คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ปฐมบทแห่งการฟาดฟัน
ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตัวเองทนเจ้าเด็กบ้าอำนาจคนนี้อยู่ได้ยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ "เรานี่งี้เง่าที่สุด" บ่นกับตัวเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั่งนี่ "อยากกลับบ้านฉิบเลย" ตอนนี้อะไรๆก็ดูมืดมนไปหมดสำหรับ 'นลันชา' เดินไปพร้อมกับเหวี่ยงแขนเหวี่งขาไปในอากาศระบายความแค้น
"นี่ถ้าย้อนเวลาได้อย่าหวังว่าฉันจะมาเหยียบที่นี่เลย...ไอ้เด็กบ้า.." เมื่อสองอาทิตย์ก่อน'นลันชา' หรือ น้ำ ตบปากรับคำผู้เป็นแม่ทำงานที่ว่านี้ โดยที่ไม่รู้ว่าต้องเจออะไร รู้แต่ว่ามีหน้าที่ดูแลเด็กอายุประมาณ 20-21 ปี ที่บ้านแตก (จะว่างั้นก็ได้..เพราะพ่อแม่แยกกันอยู่แต่ไม่ได้หย่า) ระหว่างที่เค้าพักอยู่ที่บ้านพักตากอากาศที่เชียงราย
เธอรับคำเพราะไม่คิดว่ามีอะไรยาก แค่ดูเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า และงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ แต่นี่อะไรกัน ไอ้เด็กที่ว่านี่ ทั้งโหด เหลี่ยมจัด ทั้งยังไร้น้ำใจอย่างที่สุด เธอจำวันแรกที่มาถึงที่นี่ดีและไม่มีวันลืมด้วย
"“เธอใช่ไหม๊ที่แม่ฉันส่งมา"” ชายหนุ่มยืนพิงกรอบประตูพูดขึ้นขณะที่น้ำพยายามลากกระเป๋ามาตามทางขรุขระ
ไม่คิดจะช่วยกันมั่งเลยรึไงเนี้ย น้ำคิดอยู่ในใจ แต่ผูกมิตรไว้ก่อนดีกว่า น้ำมาหยุดยืนอยู่หน้าลานประตูห่างจากเจ้าของคำถามแค่ช่วงแขน และแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ
"“ฉัน ‘นลันชา’ พี่เลี้ยงของเธอตลอดช่วง 3 เดือนต่อจากนี้"” ไม่คิดจะยกมือขึ้นมาทำตามประเพณีไทยบ้างรึไงกัน ไอ้เด็กนี่ ผู้ใหญ่ทักทายไม่รู้จักมารยาทซะบ้างเล้ย สงสัยต้องอบรมอย่างหนักซะแล้ว เช๊อะ...ยังจะมาทำหน้าตายียวนกวนประสาทอีก
"“แล้วนายนะไม่คิดจะแนะนำตัวเองมั่งรึไง..จะ..จ๊ะ"” ใส่จริตเข้าไปอย่างยากเย็น
"“เป็นพี่เลี้ยงประสาอะไร..ไม่รู้จักข้อมูลพื้นฐานของเจ้านายมั่งเลยเหรอ ใช้ไม่ได้"” พูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าไปหน้าตาเฉย
'ย๊าก.......ไอ้เด็กบ้า อะไรวะทักดีๆ มาทำอย่างนี้เดี๋ยวแม่ฆ่าทิ้งซะนี่' น้ำร้องในใจ นิสัยไม่ได้เรื่องเลย ตอนนี้น้ำอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ระบายความโกรธที่เกิดขึ้นให้หาย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเธอพึ่งมาถึงที่นี่ได้ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีเลย
กลางบ้านเป็นโถงโล่งๆ ดูโปร่งตา ท่าทางจะอยู่สบายดีเหมือนกันนี่น้ำคิด แล้วนี่ไอ้เด็กบ้ามันไปไหน และฉันจะนอนที่ไหน อยู่ยังไง มันไม่สนใจกันมั่งเลยรึไงน๊า..
ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่พักใหญ่ไม่รู้จะจัดการกับตัวเองยังไงดี มองดูรอบๆ ไม่เห็นจะมีวี่แววของคนอื่นนอกจากเด็กนั่น แล้วนี่ฉันจะทำไงละที่นี้ จะอันเชิญตัวเองขึ้นไปชั้นบนก็ดูกระไรอยู่ แต่ข้างล่างนี่ก็ดูไม่ออกว่าจะมีที่ไหนจะเป็นห้องพักได้บ้าง แล้วมันยังไงกันละนี่ จนในที่สุด “ฉันหมดความอดทนแล้วน๊า....ไอ้เด็กบ้า” น้ำตะโกนสุดเสียงและมันก็ดังพอที่จะทำให้คู่กรณีของเธอต้องออกมาดู
"“เป็นไรไปป้า"” ส่งสำเนียงแบบคนง่วงนอน
"“ฉันไปเป็นญาติผู้ใหญ่ของนายตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ"” ไม่ญาติดงญาติดีกับมันแล้วเป็นไงเป็นกันซิ
"“ฉันมานี่ในฐานะของพี่เลี้ยงนาย แต่นายกลับไม่สนใจเลยสักนิด ไม่คิดเชื้อเชิญเข้าบ้านไม่พอ แถมยังมาทำเป็นไม่เห็นหัวฉันอีกมันจะมากไปแล้วนะ"”
"“ก็คุณชื่อ น้ำ อายุเกือบ 27 ปี ตกงาน ไม่มีแฟนเพราะโดนทิ้ง ผมรู้หมดแล้วจะเอาอะไรอีก"”
"“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"”
"“ฉันหมายความว่า ฉันจะพักที่ไหนแล้วต้องทำอะไรบ้าง และที่สำคัญมีคนอื่นอีกไหม๊นอกจากนาย"” เผื่อฉันจะได้คุยกับเค้าเพราะคิดว่าคงรู้เรื่องมากกว่าพูดกับนาย น้ำคิดต่อในใจ
“"นี่คุณ...เป็นพี่เลี้ยงประเภทไหน คำก็นาย สองคำก็นายไม่รู้จักให้เกียรติกันบ้างผมนะเป็นเจ้านายคุณนะ"
” หนอยมาทำเป็นพูดดีทีตัวเองละจิกฉันยังกะอะไรดีไม่คิดมั่ง เธอค่อนขอดในใจ
“"และอีกอย่างผมมีชื่อกรุณาเรียกชื่อด้วย"” จะให้เรียกได้ไงฉันไม่รู้จักชื่อนายนี่หว่า น้ำคิด
"“แล้วนี่ยังมีหน้ามาถามอีก ตัวเองมีหน้าที่ทำอะไร เห๊อะ..ไม่รู้แล้วจะมาเป็นพี่เลี้ยงได้ไงยัยโง่!!”" พูดพร้อมทำหน้าเซ็งสุดขีด แล้วเดินเข้าห้องปิดประตูดังโครมใหญ่ ยัยนี่อะไรก็ไม่รู้มาถึงก็เสียงดังน่ารำคาญ แม่นะแม่จะส่งคนสมประกอบกว่านี้มาหน่อยก็ไม่ได้
“"นอนดีกว่า"” ล้มตัวลงบนที่นอนพร้อมใส่หูฟังเปิดเพลงกลบเสียงโวยวายของคนข้างล่าง
"หนอยยยย.....ไอ้เด็กนรก ปากดีนักนะ ทำมาเป็นอวดรู้" (แต่ก็จริงนั่นแหละ) "เช๊อะ เดี๋ยวเถอะฉันจะทำให้นายพูดไม่ออกเลยคอยดู" เดินไปเดินมาระบายความคับแค้นใจ พอเริ่มได้สติเจ้าหล่อนก็หยุดเดินและเริ่มคิดถึงอนาคตตัวเอง
“ตั้ง 3 เดือนเชียวนะ ชักไม่แน่ใจแล้วซิเราจะอยู่รอดไหม๊เนี้ย” "เฮ้อ...." น้ำถอนหายใจยาวๆ เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับตัวเธอ กับเจ้าเด็กบ้า นี่แค่วันแรกที่มาถึงยังเป็นขนาดนี้ แล้วต่อไปจะเป็นยังไงเนี้ย น้ำเริ่มวิตกในใจ
นลันชา พาตัวเอง ออกมาข้างนอกสูดอากาศบริสุทธิ์ ลึกๆ เข้าปอด “'นี่มันเป็นวันอะไร (ว่ะ) เนี้ย' เธอคิด”
ล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์กะจะโทรหา...แต่เปลี่ยนใจกดหาอีกชื่อแล้วต่อสาย อึดใจปลายทางก็รับ
"“แม่ค่ะ..หนูมีเรื่องรบกวนหน่อยค่ะ”" ลูกสาวกำลังลำบากแม่จะรู้ไหม๊เนี้ย ?
