ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Last Soul Of Demon

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter - 3 - กาลเวลา

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 51


    /> /> />

    ฟิ้ว.......เสียงสายลมพัดกลางกลุ่ม Demon’s curse           ที่ยืนรอบางสิ่งบางอย่างอยู่ใต้ต้นซากุระวันนี้เป็นอาทิตย์ที่สามของเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นอาทิตย์ของการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์   พวกdemon’s curse จึงพากันไปเที่ยวงานเทศกาลคริสมาสต์ในเขตชานเมืองกัน หลังจากที่เดือนที่แล้วได้นัดพบกันที่ใต้ต้นซากุระใจกลางของสวนสาธารณะแห่งหนึ่งแล้ว

    แล้วนี่ ไอ้เท็นท์มันหายหัวไปไหนมันวะเนี่ย มาช้าโครต เรยาห์พูดกร่นด่าเท็นท์อย่างหัวเสีย เพราะเธอได้โทรศัพท์ไปบอกเท็นท์แล้วว่า ให้มาพบกันเวลา 8 โมง 

    อือ แล้วนี่ก็ปาไปตั้ง 8 โมงครึ่งละนะ มัวทำไรอยู่นะว่านน้ำเริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมานิดหน่อย

    เฮ้!! โทษทีนะ มาช้าไปหน่อยน่ะ....คือ... เท็นท์รีบวิ่งมาจากทางเข้าสวนสาธารณะ แล้วพยายามบอกเหตุผลที่มาช้า

    นิดหน่อยหรอวะ มันตั้งครึ่งชั่วโมงนะเฟ้ยฟางรีบขัดจังหวะการแก้ตัวทันที

    เออๆๆ...ผิดก็ได้วะ ว่าแต่จะไปกันเลยมั้ยหล่ะเท็นท์ตอบไปอย่างยอมรับผิด แล้วถามความพร้อมของเพื่อนๆ

    ป่ะ...เดี๋ยวก็ไม่ทันไปดูพี่ไมเคิล ประกวดร้องเพลงหรอกแอมแปร์เริ่มทำเสียงแพรวพราว

    พอเลยยัยแอม เราไม่ได้ไปดูพี่มิเชลแกหรอกย่ะ เราจะไปงานคริสมาสต์นะเปียโนท้วงขึ้นก่อนแอมป์จะฝันไปไกล

    อ้าว!?! ก็ที่เราจะไปมันที่เดียวกันไม่ใช่หรอแอมแปร์เริ่มหลงทางว่า กลุ่มเพื่อนจะไปที่ไหนกันแน่

    เอาน่า...เดี๋ยวไปก็รู้กันเองหล่ะว่าไปที่ไหนอ่ะปานวาดพูดขึ้นในน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะไม่เคยไปงาน คริสมาสต์ในญี่ปุ่นมาก่อน

    พอทุกคนพูดจบ  ฟางกับเรยาห์ก็เริ่มเปิดการเดินทาง   ทุกคนเริ่มเดินมาเรียงหน้ากันอย่างเป็นระเบียบ  ต่างฝ่ายต่างวิจารณ์เรื่องราวสารทุกข์สุกดิบกันไปต่างๆนานา

    เอ๊ะ!! นั่นแสงอะไรน่ะ  สวยจัง  สีแดงเลือดซะด้วยเปียโนพูดขึ้นหลังจากที่เห็นแสงสีแดงเลือดค่อยๆสว่างขึ้นจากหลังพุ่มสนเตี้ยข้างทาง   เจ้าเท็นท์จอมปัญหาก็รีบเร่งไปก่อคดีสอดรู้สอดเห็นอย่างช่ำชอง

    เฮ้!! นายจะไปไหนน่ะ  อย่าเข้าเข้าไปใกล้นะเฟ้ย!!” เรย์ตะโกนบอกเจ้าเท็นท์ให้ระวังตัว   แต่เมื่อเจ้าเท็นท์เดินเข้าไป ก็ถึงกับต้องหงายหลังไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่บนฟุตบาท

    เท็นท์...นายเป็นอะไรวะ อยู่ดีดี....ฟางรีบวิ่งมาช่วยเพื่อนแต่ก็ต้องตะลึงไปอีกคน    เมื่อแสงสีแดงเลือดค่อยๆดับลงไป ให้ปรากฏร่างของหญิงสาวร่างหนึ่งนอนหมดแรงอยู่ตรงบริเวณที่แสงเพิ่งดับไป  

