ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Doctor Strange/OC Fic] The Strangest Case

    ลำดับตอนที่ #4 : An unusual dream

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 59




    The Strangest Case

    Chapter 4 :  An unusual dream



                    เรื่องของเรื่องคือ ตั้งแต่คืนนั้นที่ฉันหลับไป ฉันก็ไม่ได้ตื่นไปสองวัน บ้าดีไหมล่ะ? ฉันจะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องขอย้อนสถานการณ์กลับไปหน่อย ยังจำแอนนา นักศึกษามหาวิทยาลัยบรูคลินที่จะกระโดดตึกตายได้ใช่ไหม ฉันพลาดเองที่พูดชื่อด็อกเตอร์ออกไป เพราะดูเหมือนว่าอะไรก็ตามที่ปั่นป่วนความฝันของคนในเมืองอยู่ จะมีเป้าหมายที่ด็อกเตอร์ และเมื่อมันได้ยินชื่อด็อกเตอร์ระหว่างที่กำลังควบคุมความฝันของแอนนา มันก็เกิดสนใจทันที และเมื่อฉันหลับ มันก็ฉกตัวฉันเข้าไปในดินแดนแห่งฝันร้าย


                    ไนท์แมร์ คือชื่อตัวประหลาดรายนี้



                    ฉันจะเล่าให้ฟังคร่าวๆถึงการผจญภัยอันแสนแปลกประหลาดและน่ากลัวในอาณาจักรแห่งฝันร้าย เริ่มแรก ฉันอยู่ในที่มืดและแคบ แคบถึงขนาดว่าต้องนั่งงอหัวเข่า ผนังทั้งหกด้านบีบอัดลงมาเรื่อยๆ กะจะให้ฉันหายใจไม่ออกและตายไปเลยมั้ง แต่ฉันไม่ได้เป็นโรคกลัวที่แคบ และตอนนั้นฉันก็เริ่มรู้ตัวว่าฉันกำลังฝัน ดังนั้นมันก็เหมือนเวลาที่เราฝันส่วนใหญ่นั่นแหละ เรารู้ว่ามันไม่จริง ฉันก็เลยนั่งชิวๆ ดูซิว่ามันจะไปได้สักแค่ไหน และเหมือนมันจะรู้ว่าฉันไม่กลัว ก็เลยเริ่มเอาออกซิเจนออกไปจากที่ๆฉันนั่งอยู่ ฉันหายใจลำบากมากขึ้นทุกที อันนี้ยอมรับ เริ่มกลัวละ และเหมือนจริงมากด้วย ฉันพยายามไม่ตะกุยตะกายเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ในเมื่อหนีไม่ได้ ก็ต้องใจเย็น อากาศจะหมดลงเรื่อยๆ ฉันแค่ต้องค่อยๆหายใจ ผ่อนคาร์บอนไดออกไซด์ทีละนิด รับออกซิเจนที่เหลือน้อยเข้าไป ควบคุมการหายใจ สติสำคัญที่สุด แต่ฉันเชื่อว่าคงไม่หมดสติในความฝันหรอก


                    แล้วมันก็ปล่อยฉันออกมาสู่ป่าทึบมืดครึ้มน่ากลัว เถาวัลย์โยงยาง รกชัฏ มองแทบไม่เห็นทางข้างหน้า ฉันเหยียบโดนอะไรบางอย่างเลื่อนๆหยุ่นๆ แล้วก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ข้อเท้า เหมือนตัวอะไรเพิ่งจะฝังเขี้ยว อ้อ งูนี่เอง งูเห่าเสียด้วย เยี่ยม แต่อย่างที่บอก ถ้านี่เป็นความฝัน ยังไงฉันก็ไม่ตายอยู่แล้ว จะกลัวไปทำไม มีปัญญาทำได้แค่นี้เองหรอ นี่น่ะหรือที่หลอกหลอนคนในเมือง ไม่สนุกเลย


                    ท่าทางมันจะคงจะรับรู้ความคิดฉัน เพราะสถานที่เปลี่ยนอีกแล้ว ฉันอยู่บนยอดตึกสูงเฉียดเมฆสีเทาขมุกขมัว มองไม่เห็นพื้นเบื้องล่าง หวาดเสียวดีแฮะ จะผลักฉันตกลงไปหรอ? โอ๊ย สบายมาก เอาเลยๆ น่าสนุก ฉันเตรียมพร้อมเลยล่ะ จะให้กระโดดลงไปเองเลยไหม?


