คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Stunned :: 05
Stunned :: 05
พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยคู่กรณี(?)ไว้ได้ทันเวลาก่อนที่แบมแบมจะกลายร่างเป็นมินเนียนตัวสีม่วงก็เป็นใครไปไม่ได้ ไม่แปลกใจตัวเองสักนิดที่หันมาเจอว่าคนที่กำลังยืนประชิดหลังเขาอยู่คือมาร์ค เอาจริงๆ แบมแบมหงุดหงิดอยากจะกรอกตาให้ตัวเองเหมือนกันแหละที่จำเสียงอีกฝ่ายได้
“จริงหรอแบมแบม” รุ่นพี่ตัวประกอบขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ มองร่างเล็กที่หลุดมือไปอยู่ในอ้อมกอดไอ่หน้าหล่อต่อหน้าต่อตาแล้วทั้งเซ็งทั้งเสียหน้า
“พี่มาร์ค ทำไมเพิ่งมาล่ะฮะ แบมรอจนเมื่อยหมดเลย” คนน่ารักยิ้มให้แต่ไม่ได้ตอบอีกฝ่าย ก่อนจะหันมาออดอ้อนคนที่กอดเขาทั้งตัวอย่างแนบเนียน ชนิดที่แทบจะทำให้มาร์คลืมไปเลยว่านี่เป็นคนเดียวกับที่ชอบทำเสียงเขียวคุยกับเขา
“เมื่อยงั้นก็รีบไปเถอะ งั้นขอตัวก่อนนะครับ” รีบตัดบทรุ่นพี่ตัวประกอบของแบมแบมออกไปอย่างไม่ไยดี ร่างบางโค้งขอตัวแล้วเดินตามแรงดึงข้อมือของร่างโปร่งมาถึงประตูรถ มาร์คจัดการให้ตั้งแต่เปิดประตูไปจนถึงคาดเข็มขัดนิรภัยให้ อีกคนก็ว่าง่าย ให้ทำอะไรก็ทำหมด ดูเผินๆก็เหมือนคู่รักกำลังสวีทกันทั่วไปเลย ถือว่าทั้งคู่เล่นละครเข้าขากันมากทีเดียว
ใบหน้าเปื้อนยิ้ม หายไปทันทีเพียงไม่กี่วินาทีที่ออกรถ ความเงียบปกคลุมภายในรถครู่หนึ่งจนเมื่อมาร์คขับเลยเขตคณะมาแล้วแบมแบมก็พูดขึ้น “เดี๋ยวเลี้ยวมุมข้างหน้านี่ก็จอดได้แล้วนะ”
“จอดทำไมอ่ะ?” หรือคนตัวเล็กจะหิว หรือจะให้จอดซื้ออะไร
“ก็จอดให้คุณลงน่ะสิ ใจคอจะนั่งไปถึงไหนกัน”
“จะทิ้งกันดื้อๆงี้เลย? แล้วใจคอจะไม่ขอบคุณกันสักคำเลยรึไง”
“ก็ใครเขาขอให้มาช่วยล่ะ”
“แล้วใครที่รีบเดินมาคนเดียวล่ะ”
“ก็ทำไมไม่รีบเดินตามมาเร็วๆล่ะ” ปล่อยเขารอตั้งนานแล้วยังมาโทษกันอีก เขาผิดรึไงเล่า!
“รู้ว่ามาง้อก็รีบหายงอนสิ”
“ก็..?#$%*&(#$............” ยอกย้อนคำพูดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร แบมแบมโวยมา มาร์คเถียงกลับ ขับรถไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องจอดหันมาต่อปากต่อคำกัน แล้วก็ออกรถอีกครั้ง ก็ต้องจอดใหม่อีก เป็นอย่างนี้มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ออกจากมหาวิทยาลัยเลย...
“คราวหลังเจอไอ่ตัวประกอบเมื่อกี้ต้องรีบขอตัวเลยนะ ปล่อยมันเข้ามาแตะตัวได้ยังไง” บทสนทนาเวียนกลับเข้าเรื่องนี้อีกจนได้ ดูเหมือนมาร์คติดใจเรื่องนี้มากๆ ขนาดว่าเถียงกันไปเรื่องลมฟ้าอากาศแล้วก็ยังวนกลับมาได้อีก
“ก็ช่วยไม่ได้ คนมันน่ารัก ใครๆก็อยากเข้าใกล้เป็นธรรมดา แบมจะไปห้ามได้ยังไง”คนพูดลอยหน้าลอยตา ชมตัวเองได้น่าฟัดมากกว่าน่าหมั่นไส้นะ.... เดี๋ยวทนไม่ไหวปล้ำมันบนรถนี่ซะเลยนิ!
