คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Hello, stranger
Northern Lights
Chapter 1 : Hello,
stranger
ช่องยูทูปของ
Monet_Manora มีผู้ติดตามอยู่ประมาณสองพันคน
หลังจากเธอเปิดช่องมาได้เกือบแปดปี ตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย
ช่วงแรกๆเธอเปิดแอคเคาท์ไว้เพื่อลงงานวีดีโอสำหรับวิชาการละครตอนปีสาม
เคลื่อนไหวอีกครั้งตอนปีสี่ที่ต้องอ่านบทกวีและทำเพลงบัลลาด
ผู้ติดตามในตอนนั้นมีแค่คนในเอกเดียวกัน เมื่อเรียนจบ
เธอก็แทบไม่ได้ย้อนกลับไปใช้อีก เพราะต้องปรับตัวกับการทำงาน
สักพักจึงพอจะมีเวลาลงวีดีโอรีวิวภาพยนตร์และสถานที่ท่องเที่ยวบ้าง
ทำรีแอคชั่นตลกๆกับเพื่อนบ้าง หรือโชว์อาหารที่แม่ทำให้กิน
จำนวนยอดผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอหันมาร้องเพลงพร้อมกับอูคูเลเล่ตัวโปรด
สอนวาดรูปสีน้ำ พูดภาษาอังกฤษกับเด็กห้าขวบข้างบ้าน เล่นกับแมว
ฝึกทำอาหารตามสูตรของแม่ ตั้งกล้องไว้ในครัว คนดูจะได้ยินเธอถูกแม่บ่นและเสียงหัวเราะฮ่าฮ่าอย่างไม่ปิดบังของเธอ
รีวิวสูตรอาหารลดน้ำหนักที่ไม่เคยทำได้สำเร็จ รีวิวหนังสือ
พาไปเที่ยวเดินเล่นในกรุงเทพ บางครั้งก็ถ่ายวีดีโอขณะเธอวิ่งตามรถเมล์เพื่อไปทำงาน
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยสะดุดตา
ไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคิขุแต่อย่างใด เนื่องจากเชื้อสายจีนในตัว ทำให้เธอมีดวงตาเล็กหยี
ยิ้มที ตาทั้งสองข้างกลายเป็นเส้นเดียว คนที่ติดตามอยู่ ล้วนถูกใจกับชีวิตเรียบง่ายที่เข้าถึงได้ของเธอ
เธอไม่ใช่คนรวย ไม่ได้อยู่บ้านหลังใหญ่ บ้านที่มี เธอกับแม่ช่วยกันซื้อและผ่อน
พ่อทิ้งเธอไปตั้งแต่เรียนมัธยมต้น เธอเรียนจบได้ด้วยกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
และตอนนี้เธอก็ยังต้องใช้หนี้อยู่ทุกเดือน เธอแทบไม่ใช้เครื่องสำอางที่สิ้นเปลือง
หน้าตาเธอเหมือนไม่เคยแต่งแต้มอะไรมากมาย เธอเป็นชาวบ้านทั่วๆไป
จะเรียกว่าชนชั้นกลาง ก็ยังก้ำกึ่ง ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะเรียกตัวเองว่าชนชั้นกลางได้หรือเปล่า?
