ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mind

    ลำดับตอนที่ #3 : Sp. Ops ตอนพิเศษ : เมษาหน้าโง่

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 57


                “หา? ปีนี้ไม่มีพักร้อนเรอะ!”  เสียงตะโกนของเดดริคดังก้องร้านกาแฟ พร้อมลุกยืนเหมือนตกใจอะไรบ้างอย่าง จนคนรอบๆร้านหันมามองเห็นตาเดียว

                “เงียบๆหน่อยสิเดดริค แหม่แค่พักร้อนเอง” บุคคลที่กำลังพูดกับเดดริคคือ นิรตัย ประธานบริษัท Niratai  Corp. หัวหน้าของเดดริค รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้าง ‘Marverick’ อีกด้วย

                “ไม่ๆๆๆ หัวหน้าไม่เข้าใจคำว่าพักร้อนรึไง? มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขที่ปีนึงจะมีครั้งเดียวของคนทำงาน มันเป็นช่วงเวลาที่จะปลดเปลื้องความเครียดระหว่างทำงาน ได้ไปเที่ยวที่ไกลๆ ไปเจอสาวๆสวยๆ เป็นห้วงกาลที่

                “สต๊อปปุ!!!” นิรตัยหยุดเดดริคไว้ก่อนที่เขาจะพูดไปมากกว่านี้ อีกอย่าง คนรอบๆข้างก็เริ่มกระซิบกระซาบนินทากันแล้ว

                “นั่งลงก่อนเดดริค” นิรตัยกดไหล่เดดริคลง ให้เขานั่งเก้าอี้ “ฟังนะ ตอนนี้เรามีงานด่วน ด่วนมากๆ เราถึงให้นายพักร้อนไม่ได้ แล้วถ้าพ้นช่วงเดือนนี้ไป องค์กรเราจะมีงานเข้าแบบสุดๆ”

                “แล้วทำไมหัวหน้าไม่ให้ผมหยุดพักช่วงนั้นละ”

                “องค์กรเราขาดนายไม่ได้” นิรตัยเริ่มพูดด้วยเสียงจริงจัง “นายคือนัมเบอร์วันในองกรค์ เก่งที่สุด ฝีมือดีสุดและยอดเยี่ยมที่สุด!!!” ตอนนี้ผู้คนเริ่มหันมามองนิรตัยที่แหกปากเป็นเจ้าเข้าไปแทนเสียแล้ว

                ตอนนี้เดดริคน้ำตาไหลพรากเป็นน้ำตกไปแล้วเรียบร้อย “โฮฮฮฮ หัวหน้า หัวหน้าชมผมขนาดนี้ บอกมาเลยครับ จะงานอะไรผมไม่หวั่น โฮฮฮฮฮฮ”

                และภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของผู้คนในร้านกาแฟคือชายลำบึก 2 คนกำลังกอดกัน โดยคนนึงน้ำตาไหลเป็นสายน้ำเลยที่เดียว บางคนทนไม่ไหวถึงกับอ้วกเลยก็มี

    …………………………………………………………………………………………………

                “บ้าเอ๊ย! ไปหลงคารมหัวหน้าซะได้ ได้งานมาเลยเนี่ย ชิ” เดดริคหรือไนท์  (ในนามปฎิบัติภารกิจ) บ่นออกมาหลังจากเขาตกปากรับงานมาจากนิรตัย โดยนิรตัยให้ชื่อภารกิจนี้ว่า

    ‘Operation lie eater’

                ข้อมูลภารกิจที่เขาได้มาจากนิรตัยคือ ตอนนี้มีผู้ก่อการร้ายออกอาละวาด ชื่อของมันคือ เฟมัต นักโกหกมันใช้ความสามารถในการโกหกของมันหลอกลวงชาวบ้านจนเดือดร้อนกันไปทั่ว อีกทั้งความสามารถในการต่อสู้ก็สูง ลำพังตำรวจม่ามารถรับมือมันได้

                “เฮอะ! ก็แค่ไอ้ตัวขี้โกหก จะไปทำอะไรได้เล่า เอาละ ไปลุยกันเลย!!!!!!!!” ไนท์ตะโกนเรียกกำลังใจแล้วถีบคันเร่งจนรถทะยานไปทันที

