ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Psyche ] โลก ฝัน จิต (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #15 : [ Bo ] : Be strong.

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 60





    Psyche

    Chapter 15 : Be strong.




    [ Bo ] 



                   โบจำได้หมดแล้ว ทำไมเธอถึงต้องอาศัยอยู่กับปู่มาตั้งแต่เด็ก ทำไมปู่พาเธอเร่ร่อนไปเรื่อย ไม่มีหลักแหล่ง เธอรู้เหตุผลทั้งหมด ทำให้เธอช็อคค้าง หยุดทุกอย่าง ควบคุมอะไรในร่างตนเองไม่ได้อีก ถ้าไม่ใช่เพราะมัน เธอคงไม่มีทางระลึกขึ้นได้ ความทรงจำนั้นเก็บซ่อนอยู่ในส่วนลึกของสมอง เธอยังเด็กเกินไปที่จะจดจำได้ทุกรายละเอียด แค่สองขวบ พูดจาอ้อแอ้ เดินไม่คล่อง ตัวเล็กกระจ้อยร่อยเหมือนลูกหมีเกิดใหม่ แม่อุ้มเธอซ่อนไว้ในเครื่องซักผ้า พวกมันหาเธอไม่เจอ แต่เด็กหญิงตัวจ้อยได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นทุกอย่าง พวกมันจัดการกับพ่อก่อน ขณะที่แม่กำลังจะวิ่งออกไปทางประตูครัวเพื่อล่อพวกมันออกจากบ้าน เธอถูกยิงโดยปืนเก็บเสียง โบเห็นเลือดไหลจากรูโหว่บนหน้าอกของแม่ เธอไม่ได้ร้องสักแอะ แม่สั่งไว้ว่าไม่ให้ร้อง เด็กหญิงก็ไม่ร้อง เธอเข้าใจว่าพ่อกับแม่แค่เล่นกันแน่ๆเลย เดี๋ยวพวกเขาก็จะยิ้ม หัวเราะ และเข้ามาอุ้มเธอออกไปเหมือนเดิม พวกมันจุดไฟเผาบ้านด้วยหลังจากฆ่าพ่อกับแม่แล้ว



                    เด็กหญิงจึงเริ่มแหกปาก รัวกำปั้นเล็กๆทุบที่ฝาครอบเครื่องซักผ้า เธอเปิดมันไม่ออก เห็นเพลิงไฟลามเลียมาใกล้ถึงตัวทุกขณะ ปู่เป็นคนมาช่วยเด็กหญิงออกไป เขาห่อตัวเธอไว้ในผ้าผืนหนึ่ง ใช้ผ้าเปียกปิดจมูกและปากให้เธอเพื่อช่วยหายใจและป้องกันควันไฟ ปู่พูดกับเธอด้วย หลังจากพาออกมาขึ้นรถ ขับหนีไป ปู่ร้องไห้ บอกว่าขอโทษ ขอโทษจริงๆที่มาช้า ทุกอย่างเป็นความผิดของปู่เอง ปู่น่าจะเตือนพ่อให้เร็วกว่านี้ ปู่น่าจะออกคำสั่งกับพ่อไม่ให้ยุ่งกับพวกมัน ให้พ่อถอนตัวจากงานวิจัยที่ทำอยู่ ตอนนั้นโบฟังไม่เข้าใจเลยสักอย่าง เด็กหญิงร้องไห้เงียบๆ มองใบหน้าด้านข้างของปู่ เธอรู้แค่ว่า เขากำลังเสียใจและร้องไห้อย่างหนัก และรู้ว่า คนสองคนที่โบเรียกว่าปาปากับมามาไม่ได้มาด้วย โบจะไม่ได้เจอพวกเขาอีก แต่เป็นเพราะอะไรนั้น โบยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ



                    ปู่ไม่เคยเล่าให้โบฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเธอพยายามจะถาม เขาบ่ายเบี่ยงพูดเรื่องอื่นเสมอ จนโบหลงลืมไป โลกทั้งใบของเธอจึงมีแต่ปู่กับการเดินทางไปหลากหลายสถานที่ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว จำได้ทั้งหมด จำได้แม้กระทั่งความอบอุ่นตอนอยู่ในครรภ์ของแม่ด้วยซ้ำ เธอต้องขอบคุณมันใช่ไหม ตัวน่าขยะแขยงที่เข้ายึดร่าง แทรกแซงเข้าไปในสมอง เปิดภาพความทรงจำที่เธอลืม กางให้ดูเป็นฉากๆ และมันกักขังเธอเอาไว้



