ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยุทธการสะท้านโลก

    ลำดับตอนที่ #3 : ยุทธการภูผาที (ยังไม่สมบรูณ์)

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 55


     



    แผนผังที่ตั้ง  แสดงตำแหน่งทหาร  และการวางกำลัง


     ร้อยเอกจำลอง ศรีเมือง ( ยศในขณะนั้น ) เป็นอาสาสมัครผู้หนึ่งในการไปปฏิบัติการในลาวตามโครงการ ๓๓๓ ควบคุมโดย บก. ๓๓๓ ที่อุดรธานี ( ตำแหน่งปกติ เป็นผู้บังคับกองร้อยสื่อสาร ตั้งอยู่ที่ ร.ร. เตรียมทหารเดิม ลุมพินี


    ความจริงท่านเล่าว่า ทาง บก. ๓๓๓ ขอตัวคนชื่อจำลอง มา ซึ่งเป็นคนละจำลอง แต่ จนท.พิมพ์ชื่อเป็น จำลอง ศรีเมือง ท่านก็เลยยอมรับเป็นอาสาสมัคร มีชื่อรหัสว่า โยธิน รหัส ๓๖๔ หัวหน้าเทพ บก. ๓๓๓ ที่อุดรธานี

    เห็นว่า โยธิน ซึ่งเป็นเหล่าสื่อสาร มีลักษณะเป็นผู้นำสูง จึงได้ตกลงใจคัดเลือกเอาไปทำงานในภารกิจนี้ โดยโยธินบอกว่า หากไม่ถึงคราวตายก็ไม่ตาย โยธินได้มีโอกาสเล่าให้ข้าพเจ้าฟังเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๘ ว่า ก่อนนั้นเข้าเคยไปปฏิบัติการในลาวเมื่อปลายปี ๒๕๐๙ เคยไปประจำทีมหาข่าวต่างๆที่ปากเซ สุวรรณเขต หลวงพระบางและเคยไปกับทีม SR-5 กองร้อยทหารปืนใหญ่ของไทย (ป. ๑๕๕) ที่เมืองสุย จึงมีประสบการณ์พอสมควร

    เมื่อได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ถึงความสำคัญของทีม Z-16 ซึ่งข้าศึกทราบถึงความสำคัญของที่ตั้งสถานีเรดาร์แห่งนี้และมีแผนที่จะทุ่มกำลังเข้าโจมตี ให้ได้ตามข่าวที่ทราบมา แต่ผู้บรรยายสรุปก็ไม่เชื่อว่าฝ่ายข้าศึกจะขึ้นตีภูผาทีได้ เพราะเป็นผู้เขาสูงชันมาก ฝ่ายเราอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบ หากข้าศึกเข้าโจมตีจะสูญเสียอย่างหนัก

    ในวันรุ่งขึ้น โยธิน จึงออกเดินทางไปคนเดียวทันทีโดยขึ้นเครื่องบินไปลงที่โรงเรียนเสนาธิการที่โล่งแจ้ง นอนค้างหนึ่งคืนแล้วเดินทางต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์ ตามแผนจะต้องลงจอดที่ยอดเขาภูผาที แต่วันนั้นอากาศปิดจึงลงจอดที่บริเวณเชิงเขาแล้วเดินเท้าขึ้นไป จึงทำให้ทราบว่าหากข้าศึกจะเดินเท้าขึ้นเขาไปโจมตี คงไม่ยากนัก ระหว่างทางได้พบ ร.อ.เกียตู้ ผบ.หน่วยลาดตระเวนรอบเขาด้านล่าง ซึ่งโยธินเคยสอนที่โรงเรียนเสนาธิการ เกียตู้ ได้ให้การต้อนรับอย่างดีเพราะเป็นอาจารย์

    เมื่อไปถึงที่ตั้งแล้ว โยธินได้เริ่มสำรวจภูมิประเทศและศึกษาแผนการป้องกัน ที่ตั้งที่วางไว้พบว่ามีการวางกำลังไว้ดีพอสมควร คือ ส่วน บก. ทีม Z-16 วางกำลังไว้บริเวณกลางยอดเขา มีกำลังทหารไทย ๑ กองร้อย ๔๐ นาย ได้รับการฝึกมาเป็นพิเศษ
    แบ่งออกเป็น ๔ ชุด แต่ละชุดวางกำลังตามขอบแนวของหน้าผา มีอาวุธประจำชุดคือปืนกลหนัก จรวดยิงสนับสนุน และ ค. ๘๑ ส่วน ค. ๘๑ นั้น ได้ฝังดินไว้นอกแนววางกำลัง โดยได้ขึงลวดสะดุดไว้รอบที่ตั้งหากข้าศึกเข้ามาสะดุดสัญญาณกริ่งจะดังขึ้น

