คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [ Bo ] : Never give up.
Psyche
Chapter
7 : Never give up.
[ Bo ]
โบรู้สึกว่าปากแผลเปิดและเลือดกำลังไหลซึมออกมาจนเปื้อนแขน
ดวงตาสีเข้มสะลึมสะลือ เปลือกตาขยับเปิดจนเต็มที่ เธอได้กลิ่นอับๆ
เหมือนห้องปิดทึบที่ไม่ได้ใช้มานาน เห็นแสงไฟจากหลอดไฟเพียงดวงเดียวห้อยอยู่กลางห้อง
โบไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ไหน สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือ เธออาเจียน
เลือดทะลักพร้อมกับสสารสีดำ เธอทันได้เห็นมันไหลออกจากปาก ก่อนจะสลบเหมือดไร้สติ
ร่างเล็กขยับลุกขึ้นนั่ง เพิ่งสังเกตเห็นว่าเธอถูกล่ามโซ่คล้องไว้กับท่อน้ำขนาดเล็ก
ข้อเท้าของเธอมีกุญแจมือแบบของพวกตำรวจล็อคอยู่ หญิงสาวขยับเท้า แล้วกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บ
ตอนเธอล้ม คงจะทำให้ข้อเท้าแพลง มีแผลจากกระสุนปืนที่ต้นขาอีก โบไม่ได้ใส่กางเกงตัวเดิม
มีใครไม่รู้ถอดกางเกงขายาวของเธอออกไป แทนที่ด้วยกางเกงขาสั้น เธอเห็นการทำแผลอย่างลวกๆ
มีแค่ผ้าโปะ เลือดซึมจนเห็นชัด เช่นเดียวกับที่แขน สภาพแย่ไม่ต่างกัน
มีคนจับตัวเธอมา
โบไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ไร้ทางออก โลกของเธอนั้นเปิดกว้าง
มีผืนป่ากับเมืองใหญ่เป็นฉากหลังเสมอ เธอไม่เคยมาลงเอยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคับแคบ มีแค่ช่องระบายอากาศอยู่เหนือศีรษะขึ้นไป
ผนังเป็นวัสดุกึ่งๆปูน เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันแข็งมาก
ชนิดที่เธอไม่สามารถจะต่อยทะลุได้ ต่อให้มีแรงเต็มที่ก็ตาม ห้องนี้ไม่มีอะไรเลย ไม่มีฟูกปูนอน
ไม่มีผ้าห่ม กระเป๋าของเธอหายไป จึงไม่มีอะไรที่เธอสามารถนำมาใช้เพื่อสะเดาะกุญแจมือ
โซ่ยาวไม่มากพอที่จะให้เธอเดินหรือคลานไปจนถึงประตู
เธอเริ่มกลัว ถ้าเป็นในป่า อย่างน้อยเธอคุ้นชิน ลุกขึ้นเดิน
หาทางออกไปได้ หรือเป็นในเมือง ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ แต่นี่เธออยู่ในห้องปิดตาย
เห็นแต่ผนังสี่เหลี่ยมสี่ด้าน โบไม่กล้าส่งเสียงร้อง
เพราะไม่รู้ว่าอะไรอยู่หลังบานประตู ต้องเป็นพวกมันแน่ๆ เธอคิดในใจ เขาคนนั้น
ผู้ชายน่ากลัวสวมชุดสีดำเป็นคนจับตัวเธอมา โบหายใจแรง หันมองซ้ายทีขวาที
ตื่นตระหนก หวาดหวั่น เธอกลัวผู้ชายคนนั้น
เขาเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เธอรู้ตัวว่าไม่อาจเอาชนะ ไม่อาจหนี เพียงแค่มอง ลมหายใจติดขัด
หรือแม้แต่คิดถึงขึ้นมา เธอปรารถนาจะหนีไปให้ไกลที่สุด แต่จะทำอย่างไรได้