                    ที่นี่ ภายในตัวของเธอเอง มืดสนิท ผนังหินเย็นตีกรอบเป็นวงกลม กว้างแค่พอจะให้เอนกายลงนอน แต่เธอนอนไม่ได้อยู่ดี ข้างล่างเป็นน้ำ ลึกแค่ไหนไม่อาจหยั่งถึง โบต้องลอยตัวอยู่อย่างนี้ ใช้มือเกาะผนังไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองพลัดตกลงไป เธอกลัวว่าถ้าเผลอหลับ หรือจมน้ำไปเพียงครู่เดียว เธออาจจะต้องหายสาบสูญไปตลอดกาล หญิงสาวคิดว่าที่นี่เหมือนบ่อน้ำ เพียงแต่เธอมองไม่เห็นปากบ่อ ทุกอย่างมืดเหมือนๆกันหมด ราวกับไม่มีข้างบนและข้างล่าง เธอติดอยู่ตรงกลาง จะไปไหนก็ไม่ได้



                    นี่หรือความสงบสุขอันเป็นนิรันดร์ที่พวกมันพร่ำบอก ที่เขาบอก โบนึกถึงเขาขึ้นมา ทั้งโกรธ เกลียด และเจ็บใจ ความทรงจำครั้งล่าสุดที่พบหน้ากัน ยังคงวนเวียน เหมือนจะตอกย้ำว่าเธอพลาดตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะตอนที่ยอมกินอาหาร แต่พอคิดย้อนกลับไปทีไร เธอรู้ว่าถ้าไม่กิน เขาจับยัดปากอยู่ดี และคงเป็นการกินอาหารที่ทรมาน โบพยายามคิดในแง่ดีว่าอย่างน้อย นั่นก็เป็นสเต็กเนื้ออย่างดีที่เวลาปกติเธอไม่มีปัญญาจะซื้อกิน เธอจะไม่ยอมให้มันเป็นอาหารมื้อสุดท้าย



                    หญิงสาวแหงนคอตั้งบ่า พยายามเพ่งตามองดูว่าปากบ่อน้ำอยู่สูงแค่ไหน แต่เช่นเคย เธอมองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด เหมือนตัวเองกำลังหลับตา เหมือนคนตาบอด โบกัดริมฝีปาก เธอลองว่ายวนไปตามขอบเพื่อสำรวจความกว้างของบ่อ พื้นผิวของบ่อน้ำเหมือนหินเย็นๆที่เต็มไปด้วยตะไคร่ แปลกดีแท้ โบไม่คิดมาก่อนเลยว่าภายในร่างของตัวเองจะมีบ่อน้ำแบบนี้อยู่ด้วย หรือว่ามันเป็นคนสร้างขึ้นมาเพื่อกักขังเธอ พลังของจิตใจยากแท้หยั่งถึง โบเพิ่งเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้ก็วันนี้เอง ถ้าอย่างนั้น บ่อน้ำนี่ก็ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงภาพมายา โบคิดได้ดังนั้นก็ลองนึกในใจว่ามันไม่จริง ไม่จริง ไม่มีอยู่ แต่เมื่อลืมตาและลองขยับมือไปแตะ มันกลับไม่สลายเป็นผุยผง