                อีกด้านหนึ่ง SQ.Park  ไอเมริส

                ชายหนุ่มคนนึงเดินเข้าไปในหาหญิงสาวที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ เขาอยู่ในชุดโค๊ทสีน้ำตาล สวมฮู้ดเขียว เหนือฮู้ดของเขามีเขาปรากฏอยู่ 3 อัน สีแดง เหลือ ฟ้าตามลำดับ เขาใส่รองเท้าเหล็กปลายแหลมมีเม็ดมุกตรงปลาย หน้าตาของเขายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา

                “นี่น้อง น้องรู้มั๊ย? ว่าโทรศัพท์รุ่นนี้น่ะ ยิ่งใช้มากๆ สายตาจะเริ่มบอดนะ” ชายหนุ่มนั่งลงข้างหญิงสาว แล้วพูดกับเธอ

                หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มแบบงงๆ “บ้ารึเปล่าพี่ รุ่นนี้หนูใช้มาจะปีแล้วนะ ยังไม่เป๋นอะไรเลย”

                “เหรอ งั้นก็ลองมองที่โทรศัพท์ดูดีๆสิ”

                พอได้ยินดังนั้นหญิงสาวก็ละสายตาจากชายหนุ่ม แล้วไปมองโทรศัพท์ของตนเองต่อ แต่เธอก็พบสิ่งผิดปกติ

                “ว๊าย! ทำไมตาฉันพร่าลงเรื่อยๆละเนี่ย กรี๊ดดดดดดด!!!!!!!!” หญิงสาวตะโกนลั่น พยายามคว้าหาตัวชายหนุ่ม “พี่คะ พี่! หายไปไหนแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วย กรี๊ดดดด!!!!!

                ผู้คนรอบข้างเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเธอ บ้างก็มาช่วยเหลือ บ้างก็ยืนมองแล้วซุบซิบนินทา ส่วนชายหนุ่มเจ้าปัญหายืนหลบอยู่หลังตึกแห่งหนึ่ง

                “หึหึหึ สำเร็จไปอีกหนึ่ง แต่ว่าผงกรดเริ่มจะหมดแล้วแหะ” แท้จริงแล้วชายหนุ่มแอบปล่อยผงกรดใส่ตาหญิงสาวนั้นเอง มันจึงทำให้หญิงสาวผู้โชคร้ายตาบอดอย่างรวดเร็ว แถมในเวลาต่อมาบริษัทผลิตมือถือที่หญิงสาวใช้ก็ถูกสอบสวนเป็นการใหญ่จากการให้การของหญิงสาว ว่าหลังจากเธอใช้โทรศัพท์รุ่นนี้แล้วตาบอด ทำให้บริษัทผลิตมือถือล้มละลายในที่สุด

    เพียงคำโกหกเล็กๆ หากใช้ถูกที่ถูกเวลาถูกจังหวะก็ทำให้เกิดหายนะได้เช่นกัน

    อีกด้านหนึ่ง

    ~~ตื่อ ตื่อ ตี้อ ตื่อ ตื่อ ตึ้ด ตื่อ~~

    เสียงโทรศัพท์ของเดดริคดังขึ้น ขณะนี้เดดริคกำลังคุยกับบุคคลคนนึงอยู่ แต่เมื่อเห็นเป็นสายสำคัญเขาจึงต้องกดรับ

                “เอ่อแปปนึงนะพี่ ฮัลโล ว่าไงคิม” มันเป็นสายจากคิม ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสนับสนุนข้อมูลของ Marverick นั่นเอง

                “ฮัลโลครับคุณเดดริค หัวหน้าให้ถามว่าเจอตัวเฟมัตรึยังครับ?”

