ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฟ้มข้อมูล

    ลำดับตอนที่ #3 : ปฐมนิเทศ [Yuma]

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 57


                   ยามเช้าที่ท้องฟ้าโปร่งใสไร้เมฆ สายลมเอื่อยพัดพากลิ่นหอมของดอกไม้ใบหญ้าของฤดูใบไม้ผลิผ่านบานหน้าต่างที่ติดม่านสีอ่อนไว้ ภายในห้องถูกจัดวางโต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ ตู้ และเตียงไว้อย่างเป็นระเบียบ ห้องกว้างมีเฟอร์นิเจอร์อย่างละสองชิ้นซึ่งอีกชุดหนึ่งไร้ร่องรอยการใช้งานต่างจากอีกฟากหนึ่งของห้อง

                    บนโต๊ะเขียนหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือเรียนและเอกสารมากมายที่ถูกจัดใส่แฟ้มไว้เป็นอย่างดี แก้วใส่ปากกาเต็มไปด้วยปากกาหลากประเภทคละสีโดยแยกดินสอกดและดินสอไม้ไว้ในแก้วอีกใบหนึ่ง อุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นถูกหยิบใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อนโดยผู้เป็นเจ้าของ หน้าปัดนาฬิกาสีเงินสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาในห้องเรียกความสนใจให้ดวงตาสีดำสนิทต้องเหลือบมอง

                    “ตายล่ะ ! จะสายแล้ว

                    เสียงทุ้มร้องเสียงดังก่อนจะผละออกจากกระเป๋านักเรียนแล้วตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า เขารีบรูดสายเนคไทชิดกระดุมคออย่างรวดเร็ว เมื่อจัดตำแหน่งเรียบร้อยแล้วมือใหญ่ก็คว้าเสื้อสูทสีดำที่ปักตราโรงเรียนไว้ที่กระเป๋าเสื้อสวมทับเสื้อเชิ้ตที่สอดชายไว้ในกางเกง ดวงตาสีดำหลังเลนส์แว่นมองภาพในกระจกพลางยกมือจัดกลุ่มผมสีดำให้เข้าทรง ใบหน้าอ่อนเยาว์ขยับยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองเข็มกลัดในมือ เขาบรรจงติดเข็มกลัดอันเป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งประธานนักเรียนไว้ที่ปกเสื้อสูทก่อนจะรีบเดินไปคว้ากระเป๋าที่โต๊ะเขียนหนังสือ

                    จังหวะที่กำลังสะพายกระเป๋าขึ้นก็เหลือบไปเห็นรูปถ่ายที่ใส่กรอบวางตั้งไว้บนโต๊ะเป็นอย่างดี ในรูปใบนั้นมีตัวเขายืนอยู่ตรงกลางและห้อมล้อมไปด้วยเด็กสาวอีกสามคนที่กำลังส่งยิ้มสดใสให้กล้องหน้าตึกเรียน ข้างกันกับกรอบรูปนั้นมีรูปถ่ายเดี่ยวของชายหนุ่มคนหนึ่ง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับดวงตา ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มบางเบาขณะที่ส่งความตั้งใจไปยังการสีไวโอลินในมือ ผู้จ้องมองนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะขยับยิ้มขึ้นเล็กน้อย

                    “ไปก่อนนะครับ...”

                    ทางเดินจากหอพักนักเรียนไปถึงอาคารเรียนไม่ไกลมากนักเพียงแค่ใช้เวลาในการเดินสิบนาทีก็ถึงที่หมาย ทว่าชายหนุ่มผมดำต้องการความไวมากกว่านั้นจึงออกแรงวิ่งเต็มฝีเท้า แม้ว่าจะเคยเป็นสมาชิกชมรมกรีฑามาก่อนแต่ใช่ว่าการเว้นระยะฝึกไปนานจะส่งผลดีต่อร่างกาย กว่าจะวิ่งมาถึงห้องสภานักเรียนได้เขาก็ถึงกับหอบตัวโยน เมื่อสูดลมหายใจเข้าลึกเขาก็ผลักบานประตูเข้าไป

                    “โอ้ ! เหนื่อยหน่อยนะยูมะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะรีบทำไมน่ะ” น้ำเสียงนุ่มติดขบขันของหญิงสาวผมหางม้าสีแดงดังขึ้นทันทีที่เห็นบุคคลหน้าประตู ยูมะยิ้มเจื่อนลงไปเล็กน้อย

                    “ขอโทษครับ...ผมแค่กลัวว่าจะสายน่ะไมจัง” ยังไม่ทันที่ยูมะจะได้เรียกแรงที่สูญเสียไปกลับมาดี แรงกระแทกบางอย่างก็ซัดเข้าอย่างจัง ท่อนแขนเรียวเล็กรัดคอเขาแน่นพร้อมกับเสียงสดใสเปี่ยมด้วยพลังงานดังก้อง

                    “ยูจัง ! เผลอตื่นสายเพราะมัวแต่ทำเอกสารอีกแล้วเหรอ

                    “ปะ...ปล่อยก่อนครับเนจัง ! ทำแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะครับ ชายหนุ่มสวมแว่นลนลานพร้อมกับพยายามแกะแขนเล็กนั้นให้คลายลง ทว่าแทนที่อีกฝ่ายจะทำตามกลับกลายเป็นพองลมใส่แก้ม เส้นผมสีน้ำเงินสะบัดพริ้วเมื่อเจ้าตัวเมินหน้าไปทางอื่น