ห้องบ้าๆนี่ไม่มีอะไรเลย
โบขยับแขนข้างขวาที่ไม่ได้บาดเจ็บไปที่ข้อเท้า
ถ้าล่ามโซ่ที่มือยังมีโอกาสเอาออกเยอะกว่าที่เท้า
เธอไม่สามารถถอดมันออกทางปลายเท้าได้ ต่อให้เหล็กครูดจนเนื้อถลอกเลือดไหลก็ตาม สายตาของเธอมองไล่ไปที่โซ่
คล้องอย่างแน่นหนาไว้กับท่อน้ำ มีกุญแจล็อคอย่างดี แกะโซ่ก็ไม่ได้อีก
ท่อน้ำยาวถึงด้านบนและหายไปในเพดาน เธอถอนหายใจ เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นที่หน้าผาก
เธอไม่อยากตาย ไม่อยากอยู่ในที่แคบ ไม่อยากนั่งเฉยๆรอให้ใครหรืออะไรเข้ามาฆ่าเธอ
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น เค้นหัวสมองแทบแตก มันต้องมีทางสิ
โบหลับตาลง พยายามหายใจช้า สงบอารมณ์ สงบความกลัว เธอนึกถึงคุณปู่
ถ้าเป็นปู่จะทำยังไง ปู่สอนว่าให้ใช้ทุกอย่างที่มี รู้จักพลิกแพลง ถ้าหลานของปู่หาทางไม่ได้ คงไม่มีใครทำได้อีกแล้ว ปู่เคยพูดแบบนั้น ปู่ชมเสมอว่าเธอเป็นคนฉลาด เขาทำแบบนั้นเพื่อให้กำลังใจ
เพื่อทำให้เธอเชื่อ ปู่คะ หนูจะทำยังไงดี? โบหลับตาแน่น คิดสิ ภาพของห้องทั้งห้องอยู่ในสมอง ภาพของท่อน้ำ โซ่
กุญแจมือ เสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่ตอนนี้ กางเกงขาสั้น เสื้อยืดแขนกุด
โบลืมตาโพลง จังหวะการหายใจแรงขึ้น เธออ้อมแขนขวาไปด้านหลัง
ล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อ ขยับนิ้วไปจนเจอตะขอบรา นี่ละ ทางรอดของเธอ
โบแกะตะขอด้วยมือข้างเดียว ดึงบราของตัวเองออกจากแขนทีละข้าง
ใช้ปากกัดเส้นด้ายที่ยึดตัวตะขอ จนในที่สุดตะขอเกี่ยวบราก็หลุดมาทั้งสองอัน
จากนั้นเธอออกแรงใช้ฟันกัดเส้นลวด ตัวลวดที่ทำเป็นตะขอนั้นหนาและแข็งมากทีเดียว
เธอทั้งใช้ฟันกัด ดึง และใช้นิ้วมือช่วยดันให้มันกลายเป็นเส้นตรง
โบขยับไปที่ข้อเท้า ใช้ลวดตะขอแยงเข้าไปในรูกุญแจ ทักษะพวกนี้
เธอไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้ประโยชน์ ปู่สอนไว้ หัดให้เธอสะเดาะกุญแจเมื่อนานมาแล้ว ปู่หากุญแจหลากหลายแบบมาให้ลอง
ถ้าทำสำเร็จ จะพาไปกินพิซซ่า
อยู่ๆดวงตาของเธอร้อนผ่าว ทั้งที่ปู่ไม่อยู่ตรงนี้ แต่เขาคอยปกป้องเธอตลอดเวลา
ในที่สุดกุญแจหลุดจากข้อเท้า เธอเป็นอิสระครึ่งหนึ่ง หญิงสาวมองไปทางประตู
ไม่เห็นรูกุญแจเลย แสดงว่าตัวล็อคอยู่ด้านนอกเท่านั้น หมายความว่า
เธอต้องรอให้อีกฝ่ายเปิดประตูอย่างเดียว โบมองโซ่ เส้นใหญ่ หนา และหนัก
ถ้าใช้มันฟาดศีรษะ ก็จะช่วยซื้อเวลาให้เธอได้บ้าง เธออาจสู้กำลังผู้ชายไม่ได้
หรือถ้าพวกมันมากันหลายคน เธออาจสู้ไม่ไหว แต่พวกมันคงติดอาวุธเข้ามาบ้าง