                “เออ เจริญละ ชื่อรหัสมีก็ไม่เรียกบอกหัวหน้าไปนะว่ายังไม่เจอ แล้วก็ฝากหาให้ด้วย” เดดริคทำหน้าเซ็งๆ นอกจากเขาเองกับหัวหน้าแล้ว แทบไม่มีใครเรียกกันด้วยชื่อรหัสเลย

                “ฮัลโล!นี่ฉันเอง แกกล้าดียังไงมาให้ฉันทำงานที่ฉันมอบหมายให้แกน่ะ!” จู่ๆหัวหน้าก็โผล่เข้ามาในสาย ทำเอาเดดริคสะดุ้งกับเสียงและการปรากฏตัวแบบนี้เลยทีเดียว

                “หวายยยย! หัวหน้า คือผมไปหาตอนนี้ไม่ได้น่ะครับ” ไนท์ทำหน้าเศร้า แต่หัวหน้าเขาย่อมรู้ดีว่าไนท์น่ะเสแสร้ง

                “อย่ามาแหล! ไหนบอกมาสิว่าทำไมไปหาไม่ได้”

                “เอ่อคือผมกำลังมีปัญหากับคนคนนึงอยู่เอาเป็นว่าหัวหน้าคุยเองเลยละกัน อะนี่ครับพี่โทรศัพท์ครับ” ไนท์ส่งโทรศัพท์ให้อีกคนนึง ส่วนทางด้านนิรตัยเองก็สงสัยเหมือนกันว่าใครที่ทำให้ไนท์ยอมจำนนได้ขนาดนี้

                “สวัสดีครับ ผมจ่าเซเก้น ประจำสถานีไอเมริสครับ พอดีว่าผมจับคุณเดดริคไว้ในข้อหาขับรถเกิน 120 mi/h น่ะครับ ถ้าให้ปล่อยตัวไปตอนนี้คงไม่สะดวก”

                “……..”   

                “…………..”   กริบ

                “………………..”  เงียบกริบ

                “แกขับบ้าอะไรของแกวะ เดดริค”

                “ก็ผมรีบนี่ครับขอโทษครับหัวหน้า” หน้าตาของไนท์เริ่มเศร้าลงจริงๆ แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อนิรตัยพูดอีกคำออกมา

                “ฉันหมายถึงแกขับยังไงให้โดนจับ เผ่นโว้ยยย!!!” ไนท์ฉีกยิ้ม การที่หัวหน้าพูดแบบนี้หมายความว่าหัวหน้ามีหนทางจัดการกับตำรวจคนนี้หลังจากเขาชิ่งไป

                จ่าเซเก้นได้ยินที่นิรตัยพูดเขาก็รีบชักปืนออกมา แต่ไม่ไวไปกว่าไนท์ที่ย้ายที่จากข้างจ่าเซเก้นไปอยู่หลังพวงมาลัย พร้อมกับใช้มือซ้ายคว้าโทรศัพท์กลับและยิงยาชาออกจากนิ้วน้อยซ้ายไปด้วย

                “ไปละโว้ยยยยยย!!!!!!!!” แล้วไนท์ก็ถีบคันเร่งออกไปแบบสุดๆอีกรอบ ทุกคนได้แต่ภาวนาว่าเขาจะไม่ไปโดนจับที่ไหนอีก

    …………………………………………………………………………………………………

                “ตามข้อมูลแล้ว มันก็วนๆอยู่แถวนี้ละนะ” ไนท์จอดรถพักในปั้มแห่งหนึ่ง เขาเปิด PDA ออกมาดูข้อมูลภารกิจ แล้วกระดกน้ำแก้กระหาย

                “นี่พี่ชาย พี่ชายรู้มั๊ยว่าน้ำเปล่าเนี่ย เขาถามดื่มขณะเปิด PDA ไปแล้วก็อยู่ใกล้ปั๊มนะ หึหึหึ” จู่ๆชายหนุ่มคนก่อนหน้าก็โผล่มาทางด้านหลังของเขา ไนท์แอบสะดุ้งแต่ก็ไม่ออกอาการ

                “งั้นเหรอ แปลกดีเนอะ” ไนท์ท้เป็นไม่สนใจ เพราะเขามีเรื่องสำคัญต้องทำ

                “แปลกงั้นรึ หึหึหึ” ชายหนุ่มหัวเราะออกมา

                ตูมมมม!!!!!!!

                .

                .

                .