    เท็นท์คาดว่าเธอสวมชุดใบไม้สีเขียวบางๆพอปกปิดส่วนต่างๆของร่างกายไว้   ซึ่งตอนนี้มันขาดรุ่งริ่งเหมือนโดนมีดกรีดจนยับเยินไม่แพ้กับร่างของเธอซักเท่าไหร่

    โห!!!ใครทำเนี่ย  เร็วรีบมาช่วยกันหามไปบ้านชั้นก่อนนะ  เดี่ยวให้พ่อชั้นช่วยต่อนะแอมป์รีบวิ่งไปดูอาการของหญิงสาวแล้วตะโกนบอกเพื่อนๆให้มาช่วยกัน   แต่ร่างของเธอหนักเหมือนท่อนไม้   ทั้งที่ร่างของดูผอมบางได้รูปของนางแบบ =.,=

    ฮึบ!! > {} <”   เจ้าเท็นท์วิ่งรี่มาหอบเอาร่างผู้หญิงไปพาดไว้บนบ่า แล้วทันใดนั้น!!!!

    กรุบ......!!O[]Q!!” ฟางกับเรย์รีบวิ่งมาช่วยอีกแรงหลังจากที่เพิ่งได้ยินเสียงกระดูกไหล่ที่ใกล้จะหักของเจ้าเท็นท์

    ไอ้บ้านี่....โชว์พาวอีกละ เดี๊ยะแม่จะให้หอบไป 3 กิโลเรยดีมั้ยเนี่ยทุกคนพากันหอบหิ้วร่างของผู้หญิงคนนั้นไปอย่างทุลักทุเล จากตรงที่เริ่มแบกกันไปจนถึงบ้านยัยแอมป์ระยะทางก็ราวๆ 1 กิโลเมตรกว่าๆๆๆ.....

    ง่ะ....ทำไมบ้านยัยแอมป์มันต้องอยู่ไกลที่สุดด้วยวะ.......ยัยแอมป์แกก็หยุดบ่นซักทีเถอะฟางเริ่มเหนื่อยหลังมาได้ครึ่งทาง   เป็นครึ่งทางที่รูหูมีความทุกข์ระทมมาก เพราะยัยแอมป์บ่นตั้งแต่ต้นทางมาจนถึงบัดนี้ถูกยัยเปียโนที่เดินอย่างสบายๆใช้มือปิดปากไปเรียบร้อย

    เฮ้อ!.....มาถึงซะที คุณๆๆ คุณเป็นไรมากมั้ยหลังจากที่เท็นท์วางร่างผู้หญิงคนนั้นไว้บนเตียงคนไข้ในคลินิกของพ่อแอมป์ มันก็รีบมาดูแลเอาใจใส่เหมือนกับว่าเป็นแฟนมันในชาติปางก่อน

    บ๊ะ!!!ไอ้นี่เห็นผู้หญิงสาวๆหน่อยไม่ได้เลย  นี่ถ้ารักษาเสร็จมันจะทำอะไรกันอีกไม่รู้นิ ยัยแอมป์เอือมระอากับพฤติกรรมเจ้าเท็นท์ซะเหลือเกิน   จนดูเหมือนป้าแก่คอยเตือนหลาน

    อ้าว แอมป์พาใครมาหน่ะ....อย่าบอกนะว่าลูกไปทำร้ายเธอ เห็นมะ....อุ๊บ!!!” เสียงพ่อเงียบไปชั่วขณะเพราะมีบางอย่าป้องปากเขาอยู่

    พ่อเงียบไปเลยนะ หนูเห็นเขาที่หลังพุ่มไม้ทางเท้าที่จะเดินไปงานคริสมาสต์น่ะเสียงแอมป์รีบผุดขึ้นมาเพื่อหยุดคำสบประมาทของพ่อทันที ส่วนทางด้านเท็นท์รีบส่งสายตาอ้อนวอนซะ เมื่อพ่อของแอมป์หันมามอง เป็นนัยน์ว่า รักษาเถอะนะคับ คนนี้เพื่อนลูกขอ