                    สถานที่เปลี่ยน เอ จะพาฉันไปไหนอีกนะ โว้ว คราวนี้น่าสนใจกว่าเดิมอีก เหมือนมัสเปลไฮม์ที่ฉันเห็นภาพวาดในหนังสือเลย มียักษ์หนึ่งตัวฟาดฟันดาบติดไฟไปมาเบื้องหน้าฉันอย่างข่มขู่ คงจะเป็นยักษ์เซิร์ท ผู้ยิ่งใหญ่แห่งมัสเปลไฮม์ ผู้ที่มีคำทำนายว่าจะสังหารโอดินได้ เดี๋ยวนะ หรือว่าตอนนี้ทั้งด็อกเตอร์ ธอร์ และฮัคจะอยู่ที่นั่น และอาจสู้กับเซิร์ทอยู่ก็ได้ ถ้าฉันเป็นโลกิ คงเลือกเอาโอดินไปปล่อยไว้ให้เซิร์ทไล่ฆ่าเล่นนี่ล่ะ ฉันมองเจ้ายักษ์อย่างรู้สึกสงสาร ถ้าทั้งธอร์ ฮัค และด็อกเตอร์เป็นคู่ต่อสู้ล่ะก็ คงจะรอดยาก ฉันส่ายหน้าไปมา น่าสงสารจริงๆ ไม่น่ากลัวแล้วล่ะ


                    อะไรบางอย่างบีบคอฉันอย่างแรง รัดแน่นจนเจ็บ หายใจไม่ออก และดึงตัวฉันลอยจากพื้น ฉันพยายามลืมตามอง ในที่สุดก็ได้เจอ เจ้าของอาณาจักรแห่งฝันร้าย ท่าทางเขาจะเดือดน่าดูที่ฉันดันไม่กลัวอะไรเลย แหม ถ้าเรารู้ว่าเป็นแค่ความฝัน จะกลัวไปทำไมล่ะ จริงไหม ฉันไม่ใช่เด็กห้าขวบนะ เขาเป็นชาย อย่างน้อยฉันก็คิดว่าน่าจะผู้ชายแหละ บางทีเขาอาจจะไม่มีร่างกายที่แน่นอนก็ได้ ก็เขาเป็น ฝันร้าย นี่น่า แต่เขาก็ปรากฏต่อหน้าฉันในรูปแบบของชายคนหนึ่ง สวมชุดสีเขียวเข้ม นัยน์ตาลึกโหลสีดำสนิท ผมสีดำชี้ตั้งเหมือนนักร้องวงร็อค เซนส์ทางแฟชั่นต้องปรับปรุงนะเนี่ย ทรงผมแบบนั้นกับการแต่งตัวด้วยสีเขียวเข้ม ดูยังไงๆก็ไม่หล่อ ไม่เท่ แถมไม่น่ากลัวอีก มีคนสอนศิลปะแห่งการแต่งตัวให้บ้างไหมเนี่ย? ฉันว่าด็อกเตอร์แต่งตัวเชยแล้วนะ เขายังหล่อกว่าหลายเท่า เอ่อ ฉันไม่ได้ยอมรับว่าด็อกเตอร์หล่อนะ แค่เปรียบกันแล้ว เขาดูดีกว่าไนท์แมร์น่ะ





                    สงสัยฉันจะคิดดังไปหน่อย เพราะเขาเหวี่ยงฉันเหมือนเหวี่ยงโยโย่แล้วก็ทุ่มลงพื้น ไม่ทะนุถนอมสาวน้อยวัยยี่สิบเก้าผู้บอบบางบ้างเสียเลย


                    “เจ้าเป็นใคร” ไนท์แมร์คำรามถามฉัน


                    “ใช้ไม่ได้ๆ” ฉันทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ “ลักพาความฝันของฉันทั้งที น่าจะรู้แล้วสิว่าฉันเป็นใคร แต่ไม่เป็นไร บอกให้ก็ได้ ฉันคือไอลีน อาร์เจนต์ นักเขียนชื่อดัง ผู้สวย รวย ฉลาด และ...”


