ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ (เปิดเทอม)

    ลำดับตอนที่ #80 : ชั้นที่ 3 ชั้นเทพปีศาจฝึกหัด

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 59


    ชั้นที่ 3 ชั้นเทพปีศาจฝึกหัด



    สวัสดีเหล่า "เทพปีศาจฝึกหัด"
    หากเจ้าต้องการเป็นจอมเทพหรือจอมปีศาจแล้วไซร้
    ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์การต่อสู้ของเทพ สงครามปีศาจ
    ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ กับเทพปีศาจ
    และค้นหาพลังความดีชั่วในตัวเอง
    เพื่อควบคุมพลังงานแสงสว่าง และพลังความมืดในตัวเอง
    ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง









    ภารกิจ


    ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
    ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะต้องทำภารกิจเหล่านี้ให้หมด
    โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
    และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับรางวัล
    ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่าง ๆ ดังนี้




    ข้อควรระวัง
    อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
    ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
    เมื่อท่านโพสคอมเม้น  ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
    ให้แนบบัตรประ
    นักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้วยเสมอ
    และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์




    การสอบเลื่อนระดับ


    หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
    เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 4 ชั้น "จอมเทพและปีศาจ"
    หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป


    คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป




     
    บทเรียนที่ 1 ประวัติศาสตร์การต่อสู้แห่งเทพ

    จากบันทึกโบราณ แต่เดิมนั้นเทพเป็นพวกที่รักสงบ ชอบสิ่งสวยงามที่สมบูรณ์แบบ เทพยังเป็นผู้ที่ครอบครองสิ่งที่งดงามที่สุด มีสติปัญญาที่ฉลาดหลักแหลม และเทพยังเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีพลังเหนือเผ่าพันธุ์อื่นอีกด้วย ดินแดนแห่งเทพสงบสุขมาโดยตลอดแต่แล้วก็เกิดการเหตุที่ไม่คาดคิดจากเทพกลุ่ม หนึ่งที่โดนความทะเยอทะยานต้องการความเป็นใหญ่เข้าครอบงำ ร่วมมือกับปีศาจกลุ่มหนึ่งที่คิดก่อการกบฎ ค่อยวางแผนให้สองเผ่าพันธุ์เกิดสงครามขึ้น ฝั่งเทพเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวของทางปีศาจจึงเริ่มจัดวางแผนเปิดศึกกลับเช่นกัน เมื่อสงครามระหว่างเทพและปีศาจเปิดฉากขึ้น ทุกดินแดนต่างเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลายาวนาน ไม่รู้จบ เทพและปีศาจผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนมีเทพและปีศาจคู่หนึ่ง พวกเขาสองคนมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์อย่างสงบจน มีสงครามระหว่างเทพและปีศาจเกิดขึ้น มันรุกรามจนมายังดินแดนของมนุษย์ สงครามครั้งนี้กลายเป็นสงครามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดมา มันกลายเป็นสงครามสามโลก พวกเขาไม่อาจทนมองดูการสูญเสีย ล้มตายของทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ได้ จึงออกมาทำให้สงครามครั้งนี้จบลง พวกดขาทั้งสองร่วมพลังกันเพื่อปิดผนึกสงครามในครั้งนี้

    “ข้าของใช้พลังของข้า แยกเทพและปีศาจออกจากกัน ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบลง จงอยู่ในที่ของตนเอง อย่าได้ข้องเกี่ยวซึ่งกันและกันอีกเลย....”

    หลังจากที่ตัวเขาทั้งสองได้ใช้พลัง ก็ไม่เคยมีใครพบเจอเขาอีกเลย...

     

         การต่อสู้ของเทพ ครั้งสำคัญและใหญ่ ๆ นับได้ 13 ครั้ง แบ่งออกเป็น กับปีศาจ 11 ครั้ง และกับ 2 ครั้ง จะยังไงก็แล้วแต่ ประวัตินี้ก็เป็นเพียงบันทึกที่ยังไม่สมบูรณ์อยู่ดี ในอนาคตอาจจะมีมากขึ้นกว่านี้อีกก็เป็นได้...

