คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter - 6 - การเปิดทาง
“ซีเรีย!!!!.....พี่บอกแล้วไง ว่าอย่าไปยุ่งกับนังริกะนั่น ” ราเมียหญิงสาวผมบ๊อบ ท่าทางห้าวหาญการรบ ยืนตระง่านอยู่หน้าบานประตูเหล็กสีดำ ที่สลักสวดลายที่น่ากลัว และชวนขนลุก เธอได้ใช้ดวงตาสีแดงเลือดมองไปยังน้องสาวของเธอ ที่เพิ่งอ่านตำราเวทย์มนตร์เล่มสีดำ
ปึก.......เสียงหนังสือเล่มหนาได้ถูกปิดลงจากผู้อ่านแสดงให้เห็นรายละเอียดของหน้าปก มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับทักษะมนตร์ดำ
“รู้แล้วคร่า......คุณหญิงแม่!!!” ซีเรียได้พูดตอบไปอย่างเบื่อหน่ายกับการจ้ำจี้จ้ำไชของพี่สาวตนเอง
“นี่ซีเรีย.....ว่าแต่เธอรู้รึป่าวว่า ปีศาจปริศนา น่ะ ในตำนานมันเป็นไงหรอ” หญิงสาวคนพี่เปลี่ยนอารมณ์กลับสู่สภาพเดิม แล้วเดินไปนอนบนเตียงของน้องสาวเธอ
“ดูเหมือนว่า...เอ่อ........” ซีเรียหันกลับไปที่ตู้หนังสือขนาดมหึมาของเธอ พร้อมทั้งควานหาหนังสือเล่มหนึ่งออกมา
“อ๊า.......นี่ไง...เดี๋ยวนะ......ในคืนดวงจันทร์ดำเต็มดวง วิญญาณ ทูตนรก แลภูตผีร้าย ทั่วทั้งโลกันต์ จักเดือดดาลอยู่ใต้รูปปั้น โซล ออฟ เดทอีทเตอร์ ดวงตาเปล่งแสง รัตติกาลดำทมิฬ เลือดหลั่งไหลทั่วแหล่งบูชายัญ คืนชีวิตแก่เทพผู้เป็นบิดาแห่งซาตานร้าย แลเบอร์เรนดัสท์แห่งหุบเหวแห่งเปลวไฟโลกันต์ ....... ” ซีเรียแปลบทความภาษาแอคทิโนเซเดียนสมัยโบราณภายในหนังสือให้พี่สาวซึ่งนอนอยู่บนเตียงเธอฟัง
“คืนพระจันทร์เต็มดวงหรอ................มันก็อีกห้าเดือนหน่ะสิ” ราเมียครุ่นคิดและนับวันเวลาของการคืนชีพอสูรกายที่นรกจะต้องสะพรึงกลัว
สองแฝดราชินีได้เริ่มคิดแผนเตรียมพิธีการการคืนชีพของปีศาจปริศนาในอีกห้าเดือนข้างหน้า โดยอีกด้านหนึ่งของดินแดน เหล่าเอลฟ์และตัวแทนแห่งแสงสว่าง ได้รอคอยการมาถึงของเทพแปดองค์ที่จะมาช่วยเหลือพวกเขา
“ตรู๊ด......เฮ้!ฟางไงวะ วันนี้เราไปเที่ยวหาแอมป์กันมั้ยอ่า” เสียงของเรยาห์ดังจากลำโพงของโทรศัพท์สีดำ ที่อยู่ในมืออันอ่อนปวกเปียกของฟาง
“หือ..อ.ออ ปายกี่โมงอ่า ” เสียงของสาวหล่อคนหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงที่บ่งบอกได้เลยว่าการบรรบมมาทั้งคืนนั้น ไม่เพียงพอกับคนๆนี้เอาซะเลย.... ‘-_-
“เดี๋ยวนี้เลย ตูมารอหน้าบ้านแล้วเนี่ย” เรยาห์พูดอย่างหงุดหงิดจากการรอคอยเจ้าหญิงลงจากพระราชวัง (ซะงั้น....) พร้อมทั้งเดินวนไปมาอย่างรวดเร็ว...ฟ้าว!!!!
“อือ ขอเวลาแปปนะ” ฟางพูดห้วนๆ พร้อมทั้งกดวางหูเรยาห์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะได้ฟังธรรมะเดลิเวอรี่ในตอนเช้า
เวลาผ่านไป 5 นาที ไวเหมือนโกหก.....(หรือป่าวอ่ะ)
แกร๊ก!!!!....เสียงลูกบิดประตูไม้สีดำดังขึ้น ทำให้เรยาห์ที่ตอนนี้กำลังหลับทั้งยืน สะดุ้งตื่นและไม่ลืมที่จะทำหน้านางยักษ์เหมือนเคย ( เคะๆๆ )
“มาสิ...ขึ้นมานั่งเซ่ เด๋วก็ช้าหรอก” เรยาห์เร่งให้ฟางขึ้นมาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเธอ เพราะเธอเพิ่งจะขี่เป็นเมื่อไม่กี่วันมานี้
........ตรูจาตายม้ายเนี่ย...พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกโด้ยยย...... ฟางสวดมนตร์ภาวนาอยู่ในใจเพื่อให้การซิ่งท้านรกครั้งนี้ผ่านพ้นไป
“ซิ่งเลยเฟ้ย!!!!” เรยาห์ตะโกนลั่น เพื่อเพิ่มความหวาดเสียวให้แก่ฟางอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเรยาห์เริ่มเดินเครื่องท้าความตาย แล้วก็บิด บิด บิดๆๆๆ.....ปายเรื่อยๆๆเรื่อ.ย..ย....ยยย (จารอดตายม้ายเนี่ย...ฟางเอ๊ย!!!)
