ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Doctor Strange/OC Fic] The Strangest Case

    ลำดับตอนที่ #3 : A peculiar phenomenon

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 59




    The Strangest Case



    Chapter 3 :  A peculiar phenomenon

                    “คุณจะบอกว่าระหว่างที่เราอยู่ในกรีนิช ลอนดอน เราก็อยู่ที่กรีนวิช นิวยอร์กด้วยหรอ” ฉันกระพริบตาปริบๆ ขณะส่งเนยและมีดทาเนยข้ามโต๊ะอาหารเช้าไปให้เขา บทสนทนาในเช้าวันนี้ ว่ากันด้วยเรื่อง อยู่สองที่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งงง ยิ่งอ่านหนังสือก็ยิ่งงง


                    “ใช่” ด็อกเตอร์ตอบ รับเนยกับมีดไป และเริ่มละเลงเนยบนขนมปังที่ฉันเพิ่งปิ้งให้สดๆร้อนๆ “แซงทั่มนี้ตั้งอยู่สองที่ คือลอนดอนและนิวยอร์ก ไม่ว่าจะเข้ามาทางไหน ก็คือที่นี่ที่เดียวเท่านั้น” เขาทาขนมปังเสร็จ และกำลังจะหยิบหม้อกาแฟมารินเติมในถ้วย แต่ฉันฉวยหม้อไปเสียก่อน มือเขาจึงค้างอยู่อย่างนั้น


                    “แล้ว...” ฉันถือหม้อกาแฟค้างไว้ ไม่ยอมยกให้ ไม่รินใส่ถ้วยให้ด้วย “ทำไมคุณต้องให้ฉันไปไกลถึงเนปาล แล้วก็บินไปลอนดอน ทั้งที่คุณอยู่ใต้จมูกฉันนิดเดียว ฉันอยู่บรูคลินนะคะ ห่างจากกรีนวิชไม่เท่าไหร่เอง” ฉันรินกาแฟใส่ถ้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ยอมวางหม้อลงอยู่ดี “นี่คุณตั้งใจกวนประสาทฉันใช่ไหม” ฉันถาม ยื่นหม้อให้ เขายื่นมือจะรับไป แต่ฉันก็ยกออกห่างไปอีก “หรือว่าจะทดสอบความตั้งใจและความอดทน ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย ด็อกเตอร์ ใช้ไม่ได้ๆ” ฉันจุ๊ปาก ลุกขึ้นยืน ถือหม้อกาแฟไปด้วย


                    “มิสอาร์เจนต์ ผมขอกาแฟ” ด็อกเตอร์เรียกไว้ ฉันหันไปมอง เลิกคิ้วขึ้นสูง “ได้โปรด”


                    “ไม่มีกาแฟสำหรับคุณเช้านี้ค่ะ ด็อกเตอร์” ฉันบอกอย่างร้ายกาจ เดินฉับๆไปที่อ่างล้างจ้าน เทกาแฟทิ้งทั้งหมด พร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจเป็นของแถม เหมือนแม่บ้านใจกล้า แต่เดี๋ยว! ฉันไม่ใช่แม่บ้าน ฉันเป็นสมองไม่ใช่หรือ “และฉันจะไม่ทำอาหารเผื่อคุณอีกต่อไป พรุ่งนี้หากินเองนะคะ” ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ วางหม้อกาแฟเปล่าเป็นอนุสรณ์เตือนใจว่าอย่าได้แหยมกับฉันอีก  “อ๊ะๆ” ฉันยกนิ้วชี้ขึ้น ส่ายไปมา “อย่าแม้แต่จะคิดเสกกาแฟกลับคืนมาใหม่ ถ้าคุณเสก ฉันก็เดินไปเททิ้งอีก ดูซิว่า ใครจะความอดทนดีกว่ากัน”


                    “คุณรู้ไหมว่าผมชนะดอร์มามูด้วยการ...”