    ส่วน จนท.เทคนิค ของ อเมริกัน จำนวน ๑๖ นายและนายทหารติดต่อ ๒ นาย จะอยู่ในบังเกอร์ที่สร้างไว้อย่างแข็งแรงสามารถป้องกันกระสุนปืนใหญ่และ ลูกระเบิดทิ้งจากเครื่องบิน ก็ไม่สามารถทะลุทะลวงได้ ส่วนกำลังทหารแม้วอีกหนึ่งกองร้อย มีพันตรีซัวย่า เป็น ผบ.หน่วย พันตรีซัวย่า จบจากโรงเรียนนายทหารแซงซี ฝรั่งเศส วางกำลังป้องกันด้านหน้าผาที่คาดว่าข้าศึกจะไม่เข้าตีทางด้านนี้

    ส่วนด้านล่างของภูผาที มี ร.อ.เกียตู้ เป็น ผบ.ร้อยควบคุมทำหน้าที่ลาดตระเวน มีรหัสเรียกว่า พิกแฟต Pigfat สำหรับ ร.อ.เกียตู้ นั้น ได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษจากนายพลวังเปา เพราะภูผาทีแห่งนี้ก่อนที่จะใช้เป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์ Sophisticated Radar นั้น ฝ่ายข้าศึกได้เคยเข้าตีและยึดครองไว้ได้ ต่อมา ร.อ.เกียตู้ ได้สร้างวีรกรรมโดยการนำกำลังเข้าตียึดกลับคืนมา จึงทำให้นายพลวังเปาเชื่อในฝีมือ


    ( ลักษณะของภูผาทีนั้นเป็นหมู่บ้านแม้ว มีชาวบ้านอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบตามเชิงเขา และมีอาชีพในการปลูกฝิ่นขายและเอาไว้เสพ การระวังป้องกันที่ตั้งหากจะใช้ลวดหนามล้อมรอบยอดเขาทั้งหมด โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งสถานีเรดาร์ ก็ทำไม่ได้เพราะถูกขอร้องจากครอบครัวของทหารแม้วว่า เนื่องจากพวกเขาได้ปลูกฝิ่นไว้บนรอบๆยอดเขาเพื่อใช้หารายได้เลี้ยงครอบครัวหากล้อมด้วยลวดหนามก็ไม่สามารถจะขึ้นไปได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้วิธีการขึงลวดสะดุดไว้แทน )
    เมื่อมีการซักซ้อมและวางกำลังเรียบร้อยแล้ว โยธิน เล่าให้ผมฟังว่าได้ตระเวนเยี่ยมให้กำลังใจชุดปฏิบัติการต่างๆที่วางกำลังรับผิดชอบแต่ละด้านของยอดภูผาที

    โดยเน้นว่าเวลาปะทะกับข้าศึกขอให้สู้จนขาดใจ คนเราถ้าถึงคราวตายเราก็ต้องตาย จะตายทั้งทีขอให้เป็นผีที่มีศักดิ์ศรี อย่าหนีทำตัวเป็นผีขี้ขลาด ผมซ้อมเตรียมรับศึกเต็มที่ ซ้อมเหมือนรบจริงๆ นับแต่เริ่มปะทะใครจะต้องทำอะไร ที่ไหน

    เช่น ผู้ทำหน้าที่เป็นคนยิงเครื่องยิงลูกระเบิดหรือเป็นคนยิงปืนครกที่ชาวบ้านเรียกกันออกจากบังเกอร์รีบวิ่งไปที่หลุมงัดเอาเครื่องยิงออกมาตั้งยิงจับเวลาไว้อย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่เริ่มออกคำสั่งยิง จนถึงกระสุนนักแรกออกจากลำกล้องปืน จะใช้เวลาเท่าใด นายทหารติดต่อชาวอเมริกันที่ประจำการกับกองกำลังทหารไทยพอใจในการซ้อมมาก มั่นใจในความสามารถของทหารไทย