แต่เธอดูมีความสุข ตลก อารมณ์ดี น่ารัก พูดเก่ง สร้างพลังบวกให้คนฟังได้อย่างไม่รู้ตัว
คนที่ติดตามเธอส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ทั้งในยูทูป ไอจี และทวิตเตอร์ บางส่วนก็เป็นชาวต่างชาติ
เพราะเธอใส่ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษลงไปด้วยในทุกคลิป
บางคลิปก็พูดเป็นภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด สำเนียงไม่ได้ดีเลิศเหมือนเจ้าของภาษา
แต่พูดได้คล่องแคล่ว มีมุขตลกแบบไทยปนมาด้วย
บิล สการ์การ์ดเจอช่องยูทูปของเธอโดยบังเอิญระหว่างเลื่อนดูคลิปแมวไปเรื่อยๆในช่วงพักกองภาพยนตร์เรื่อง It
เขาเห็นชื่อวีดีโอที่เขียนว่า
The Destroyer ภาพปกเป็นแมวตัวขาวนอนหงายโชว์พุง
เขาจึงกดเข้าไปดู ช็อตแรกเป็นแมวเหมียวปัดแจกันดอกไม้หล่นจากโต๊ะ
ต่อมาแมวตัวเดิมปีนขึ้นไปบนสุดของชั้นหนังสือ และเชิดหน้าสูง เจ้าของคลิปร้องเพลงไลอ้อนคิงเป็นเพลงประกอบให้
หลังจากนั้นแมวกระโดดเข้ากระโดดออกจากกล่อง
แมวรื้อตู้เสื้อผ้าและลากเสื้อยืดของเธอออกมากอง
สุดท้ายจึงเป็นแมวลอดมุ้งลวดที่ขาดเป็นรูเบ้อเริ่ม
เหมือนมันจะลอดออกทางหน้าต่างอย่างนี้ประจำ จนเจ้าของไม่สามารถทำอะไรได้
แค่แปะสกอตเทปใสกันมุ้งลวดไว้ แต่มันก็กัดและข่วนจนกระจุยอยู่ดี
มีอิโมจิร้องไห้ประกอบด้วย และท้ายสุดของคลิป เขาถึงได้เห็นแมวนอนอย่างสง่าโชว์พุงกลางเตียงของทาสแมว
โดยที่เจ้าของได้นั่งกอดหมอนอยู่บนพื้น คลิปจบลงด้วยตัวอักษรสีขาวบนพื้นดำว่า She is the true owner of the house. หล่อน(แมว)เป็นเจ้าของบ้านตัวจริง
เขาเผลอหลุดขำออกมาเล็กน้อย
แล้วลองกดดูวีดีโออื่นๆของเธอย้อนหลังไป จึงรู้ว่าเธอเป็นคนไทยเชื้อสายจีน
อาศัยในกรุงเทพ ก่อนหน้านี้บิลไม่ได้สนใจประเทศทางแถบเอเชียมากนัก
เขาเคยได้ยินชื่อประเทศไทย เคยได้ยินชื่อกรุงเทพ แต่ยังไม่เคยไป
และไม่เคยวางแผนจะไป กลับกลายเป็นว่า การนั่งดูวีดีโอของเธอก็เพลินดี
ชีวิตของเธอเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
แตกต่างกับชีวิตของเขาแบบคนละเรื่อง เธอทำวีดีโอเกี่ยวกับอาหารค่อนข้างบ่อย
อาหารที่แม่ของเธอทำดูน่ากินทุกจาน โดยเฉพาะประเภทต้มยำและแกง
เธอไปกินอาหารนอกบ้านตามร้านดีๆประมาณเดือนละครั้งหรือสองครั้ง
แต่ค่าอาหารและขนมไม่สูงมากนัก เธอบ่นเรื่องเงินเดือนกับรายจ่ายในคลิปมาแล้ว
และมีคลิปหนึ่งที่เธอน้ำตาซึมเพราะต้องเปลี่ยนงานใหม่ เขาเลื่อนดูความคิดเห็น
ผู้ติดตามของเธอส่วนมากจะเป็นผู้หญิงที่เข้าอกเข้าใจกัน
ไม่ค่อยมีผู้ชายหลงเข้ามาดูวีดีโอของเธอเท่าไรนัก บิลอาจจะเป็นส่วนน้อย
แบบน้อยมากๆ
เธอร้องเพลงพอใช้ได้
อย่างน้อยก็ร้องได้ดีกว่าเขาล่ะ บิลเล่นกีตาร์พอเป็น แต่เสียงร้องไม่ได้ความ
พวกพี่ๆมักบอกว่าเขาร้องเพลงเหมือนคนเมา เขาก็เลยเล่นกีตาร์ร้องเพลงตอนเมาและเคยมีเพื่อนนำไปอัปโหลดครั้งหนึ่ง
บิลไม่เขียนคอมเมนต์ในวีดีโอ
ไม่กดถูกใจ และไม่ได้กดติดตามไว้ด้วยซ้ำ แต่เขาจะแอบเข้ามาดูเดือนละครั้ง
ดูความเป็นไปของเธอว่าจะมาเล่าเรื่องอะไรให้ฟังอีก ทักษะภาษาอังกฤษของเธอดีทีเดียว
เธออ่านหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษหลายเล่มด้วย เธอรีวิวหนังสือที่เธอชอบมากๆไว้
อย่างเช่นเรื่อง Never let me go เรื่องนี้ทำให้เธอร้องไห้เป็นชั่วโมง เธอชอบดูภาพยนตร์และดูได้ทุกแนว
เธอเล่าว่าแม่ชอบดูหนังตะวันตก บรรดาลูกพี่ลูกน้องชอบดูหนังจีน
สะใภ้ของป้าชอบดูหนังเกาหลี บิลแอบยิ้มเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอไปดูภาพยนตร์เรื่อง It เสียที ตอนที่เกือบจะออกจากโรงภาพยนตร์อยู่แล้ว
เธอกลับมาทำคลิปวีดีโอเกี่ยวกับภาพยนตร์สยองขวัญที่ทำเธอกลัวหัวหด
และปิดท้ายด้วยการบอกว่าเธอได้ไปดู It
แล้วนะ
“มีช่วงนึงที่ฉันเผลอพูดออกมาในโรงหนังเลยว่า
น่ากลัว พร้อมยกมือปิดหน้า แต่ก็เหลือรูไว้มองลอด แล้วผู้หญิงข้างๆก็หันมามอง
ฉันว่าเธอน่าจะอยากถามแหละว่าฉันโอเคหรือเปล่า แต่ฉันก็ดูจนจบได้นะ เอ้อ...