                    “บลาๆๆ ฉันไม่สนใจ” ฉันยักไหล่ไปมา และเริ่มกินอาหารเช้าของฉันอย่างมีความสุข


                    “คุณนี่มัน...”


                    “สวยใช่ไหมล่ะ” ฉันต่อให้ทันที ยิ้มหวานด้วย “ฉลาด สวย รวย มีชื่อเสียง เอาล่ะ ฉันอยากกินอาหารเช้าเงียบๆค่ะ ด็อกเตอร์ เราเลิกคุยกันดีกว่านะคะ” และจากนั้นฉันก็กินอาหารอย่างมีความสุขตลอดไป อวสาน



                    ยัง



                    เมื่ออาหารเช้าเรียบร้อย และฉันล้างจานแล้ว นี่ฉันใจดีนะ ล้างจ้านเผื่อเขาด้วย ทั้งที่เขาทำตัวแย่ใส่ฉันตั้งมากมาย ฉันเช็ดมือให้แห้งและตามออกไปสมทบ กำลังคิดเพลินๆเทียวว่าวันนี้เขาจะสอนอะไรฉัน แต่ดูท่าทางคงไม่ได้เรียนเสียแล้ว ผ้าคลุมสีแดงลอยเข้ามาอยู่ที่ไหล่ของเขา สีหน้าของเขาเครียดมากขึ้น


                    “ผมมีเรื่องต้องไปทำ ค่อนข้างกะทันหัน” ด็อกเตอร์บอก


                    “โอ้ ได้สิคะ” ฉันพยักหน้า “เรื่องของธอร์ใช่ไหม” เขาพยักหน้า “พวกคุณรู้แล้วหรอคะว่าโอดินอยู่ที่ไหน”


                    “ธอร์พอจะเจอร่องรอยบ้างแล้ว แต่โลกิสกัดเขาไว้ได้ ตอนนี้ในแอสการ์ดกำลังวุ่นวาย ผมกับฮัคจะตามไป”


                    “ฮัค” ฉันตาโตเท่าไข่ห่าน “เดอะฮัค ด็อกเตอร์แบนเนอร์? ฉันตามข่าวเขาตลอด โดยเฉพาะเวลาเขากลายเป็นตัวเขียวน่ะ วินาศสันตะโรดีแท้ เหมาะแล้วล่ะค่ะที่จะไปอาละวาดในแอสการ์ด นี่หมายความว่า คุณจะเข้าร่วมกับอเวนเจอร์สด้วยหรือเปล่าคะเนี่ย ฉันล่ะใฝ่ฝันอยากเจอโทนี่ สตาร์คมาตลอดเลย”


                    เขาหัวเราะหึๆ ทำให้ฉันหรี่ตามองอย่างสงสัยว่าฉันพูดอะไรผิดหรือไง “ผมไม่อยากนึกถึงวันที่คุณเจอกับสตาร์คเลย” ทำไมล่ะ? กลัวฉันจะฟอร์มทีมกับเขาหรือไง แต่ถ้าเขาน่ารักกว่า ก็ไม่แน่ “ระหว่างที่ผมไม่อยู่ จะไม่มีใครเข้ามาที่นี่ได้ ถ้าคุณไม่อนุญาต เพราะฉะนั้น อย่าอนุญาตพร่ำเพรื่อ”


                    “ถ้าฉันโทรสั่งพิซซ่าล่ะ?” ฉันถาม แสร้งทำหน้าซื่อ “หรือคุณยายข้างบ้านอยากยืมพริกไทย”