                    “หุบปาก!” ไนท์แมร์ตะโกนใส่ฉัน นี่ฉันจะมีโอกาสได้แนะนำตัวจนจบบ้างไหมนะ


                    “ถามฉันเองแท้ๆ มาบอกให้ฉันหุบปากอีก แล้วคำนั้นน่ะ เป็นคำหยาบคายนะคะ” ฉันพูดต่อ “ช่างเถอะ ตกลงคุณมีแผนอะไร อยากได้ตัวด็อกเตอร์หรอ? เสียใจด้วยนะ เขาไม่อยู่หรอก ป่านนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้ในเก้าอาณาจักรนี่แหละ ถ้าจะมาท้าตีท้าต่อย ก็เลือกช่วงเวลาให้ดีหน่อยสิ เขายุ่งจะตาย รู้ไหม เหลือแต่ฉันเป็นแม่บ้านเฝ้าบ้าน เอ่อ ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่แม่บ้าน แต่เฝ้าบ้านน่ะใช่ แต่ฉันก็ไม่ใช่หมานะ”


                    “มันไม่อยู่น่ะดีแล้ว” ไนท์แมร์แสยะยิ้มกว้าง อ้าว ที่ฉันพูดไปดันเข้าทางมันหรอกหรือ


                    “บอกกันสักนิดได้ไหม จะทำอะไรหรอคะ ท่านผู้ยิ่งใหญ่” ฉันพูดอย่างยกยอ เท่าที่สังเกตดู หมอนี่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่หรอก อย่างน้อยก็โง่กว่าฉันแน่ๆล่ะ และคนพวกนี้ส่วนใหญ่ชอบให้ยกยอ


                    “อย่ามาปากหวาน ข้าไม่หลงเชื่อเจ้าหรอก” เขาแยกเขี้ยว


                    “แหม” ฉันทำเสียงประเหลาะ “ก็ด็อกเตอร์น่ะน่าเบื่อจะตาย เหมือนตาลุงแก่ๆ ฉันไม่เคยได้ทำอะไรสนุกๆเลย แต่คุณมีเรื่องสนุกไม่ใช่หรอ ฉันชอบเรื่องสนุกนะ” เสียงหวานออดอ้อน ส่งสายตาให้ด้วย วิ้งๆ ฉันน่ะเสน่ห์แรงจะตายไป แต่สงสัยจะใช้ไม่ได้ผล เพราะไนท์แมร์เหมือนจะขมวดคิ้ว และมองฉันเป็นตัวประหลาด ฉันต้องเริ่มพิจารณาตัวเองแล้วใช่ไหม ขนาดตัวประหลาด ยังมองฉันเป็นตัวประหลาด


                    “ข้ารู้แล้วว่าจะจัดการเจ้ายังไงดี”


                    ท่าจะไม่ดีแล้วสิ พริบตาเดียว ฉันก็มาอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของฉันเองสมัยยังเด็ก สถานที่ซึ่งฉันไม่อยากกลับไป ความทรงจำที่ฉันไม่คิดจะเปิดออกมาดู และไนท์แมร์ก็เลือกส่งฉันมาที่บ้านในคืนนั้น คืนที่ชีวิตฉันพังยับเยินตั้งแต่อายุแค่สิบสาม ถ้าจะมีอะไรที่ฉันกลัวที่สุดในโลก ฉันขอสารภาพตรงนี้ให้รู้โดยทั่วกัน ฉันอาจจะไม่กลัวอะไรเลย ทั้งที่แคบ ความสูง สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ประหลาด ความมืด แต่นี่คือสิ่งที่ฉันกลัว บ้านของฉันเอง


    ย้อนกลับไปในคืนนั้น วันเกิดน้องสาวของฉัน ไอดาอายุครบสิบขวบ เด็กหญิงมีความสุขกับการแกะของขวัญ ยิ้มแป้นหน้าบานกับทุกสิ่งที่ได้รับ ฉันไม่เคยชอบน้องสาวของฉันเลย ไม่เคยเข้าใจด้วยว่าทำไมพ่อกับแม่ต้องการลูกอีกคน ไอดาไม่มีอะไรเทียบฉันได้ พัฒนาการของเธอช้ากว่าเด็กทั่วไปด้วยซ้ำ กว่าจะบวกลบเลขได้คล่องก็ขึ้นเกรดสามแล้ว กว่าจะอ่านหนังสือได้อีกก็รอจนเกรดสี่ แต่เพราะอย่างนั้น พ่อกับแม่ถึงโอ๋และประคบประหงมเสียเหลือเกิน ส่วนฉันกลายเป็นเด็กหญิงที่ถูกลืม ไม่ว่าจะพยายามสอบ หรือแข่งขันอะไรแทบเป็นแทบตาย พ่อกับแม่จะแค่ยิ้มรับ และบอกให้ฉันเงียบไว้ เพราะไม่อยากให้ไอดารู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าฉัน