…………….
“เฮ้อ!!!นึกว่าม่ายรอดซะแว้ว.. ” ฟางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วบอกกับตัวเองว่าไม่โล่งอะไรอย่างงี้มาก่อนในชีวิต หลังจากได้เจอแรงบิดของพี่เรยาห์อย่างสยดสยอง
“เน่...ม่ายต้องพูดมาก เด๋วก็ให้เดินกลับไปเลยดีมะ” เรยาห์สร้างเงื่อนไขขณะฟางวาดขาข้ามรถของเรยาห์
หลังจากการสนทนาอย่างไม่ค่อยปลอดภัยได้จบลง เรยาห์เดินทอดน่องเข้าไปนั่งในโซฟาบ้านแอมป์อย่างอุรา ปล่อยให้ฟางโดนสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหม่ของแอมป์ที่ชื่อ .....กาต้า.... ไล่ขย้ำกางเกงยีนส์ของฟางอย่างดุเดือด โดยไม่มีใครสนใจไยดี
เรยาห์ตะโกนเรียกเรยาห์ก่อนที่จะก้มลงไปหยิบหนังสือการ์ตูนใต้โต๊ะกาแฟด้านหน้าโซฟาที่เรยาห์นั่งอยู่
ระหว่างนั้นได้เสียงแปลกๆที่หน้าบ้านแอมป์แต่เรยาห์ก็ไม่แยแสที่จะมอง เพราะคงรู้ว่ายัยฟางคงไปแหย่สุนัขบ้านตรงข้ามแอมป์เหมือนเคย
5 นาทีผ่านไป....แอมป์เดินลงมาจากบันไดในมาดนางสาวไทย เอาซะเรยาห์ที่เหลือบลูกตาไปเห็นแทบอ้วกแตก แต่แล้วความเป็นนางสาวไทยก็ขาดสะบั้น เมื่อแอมป์เดินสะดุดเท้าตัวเองตกบันไดมาอย่างไม่เป็นท่า ปล่อยให้เรยาห์นั่งหัวเราะจนตัวงอเป็นเลขศูนย์อยู่บนโซฟา
“เน่หยุดหัวเราะได้แร้วนะ ยัยเรยาห์เดี๊ยะโดนมิใช่น้อย” แอมป์ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เนื่องจากอาการหน้าแก้วตกเมื่อกี้
“5555+++สะจายว้อย เจือกเดินมาแบบผิดเพศเองเน่ 55555+++” เรยาห์ม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป พร้อมทั้งพูดเยาะเย้ยแอมป์อย่างขบฝักบัว (ไฮเทคแย้ว ม่ายช้ายขันหรอกคร้าบ)
การสนทนาของเรยาห์กับแอมป์ผ่านไป ประมาณ 20 นาที ทันใดนั้น!!!!!!.......มีเสียงคล้ายฟางดังมาจากสวนหย่อมบ้านแอมป์ โดยน้ำเสียงนั้นดูเหมือนฟางกำลังตะลุมบอนกับใครสักคนอยู่
“ช่ว....ยยยยยยด้ว...ย.......ยย.ยย” ฟางร้องเสียงยานหวังให้ใครมาช่วยที เนื่องจากหมดแรงไปกับการปลุกปล้ำกับเจ้ากาต้า ที่เพิ่งใช้เขี้ยวฉีกขากางเกงยีนส์ของฟางได้สำเร็จ
“ตายแล้ว!!!!....กาต้า เป็นไงบ้างน่ะ เจ็บตรงไหนม้ายคร้า” แอมป์รีบวิ่งเข้าไปกอดฟัดกับเจ้ากาต้าที่กำลังวุ่นอยู่กับการเล่นขากางเกงของฟางอยู่อย่างไม่ลดละ ปล่อยให้ฟางมองอย่างหดหู่
“ช่วยตรูก่อนเหอะน้า....ไอ้นั่นมานไม่เปนราย แต่ตรูจาตายอยู่แว้วว” ฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ขอร้องสุดๆ
“แหะๆๆ ดิ๊น..โทดที ที่เล่นมุขมากปายหน่อยอ่า อิอิ” แอมป์พูดพลางเดินมาดูอาการที่ฟางบอกว่าปางตาย พร้อมทั้งหัวเราะอย่างสะใจ
“มาๆๆๆ มาพักในบ้านก่อน แล้วแกไปทำไรมานอ่า ทุกทีไม่เห็นมันไล่กัดใครเลยนี่” เรยาห์พูดพลางหอบแขนฟางช่วยแอมป์อีกแรงหนึ่ง รวมทั้งตั้งประเด็นความน่าอายของฟางโดยทันที