                เศษซากเครื่องจ่ายน้ำมันลอยเฉียดหน้าไนท์ไป เขาตาค้างได้ไม่นานก็รีบปิด PDA แล้วโยนขวดน้ำทิ้งทันที

                “เรื่องจริงเหรอวะ” ไนท์ตกอยู่ในภวังค์ เขาเชื่อสนิทว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเหตุให้ปั้มระเบิด แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น

                โทรศัพท์ที่ปฏิเสธไม่ได้จากหัวหน้าของเขานั่นเอง

                “ไนท์! เราเจอเจ้าเฟมัตแล้ว มันอยู่ใกล้ๆแกนั่นแหละ!”  นิรตัยแจ้งข้อมูลที่ได้มาให้กับไนท์ แต่สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือไนท์ที่กำลังเสียสติกับปั้มที่ระเบิดเป็นจุล

                “เอ่อแย่แล้วครับหัวหน้า คุณเดดริคโดนยากล่อมประสาทกับคำโกหกของเฟมัตไปแล้ว” คิมเคยเป็นหมอมาก่อน เขาจึงรู้จักอาการและยาต่างๆดี

                “บ้าเอ๊ย! คิม แจ้งเอลซี่บอกให้เอลซี่ไปแจ้งตำรวจว่ามีเหตุระเบิดขึ้น”

                “เอ่อได้ครับ” คิมได้รับคำสั่งเขาก็รีบไปหาเอลซี่ทันที

                “อ้อ อย่าลืมไปดูแลคุณจ่าเซเก้นด้วยนะ” นิรตัยตะโกนตามหลังคิมไป ถ้าพวกเขาไม่จัดการจ่าเซเก้นอาจจะมีปัญหาตามมา

                “เอาละ ต่อไปก็แกไนท์ ยากล่อมประสาทจะสู้ฉันได้รึเปล่านะ” นิรตัยยิ้มออกมา  เตรียมตะโกนเข้าโทรศัพท์ “ไอ้บ้าไนท์ทำอะไรของแกอยู่!!!!!!!!!!!!!!

                “หวายยยยย! หัวหน้า หัวหน้าผมขอโทษ!” พอได้ยินเสียงเรียกจากนิรตัย สติของไนท์ก็กลับมาทันที เขาขอโทษนิรตัยโดยที่ก็ไม่รู้ว่าขอโทษทำไม เหมือนกับมันเป็นการ Re-Action “นี่ผมทำอะไรอยู่เนี่ย?”

                “รู้ตัวแล้วใช่มั๊ย? เฟมัตมันอยู่ใกล้ตัวแกมาก แต่ตอนนี้มันกำลังหนีไป รีบตาม! แค่นี้แหละ เลิกกัน” นิรตัยพูดแค่นั้นก็วางสายไป

                “แย่แหะ โดนยากล่อมประสาทสินะ เมื่อไรจะมีเงินอัพเกรดระบบฟอกอากาศละเนี่ย” ไนท์มองที่จอ PDA แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามากแล้ว ต้องรีบตามไปจับเฟมัต

                โดยปกติแล้วร่างกายของไซบอร์คจะมีส่วนที่ยังเป็นมนุษย์อยู่ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเจ้าของร่างกายจะไปอัพเกรดส่วนไหน ระบบอะไร แต่ร่างกายของไซบอร์คทุกคนจะสามารถบอกอาการหรือโรคที่เป็นผ่าน PDA ได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องอัพเกรด

                ส่วนทางตัวเฟมัตเองตอนนี้เขาเข้าไปยืนขวางรถคันนึงกลางถนนเสียแล้ว

                “เฮ้ย! มายืนทำบ้าอะไรวะ หลบไปโว้ย!” ชายที่ขับรถชะโงกหน้าออกมาจากกระจก ทำท่าทางโวยวาย

                “พี่ชายรู้มั๊ยว่าไอ้รถรุ่นนี้น่ะ กระจกรถมันไม่ค่อยดี เลื่อนขึ้นเองจนเคยคนโดนหนีบแขนหักไปแล้วนะ” จังหวะนั้นมือของเฟมัตก็หยิบรีโมตอะไรสักอย่างออกมา แต่ก็ช้าไป

                “Cyborg Kick!” ไนท์ทะยานตัวโดยใช้ไอพ่นที่ขาผลักตัวเขาเข้าไปถีบยอดหน้าเฟมัตจนกระเด็น รีโมตที่เฟมัตถืออยู่ก็หลุดออกจากมือ แต่ไนท์คว้าไว้ได้