                    โบคิดถึงปู่ เธอคิดถึงเขาทุกวันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่มีปัญหาหรืออันตรายอยู่ตรงหน้า โบจะคิดถึงมากเป็นพิเศษ ถ้าเป็นปู่ จะทำอย่างไร จะหนีออกไปด้วยวิธีไหน โบเตะเท้าในน้ำไปมาเพื่อให้ร่างยังลอยอยู่ได้ เธอจะทนได้ไม่นาน เธอรู้ดี สุดท้ายความเหนื่อยล้าจะทำให้ตัวเธอจม คำของปู่ที่บอกว่า ถ้าหลานของปู่หาทางไม่ได้ คงไม่มีใครทำได้อีกแล้ว โบจำได้ไม่เคยลืม แต่บ่อน้ำนี่ไม่ใช่ของจริง ถ้าเป็นเรื่องจริง เธอก็แค่ปืนขึ้นไป ครู่เดียวก็ถึงปากบ่อ นี่อาจไม่มีปากบ่ออยู่เลยด้วยซ้ำ หรือมันอาจถูกปิดตาย โบรู้สึกอยากจะร้องไห้ เธอเหนื่อยเหลือเกินแล้ว บางครั้งก็อยากจะยอมแพ้ไปเสีย จะได้จบเรื่อง ไม่อยากดิ้นรนโดยไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีก



                    ผู้ชายคนนั้นไม่มีวันปล่อยเธอเป็นอิสระ โบรู้ได้จากวิธีที่เขามองและกระทำต่อเธอ เหมือนเธอเป็นเหยื่อ เป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่งที่เขาจับโยนใส่กรง



                    เขาเป็นใครกันล่ะถึงมีสิทธิ์มาทำแบบนั้นกับเธอ โบกำหมัดอยู่ใต้น้ำ คับแค้นใจจนแทบระเบิด หรือว่าจริงๆแล้วเธอกำลังฝัน อีกทฤษฎีหนึ่งผุดขึ้นมา เวลาที่เธอฝัน ทุกอย่างดูเหมือนจริงเสมอ แต่เธอยังรู้ตัวว่าฝันอยู่ และควบคุมทุกอย่างได้ดังใจ เธอจะลองดู หญิงสาวปิดเปลือกตาลง ทำใจให้ว่างเปล่า สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ขจัดความกลัวและทุกอย่างที่รุมเร้าออกไปก่อน เธอนึกภาพบ่อน้ำนี้ไว้ในใจ ให้เกิดมโนชัดเจนแจ่มแจ้ง จากนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนความเป็นจริงของมันทีละนิด เธอโบยบินขึ้นไป ขยับฝาบ่อเปิดอ้าออกเล็กน้อย แค่พอให้ตัวเธอลอดผ่านไปได้ พื้นผิวขรุขระของผนังบ่อ มีส่วนที่ยื่นออกมาสำหรับเหยียบปีน



                    ภาพอีกอย่างแทรกบ่อน้ำของเธอเข้ามากลางคัน โบเห็นมือของตัวเองกำลังแกะกระดุมเสื้อ โดยที่มีผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ในห้องด้วย หยุดนะ เธอกางนิ้วมือทั้งห้าออกจากกัน แต่แล้วร่างของหญิงสาวก็ถูกแรงมหาศาลกดจมลงไปใต้น้ำ โบออกแรงดิ้นอย่างทุลักทุเล สักพักกระแสน้ำก้นบ่อจึงสงบลง เธออ้าปากกว้างรับอากาศหายใจ ส่งเสียงหอบ มือสองข้างยกเกาะผนัง เมื่อสติกลับมาครบถ้วน เธอเห็นแสงลำหนึ่งทอดยาวลงมาจากด้านบน ศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมยุ่งเหยิงสีน้ำตาลแหงนขึ้น หัวใจของหญิงสาวพองโตทันที มันได้ผล ปากบ่อแง้มแล้ว ไกลลิบเสียจนคาดคะเนระยะทางไม่ถูก แต่เธอก็ได้เห็นว่าปลายทางอยู่ตรงไหน



