โรงเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ (เปิดเทอม)

ลำดับตอนที่ #33 : ชั้นที่ 1 ชั้นคนเก็บอาวุธต่ำต้อย

ชั้นที่ 1 ชั้นคนเก็บอาวุธต่ำต้อย


สวัสดีเหล่า "คนเก็บอาวุธต่ำต้อย"
หากเจ้าต้องการเป็นนักรบผู้ห้าวหาญ อัศวินผู้ชาญชัย ปกครองกองทัพปีศาจแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้อาวุธต่างๆ ทั้งยุทธโธปกรณ์
และตำแหน่งคนในสนามรบต่างๆ
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง








ภารกิจ

ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด4 ภารกิจ
ท่านจะเลือกทำภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้หรือเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้
(*นักรบปิศาจเรียกอีกชื่อว่านักรบผู้กล้า)

ภารกิจที่ 1
ภารกิจที่ 2

ภารกิจที่ 3

ภารกิจที่ 4

ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น  ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์




การสอบเลื่อนระดับ

หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 2 ชั้น "อัศวินผอมกะหร่อง"
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป

คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป



บทเรียนที่ 1 อาวุธในสงคราม


"สวัสดีครับนักเรียน เรียกผมว่า ศจ.โซล ได้เลยนะครับ
ก่อนอื่นเลย เรามาเริ่มเข้าสู่บทเรียนบทแรก
นั่นคือเรื่อง 'อาวุธในสงคราม' ก่อนดีกว่าครับ"

...มนุษย์ นั้นได้ทำการประดิษฐ์คิดค้นอาวุธเพื่อประหัตประหารกันมานับตั้งแต่โบราณกาล
อาวุธสามารถมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือไปจนถึงขนาดใหญ่เทียมฟ้า
สามารถมีทั้งรูปร่างที่น่าหวาดหวั่นหรือสุดแสนจะธรรมดา
จนไม่น่าเชื่อว่ามัน จะเป็นอาวุธ มีวิธีการทำลายล้างและฆ่าฟันที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วน
อัศวินที่ดีควรจะทำความรู้จักกับอาวุธทั้งหลายให้ดี
อาวุธ ในสงครามแบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ นั้นก็คือ
อาวุธระยะประชิด (Melee weapon) และ อาวุธระยะไกล (Ranged weapon)
ซึ่ง! อาวุธแต่ละชนิดล้วนมีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันไป

"ผมจะมาแนะนำอาวุธระยะประชิดเป็นอันดับแรกก่อนนะครับ"


Melee weapons อาวุธระยะประชิด
มีอยู่สามชนิด คือ...

1.อาวุธด้ามยาว  มีดังนี้
-ง้าว -ฉมวก -หอก -แป๊ะกั๊ก -อื่นๆ

2.อาวุธตะบัน   มีดังนี้
-ลูกตุ้ม -อื่นๆ

3.อาวุธมีคม  มีดังนี้
-ไซ -ดาบ -มีด -ขวาน -หอก -อื่นๆ

"เพื่อให้ข้อมูลชัดเจนขึ้นอีกขั้น ศจ. จะมีตัวอย่างอาวุธที่ ศจ. นำเสนอได้แก่"

หอก (Spear) - อาวุธสงครามที่ถือว่าโบราณและเรียบง่ายที่สุด
เป็นวัตถุแท่งยาวๆ ที่มีปลายแหลม สู้ด้วยใซ้การแทงศัตรูเป็นหลัก ได้เปรียบในระยะใกล้
แต่หากใกล้จนประชิดตัวหอกจะหมดประโยชน์ ในทันที
ควรรักษาระยะห่างกับอาวุธสั้น เช่น ดาบ และ มีด

ดาบ (Sword)  - อาวุธยอดนิยมของนับรบทั้งหลาย
มีความคล่องตัวสูงและพกพาง่าย สามารถ แทง ฟัน และ ฟาด ได้
เป็นอาวุธแท่งสั้นๆ มีดาบจับเป็นไม้และตัวดาบเป็นโลหะ ตัวดาบที่เป็นรูปทรงจันทร์เสี้ยวจะเฉือนได้ง่ายกว่า
แต่ตัวดาบที่เป็นแท่งยาวจะแทงได้ง่ายกว่า เป็นอาวุธที่ใช้งานง่ายแต่พิษสงเหลือร้าย

ขวาน (Axe)  - อาวุธที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุด การฟาดในครั้งเดียวสามารถทำให้กระดูกหักและพิการได้
แรงกระแทกของมันสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บบอบช้ำรุนแรง
ถึงแม้ว่าจะไม่ทะลุชุดป้องกันหรือเสื้อเกราะก็ตาม
แต่อาวุธชนิดนี้มีความคล่องตัวต่ำ และ สามารถโจมตีได้เพียงรูปแปบเดียว
จึงแพ้ทางอาวุธที่มีความเร็วในการโจมตีมากกว่า



