คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ป่าแฟนตาซีกับเสียงเพลงอันเศร้าสร้อย
เขาลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อพบว่าภาพที่ปรากฏตรงหน้าเป็นภาพต้นไม้สูงที่ขึ้นสะกระจัดกระจายไปทั่วอาณาบริเวณ มันเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นสูงชะลูดแต่กิ่งก้านสาขากลับโน้มลงมาจนเกือบระดับสายตา พร้อมๆกับใบดกหนาที่งอกออกมาตามกิ่งก้านเหล่านั้น ไม่เพียงแต่ใบที่มีสีเขียวเท่านั้น มันยังมีใบที่มีสีสันหลากสี ทั้งสีแดง ส้ม ฟ้า ชมพูหรือแม้แต่สีเหลืองสว่างตา ราวกับเป็นต้นไม้จากภาพวาดในโลกแฟนตาซี
ภาพตรงหน้าพิลึกพิลั่นจนทำให้ เชเรียส งุนงงกับสิ่งที่ปรากฏต่อสายตา เขาเผลอถามตัวเอง ในโลกนี้มีต้นไม้แบบนี้ด้วยเหรอ
เด็กหนุ่มก้าวเดินตรงไปข้างหน้าพลางหันซ้ายหันขวามองหาความผิดปรกติ แต่ก็ไม่พบอะไรที่พอจะทำให้เขาจำได้ว่าป่าพิลึกนี้คือที่ไหน หูทั้งสองของเขาไม่ได้ยินเสียงของสรรพสิ่งรอบกาย ทั้งเสียงของแมลงตัวเล็กๆหรือแม้แต่เสียงนกร้องตามต้นไม้ ไปจนถึงเสียงลมพัดแผ่วเบา มันเงียบจนเขาอาจจะได้ยินเสียงเลือดสูบฉีดในร่างกายซะด้วยซ้ำ สองเท้าพาเขาเดินต่อไปบนทางเดินที่เริ่มสูงชันขึ้นเรื่อยๆราวกับมันทอดตัวขึ้นสูงเนินดิน เขาเดินผ่านต้นไม้ที่มีใบหลากสีไป เชเรียสถามตัวเองในใจ...นี่เขากำลังเดินไปที่ไหนกัน ปราศจากคำตอบที่คืนกลับมา มีเพียงแรงผลักบางอย่างที่ทำให้เขาต้องเดินไปข้างหน้า
ผ่านมาได้ไม่กี่นาที เสียงหนึ่งทำให้สองขาของเขาหยุดชะงัก เชเรียสเงี่ยหูฟังเสียงแปลกๆที่ดังมาจากที่ใดที่หนึ่งตรงเนินเบื้องหน้า มันเป็นเสียงบทเพลงที่บรรเลงออกมาเป็นท่วงทำนองที่เศร้าสร้อยและโหยหวน
ขนที่แขนของเด็กหนุ่มตั้งชันขึ้นในทันที เขารู้สึกกลัวที่จะเดินต่อ การหันหลังกลับไปที่จุดเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่คำถามหนึ่งเกิดขึ้น จุดเริ่มต้นที่ว่ามันอยู่ที่ไหนกัน เขาจำได้ว่า ทุกสิ่งเริ่มจากการลืมตาขึ้นแล้วก็พบกับต้นไม้แฟนตาซี ก่อนที่มีอำนาจบางอย่างทำให้เข้าเดินมาถึงที่นี่
ในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นก็เอาชนะความกลัวได้สำเร็จ เชเรียสเดินต่อไป มุ่งหน้าไปที่ต้นกำเนิดของเสียงเพลงบรรเลงอันเศร้าสร้อย ระยะทางหดสั้นลงพร้อมๆกับเสียงเพลงบรรเลงก็เริ่มดังฟังชัดขึ้นทุกที
เด็กหนุ่มวัย 18 ชะงักเป็นครั้งที่สองเมื่อเสียงเพลงที่ได้ยินคุ้นหูยิ่งนัก ในตอนนั้นมันก็กระตุ้นเอาเรื่องราวที่ฝังเอาไว้ในความทรงจำให้แว่บเข้ามาในความคิด มันคือบทเพลงที่ลืมไปนานแล้วแม้แต่ชื่อของมัน แต่ตอนนี้เขากลับจำได้แม่นเพราะมันถูกเล่นโดยใครคนหนึ่งหรืออะไรก็ตาม ณ จุดที่ห่างออกไปจากที่เขายืนอยู่นี้ไม่ไกลนัก...
The Long Distance of death คือชื่อเพลงอันเศร้าสร้อยดังกล่าว... แม่เคยเล่นเพลงนี้ผ่านเปียโนให้เขาฟังเมื่อตอนเขาอายุได้สี่ขวบ
ตอนนั้นเขาถามแม่ “แม่ครับ ทำไมแม่ชอบเล่นเปียโนเพลงนี้ครับ ผมว่ามันฟังดูแล้วเศร้าจัง”
ผู้เป็นมารดาหยุดพรมนิ้วไปชั่วขณะ หันไปทางลูกชายมองเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อย “เพลงนี้ทำให้แม่คิดถึงพ่อของลูก ทุกครั้งที่แม่เล่นเพลงนี้ แม่รู้สึกว่า แม่กำลังสื่อสารกับพ่อของลูก บทเพลงนี้นำพาเอาความคิดถึง ความเศร้าและความรัก ส่งไปหาพ่อของลูก”
ใช่...เด็กหนุ่มรู้ดีว่าพ่อของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เขาเกิดได้เพียงหนึ่งเดือน เขารู้แค่นั้น...ปราศจากความทรงจำเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับพ่อ ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงแค่ทารก
“ผมกับแม่จะไม่มีวันพบพ่ออีกใช่มั้ยครับ” เชเรียสถาม
มารดาของเชเรียสยิ้มก่อนจะตอบ “ถ้าลูกอยากพบพ่อ ลูกต้องไปที่เฮอมีส พ่อของลูกอยู่ที่นั่น”
“เฮอมีส..มันคืออะไรครับ”
หญิงวัยกลางคนไม่ตอบทันที แต่หันไปพรมนิ้วลงบนแป้นเปียโนเพื่อจบท่อนสุดท้ายของ The Long Distance of death แล้วหล่อนก็หันไปยิ้มให้ลูกชาย “เฮอมีสคือโลกที่ถูกลืมเลือนของมนุษยชาติ”
-----------------------
เชเรียสสะดุ้งเบาๆ บทเพลง The Long Distance of death เดินทางมาถึงจังหวะกระแทกกระทั้น และปลุกเขาให้หลุดออกจากความทรงจำในอดีต เขาพบว่าภาพตรงหน้ายังคงเหมือนเดิม ป่าไม้หลากสีสัน เนินเดินที่เป็นทางเดินทอดยาวไปเบื้องหน้า
เขาหรี่ตาอย่างมุ่งมั่นก่อนที่จะเดินเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หวาดกลัว เสียงเพลงทำให้เขานึกถึงแม่และแม่ของเขาอาจจะรออยู่ที่ไหนสักที่หนึ่งหลังเนินแห่งนั้น
ความคิดเห็น