ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    one day in my heart (รักร้ายๆ ของนายสุดโหด)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 ลั่นกลองพร้อมรบ

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 51


             กระเป๋าเดินทางและสัมภาระอื่นๆ อีกเล็กน้อยของนลันชา ยังกองรวมกันอยู่ที่พื้นกลางห้องโถง หลังจากจัดการฮันเจซะหมอบ และกลับเข้าห้องตัวเองไปตั้งแต่บ่ายแล้ว เธอก็นั่งจมอยู่ที่โซฟาตัวเขื่อง นี่ก็ปาเข้าไป 6 โมงกว่าแล้ว


            ตอนนี้ท้องของน้ำชักฟ้องว่ามันต้องการอะไรมาเติมใส่เพื่อให้ช่องว่างที่มีอยู่เต็มเสียที แต่ว่าไม่มีวี่แววว่าฮันเจเจ้าเด็กแสบนั่นจะยอมออกมาจากห้องง่ายๆ แล้วนี่ฉันจะทำยังไง ห้องครัวอยู่ไหน ห้องน้ำ และที่สำคัญห้องนอนของฉันอยู่ไหน น้ำตะโกนก้องในใจเพราะไม่รู้จะไปโวยวายเอากับใคร และอีกอย่างเรี่ยวแรงของเธอก็เหลือน้อยเต็มที

           
             ถ้านับก็เป็นเวลาเกือบ 10 ชั่วโมงแล้วหลังจากอาหารมื้อล่าสุดที่น้ำได้กินไป ตั้งแต่มาถึงที่นี่อย่าว่า แต่ข้าวเลย แม้แต่น้ำสักหยดยังไม่ผ่านคอลงไปเลย เป็นไงเป็นกันซิ (วะ) ว่าแล้วก็เดินตรงดิ่งขึ้นบันไดวนไปยังชั้น 2 ของบ้าน บ้านหลังนี้มีห้องพักมากมาย เรียงตัวในแบบโมเดิร์นสวยงาม ตรงข้ามบันไดน่าจะเป็นห้องของฮันเจแน่ เพราะถ้าจำไม่ผิดเหมือนเห็นเขาเดินออกมาเมื่อตอนกลางวัน


    เคาะครั้งที่ 1....เงียบ


    เคาะครั้งที่ 2...เงียบ

    ครั้งที่ 3 จึงเปลี่ยนจากเคาะเป็นทุบประตูแทน


            ฟากฮันเจ เมื่อเข้ามาในห้อง หลังจากหายจุกแล้วเขาก็โทรศัพท์ กะว่าจะโทรหาแม่ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ต่อสายข้ามประเทศหาเพื่อนรักแทน


            เค้าบ่นกับเพื่อนรักด้วยภาษาที่คุ้นเคยอย่างหัวเสีย และอยากจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับหล่อนให้สาสม จนเพื่อนรักต้องออกปากห้ามเพื่อมิให้สถานการณ์ในตอนนี้เลวร้ายลงไปอีก


            “ยายนี่ฤทธิ์เดชสุดยอดเลยว่ะ


            “แล้วนายไปทำอีท่าไหนว่ะ ถึงได้โดนเข้าซะแบบนี้เพื่อนรักของฮันเจพูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นว่าเป็นเรื่องตลกมากกว่า แต่ฮันเจไม่คิดอย่างนั้น


            “นี่แกคิดว่ามันน่าขำเหรอไงว่ะ ยายนี่นะถ้าไม่นับหน้าตาแล้วไม่มีอะไรดีสักอย่างพูดไปเบ้ปากไปแบบไม่อยากจะเอ่ยถึง


            “กวนประสาทก็ที่หนึ่ง แถมยังปากร้ายด้วย เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้เลยให้ตายซิฮันเจรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่คิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา


            “ฉันว่านายใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า เดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ ยังไงนายก็ต้องอยู่ร่วมบ้านกับยายนี่ไปอีกนานจุนกิกล่าวทิ้งท้ายก่อนวางสาย พยายามเตือนสติเพื่อนอย่างเต็มที่ เพราะเขารู้ดีว่าเวลาฮันเจโกรธมากๆ มันจะเป็นยังไง 


            ส่วนจุนกิเขาอยากจะเห็นหน้าแม่สาวคนนี้จริงๆ ว่าเป็นยังไง ถึงสามารถทำให้ฮันเจที่ส่วนใหญ่จะสุภาพกับผู้หญิงโมโหได้ขนาดนี้หน้าตาดีด้วยเหรอ ชักอยากจะเจอซะแล้วจุนกิคิด ^_^


            เสียงเคาะประตูปลุกให้ฮันเจต้องลืมตา พลางคิดว่าคนที่มาเคาะนั้นน่าจะเป็นใคร แต่เมื่อเรียกสติได้ครบถ้วนเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าคนที่เคาะนั้นเป็นใคร แล้วอารมณ์กรุ่นๆ ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง


            ฮันเจเดินมาเปิดประตูเมื่อเสียงเคาะเปลี่ยนเป็นทุบ ปังๆ


            “มีอะไร..?”


            “นายยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วพูดพลางชี้มาที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง


            “ห้องพักฉันอยู่ไหน


            “ไม่มีฮันเจตอบหน้าตาเฉย ส่วนน้ำแทบเต้นเมื่อได้ฟัง แล้วเหมือนฮันเจจะคิดอะไรได้ เค้าอมยิ้มให้ตัวเองและรีบพูดขึ้นก่อนที่น้ำจะตอบโต้กลับมา


            “ตามมา..เค้าเดินนำหน้าน้ำลงบันไดกลับมายังชั้นล่างบริเวณกลางโถงมาหยุดตรงบริเวณหน้าเตาผิง คิดในใจถึงเวลาชำระแค้นแล้ว ยิ้มกว้างให้ตัวเองอีกครั้งอย่างสะใจ


            “เธอนอนตรงนี้แหละบอกพร้อมชี้มือไปบริเวณพื้นที่ว่างระหว่างเตาผิงกับโซฟา


            “ว่าไงนะ...นายจะให้ฉันนอนที่นี่นะเหรอไม่อยากเชื่อเลยว่าจะร้ายกาจปานนี้


            “ใช่..นี่ละห้องพักของพี่เลี้ยงอย่างเธอเขายิ้มอย่างคนที่เหนือกว่าทุกด้านอ้อ..ถ้าจะใช้ห้องน้ำก็ใช้ห้องที่ติดกับห้องครัวนั่น..เข้าใจนะแหม! ได้เห็นหน้าแม่คนเก่งทำท่าเหมือนจะร้องไห้นี่มันดีซะยิ่งกว่าดีอีก ยืนกอดอกมองหน้าน้ำอย่างสบายอารมณ์


            “นาย...น้ำพูดได้แค่นั้น อยู่ๆเสียงมันก็หายไปซะดื้อๆ ซ้ำร้ายน้ำตาเจ้ากรรมก็พาลจะไหลออกมาอีก น้ำพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองอย่างสุดความสามารถ เธอไม่อยากให้เจ้าเด็กนี่เห็นน้ำตาของเธอโดยเด็ดขาด


            “ขอบใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา พูดจบก็เดินตรงดิ่งออกนอกบ้านโดยไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกอย่างไร หรือ สาแก่ใจแค่ไหน ~_~


            น้ำมาหยุดอยู่ใต้ต้นสนใหญ่ ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เธอปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างที่มันต้องการ น้ำตาอุ่นๆ ไหลเป็นทางไม่ขาดสาย ความเจ็บปวดต่างๆ ที่เธอได้เผชิญมาตอนนี้มันได้กลายเป็นคลื่นน้ำตาถ่าโถมใส่เธออย่างไม่ยั้ง 