    เรื่องน่ากลัวเกิดในคืนนั้น หลังจบงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว ฉันก็ตรงกลับขึ้นห้องนอน ล็อคประตู อยู่เงียบๆอย่างที่ฉันชอบ หยิบหนังสือมาอ่าน เพื่อให้ความอิจฉาริษยาในจิตใจนั้นเบาบางลง ฉันได้ยินเสียงพ่อกับแม่กล่าวราตรีสวัสดิ์กับไอดา ด้วยความเบื่อที่จะได้ยินเสียงออดอ้อนของน้องสาว ฉันหยิบหูฟังมาใส่ เปิดเพลงให้ดังที่สุด ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่ได้สังเกตความผิดปกติอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่ามีคนบุกเข้าบ้าน ไม่รู้ว่ามันมาพร้อมมีดเล่มใหญ่ ไม่รู้ว่ามันย่องเข้าไปในห้องของพ่อกับแม่เป็นอย่างแรก พ่อพยายามสู้ แต่สู้ไม่ได้ แม่พยายามหนี ฉันเริ่มได้ยินตอนนั้นเอง เสียงตบประตูดังปังๆหลายที ฉันถึงได้ดึงสายหูฟังออก และได้ยินเสียงแม่กรีดร้องดังลั่น พร้อมกับเสียงหล่นพลั่กหลายพลั่กเหมือนมีอะไรหนักๆตกบันไดไป ฉันรู้ว่าคืออะไร โดยไม่จำเป็นต้องเปิดประตูออกไปดู ฉันกลัวมาก ไม่กล้าขยับ ไม่กล้าส่งเสียงหายใจ และฉันก็ทำเรื่องที่น่าอายที่สุด ฉันซ่อนตัว ตู้เสื้อหรือใต้เตียงไม่ใช่ที่ซ่อนที่ดี เหยื่อทุกรายหนีไม่รอดเพราะซ่อนในที่สิ้นคิดเดาง่ายพวกนั้น ฉันปีนออกไปนอกหน้าต่าง เกาะอยู่บนท่อระบายน้ำฝน ร้องไห้ กลัวสุดชีวิต ได้ยินเสียงไอดากรีดร้อง แล้วทุกอย่างก็เงียบไป ฉันไต่ลงไปข้างล่าง ซ่อนอยู่ในพุ่มดอกไฮเดรนเยียของแม่ เฝ้ามองฆาตกรออกจากบ้านไปโดยทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง


    ภาพนั้นวนเวียนไปมา ไนท์แมร์พาฉันไปเห็นตอนที่ฆาตกรเสียบมีดเข้าไปในร่างพ่อ แทงแม่และผลักตกบันได ก่อนจะไปที่ห้องน้องสาวฉัน และฆ่าเธออย่างโหดร้ายทารุณ เมื่อจบ ภาพก็เริ่มใหม่ วนลูปไปเรื่อยๆ ฉันหลับตา แต่มันก็ตามาอีก ไม่ว่าจะหลับหรือลืมตา ไนท์แมร์ไม่ยอมปล่อยฉันไป


    “มันไม่จริง” ฉันพึมพำกับตัวเอง “ฉันฝันเท่านั้น” ฉันพูดซ้ำไปซ้ำมากับตัวเอง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องไห้ ฉันยืนนิ่ง หายใจเข้าออกเร็วแรง มือสองข้างกำเข้าหากัน เสียงกรีดร้องของพวกเขาแทรกซึมเข้าไปทุกอณู กรีดแทงฉัน ฉีกฉันออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันไม่กลัว จะไม่กลัว นั่นเป็นอดีตที่ฉันแก้ไขไม่ได้ ฉันกัดริมฝีปาก แม่ตะโกนเรียกชื่อฉัน ไอดาตะโกนขอให้ฉันช่วย ไม่ ฉันทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น นี่เป็นกลลวงของไนท์แมร์ เขาอยากให้ฉันติดอยู่ในนี้ตลอดไป หลับไปตลอด จนกระทั่งร่างกายของฉันตาย


    “อาร์เจนต์”


