คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 10 ตำนานเรื่องเล่าลึกลับที่น่าขนหัวลุก
ตำนานเมืองมีอยู่ทั่วโลก แต่คุณเคยได้ยินตำนานเมืองของประเทศอเมริกาหรือเปล่าครับ และต่อไปนี้เราขอเสนอตำนานเมืองที่มีชื่อเสียงของอเมริกาที่สยองน่าขนหัวลุก พร้อมกับชวนหัวในเวลาเดียวกัน
10.The Automatic 4.0
เป็นหนึ่งในตำนานเมืองที่เป็นเรื่องเล่าของมหาวิทยาลัยเขตตั้งแต่ปี 1970 และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีย์อเมริกาเรื่อง Dead Man on Campus 1998 (ภาพยนตร์ห่วยได้คะแนน 15% ของมะเขือเทศเน่า) โดยเล่ากันว่าหากในโรงเรียนหรือมหาลัยแห่งใดมีเด็กนักเรียนเพื่อนร่วมฆ่าตัว ตายปัจุบันทันด่วน จะได้รับเกรดเฉลี่ย 4.0 ของภาคเรียนการศึกษาโดยอัตโนมัติทันที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการปลิดชีพของวิทยาลัย(ใจดีพิลึก) ตำนานนี้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในเวลาต่อมาเช่นเกิดฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ แต่ยึดหลักพื้นฐานของเพื่อนร่วมห้องตาย= เกรดดีทั้งหมด(หมายถึงเกรด A นะไม่ใช้ D) แน่นอนเรื่องนี้ไม่เป็นจริงแน่นอนและเชื่อว่าที่มานั้นมาจากการเล่าเล่นๆเอา ตลกของนักศึกษา
9.Mr. Rogers Was a Navy Seal
เฟร็ดโร เจอร์ส(1928-2003) เป็นชาวอเมริกันนักแต่งเพลงและผู้จัดรายการโทรทัศน์ Mister Rogers' Neighborhood รายการเด็กที่ฮิตในช่วง 1968-2001 ด้วยบุคลิกเป็นคนอ่อนโยนเสียงเบาอ่อนหนุ่มและความตรงไปตรงมาทำให้หลายคนต่าง ติดใจรายการของเขา และเขาพยายามเรียกร้องรัฐบาลให้สนับสนุนรายการเด็กมากกว่าจะไปทำสงคราม เวียดนาม โดยจุดเด่นของเขาก็คือการรวมเสื้อแขนยาวสีแดงแล้วไปปรากฏตัวในรายการ โทรทัศน์อยู่เสมอ และเนื่องด้วยช่วงที่เขาทำรายการเป็นช่วงสงครามเวียดนามพอดี จึงข่าวลือว่าเขาเป็นเครื่องจักรสงหารในสงครามเวียดนาม ที่ว่ากันว่าเขาฆ่าพวกเวียดกงเป็นจำนวนมาก สามารถฆ่าคนด้วยมือเปล่า จนเขามีบาดแผลเต็มตัวจนต้องสวมเสื้อแขนยาวปกปิดบาดแผลและปกปิดรอยสักสุดโหด นี้เอาไว้แม้ว่าอากาศจะร้องเพียงใดก็ตามซึ่งข่าวลือนี้ไม่เป็นจริงเพราะ ประวัติเขาเปิดเผยแล้วว่าเขาไม่เคยทำหน้าที่ทางการทหารใดๆ มาก่อนเลย หากข่าวลือก็เริ่มขึ้นอีก ในปี 1990 ว่าเขาเป็นทหารในสงครามเกาหลี
8.Bloody Mary
บลัดดี้ แมรี่ เป็นผีหรือแม่มด เป็นตำนานพื้นบ้าน(ช่วงปี 1970) ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เป็นพิธีที่มักทำเล่นกันในห้องน้ำที่มืดๆ โดยการเรียกเธอสามครั้ง(หรือหลายครั้ง แต่ความเชื่อปัจจุบันบอก 13 ครั้ง)และความเชื่อนี้พิธีกรรมการละเล่นหลายแบบ แต่โดยรวมๆ คือต้องเข้าไปในห้องน้ำ ปิดไฟและยืนกระจกในที่มืด และเรียกชื่อของเธอสามครั้ง แต่ตอนนี้จะต่างตรงที่อาจมีอะไรเสริมเข้ามา เช่นต้องสวดมนต์ร้อยครั้ง. ต้องเที่ยงคืน, น้ำไหล, ใช้เทียนไข และแมรี่จะปรากฏในกระจกเป็นผีผู้หญิงลางๆ บางทีกระจกจะกลายเป็นสีแดง หรือมีเสียงกรีดร้อง โดยประวัติของแมรี่นั้นค่อนข้างหลากหลายบางคนบอกว่าเธอเป็นแม่มด, หญิงที่สูญเสียลูกจนต้องฆ่าตัวตาย หรือเป็นฆาตกร เป็นต้นและตำนานของเธอก็ถูกดัดแปลงมากมาย เช่น เป็นพิธีทดสอบความกล้าหากยอมแพ้แมรี่จะเอาชีวิต หรือเป็นรูปแบบพยากรณ์อย่างเช่นปอกแอปเปิลหน้ากระจกตอนเที่ยงคืน ร้องเพลงในคืนพิเศษแล้วมองผ่านกระจกอย่างเร็วๆจะเห็นหน้าของเนื้อคู่ลางๆ เป็นต้น