     


    บทเรียนที่ 2 ประวัติศาสตร์สงครามปีศาจ

         เท่าที่มีบันทึกไว้ว่า เผ่าพันธุ์ที่ถือกำเนิดจากความอ้างว้าง สิ้นหวัง และความทรมานในห้วงแห่งโลกันตร์ แต่ก่อนนั้นปีศาจเป็นเผ่าพันธ์ที่ชอบความบันเทิงเป็นชีวิตจิตใจ ชอบการละเล่น ทำตามใจตนเองเป็นที่หนึ่ง ชอบการต่อสู้ ผู้ที่มีพลังคือผู้เป็นนาย แต่แล้วเมื่อความทะเยอทะยานต้องการความเป็นใหญ่ และต้องการอำนาจ จึงทำให้เกิดการทรยศในดินแดนของปีศาจและเทพ ปีศาจกลุ่มนี้ร่วมมือกับเทพอีกกลุ่มที่คิดทรยศ เพื่อก่อการกบฎเพื่อความเป็นใหญ่ ปีศาจกลุ่มนั้นค่อยยุกยงให้ปีศาจในเผ่าพันธุ์จงเกลียดจงชังเทพ ปล่อยข่าวว่าเทพต้องการเป็นใหญ่เพียงเผ่าพันธุ์เดียว ต้องการทำลายล้างเผ่าปีศาจ ทางเผ่าปีศาจจึงต้องทำการเปิดศึกโจมตีก่อนถึงจะได้เปรียบ การต่อสู้ได้ขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง เมื่อเวลาผ่านไปเทพและปีศาจผลัดกับแพ้ชนะ ไปตลอด จนเทพและปีศาจคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ต้องออกมาเพื่อห้ามสงครามและ ทำให้สงครามครั้งนี้จบลง พวกเขารวมพลังกันเปิดหยุดยั้งสงครามในครั้งนี้

    “ข้าของใช้พลังของข้า แยกเทพและปีศาจออกจากกัน ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบลง จงอยู่ในที่ของตนเอง อย่าได้ข้องเกี่ยวซึ่งกันและกันอีกเลย....”

    เมื่อ เวลาผ่านไป ไม่มีใครรู้หรือพบเจอพวกเขาอีกเลย เทพและปีศาจยังคงไม่ถูกกันจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำสงครามแบบนี้อีก จะมีเพียงการต่อสู้บ้างเท่านั้น


     

         สงครามของปีศาจนั้นมีมากมาย แต่ที่สำคัญจริง ๆ มีอยู่เพียง 13 กับเทพ11 ครั้ง และกับ 2 ครั้ง จะยังไงก็แล้วแต่ ประวัตินี้ก็เป็นเพียงบันทึกที่ยังไม่สมบูรณ์อยู่ดี ในอนาคตอาจจะมีมากขึ้นกว่านี้อีกก็เป็นได้...