    เสียงเรียกคุ้นๆเหมือนดังมาจากที่ไกลมาก ตอนแรกนึกว่าหูแว่วไปเอง เขาอยู่ที่ไหนเธอยังไม่รู้เลย จะโผล่มาในความฝันของเธอได้ยังไง


    “อาร์เจนต์ ตั้งสติ”  เสียงเหมือนจะชัดขึ้นเรื่อยๆ  “ผมต้องการให้คุณถ่วงเวลามันไว้”  ฉันจะเอาอะไรไปถ่วงได้ล่ะ ฉันยังออกจากลูปฝันร้ายแห่งความทรงจำไม่ได้เลย  “คุณฉลาดไม่ใช่หรอ? ทำให้ผมประทับใจสิ พยายามเข้า อาร์เจนต์”  เฮ้อ ก็ได้ๆ ตั้งสติ ฉันยังเห็นฆาตกรเอามีดแทงหัวใจน้องสาวฉันอยู่เลย ไอ้บ้าเอ๊ย ไปให้พ้น ฉันตะโกนในใจ ก่อนจะตะโกนออกมาจริงๆดังลั่น ก้องกัมปนาท


    “ไปให้พ้น!”


    ได้ผลแฮะ ยังไงก็ไม่รู้ล่ะ ภาพวนลูปหายไป ฉันลอยอยู่กลางอากาศ ฝั่งตรงข้ามคือไนท์แมร์ และด้านล่างคือฝูงชนที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปที่แซงทั่ม ฉันเข้าใจแล้วว่าไนท์แมร์ตั้งใจจะทำอะไร


    “เจ้านี่ไม่ธรรมดาเลยนะ ที่กลับออกมาได้” ไนท์แมร์เหมือจะกล่าวชม


    “นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ ทำลายแซงทั่ม” ฉันพูดขึ้นมา “พวกเขายังหลับอยู่ใช่ไหม คุณควบคุมร่างกายพวกเขาผ่านจิตใต้สำนึก คุณสร้างกองทัพขึ้นมา ให้เข้าไปถล่มแซงทั่ม” แล้วฉันก็หัวเราะ “โทษที แต่แบบนี้มันไม่ตลกไปหน่อยหรอคะเนี่ย” ฉันหัวเราะงอหายเลยทีเดียว เริ่มแผนถ่วงเวลาแล้ว ไม่รู้ว่าด็อกเตอร์ต้องการเวลามากแค่ไหน การกวนประสาทของฉันอาจยื้อได้ไม่นานนักหรอก


    “เจ้าหัวเราะอะไร” ไนท์แมร์ถลึงตามอง


    “ก็พวกเขาเป็นคนธรรมดานี่ ให้มาทำลายแซงทั่มเนี่ยนะ โอ๊ย ตาย คุณคิดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ออกแล้วใช่ไหม” ฉันยิ้มเยาะ “ฉันรู้ละ คุณลงมือเองไม่ได้ ถึงต้องใช้พวกเขาเป็นหุ่นเชิด ให้พวกเขาตื่นก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน ทำไมล่ะ?” ฉันหรี่ตาลง แล้วความจริงก็ปรากฏตรงหน้า “คุณออกจากความฝันไม่ได้ใช่ไหมคะ คุณมีพลังแค่เฉพาะในดินแดนของคุณเท่านั้น ถ้าออกไปโลกแห่งความจริง พลังของคุณก็ไม่มีความหมาย คุณถึงเลือกช่วงที่ด็อกเตอร์ไม่อยู่ คุณไม่อยากปะทะกับเขาตรงๆ ถ้าจะปะทะ ก็ต้องล่อให้เขาเข้ามาดินแดนของคุณอยู่ดี ซึ่งยังไงก็น่าจะเสียเปรียบใช่ไหม คุณสู้กับเขา ไปพร้อมกับบังคับหุ่นเชิดทั้งหมดของคุณก็คงไม่ไหว ที่ฉันพูดมาทั้งหมด ถูกหรือเปล่า”


    น่าจะถูก เพราะเขาพุ่งตัวเข้าใส่ฉัน บีบคอฉันอีกแล้ว แรงกว่าเดิมด้วย ฉันหายใจไม่ออก ขาสองข้างถีบไปมา มือเปะปะพยายามแกะมือเขาออก


    “ข้าจะฆ่าเจ้า”


