หอสมุดต้องห้ามแห่งดาร์คแลนด์

ลำดับตอนที่ #115 : มังกรพันธุ์ต่างๆ

 มังกรพันธุ์ต่างๆ
 

  

มังกรเป็นสัตว์ในเทพนิยายที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี  ด้วยขนาดที่ใหญ่โต
ทรงพลังและสง่างามของมันย่อมดึงดูดความสนใจของเด็กๆหรือแม้แต่ผู้ใหญ่ทั่วโลกได้ไม่ยาก

มังกรตัวเมียส่วนมากดุร้ายกว่าตัวผู้, อวัยวะต่างๆของมังกรให้คุณสมบัติทางเวทมนตร์สูง
(อาทิ เช่น หัวใจ ตับ หรือเขา) เรามักจะรู้จักมังกรด้วยคำนิยามเพียงเท่านั้น
แล้วในเรื่องของที่มาและลักษณะของพวกมันล่ะ? แม้จะเป็นตำนานแต่มังกรย่อมไม่ได้มีตัวเดียวหรือพันธุ์เดียวในโลก เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง เจ้ามังกรของเราคงต้องเหนื่อยกับการบินไปปรากฏตัวทั่วโลกและเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันทุกครั้งที่โชว์ตัวเป็นแน่

ฉะนั้นต้องขอขอบคุณหนังสือ “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ โดย นิวท์ สคามันเดอร์” มา ณ ที่นี้สำหรับข้อมูลที่(อาจ)ช่วยอธิบายได้ว่าเจ้ามังกรที่ปรากฏอยู่ตามที่ต่างๆทั้งหลายทั่วมุมโลกนั้นมาจากไหนกันบ้าง

เผื่อวันหนึ่งพวกท่านอาจจะไปจอพวกมันเข้า…ได้ความรู้เกี่ยวกับตัวมันไว้บ้างคงไม่เสียหาย
 

 

1.     จีนลูกไฟ / มังกรสิงโต  (Chinese Fireball)

มังกรเอเชียเพียงพันธุ์เดียว รูปร่างแปลกแตกต่างจากมังกรทั่วไป เกล็ดเรียบสีม่วง ใบหน้าสั้นและย่น มีระบายครีบสีทองล้อมรอบใบหน้า ดวงตาโปน พ่นไฟได้ น้ำหนัก 2-4 ตัน ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ไข่เป็นสีทับทิมมีจุดทอง เปลือกไข่มัค่าเพราะนำไปประกอบเวทมนตร์ของจีนได้ มีนิสัยดุร้ายแต่มีความอดทนต่อพวกเดียวกันเองสูง พันธุ์นี้กินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นหลัก

2.     นอร์เวย์หลังเป็นสัน (Norwegain Ridgeback)

มีลักษณะคล้ายคลึงกับพันธุ์ฮังการีหางหนามในหลายๆด้าน เพียงแต่มีสันสีดำยื่นออกมาจากหลังแทนหนามที่หาง พันธุ์นี้จะดุร้ายกับพันธุ์เดียวกันเป็นพิเศษและถูกจัดเป็นพันธุ์มังกรที่หายากขึ้นทุกที นอกจากจะกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแล้วนอร์เวย์หลังเป็นสันยังกินสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำด้วย ไข่เป็นสีดำและตัวอ่อนจะมีพัฒนาการด้านการพ่นไฟเร็วกว่าพันธุ์อื่น (ระหว่าง 1-3 เดือน)

 

3.     เพรูเวียน ไวเปอร์ทูท / เปรูเขี้ยวพิษ (Peruvian Vipertooth)

เป็นมังกรพันธุ์เล็กที่สุดและบินเร็วที่สุด ความยาวราว 15 ฟุต เกล็ดเรียบสีทองแดง มีสันสีดำ เขาสั้น เขี้ยวมีพิษรุนแรง พันธุ์เขี้ยวพิษชอบกินเนื้อแพะและวัวแต่ก็สนใจในเนื้อมนุษย์เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีการลดจำนวนมังกรพันธุ์นี้ลงเมื่อปลายศตวรรษที่ 19

 

4.     ยูเครเนียน ไอรอนเบลลี / ยูเครนกระเพาะเหล็ก (Ukrainian Ironbelly)

เป็นมังกรพันธุ์ใหญ่ที่สุด น้ำหนักมากที่สุด 6 ตัน ตัวกลมป้อม บินช้ากว่าพันธุ์เขี้ยวพิษและโรมาเนียเขายาว อย่างไรก็ตามมังกรพันธุ์นี้อันตรายมาก เนื่องจากสามารถทำลายบ้านเมืองให้ราบเป็นหน้ากลองได้ มีเกล็ดสีเทาเป็นมัน ตาสีแดงเข้ม กรงเล็บยาวและแหลมคม
 

5.     โรมาเนีย ลองฮอร์น / โรมาเนียเขายาว (Romanian Longhorn)