“"ว่ามาแม่ฟังอยู่....เออ.แล้วเป็นไงถึงที่พักแล้วเหรอ ไปถึงกี่โมง เป็นไงบ้าง...?”" แม่รัวคำถามใส่เป็นชุดน้ำต้องหยุดแม่โดย
"“แม่ค่ะ..ไว้หนูจะเล่าให้ฟังค่ะ แต่ตอนนี้หนูอยากให้แม่ช่วยหนูเรื่องนี้ก่อน"” นิ่งไปอึดใจ
"“หนูอยากรู้เรื่องของเด็กนี่ค่ะ"” เฮ้อ..ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องขนาดนี้มาก่อนเลย จนมาเจอกับเจ้าเด็กปีศาจนี่ แย่ชะมัด *_*
ผู้เป็นแม่ถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหนุ่มเจ้าปัญหาให้ลูกสาวฟัง เท่าที่ตัวเองรับรู้มาจากแม่ของเค้า ‘ลีฮันเจ’ หรือ ‘ฮันเจ’ พ่อเป็นชาวเกาหลี ฮันเจเกิดและโตที่เกาหลี ตามแม่กลับมาเที่ยวที่ประเทศไทยตอนอายุ 10 ขวบซึ่งตอนนั้นทางครอบครัวกำลังมีปัญหา จากการมาเที่ยวคราวนี้ ทำให้ผู้เป็นแม่ตัดสินใจอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร เพื่อต้องการยุติปัญหาต่างๆ
ส่วนฮันเจ โดนส่งเข้าโรงเรียนนานาชาติที่เมืองไทยจนจบ ม.ต้น และเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมปลายที่อังกฤษตามที่พ่อของเขาต้องการ นั่นจึงทำให้เค้ามีความสามารถพูดได้หลายภาษา ตอนนี้เค้าเรียนปริญญาตรีอยู่ที่เกาหลี เดินทางมาเมืองไทยเพื่อมาเยี่ยมแม่และพักผ่อนในตัว ‘สรุปไอ้เด็กแสบนี่เป็นเด็กอินเตอร์ด้วยว่างั้นเถอะ อะไรจะเพอร์เฟคขนาดนั้น ตายแน่คราวนี้ฉัน’ เธองืมงำในลำคอ แล้วตั้งใจฟังเรื่องราวของเด็กเจ้าปัญหานี่ต่อไปแบบที่ต้องคิดตามไปว่าจะรับมือยังไงดี
“ขอบคุณค่ะแม่..เท่านี้ก่อนนะค่ะ” น้ำตัดบทดื้อๆ เพราะตอนนี้รู้สึกเหมือนมีคนมองมาจากด้านหลัง
หันหน้ามาก็ต้องแปลกใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ เพราะตั้งแต่เจอเด็กฮันเจนั่น ไม่มีอะไรดูจะปกติสำหรับเธอเลย
“"เออ...."” อยู่ๆ เหมือนเสียงมันจะหายไปเฉยๆ
“"ไง..ป้า..ทำไม ตกใจซะจนหลอดเสียงอักเสบเลยรึง่ะ”" ยืนมองฝ่ายตรงข้ามที่กำลังทำหน้ายุ่งยากใจ
ยังมาปากดีอีกนะ ฉันเป็นอะไรไม่เกี่ยวกับนายย่ะ “ไงหาตัวช่วยอยู่เหรอ” ชายหนุ่มยืนมอง นลันชา
มันจะเอาไงกะฉันเนี้ย ทำเป็นไม่สนใจอยู่แหม็บๆ ตอนนี้จะมาทำเป็น เอาว่ะอีกสักตั้ง