                    “ถ้ามีอะไรฉุกเฉิน ติดต่อหว่อง คุณมีทั้งอีเมล์ เฟซบุ๊ก และเบอร์โทรศัพท์ของเขาแล้ว เขาจะมาทันทีที่คุณขอความช่วยเหลือ” ด็อกเตอร์พูดต่อ โดยไม่สนใจความกวนประสาทของฉัน “และผมมีงานหนึ่งอย่างให้คุณทำ คุณน่าจะชอบ” หูฉันผึ่งทันทีเลย แล็ปท็อปสีชมพูของฉันปรากฏขึ้นในมือเขา และเขาก็เปิดเว็บเพจข่าวให้ฉันดู “สองสามวันมาแล้ว เริ่มมีคนอาละวาดในนิวยอร์ก แรกเริ่มจากคนไข้ในโรงพยาบาลบรูคลิน แถวบ้านคุณไง อยู่ๆพฤติกรรมของพวกเขาก็เปลี่ยน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากตื่นนอน มีหมอและพยาบาลถูกทำร้ายไปห้าคน คุณยายที่กำลังข้ามถนน โชคดีที่สไปเดอร์แมนมาช่วยทัน เขาก็กำลังหาคำตอบเรื่องนี้เหมือนกันนะ ผมว่า”


                    “จริงหรอ?” ฉันตาลุกวาวอีกรอบ “คุณจะส่งฉันไปช่วยสไปเดอร์แมนเรอะ” อยากกรี๊ดจังเลย ฉันรักเด็กนี่น่า โดยเฉพาะเด็กหนุ่มในชุดรัดติ้ว ซู่ซ่าดีจะตาย อยู่กับคุณลุงหนวดนี่หลายวัน เหี่ยวเฉาจะแย่


                    “เก็บอาการหน่อย” ด็อกเตอร์บอกอย่างอดทน “คุณแก่กว่าเขาสิบปีนะ อย่าลืม” พูดจี้ใจดำกันสุดๆ “ของพวกนี้คือไอดีปลอม เผื่อคุณต้องใช้ มีทั้งบัตรพนักงานโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ แม่บ้าน จะปลอมเป็นใครก็เรื่องของคุณ” เขายื่นกระเป๋าใส่นามบัตรให้ฉัน “ถ้าเรื่องนี้มีพวกเวทมนตร์เข้ามาเกี่ยว แล้วผมยังไม่กลับมา ติดต่อหว่องทันที เข้าใจไหม ห้ามลุยเอง”


                    “ฉันรู้น่า ฉันไม่โง่นะ”


                    “ดี” เขาพยักหน้า “งั้นผมไปล่ะ” ฉันยกมือโบกสองสามที ยิ้มให้ ขณะที่เขาหมุนตัวจะเดินออกไป แต่แล้วผ้าคลุมเจ้ากรรมก็ดึงรั้งให้เขาถอยร่นกลับมา เขาจะเดินหน้าต่อ มันก็ดึงอีก “อะไร?” ฉันได้ยินเสียงเขาถามผ้าคลุมตัวเองอย่างค่อนข้างหงุดหงิด


                    “มีคนอยากบอกลาฉันน่ะสิ สงสัยจะคิดถึงฉันแน่เลย” ฉันยิ้มแป้น “จะคิดถึงนะ” ฉันพูดกับผ้าคลุม ชายผ้าขยับขึ้นโบก เหมือนอยากจะบ๋ายบาย “ระวังตัวด้วยนะ ฉันก็จะระวังเหมือนกัน อย่าลืมสัญญาของเรา กลับมาแล้วพาฉันบินนะ” ผ้าคลุมโบกสะบัดอย่างยินดี