คนที่เล่นเป็นตัวตลก เขาสุดยอดมากๆเลย ฉันไม่เคยดูเรื่องอื่นที่เขาแสดงมาก่อน
คงต้องไปลองหาดูแล้วล่ะ”
แน่นอนว่าเธอไปดู
Hemlock Grove เขาเห็นเธอทวิตพูดถึง
แต่ไม่ได้ทำวีดีโอรีแอคชั่นลงในยูทูป เขาจึงไม่รู้เลยว่าเธอดูแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ภาพยนตร์เรื่อง It ประสบความสำเร็จ บิลเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ไม่ใช่แค่เพราะเขามีนามสกุลสการ์การ์ดอีกต่อไป งานเข้ามาเยอะ ให้ปรากฏตัวตามรายการ
และบนปกนิตยสาร แฟนคลับเพิ่มจำนวน ชีวิตของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก
เพราะเติบโตกับครอบครัวที่เป็นนักแสดงกันทุกคน
เขาจึงคุ้นชินกับความวุ่นวายอยู่แล้ว ทั้งครอบครัว มีเพียงแซม
พี่ชายของเขาคนเดียวที่ไม่ได้เดินทางตามรอยสเตลแลน ผู้เป็นพ่อ
แต่ตัดสินใจเป็นหมอเหมือนแม่ และทำงานในแผนกไอซียู แซมแต่งงานแล้ว
เป็นคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่แต่งงานก่อนใครเพื่อน ขณะที่อเล็กซานเดอร์
พี่ชายคนโตสุด ยังไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย บิลยังไม่คิดเรื่องแต่งงาน
หลังจากระหองระแหงกับแฟนสาวจนเลิกกันไป ตอนนี้เขาอยากพักจากการเดทสักระยะ
เขากำลังนอนเหยียดยาวบนโซฟาในห้องนั่งเล่นของบ้านสการ์การ์ดในวันอาทิตย์
ซึ่งคล้ายกับวันรวมญาติ ขณะที่เมเกน ภรรยาคนใหม่ของพ่ออยู่ในครัว
อเล็กซานเดอร์คุยกับกุสตาฟที่เฉลียง ไอยา
น้องสาวหนึ่งเดียวในครอบครัวคุยโทรศัพท์กับเอเจนซี่
และวอล์เตอร์นั่งเล่นเกมกระดานกับออสเซียน น้องชายวัยแปดขวบ ข้างๆมีโคลยอน
อายุห้าขวบ รบเร้าให้พี่ชายพาออกไปเล่นข้างนอก
แซมเพิ่งออกจากบ้านไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วเพราะโรงพยาบาลโทรตามตัวด่วน บิลที่ไม่มีอะไรทำ
ใช้นิ้วโป้งเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์
แอพลิเคชันยูทูปเสนอวีดีโอแนวที่เขาชอบดูเรียงเป็นแถวลงไป มีทั้งแมว รถแข่ง กีตาร์
อาหารไทย ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องใหม่ สุดท้ายเขาไม่ได้กดดูสักอย่าง
แต่พิมพ์ชื่อช่องยูทูปในกล่องค้นหา เขากระพริบตาด้วยความประหลาดใจ
เมื่อเห็นเธออัปวีดีโอล่าสุดเมื่อห้านาทีก่อนนี้เอง
เธอไม่มีวี่แววว่าจะยิ้ม
เล่าเรื่องสนุก เล่นอูคูเลเล่ หรือเล่นกับแมวในคลิปนี้ เธอสวมเสื้อยืดสีขาว
นั่งพิงเตียงของเธอ และคงตั้งกล้องไว้บนโต๊ะตัวเตี้ย เธอถอนหายใจ
เปลือกตาบวมเล็กน้อย เป็นใครก็ต้องดูออกว่าผ่านการร้องไห้มา เธอพูดภาษาไทย
มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษให้ด้วยเหมือนเดิม
“ขอโทษที่มาในสภาพนี้นะ
คุณควรจะปิดวีดีโอนี้ไปซะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะลบทิ้งไหม
หรืออาจจะเก็บมันไว้ดูตอนที่ฉันเข้มแข็งมากกว่านี้แล้วก็ได้ คุณคงจำวีดีโอตอนที่ฉันพยายามแทบตายเพื่อจะเข้าทำงานที่นั่นได้ใช่ไหม
ฉันทำเหมือนทุกอย่างโอเค ไม่เป็นไร
แต่ความจริงคือไปแอบนั่งร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังเลยล่ะ วันนี้ไม่ต่างกันเท่าไหร่
มันออกจะงี่เง่าด้วยซ้ำ พวกคุณต้องคิดว่าฉันงี่เง่า หรือเป็นพวกไอ้ขี้แพ้แน่ๆเลย
แต่ตอนนี้ฉันกลัว กังวล แบบ พวกคุณก็รู้ ฉันเป็นคนขี้กังวล
ฉันไม่สามารถพูดเรื่องที่กังวลตอนนี้ได้ด้วยซ้ำ
และฉันเพิ่งทำเรื่องแย่มากๆมาเรื่องหนึ่ง คือตะโกนใส่หน้าแม่ว่า ฉันไม่สามารถเข้มแข็งได้ตอนนี้
และร้องไห้โฮออกมาเหมือนทุกอย่างเป็นความผิดของแม่ ฉันไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมแม่ไม่ปลอบใจฉัน
แบบที่ฉันเคยเห็นในภาพยนตร์ฝรั่งบ้าง แต่แม่จะพูดว่า อดทน ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ
ทำไมแค่นี้ทนไม่ได้ รู้ไหมว่าแม่เคยเจออะไรมาบ้าง
บางครั้งฉันก็แค่ไม่อยากได้ยินคำว่า อดทน อีกแล้ว ทุกครั้งที่ร้องไห้
ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครมาหาทางแก้ปัญหาให้ หรือบอกให้ฉันอดทน เพราะเวลาที่ร้องไห้
มันหมายความว่าฉันทนไม่ไหวแล้วเว้ย ฉันแค่อยากให้แม่นั่งอยู่ข้างๆฉัน
ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ หรือทำของอร่อยๆให้กิน ฟัง รับฟัง โดยไม่ต้องวิจารณ์อะไร...”