    และถ้าฝ่ายไทยมีความจำเป็น ภายใน ๕ นาที เครื่องบินรบของอเมริกันก็พร้อมที่จะมาช่วยทิ้งระเบิดทำลายข้าศึก ทันที สถานการณ์ในขณะนั้นคับขันมากขนาดไปเข้าส้วมต้องถือปืนไปด้วย เพราะไม่ทราบว่าจะพบข้าศึกเมื่อใด

    หลังจากมีการซ้อมใหญ่ผ่านไปผมเกิดลางสังหรณ์ ซึ่งในชีวิตไม่เคยเป็นมาก่อน ผมสังหรณ์ว่าอีกสองวันจะต้องปะทะกับข้าศึกอย่างหนัก จึงออกคำสั่งให้ทุกคนออมกำลังไว้ ใครไม่ติดการเข้าเวรก็ให้พักผ่อนให้เต็มที่ ตุนแรงไว้สู้ข้าศึก ค่ำลงผมปิดวิทยุหมด นอนโดยไม่รับฟังข่าวใดๆทั้งสิ้น มั่นใจอย่างบอกไม่ถูกว่าจะเป็นอย่างที่สังหรณ์แน่ๆ ในช่วงนั้นเกิดเรื่องแปลกๆ ผู้ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ข้าศึกมีอันต้องไปโน่นไปนี่หมด

    ประจวบเหมาะกันพอดีราวกับนัดกันไว้ เช่น ครูปืนใหญ่ที่เดินทางมาจากเมืองสุย ที่ไปสอนวิธียิงปืนใหญ่ให้ทหารลาวครบกำหนดต้องกลับไปเมืองสุย ทั้งชุด

    ผมนึกในใจว่าถ้านายทหารและนายสิบรวม ๕ นายนี้ได้อยู่กับเราอีกสักสัปดาห์ก็จะดี เพราะยิงปืนใหญ่เก่งมาก แต่ผมก็ไม่อยากขัด รอง ผบ.ชุดยศร้อยโท ขอลาไปทำพิธีหมั้นที่กรุงเทพ ฯ

    ส่วน ลิโป้ ตชด. ผู้ชำนาญการรบนอกแบบขอลาไปกรุงเทพ ฯ เพราะยายป่วย เย็นวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๑๑ เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. ข้าศึกยิงปืนใหญ่นัดแรกไปตกบนภูผาที ผมกะจะนับเพื่อรายงาน บก. ๓๓๓ แต่นับไม่ทันเพราะข้าศึกระดมยิงอย่างหนัก

    การตอบโต้ด้วย ป. ๑๐๕ ของทหารลาวไม่ได้ผล ผมตั้งข้อสังเกตในใจว่า สหรัฐอเมริกาได้คำนึงถึงด้านการเมืองในการวางแผนใช้กำลัง ด้วย เช่นถ้าใช้ทหารราบไทยก็ต้องใช้ปืนใหญ่ลาว ถ้าใช้ทหารราบลาวก็ใช้ปืนใหญ่ไทย ที่ไหนก็ที่นั่นรบกันได้ไม่นานทหารลาวหนีเอาดื้อๆ

    เวลาที่ข้าศึกระดมยิงผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมง ชุดรบทั้ง ๔ ชุดรายงานเข้า บก. Z-16 ว่า ลาวยังอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ ผมสั่งเปิดตู้เย็นเอาอาหารออกมาเลี้ยงกันอย่างเต็มที่ ปรากฏว่าเวลา ๑๙.๐๐ น. ทหารลาวหนีหมด
    ดังนั้นในวันที่ปะทะกับข้าศึก มีผมเป็นนายทหารสัญญาบัตรคนเดียว

    แต่มีนายทหารหมออยู่คนหนึ่ง ชื่อ คัมส์ ( ชื่อรหัส ) แต่ท่านก็ช่วยในการรบไม่ได้ ผมเห็นอย่างชัดเจนว่าการแต่งตั้งตำแหน่ง รอง ผบ.หน่วย ในขณะทำการรบต้องถือความสามารถเป็นสำคัญกว่ายศ แม้ใน บก. Z-16 มี จ่าสิบเอกหลายคนแต่ผมแต่งตั้งให้ จ่าสิบโท ฐิตะ ธรรมขุน เป็นรอง ผบ. (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว )

    ตอนที่หน่วยจู่โจมของข้าศึกขึ้นไปที่ภูผาทีผมขอเครื่องบินไปทิ้งร่มพลุส่องแสงเห็นข้าศึกประมาณ ๕๐ คน กำลังเคลื่อนที่มาที่ บก. Z-16 ที่ผมอยู่ (รวมทั้งผมด้วย ๗ คนเท่านั้น) ผมกลัวสุดขีด

    เมื่อตั้งสติได้ก็พยายามดัดเสียงให้เป็นปกติ สั่งการชุดปฏิบัติการทั้ง ๔ ชุด ทางวิทยุ ผมใช้ยุทธวิธียิงในที่มั่น ให้ทุกชุดยิง ค. เข้าหา บก. Z-16 ในระยะพอเหมาะไล่ข้าศึกให้กระจายออกไปเป็นวงรอบ อาศัยที่ซ้อมมาอย่างหนัก ตารางยิงกระสุนสมบูรณ์ข้าศึกตกใจ ไม่คิดว่าเราจะใช้วิธีนี้ตอบโต้
    ในเวลานั้นกำลังรบเปรียบเทียบเราตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบ เพราะข้าศึกสามารถเข้าถึงส่วนของ บก. Z-16 ได้ในระยะใกล้ประชิดมาก การสู้รบดำเนินไปจนกระทั่งสว่าง

    เป็นวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๑๑ เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น. เราสามารถกวาดข้าศึกบนภูผาทีออกไปได้หมด พบรอยเลือดข้าศึกเป็นหย่อมๆ เขาไม่ทิ้งผู้บาดเจ็บล้มตายไว้ในสนามรบเลย วินัยเคร่งครัดที่สุด

    แม้พวกเราจะอิดโรยมาตลอดคืนแต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลย ถ้าส่งอาวุธกระสุนและเสบียงไปให้อีกก็สามารถสู้กันได้อีก ผู้ใหญ่ฝ่ายไทยและอเมริกัน ตกลงใจให้ถอนกำลังกลับอุดรธานี

    เราสูญเสียช่างเทคนิคชั้นดีของอเมริกันไปประมาณ ๒๐ คน เพราะข้าศึกปีนเขาขึ้นมาด้านที่ลาวรับผิดชอบ ใกล้ๆกับที่ตั้งของเรดาร์ โดยเอาระเบิดมือเข้าไปขว้างตามจุดต่างๆ ช่างเทคนิคบางคนที่รอดชีวิตมาได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อเกิดเรื่องจะออกจากห้องเรดาร์ เอาเชือกเส้นใหญ่ผูกกับต้นไม้ แล้วโหนตัวลงไปหลบในชะง่อนผาที่เตรียมไว้แล้ว

    คืนนั้นก็ทำอย่างตอนซ้อมแต่พอลงไปแล้วลืมปลดเชือกออก ข้าศึกจึงไต่เชือกลงไปเอาระเบิดหย่อนใส่ แม้วเสียกำลังไปประมาณ ๒๐๐ คน เพราะอยู่ไม่เป็นที่ ไม่อยู่ในบังเกอร์เฮโลไปทางโน้นทีทางนี้ที ทหารแม้วส่วนมากเป็นเด็กอายุ ๑๔ ๑๕ ปี ขวัญกำลังใจไม่มั่นคง

    แม้ข้าศึกจะถอนกำลังส่วนใหญ่ออกไปแล้วแต่ก็ซ่อนตัวอยู่ตามรอบๆหน้าผา การถอนกำลังต้องทำอย่างรอบคอบ อเมริกันส่งเครื่องบินสกายเรดาร์มาบินวนรอบๆภูผาที ยิงกดหัวข้าศึกไว้ก่อน แล้ว จอลลี่กรีน เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยขนาดใหญ่จึงร่อนลงรับบนยอดภูผาที