                    “ลากันเสร็จหรือยัง?” ด็อกเตอร์ถามเหมือนจะหมั่นไส้ เอี้ยวศีรษะมามอง


                    “เชิญค่ะ” ฉันยิ้มยิงฟันอย่างร่าเริง


                    หลังจากเขาไปแล้ว ฉันก็วางแผนจะเริ่มงานทันที โดยใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงอยู่หน้าแล็ปท็อป ค้นหาเหตุประหลาดต่างๆ ชื่อที่อยู่ของคนที่เกิดคลั่งขึ้นมาทำร้ายคนอื่นอย่างไร้เหตุผล จดข้อมูลทั้งหมดลงในสมุดโน้ตเล่มเล็ก และฉันก็ตั้งใจว่าจะไปโรงพยาบาลบรูคลินเสียวันนี้เลย เอาล่ะ จากนี้ ฉันจะเล่าแบบเร็วๆ รวบๆ ฉันรู้ว่าคนอ่านส่วนใหญ่ค่อนข้างใจร้อน หรือไม่จริง? ฉันรู้นะว่า อยากเจอสไปเดอร์แมน อยากเจอไอรอนแมนด้วย นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าอยากเจอพวกเขา ก็ทนอ่านเรื่องของฉันไปก่อนพลางๆด้วยละกัน รับรองว่าไม่น่าเบื่อ ฉันมีความกวนประสาทอีกเป็นกระตั๊กเอาไว้รับมือด็อกเตอร์ และมีมุขจีบผ้าคลุมของเขาอีกเยอะ ซึ่งขอบอกตรงนี้ ฉันไม่ได้จีบด็อกเตอร์นะ เผื่อมีคนเข้าใจผิดไปแบบแย่ๆ เขาไม่ใช่สเป็กฉัน


                    ดีนะที่เขาสอนฉันไว้แล้วว่าจะออกไปที่กรีนิช หรือกรีนวิชยังไง ฉันถึงได้ออกถูกที่ มาอยู่บนถนนพลุกพล่านของนิวยอร์กแทนที่จะเป็นลอนดอน แต่ข้อเสียก็คือ เขายังไม่ได้สอนฉันว่าจะทำประตูไปไหนก็ได้อย่างไร ดังนั้นฉันจำเป็นต้องใช้บริการแท็กซี่ ไม่นานฉันก็ถึงโรงพยาบาลบรูคลิน ฉันเลือกเอาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่เอ็นวายพีดีออกมา หวังว่าเวทมนตร์ของด็อกเตอร์จะช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุกโทษฐานปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ฉันเข้าไปขอสอบปากคำ นางพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงนางพยาบาลที่ดูแลค้นไข้เหล่านั้นก่อนที่พวกเขาจะคลั่ง และได้ความมาว่า คนไข้แต่ละรายเล่าให้พยาบาลฟังว่าฝันประหลาดสามถึงสี่คืน เห็นคนประหลาดในชุดสีเขียวตามล่า ไล่ฆ่าพวกเขา และส่วนใหญ่จะฆ่าสำเร็จเสียด้วยในความฝัน


                    ฉันใช้โทรศัพท์เข้าอินเตอร์เน็ตในโรงพยาบาล และถือโอกาสดื่มกาแฟอีกสักแก้วด้วย ถ้ามีคนฝันร้ายแบบนี้หลายๆคนขึ้นมาล่ะก็ จะต้องมีอะไรตามเว็บบอร์ดบ้างล่ะ ฉันเข้าไปดูในกระทู้ที่มีเรื่องราวคล้ายๆกัน โดยคัดแยกกระทู้เก่าทิ้งไปก่อน และเลือกเฉพาะกระทู้ที่ตั้งใหม่ในช่วงเดือนนี้หรือสัปดาห์นี้ ฉันฝันน่ากลัวมาก มันหลอกหลอนฉันทุกคืน ฉันคลิกเข้าไปอ่านทันที


    ทุกทีฉันไม่ค่อยฝันเท่าไหร่ แต่ช่วงที่ผ่านมา ฉันฝันแปลกๆติดต่อกันมาเจ็ดคืนแล้ว ฉันกลัวว่ามันจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คนคลั่งที่โรงพยาบาลหรือเปล่า คืนแรก ฉันเห็นเขา ผู้ชายหน้าตาน่ากลัว ชุดสีเขียวเข้ม เขาบอกว่าเขาจะฆ่าฉัน แล้วฉันก็สะดุ้งตื่น คืนต่อๆมา มันดำเนินไปเรื่อยๆ จนคืนที่สี่ ฉันวิ่งหนี เขาถือมีดไล่ล่าฉัน และฆ่าฉันสำเร็จ ฉันมองเห็นเขาแล่เนื้อฉันออกเป็นชิ้นๆ คืนที่ห้าจนถึงเมื่อคืนนี้ ก็เหมือนกัน ฉันกลัวมาก ฉันรู้สึกเหมือนเห็นเขาไปทุกที่ ทุกครั้งที่ส่องกระจก เวลาไปซื้อของ ก็เหมือนมีคนคอยมองฉันอยู่ ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า