    “เอา...เลย” ฉันยังอุตส่าห์พูดออกมาเป็นคำได้อีกนะ สุดยอดเลยไหมล่ะ แต่ว่านะ ด็อกเตอร์ จะทำอะไรก็ทำเร็วๆเถอะ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ ถึงจะเป็นแค่จิตของฉันที่อยู่ในนี้ก็ตาม แต่ฉันไม่รู้ว่าร่างกายฉันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าฉันตายในนี้ ฉันอาจจะต้องตายจริงๆด้วยก็ได้


    อยู่ๆไนท์แมร์ก็ปล่อยฉัน มีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดความสนใจของเขาไป ฉันไอค่อกแค่ก หอบเอาอากาศเข้าปอดอย่างทุรนทุราย และเริ่มมองลงไปด้านล่าง ผู้คนที่มุ่งหน้าไปแซงทั่ม หายไปทีละคน


    “ไม่!” ไนท์แมร์ตะโกนลั่น หมายความว่ายังไงกันหนอ ฉันมองลงไปอย่างไม่เข้าใจนัก พวกเขาหายไปไหนล่ะ ถ้าหายไปจากดินแดนแห่งฝันร้าย แสดงว่าพวกเขาตื่นกันแล้วหรือเปล่า แบบนี้นี่เอง ด็อกเตอร์ให้ฉันถ่วงเวลาเพื่อที่เขาจะได้ปลุกทุกคนตื่นจากฝัน ไนท์แมร์หันขวับมาทางฉันอย่างมุ่งร้าย “เจ้า! มันใช้เจ้า” ก็นะ กว่าจะรู้ก็สายไปแล้วล่ะ แต่ฉันยิ้มเยาะไม่ออกหรอก เพราะท่าทางฉันจะกลายเป็นสิ่งเดียวให้เขาจู่โจมเสียแล้ว แย่ล่ะสิ


    ด็อกเตอร์ ปลุกฉันด้วยสิเฮ้ย ฉันก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัวของจริงแล้ว เมื่อไนท์แมร์ย่างสามขุมเข้ามาอย่างโกรธจัดและคุกคาม หมายเอาชีวิต มือของมันกางออก เล็บยาวออกมาเหมือนเป็นดาบ ตายแล้ว ไม่รอดแน่ฉัน มันฟาดฟันลงมา ขณะที่ฉันตะเกียกตะกายหนีไปคิดชีวิต แต่มันก็เร็วกว่า คว้าตัวฉันได้ เล็บจากนิ้วชี้แทงทะลุเข้ามาที่ท้อง ฉันตกใจสุดขีด มากพอๆกับความเจ็บ


    “อาร์เจนต์ มันไม่จริง ตื่นเดี๋ยวนี้”  ฉันทำไม่ได้ มันเหมือนจริงเกินไป ฉันจะเชื่ออยู่แล้วว่าทั้งหมดตรงหน้าไม่ใช่ฝัน “กลับมา ตื่น ได้ยินไหม”  ไม่ได้ น้ำตาเล็ดออกจากดวงตาของฉัน ความกลัวครอบงำทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว “ฟังเสียงผม คุณรู้ว่ามันไม่จริง มันเป็นแค่ฝันเท่านั้น กลับมาหาผม อาร์เจนต์”


    มันไม่จริง ไม่จริง แค่ฝัน ฝันร้าย ฉันกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเห็นว่าไนท์แมร์กำลังใช้มีดผ่ากลางอกของฉัน และชำแหละเปิดออกจนเห็นซี่โครงกับปอด มันไม่จริง ทั้งหมดไม่ใช่ความจริง ฉันไม่เจ็บ ฉันต้องตื่น ที่นี่ไม่ใช่ที่ตายของฉัน


    “ไอลีน กลับมา”


    ฉันเบิกตาโพลง แสงจ้าสาดเข้ามา ก่อนที่ฉันจะรู้สึกถึงอะไรอุ่นๆบนหน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง ฉันกระพริบตา เมื่อหายพร่าเลือนจึงเห็นด็อกเตอร์ในระยะประชิดมาก มากเกินไป หน้าผากของเขาจรดอยู่กับหน้าผากฉัน มือทั้งสองก็จับหน้าฉันอยู่ เขาหลับตาสนิท ริมฝีปากขบกันแน่นอย่างเคร่งเครียด ฉันเห็นแม้แต่รูขุมขนบนหน้าเขาเลย ฉันตื่นแล้วใช่ไหม เพราะไม่มีทางที่จะเห็นด็อกเตอร์ได้ในฝันร้ายนั่น