                    ต้องปีน นัยน์ตาของโบแสดงความแน่วแน่มาดหมาย ตัวบ้าบอที่กำลังทำมิดีมิร้ายกับร่างกายของเธอ มันจะไม่ได้อยู่นานแน่ ระหว่างที่กำลังค่อยๆปีนป่ายไปทีละน้อยอย่างระมัดระวัง หูเธอแว่วเสียงหลายอย่างที่น่าจะมาจะเป็นบทสนทนาระหว่างพวกมัน เธอได้ยินคำว่าซีเลคเตอร์ เสียงยิงปืนเป็นสิบนัดๆ เสียงของเธอเองพูดถามเจื้อยแจ้ว แม้กระทั่งรสชาติอาหารที่มันกินผ่านปากของเธอ โบเริ่มรู้รสตามไปด้วย ยิงปีนสูงเท่าไหร่ เสียงก็ยิ่งดังชัดเจน โบลื่นไถลเพราะประมาทใจร้อนเคลื่อนไหวเร็วเกินไป มือสองข้างถากไปกับหินคมๆจนได้แผลเลือดไหล เธอกัดฟันอดทน ทั้งที่มือเลือดอาบ สองเท้าถูกหินบาด อีกนิดเดียว เธอมองแสงสว่างที่ปลายทางอย่างเต็มเปี่ยมด้วยหวัง โบไม่คิดจะมองย้อนกลับลงไปข้างล่าง แม้จะกลัวแค่ไหน ก็ปีนต่อไป ต่อไป ต่อไป



                    แสงสีขาวเจิดจ้าเป็นอย่างเดียวที่โบเห็นเมื่อโผล่ศีรษะพ้นปากบ่อ เธอใช้แขนสองข้างวางตรงขอบและเกาะยึดเอาไว้ หอบหายใจอย่างเหนื่อยเต็มทน จากที่เผชิญกับความมืดมานาน ดวงตาจึงต้องการเวลาครู่หนึ่งในการปรับแสง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ โบเห็นที่โล่งว่างสุดลูกหูลูกตา ขาวโพลนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วพลันหูก็แว่วได้ยินเสียงตัวเองเอ่ยถามกับคนที่มันเรียกว่าซีเลคเตอร์ ด้วยประโยคไร้มารยาทและสัปดน โบคำรามออกจากลำคออย่างโมโห ใช้พลังทั้งหมดที่มีดันตัวเองขึ้นจากบ่อได้ตอนนั้นเอง



                    ตัวเธอยังเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ แต่เลือดกับความปวดแสบที่มือกับขาหายวับไปเสียแล้ว แปลกประหลาดจริงๆ กฎเกณฑ์ธรรมชาติดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับที่นี่ โบตัวสั่นด้วยความหนาวขณะเดินสำรวจพื้นที่ มองซ้ายมองขวา หันไปทางไหนก็ดูเหมือนกันหมด กระทั่งสายตาสะดุดเข้ากับวัตถุสองอย่าง หนึ่งคือเก้าอี้บุนวมกลมๆพร้อมหมอนอิง น่าฝังตัวลงไปนั่ง สองคือกระจกเงาที่ความสูงเท่าตัวคน โบมองอย่างไม่ไว้วางใจ แต่เพราะไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกแล้วในบริเวณนี้ เธอจึงเดินตรงเข้าไป มองเก้าอี้น่านั่งอย่างพิจารณา แล้วก็ตัดสินใจที่หย่อนตัวลง



                    ลงไปได้แล้ว



                เสียงออกคำสั่งดังก้องชัดเจนมาจากทางกระจกเงา โบถลึงตามอง เธอจำเสียงนั้นได้ ชาตินี้คงไม่มีวันลืมลง เสียงดังมาจากทางกระจก แต่เธอมองไม่เห็นอะไร มีแต่เงาสะท้อนของตัวเองเท่านั้น โบเพิ่งมีโอกาสได้เห็นว่าตัวเองผ่ายผอมขนาดหนัก ใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนขาดสารอาหาร ตอนเร่ร่อนอยู่กับปู่ หรือตามลำพัง เธอยังกินไม่เคยขาด เรื่องอาหารกับสุขอนามัยเป็นเรื่องอันดับต้นที่ปู่สอนให้เธอดูแลตัวเอง โบไม่อยากอ่อนข้อให้พวกมัน ไม่อยากกลายเป็นร่างสมบูรณ์ให้พวกมันหยิบยืมใช้ ให้เธอตายเสียดีกว่า แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เธอถูกกักขังเอาไว้ในร่างของตัวเอง จะทำอะไรก็ทำไม่ได้