                    ปีศาจในความฝันงั้นหรือ? เหมือนอย่างเฟรดดี้ ครูเกอร์ในหนัง แต่เรื่องชุดสีเขียวนี่ตรงกันกับที่ฉันได้ฟังจากพวกพยาบาล ฉันมองวันที่ที่กระทู้ถูกตั้ง เพิ่งจะเมื่อเช้านี้เอง ฉันคลิกเข้าไปดูประวัติของผู้ตั้งกระทู้ มีชื่อและรูปถ่าย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ฉันกดเซฟรูป จากนั้นใช้กูเกิลในการค้นรูปภาพ จนเจอทวิตเตอร์ของเธอ และเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า ฉันเลื่อนดูข้อความในทวิตเตอร์ดูก่อน เธอทวีตเกี่ยวกับความฝันไว้เช่นกัน ได้การ! ฉันแค่ตามหาเธอให้เจอ รู้หน้าแล้ว รู้ชื่อแล้ว ต่อไปก็ที่อยู่ ไม่ใช่เรื่องยาก ฉันค้นชื่อเธอในกูเกิล มหาวิทยาลัยบรูคลินโผล่ขึ้นมา เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เคยชนะการแข่งว่ายน้ำ วันนี้เป็นวันธรรมดา ฉันน่าจะเจอเธอที่คณะได้


                    ฉันไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่ว่า ฉันไปช้าเกิน เมื่อฉันไปถึงมหาวิทยาลัย ทุกอย่างก็กำลังวุ่นวายอยู่พอดี ฉันถามจากนักศึกษาที่อยู่แถวนั้น จึงรู้ว่าเธอคลั่งขึ้นมาแล้ว และตอนนี้ก็อยู่บนยอดตึก ทำท่าจะกระโดดลงมา ฉันออกวิ่งอย่างเร็วที่สุดทันที บุกตะลุยขึ้นไปบนตึก ใช้บัตรเอ็นวายพีดีอีกรอบ ซึ่งมันหลอกทุกคนได้ว่าฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขอบคุณด็อกเตอร์ ฉันหยุดอยู่ด้านหลังเธอที่ยืนอยู่ตรงขอบ โงนเงนอย่างน่าหวาดเสียว


                    “แอนนาใช่ไหม?” ฉันส่งเสียงเรียก เธอหันมามองฉันตาเขียวปั๊ด ทำเอาฉันผงะไปอย่างตกใจ “เอ่อ คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันช่วยได้ ฉันรู้จักกับจอมขมังเวทน่ะ เขาช่วยเธอได้ ลงมาก่อน แล้วคุยกันดีไหม”