"“ตกลงเราจะคุยกันดีๆใช่ม่ะ"” ลอบมองหน้าอย่างพิจารณา จะว่าไปเด็กนี่หน้าตาหล่อเหลาเอาการอยู่นะ ตัวก็สูง คงสักประมาณ
“"เอาไงก็ได้" ” แน๊..มาแปลกวุ้ย
“"ได้..งั้นมาตกลงกันก่อน"”
“"เรื่องอะไร”" ชายหนุ่มเริ่มระแวงขึ้นมาบ้าง เพราะสีหน้าท่าทางที่กำลังคิดอะไรอยู่ในใจของเจ้าหล่อน
“"เรื่องแรกห้ามเรียกฉันว่าป้า"” ฮันเจมองหน้าน้ำเชิงท้าทาย เหมือนจะบอกว่ามีไรอีกไหม๊
"“เรียกฉันว่าพี่น้ำด้วย เข้าใจ๋”" ยืนท้าวเอวอย่างคนเป็นต่อ
“"ได้..”" ยายบ๊อง...เค้าเลือกที่จะไม่พูดประโยคหลังออกมา "“งั้นคุณต้องเรียกผมว่าคุณด้วย"” ตัวเองแกว่าแค่นี้เองจะมาทำเบ่งให้เรียกพี่.. ฝันไปเถอะชาติหน้าตอนสายๆโน่น เค้านึก
"“งั้น..เริ่มหน้าที่พี่เลี้ยงได้แล้ว"” เค้าสั่งเสียงเย็นไม่มีความเป็นมิตรในน้ำเสียงนั่น
“"ห๊า...ว่าไงนะ"” น้ำร้องคลางในลำคอ "อะไร (ฟะ) นี่กะจะใช้งานกันวันแรกเลยรึไงนะ"
"“แม่ผมไม่ได้จ้างคุณมาเพื่อที่จะมาต่อล้อต่อถียงกับผม” จำไว้ด้วยยายบื้อ" ว่าแล้วสะบัดหน้าเดินนำเข้าบ้านพร้อมร้องตะโกนสั่ง
"“เข้ามาได้แล้ว จะอยู่ตรงนั้นรึไงยายพี่เลี้ยง"”
‘ฉันบอกว่าให้เรียกฉันว่าไงนายจำไม่ได้รึ ไอ้เด็กผีทะเล’ หนอยแน่ น้ำกัดริมฝีปากตัวเองแน่นไม่อยากให้ความคิดตัวเองในขณะนี้ต้องหลุดออกเป็นคำพูด แล้วเดิมตามเข้าบ้านไป
เข็มนาฬิกาบอกเวลาบ่าย 4 โมง อากาศที่นี่เริ่มเย็นลงอย่างรู้สึกได้ เพราะบ้านพักหลังนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา บนเนื้อที่ประมาณ เกือบ
“"มัวยืนทำอะไรอยู่ ไปทำอะไรให้ฉันกินทีซิ ตั้งแต่ตื่นมายังไม่ได้กินไรเลย"” พูดพลางเดินไปนั่งที่โซฟาขนสัตว์หนานุ่มตรงบริเวณหน้าเตาผิง ยกขาพาดบนโต๊ะกลางอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่สนใจสายตาของฝ่ายตรงข้ามเลยว่าขณะนี้มันจะลุกวาวแค่ไหน
“"อ๋อ..แต่เดี๋ยวก่อน มาจุดไฟที่เตาผิงให้ก่อนดีกว่าอากาศเริ่มเย็นแล้ว"” ฮันเจสั่งต่อโดยไม่มองหน้าของน้ำ แถมหยิบนิตยสารเกี่ยวกับดนตรีที่วางอยู่ขึ้นมาอ่านแทน