            ความเจ็บปวดที่โดนคนรักหักหลัง เพื่อนที่แสนไว้ใจคนนั้นของเธอเป็นผู้ให้ความร่วมมือในกระบวนการครั้งนี้ด้วย สองคนที่เธอไว้ใจทำร้ายเธออย่างแสนสาหัส 


            ที่เธอต้องรับหน้าที่พี่เลี้ยงจำเป็นนี่ ก็เพราะต้องการจะหนีจากความข่มขืนในครั้งนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับต้องมาเจอกับปีศาจในร่างคนดีๆ นี่เอง จากที่คิดว่าอะไรๆ คงจะดีขึ้น แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่คิด เธอต้องมาทนกับพฤติกรรมที่ไร้ซึ่งน้ำใจ ไร้ความปรารถนาดีจากคนที่เธอพึ่งรู้จัก
     

            เธอใช้หลังมือปาดน้ำตา สบถกับตัวเองอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง น้ำก็พร้อมที่จะกลับเข้าข้างในอีกครั้ง อากาศรอบๆ ตัวในตอนนี้ก็เย็นลงจนทำให้น้ำต้องเร่งฝีเท้าเพื่อที่เธอจะได้ไม่หนาวตายซะก่อน อากาศที่นี่เย็นเยียบจนน้ำต้องกระชับแขนที่กอดอกให้แน่นขึ้น


            ‘ฉันจะไม่ยอมให้ไอ้เด็กแสบนั่นมาหัวเราะเยาะได้อีกเด็ดขาดเธอเตือนตัวเอง


            กลับเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งตอนนี้ว่างเปล่า ฮันเจคงขึ้นข้างบนไปแล้วซึ่งก็เป็นเรื่องดี ที่เธอจะได้ไม่ต้องเจอหน้าเด็กนั้นอีกในเวลานี้ น้ำขยับตัวลงนั่งที่โซฟา รื้อกระเป๋าเดินทางของตัวเองควานหาของใช้ส่วนตัว  แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ จัดการกับธุระของเธอ แล้วกลับมายังที่เดิม


            เสียงท้องของน้ำร้องโครกคราก ฟ้องว่ามันต้องการอาหารเต็มที่แล้ว แต่น้ำก็ไม่รู้ว่าในตู้เย็นบ้านหลังนี้จะมีอะไรให้เธอกินบ้าง ลองเสี่ยงเดินเข้าครัว หวังแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ให้ผ่านพ้นไป แต่เธอเองก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะทำอะไรที่ยุ่งยากกินตอนนี้ เมื่อเปิดตู้เย็น เธอจึงมองหากล่องนมแทน 


            โชคดีเมื่อสิ่งที่เธอหวังนั้นไม่ใช่อะไรที่จะเป็นไปไม่ได้ เมื่อกวาดสายตาจนทั่วแล้วเธอเลือกที่จะหยิบนมจืดให้ตัวเอง หลังจากจัดการนมกล่องนี้เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อนเสียที



            น้ำล้มตัวลงนอน และหลับไปอย่างยากลำบาก เพราะแปลกที่ อากาศที่นี่ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว น้ำนอนขดตัวจนเข่าเกือบชิดคาง จะมีก็เพียงไออุ่นจากเตาผิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่เธอได้รับ



            น้ำตื่นแต่เช้า จัดการล้างหน้าล้างตาและทำธุระส่วนตัวของเธอเรียบร้อย ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น วันนี้เธอตั้งใจที่จะรบคำสบประมาทของเจ้าเด็กตัวดี เธอจัดการทำอาหาเช้าแบบฝรั่งเตรียมไว้อย่างครบครัน กะจะไม่ให้เจ้าเด็กอินเตอร์คนนี้บ่นอะไรเธอได้เลย เธอจัดวางทุกอย่างไว้บนโต๊ะอย่างสวยงาม รอแค่เจ้าของอาหารมื้อนี้ลงมาเท่านั้น