Ranged weapons อาวุธระยะไกล

ธนู (Bow and Arrow) – อาวุธที่ออกแบบมาเพื่อประหารศัตรูในระยะไกล
โดนทำการน้าวสายธนูและปล่อยให้แรงดีดถีบลูกศรให้ไปโดนเป้าหมาย
เป็นอาวุธที่ต้องใช้ทักษะสูงเพื่อที่จะใช้ให้ชำนาญและแม่นยำ
ระยะเวลาในการน้าวและยิงไม่ควรเกิน 3 วินาทีโดยประมาณ
เพราะ ยิ่งน้าวนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล่า
และทำให้ถือคันธนูส่ายไปมา ทำให้พลาดเป้าได้ง่ายๆ

หน้าไม้ (Crossbow) – เป็นอาวุธกลไกลที่โบราณที่สุดที่เคยคิดค้น ทำงานโดยการน้าวสายหน้าไม้มาไว้ที่จุดดัก
และ กดไกด์ปืนหน้าไม้ ซึ่งจะปล่อยจุดดักและทำให้สายธนูปล่อยแรงดีดถีบลูกศรออกไป
เนืองจากมีจุดดักอยู่จึงไม่จำเป็นต้องน้าวค้างเอาไว้ ด้วยพลังทำลายล้างของกลไก
ทำให้มันสามารถเจาะเกราะหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปืน (Firearms) – อาวุธของสงครามสมัยใหม่ เป็นอาวุธที่ใช้ดินปืนเพื่อสร้างแรงระเบิด
ไปถีบลูกกระสุนให้ไปกระทบเป้าหมาย มีความร้ายกาจมากมหาศาล
แค่คนธรรมดาก็สามารถใช้เจ้านี้ล่มอัศวินเกราะเหล็กมากประสบการณ์ได้อย่าง สบายๆ
ปืนนั้นเป็นอาวุธที่มีกลไกซับซ่อน จึงทำให้ยุ่งยากเวลาบำรุงรักษา เวลาแตกหักเสียหายก็ซ่อมยากด้วยเช่นกัน
ปืนบางชนิดหากลำกล่องปืนไม่สะอาดก็จะทำให้เกิดการติดขัดได้ง่ายๆ 

และ...

มีด  เป็นอีกสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมา ถึงแม้ว่ามีดจะเป็นอาวุธระยะประชิด
แต่มันก็สามารถพลิกแพลงให้ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ดาวกระจาย มีดบิน เป็นต้น
ซึ่งเป็นอาวุธที่พกพาสะดวก ใช้งานง่าย และไม่ยุ่งยากเท่าอาวุธระยะไกลชนิดอื่น

"ซึ่ง! อย่างไรก็ตาม... จงรักษาอาวุธของท่านยิ่งชีพ เพราะมันเป็นตัวตัดสินว่าท่านจะอยู่หรือตาย"

"แต่ในบางครั้ง ชีวิตของท่านก็สำคัญมากพอที่จะละทิ้งมัน
และเปลี่ยนเป็นอาวุธชิ้นใหม่ที่เหมาะสมกว่าได้เช่นกัน"
กล่าวจบเขาก็ขยิบตาให้เหล่านักเรียนที่มองมาก่อนจะเก็บอาวุธไว้ใต้เสื้อคลุม



บทเรียนที่ 2 ตำแหน่งหน้าที่ในสนามรบ


"สำหรับการควบคุมกองทัพปีศาจหรืออยู่ในสนามรบ
จะต้องรู้ตำแหน่งต่างๆในสนามรบด้วย 
...ซึ่ง ศจ. เองก็เป็นพวกโซโล่เดี่ยวส่วนใหญ่
บ้างก็ได้ทำภารกิจลับแทนมากกว่า เรื่องนี้จึงไม่ค่อยคล่องตัวนัก"
ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ
"เอาเป็นว่า ศจ. มีเนื้อหาในหนังสือเก่าที่สามารถยืนยันข้อมูลได้อยู่
เรามาทำความรู้จักกับตำแหน่งหน้าที่ในสนามรบกันครับ"

เพื่อนักรบที่ดีควรจะทำความรู้จักกับหน้าที่ต่างๆ ร่วมไปถึงขั้นตอนบัญชาการให้ดี  
สงครามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่นักรบที่โรมรันกันเท่านั้น
แต่ประกอบไปด้วยผู้คนหลายหน้าที่ ซึ่งจะค่อยช่วยเหลือท่านให้พ้นภัย

หากท่านตระหนักถึงความสำคัญของหน้าที่ทั้งหลายแล้ว
ท่านก็จะเข้าใจถึงหน้าที่ของท่านในสงครามเอง
       
"ก่อนเราจะไปเรียนรู้หน้าที่ มาศึกษาโครงสร้างของกองทำกันก่อนดีกว่าครับ"

โครงสร้างของกองทัพ 

ประกอบด้วย

กองทัพ (Army) คือหน่วยที่ใหญ่ที่สุดในสนามรบมีขนาดทหารตั้งแต่หลายหมื่นถึงเรือนแสน
กองทัพหนึ่งจะประกอบไปด้วย หลายสิบ...