                    “จอมเวทย์” แอนนาทวนคำ


                    “ใช่ ชื่อเขาคือด็อกเตอร์สเตรนจ์ ชื่อประหลาด” ฉันหัวเราะแห้งๆ แอนนาขยับตัว ก้าวถอยหลังลงจากขอบ “เยี่ยมมาก เธอจะไม่เป็นไร เราจัดการปัญหาให้....” คำพูดของฉันขาดหายไปเมื่อเธอพุ่งตัวเข้ามา พร้อมมีดทำครัวในมือ ทำไมฉันมองไม่เห็นมันก่อนหน้านี้ ไม่มีทางเลยที่จะไปเอามีดมาจากไหนได้ ราวกับมันผุดขึ้นมาจากอากาศ โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวกับเวทมนตร์อย่างที่ด็อกเตอร์พูดไว้จริงๆ แต่ก่อนอื่น ฉันต้องตั้งสติ มีเวลาแค่เสี้ยววินาที ฉันควรยกมือข้างไหนขึ้นกัน ไม่ ไม่ใช่สิ ฉันต้องเอี้ยวหลบ เมื่อได้ข้อสรุป ฉันเอี้ยวหลบหวุดหวิด เซถอยหลัง ต่อไปต้องแย่งมีดมาให้ได้ ฉันคำนวณการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายทันที นักกีฬาว่ายน้ำ กำลังแขนและขาเป็นต่ออยู่แล้ว เร็ว ไอลีน คิดสิ หัวไหล่ของเธอแปลกๆ การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดของนักว่ายน้ำคือ หัวไหล่ เพราะต้องใช้งานเส้นเอ็นบริเวณนั้นซ้ำๆเป็นประจำ เป็นจุดอ่อนที่นักว่ายน้ำทุกคนระวังเสมอ 


                    “ขอโทษนะ” ฉันพูดเบาๆ ตรงรี่เข้าไป กำหมัดแน่น ขณะแขนอีกข้างของเธอเหวี่ยงเข้ามาพร้อมมีด ฉันซัดเข้าไปที่หัวไหล่ซ้ายของเธอสุดแรงเกิด แอนนาร้องลั่น ฉันจับแขนเธอหมุนไพล่หลัง และผลักเธอล้มนอนราบกับพื้น


                    “โว้ว แจ่มสุดๆ คุณเจ้าหน้าที่” เสียงเด็กหนุ่มดังขึ้นด้านบน ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปดู ทันได้เห็นอะไรเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เท้าของเขาจะแตะพื้น “ผมกำลังจะลงมาช่วยคุณพอดีเลย”


                    “สไปเดอร์แมน?” ฉันเบิกตาโต


                    “ยินดีรับใช้” เขาโค้งคำนับอย่างสวยงาม


                    โอเค ขอเล่าข้ามๆ ฉันปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตัวจริงขึ้นมาเอาตัวแอนนาไปโรงพยาบาล และขอให้สไปเดอร์แมนไปส่งฉันที่แซงทั่ม จากนั้นก็ลากตัวเขาเข้าแซงทั่มมาด้วย ด็อกเตอร์บอกว่าอย่าเชิญใครพร่ำเพรื่อ แต่นี่คือสไปเดอร์แมน ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่าง ฉันต้องรู้ว่าเขารู้อะไรบ้าง หลังจากเขาหายตื่นเต้นเรื่องด็อกเตอร์สเตรนจ์ที่ฉันเล่าให้ฟังแล้ว เราก็เริ่มเข้าเรื่อง เขาเล่าให้ฉันฟังว่า เจอแบบนี้ประมาณห้าครั้งแล้วในสัปดาห์นี้ เขาก็สงสัยมากเหมือนกันว่าเกิดจากอะไร เขาสืบตามเว็บบอร์ดเหมือนอย่างที่ฉันทำ พยายามไปให้ถึงที่เกิดเหตุก่อนจะมีเรื่องร้ายแรง เขามีทฤษฎีของเขาเอง ออกแนววิทยาศาสตร์ว่าเป็นการทดลองอะไรสักอย่าง อาจเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ เขาตามหาพวกนักวิทยาศาสตร์ และไล่ตามพวกพ่อค้ายาไปทั่วเมือง เพื่อหาเบาะแสว่ามียาตัวไหนที่ส่งผลให้ฝันร้ายประสาทหลอนหรือเปล่า แต่ก็ไม่เจออะไรเลย ทั้งหมดเกิดขึ้นเหมือนเป็นอุปทานหมู่