    ผมต้องขึ้นไปกับนักบินเพื่อชี้ที่ตั้งของหน่วยทหารไทยให้เฮลิคอปเตอร์ลงรับ มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่บินวนในระดับสูงน้ำมันใกล้จะหมด เห็นเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศบินเฉียดเข้ามาเติมน้ำมันให้ เคยได้ยินว่ามีการเติมน้ำมันกลางอากาศแต่ไม่เคยเห็น

    การถอนกำลังเป็นไปอย่างทุลักทุเลใช้เวลาเป็นวันกว่าจะเสร็จ ผู้ใหญ่ฝ่ายไทย และอเมริกัน และแม้ว งงไปตามๆกันว่าข้าศึกจำนวนมากขึ้นไปบนภูผาทีได้อย่างไร เพราะบริเวณที่ข้าศึกเข้าตีนั้นเป็นหน้าผาสูงชัน

    ทุกฝ่ายเคยคาดแต่เพียงว่าข้าศึกจะเข้าตีในเส้นทางที่ขึ้นง่าย ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของทหารไทย ผมเองเวลาซ้อมจริงก็ตั้งสมมติฐานเช่นนั้น ร.อ.เกียตู้ มีกำลังพลไม่น้อยลาดตระเวนอยู่ข้างล่าง โดยรอบของผาที ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่ทั้งอาวุธ อาหารการกิน

    ร.อ.เกียตู้ เคยสร้างวีรกรรมไว้สมัยคอมมิวนิสต์ครอบครองภูผาที ตั้งแต่สมัยยังไม่มีเรดาร์พาสมัครพรรคพวกปีนเขาเข้าตีข้าศึก ยึดภูผาทีกลับคืนมาได้ แล้วเหตุไฉนจึงให้ข้าศึกปีนขึ้นมาได้ง่ายๆ

    นอกจากจะเป็นใจให้กับข้าศึก ตามที่นายพลวังเปา สงสัย สองวันต่อมา นายพลวังเปาได้พา ร.อ.เกียตู้ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปตรวจพื้นที่การรบ เมื่อกลับลงมา

    ร.อ.เกียตู้ ตายเสียแล้ว นายพลวังเปา แจ้งว่าระหว่างบินอยู่กลางอากาศข้าศึกยิงจากพื้นดินกระสุนปืนถูก ร.อ.เกียตู้ ตายคนเดียว คนอื่นปลอดภัย

    เกียตู้รอดจากตายในที่ต่ำไปตายในที่สูง ส่วนทางฝ่ายทหารไทยนั้น แม้เวลาจะล่วงเลยไปหลายสิบปีแล้วก็ตามผมจำได้ดีว่า พลโทธนดิษฐ์ สุทธิเทศ รอง หน.บก. ๓๓๓ ไปรับผมที่สนามบินอุดรธานี แล้วพูดกับผมว่า โยธิน ถ้าการรบครั้งนี้เปิดเผยได้ ผมขอเหรียญกล้าหาญชั้น ๑ ให้คุณแล้ว

    เราได้ทำหน้าที่สำเร็จอย่างสมบูรณ์ สู้กับข้าศึก ขับไล่ข้าศึกออกจากพื้นที่ โดยที่เราไม่มีใครสูญเสียเลย ผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯ ประมาณการณ์ว่าเราสลายทั้งชุด ไม่เหลือเลยสักคน

    ทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์รบนองเลือดที่ยุทธภูมิภูผาที ที่โยธิน ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง

    สิ่งที่ให้บทเรียนอันล้ำค่าก็คือ ประสบการณ์การรบของทหารไทยที่ยืนยันถึงคุณค่าการฝึก การวางแผน การฝึกซ้อม การมีวินัย และการนำหน่วยที่ดีของ ผบ.หน่วย คือ ร้อยเอกจำลอง ศรีเมือง (โยธิน) ที่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จและกำลังลพทหารไทยปลอดภัย สมควรได้รับการยกย่อง



    ต่อมาหลังจากที่ฝ่ายเราได้ถอนกำลังออกจากภูผาที แล้วเครื่องเรดาร์และเครื่องมือต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่บนภูผาทีก็ถูกฝ่ายเราทิ้งระเบิดทำลาย ตามแผนการทำลายด้วยการทิ้งระเบิดทางอากาศทำลายจนหมดสิ้น




    เส้นทางที่หน่วยแซปเปอร์ของเวียดนามใช้  (สีแดง)


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×