                “รีโมตควบคุมอุปกรณ์เทคโนโลยีรึ? ของดีแบบนี้มันเอามาจากไหนกัน” ไนท์เก็บรีโมตไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะสังเกตุเห็นชายที่นั่งอยู่ในรถกำลังตัวสั่น “เอ่อขอโทษที่ขัดขวางการจราจรนะครับ ตอนนี้พี่ไปได้เลยครับ”

                ได้ยินแค่นั้นเขาก็เหยียบคันเร่ง พุ่งออกไปทันที ซึ่งภายหลังก็ถูกจับโดยจ่าเซเก้นที่ได้รับการดูแลแล้ว

                “เอาละ ยอมให้จับซะดีๆ เฟมัต นักโกหก” ไนท์หันมาเผชิญหน้ากับเฟมัตต่อ เขารู้ดีว่าพวกผู้ร้ายส่วนใหญ่มักไม่ยอมง่ายๆ

                “หึหึหึ จับงั้นเหรอ จับข้อหาอะไรละ โกหกจนทำให้ปั้มระเบิดรึไง หึหึหึ!” เฟมัตถามถึงความผิดของเขา ซึ่งแน่นอนว่าเขาถูกจับในข้อหานี้ไม่ได้ แต่คนที่ทำให้ปั้มระเบิดก็คือเขาเองนั่นแหละเพียงแต่ไม่มีหลักฐาน

                ไนท์คิดอยู่แล้วว่าต้องเจอแบบนี้ เขาตอบกลับไปแบบยิ้มๆ แต่เป็นยิ้มที่กำลังดูถูกอีกฝ่าย “แกคงคิดอยู่สินะ ว่าแกเป็นคนเดียวที่โกหกได้ โง่รึเปล่า การโกหกของแกมันก็แค่การโกหกเอามันส์ โกหกไปเรื่อยๆตามอารมณ์ จริงๆก็โกหกหลอกลวงมันมีมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่คำพูดไม่ใช่แค่การกระทำ”

                “หลักฐานปลอม!...แก!”  เฟมัตเข้าใจถึงสิ่งที่ไนท์ต้องการสื่อ เขาโกรธในสิ่งที่ไนท์จะทำกับเขา แต่อีกใจก็แอบถูกใจ “แต่แกจับฉันไม่ได้หรอก!

                Marverick นั้นเป็นองค์กรอิสระที่ถนัดด้านการหาข่าวและปลอมแปลงหลักฐาน พวกเขามักถูกจ้างโดยตำรวจ ในงานที่มีข้อมูลน้อยและไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้เพราะขาดหลักฐานมัดตัว

                บ้างครั้งการกำราบความชั่ว มันก็หมายถึงเราต้องกลายเป็นคนชั่วเสียเอง

                เฟมัตใช้พลังจิตยกต้นไม้ใกล้ตัวเขาขึ้นมา ก่อนจะเหลาปลายจนแหลม “ระวังหัวให้ดีละ หึหึหึ!

                “ผู้ใช้พลังจิต?” ไนท์ไม่รอช้า เปิดเกราะระดับ 2 ซึ่งเป็นเกราะหมวกออกมา พร้อมกับเปิดเกราะแขนยกขึ้นมาการ์ดศีรษะไว้

                แต่เขาคงลืมไปว่าสู้กับใครอยู่

                ไม้พุ่งเข้าท้องไนท์อย่างจัง โชคดีที่ต้นไม้นี้ไม่แกร่งพอจะแทงทะลุร่างกายเขา แต่โดนเข้าแบบนี้ก็เจ็บไม่ใช่น้อย

                ไม่มีเวลามาร้องครวญครางทรมาร ไนท์ถอนต้นไม้ออกจากท้อง เปิดไอพ่นที่ท้องเข้าถีบเฟมัตอีกรอบ

                เฟมัตเอามือทั้งสองข้างกุมขมับ พลันปรากฏบาเรียขึ้นเบื้องหน้า เมื่อไนท์ถีบเข้ามาเข้าจึงกระเด็นออกไปแทน

                จังหวะที่ไนท์ลอยออกไป เฟมัตไม่รอช้า ใช้พลังจิตยกตัวไนท์ขึ้น แล้วใช้พลังจิตกดตัวไนท์ลงมาให้กระแทกกับพื้น