เธอจะหาจังหวะขโมยอาวุธมาเอง ปัญหาติดอยู่ที่ขาขวากับแขนซ้าย
แค่ขยับนิดเดียวยังเจ็บ
ช่างมัน เธอต้องทนให้ได้ โบถอดโซ่ออกมาด้วย ลองซ้อมเหวี่ยงดู
พยายามไม่ให้โดนพื้น เพราะอาจเกิดเสียง และคนที่จับเธอมาจะรู้ว่าเธอตื่นแล้ว
หญิงสาวค่อยๆตะกายลุกขึ้นยืน เธอพิงผนังก่อน ลองเหยียบเท้าข้างขวาลงไปเต็มๆ
ความเจ็บปวดวิ่งจี๊ดขึ้นถึงหัวใจ หญิงสาวกัดฟันอย่างอดทน เดินไปข้างหน้าทีละก้าวจนถึงข้างประตู
เธอยืนอยู่ตรงนั้น รอคอย มือกำโซ่ไว้มั่น พร้อมใช้งานทุกเมื่อ มันต้องมาเปิดประตู
เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่มาแน่
ระหว่างที่รออย่างใจจดจ่อ จนเริ่มเหนื่อยและเบื่อกับการรอ
เธอเอนหลังพิงผนังเย็น พยายามทบทวนความทรงจำสุดท้ายก่อนหมดสติไป
ผู้ชายคนนั้นฉีดอะไรบางอย่างให้เธอ กระซิบบอกเธอว่าความเจ็บปวดจะจบลงในไม่ช้า
เธอไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ทำแบบนั้นทำไม สิ่งที่เขาฉีดให้เธอคืออะไร
แต่ดูเหมือนร่างกายของเธอจะไม่ยอมรับสสารแปลกปลอม โบอาเจียนออกมาจนหมด
ก่อนจะล้มลงนอนหงาย ตาปรือ เปลือกตาหนักอึ้ง สุดท้ายเธอไม่ได้ยิน ไม่รับรู้ ตื่นมาที่นี่ได้อย่างไรก็สุดจะคาดเดา
มีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา หญิงสาวกลั้นหายใจ ม่านตาขยาย
หัวใจเต้นตุบตับอยู่ภายใน เธอจ้องไปที่ประตู ตาไม่กระพริบ
มือพร้อมเหวี่ยงโซ่เต็มที่ เสียงเหล็กครูด ประตูถูกเลื่อนเปิด โบไม่รอช้า
เธอฟาดโซ่หนาหนักลงไปบนศีรษะล้านเตียน มันส่งเสียงร้องลั่น กระโจนเข้าใส่เธอทั้งตัว
หญิงสาวดิ้นพล่าน พยายามใช้โซ่กันมันเอาไว้ เธอดึงจนขึงตึง
ทันเห็นแววตาอันบ้าคลั่งของมัน วินาทีต่อมา คมมีดจ่ออยู่ที่คอหอยของโบ
ปาดเข้าเนื้อไปเล็กน้อย เลือดไหลซึม เธอหยุดการกระทำทุกอย่าง ร่างถูกดันติดกำแพง
โบเพิ่งมีโอกาสสำรวจผู้ที่ลักพาตัวเธอมา เขาตัวผอมแห้ง แต่แรงเยอะ
ศีรษะโล่งเตียน ริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกว่าอายุไม่เกินสามสิบเจ็ดหรือสามสิบแปด
นัยน์ตาสีฟ้าจัดอย่างน่ากลัว โบไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังเผชิญกับคนแบบไหน
มันยกมีดขึ้นปาดแถวแก้มข้างขวาของเธอ หญิงสาวกัดริมฝีปาก โบเห็นมันแสยะยิ้มอย่างพอใจ
เมื่อมองต่ำลงไปกว่านั้น เธอก็เห็นว่าเสื้อกล้ามที่มันสวมอยู่มีคราบเลือดเกรอะกรัง
ไม่รู้ว่าเลือดของใคร แต่ไม่น่าจะใช่เลือดมัน
มันเอามีดขู่เธอไว้ตลอด ไม่พูดอะไรสักคำ
เอาแต่ยิ้มอย่างน่ากลัวและสนุกสนาน มันสั่งให้เธอเอากุญแจมือมาใส่ข้อมือของตัวเอง และใช้มีดดุนหลังเธอให้เดินออกจากห้อง