    งั้นรึ....ถ้างั้นเดี๋ยวจะรักษาให้นะ พ่อเริ่มสยองสายตาของเท็นท์ละหล่ะนะยัยแอมป์หันมามองดูว่า เท็นท์มันทำหน้าไง รวมทั้งทุกคน

    ฟิ้ว...จิ๊บๆๆ!!!.....เสียงสายลมพัดผ่านพร้อมกับสาดแสงสีทองของรุ่งเช้าวันใหม่เข้ามาทางหน้าต่างบานไม้สีน้ำตาลสด ทำให้ร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนราบอยู่กับเตียงเริ่มขยับตัว 

    โอ๊ย!!!นี่มันอะไรเนี่ย  พันตัวชั้นยุ่งไปหมด   แล้วนี่ที่ไหน  แล้วฉันมาได้ไงเนี่ย หลังจากที่หญิงสาวลุกขึ้นมาเธอก็เริ่มถามตัวเองแล้วกรีดร้องออกมา ทำให้แอมป์ที่กำลังช่วยแม่หั่นผัก รีบวิ่งขึ้นมาโดยที่ไม่ได้วางมีด

    คุณ...เป็นอะไรไปหรอ ร้องซะลั่นเลยแอมป์รีบถามด้วยความเป็นห่วง  

    กรี๊ด!!!!!!”  หญิงสาวรีบหันกลับมาพร้อมทั้งกรีดร้องอีกครั้ง 

    กริ๊งก่อง.......เสียงกริ่งหน้าบ้านแอมป์ดังขึ้น  แล้วแอมป์ก็รีบวิ่งอย่างกระหืดกระหอบมาเปิดประตู  แล้วดันหลังเท็นท์เข้าไปในบ้าน

    กรี๊ด!!!!” เท็นท์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่ง

    นั่นอะไรน่ะแอมป์

    ก็พี่สาวคนเมื่อวานนั่นหล่ะ พอชั้นวิ่งเข้าไปหา พี่เค้าก็รีบอยู่มุมห้องเลยอ่ะแอมป์ตอบคำถามของเพื่อนไปอย่างกระวนกระวาย แล้วก็พักหายใจ แล้วพูดต่ออย่างเมามันส์

    แถมยังเพ้ออะไรไม่รู้เท่าที่ชั้นจับต้นชนปลายได้ ก็น่าจะ แบบ.....อย่าฆ่าชั้นเลย ฉันเจ็บปวดพอแล้วอะไรประมาณนี้อ่ะเมื่อแอมป์พูดจบ เท็นท์ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน

    คุณคับไม่เป็นไรแล้วนะคับ สบายใจได้นะคับ มันแค่ผ้าก๊อตเองเท็นท์พูดบอกผู้หญิงคนนั้นเมื่อวิ่งมาถึงหน้าห้องของเธอ   ในขณะที่เธอกำลังฉีกผ้าก๊อตออกจากตัวเธอ เธอก็หยุดชั่วครู่ 

    ผ้าก๊อตคืออะไรหรอหญิงสาวตอบไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เสียงของเธอช่างอ่อนหวานราวกับเสียงนกร้องยามเช้า ทำให้เท็นท์อยู่ในภวังค์ไปชั่วครู่

    อะ..อะไรนะคับ  อ๋อ! ผ้าก๊อตคือ...อ้าวคุณมาจากไหนเนี่ยไม่รู้จักผ้าก๊อตหรอคับเท็นท์เริ่มงงกับคำถามของเธอ

    ฉันมาจากเขตป่าเอกิดาวะน่ะ ฉันพัดหลงจากท่านพ่อของฉันมาหน่ะ แล้วมีราชินีฝาแฝดแห่งแดนประหารเบอเรนดัสท์สองคนจับฉันไปทรมาน อย่างที่เห็นนี่หล่ะ ฉันดูเหมือนจะถูกฆ่าไปแล้ว แต่ก่อนฉันจะตายหน่ะ ฉันเห็นแสงสีแดงเปล่งออกมาจากอัญมณีของฉัน แล้วฉันตื่นอีกทีก็มาอยู่ที่นี่หล่ะ แล้วพวกเธอหล่ะเป็นใครหรอแต่งตัวไม่เหมือนบ้านเมืองฉันเลย” พอผู้หญิงคนนั้นพูดเรื่องตัวเองซะหมดเปลือก เธอจึงรีบถามกลับไปทันที