                    “ไม่เห็นเป็นอะไรซะหน่อย ยูจังคิดมากไปได้” ถึงจะบ่นแบบนั้นแต่สุดท้ายหญิงสาวเจ้าของนาม เนเลส ก็ขยับยิ้มแล้วปล่อยมือออก ยูมะขยับคอเสื้อเล็กน้อยพลางถอนหายใจยาว เมื่อสายตาเหลือบไปสบเข้ากับดวงตากลมโตของหญิงสาวแสนเงียบอีกคนในห้องเขาก็ขยับยิ้มออกมาเล็กน้อย

                    “สวัสดีครับโซลจัง” หญิงสาวร่างเล็กผูกผมแกละสูงแลดูน่ารักพยักหน้ารับคำทักน้อยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ตามเดิม ยูมะวางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะหยิบเอกสารในกระเป๋าออกมา

                    “ผมคงต้องไปเตรียมตัวแล้วล่ะครับ” ยูมะเอ่ยขึ้นเมื่อยกแขนดูนาฬิกาที่ข้อมือ ไมอา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะหยิบป๊อกกี้ใส่ปากก่อนยกยิ้ม

                    “แน่ใจนะว่าพร้อมแล้ว ไม่ลืมอะไรน่ะยูมะ”

                    “ฮ่ะๆ เห็นแบบนี้เวลาผมเอาจริงแล้วไม่มีอะไรพลาดหรอกครับ” เสียงทุ้มหัวเราะร่วนพลางตรวจนับเอกสารในมือ ทว่าคิ้วเรียวกลับขมวดยุ่ง เหงื่อเริ่มซึมชั้นผิวหนังขึ้นมาเป็นเม็ดกลมเต็มหน้าผาก

                    “นั่นไงล่ะ ฮ่าๆ” ไมอาหัวเราะเสียงดังพร้อมกับกุมท้องที่ขดเกร็ง เนเลสขมวดคิ้วแล้วกอดอก

                    “อะไรขาดไปล่ะยูจัง เดี๋ยวฉันจะได้ช่วยหา”

                    “คะ...คือ...ไม่สิ ผมไม่น่าลืมนะครับ จำได้ว่าผมหยิบมาหมดแล้วนี่นา” ยูมะเอ่ยเสียงเข้มพลางตรวจเช็คหน้าเอกสารอีกครั้ง ท่ามกลางความตึงเครียดของชายหนุ่มมือเล็กๆ ก็ยื่นเอกสารใบหนึ่งมาให้ตรงหน้า โซลเมตเงยหน้ามองยูมะเงียบๆ โดยไม่ลดมือที่ยื่นเอกสารนั้นลง

                    “เมื่อกี้ตอนหยิบฉันเห็นมันหล่นอยู่ตรงนี้น่ะ” ว่าแล้วใบหน้าเล็กก็พยักเพยิดไปที่พื้นมุมโต๊ะทำงาน ยูมะถอนหายใจยาวรับเอกสารนั้นมารวมไว้กับเอกสารที่เหลือ

                    “ขอบคุณครับโซลจัง ถ้าไม่ได้โซลจังช่วยผมต้องแย่แน่...” สิ้นเสียงของชายหนุ่มใบหน้านิ่งเฉยของโซลเมตก็ประดับด้วยรอยยิ้มบางเบาดูน่ารักที่น้อยครั้งจะเผยให้เห็น ไมอาเดินเข้ามาตบไหล่อีกข้างของยูมะ

                    “ไม่ใช่แค่โซลคนเดียวหรอกนะที่ช่วยน่ะ พวกเราพร้อมที่จะช่วยนายเสมออยู่แล้ว” รอยยิ้มมั่นใจมาพร้อมกับประกายตามุ่งมั่นของหญิงสาวผมหางม้าสีแดงก็ส่งตรงไปยังคู่สนทนา ยูมะขยับยิ้มขอบคุณไร้คำเอ่ยตอบกลับความรู้สึกนั้น ในขณะที่เนเลสค่อยๆ ย่องไปด้านหลังของชายหนุ่มแล้วใช้แรงทั้งหมดส่งไปที่แขนทั้งสองข้างผลักหลังของชายหนุ่มอย่างแรง

                    “ไม่ต้องห่วงนะ ถ้ามีอะไรก็มาบอกพวกเราได้เสมอเลยประธานนักเรียน !” เสียงสดใสของเนเลสราวกับช่วยเสริมกำลังใจให้เพิ่มพูนจากด้านหลัง ดวงตาสีดำเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงพร้อมกับแย้มยิ้มบางเบา

                    ขอบคุณครับ...ทุกคน...

                    “จากนี้จะเป็นการแนะนำสภานักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ ขอเชิญ เอ็นไค ยูมะ ประธานนักเรียนขึ้นมากล่าวโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ด้วยค่ะ !”

                    ขาทั้งสองก้าวไปข้างหน้าอย่างมาดมั่น รูปร่างสูงสมส่วนในชุดนักเรียนถูกระเบียบปรากฏแก่สายตาของนักเรียนในห้องประชุม ใบหน้าอ่อนเยาว์ประดับด้วยแว่นไร้กรอบเลนส์วงรี มือใหญ่วางเอกสารลงบนโพเดี้ยม เขาลอบถอนหายใจเล็กน้อยพยายามไม่ให้เข้าไมโครโฟนก่อนขยับยิ้มเป็นมิตรพลางกวาดสายตาไปทั่วห้อง

                    จากนี้ผมต้องดูแลพวกคุณตามหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วสินะ...

                    “ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูแห่งการเริ่มต้นปีการศึกษาของทุกคน ผม เอ็นไค ยูมะ ประธานนักเรียน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง...”

                    ...ยินดีต้อนรับนะครับทุกคน...

     

    ปฐมนิเทศ : End.

    FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×