                ควันฟุ้งกระจายเต็มถนนจนมองไม่เห็นร่างของไนท์ เฟมัตแสยะยิ้ม เขายกต้นไม้ต้นเดิมขึ้นมาด้วยพลังจิต แล้วฟาดลงไป ณ จุดที่ไนท์ตกลงมา

                แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ควันฝุ่นแต่เป็นควันที่ไนท์ปล่อยออกมาตอนที่เขากนะแทกพื้น มันจึงหนากว่าปกติ ทำให้เฟมัตมองไม่เห็นเขาซึ่งตอนนี้แอบมาอยู่หลังเฟมัตเรียบร้อยแล้ว

                ไนท์อาศัยโอกาสนี้ถีบเฟมัตเข้าไปยังจุดที่เขากำลังจะฟาดไม้ลงไป ตอนนี้เฟมัตห้ามมันไม่ทันแล้ว เขาจึงถูกไม้ที่เขาควบคุมฟาดเข้าที่ลำตัวของตัวเขาเอง

                “ยอมแพ้ซะเหอะ”

                เฟมัตส่ายหน้าเป็นเชิงปฎิเสธ “ไม่ จนกว่าแกจะต่อยฉันได้ หึหึหึ ต่อยเข้ามาสิ ตอนนี้ท้องฉันไร้การป้องกันแล้ว”เฟมัตลุกขึ้นมา เขากางมือทั้งสองออก เผยให้เห็นจุดอ่อนที่ช่องท้อง

                ไนท์บอกกับตัวเองว่าเขาจะไม่พลาดถูกหลอกซ้ำสองอีก และเขาจะต้องล้มเฟมัตในหมัดนี้ให้ได้

                ไนท์ใช้ไอพ่นที่แขน เล็งไปที่ใบหน้า เขาต้องการปล่อยหมัดออกไปให้เร็ว เร็วจนเฟมัตไม่สามารถย้ายบาเรียจากท้องไปที่ใบหน้าได้ทัน

                แต่ไม่เคยมีใครบอกว่าที่เฟมัตพูดเมื่อครู่เป็นคำโกหก

                ไนท์ต่อยเข้าไปที่บาเรียอย่างจัง แต่คราวนี้ไม่ใช่บาเรียธรรมดา มันคือบาเรียที่จะละลายทุกอย่างที่สัมผัสมัน จนกว่าสิ่งที่สัมผัสจะถูกเอาออกไป หรือถ้าเอาออกไป สิ่งที่สัมผัสก็จะโดนไฟเผาแทน

                “อ๊ะจ๊ากกกกกก!!!!! ร้อน!!!!! พลังจิตเฉพาะ? ของแกเป็นไฟเรอะ?” ไนท์ถามขณะพยายามดับไฟโดยการเป่า

                พลังจิตมี 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือพลังจิตธรรมดาที่ผู้ใช้พลังจิตทุกคนมี เช่น ยกสิ่งของ สะกดจิต ส่วนพลังจิตเฉพาะคือพลังจิตที่ทุกคนจะมีต่างกัน คุณสมบัติและรูปแบบการใช้ต่างกันอย่างเช่นของเฟมัตจะเป็นรูปแบบไฟ แต่เขาไม่สามารถปล่อยไฟออกมาตรงๆได้ ทำได้เพียงใช้ออกทางร่างกายและเพิ่มอุณหภูมิเฉพาะจุด

                เฟมัตเปลี่ยนหมัดของเขาเป็นหมัดเพลิง เข้าดวลหมัดกับไนท์ในระยะประชิด หมัดของเฟมัตทั้งเร็วและแรง แถมยังร้อนมาก บีบให้ไนท์ต้องใช้ร่างกายเพื่อหลบมากกว่าปกติ

                “คิดว่ามีหมัดไฟคนเดียวรึไง!” ไนท์ยกหมัดไฟของเขาขึ้นมาโชว์ แต่จริงๆมันก็คือหมัดที่ยังดับไฟไม่สนิทนั่นแหละ

                ไนท์ใช้หมัดไฟของเขาต่อยเข้าท้องเฟมัต เฟมัตไม่หลบแต่กลับรับหมัดเข้าไปเต็มๆ ร่างกายของเฟมัตไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่กลับรู้สึกดีที่ได้ดูดไฟในมือไนท์เข้ามา แล้วต่อยสวนจนไนท์ปลิวเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน

                “ไฟที่ติดอยู่ในมือมันดับไปก็ดีอยู่หรอก แต่แกฟิตขึ้นนี่มันไม่คุ้มนะ” ไนท์ลุกขึ้น ปัดฝุ่น 2-3 ทีก่อนจะโอนถ่ายพลังงานในร่างกายมาไว้ที่มือขวาจนมันใหญ่ขึ้น รวมถึงมีเกราะและหนามมาเสริมที่หมัดและข้อมือ “ที่เห็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าโสดนะ แต่ฉันจะปิดเรื่องในหมัดนี้ละ”

                เฟมัตได้ยินดังนั้นก็แปรพลังไฟเป็นเกราะอ่อนๆที่ใบหน้าและลำตัว เขาไม่รู้ว่าไนท์จะต่อยมาตรงไหน แต่ที่เขาทำมันเป็นการลวงว่าเขาจะเปิดเกราะแค่ 2 จุดนี้ แผนจริงๆของเขาคือการย้ายเกราะอย่างรวดเร็วไปยังจุดที่โดนต่อย

                “คราวนี้ฉันจะโกหกบ้างละ ฉันจะใช้แขนขวานี่ต่อยที่หน้าแก!

                ในกระแสการต่อสู้ที่โป้ปดกันไปมา เราไม่สามารถเชื่อได้เลยว่าตำพูดไหนจะจริง การกระทำไหนจะเท็จ

                ทั้งคู่มองดูเชิงของกันและกัน ไม่นานนักไนท์ก็วิ่งเข้าไปก่อน เขาเปิดด้วยหมัดขวาที่เสริมพลังมาแล้ว แต่เฟมัสก็รับได้เป็นไปอย่างที่เฟมัตคาดเดา แต่หมัดซ้ายพุ่งตามมาติดๆ เป้าหมายของมันคือท้อง

                เฟมัตรับไว้ได้อีกครั้ง ทว่าไนท์กลับดึงหมัดขวาออกไปในจังหวะที่หมัดซ้ายพุ่งเข้า แล้วใช้ไอพ่นเร่งความเร็วหมัดขวา เขามั่นใจว่าเฟมัตรับไว้ไม่ได้

                แต่ผิดคาด! ต้นไม้ที่กองอยู่กลับเข้ามารับหมัดขวาไนท์เอาไว้ เฟมัตแสยะยิ้ม ตอนนี้เขาคิดแผนเผด็จศึกได้แล้ว

                “อั๊ก! อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!!!

                .

                .

                .

                มันไม่ใช่เสียงร้องของไนท์ แต่เป็นเสียงร้องของเฟมัตเอง ตอนนี้เขาหมดแรง และกำลังหมดสติอย่างช้าๆ “กแก”

                ในช่วงที่มือไม้กำลังชุลมุนกันอยู่นั่นเอง ไนท์แอบถ่ายพลังงานไปที่ขา โดยที่เฟมัตไม่ทันสังเกตเห็น และเตะเข้าไปที่เป้าอย่างแรง

                คำพูดของไนท์ถือเป็นคำเท็จและเป็นจริงในคำๆเดียว

                “ฮัลโล หัวหน้า เสร็จงานละนะ เอาคนมาจับตัวไอ้เฟมัตมันไปด้วย ปวดหัวกะมันชิหายเลย”

                “ดีมาก แต่เรายังมีปัญหาอีกอย่างนี่สิ ทางเราเพิ่งจะได้รับแจ้งมาว่า เฟมัตมันแอบเอาระเบิดไปติดตั้งในโรงงานร้างแถว SQ.Park จะระเบิดในอีก 5 นาทีแล้ว ตอนนี้แกอยู่ใกล้สุด รีบไปดูเร็ว!

