ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Last Soul Of Demon

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter - 6 - การเปิดทาง

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 51


    /> /> />

    ซีเรีย!!!!.....พี่บอกแล้วไง ว่าอย่าไปยุ่งกับนังริกะนั่น ราเมียหญิงสาวผมบ๊อบ ท่าทางห้าวหาญการรบ  ยืนตระง่านอยู่หน้าบานประตูเหล็กสีดำ ที่สลักสวดลายที่น่ากลัว  และชวนขนลุก   เธอได้ใช้ดวงตาสีแดงเลือดมองไปยังน้องสาวของเธอ  ที่เพิ่งอ่านตำราเวทย์มนตร์เล่มสีดำ

                ปึก.......เสียงหนังสือเล่มหนาได้ถูกปิดลงจากผู้อ่านแสดงให้เห็นรายละเอียดของหน้าปก มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับทักษะมนตร์ดำ 

                รู้แล้วคร่า......คุณหญิงแม่!!!” ซีเรียได้พูดตอบไปอย่างเบื่อหน่ายกับการจ้ำจี้จ้ำไชของพี่สาวตนเอง

                นี่ซีเรีย.....ว่าแต่เธอรู้รึป่าวว่า  ปีศาจปริศนา  น่ะ  ในตำนานมันเป็นไงหรอหญิงสาวคนพี่เปลี่ยนอารมณ์กลับสู่สภาพเดิม  แล้วเดินไปนอนบนเตียงของน้องสาวเธอ

                ดูเหมือนว่า...เอ่อ........ ซีเรียหันกลับไปที่ตู้หนังสือขนาดมหึมาของเธอ พร้อมทั้งควานหาหนังสือเล่มหนึ่งออกมา

                อ๊า.......นี่ไง...เดี๋ยวนะ......ในคืนดวงจันทร์ดำเต็มดวง วิญญาณ ทูตนรก แลภูตผีร้าย ทั่วทั้งโลกันต์  จักเดือดดาลอยู่ใต้รูปปั้น โซล ออฟ เดทอีทเตอร์  ดวงตาเปล่งแสง  รัตติกาลดำทมิฬ  เลือดหลั่งไหลทั่วแหล่งบูชายัญ คืนชีวิตแก่เทพผู้เป็นบิดาแห่งซาตานร้าย แลเบอร์เรนดัสท์แห่งหุบเหวแห่งเปลวไฟโลกันต์ ....... ซีเรียแปลบทความภาษาแอคทิโนเซเดียนสมัยโบราณภายในหนังสือให้พี่สาวซึ่งนอนอยู่บนเตียงเธอฟัง

                คืนพระจันทร์เต็มดวงหรอ................มันก็อีกห้าเดือนหน่ะสิราเมียครุ่นคิดและนับวันเวลาของการคืนชีพอสูรกายที่นรกจะต้องสะพรึงกลัว

                สองแฝดราชินีได้เริ่มคิดแผนเตรียมพิธีการการคืนชีพของปีศาจปริศนาในอีกห้าเดือนข้างหน้า   โดยอีกด้านหนึ่งของดินแดน  เหล่าเอลฟ์และตัวแทนแห่งแสงสว่าง ได้รอคอยการมาถึงของเทพแปดองค์ที่จะมาช่วยเหลือพวกเขา

                ตรู๊ด......เฮ้!ฟางไงวะ  วันนี้เราไปเที่ยวหาแอมป์กันมั้ยอ่าเสียงของเรยาห์ดังจากลำโพงของโทรศัพท์สีดำ  ที่อยู่ในมืออันอ่อนปวกเปียกของฟาง

                หือ..อ.ออ  ปายกี่โมงอ่า เสียงของสาวหล่อคนหนึ่งดังขึ้น  มันเป็นเสียงที่บ่งบอกได้เลยว่าการบรรบมมาทั้งคืนนั้น  ไม่เพียงพอกับคนๆนี้เอาซะเลย.... ‘-_-

                เดี๋ยวนี้เลย  ตูมารอหน้าบ้านแล้วเนี่ยเรยาห์พูดอย่างหงุดหงิดจากการรอคอยเจ้าหญิงลงจากพระราชวัง (ซะงั้น....) พร้อมทั้งเดินวนไปมาอย่างรวดเร็ว...ฟ้าว!!!!