“ก็ครือว่า.....อะฮึ่ม!!!!....ตอนตรูเดินเข้ามาหน่ะ เจือกเดินปายเหยียบหางมันมั้ง....แล้วมันก็.....อย่างที่เห็นเนี่ยหล่ะ……” ฟางพูดพร้อมก้มดูขากางเกงตัวเองอย่างขมขื่น
“เอริกะ....ฟางกับเรยาห์มาหาน่ะ รีบลงมาสิ” พอวางฟางลงบนโซฟาเสร็จ แอมป์จึงหันไปเรียกเอริกะให้ลงมาคุยกันในวงอีกคนหนึ่ง
“มาแล้ว” เอริกะตะโกนจากชั้นสอง จากนั้นจึงรีบวิ่งลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า วันนี้เอริกะใส่ชุดเดิมเมื่อตอนที่พวกแอมป์พามา แต่มันถูกซ่อมแซมอย่างสวยงามด้วยมือของแอมป์เอง
“เออนี่ วันนี้เราพาเอริกะไปเที่ยวเรือนกระจกในสวนสาธารณะกันดีมะ” แอมป์ออกความเห็นที่จะพาแอมป์ไปเดินเล่นเป็นรอบที่ร้อยกว่า
“ถ้าไปเรือนกระจกเราไม่ไปนะ...” แต่เอริกะได้พูดขึ้นอย่างทันควัน เนื่องจากเหตุผลประการใด ผู้เขียนก็มิทราบได้ ( แล้วมานจาเขียนปายทะมายหว่า )
“งั้นเราไปที่เรือนพรรณไม้ที่ข้างบ้านเธอก็ได้นี่” เอริกะพูดพลางตบหลังแอมป์ เป็นเครื่องหมายอ้อนวอนที่ไม่ค่อยเป็นมิตร
“อือ...ก็ได้อ่า แต่วันนี้เราจะไปกันหมดเลยนะ....” เรยาห์หันกลับมาพูดกับเอริกะขณะที่นั่งนึกภาพตอนแอมป์มาดแตกพร้อมแอบหัวเราะอยู่คนเดียว
“งั้นเดี๋ยวมานะ....จะได้ไปโทรตามพวกเรามาก่อนนะ” แอมป์พูดพลางลุกขึ้นเดินตรงไปยังโทรศัพท์มือถือสีม่วงครามที่วางอยู่บนทีวีใต้บันได
ติ๊ด!!!!.....เสียงนาฬิกาข้อมือของเท็นท์บอกเวลาเที่ยงครึ่งของวันเสาร์ ซึ่งเป็นเวลานัดหมายของแก๊งค์ demon’s curse ที่บริเวณหน้าซุ้มเรือนพรรณไม้ที่คราคร่ำไปด้วยเถาวัลย์ที่เลื้อยไปรอบๆซุ้มอุโมงค์ทางเข้าเรือนพรรณไม้อย่างสวยงาม
“เฮ้...ทางนี้” ปานวาดตะโกนเรียกพวกแน็ปปี้กับเพื่อนร่วมแก๊งค์ที่เหลือ ให้เดินมารวมกันทางต้นเสียง
“มาแว้วคร่า...นี่ๆกระเป๋าเราน่ารักป่ะ งุงิๆๆๆ” แน็ปปี้อวดกระเป๋าลายคิตตี้สีชมพูใบใหม่ให้เพื่อนๆดู พร้อมทั้งท่าเล่นประกอบ
“ตายแร้ว..รับม่ายดั้ย ทำไมถึงมีตัวอะไรเลื้อยเต็มไปหมดเนี่ย” เปียโนหวีดขึ้นอย่างน่ากลัว เมื่อเจอเถาวัลย์ เลื้อยตรงทางเดิน
“ป๊าก....จาอารายนักหนาหือ ยัยเปียเน่า หน้าตาก็งั้นๆทำตัวเปงคุณหนู อิอิ” แอมป์ตะหวาดใส่เปียโนไปหนึ่งชุด เอาซะเปียโนตาลุกไฟ
ว่านน้ำเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงที่ซุกอยู่ในกระเป่ากางเกงสีชา ออกมาปิดปากทั้งสองคนไว้ก่อน จากนั้นเรยาห์ก็เทศนา
“มานจารายกันนักหนาเนี่ย นังสองตัวเนี่ย เถียงกันได้ทูกวันเรย ม่ายเบื่อบ้างหรอเนี่ย ป่ะๆๆพาเอริกะไปเที่ยวกันได้ละ เดี๋ยวค่ำกันพอดี”
จากนั้นทุกคนก็พากันเดินลอดอุโมงค์เหล็กหุ้มเถาวัลย์เข้าไปอย่างขะมักเขม้น
ความคิดเห็น