ภูตาสื่อรัก
ถ้าจะรักกัน ก็แค่สื่อสารต่อกัน หากไม่เช่นนั้นภูริตาจะจัดการเอง
ผู้เข้าชมรวม
72
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
นิยายรัก โรแมนติก ความรัก โรมานซ์ 18 NC romantic ชายหญิง รักโรแมนติก ดราม่า พระเอกคลั่งรัก love พระเอกเก่ง นิยาย แฟนตาซี
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
“วิรูปักเขหิ เม เมตตังเมตตัง เอราปะเถ หิเม ฉัพยาปุตเต หิเม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเก หิจะ ฯ”
เสียงบทสวดของพระสงฆ์ดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณรอบบ้านไม้ทรงเรือนไทยโบราณ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าเขา มีต้นไม้น้อยใหญ่รายล้อมทั่วอาณาบริเวณ มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่งพนมมือไว้แนบอกอย่างตั้งใจฟังเสีงพระสวดโดยไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยหรือกระซิบกันให้คนข้าง ๆ ต้องรำคาญแก้วหูเลยสักนิด เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติดีตามขั้นตอนและพิธีการต่าง ๆ ของการนิมนต์พระมาทำบุญบ้านทั่วไป แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็ได้เกิดขึ้นเมื่อพระสงฆ์สวดมาถึงบทที่ขึ้นต้นว่า “วิรูปักเข หิเม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถ หิเม ฉัพยาปุตเต หิเม เมตตัง เมตตัง” เท่านั้น ชาวบ้านทุกคนต่างพากันลุกขึ้นตั้งวง ฟ้อนรำกันอย่างพร้อมเพรียงและดูเหมือนว่าจะมีความสุขและสนุกสนานไปกับเสียงบทสวดบทนี้โดยไม่ได้สนใจพระสงฆ์ที่กำลังสวดอยู่ “กูว่าแล้วเชียว เอาอีกแล้วหรือนี่” คำพูดสั่นเครือในลำคอของตาเทพ มัคทายกที่สังเกตเห็นว่าชาวบ้านกลุ่มนี้มีลักษณะท่าทางแปลก ๆ และบรรยากาศเย็นยะเยือกชวนขนลุกตั้งแต่เดินเข้ามายังบริเวณบ้านหลังนี้แล้วพูดบ่นคนเดียว ซึ่งก็มีพระสงฆ์บางรูปตกใจจนเกือบจะสติหลุด บางรูปก็กัดฟันสวดต่อไป บางรูปกลัวจนต้องหลับตาไว้ไม่กล้ามอง บางรูปกำลังจะลุกหนี แต่ดีที่ว่าก่อนจะรับนิมนต์มาในครั้งนี้เจ้าอาวาสได้กำชับกับพระทุกรูปไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้ทุกคนตั้งสติให้มั่น ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องตกใจ ให้ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง คือสวดต่อไปให้จบ “สวดต่อไป อย่าหยุด ทุกอย่างจะดีเอง” เสียงคำสั่งจากเจ้าอาวาสสอดแทรกเข้ามาในระหว่างบทสวดกำลังถูกสาธยาย ช่วยทำให้พระทุกรูปมีสติและสมาธิอยู่กับบทสวดนี้ต่อไปจนกระทั่งมาถึงจบบทที่ลงท้ายว่า “ปฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง ฯ” และทันทีที่สิ้นสุดเสียงสวดลง ชาวบ้านทุกคนก็หยุดฟ้อนรำกันทันทีเช่นกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะอันตรธานหายไปเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ทรงเรือนไทย หรือว่าชาวบ้านที่ฟ้อนรำกันก่อนหน้านี้ และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างหายไปแบบนี้แน่นอนว่าบนบ้านเรือนไทยหลังงามหลังนั้นก็ได้แปรเปลี่ยนกลายสภาพเป็นต้นไม้ที่มีขนาดลำต้นสูงใหญ่ขนาดน่าจะเกือบ 10 คนโอบได้เลย ทั้งพระสงฆ์ทั้ง มัคทายกต่างติดห้อยเกาะอยู่บนกิ่งของต้นไม้ใหญ่กันคนละกิ่งก้านถ้าไม่เช่นนั้นมีหวังได้ร่วงตกลงมาคอหักตายกันหมดทั้งกรมเป็นแน่
“เหตุการณ์เมื่อสักครู่มันคืออะไรครับอาจารย์ เราถูกผีหลอกใช่ไหมครับ” พระลูกวัดรูปหนึ่งเอ่ยถามกับเจ้าอาวาสผู้รับนิมนต์ในเหตุการณ์เมื่อเช้ามืดด้วยอาการที่ยังคงตกตะลึงไม่หายรวมถึงพระลูกวัดรูปอื่น ๆ ที่ร่วมไปนิมนต์ต่างยืนรอฟังคำตอบจากท่านเจ้าอาวาสด้วยอาการไม่ต่างกัน ส่วนท่านสมภารนั้นก็ได้แต่พยักหน้าและยกยิ้มตอบรับเพราะแม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหญิงสาวที่มานิมนต์ให้ไปฉันมื้อเช้านั้นเป็นใครแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธกิจนิมนต์ได้จึงทำได้แค่กล่าวเตือนให้พระลูกวัดทุกรูปมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลาเท่านั้น
“ถ้าอาจารย์ไม่อยากอวดอุตริ เพราะเกรงจะผิดพระวินัยถ้างั้นผมขอเล่าและอธิบายให้พระรูปอื่น ๆ ฟังเองนะครับ” ตาเทพ มัคทายกที่ร่วมไปนิมนต์ด้วยเพื่อทำหน้าที่นำสวดในงานพิธีให้ช้าวบ้านนั้น แกก็พอจะมีวิชาติดตัวอยู่บ้าง จึงมีญาณหยั่งรู้ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น คือมีนางไม้ตนหนึ่งได้มานิมนต์พระให้ไปทำบุญต้นไม้ใหญ่กลางป่าที่นางอาศัยอยู่ก็เนื่องจากว่าอายุหลายร้อยปีแล้วยังไม่เคยได้ทำบุญใหญ่สักครั้ง จนได้มาเจอกับเจ้าอาวาสวัดใหม่ป่าพงรูปนี้จึงเกิดศรัทธาและอยากทำบุญด้วย เลยเนรมิตต้นไม้ใหญ่เป็นบ้านเรือนไทยสวยงามด้วยอิทธิฤทธิ์ของนางไม้ที่มีบุญฤทธิ์สูงมากเพราะบำเพ็ญบารมีมาช้านานหลายร้อยปีเท่ากับอายุของต้นไม้ต้นนั้น แต่เมื่อได้รับฟังเสียงพระสวดมนต์บทต่าง ๆ แล้วรู้สึกชอบใจและเกิดปีติสุขมากจนถึงขั้นลืมตัวลุกขึ้นมาตั้งวงฟ้อนรำ โดยเฉพาะในบทขันธะปะริตะคาถาเพราะด้วยทำนองและจังหวะการสวดมันชวนสนุกน่าฟังน่าเต้นน่าฟ้อนรำ จึงเกิดเหตุการณ์อย่างที่ทุกคนได้เห็น ชาวบ้านทุกคนที่เห็นก็คือผีทั้งหมด ส่วนนางไม้ผู้มานิมนต์นี้ นางมีชื่อว่า ภูตสาว...ภูริตา ”นิมนต์เจ้าค่ะ พระคุณเจ้า...”
ผลงานอื่นๆ ของ silayos ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ silayos
ความคิดเห็น