เธอเงียบไปอึดใจหนึ่ง บิลได้ยินเสียงพัดลมที่เธอวางไว้ข้างๆ
แต่ไม่ปรากฏบนจอ เขาเห็นเส้นผมสีดำที่รวบไม่หมดปลิวไสว
เป็นความเงียบที่แม้แต่เขาเองยังเผลอกลั้นหายใจ พ่อกับแม่ไม่เคยทำกับเขาแบบนั้น
พวกท่านสอนให้เขาอดทนก็จริง แต่ถ้าเขากำลังร้องไห้ แม่จะกอดเขาเสมอ
เมื่อเขาหยุดร้องไห้ พ่อจะปลอบใจด้วยการพาไปซื้อไอศกรีม เขานึกภาพไม่ออกว่าถ้าตัวเองเจอแบบที่เธอเจอในขณะที่กำลังอ่อนแอ
และต้องการที่พักพิงทางใจ แต่คนๆนั้นกลับพูดแค่ว่า ชีวิตก็เป็นแบบนี้
อดทนต่อไปสิ เขาจะรู้สึกแย่แค่ไหนกัน ถ้าคนที่พูดเป็นแม่ของเขา พูดกับเขา
ในช่วงจังหวะชีวิตแย่ๆ
“เดี๋ยวเดือนหน้า
ฉันก็จะกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม” เธอพูดต่อ สูดน้ำมูกนิดหน่อย ยิ้มฝืนที่มุมปาก “ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีเสมอ
ถึงไม่ผ่านด้วยดี แต่อย่างน้อยก็จะผ่านไปละนะ เจอกันเดือนหน้าค่ะ”
บิลมองกรอบสำหรับเขียนแสดงความคิดเห็น
มองจ้องอยู่เป็นนานหลังจากวีดีโอจบแล้ว สองจิตสองใจด้วยความไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรลงไปดี
บอกให้สู้ต่อไป ก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจ เธออยู่ไกลอีกครึ่งโลก
ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเสียหน่อย
เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่แสดงความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น
แม้จะใช้แอคเคาท์ที่ไม่ได้บอกตัวตนก็ตาม เขากดย้อนกลับและออกจากแอพลิเคชัน
ไม่ทิ้งข้อความใดไว้
อาหารเย็นพร้อมแล้ว
ครอบครัวสการ์การ์ดนั่งล้อมโต๊ะสี่เหลี่ยมตัวยาว พูดคุยถามไถ่ดังเช่นทุกครั้ง
คนที่มักจะมีเรื่องมาพูดเสมออย่างบิล วันนี้กลับค่อนข้างเงียบ
จนอเล็กซานเดอร์สังเกตเห็นและอดถามไม่ได้ว่าเขามีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า
บิลส่ายหน้าและบอกว่าเขาแค่เหนื่อยเท่านั้นเอง หลังจากเดินสายโปรโมท ให้สัมภาษณ์
ออกงานนู่นนี่นั่น ไม่ค่อยได้พัก
นี่เป็นวันอาทิตย์แรกที่เขาจะได้นอนยาวกว่าวันอื่น กุสตาฟชะโงกหน้าเข้ามา
เอ่ยปลอบใจว่าความเหนื่อยที่ลงทุนไปมันจะคุ้มค่า เดี๋ยวพอกระแสภาพยนตร์เงียบลงหน่อย
เขาก็จะมีเวลาพัก และเลือกงานชิ้นอื่นที่อยากทำต่อ วอลเตอร์บอกว่าตอนที่บิลแต่งหน้าเป็นตัวตลก
น่าจะเหนื่อยกว่าอีกนี่น่า วันนี้ก็ให้นอนเยอะๆนะ
ตบท้ายด้วยการที่พ่อเอ่ยชมเขาและทุกคนแสดงความยินดีที่ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ
มื้อเย็นจบ
ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับอพาร์ทเมนต์ บิลเป็นคนสุดท้าย
เขายังอ้อยอิ่งใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตเร็วแรงของที่บ้านอยู่ในห้องนั่งเล่น
เขากดเข้าไปดูวีดีโออีกครั้ง ยังไม่มีใครแสดงความคิดเห็นในวีดีโอล่าสุดของเธอ
มีคนกดถูกใจไปห้าคน นอกนั้นเงียบฉี่ เขารีรอ ไม่แน่ใจ
แต่เมื่อนึกว่าเขามีคนรอบข้างมากมาย เธอที่เป็นผู้หญิงคนเดียว
เจอเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เครียดและร้องไห้ แถมทะเลาะกับแม่ ไม่มีใครปลอบใจ
ไม่มีใครอยู่ข้างๆสักคน การให้กำลังใจสักเล็กน้อยเป็นเรื่องที่ควรทำ
เขาตามดูวีดีโอเธอมาตั้งเกือบปี
บิลกดส่งอิโมจิ รูปแขนยกกล้าม
ในชื่อแอคเคาท์ WildScar
เขาขับรถกลับอพาร์ทเมนต์
ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว ก่อนจะทิ้งตัวนอนบนเตียง เขาหยิบโทรศัพท์มากดดูอีกครั้ง
มีการแจ้งเตือนเข้ามาใหม่จากยูทูป เธอตอบกลับ
อิโมจิ หน้ายิ้ม
TALK
ชื่อนางเอกก็บอกอยู่แล้วเนอะว่า Mano.... มโน นั่นเอง
มา มโน กันเถอะค่ะ สาวไทย
ความคิดเห็น