เกล็ดสีเขียวดำ เขาสีทองเป็นประกาย (ซึ่งมักจะใช้เสียบเหยื่อย่างไฟ) เมื่อเอาไปป่นเป็นผงแล้วมีค่ามาก ใช้เป็นเครื่องปรุงยาได้ ปัจจุบันนี้ดินแดนแหล่งกำเนิดของพวกมันได้กลายเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์มังกรที่สำคัญที่สุดในโลก (พ่อมด) เนื่องจากการล่าเอาเขา ทำให้เกิดโครงการเพาะพันธุ์เร่งด่วนเนื่องจากจำนวนที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

6.     เวลส์สีเขียวธรรมดา (Common Welsh Green)

มังกรพันธุ์นี้มีสีเขียวที่กลมกลืนกับหญ้าที่บ้านเกิดของมันเป็นอย่างดี มักทำรังบนเขาสูงซึ่งกำหนดไว้เป็นเขตอนุรักษ์เพื่อให้มันอยู่อาศัย สายพันธุ์นี้จัดอยู่ในประเภทที่สร้างปัญหาน้อยที่สุด ชอบกินแกะเป็นอาหารและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมนุษย์ ยกเว้นเมื่อถูกรบกวน พันธุ์เวลส์สีเขียวมีเสียงคำรามสูงๆต่ำๆเหมือนเสียงดนตรี เป็นเสียงที่จดจำได้ง่าย มันพ่นไฟได้เป็นลำบางๆ ส่วนไข่นั้นเป็นสีน้ำตาลหม่นมีจุดสีเขียว
 

7.     สวีเดนจมูกสั้น (Swedish Short-Snout)

มีสีฟ้าเหลือบเงินงดงาม คนมักเอาหนังของมันมาทำเป็นถุงมือและโล่ เปลวไฟที่พ่นออกมาเป็นสีฟ้าใส (ซึ่งเผาผลาญไม้หรือกระดูกได้ในเวลาไม่กี่วินาที) พันธุ์นี้ฆ่ามนุษย์น้อยกว่ามังกรส่วนใหญ่ มักอาศัยอยู่ตามป่าเขาที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ จึงไม่มีวีรกรรมมากนัก

                  

 

8.     แอนติโพเดี้ยน โอเพิลอาย / แอนติโพเดี้ยนตาสีรุ้ง (Antipodean Opaleye)

ถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในนิวซีแลนด์แต่ก็อพยพไปอยู่ออสเตรเลียในเวลาต่อมาเนื่องจากที่อยู่อาศัยในบ้านเกิดเริ่มไม่เพียงพอ ศัยในหุบเขามากกว่าตามภูเขา มังกรพุนธุ์นี้มีขนาดกลาง น้ำหนักระหว่าง 2-3 ตัน มีดวงตาหลากสีส่องประกายปราศจากม่านตา และอาจเป็นมังกรที่สวยงามที่สุดก็เป็นได้ มีเกล็ดมันวาวสีเหลือบรุ้ง พันธุ์นี้พ่นไฟเป็นสีม่วงเจิดจ้า ไม่ดุร้ายนักตามมาตรฐานของมังกรทั่วไป จะฆ่าก็ต่อเมื่อหิว อาหารโปรดคือแกะ ไข่เป็นสีเทาซีดซึ่งคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องมาพบเข้าจะเข้าใจผิดเป็นฟอสซิล

            
 

9.     ฮังการีหางหนาม (Hungarian Horntail)

คาดว่าดุร้ายที่สุดในบรรดามังกรทุกสายพันธุ์ มีเกล็ดสีดำและรูปร่างคล้ายกิ้งก่า ตาสีเหลือง เขาสีบรอนซ์ และหนามสีบรอนซ์เช่นเดียวกันที่หาง พันธุ์หางหนามพ่นไฟได้ไหลที่สุด (15 ฟุต) ไข่สีเทาเหมือนซีเมนต์และเปลือกแข็งมาก ตัวอ่อนจะเจาะเปลือกออกมาโดยใช้หางซึ่งมีหนามแหลมติดตัวมาตั้งแต่เกิด มังกรพันธุ์นี้กินแพะ แกะ และมนุษย์หากมีโอกาส

 

10.     เฮบริเดี้ยนสีดำ (Hebridean Black)

มังกรท้องถิ่นของอังกฤษอีกสายพันธุ์ที่ดุร้ายกว่าพันธุ์เวลส์สีเขียวเพื่อนร่วมท้องถิ่นมาก มังกรพันธุ์นี้ใช้พื้นที่อยู่อาศัยถึง 100 ตารางไมล์ต่อ 1 ตัว ยาวได้ถึง 30 ฟุต เกล็ดขรุขระ ตาสีม่วงสุกใส และมีสันเตี้ยๆคมกริบเรียงเป็นแถวตลอดแนวสันหลัง ปลายหางมีหนามขนาดใหญ่ลักษณะเหมือนลูกศร มีปีกเหมือนค้างคาว กินกวางเป็นอาหารหลัก