    55555 ตาหลกฟุ้ย ตายแล้วฟื้น แสงจากอัญมณี คุณนี่ช่างแต่งเรื่องนะคับ 555+เท็นท์กับแอมป์หัวเราะอออกมาอย่างเคยทุกครั้งด้วยความตลก   ส่วนด้านผู้หญิงคนนั้นมองด้วยฉงนปนเคืองนิดๆ

    นี่ หัวเราะอะไรกันหน่ะ ตอบคำถามชั้นมาก่อนสิหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนน่ากลัว ทำให้เท็นท์กับแอมป์หัวเราะแทบไม่ออก

    นี่โตเกียวไงคับ ในญี่ปุ่นไงคับแอมป์ตอบผู้หญิงคนนั้นไป

    โตเกียว โตเกียว มันที่ไหนล่ะ อยู่ในดินแดนเอลิเมนท์โซลรึปล่าวล่ะแอมป์กับเท็นท์มองหน้ากันเพราะฉงนในคำถามของเธอ   ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นก็กำลังพึมพำคำว่า โตเกียว อยู่คนเดียวในมุมห้อง

    นี่อย่าเข้ามานะ....ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นเมื่อเท็นท์ค่อยๆคลานเข้ามาใกล้ขณะที่เธอกำลังพึมพำกับตัวเองอยู่

    เธอชื่อไรหรอ แล้วอายุเท่าไหร่เท็นท์รีบถามผู้หญิงคนนั้นทันที

    เอริกะ อายุ 15 ปีเธอตอบไปอย่างมั่นใจ

    ห๊า!!! 15 ปี!!!” เมื่อเท็นท์กับแอมป์ได้ยินดังนั้น เจ้าเท็นท์ก็รีบคลานด้วยความเร็วเหนือแสงตรงรี่ไปหาเอริกะทันที

    ใช่  15 ปี ทำไมหรอเอริกะทวนคำพูดของเธออย่างสงสัยว่ามันน่าตะลึงตรงไหน

    คือว่า...ผมไม่เคยเห็นใครน่ารักขนาดนี้มาก่อนเลยอ่ะและแล้วเจ้าเท็นท์เริ่มปล่อยคำหวานไปทีละคำสองคำระหว่างซักประวัติของเอริกะ ซึ่งตอนนี้เท็นท์แทบจะไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ ฝั่งแอมป์รีบโทรเรียกเพื่อนๆมาที่บ้าน

    ฮาโหล.....โทรมาแต่เช้าเชียวนะแอมป์  ...ฮ้าว!....มีรายหรอเสียงของฟางที่กำลังงัวเงียลุกจากที่นอนดังขึ้นที่โทรศัพท์ของแอมป์

    รีบมาบ้านชั้นเถอะ เอริกะน่ะตื่นแล้วนะ เจ้าเท็นท์กำลังจีบอยู่น่ะ รีบๆมาหล่ะ...แอมป์รู้สึกเป็นห่วงเอริกะมาก 

    ใครหรอเอริกะน่ะฟางถามอย่างฉงน

    ก็คนเมื่อคืนไงหล่ะ มันแปลกนะเอริกะหน่ะ แผลเธอหายเร็วมากเลยหล่ะ ตอบกลับไป

    อ่า...เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนละกัน งั้นเดี๋ยวชั้นจาโทรบอกคนอื่นๆเองนะ” ฟางรับอาสาโทรหาเพื่อนร่วมกลุ่มเอง

    กริ๊งก่อง......เสียงกริ่งหน้าบ้านแอมป์ดังขึ้น  หลังจากนั้นทุกคนเดินขึ้นไปที่ห้องชั้นสองที่เอริกะพักอยู่   แล้วตอนนี้เจ้าเท็นท์กำลังพูดเล่นกับเอริกะอย่างถูกคอ 

    อ้าวมากันแล้วหรอ.....มาเร็วสิ  เอริกะกำลังถามหาอยู่พอดีเลยเท็นท์รีบกวักมือเรียกเพื่อนๆมานั่งล้อมวงกันเพื่อแนะนำตัวให้เอริกะได้รู้จัก

    ............................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×