7.JFK and the Jelly Doughnut Speech
Ich bin ein Berliner เป็นมุกตลกของชาวอเมริกันและเยอรมัน และถูกนำไปแพร่หลายในอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ส่วนไทยเรานำประโยคนี้มาใช้สอนภาษาอย่างสนุกสนาน
มุก Ich bin ein Berliner นั้นมาจากประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนนาดี้ ที่ไปกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าฝูงชนใจกลางกรุงเบอร์ลินตะวันตกในช่วงสงครามเย็น เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1963 เขาได้ขึ้นไปตึกที่ทำการเทสบาลและพูดประโยคสุดแสนคลาสสิกภาษาเยอรมันต่อหน้า ประชาชนชาวเยอรมันที่อยู่ที่นั่นว่า"Ich bin ein Berliner." ซึ่งแปลว่า " ผมเป็นชาวเบอร์ลิน" เพื่อแสดงเจตจำนงในการเผชิญหน้ากับสหภาพโซเวียต หากแต่กระนั้นประโยคนี้มันมีอีกความหมายหนึ่ง เนื่องจากคำว่า Berliner เป็นชื่อขนมของเยอรมัน ที่มีลักษณะคล้ายโดนัท ดังนั้นชาวเยอรมันหลายคนจึงเขาใจประโยคนี้ว่า “ผมเป็นโดนัท” และจากนั้นเป็นต้องมามุกนี้ก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายที่เยอรมันและสหรัฐ อเมริกา(โดยการใช้คำว่าเบอร์ลินสองความหมายให้เข้าใจต่างกัน)
6.Cokelore
โค้ก หรือ โคคา โคล่า เครื่องดื่มยอดนิยมที่ผมเขียนถึงมันหลายครั้งแล้วและหลายปีที่ผ่านมาเรื่อง ราวของมันถูกเล่าขานเป็นตำนานความเชื่อมากมาย โดยตำนานที่มีชื่อเสียงก็เช่นหากกินขนม Pop Rocks(ขนมที่เป็นเม็ดๆ กินแล้วซ่าและเปรี้ยวในปาก)พร้อมโค้กจะทำให้กระเพาะอาหารพังได้ หรืออีกตำนานเล่าว่าโค้กจะทำให้ฟันผุเนื่องจากกรดโวดาละลายฟัน หรือว่าโค้กมีส่วนผสมของโคเคนซึ่งเป็นยาเสพย์ติดต้องห้ามซึ่งเรื่องโคเคนนี้ เป็นจริงและมันได้สร้างภาพลบของโค้กต่อเนื่อง จนกระทั้งมีการเปลี่ยนสูตรใหม่ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ในอินเตอร์เน็ตโค้กถูกนำอ้างว่าเป็นเครื่องดื่มที่สามารถทำลาย กระเพาะและอวัยวะภายในของคุณได้ โดยใจความบอกว่าถ้าคุณวางT-boneสเต็กในชามมันจะละลายเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน เพราะโค้กมีค่าความเป็นกรดด่างถึง pHอยู่ 2.8 มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน4วัน(เรื่องนี้ไม่เป็น ความจริง เพราะpHของโค้กมีค่า 2.5 ซึ่งใกล้เคียงกับมะนาว หรือ เลมอน มีค่าpH2.4 หรือ ส้ม มีค่าpH3.5)
5.The Good Samaritan