กองพล(Regiment) ซึ่งมีขนาดทหารหลายพันนาย ในหนึ่งกองพลจะประกอบไปด้วยหลาย...

กองร้อย (Company) ซึ่งมีขนาดหลายร้อยนาย ในหนึ่งกองร้อย จะ ประกอบไปด้วย...

หน่วย (Squad) หลายสิบหน่วยอีกที

"ซึ่งโครงสร้างของกองทัพจึงเหมือนกับพีรามิดครับ ต่อมาก็..."

หน้าที่ในสงคราม สายบัญชาการ
(Commanding body)

จอมพล (Marshal) – ผู้บัญชาการสูงสุดในสนามรบ มีหน้าที่ในการวางแผนการรบและควมคุมกองทัพทั้งหมด
ถือว่าเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงที่สุด

แม่ทัพ (General) – ผู้บัญชาการของกองทัพนั้นๆ มีหน้าทีดูแล
และวางแผนการรบในแนวหน้าสำหรับกองทัพของตนเอง

นายพล (Colonel) – ผู้บัญชาการของกองพล ที่หน้าทีให้ทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

นายกอง (Major) – ผู้บัญชาการกองร้อย

หัวหน้าหน่วย (Squad leader) – ผู้นำหน่วยทหารทั้งหมด

"หากผู้บัญชาการทัพดูแลกองทัพของตนไม่ดี... ก็มีสิทธิ์ที่กองทัพทั้งหมดจะแพ้และล้มลงในที่สุด
ใครที่คิดจะเป็นผู้บัญชาการล่ะก็... โปรดรักษาสติและความรอบคอบของท่านไว้ให้ดีล่ะ"

หน้าที่ในสงคราม หน่วยรบ
(Combat Unit)

    ทหารราบ (Infantry) – ทหารเดินเท้าเป็นกระดูกสันหลังของกองทัพ
ฆ่าฟันศัตรูด้วยการ ฟาดฟันให้ตายไปข้าง

    ทหารม้า (Cavalry) – ทหารม้ามีความว่องไวสูง สามารถพุ่งชาร์ตไปยังศัตรู
แล้วส่งไปลอยฟ้าได้และ ทำการตีโอบศัตรู

    พลธนู (Archer) – เป็นทหารที่ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน
ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องเกรงกลัวฝนลูกศร ที่จะตกลงมาแน่นอน

พลปืนใหญ่ (Artillery) – เป็นหน่วยรบสนับสนุน สามารถทำลายศัตรูได้เป็นจำนวนมากในการยิงครั้งเดียว
และ มีความสามารถสูงในการทำลายป้อมปราการ แต่ก็ตายง่ายทีสุดเช่นกันถ่าไม่มีไครดูแล

หน้าที่ในสงคราม หน่วยสนับสนุน
(Support Unit)

หน่วยข่าวกรอง (Intelligence) – รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง หน่วยนี้มีหน้าที่ในการหาข่าวสารของศัตรูเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการรบ ถือว่าเป็นหน้าที่ ที่สำคัญมาก ข้อมูลเดียวอาจจะพลิกฉากสงครามได้

หน่วยวิศวกร (Engineer) – มีหน้าที่หลากหลาย ทั้งค่อยซ่อมสะพานและถนนสำหรับการเดินทัพ
หรือ จะสร้างป้อมปราการและที่ตั้งรับให้กับทหารเมือต้องเผชิญกับศัตรู

หน่วยแพทย์ (Medic) – หนึ่งในหน้าที่ทีสำคัญที่สุดในสนามรบ ค่อยยื้อชีวิต
และ รักษาอาการบาดเจ็บของทหาร ช่วยลดอันตราการสูญเสียของกองทัพได้

"เอาล่ะ จบบทเรียนช่วงต้นกันไปเรียบร้อยแล้ว
นักเรียนจะเห็นว่าผมสอนท่านยังไม่ลึกมากพอ
เรื่องนั้นเพราะต้องการให้ท่านไปหาข้อมูลและศึกษาเพิ่มในลำดับถัดไป
หากมีเรื่องสงสัย สามารถคอมเม้นส์ถามได้ในชั้นเรียนนี้
ผมจะตอบคำถามของท่านเท่าที่ตอบได้ให้ครับ"

"ไว้เจอกันครับ"