                “บัดซบ! สลบไปแล้วยังสร้างเรื่องอีกเรอะ!” ไนท์รีบวิ่งไปยังพิกัดเป้าหมาย ตอนนี้รถเขาอยู่ในปั้มที่เพิ่งระเบิด เขาไม่อยากเข้าไปเอาเพราะจะวุ่นวาย อีกอย่างคือมันใกล้มาก

                ไนท์ใช้เวลาไม่นานก็วิ่งมาถึงโรงงานร้างที่ว่า ทันทีที่เขาเข้าไปก็เจอกับกล่องของขวัญขนาดใหญ่ ที่มีเวลานับถอยหลังอยู่

    “ไหนบอกว่าเหลือราวๆ 5 นาที นี่มันเหลือแค่ 5 วินาทีเองนะ” ไนท์รู้ตัวดีว่าตอนนี้คงทำอะไรไม่ทัน จึงพยายามจะสร้างบาเรียครอบกล่องขวัญนี้ไว้

    5…

    4…

    3…

    2…

    1…

    0!!!

    “สุขสันต์วันเอพริลฟู.. อุ๊บ!!!” สิ่งที่ปรากฏออกมาไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นนิรตัยที่ซ่อนอยู่ในกล่องของขวัญ แต่ตอนนี้เขากระแทกกับบาเรียอย่างจัง “อู๊ยยยย ไอ้บ้านี่”

    “หหัวหน้านี่มันเรื่องอะไรกันครับ?” ไนท์ตกใจมากที่จู่ๆหัวหน้าโผล่มาแบบนี้ แถมตอนนี้เพื่อนๆใน Marverick ก็ค่อยๆโผล่ออกมาจากรอบๆตัวเขาด้วย

    “คือหัวหน้าเขาจะเซอร์ไพร์ให้กับคุณเดดริลน่ะครับ เขาเลยมาหลบในกล่องแบบนี้” คิมเป็นคนอธิบายให้ไนท์ฟัง

    “ซเซอไพร์เรื่องอะไรละ” ไนท์ยังไม่หายงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขายังมึนๆงงๆอยู่

    “แหม่ปีนี้นายจะได้โบนัสพิเศษ แถมพักร้อนยาวถึงสิ้นปีไม่ใช่เหรอ ก็ทำงานกับเรามา 5 ปีแล้วนี่” โดนัล เพื่อนฝ่ายอุปกรณ์และอาวุธของไนท์ตบไหล่ไนท์และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

    “แต่เมื่อเช้าหัวหน้าบอกว่าปีนี้งดพักร้อนนะ มันเป็นยังไงกันแน่ครับหัวหน้า” ไนท์ที่กำลังสับสนถามคำถามกับนิรตัย ที่กำลังลูบหัวตัวเองอยู่

    April Fool’s Day ไงละ วันนี้วันที่ 1 เดือนอาบริลนะ หลงวันหลงคืนรึไง!” นิรตัยส่ายหน้าเนือยๆ แต่เขาเองก็รู้สึกดีที่หลอกลูกน้องของเขาได้

    “งั้นที่บอกว่าไม่มีพักร้อน

    “โกหกยังไงละ! ฉันถึงอยากให้แกเคลียงานก่อนไปพักร้อนยังไงละ”

    “เยสสสส! ถึงสิ้นปีเลยเรอะเนี่ย ยาฮู้!!!!! ปีนี้จะได้ไปเที่ยวงานสัมมนาแล้วโว้ยยย!....เฮ้ย งั้นที่บอกว่าผมเก่ง เทพ เมพที่สุดละ”

    “โก-------หก” นิรตัยพูดออกมาหน้าเฉย จนไนท์ทำหน้าเหนื่อยจน เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกๆคน

    …………………………………………………………………………………………………

                เช้าวันต่อมา

                ไนท์ที่กำลังนอนหลับสบายในห้องจำใจต้องตื่นมารับสายโทรศัพท์ที่ปฎิเสธไม่ได้ “หัวหน้า?...อะไรกันครับ ไหนบอกพักร้อนยาว แล้วโทรมาทำไมเนี่ย”

                “นี่ลูกค้ารายใหญ่นะ แกรับไปเลย ก่อนฉันจะขึ้น”

                “หนไหนบอกพักร้อนยาว หัวหน้าอย่ามากลับคำเซ่!

                “ฉันว่าฉันบอกแกไปนะ ว่าเมื่อวานเป็นอะไร”

                “งั้นก็หมายความว่า

                “ใช่!

                “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    สุขสันต์วันโกหกโลกครับ ^^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×