ชาวสะมาริตันผู้ใจดีเป็นเรื่องราวที่ปรากฏในไบเบิ้ลที่เล่าถึงชายที่มีน้ำใจรักษา คนบาดเจ็บจากคนปล้นระหว่างทาง และคำนี้ก็ได้กลายเป็นตำนานของชาวอเมริกันที่เล่าถึงคนรวยปลอมตัวเป็นคนจน หรือแกล้งทำเป็นเดือดร้อนรอให้คนอื่นมาช่วยเหลือและตอบแทนแก่ผู้ช่วยเหลือ เหล่านั้นด้วยรางวัลที่มีค่าอย่างมหาศาล โดยส่วนมากตำนานจะเอาคนดังที่ปลอมตัวเป็นคนจน เช่นบิลล์ เกตส์ หรือ แนท คิง โคล(นักเปียโน, นักแต่งเพลงและนักร้องเพลงแจ๊ซชาวอเมริกัน) โดยพวกเขาจะทำเป็นรถเสียและรอให้คนมาเปลี่ยนยางให้ หากมีคนมาช่วยพวกเขาจะขอที่อยู่ของเพื่อส่งรางวัลไปให้ และไม่กี่สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พัสดุว่าเขาได้รับเงิน 10,000 ดอลลาร์ พร้อมกับลงนามผู้ส่งเป็นชื่อบุคคลดัง อีกตำนานอาจมีการดัดแปลงเช่นผู้ขอความช่วยเหลืออาจเป็นกษัตริย์หรือเจ้าหญิง ประเทศใดประเทศหนึ่งปลอมตัวมาเพื่อขอความเชื่อเหลือ และคำว่าชาวสะมาริตันผู้ใจดีนี้เป็นคำที่โดนใจคนอเมริกันที่สุด เป็นคำที่สื่อมวลชนชอบใช้ ค่าที่มันจับจิสร้างจินตนาการให้ผู้อ่านผู้ฟังมากที่สุดคำหนึ่ง และมักถูกใช้เป็นชื่อของสมาคม คลินิก บ้านพักผู้ยากไร้ในที่ต่าง ๆ
4.Walt Disney Is Cryogenically Froze
เรื่องนี้มาจากเรื่องเล่าในตำนานของวอลต์ ดิสนีย์ ผู้กำเนิดมิกกี้เมาส์และพรรคพวก โดยมีเรื่องเล่าของเขาว่าเป็นหลังเขาตาย ได้มีคนนำศพของเขา(หรือสมองของเขา)แช่แข็งไว้ด้วยเทคโนโลยี Cryonics ด้วยความหวังว่าเทคโนโลยีในอนาคตจะสามารถนำเขากลับมามีชีวิตได้ โดยที่มาของตำนานนี้มาจากวันที่เขาตายเมื่อปี 1966 ไม่มีงานศพ(มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเขาร้องขอไม่ให้มีงานศพ) ไม่เปิดเผยสาเหตุการตาย(มีการเปิดเผยความจริงในเวลาต่อมาว่าเขาตายด้วยโรค มะเร็งปอด) อีกทั้งด้วยความมีชื่อเสียงและนักประดิษฐ์เขาชอบเรื่องไซไฟ นำไปสู่การสร้างตำนานอันยาวนานนี้
3.The Sewer Alligator
จระเข้ในท่อระบายน้ำ เป็นเรื่องเล่าที่โด่งดังในปี 1920 และ 1930 โดยเป็นเรื่องของจระเข้ที่อาศัยในท่อระบายน้ำแห่งมหานครนิวยอร์ก โดยเรื่องเล่านี้เล่าสืบทอดกันมาไม่ขาดสาย และไม่ปรากฏแห่งที่มา โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีครอบครัวหนึ่งรวยมากกลับมาจากการพักร้อนในฟลอริดา และไม่สนใจกฎหมายในนิวยอร์ก พวกเขาได้ซื้อสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญให้เด็ก โดยเป็นจระเข้ และเลี้ยงมันในห้องน้ำ ปรากฏว่ามันโตขึ้นดุร้ายขึ้นจนพวกเขาเลี้ยงไม่ไหวและเกรงว่าจะเป็นอันตราย กับคนในครอบครัว พวกเขาเลยทิ้งมันในท่อระบายน้ำอุจจาระโยทิ้งที่ท่อคอห่าน แต่ปรากฏว่ามันไม่ตายและรอดชีวิตจากการกินหนูและขยะ มันเจริญเติบโตจนมีขนาดใหญ่อย่างน่ากลัว และวันดีคืนดีมันจะโผล่หัวออกมาจากท่อระบายน้ำอุจจาระเข้ามางับหรือทำ อันตรายต่อผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา(นอกจากนี้มันยังมีเรื่องเล่าเสริมอีกว่ามัน เป็นจระเข้เผือกเพราะว่ามันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สัมผัสแสงแดด และสูญเสียการมองเห็น และบางที่ก็เล่าว่าเป้นจระเข้ที่หลุดออกจากสวนสัตว์) ในปี 1930 มีหนังสือพิมพ์ออกมาเขียนว่าพบจระเข้ในรอบนิวยอร์กและมีบางคนอ้างว่าเห็น ตำรวจเดินลงเข้าไปท่อระบายน้ำพร้อมอาวุธล่าสัตว์ แม้เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็ตามแต่กระนั้นท่อระบายน้ำในมหานครนิวยอร์ก ถือได้ว่าเป็นสถานทีน่ากลัวที่ไม่มีใครอยากลงไปอยู่ดี
