอบ-”

     

    “โทษนะ...แต่เม็ดนั้นของฉัน”

     

    ไม่ทันที่จะได้เอาให้ เสียงทุ้มต่ำเย็นๆก็เอ่ยขึ้นมาในระยะใกล้ ร่างโดนดึงไปด้านหลังกระทบกับอกแข็งของใครอีกคน เสียงกรี๊ดดังขึ้นรอบทิศจนหูอื้อ ผู้ชายตัวโย่งคนนั้นก็ดูตกใจ เดินหนีไปทันที

     

    “มะ มาร์ค”เรียกชื่อเจ้าของมือที่โอบไหล่เขาอยู่ตะกุกตะกัก ทั้งตกใจและมึนเบลอ

     

    ...นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!...

     

    “กระดุมเม็ดนั้น ขอฉันนะ”

     

    “เดี๋ยวสิ นายจะเอาเหรอ?”

     

    ใจดวงน้อยเต้นโครมคราม มองมาร์คที่ดึงกระดุมเม็ดที่สองออกมาวางบนฝ่ามือยื่นให้เขา

     

    “อืม...เอามาแลกกัน”

     

    “จะดีเหรอ? คือ...มีหลายคนอยากได้นะ”

     

    “ฉันให้ คนที่ฉันชอบ มันแปลกตรงไหน”

     

     

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!

     

     

     

    แจ็คสันอึ้งจนไม่ได้สนใจเสียงกรี๊ดปานจะขาดใจของคนรอบข้าง ในสายตามองแค่มาร์คที่ยิ้มอบอุ่นมาให้ เอ่ยย้ำคำนั้นอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายก็คิดตรงกัน

     

    “ฉันชอบนาย...ชอบนายมาตลอด แจ็คสันหวัง”











    จากนี่...หึหึหึ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×