                    “แล้วผมจะได้เจอด็อกเตอร์สเตรนจ์ไหม” สไปเดอร์แมนถามอย่างกระตือรือร้น


                    “คงไม่ได้หรอก” ฉันส่ายหน้า “เขาไปแอสการ์ด กับธอร์และฮัค”


                    “จริงง่ะ” สไปเดอร์แมนท่าทางตื่นเต้นสุดๆ “สุดยอด ผมล่ะอยากเจอให้ครบทีมเลยรู้ไหม ตอนนั้นมีโอกาสได้ช่วยคุณสตาร์คอยู่ครั้ง ซัดกับกัปตันอเมริกามาแล้วด้วยนะ เจอมาครบแล้ว ซัดกับฟอลคอน วินเธอร์โซลเยอร์ด้วย พวกนั้นไม่เท่าไหร่หรอกจริงๆนะ” เขาหยุด มองฉัน “คุณกำลังจะทำอะไรหรอ”


                    “จะติดต่อขอความช่วยเหลือน่ะ” ฉันบอก กำลังส่งข้อความหาคนที่ชื่อหว่อง อย่างที่ด็อกเตอร์สั่งไว้ “ยังไงก็ วันนี้ขอบคุณมาก สไปเดอร์แมน สำหรับข้อมูล”


                    “โอเค ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้ผมได้นะ ผมชอบเจ๊แล้วล่ะ เจ๋งชะมัด”


                    “ทางที่ดี เรียกไอลีน ไม่ต้องเรียกเจ๊” ฉันกำชับทันที


                    “ได้เลยครับ ไอลีน” สไปเดอร์แมนรับคำ “ว่าแต่คุณเป็นภรรยาของด็อกเตอร์หรอ?”


                    “เฮ้ย!! จะบ้าหรอ ไม่ใช่” ฉันร้องเสียงแหลมทันที


                    “อ้าว” สไปเดอร์แมนร้องอย่างแปลกใจ “ก็คุณดูเหมือนเป็นเจ้าของบ้านเลยนี่น่า อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยใช่ไหม เป็นแค่แฟนกันหรอ?” เขาถามซื่อๆ


                    “ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่เลย” ฉันโบกมือเป็นระวิง “ไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น เราเป็นเพื่อนร่วมงาน”


                    “อ้อ โอเคครับ งั้นไว้เจอกันนะ ไอลีน” แล้วเขาก็กระโดดออกไปทางหน้าต่างอย่างผาดโผน


                    ตอนนั้นฉันได้ข้อความตอบกลับจากหว่องพอดี เขาบอกว่ามีเรื่องที่ต้องจัดการในแซงทั่มที่เนปาล คงจะมาที่นี่ได้ตอนเช้าวันพรุ่งนี้ บอกอีกว่า ให้ฉันอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มอีก เพราะจะทำให้ตัวเองมีอันตรายเปล่าๆ ฉันไม่ใช่จอมเวทย์แบบด็อกเตอร์ ร่ายมาซะยาว ทำเอาฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเลย ฉันไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนหรอกนะ ถ้ารู้ว่ามีอันตรายเฉียดตายล่ะก็ ฉันจะรีบจรลีคนแรกเลย ฝ่ายบู๊ก็จัดการไปสิ ฝ่ายบุ๋นนั่งเหยียดขาข้างหลังสบายใจเฉิบดีกว่า และถ้าฝ่ายบู๊เกิดพลาด ฝ่ายบุ๋นอย่างฉันก็โบกมือลา เผ่นแน่บเช่นกัน


                    แต่ฉันเกรงว่า พรุ่งนี้จะสายเสียแล้ว เพราะคืนนั้นเอง ฉันเริ่มฝันร้ายถึงตัวประหลาดในชุดเขียว       












    Writer's talk

    ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและคอมเมนต์นะคะ 

    สำหรับตอนนี้ก็ กำลังจะเปิดตัว  "วายร้าย" ตัวแรกของเรื่องค่ะ 




          

                           

     

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×