                    โบได้ยินเสียงของเธอเองร้องอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็เป็นเสียงยิงปืนที่ดังอยู่ใกล้มาก จมูกของเธอได้กลิ่นดินกลิ่นหญ้า และกลิ่นควันปืนชัดเจน ไอ้มนุษย์หน้าโง่ มันใช้ปากของเธอพูด ตามมาด้วยเสียงปืนอีกหลายนัด และเสียงหัวเราะชั่วร้ายอย่างที่โบไม่เคยรู้ว่าตัวเองหัวเราะแบบนั้นได้ มันกำลังใช้ร่างของเธอฆ่ามนุษย์! โบลุกขึ้นยืนทันที เธอจะทำยังไงกับกระจกบานนี้ ต้องทำลายมันเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง หรือเดินทะลุไป โบลองทุบ ออกแรงเต็มเหนี่ยว แต่มันก็ไม่กระทบกระเทือน เป็นแก้วแท้ๆ แต่แข็งกว่าเหล็ก หญิงสาวรัวกำปั้น ทุบ ต่อย เตะ โถมตัวเข้าชน กระจกไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย จนร่างเล็กหอบหายใจ ส่งเสียงคำรามกรีดร้องออกมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใดได้อีก เธอไม่ยอม ไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้ แม้ต้องตาย เธอก็จะขอสู้ยิบตา สู้จนกว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้สู้



                    โบ นั่นหลานใช่ไหม?



                ไม่ นั่นไม่มีทางใช่ โบหยุดนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างมองกระจก เสียงของปู่แน่ๆ ปู่ยืนอยู่ตรงนั้น อีกฝั่งของกระจกเงา กำลังเผชิญหน้ากับโบที่ไม่ใช่โบ หญิงสาวแหกปากร้องเสียงดังลั่น วิ่งโถมทั้งตัวเข้าใส่กระจก มันไม่เอนไหวแม้แต่น้อย ยังตั้งตรงเหมือนหินผา โบร้องและวิ่งใส่แล้วใส่อีกเหมือนคนบ้าคลั่ง เธอหันไปหาเก้าอี้ ออกแรงยกมันขึ้นและเขวี้ยงใส่กระจก เธอหยุดมอง เห็นรอยร้าวปรากฏขึ้นที่ขอบด้านซ้าย



                    หลานไม่อยากทำร้ายคนอื่น



                เธอไม่อยากทำร้ายใครทั้งนั้น ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำ เธอกลั้นน้ำตาไว้เต็มที่ เอื้อมมือไปคว้าเก้าอี้ ยกขึ้น และทุ่มไปที่กระจกอีกครั้ง รอยร้าวปรากฏทางขอบด้านขวา รอยจากขอบสองด้านค่อยๆขยับเข้าหากันจนถึงกึ่งกลาง โบเดินเข้าไปจนชิด ยกมือขึ้นแตะ เธอกำลังแทรกตัวเข้าไปด้านใน ก็พอดีกับเสียงปืนดังลั่นหนึ่งนัด ทำเอาหัวใจหล่นวูบเหมือนร่างร่วงจากความสูงเป็นร้อยเมตร โบเห็นภาพเลือนราง ตัวเธอที่ไม่ใช่เธอยืนอยู่ข้างหน้า หญิงสาววิ่งเข้าใส่ คว้าหัวไหล่หมับและดึงมันให้ถลามาด้านหลัง ผลักมันกลับเข้าไปในกระจกแทนเธอ



                    หูพลันได้ยินเสียงความโกลาหลชัดเจน ทั้งเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์จากที่ไกลๆ เสียงยิงปืน เสียงกรีดร้อง โบรู้สึกอุ่นวาบตั้งแต่ปลายนิ้วจรดปลายเท้า เพิ่งรู้ตัวว่ายืนค้างแข็งแบกปืนอยู่หนึ่งกระบอก ดวงตาเริ่มเห็นทุกอย่างชัดเจน มีกลุ่มคนกำลังวิ่งหนีไป ได้ยินเสียงเด็กสาวกรีดร้องเรียกชื่อเฮนรี่ โบไม่ได้สนใจมองพวกที่กำลังหนี เธอก้มลงที่พื้นช้าๆ มือสั่นเทา ริมฝีปากสั่นด้วยความกลัวกับสิ่งที่จะได้เห็น เสื้อลายต้นมะพร้าวชายหาด กางเกงสามส่วนสบายตัว ร่างนั้นนอนนิ่งอยู่กับพื้น มีรูโหว่ตรงหน้าอกตำแหน่งหัวใจ เลือดสีแดงไหลเปรอะเปื้อน ดวงตาสีน้ำตาลเหมือนเปลือกเฮเซลนัทเบิกค้าง ไร้แวว เขาตายสนิท ไม่มีโอกาสแม้แต่จะกล่าวอำลา