โบได้เห็นว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็คราวนี้
โรงฆ่าสัตว์ที่ไม่เหลือเนื้อสัตว์ห้อยต่องแต่งลงมาจากเพดาน
แต่กลิ่นคาวเลือดยังคลุ้งและสดใหม่พิกล นี่เธอกำลังรับมือกับอะไร? คนโรคจิต ฆาตกรต่อเนื่อง หรือเป็นหนึ่งในพวกมัน แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอต้องเห็นทหารแล้ว
พวกมันไม่น่าจะมากบดานอยู่ในโรงฆ่าสัตว์แบบนี้ เธอจะเอาชนะมันได้ยังไง มันมีมีด
เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า เธอบาดเจ็บ แค่เดินยังลำบาก
“แกต้องการอะไร?” เธอเสี่ยงถามดู มันไม่ตอบ
ผลักให้เธอเดินต่อไปจนถึงบริเวณโรงเชือด เครื่องมืออุปกรณ์ครบ
ชนิดที่เห็นแล้วอยากจะเป็นลม แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ รอยเลือดเป็นทางบนพื้น
ยาวเรื่อยไปจนถึงประตูอีกบาน เธอเห็นไอเย็นเกาะที่ช่องหน้าต่างกระจก
เดาออกว่าข้างในเป็นห้องเย็น มันใช้เป็นที่เก็บศพหรือไม่ เธอไม่อยากคิด
เธอต้องสู้ ไม่มีทางอื่น ถึงจะยังไม่ได้คิดแผนการในหัว แต่ต้องลงมือเลย
โบหันขวับ เหวี่ยงหมัดทั้งสองข้างเข้าใส่ใบหน้าของมัน มันเหวี่ยงมีดกลับ
เฉือนเข้าเนื้อบนต้นแขน มันรู้ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง และมันโจมตีจุดนั้น
โบกรีดร้องดังลั่น เมื่อมันเตะเข้าที่แผลบนต้นขา เธอล้มกระแทกพื้น
และมันใช้เท้ากระทืบลงบนแผลอีก เลือดไหลทะลักออกมา มันเอาแต่ยิ้มอย่างสะใจ ก้มลง
จับข้อมือเธอที่มีกุญแจมือคล้องอยู่ทั้งสองข้าง ลากเธอถูลู่ถูกังราวกับเป็นสัตว์ตัวหนึ่งที่พร้อมจะขึ้นเขียง
รอการขำแหละ
เธอดิ้น กรีดร้อง พยายามดึงแขนของตัวเองกลับมา มันจึงหันตัว
เตะเข้าที่ท้องเธออีก ทำเอาจุก ร้องไม่ออก พาลเอาสมองเบลอไปด้วยความกลัว
ตอนนี้เธอไม่แน่ใจแล้วว่า ระหว่างมนุษย์ กับ พวกมัน อะไรที่น่ากลัวมากกว่ากัน
ใครคือสัตว์ประหลาดที่แท้จริง
มันลากตัวเธอขึ้นไปบนโต๊ะ โบดิ้น มันจึงปักมีดลงไปบนแผลของเธอ
ผลักเธอนอนหงาย และตอนนั้นเองที่โบได้เห็นว่าไม่ได้มีโต๊ะแค่ตัวเดียวในห้อง
ถัดจากเธอ มีร่างผู้หญิงนอนอยู่บนโต๊ะ ศีรษะพับไปอีกทาง เลือดนองเต็มไปหมด แขน ขา
ถูกเฉือนขาดออกจากกัน ความคลื่นเหียนพากันดันตัวมาจุกอยู่ในคอของโบ
นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่าง
โบไม่มีเวลามาคิดสงสัยอีกแล้วว่ามันได้ตัวเธอมายังไงจากลานจอดรถ
นัยน์ตาเธอมองไปสองข้าง เห็นโต๊ะวางเครื่องมือ มีดทุกขนาดเรียงราย
เธอไม่สามารถจะเอื้อมไปหยิบได้ ถ้านอนแหมะอยู่แบบนี้