2.The Vanishing Hitchhiker
เป็นหนึ่งในตำนานที่เก่าแก่ที่และฮิตที่สุดในช่วงปี 1981 ไม่เพียงแต่อเมริกาเท่านั้นยังเป็นหลายประเทศทั่วโลกด้วย อาจจะแตกต่างไปบ้างในบางพื้นที่ แต่ส่วนหลักๆ เหมือนกัน เกี่ยวกับผีผู้หญิงที่ชอบโบกรถ โดยเล่ากันว่าหากคืนมีคนกำลังขับรถในถนนที่ร้างผู้คน จู่ๆ เขาจะเห็นผู้หญิงสาววัยรุ่น กำลังโบกรถอยู่ข้างทางตามลำพัง เขาจึงแวะรับเธอขึ้นรถมาด้วย และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่หญิงสาวต้องการ เมื่อเขาหันไปเพื่อบอกลาเธอ เธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับจากเบาะหลัง ด้วยความสับสน เขาเลยกดออดที่หน้าบ้านของเธอ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ก็พบว่าหญิงสาวที่ว่านั้นได้รับอุบัติเหตุรถยนต์ตายก่อนหน้าแล้วที่จุดที่ เขารับรพเธอในขณะที่เธอพยายามกลับบ้าน ล่ะหญิงสาวที่เขาเจอก็คือผีนั่นเอง และเรื่องเล่านี้อาจมีหลายส่วนที่เปลี่ยนไปบ้าง เช่น กลางคืนที่ว่าอาจฝนตก และตัวหญิงสาวอาจตัวเปียกปอน เขาจึงให้เธอยืมเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาให้กับเธอและเมื่อถึงบ้านที่หมาย(บางที่ ก็เป็นสุสาน) เธอกลับหายไปพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตของเขา ด้วยความข้องใจ ชายคนนั้นจึงลงจากรถไปเคาะประตูบ้านหลังนั้น ก็พบว่าเธอได้เมื่อ 10 ปีมาแล้ว และเมื่อวันรุ่นขึ้นเขาไปหลุมฝังศพของเธอก็พบเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาวางพับ ประณีตเรียบร้อยอยู่หน้าหลุมฝังศพของเธอ
1.The Kidney Heist
เป็นตำนานที่แพร่หลายที่สุดในโลกออนไลน์ รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ โดยสมมุติว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1997 มีอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่น่ากลัวออกอาละวาดในเมือง โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวหรือนักเดินทางที่กำลังผ่อนคลายโดยไปที่ร้าน หรือบาร์เพื่อดื่มกินเครื่องดื่ม และระหว่างดื่มกินจะมีคนแปลกหน้ามาพูดคุยทำความสนิทสนมและคนแปลกหน้าจะเอา เครื่องดื่มให้เหยื่อคนนั้นดื่ม หลังจากนั้นเหยื่อคนนั้นจะเกิดอาการมึนงง และง่วงนอน จนหมดสติไป ก่อนที่จะตื่นขึ้นในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งที่ห้องพักโรงแรมหรือบ้าน ร่างแห่งหนึ่ง และมีโทรศัพท์อยู่ถัดไปและเมื่อเหยื่อโทร 911 แพทย์ก็มาถึงก็พบว่าที่ร่างกายของเหยื่อมีรอยผ่าตัดและตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าไตถูกขโมยไป และไตที่ว่านั้นได้ถูกนำไปขายในตลาดขายอวัยวะมืดในราคาแพงลิบลิ่ว และนี้คือตำนานเมืองที่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงจนถึงขั้นมีการร้อง เรียนต่อมูลนิธิไตแห่งชาติว่าควรตรวจสอบไตว่าไตไหนเป็นไตที่ถูกขโมยมา และเรื่องขโมยไตนี้ก็โด่งดังในประเทศไทยด้วย โดยเนื้อหาเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำการผ่าตัด และผู้ป่วยก็พบว่าไตหาย เป็นต้น
ความคิดเห็น