                    น้ำตาทะลักพรั่งพรู ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องเหมือนสัตว์บาดเจ็บ ปืนที่ถืออยู่ลื่นหลุดจากมือตกกระทบพื้นอย่างไร้ค่า ร่างไม่อาจยืนได้อีกต่อไป เธอร่วงหล่น ขาทั้งสองข้างแบแบะอยู่กับพื้น มันฆ่าเขา เธอฆ่าเขา มันใช้มือของเธอ ใช้ดวงตาของเธอยิงเขาตาย โบมือสั่น เอื้อมไปเขย่าร่างปู่เหมือนคนจิตหลุดไปแล้ว ไม่ได้เจอกันตั้งสามปี ได้เจอแล้วนี่ไง ลุกขึ้นมาสิ ตื่นขึ้นมา จะได้คุยเล่นกันเหมือนเดิม ไปเดินป่า เก็บกระป๋องตามถนนขาย กินพิซซ่าหรือสเต็กเวลาที่มีเงิน ห่มผ้าให้เธอเวลาที่เธอนอนดิ้นจนผ้าห่มหลุดไปกองอยู่ปลายเท้า



                    “อย่าทิ้งหนู” โบพูดด้วยเสียงสะอื้น ดวงตาร้อนผ่าว น้ำตาไหลอาบสองแก้ม หัวไหล่สองข้างสั่นเทา “อย่า... อย่าทิ้งหนู หนูจะอยู่ยังไง”  



                    ปู่เป็นคนเดียวที่โบเหลืออยู่ แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว เธอทำอะไรไม่ถูก ร่างกายทุกส่วนเหมือนจะไม่ทำงาน ริมฝีปากขบกัดแน่นจนเลือดไหลซิบ หญิงสาวก้มลงมองมือของตัวเอง ความคิดบ้าดีเดือดแวบผ่านเข้ามา มันอยากได้ร่างเธอนักใช่ไหม? มันอยากได้เพื่อเอาไว้ฆ่าคนอื่น ดูซิว่า ถ้าเธอทำอย่างที่จะกำลังจะทำต่อไป มันจะยังอยากได้ร่างของเธออีกไหม โบหายใจแรง ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ความตั้งใจมุ่งมั่นกลับมาอีกครั้ง เฮนรี่ มาร์เรนเดินไปเดินมาไม่ได้หรอก ถ้าไม่พกอาวุธเลยสักอย่าง ต้องมีมีดสักเล่มบ้างละ โบล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนอกแขนสั้นลายต้นมะพร้าวของปู่ จริงอย่างที่เธอคิด ปู่มีมีดพกแบบพับได้เก็บไว้ด้วย



                    โบมองใบมีดคมกริบ หัวใจเต้นแรง เธอตัดสินใจแล้ว ไม่มีถอยหลังกลับ หญิงสาวถือมีดไว้ในมือซ้าย จัดการจรดคมมีดลงที่ข้อมือข้างขวา จริงๆแค่เฉือนครั้งเดียวให้โดนเส้นเลือดใหญ่ เธอก็คงจะตายเพราะเสียเลือดได้ แต่เธอไม่ต้องการที่จะตาย เธอแค่อยากตัดมันทิ้ง ใช่ เธอบ้าไปแล้ว บ้าอย่างมากด้วย ไม่มีอะไรจะเสีย ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ก็เป็นวิธีต่อสู้แบบหมาจนตรอก วินาทีที่มีดเฉือนเข้าเนื้อ มันเจ็บ ปวด เลือดไหลอาบหยดลงพื้น ผิวหนังเปิดแยก เธอเฉือนลึกไปจนถึงกล้ามเนื้อ เหงื่อออกเต็มหน้า ริมฝีปากซีดเซียว แต่ใจสู้ มุ่งมั่น เจ็บเจียนตายแค่ไหน ก็ไม่ยอมถอย