มันกำลังจะมัดขาข้างซ้ายของเธอ สมองของโบสั่งทันที
และร่างกายก็ไปไวกว่าความคิด เธอออกแรงทั้งหมดทุ่มไปที่การถีบมันอย่างแรงจนกระเด็น
ร่างเล็กขยับอย่างว่องไว
คว้ามีดพร้าเล่มใหญ่ที่มันคงจะใช้เฉือนคนมาเยอะถือมั่นไว้ในมือ มันหัวเราะ
มองเธอจากอีกฝั่งของโต๊ะยาว
“เธอนี่ไม่เลวเลยจริงๆ” โบไม่รู้จะเรียกว่านั่นเป็นคำชมหรืออะไร
แต่เธอไม่คิดจะยินดีหรอก “ฉันเห็นเธอสู้กับมัน วันนั้น
ในลานจอดรถ ฉันก็รู้เลยว่าฉันอยากได้เธอมาเป็นหนึ่งในคอลเลกชันของฉัน” โบนึกถึงสภาพศพของผู้หญิงอีกคนที่ยังนอนอยู่บนโต๊ะด้านหลัง
เธอไม่อยากกลายเป็นคอลเลกชันของใครทั้งนั้น “จะบอกความลับให้นะ
สาวน้อย ฉันเคยจัดการพวกมันได้ตัวหนึ่ง” โบขมวดคิ้ว
แต่ไม่โต้ตอบอะไร “พอผ่าสมองมันออกมา
ก็รู้เลยว่าทำไมมันควบคุมร่างกายของพวกเราได้ สิ่งที่เจ้านั่นฉีดให้เธอ
มันจะเข้าไปอยู่ในสมองเนื้อขาว แต่ดูสิ มันไม่มีผลอะไรกับเธอเลย
ฉันอยากเห็นสมองของเธอจะแย่อยู่แล้ว”
มันพูดจบก็ปีนขึ้นมาบนโต๊ะ โบจะรอช้าอยู่ทำไม เธอหันหลัง วิ่งหนี
ลากขาเป๋ๆของตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ได้ยินเสียงมันวิ่งตามมา เธอออกจากห้อง
ปิดประตู พยายามดันไว้สุดแรง แต่มันกระแทกจนเปิดได้อยู่ดี โบตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อ
เธอพุ่งพรวดเข้าไปออฟฟิศ และคู้ตัวลงนั่งใต้โต๊ะ รอจังหวะที่มันจะเดินเข้ามา
และเธอจะจัดการกับขาของมันทั้งสองข้าง โบกอดด้ามมีดในมือไว้แน่น
ราวกับชีวิตขึ้นอยู่กับมันแล้ว ริมฝีปากของเธอสั่นเทา
โบเคยพบเหตุการณ์ที่ทำให้กลัวมาหลายครั้ง แต่ต้องยอมรับว่า
เธอกลัวสุดขีดสุดใจของจริงก็คราวนี้ เล่นเอาทำอะไรไม่ถูก ไปแทบไม่เป็น ความกลัวคนละแบบกับตอนเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้น
ตอนนั้น เธอไม่ได้กลัวว่าจะต้องตาย แต่กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นอย่างอื่นที่ไม่ต้องการจะเป็น
ตอนนี้ เธอกลัวตาย และพนันกันได้เลย ทุกคนต้องคิดเหมือนกัน ความกลัวตาย
เป็นที่สุดแล้วของความกลัวทุกชนิด
มันเข้ามาแล้ว เดินย่องเหมือนสัตว์ร้ายหาเหยื่อ และทันทีที่มันโผล่มา
หญิงสาวตวัดมือทั้งสองข้าง มีดพร้าปักเข้าที่หน้าแข้ง
มันร้องอย่างเจ็บปวดและแค้นเคือง แยกเขี้ยว ล้มลงกับพื้น
แต่เอื้อมมือมาคว้าข้อเท้าเธอ ดึงให้เธอสะดุด โบกระทืบลงไปเต็มๆที่ใบหน้าของมัน เธอวิ่งต่อ
สายตาสะดุดเข้ากับกระเป๋าที่ดูคุ้นตา กระเป๋าของเธอเอง ถูกทิ้งเอาไว้ตรงทางเดิน
โบก้มลงหยิบ ยังไม่ทันจะยืดตัวขึ้น เสียงปีนก็ดังลั่นกบหู กระสุนปักเข้าที่ไหล่ขวา
