คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ความจำเป็นของหัวใจ 5%
หลังจากที่ผมเจอเหตุการ์นั้นสร้อยคอก็พาผมกลับสู่ปัจจุบัน ผมกลับมาสู่ห้องครัวอีกครั้งทีวีก็ยังแสดงละครเกาหลีอยู่เหมือนเดิม ตู้เย็นก็ยังส่งเสียงคราง ที่ผมเห็นนั่นคือ อดีตของพี่เอสินะ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมสร้อยคอถึงให้ผมเห็นอดีตของพี่เอล่ะ
“ ไอ้หมา เป็นอะไรไป “ พี่บีเขย่าแขนผม ดวงตาของเธอส่อแววกังวล
“ม..มะ..มี อะไรเหรอครับ “ ผมมองเธออย่างแปลกใจ
“ฉันเห็นแกนิ่งเงียบไปถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ “
“อ๋อ...พอดีผมเหม่อไปหน่อยน่ะ พี่เรียกผมนานหรือยัง “อะไรบางอย่างนิ่มๆ มาถูกกับหน้าแข้งผม อุ๋ยโหย่ว (ชื่อแมว) นี่เอง ผมอุ้มหนุ่มน้อยประจำบ้านขึ้นมาบนไหล่
“ก็แป๊บหนึ่งน่ะ แกจะเอาน้ำไปให้แขกไม่ใช่เหรอ “ พี่บีมองผมด้วยสายตาเป็นห่วง
“อ๋อ...พอดีผมคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ “ตายล่ะนี่ผมทำอะไรไปไม่รู้ตัวเหรอเนี่ย
ผมล้างมือก่อนจะหยิบแก้วน้ำไปในห้องรับแขกก็พอดีกับที่พี่เอ เดินลงมาพอดี
“ไง วันนี้ฉันหยุดไม่ใช่เหรอ “ พี่เอส่งยิ้มไปให้
คุณนทีขยับแว่นก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด
“ผมขอถามคุณว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร “ หนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่ง ถูกวางอยู่บนโต๊ะ
“อะไรของนาย เป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย “ เธอเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง เมื่อมองเห็นภาพหญิงสาวคนหนึ่งกำลังลงจากรถ ในสภาพที่เมามาย ผมรู้สึกว่าคงไม่เหมาะที่จะเดินเข้าไปตอนนี้ ผมเลยหันหลังกลับ แต่ทว่าผมกลับเดินชนบรรดาพี่ๆที่มาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ไอ้หมามานี่เร็ว “ พี่บีดึงคอเสื้อผมให้หลบหลังกำแพง
พอผมจะเอ่ยปากทักท้วง มือเล็กๆของพี่บีก็เอื้อมมาปิดปากผม
“อะไออ้องอวกอี้เอี้ย “(อะไรของพวกพี่เนี่ย)
พี่ซีเอาปลายนิ้วแตะปาก ก่อนจะกระซิบ
“เบาเสียงหน่อยสิจ๊ะดี เสียงดัง รบกวนคนอื่นเค้าจะคุยกัน “
ผมว่ามันก็คือการแอบฟังนั่นล่ะ
แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมว่าลองฟังดูหน่อยดีกว่าไม่ใช่ผมอยากรู้เรื่องหรอกนะ แต่ผมเป็นห่วงพี่เอต่างหาก
(จริงๆนะ)
ในห้องรับแขกพี่เอยังอมยิ้มตรงกันข้ามกับคุณนที ที่แม้จะไม่บ่งบอกความรู้สึกออกมา แต่ว่ารัศมีความเคร่งเครียด ก็ยังแผ่ประกายออกมาจากผู้ชายคนนี้
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ “ คุณนทีเลื่อน หนังสือพิมพ์ไปตรงหน้าพี่เอ ก่อนที่นางเอกชื่อดังจะรับมันมาดู
“แล้วไง ไม่เห็นจะเป็นอะไรสักหน่อย “ พี่เอก้มหน้ามองก่อนจะยักไหล่ให้ทีหนึ่ง
“”จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง คุณเป็นนางเอกที่มีภาพลักษณ์เรียบร้อยนะ “ แม้ว่าพูดด้วยน้ำเสียยงราบเรียบ แต่ความไม่พอใจก็ออกมาตามน้ำเสียงอยู่ดี
“แล้วไง บางที ฉันอาจจะอยากเปลี่ยนภาพก็ได้ “
“ผมปฏิเสธงานพวกภาพวาบหวิว เพราะคุณบอกว่าอยากเป็นแบบนี้นะ “ มือหนาขยับแว่นตาที่เลื่อนลงมาที่จมูก ก่อนส่งสายตาดุดันไปให้
มีเพียงรอยยิ้มที่อ่านยากจากพี่เอส่งตอบกลับมา
“หากคุณอยากจะทำอย่างนั้น อยากลดคุณค่าของตัวเอง ผมขอลาออก ผมบอกแล้วไงผมจะทำงานกับคนที่มองไปข้างหน้าเท่านั้น “ ซองจดหมายสีขาวถูกวางบนโต๊ะ
“ น้องชายฉันเอง “ พี่เอเอ่ยยิ้มๆ
คุณนทีหลับตาลง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ถึงคุณจะบอกว่า คุณคิดกับผู้ชายคนนั้นแค่น้องชาย แต่คนที่อ่านข่าวเขาไม่ได้คิดอย่างคุณหรอกนะ “
“ฉันบอกว่านั่นน่ะ น้องชายฉันเอง ผู้ชายในรูปน่ะ คิดเองเออเอง ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเจ้าหนู “
“อะไรนะ.....” คุณนทีหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดูดีๆอีกครั้ง ก่อนมองมาที่ผม มองที่หนังสือพิมพ์สลับกันไปมา
แววตาดุดันอ่อนแสงลง
"ยังไงก็ต้องให้ข่าวไป มีข่าวแบบนี้คงไม่ดีกับภาพลักษณ์คุณเท่าไหร่ "
"ไม่ล่ะ ปล่อยไปอย่างนี้ล่ะ " พี่เอยักไหล่ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม
"อะไรของคุณ คุณโตแล้วนะ อย่ามาทำเป็นเด็กๆไปหน่อยเลยน่า " คุณนที เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
ความคิดเห็น