        อือ  ขอเวลาแปปนะฟางพูดห้วนๆ พร้อมทั้งกดวางหูเรยาห์อย่างรวดเร็ว  ก่อนจะได้ฟังธรรมะเดลิเวอรี่ในตอนเช้า

                เวลาผ่านไป 5 นาที ไวเหมือนโกหก.....(หรือป่าวอ่ะ)

                แกร๊ก!!!!....เสียงลูกบิดประตูไม้สีดำดังขึ้น  ทำให้เรยาห์ที่ตอนนี้กำลังหลับทั้งยืน  สะดุ้งตื่นและไม่ลืมที่จะทำหน้านางยักษ์เหมือนเคย ( เคะๆๆ )

                มาสิ...ขึ้นมานั่งเซ่  เด๋วก็ช้าหรอกเรยาห์เร่งให้ฟางขึ้นมาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเธอ  เพราะเธอเพิ่งจะขี่เป็นเมื่อไม่กี่วันมานี้ 

    ........ตรูจาตายม้ายเนี่ย...พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกโด้ยยย...... ฟางสวดมนตร์ภาวนาอยู่ในใจเพื่อให้การซิ่งท้านรกครั้งนี้ผ่านพ้นไป

    ซิ่งเลยเฟ้ย!!!!” เรยาห์ตะโกนลั่น เพื่อเพิ่มความหวาดเสียวให้แก่ฟางอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเรยาห์เริ่มเดินเครื่องท้าความตาย แล้วก็บิด บิด บิดๆๆๆ.....ปายเรื่อยๆๆเรื่อ.ย..ย....ยยย (จารอดตายม้ายเนี่ย...ฟางเอ๊ย!!!)

        …………….

    เฮ้อ!!!นึกว่าม่ายรอดซะแว้ว.. ฟางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วบอกกับตัวเองว่าไม่โล่งอะไรอย่างงี้มาก่อนในชีวิต  หลังจากได้เจอแรงบิดของพี่เรยาห์อย่างสยดสยอง

    เน่...ม่ายต้องพูดมาก   เด๋วก็ให้เดินกลับไปเลยดีมะเรยาห์สร้างเงื่อนไขขณะฟางวาดขาข้ามรถของเรยาห์

    หลังจากการสนทนาอย่างไม่ค่อยปลอดภัยได้จบลง  เรยาห์เดินทอดน่องเข้าไปนั่งในโซฟาบ้านแอมป์อย่างอุรา  ปล่อยให้ฟางโดนสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหม่ของแอมป์ที่ชื่อ .....กาต้า.... ไล่ขย้ำกางเกงยีนส์ของฟางอย่างดุเดือด  โดยไม่มีใครสนใจไยดี

    เรยาห์ตะโกนเรียกเรยาห์ก่อนที่จะก้มลงไปหยิบหนังสือการ์ตูนใต้โต๊ะกาแฟด้านหน้าโซฟาที่เรยาห์นั่งอยู่

    ระหว่างนั้นได้เสียงแปลกๆที่หน้าบ้านแอมป์แต่เรยาห์ก็ไม่แยแสที่จะมอง  เพราะคงรู้ว่ายัยฟางคงไปแหย่สุนัขบ้านตรงข้ามแอมป์เหมือนเคย