ความเจ็บทำให้กระเป๋าร่วงหลุดจากมือ
“คิดหรอว่าจะหนีไปจากฉันได้”
ปืนแบเร็ตต้าของเธออยู่ในมือมัน มันกำลังใช้ปืนของเธอฆ่าเธอ โบไม่ได้ล้ม
แต่เซถลาไปแปะอยู่กับผนัง นี่ไม่ใช่ที่ตาย เธอจะไม่ยอมมาตายในที่แบบนี้
นัยน์ตาของหญิงสาวร้อนผ่าว ความหวังริบหรี่เต็มที จบแล้วใช่ไหม? เธอสู้ไม่ได้ เธอจะต้องตาย ถูกชำแหละเป็นชิ้นๆ
ทันใด ประตูโรงฆ่าสัตว์ถูกเลื่อนเปิด แสงอาทิตย์ยามกลางวันในฤดูร้อนสาดเข้ามาจนตาพร่า โบได้ยินเสียงเท้าหนักๆหลายสิบคู่วิ่งกรูเข้ามา เธอเห็นชุดเครื่องแบบทหารกับปืนคาร์บินหลายสิบกระบอกต่างเล็งยิงมาทางเธอ หรือฆาตกรโรคจิตนั่น เธอได้ยินเสียงคำสั่งของทหารที่บอกให้วางปืนลง และเมื่อหันไปมอง มันยอมทิ้งปืนแบเร็ตต้าลงข้างตัวและชูมือขึ้นในอากาศทั้งสองข้าง
โบรอดชีวิต แต่หนีเสือปะจระเข้
ทหารยังคุมเชิงอยู่เช่นนั้น ราวกับรอคำสั่งของคนอื่น โบหายใจเร็ว
หอบเอาอากาศเข้าปอด เธอรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว หัวใจเต้นตึกตัก
กระแทกกับซี่โครงจนรู้สึกเจ็บ แต่คราวนี้เธอรู้
รับมือไว้ก่อนแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรเวลาที่หัวใจเต้นแบบนี้ เป็นเพราะเขา
ผู้ชายในชุดสีดำคนนั้น ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทหาร เดินผ่านประตูเข้ามา
ในจังหวะเดียวกันกับที่โบทนยืนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เรี่ยวแรงทั้งหมดหายสิ้น
บาดแผลกำเริบเจ็บขึ้นพร้อมกัน เธอล้มอยู่กับพื้น หมดสภาพ
ดูยับเยินเหมือนคนที่ผ่านสงครามและรอดมาได้
เธอเห็นรองเท้าสีดำเงาวับของเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า
และเมื่อเงยขึ้นมองก็เห็นว่าเขากำลังยื่นปืนหนึ่งกระบอกให้เธอ
โบมองหน้าเขาสลับกับปืนอย่างไม่เข้าใจ
“มีกระสุนแค่นัดเดียว เลือกใช้ให้ฉลาด”
ความคิดบ้าคลั่งแวบเข้ามาในหัวครู่หนึ่ง เธอเหนื่อยเหลือเกินแล้ว
ไม่อยากรับรู้อะไรอีก เธอน่าจะจ่อขมับตัวเอง เป่าสมองให้กระจุยกระจาย จบสิ้น
ไม่ต้องหนี ไม่ต้องดิ้นรน แต่ทุกอย่างจะสูญเปล่า เธอคิดถึงปู่
เขาสอนให้เธอหาทางเอาชีวิตรอด ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้
แม้จะเจอเรื่องที่แย่หรือตกต่ำแค่ไหนก็ตาม ถ้าเธอฆ่าตัวตายตอนนี้ เท่ากับหักหน้าและไม่เคารพคำสอนของปู่
คนๆเดียวที่เป็นครอบครัวของเธอ โบมองปืนที่ผู้ชายคนนั้นยื่นให้ จะเป็นยังไง
ถ้าเธอฆ่าเขาซะเลย แต่มันจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ? พวกมันยังอยู่
ถ้าเธอฆ่าเขา พวกทหารจะยิงเธอทันที ไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตายอยู่ดี