น้ำกำหมัดขึ้นแล้วทิ้งมันลงข้างลำตัว ระบายลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เธอมาทำงานนี้เพื่อที่จะหนีจากปัญหาชีวิตรักของตัวเอง แต่กลับต้องมาเจออะไรที่ยิ่งกว่าเสียอีก ความโกรธเริ่มจะทลายกำแพงความอดทนที่เหลืออยู่น้อยนิดเสียเหลือ
“"นี่...นายมันจะเกินไปแล้วนะ"” ในที่สุดก็ระเบิดออกมา “ฉันพึ่งมาถึงที่นี่วันนี้ กะจะไม่ให้พักกันบ้างเลยรึไง” ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นมั่งเลย
"“แม่ผมไม่ยักกะบอกว่า พี่เลี้ยงคนนี้ต้องพักสักหน่อย"” พูดไปพร้อมกับผลิกนิตยสารในมืออย่างทองไม่รู้ร้อน
“"ถ้าทำไม่ได้ก็กลับไปจะเรียกให้รถมารับ..จะได้รู้ไว้ว่า..”" เขาทิ้งจังหวะ “"ผู้หญิงอย่างคุณมันไม่ได้เรื่อง"” ท้ายหางเสียงแสดงการดูถูกอย่างเปิดเผย
“"นาย....”" น้ำแหวใส่แต่ยังไม่ได้พูดอะไรต่อ
“"ผมบอกแล้วใชไหม๊ว่าให้เรียกคุณฮันเจ คุณนี่ท่าจะความจำไม่ค่อยดี”" พูดพร้อมย่างสามขุมมาหา นลันชาเชิดหน้าอย่างท้าทาย ไม่ถอยหนีอย่างที่เขาอยากจะเห็น
“"ฉันแน่กว่าที่นายคิด"” พูดพร้อมตั้งท่าเตรียมสู้
“"คุณจะทำอะไร..คิดเหรอว่าคุณจะรับมือผมได้ตัวกระเปี๊ยกแค่นี้” เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นเชิงดูถูก
"“นายก็ลองดูแล้วกัน"” ในขณะที่น้ำพูด ฮันเจก็เดินเข้ามาหาจนเกือบประชิดตัว น้ำถอยเพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะเตะเขาได้ถนัด หากว่าเขาทำอะไรเกินเลยกว่านี้
ฮันเจยื่นหน้าเข้ามาหาน้ำ โดยอัตโนมัติ น้ำก็กระตุกฝ่ามือไปที่หน้าของเขาเต็มแรง 'เพียะ!!....'หน้าฮันเจหันไปตามแรง
"“เธอ..กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน ห๊า..”" พูดพรางกระชากมือของน้ำ หล่อนเซถลามาตามแรง แต่โดนไม่คาดคิด ในจังหวะนั้นน้ำก็กระแทกเข่าเข้าไปที่หว่างขาของฮันเจอย่างเต็มแรง ส่งให้เขาลงไปกองอยู่กับพื้น
"“เธอ...ยาย..ยายบ้า"” เสียงของเขาในตอนนี้ฟังอู้อี้ไปหมดเพราะฤทธิ์เข่าของเธอนั่นเอง
“ช่วยไม่ได้..ก็นายอยากแกล้งฉันทำไม ฉันก็แค่ป้องกันตัว” แต่น้ำเสียงของคนพูดไม่ได้แสดงว่ารู้สึกผิดสักนิด น้ำแอบอมยิ้มให้ตัวเองที่ส่งเจ้าปีศาจตัวนี้ลงสู่พื้นได้ คิดในใจ ต่อไปจะได้ไม่กล้ากำแหงกับเธออีก .....ฮู้..สะใจ
ความคิดเห็น