ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนพีอา แคว้นในตำนานที่สาบสูญ

    ลำดับตอนที่ #9 : ------------------ปราสาทเอคคีเซีย อาณาจักรผู้อยู่แสงสว่าง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 59


    เอคคีเซีย
    อาณาจักรผู้อยู่แสงสว่าง



    "ความจริงของปราสาท
    ....และการล่มสลาย"




     
     

    ปราสาทที่เชื่อว่าเป็นที่พำนักของชาวไลท์แลนด์ ซึ่งในอดีตเปนพันธมิตรที่ดี และเป็นคู่แข่งชิงดีชิงเด่นกันมานาน กับดาร์คแลนด์
    ราชวงศ์ไลท์แลนด์ มักมาพำนักที่นี่บ่อยครั้ง
    อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุุบางอย่างทำให้เกิดการแตกเเยกระหว่างสองเมือง และปราสาทแห่งนี้ก็ล่มสลายไปพร้อมกับเนพีอา







    ตำราโบราณ



    เป็น หนังสือที่เขียนด้วยลายมือเชื่อว่าน่าจะอยู่ในยุคกลางของอาณาจักรเนพีอาถูก เขียนขึ้นมาในประมาณช่วงกลางของศตวรรษก่อนจะล่มสลายหรือหายไปอย่างลึกลับ ซึ่งเป็นเรื่องทียังคงสงสัยในวงการนักโบราณคดีและกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ส่วน ภาษาที่ใช้เป็นภาษาโบราณของชาวดาร์ก เรียกว่า “อาร์เมเนียนดาร์ก” อักษรที่มีตัวอักษรผสมคำได้ แล้วยังเขียนจากซ้ายไปขวาก็ได้ ขวาไปซ้ายก็ได้บนลงล่างก็ยังได้อีก. ในการแปลภาษาได้ใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยและตัวโปรแกรมวิเคราะห์ทำให้รู้ ว่าในบางจุดได้มีการเชื่อมโยงภาษา “คอบติกดาร์ก”เข้าไปด้วย บรรดาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางการแปลต่างๆในหลายแขนง
    ได้แต่ส่ายหน้าต่อการค้นพบครั้งนี้ว่ามันช่างสูญเปล่าแต่กลับมีค่ายิ่งไป พร้อมๆกันเพื่อไม่ให้สิ่งที่ได้เป็นการไร้ค่า ตัวของเรา อเลน มิคาเอล ยูมาลันวาลอน จึงได้ใช้ความสามารถพิเศษ เรียกว่า
    V to (เดา) เริ่มทำการร่วมแปลภาษาและขุดค้นไปตามแผนที่ ที่มีแถมไว้ให้จากทางด้านหลังเหมือนหนังสือสรุปบทเกมท้ายๆไม่งั้นคงต้อง เริ่มใหม่อีกครั้งแต่เสมือนเทวดาช่วยดันปีศาจไสส่งก็เป็นได้หลังจากที่ขุด ค้นพบชิ้นส่วนกระดูกก็ได้พบของมีค่าต่างๆและเมื่อขุดลึกลงไปเราได้ทำการเจอ ภาพวาดของอาณาจักรและเมื่อทำการแปลด้วยความสามารถพิเศษ บรรดาศาสตราจารย์ต่างๆตบมือในชัยชนะการแปลรั้งนี้(อันที่จริงมันมีรูปอยู่ ด้านหลังเลยเดาว่าน่าแปลมาจากอันนี้) ชื่อของปราสาทแห่งนี้มีนามว่า
    “ Ekklesia” อาณาจักรผู้อยู่แสงสว่าง



    เส้นทางลับ




    หนังสือโบราณที่ค้นพบมีชื่อว่า " บันทึกตำนานสุดท้ายระหว่างแสงสว่างกับความมืด"

    หลังจากที่ได้ทราบชื่อและที่มาบางส่วนทำให้เกิดความสับสนเพราะเชื่อว่าอาณาจักรดาร์ก
    ในสมัยก่อนจะมีแต่ความมืดปกคลุมทั่วทั้งไอหมอกที่หนาแน่นความลับที่แฝงอยู่นั้นคืออะไร?
    เพื่อหาคำตอบทางทีมสำรวจเอ็นเจลเริ่มทำการขุดค้นโดยเร็วจนเจอป้ายสลักข้อความไว้แต่เนื่องออกมาจากถ้ำด้านใน
    สุดทำให้เกิดแตกเป็นรอบร้าวจำนวนมากและกลายเป็นเศษหินเล็กๆ แต่จากข้อความโบราณที่ได้

    "...................ความเป็นดาวย่อมแสดงโดยแสงฉาย
    มิใช่หมายเข้มกล้าหรือล้าอ่อน
    แต่กล้าต้านต่อแสงอันแรงร้อน
    กล้าส่องซ้อนสู้แรงแสงตะวัน..........................."

    เชื่อว่าน่าจะเป็นข้อความใบ้ที่ไปที่มาของปราสาทเอคครีเซีย
    จากเส้นทางลับทำให้พบกับปราสาทเอคครีเซียในที่สุด




    ปราสาทร้าง


     

    ซากโบราณทางด้านหน้าทำให้เหล่านักขุดค้นท้อใจเนื่องจากสภาพทีคาดไว้
    อาจจะได้ข้อมูลน้อยกว่าที่คาด

    เมื่อนำข้อความที่ได้จากแผ่นหินซึ่งแตกไปแล้วกลับมาวิเคราะห์อีกรอบก็พบว่า
    แสงดาวในที่นี้น่าจะหมายถึงปราสาทที่1เอคครีเซีย ส่วนคำว่าต้านสู่น่าจะหมายถึง
    การต่อกรกับพลังบางอย่างถ้านี่คือข้อความสถานที่ตั้งแล้วน่าจะหมายถึงเมืองที่อยู่บนฟ้า...






    ปราสาทเอคคีเซียที่ 1



    อยู่ประมาณต้นศตวรรษยุคแรกเริ่มของดาร์ก
    จากการตีความจากแผ่นหินในหนังสือโบราณและภาพวาดเข้าด้วยการจึงสันณิษฐานว่า
    ไอหมอกได้ปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรและนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเสมือนลอยอยู่ในท้องฟ้ารับสู้แสงตะวัน
    แต่เมื่อไอหมอกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอาณาจักรจึงเปรียบเสมือนอยู่บนเมฆที่ลอยล่องในท้องฟ้าเหมือนดวงดาว
    เปล่งแสงเพื่อทำการสำรวจเราจึงต้องทำการเข้าไปเก็บข้อมูลด้านในของปราสาทกันต่อไป

    แต่การพบครั้งนี้นำมาซึ่งความดีใจของเหล่าทีมนักสำรวจกำลังใจกลับมาอีกครั้ง
    แต่อุปสรรคข้างหน้านั้นคือตำนานปราสาทเอคครีเซีย !



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×