โบหันกลับไปมองฆาตกรโรคจิตที่เธอไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ
หน้าตามันซีดเซียว นัยน์ตาวิงวอน หวาดกลัว เธอเห็นสภาพศพผู้หญิงที่มันฆ่า
และเดาได้ว่าก่อนหน้านั้นคงมีอีกหลายศพ มันใช้ประโยชน์จากความโกลาหล
หลอกล่อและฆ่าไปกี่รายแล้วก็สุดจะรู้ มันสมควรตาย
แต่เธอเป็นใครจึงคิดว่าตัวเองตัดสินได้ เธอไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่ผู้พิพากษา
ไม่ใช่ความยุติธรรม เธอเป็นแค่โบ มาร์เรน เด็กข้างถนน
เธอไม่มีสิทธิ์บอกว่าใครควรอยู่หรือตาย ต่อให้มันเลวทรามจนน่าจะถูกประหารชีวิต
เธอไม่ใช่คนตัดสิน
เขามองเธอครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเธอไม่คิดจะขยับมารับข้อเสนอใช้ปืน
เขาเลื่อนมือขึ้น ตามมาด้วยเสียงดังปังก้องกัมปนาทไปทั่วทางเดิน โบสะดุ้ง
หันไปทันเห็นแสงสุดท้ายจากดวงตาของฆาตกร รูโหว่กลางหน้าผาก ร่างของมันล้มลง ไร้ค่า
ไม่ต่างจากสุนัขข้างถนนตัวหนึ่ง เธอตวัดสายตาขึ้นมองเขาทันที
เครื่องหน้าไร้อารมณ์ไม่มีกระตุกเลยสักนิด เหมือนกับเขาเพิ่งจะตบยุงตาย หรือบี้มด
ดูช่างเล็กน้อย ไร้ความหมาย ไร้ประโยชน์ จนแม้แต่จะเหลียวมองซ้ำ ก็ไม่จำเป็น
เขาก้มลงมองเธอ
“อย่าฆ่าฉัน” โบพูดออกมา
เป็นคำขอร้องอย่างหมาจนตรอก
เธอเดาไม่ถูกว่าเขากำลังคิดอะไร รู้สึกอย่างไร
ไม่มีวี่แววความปรานีหรือสงสารในแววตาและสีหน้า เขาเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกัน
เธอสงสัย ลูกนัยน์ตาสีดำจ้องเธอเขม็ง เขาหยิบเข็มฉีดยาออกมาอีกแล้ว
แต่คราวนี้ไม่ใช่เล่มใหญ่อย่างครั้งก่อน ไม่มีสสารสีดำในหลอดแก้ว
โบกำลังจะอ้าปากพูด ขอร้องอีกครั้ง แต่เขาจิ้มเข็มลงที่คอของเธออย่างฉับพลัน
โลกของโบหมุนติ้ว ภาพพร่าเลือน สีสันวิ่งผ่านไป
ดาวนับร้อยเหมือนจะบินวนบนศีรษะ เธอรู้สึกตัวเบาหวิวลอยขึ้นในอากาศ
ได้กลิ่นน้ำหอมสบายๆลอยมาแตะจมูก ปนไปกับกลิ่นดินปืน
ให้ความรู้สึกปลอดภัยแต่อันตรายไปในคราวเดียวกัน ศีรษะของเธอเอนพักบนผ้านุ่มลื่น โบกระพริบตา เห็นแต่สีดำ ท้องฟ้า
และใบหน้าของใครบางคน จากนั้นทุกอย่างเงียบหายไป
Writer's Talk
ฆาตกรโรคจิตได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Split ค่ะ ดูแล้วชอบมากเลย ฉันค่อนข้างชอบงานกำกับของ M.Night ถึงแม้ช่วงหลังๆจะไม่ท๊อปฟอร์มอย่าง The sixth sense หรือ The sign ฉันก็ยังชอบเขาอยู่ดีนะ เขาเป็นผู้กำกับที่เล่าเรื่องได้แปลก บางทีเนื้อหาไม่มีอะไรหรอก แต่มุมมองที่เขาเลือกใช้ มันไม่เหมือนใคร
ความคิดเห็น