                    ตอนนั้นเองหัวใจเริ่มเต้นแปลกๆ เธอรับรู้การมาถึงของเขาก่อนที่จะเห็นตัว แต่จะลุกหนีก็ไม่ทัน อีกอย่างตอนนี้ เธอเสียเลือดมากเกินไปจนน่าจะวิ่งไม่ไหว  



                     “ทำบ้าอะไร” เสียงนั้นไม่ได้ราบเรียบ ใจเย็นเหมือนอย่างทุกที แต่เป็นเสียงตะคอก ตามมาด้วยแรงกระชากดึงมีดออกไปจากมือซ้ายของโบ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาแข็งกระด้างโกรธจัด เกลียดซึมลึกไปจนถึงก้นบึ้งอย่างที่โบไม่คิดว่าเธอจะเกลียดอะไรได้มากเท่านี้ เป็นเพราะเขา ทั้งหมดเลย เธอพยุงตัวลุกขึ้นยืน กรีดร้องเหมือนสัตว์คลั่ง ให้มันรู้ไปสิว่าใครคลั่งได้มากกว่ากันระหว่าง โบ มาร์เรนคนนี้ กับพรีเดเตอร์นั่น เธอกระโจนเข้าใส่ หมายจะแย่งมีดกลับมา ไม่เจียมตัวว่าแรงน้อยกว่า หรือตัวเล็กกว่า



                    “เพราะแก เป็นเพราะแก!” จากความโศกเศร้าเปลี่ยนเป็นความโกรธ และกลายเป็นความเกลียดที่เยียวยาไม่ได้อีกแล้ว เขาโยนมีดทิ้งไปและคว้าแขนทั้งสองข้างของเธอ “ปล่อยฉัน ปล่อยสิเว้ย” เธอดิ้นพรวดพราด กำปั้นข้างซ้ายเงื้องุด พยายามสะบัดออกจากมือของเขาให้ได้ ดิ้นไปดิ้นมาก็เริ่มเหนื่อย เลือดจากข้อมือขวายังไหลไม่หยุด แผลลึกและกว้างมากจนน่ากลัว ต่อให้ใจพร้อมสู้แค่ไหน สุดท้ายก็แพ้ให้กับร่างกายของตัวเองอยู่ดี หัวใจของโบเต้นแรงกระแทกทรวงอก ศีรษะวิงเวียน เหงื่อไหลเต็มหน้า หมดแรง



                    “บ้าหรือว่าโง่กันแน่”



                    เธอได้ยินเสียงเขาพูดเย้ยหยัน เจือไปด้วยความไม่พอใจ นาทีต่อมา ร่างของเธอก็ถูกยกลอยขึ้นจากพื้น อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหนีไปไหนไม่ได้ ข้อมือข้างขวาที่บาดเจ็บหนักวางพับอยู่บนหน้าท้อง เลือดยังไหลอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ โบเหลือบมองไปข้างล่าง มองหาปู่ เธอควรได้ฝังเขา ควรได้กล่าวลา แต่ผู้ชายใจหินคนนี้ไม่มีวันยอมให้เธอทำ ต่อให้เธอทิ้งศักดิ์ศรีและเอ่ยคำขอร้อง ก็ไม่มีประโยชน์ หยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาอีก ใบหน้าของหญิงสาวเหยเกบิดเบี้ยว เธอหลับตาแน่น ปล่อยเสียงสะอื้นลอดผ่านริมฝีปาก มือข้างซ้ายยกขึ้นมาทุบเขาเสียงดังอั้ก ทุบด้วยความคับแค้นใจ เพราะเธอไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว จากการทุบ เปลี่ยนเป็นแค่ขยำเสื้อยื้อยุดเอาไว้ เธอสะอื้นเหมือนเด็กเล็กๆที่หลงทางกับพ่อแม่ สะอื้นอย่างเจ็บปวดรวดร้าว แตกสลาย



