คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : ตำนานปีศาจของพระคัมภีร์1
ตำนานที่อาลักษณ์เดียวคือพระภิกษุที่ละเมิดรหัสสงฆ์ของเขาและถูกพิพากษาให้ต้องมีกำแพงล้อมรอบขึ้นมีชีวิตอยู่กับโอกาสในการหนีไม่
There was only one way the monk could avoid his excruciating death, he promised to create a beautiful, and fascinating book to glorify the monastery forever; a book that would include all human knowledge.
มีเพียงวิธีหนึ่งที่พระภิกษุสงฆ์ที่อาจหลีกเลี่ยงการตายระทมทุกข์ของเขาสัญญาว่าจะสร้างเป็นหนังสือที่สวยงามและน่าสนใจเพื่อถวายพระเกียรติพระอารามตลอดหนังสือที่จะรวมถึงความรู้ของมนุษย์
There was one catch, he was given only twenty-four hours to complete the task in and if the monk would complete the task, then be free to live.
มีหนึ่งจับเขาได้รับยี่สิบสี่ชั่วโมงเท่านั้นที่จะทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ในพระภิกษุสงฆ์และถ้าจะทำงานให้เสร็จสมบูรณ์แล้วจะเป็นอิสระที่จะอยู่
The monk began to compose a bible written on animal skins, with colored inks and illustrations; completely illuminated (means decorated initials and miniature border artwork) in the manuscript style made back during that era.
พระภิกษุสงฆ์ที่จะเริ่มต้นในการเขียนพระคัมภีร์ที่เขียนบนหนังสัตว์ที่มีหมึกสีและภาพประกอบเป็นความสว่างสมบูรณ์ (หมายถึงชื่อย่อของตกแต่งและงานศิลปะชายแดนขนาดเล็ก) ในรูปแบบต้นฉบับที่ทำกลับในช่วงยุคที่
Legend has it that near midnight the monk became sure that he could not complete this task alone, so he sold his soul to the devil for help.
ตำนานมีว่าที่เที่ยงคืนที่อยู่ใกล้พระภิกษุสงฆ์ได้กลายเป็นที่แน่ใจว่าเขาไม่สามารถทำงานนี้ให้เสร็จเพียงอย่างเดียวดังนั้นเขาขายวิญญาณของเขาให้ปีศาจเพื่อขอความช่วยเหลือ
The devil completed the manuscript and the monk added the devil's picture out of gratitude for his help.
มารเสร็จต้นฉบับและพระภิกษุสงฆ์ที่เพิ่มภาพปีศาจของออกจากขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเขา
It is because of this unique illustration that it the Codex Gigas is also known as the Devil's Bible.
มันเป็นเพราะภาพประกอบที่ไม่ซ้ำกันนี้ที่มัน Codex gigas เป็นที่รู้จักกันปีศาจของพระคัมภีร์ไบเบิล
The Codex Gigas measures 36 1/ 4 inches by 19 3/ 4 inches and is 8 inches thick. Codex gigas
ขนาด 36 1 / 4 นิ้วโดย 19 3 / 4 นิ้วและเป็น 8 นิ้วหนา
There are a total of 320 pages, but many of the pages have been torn out; most likely because they contained the Benedictine secrets.
มีทั้งหมด 320 หน้ามี แต่จำนวนมากของหน้าเว็บที่ได้รับการฉีกขาดออกมากที่สุดเพราะพวกเขามีความลับของนิกาย Benedictine
On page 290 of "The Devil's Bible" is a full page illustration of the devil.
เกี่ยวกับ 290 หน้าของ"ปีศาจของพระคัมภีร์"ภาพประกอบหน้าเต็มของมารคือ
On the opposite page is an illustration of what heaven might look like.
ในหน้าตรงข้ามกับภาพประกอบของสิ่งที่สวรรค์อาจจะมีลักษณะเป็น
There is no recorded proof of the Codex legend, but the unusual text has an aura-like quality all its own, even though it is very old and has passed through a number of hands through the centuries.