            ฮันเจ ซึ่งวันนี้เค้าตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพียงเพราะว่าเค้ามีแผนการที่แกล้งพี่เลี้ยงจอมอวดดีของเขานั่นเอง พลางคิดว่าป่านนี้ ยายน้ำตัวแสบคงยังนอนไม่ตื่นแน่ๆ เขาจึงรีบวิ่งลงบันไดมา แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะเจอแต่ความว่างเปล่า หายไปไหนแต่เช้าว่ะเนี้ยฮันเจหันซ้ายหันขวา มองหาน้ำรอบๆ บ้าน


            “มองหาอะไรอยู่เหรอเสียงทักของน้ำที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาฮันเจสะดุ้ง


            “ผมก็แค่จะดูว่าอะไรในบ้านผมหายไปบ้างรึเปล่าฮันเจแก้ตัวแบบข้างๆ คูๆ ตัดบทดื้อ ๆ


            “ไหนอาหารเช้า” 


            “อยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว” (ย่ะ) น้ำตอบสวนทันควัน นี่กะจะเล่นงานฉันแต่เช้าเหรอ เหอะๆ ขอบอกคนอย่าง นลันชา ยอมให้ดูถูกกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้นย่ะ



            ฮันเจเดินไปที่โต๊ะอาหาร พร้อมมองเมนูที่อยู่บนนั้นอย่างกึงแปลกใจ กึ่งทึ่ง เพราะเขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่ดูสมัยใหม่เป็นสาวยุคไอทีอย่างน้ำจะทำอะไรพวกนี้ได้ และน่ากินซะด้วย

            “ผมอยากทานอาหารเช้าแบบไทยๆ มากกว่ายังไม่วายที่จะยียวน

            “นี่นาย...ฮันเจหันควับมามองด้วยสายตาที่เอาเรื่อง เออ...คุณฮันเจพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อให้หลุดออกมาจากปาก ฉันว่าคุณทานมื้อนี้ไปก่อนเถอะ แล้วฉันจะทำให้ทานวันพรุ่งนี้แทน


            “ขี้เกียจรึไง


            
            “ฉันไม่ได้ขี้เกียจ แต่ฉันเสียดาย



            “แน่ใจเหรอว่าเสียดายจริงๆ



            “นี่นาย...เฮ้อจนได้ซิน่า น้ำพยายามที่จะไม่อาละวาด ถ้าคุณไม่ทานแล้วใครจะทานละ



            “เธอไง กินไปซิ ฉันอนุญาตฮันเจยังไม่ลดละความพยายามในการหาเรื่องกับน้ำ


            “งั้น...ตามใจถ้าคุณไม่ทานก็เรื่องของคุณ เพราะฉันจะไม่ทำอะไรแล้วทั้งนั้นพูดจบก็หันหลังเดินออกมาทันที

            ส่วนฮันเจ เมื่อน้ำเดินออกไปแล้ว เขาก็หันมาสนใจอาหารตรงหน้าแทน ตักคำแรกใส่ปากก็ต้องแปลกใจเป็นรอบสองเพราะรสชาตินั้นอร่อยเหมือนกับหน้าตาของมันทีเดียว จากคำแรกต่อไปเรื่อยๆ จนหมด จะว่าไปยายนี่ก็เก่งไม่เบาเลยที่เดียว ถ้าตัดเรื่องปากร้ายออกละก็ ไม่แน่เขาอาจจะชอบเธอไปแล้วก็ได้ เพราะหน้าตาก็เข้าขั้นสวยเลยก็ว่าได้ แถมหุ่นก็เพรียวบาง เป็นสเป็คของหนุ่มหลายๆ คนทีเดียว

            

    น้ำเดินออกมารับอากาศข้างนอกเพื่อดับอารมณ์ เธอจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างของฮันเจแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แน่ เธอเริ่มคิดหาวิธีที่จะปราบเจ้าเด็กจอมพยศ คนนี้ให้กลายเป็นแมวเหมี่ยว น้ำสั่นหัวไปมาเหมือนจะพยายามขับไล่ความสับสนในหัวออก