                5 นาทีผ่านไป....แอมป์เดินลงมาจากบันไดในมาดนางสาวไทย  เอาซะเรยาห์ที่เหลือบลูกตาไปเห็นแทบอ้วกแตก  แต่แล้วความเป็นนางสาวไทยก็ขาดสะบั้น เมื่อแอมป์เดินสะดุดเท้าตัวเองตกบันไดมาอย่างไม่เป็นท่า  ปล่อยให้เรยาห์นั่งหัวเราะจนตัวงอเป็นเลขศูนย์อยู่บนโซฟา

    เน่หยุดหัวเราะได้แร้วนะ ยัยเรยาห์เดี๊ยะโดนมิใช่น้อยแอมป์ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เนื่องจากอาการหน้าแก้วตกเมื่อกี้

    “5555+++สะจายว้อย  เจือกเดินมาแบบผิดเพศเองเน่ 55555+++” เรยาห์ม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป  พร้อมทั้งพูดเยาะเย้ยแอมป์อย่างขบฝักบัว (ไฮเทคแย้ว ม่ายช้ายขันหรอกคร้าบ)

     

    การสนทนาของเรยาห์กับแอมป์ผ่านไป  ประมาณ 20 นาที  ทันใดนั้น!!!!!!.......มีเสียงคล้ายฟางดังมาจากสวนหย่อมบ้านแอมป์ โดยน้ำเสียงนั้นดูเหมือนฟางกำลังตะลุมบอนกับใครสักคนอยู่

    ช่ว....ยยยยยยด้ว...ย.......ยย.ยยฟางร้องเสียงยานหวังให้ใครมาช่วยที  เนื่องจากหมดแรงไปกับการปลุกปล้ำกับเจ้ากาต้า  ที่เพิ่งใช้เขี้ยวฉีกขากางเกงยีนส์ของฟางได้สำเร็จ

    ตายแล้ว!!!!....กาต้า  เป็นไงบ้างน่ะ  เจ็บตรงไหนม้ายคร้าแอมป์รีบวิ่งเข้าไปกอดฟัดกับเจ้ากาต้าที่กำลังวุ่นอยู่กับการเล่นขากางเกงของฟางอยู่อย่างไม่ลดละ  ปล่อยให้ฟางมองอย่างหดหู่

    ช่วยตรูก่อนเหอะน้า....ไอ้นั่นมานไม่เปนราย แต่ตรูจาตายอยู่แว้ววฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ขอร้องสุดๆ 

    แหะๆๆ ดิ๊น..โทดที  ที่เล่นมุขมากปายหน่อยอ่า อิอิแอมป์พูดพลางเดินมาดูอาการที่ฟางบอกว่าปางตาย  พร้อมทั้งหัวเราะอย่างสะใจ

    มาๆๆๆ มาพักในบ้านก่อน  แล้วแกไปทำไรมานอ่า ทุกทีไม่เห็นมันไล่กัดใครเลยนี่เรยาห์พูดพลางหอบแขนฟางช่วยแอมป์อีกแรงหนึ่ง  รวมทั้งตั้งประเด็นความน่าอายของฟางโดยทันที

    ก็ครือว่า.....อะฮึ่ม!!!!....ตอนตรูเดินเข้ามาหน่ะ  เจือกเดินปายเหยียบหางมันมั้ง....แล้วมันก็.....อย่างที่เห็นเนี่ยหล่ะ……” ฟางพูดพร้อมก้มดูขากางเกงตัวเองอย่างขมขื่น

    เอริกะ....ฟางกับเรยาห์มาหาน่ะ รีบลงมาสิพอวางฟางลงบนโซฟาเสร็จ แอมป์จึงหันไปเรียกเอริกะให้ลงมาคุยกันในวงอีกคนหนึ่ง

    มาแล้วเอริกะตะโกนจากชั้นสอง จากนั้นจึงรีบวิ่งลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า  วันนี้เอริกะใส่ชุดเดิมเมื่อตอนที่พวกแอมป์พามา  แต่มันถูกซ่อมแซมอย่างสวยงามด้วยมือของแอมป์เอง