ไม่มีหลักฐานบันทึกของ Codex เป็นตำนาน แต่ข้อความที่ผิดปกติมีกลิ่นอายเช่นคุณภาพของตัวเองแม้ว่าจะเก่ามากและได้ผ่านหมายเลขของมือที่ผ่านศตวรรษ
"ปีศาจของพระคัมภีร์"
Once, the Codex Gigas was the eighth wonder of the world; the book weighs a hundred and sixty-five pounds.
เมื่อ Codex gigas คือสงสัยว่าที่แปดของโลกหนังสือที่มีน้ำหนักและปอนด์ร้อยหกสิบห้า
And unlike the above legend section that states the Codex is written on the skins of donkeys...
และแตกต่างจากส่วนตำนานข้างต้นที่ระบุว่า Codex จะถูกเขียนบนผิวหนังของลา ...
it is actually made from calf skins.
มันจะทำจริงจากหนังลูกวัว
The Codex Gigas texts include pages not found anywhere else, inside the pages is a full Latin bible, passages in the book contain herbals, history books, cures for dangerous illnesses, texts regarding caring for the soul, medical formulas for treating illnesses and diseases, spells, and even solutions to problems (such as finding a thief).
ข้อความ Codex gigas รวมหน้าไม่พบทุกที่อื่นภายในหน้าเว็บที่เป็นเต็มละตินพระคัมภีร์ทางเดินในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยสมุนไพร, หนังสือประวัติศาสตร์, cures สำหรับโรคที่เป็นอันตรายตำราเกี่ยวกับการดูแลจิตวิญญาณสูตรทางการแพทย์สำหรับการรักษาความเจ็บป่วยและโรค spells และแม้กระทั่งการแก้ปัญหา (เช่นการหาขโมย)
The Codex Gigas surfaced when the Benedictine monastery in Podlacize, Bohemia became financially troubled.
Codex gigas พื้นผิวเมื่อมีการวัด Benedictine ใน Podlacize, โบฮีเมียกลายเป็นปัญหาทางการเงิน
To raise money, the monks sold the manuscript to a monastery near Prague.
เพื่อเพิ่มเงิน, พระสงฆ์ที่ขายต้นฉบับให้กับพระอารามที่อยู่ใกล้ปราก
Soon after the text was in its new home, that monastery also failed.
หลังจากข้อความที่อยู่ในบ้านใหม่, พระอารามที่ยังล้มเหลว
A few years later the Holy Roman Emperor, Rudolf became obsessed with the Codex, as well as, other alchemy and scripts written on the occult.
ไม่กี่ปีต่อมาจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, รูดอล์ฟกลายเป็นหมกมุ่นกับ Codex รวมทั้งขลังอื่น ๆ และสคริปต์ที่เขียนบนไสย
Not too soon after,the monk gave the Codex to him as a gift, Emperor Rudolf became erratic and paranoid.
ไม่เร็วเกินไปหลังจากที่พระภิกษุสงฆ์ให้ Codex เพื่อเขาเป็นของขวัญ, สมเด็จพระจักรพรรดิรูดอล์ฟกลายเป็นผิดปกติและหวาดระแวง
He was declared unfit to rule and was banished by his family.
เขาถูกประกาศไม่เหมาะสมกับกฎและถูกเนรเทศโดยครอบครัวของเขา
During the Thirty Years War in the mid 17th century, Swedish armies seized the Codex.
ในระหว่างสงครามสามสิบปีในศตวรรษที่ 17 กลาง, กองทัพสวีเดนยึด Codex
One of the mysteries of the Codex Gigas legend is who wrote it.
หนึ่งในความลึกลับของ Codex gigas ตำนานคือผู้ที่เขียนมัน
Many would say that it is impossible that one man could have written the complete text alone.
หลายคนจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ว่าชายคนหนึ่งสามารถเขียนข้อความที่สมบูรณ์คนเดียว
Yet, recently an investigation team of scholars, sponsored by National Geographic, findings support the story that the Codex is the work of one man.
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ทีมสอบสวนของนักวิชาการที่สนับสนุนโดย National Geographic, ผลการสนับสนุนเรื่องที่ Codex คือการทำงานของชายคนหนึ่งที่
ความคิดเห็น