    “ด็อกเตอร์” ฉันเรียกเขาเบาๆ แปลกใจกับเสียงที่แหบแห้งของตัวเอง เขาขยับออกช้าๆ ลืมตา แล้วก็ยืดตัวเต็มความสูง มีแววโล่งใจปรากฏในดวงตา ฉันหอบหายใจแรง ไม่เคยคิดเลยว่าจะดีใจได้ขนาดนี้ที่เห็นเขา ฉันขยับลุกขึ้นนั่ง และอะไรไม่รู้ทำให้กล้ากระโดดเข้าหา พร้อมกันนั้นผ้าคลุมสีแดงที่อยู่บนไหล่ของด็อกเตอร์ก็ดึงตัวเขาเข้าหาฉันเหมือนกัน ใบหน้าฉันลงเอยอยู่ที่แผ่นอกของเขา ผ้าคลุมเขารัดตัวฉันด้วย ฉันยกมือขึ้นเกาะแขนเขาไว้ ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่แขนสองข้างของเขาโอบรวบตัวฉัน แล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันกลับออกมาได้แล้วจริงๆ


    “โอ้ โทษที ผมขัดจังหวะใช่ไหม” เสียงเด็กหนุ่มทำให้ทั้งฉันและด็อกเตอร์ได้สติ ดีดตัวออกจากกันเหมือนของร้อน หันไปมองทางต้นเสียง เห็นสไปเดอร์แมนอยู่ที่หน้าต่าง “คือ แค่จะมาบอกด็อกเตอร์ว่า ทุกคนปลอดภัยแล้ว ยังตกใจกันอยู่นิดหน่อย บางคนก็มึนๆ แต่พวกแพทย์มาแล้ว ตำรวจด้วย คงไม่มีอะไรแล้วนะ” สไปเดอร์แมนยืนเก้ๆกังๆ “งั้น ผมไปนะ ถือว่าผมไม่ได้เข้ามาเห็นก็ได้ เชิญต่อได้เลย หวัดดี ไอลีน ดีใจที่คุณไม่เป็นไรนะ ไปละ โชคดี”


    ความเงียบอันแสนน่าอึดอัดโรยตัวลงมาทันที่ทีสไปเดอร์แมนพุ่งตัวออกนอกหน้าต่างไปแล้ว ด็อกเตอร์หันมามองฉัน พอดีกับที่ฉันหันไปมองเขา แล้วเราก็เสมองทางอื่นทันที


    “มันเป็นเพราะฉันตกใจน่ะ อดรีนาลิน ฉันก็เลยแบบว่า...” โผเข้ากอด       


    “ผมรู้ ผมเป็นหมอ” ด็อกเตอร์บอกโดยไม่ได้มองหน้าฉัน


    “โอเค” ฉันพยักหน้า “แล้วคุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”


    “หว่องตามผมทันทีที่เขามาถึง แต่คุณก็หลับไปวันกว่าๆแล้ว เกิดเรื่องที่เนปาลที่ทำให้เขามาถึงที่นี่ช้ากว่าเดิม เขารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของไนท์แมร์ เขาติดต่อผม ผมก็เลยรีบกลับมา เจอเพื่อนคุณ สไปเดอร์แมนกำลังพยายามช่วยชาวเมืองไม่ให้ฆ่ากันตาย ผมเห็นว่าพวกนั้นเริ่มเดินขบวนมาทางแซงทั่ม วิธีเดียวที่จะจบเรื่องนี้ได้คือทุกคนต้องตื่น ผมจำเป็นต้องขอให้คุณเบี่ยงเบนความสนใจของมันไปก่อน เพื่อให้งานของผมง่ายขึ้น ยังไงก็ ยอดเยี่ยมมาก มิสอาร์เจนต์ ขอบคุณ” เขาหันมามองฉันเมื่อกล่าวชมและขอบคุณ


    ฉันฉีกยิ้มกว้างอย่างพอใจ “คุณติดหนี้ฉันแล้ว ด็อกเตอร์ ฉันเรียกคืนแพงนะ จะบอกให้”  










    Writer's talk

    เวลาตกใจ อยากโผเข้าหาด็อกเตอร์บ้าง (โดนดร.ถีบ) 

         

                        

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×