    เออนี่  วันนี้เราพาเอริกะไปเที่ยวเรือนกระจกในสวนสาธารณะกันดีมะแอมป์ออกความเห็นที่จะพาแอมป์ไปเดินเล่นเป็นรอบที่ร้อยกว่า

    ถ้าไปเรือนกระจกเราไม่ไปนะ...แต่เอริกะได้พูดขึ้นอย่างทันควัน  เนื่องจากเหตุผลประการใด ผู้เขียนก็มิทราบได้ ( แล้วมานจาเขียนปายทะมายหว่า )

    งั้นเราไปที่เรือนพรรณไม้ที่ข้างบ้านเธอก็ได้นี่เอริกะพูดพลางตบหลังแอมป์ เป็นเครื่องหมายอ้อนวอนที่ไม่ค่อยเป็นมิตร

    อือ...ก็ได้อ่า   แต่วันนี้เราจะไปกันหมดเลยนะ....เรยาห์หันกลับมาพูดกับเอริกะขณะที่นั่งนึกภาพตอนแอมป์มาดแตกพร้อมแอบหัวเราะอยู่คนเดียว

    งั้นเดี๋ยวมานะ....จะได้ไปโทรตามพวกเรามาก่อนนะแอมป์พูดพลางลุกขึ้นเดินตรงไปยังโทรศัพท์มือถือสีม่วงครามที่วางอยู่บนทีวีใต้บันได

     

     

    ติ๊ด!!!!.....เสียงนาฬิกาข้อมือของเท็นท์บอกเวลาเที่ยงครึ่งของวันเสาร์  ซึ่งเป็นเวลานัดหมายของแก๊งค์ demon’s curse ที่บริเวณหน้าซุ้มเรือนพรรณไม้ที่คราคร่ำไปด้วยเถาวัลย์ที่เลื้อยไปรอบๆซุ้มอุโมงค์ทางเข้าเรือนพรรณไม้อย่างสวยงาม

    เฮ้...ทางนี้ปานวาดตะโกนเรียกพวกแน็ปปี้กับเพื่อนร่วมแก๊งค์ที่เหลือ  ให้เดินมารวมกันทางต้นเสียง

    มาแว้วคร่า...นี่ๆกระเป๋าเราน่ารักป่ะ  งุงิๆๆๆแน็ปปี้อวดกระเป๋าลายคิตตี้สีชมพูใบใหม่ให้เพื่อนๆดู  พร้อมทั้งท่าเล่นประกอบ

    ตายแร้ว..รับม่ายดั้ย  ทำไมถึงมีตัวอะไรเลื้อยเต็มไปหมดเนี่ยเปียโนหวีดขึ้นอย่างน่ากลัว  เมื่อเจอเถาวัลย์ เลื้อยตรงทางเดิน 

    ป๊าก....จาอารายนักหนาหือ  ยัยเปียเน่า  หน้าตาก็งั้นๆทำตัวเปงคุณหนู อิอิแอมป์ตะหวาดใส่เปียโนไปหนึ่งชุด  เอาซะเปียโนตาลุกไฟ

    ว่านน้ำเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงที่ซุกอยู่ในกระเป่ากางเกงสีชา  ออกมาปิดปากทั้งสองคนไว้ก่อน  จากนั้นเรยาห์ก็เทศนา

    มานจารายกันนักหนาเนี่ย  นังสองตัวเนี่ย เถียงกันได้ทูกวันเรย  ม่ายเบื่อบ้างหรอเนี่ย  ป่ะๆๆพาเอริกะไปเที่ยวกันได้ละ  เดี๋ยวค่ำกันพอดี

    จากนั้นทุกคนก็พากันเดินลอดอุโมงค์เหล็กหุ้มเถาวัลย์เข้าไปอย่างขะมักเขม้น

    ……………………………………………………………………………
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×