    บทเรียนที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ เทพ ปีศาจ

         แต่เดิม เทพ มนุษย์และปีศาจเคยมีการติดต่อกันมาก่อน แต่เพราะมนุษย์เริ่มมีความละโมบโลภมาก อยากได้ไม่มีวันจบสิ้น มักมากในตัณหาและราหะ หวังจะเป็นใหญ่เหนือเทพและปีศาจ ทำลายวิหาร เทวรูป สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด จนหน้ามืดตามัวสร้างสงครามหวังทำลายล้างเทพและปีศาจ โดยไม่ได้ดูกำลังของตนเอง จนทำให้เกิดการนองเลือดขึ้น ด้วยการสูญเสียและเริ่มละอายกับมนุษย์ซึ่งทำให้เทพและปีศาจตัดขาดการติดต่อ กับมนุษย์ไปในที่สุด และทำการลงโทษเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลา มีเพียงแค่จิตวิญญาณของเทพและปีศาจไม่กี่องค์ยังคงอยู่ในโลกมนุษย์ เพื่อหวังว่ายังคงจะมีมนุษย์ผู้มีจิตใจที่ดีงามรักในความสงบ หลงเหลืออยู่บ้าง มีเพียงแต่เทพและปีศาจที่จะมาในโลกได้ แต่มนุษย์ไม่สามารถไปยังโลกของเทพและปีศาจได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนก็หันกลับมาบูชาเทพและปีศาจอีกครั้ง โดยกลุ่มคนที่หลงเหลืออยู่เพียงกลุ่มเดียว เหล่ามนุษย์ผู้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ได้รับพรจากเทพและปีศาจ ทั้งสติปัญญา กำลัง รูปลักษณ์ที่งดงาม เทพจะค่อยปกป้องผู้คนที่กระทำความดี ปีศาจจะค่อยกัดกินผู้ที่มีจิตใจที่เลวทราม


    บทเรียนที่ 4 ค้นหาพลังเทพปีศาจในตัวเอง

         ในตัวของคนเราจะมีทั้งด้านดีและด้านมืดอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะมีด้านไหนมากกว่ากันเท่านั้น สิ่งที่จะนำมาวัดระดับพลังนั้นมีกว่ามาย

         เนคตาร์ คือน้ำไม่มีสีไม่มีกลิ่น ใสเป็นประกาย มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการแสดงพลังของคนเราใช้ได้กับทุกเผ่าพันธุ์ โดยไม่มีข้อยกเว้น นิยมนำมาใช้ในการทดสอบว่าคนคนนั้นมีพลังในรูปแบบใด อีกทั้งยังงสามารถไปทำเป็นยาแก้ และยาพิษได้เช่นเดียวกัน เนคตาร์เกิดจากการคิดค้นของนักปรุงยาคนหนึ่งเมื่อหลายพันปีก่อนนี้ การจะปรุงมันขึ้นมานั้นต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่าง และที่สำคัญมีราคาแพงมาก จึงมีเพียงไม่กี่คนที่จะปรุงมันขึ้นมาได้และมีเพียงในราชสำนักและโรงเรียน เวทมนตร์ใหม่ ๆ เท่านั้นที่นิยมนำมาใช้

         เมื่อดื่นเนคตาร์เข้าไปแล้ว ถ้ามีแสงสีดำเปล่งออกมา ก็แสดงว่าคนคนนั้นเป็นผู้ที่มีพลังในด้านมืดมากกว่า และถ้ามีแสงสีทองเปล่งออกมาแสดงว่าคนผู้นั้นเป็นผู้ที่มีพลังในด้านแสงสว่าง ที่มากกว่า แต่ถ้าหากแสงที่เปล่งออกมาเป็นสีรุ้งแสดงว่าคนผู้นั้นสามารถที่จะใช้พลังได้ ทั้งแสงและความมืด หรือถ้าดื่นเข้าไปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยไม่ต้องตกใจเพียงแต่มีสองกรณีคือ การปรุงนั้นผิดพลาดหรือเนคตาร์ไม่สามารถวัดพลังได้นั้นเอง

         เนคตาร์ที่นำมาใช้กันนั้นจริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่ปรุงขึ้นมาแทนที่เนคตาร์แท้เท่านั้น จึงมาบ้างที่มันจะไม่สามารถดึงพลังออกมาได้ทั้งหมด เพราะเนคตาร์แท้นั้นไม่มีใครรู้แน่นชัดว่ามันอยู่ที่ใด มีเพียงบันทึกเล๋กน้อยเท่านั้นที่บอกไว้ว่ามันมีคุณสมบัติอะไรบ้างและจะปรุง มันขึ้นมาอย่างไร
     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×