            พาตัวเองเดินกลับเข้าในบ้านพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ของเธออีกครั้ง จะเริ่มจากอะไรดีละเรา เพราะไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน ก็เลยโทรศัพท์หาเพื่อนรักแทน เผื่อว่าจะได้มีไอเดียเริดๆ มาทำงานพร้อมรับมือเด็กเจ้าปัญหานี่ด้วย ต่อสายยังไม่ทันได้ฟังเพลงรอสายจบท่อน เพื่อนเธอก็รับสายซะแล้ว


            “ฉันนึกว่าแกจะไม่โทรมาซะแล้ว

            “แหมทักทายกันดีๆ หน่อยซิจ๊ะที่รักเธอล้อเพื่อน


            “ไม่มีอารมณ์หรอกย่ะ...เล่นหายหัวไปเลยแบบนี้


            ก่อนที่เพื่อนรักจะบ่นเธอยืดยาวน่า...อย่าอารมณ์เสียเลย ก็โทรมาแล้วนี่ไงทำเสียงออดอ้อน


            “ฉันแค่ไม่ได้โทรหาแกไม่ถึงสองวันเลยนะพยายามอธิบาย


            “แล้วแกเป็นไงบ้างละน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยของเพื่อนทำเอาน้ำ ต้องออกแรงกลั้นน้ำตา


            “ก็สบายดี...เธอพยายามรักษาน้ำเสียงตัวเองให้ปกติ

            
            “แล้วเด็กนั่นเป็นไง


            “หมายความว่าไงเหรอหมี่น้ำงงที่เพื่อนถาม

       
            “ก็กวนไหม๊ หรือแบบว่าเอาแต่ใจรึเปล่าประมาณเนี้ย แกไม่เข้าใจอะไรว่ะเนี้ยหมี่เองก็งง ที่เพื่อนเธอถามกลับมาเช่นกัน


            “หรือว่า...หมี่ทำเสียงตกใจ !

        
            “นี่พอเลยคุณหมี่ ไม่ต้องมาคิดอะไรพิเรนหรอกย่ะ ไม่มีอะไร ก็ปกติดี เหมือนเด็กทั่วไปนั่นแหละ


            “แต่แค่ปากร้าย กวนโอ้ย แล้วก็อะไรอีกนะฉันบรรยายสรรพคุณนายนี่ให้แกฟังทั้งหมดไม่ไหวหรอกน้ำถอนหายใจ

       
            “โอ๊ะ โอหมี่อุทานนี่เพื่อนเราเจอปัญหาเหรอเนี้ย ไม่น่าเชื่อนะหมี่ทำเสียงล้อเลียน


            “นี่..หมี่เสียงเรียกของน้ำเบาหวิว จนปลายสายจับได้


            “แกไม่ต้องถามฉันหรอก ถึงยังไงฉันก็ไม่บอกแกอยู่ดีหมี่รู้ว่าเพื่อนรักของเธอจะถามเธอเรื่องอะไร เธอจึงปฏิเสธเสียก่อน


            “แกจะอยากรู้ไปทำไมว่ะ เรื่องของคนแบบนั้น ฉันว่าแกลืมซะเถอะอย่าไปเกี่ยวข้องด้วยเป็นดีที่สุด


            ถึงแม้หมี่จะพูดมาแบบนั้นแต่ก็ไม่ทำให้น้ำคิดตามในสิ่งที่เพื่อนบอกได้ เธอยังคงคิดถึงคนที่ทำให้เธอต้องหนีมาถึงที่นี่อยู่ทุกวัน ทั้งที่มันแสนจะเจ็บปวดแต่น้ำก็ยังคงอาลัยเขาคนนั้นผู้เป็นที่รักของเธอเสียเหลือเกิน การโทรหาเพื่อนครั้งนี้เพื่อต้องการหาตัวช่วยแต่กลับจบลงด้วยน้ำตาของน้ำแทน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×