                    ไม่ได้รู้หรือสังเกตสักนิดว่าอีกฝ่ายกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นทุกย่างที่ก้าวเดิน เขาพาเธอขึ้นเฮลิคอปเตอร์ โบได้ยินเสียงเขาตวาดออกคำสั่งกับแพทย์สนาม ระหว่างที่เธอลืมตาปรือ จะสลบเหมือดอยู่แล้ว รู้สึกได้ว่าตัวเองนั่งอยู่บนตักและแผ่นหลังกับศีรษะแนบอยู่บนอกกว้างของเขา มีใครไม่รู้กำลังปฐมพยาบาลข้อมือของเธออย่างระมัดระวังเต็มที่ แต่เขากอดร่างเธอไว้ แขนข้างหนึ่งรวบอยู่รอบเอว และอีกข้างบีบมือซ้ายของเธอเหมือนไม่ต้องการให้มันขยับได้ คงกลัวว่าเธอจะใช้มือข้างที่ยังปกติสร้างความวุ่นวายอีก



    ท่ามกลางความโกลาหล และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย โบไม่คิดว่าความรู้สึกแปลกๆจะผุดพรายแง้มหน้าออกมาทีละน้อย เธอกลัวเขา เกลียดมากด้วย เกลียดจนไม่รู้จะพูดหรือบรรยายออกมาได้ยังไง อยากจะฆ่าเขาให้ตาย อยากจะทำให้ใบหน้าไร้อารมณ์สมบูรณ์แบบของเขายับเยิน เขาเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายในชีวิตเธอ เขาทำให้เธอต้อง - - โบคิดถึงปู่ขึ้นมาอีก หัวใจบีบรัดอย่างทุรนทุราย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น ไม่หรอก ไม่ใช่ แค่เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย และเธอเป็นผู้หญิง ปู่เคยบอก มีสุภาษิตทางตะวันออกกล่าวว่า ชายหญิงเหมือนน้ำมันกับไฟ เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นไปตามธรรมชาติ ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้ง ไม่มีวันหรอก เขาทำให้ปู่ของเธอต้องเป็นแบบนั้น เขาทำลายเธออย่างไม่มีชิ้นดี โบรู้สึกว่าชีวิตเธอแหว่งวิ่นหนักกว่าเดิม อย่างที่ไม่มีทางจะเติมเต็ม



    ความเหนื่อยอ่อนจู่โจมเธออย่างเนิบช้า ศีรษะของเธอแนบอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจของเขาพอดี ได้ยินเสียงมันเต้นตุบๆ ไม่อยากเชื่อว่าพวกมันจะมีหัวใจด้วย เธอคิดอย่างประชดประชัน เขาขยับแขน กอดเธอแน่นขึ้น อากาศเย็นยามใกล้รุ่งทำอะไรเธอไม่ได้เลย โบอยากจะดิ้นหนีห่างออกไป แต่รู้สึกสบายตัวเกินกว่าจะทำ ดวงตาค้างแข็งไร้วิญญาณของปู่วนเวียนอยู่ในความคิด เธอเจ็บปวดเหมือนมีเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มตำ ดวงตาของเธอร้อนขึ้นมาอีก น้ำตาหยาดรินเงียบๆ ขณะที่เริ่มทนความอ่อนล้าไม่ไหว เปลือกตากำลังจะปิด เธอรู้สึกถึงมือของอีกฝ่ายลูบศีรษะเปียกชื้นด้วยเหงื่อของเธออย่างแผ่วเบา นุ่มนวลปลอบโยนอย่างไม่น่าเชื่อ



    โบงุนงง สับสน ไม่เข้าใจ เธอผล็อยหลับไปทั้งที่ยังรู้สึกขัดแย้ง                     









    Writer's talk

    ยังอ่านกันอยู่ไหมเอ่ย คิดอย่างไร บอกกันบ้างนะคะ ยังสนุกไหม? ชอบตัวละครไหน? คิดว่าถ้าเจอสถานการณ์แบบเดียวกันกับตัวละครในเรื่อง จะตัดสินใจยังไง 


    ร้องเพลงไว้ในคอมเมนท์กันบ้างนะคะ       


    สามารถติดตามการอัพได้อีกหนึ่งช่องทางคือ เฟซบุ๊กเพจนะคะ   จิ้มเลยอย่างเหนียมอาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×