“อืมม อันนี้ไม่เถียงนะ เห็นมาหมดทั้งตัวแล้วน่ารักทุกส่วนเลย ฮ่าๆๆ” ระเบิดหัวเราะออกมาเพราะหันไปเห็นว่าแบมแบมหน้าแดงพองแก้มเป็นลูกมะเขือเทศสุกเปร่งไปแล้ว
“อื้อ! อย่าพูดอย่างนี้นะ ลามก!!” ไม่ว่าเปล่า มือเล็กเอื้อมออกไปคว้าเข้าที่กลุ่มผมนุ่มตรงท้ายทอยก่อนจะออกแรงดึงอย่างแรง กัดฟันแน่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ้ยๆๆ ลามกตรงไหน เรื่องจริงทั้งนั้น” แล้วก็ต้องจอดรถอีกครั้ง.... =_=” มาร์คคว้าข้อมือบางที่กำลังทึ้งหัวเขาไม่หยุดจนผมจะหลุดตามมือออกมาไว้แน่น แบมแบมใช้มืออีกข้างที่ว่างเงื้อขึ้นจะฟาดแต่ก็ถูกจับไว้ด้วยมือใหญ่อีกจนได้ ร่างเล็กสะบัดแขนตัวเองหวังจะให้หลุดแต่ก็ไม่เป็นผลเลย
“ดีกันเหอะนะ”จู่ๆมาร์คก็พูดโพร่งออกมา และทำให้เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ฝ่ายคนพูดมองหน้าคนฟังด้วยสายตาหนักแน่นจนแบมแบมต้องเป็นฝ่ายหลบ
“.........” ร่างเล็กไม่ตอบอะไร เสตามองไปทางอื่น แต่ก็เลิกดิ้นเลิกสะบัดแล้ว ปล่อยให้มาร์คกุมมือเขาไว้อยู่อย่างนั้น มาร์คก็ไม่พูดอะไรต่อ ความเงียบที่ปกติมันจะน่าอึดอัด แต่ตอนนี้กลับทำให้รู้สึกหย่อนใจ แบมแบมเองอยากให้มันเงียบไปอย่างนี้แหละ เวลาพูดกันทีไรก็ต้องเถียง ต้องตีกันทุกที เขาก็เหนื่อยจะปั้นหน้าโกรธแล้วเหมือนกันนะ
“ยังโกรธอยู่หรอ”มือของมาร์คที่กุมรอบมือเล็กไว้ดึงทั้งสองมือเข้ามาหาตัว ก่อนจะกดจมูกลงไปที่หลังมือนิ่ม แบมแบมตาโตนิดนึงกับการกระทำของมาร์ค ริมฝีปากแดงจัดยังไม่ยอมละจากหลังมือของเขา คนฉวยโอกาสเอียงคอแล้วแนบแก้มลงไปแทนที่ โดยสายตาเจ้าชู้คู่นั้นยังคงจ้องมองที่เขาไม่วางตา
“...............ไม่รู้” ต้องเป็นฝ่ายหลบตาอีกครั้ง แบมแบมหงุดหงิดตัวเองนิดหน่อย เพราะไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้รู้สึกยังไง แบมแบมไม่เคยเผชิญสถานการณ์แบบนี้มาก่อนจริงใจเขาไม่เกลียดเครียดแค้นอีกฝ่ายแล้ว แต่จะให้ยอมกันดีๆก็กลัวจะดูว่าใจง่ายขอเล่นตัวนิดนึงเถอะนะ
“นี่....เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทันเวลาเลยนะ” พูดกับมือเขาแทนก็ได้นะ ถ้าจะทำขนาดนี้...
“หนีเสือปะจระเข้สิไม่ว่า!”
“จระเข้อะไรหล่อขนาดนี้ให้รางวัลก่อนเร็ว” มาร์คพองแก้มข้างหนึ่ง แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พอแบมแบมจะถอยห่างก็ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมแขนจนทำให้ใกล้กว่าเดิมอีก ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น
“รางวัลอะไร?!” แบมแบมร้องเสียงสูง ไม่เข้าใจหรอก ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นนนนน
“จะหอมหรือจะให้พี่หอม นับหนึ่งถึงสามนะ เร็วเข้า หนึ่ง... สอง....” ฟอด! ฟอด!
“อื้อออ ยังไม่สามเลย!” ในขณะที่กำลังตัดสินใจจะหอมหรือไม่หอมดีนั้น มาร์คก็จู่โจมแก้มเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว แถมยังโกงอีก หอมไปตั้งสองที ยังนับไม่ถึงสามเลย
“อ้าวหรอ งั้นนับใหม่นะ”
“บ้า! พอเลยคุณ ปล่อยเลยนะ” ร่างเล็กหน้าคว่ำตาคว่ำอีกครั้ง ทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ คนยังเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ประปราย กระจกรถถึงจะติดฟิล์มแล้วแต่มันก็ไมได้ทึบขนาดมองจากข้างนอกไม่เห็นนะ ตาบ้า! แบมแบมดิ้นน้อยๆแต่ก็ไม่กล้าขยับตัวมากนักเพราะยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งอำนวยต่อการถูกคนตรงหน้าลวนลาม!
“ทำไมเรียกห่างเหินจัง ไหนลองเรียกใหม่สิ” มาร์คแกล้งอีก เพราะเขาไม่ชอบใจนักเวลาแบมแบมเอาแต่เรียกคุณอย่างนั้น คุณอย่างนี้ ขนาดตอนเมายังไม่ยอมเรียกอย่างอื่นเลย แบมแบมหยอกกลับด้วยการถอนใจดังใครจะไปทำตามกันล่ะ ก็ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเคยพูดดีๆกันที่ไหน สรรพนามแบบนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว เจ้าตัวเองก็ไม่เคยบอกนิว่าจะให้เขาเรียกว่ายังไง
“-คุณ-ปล่อย-ได้-แล้ว-”ไม่วายถลึงตาใส่ เผยอปากอีกอย่างท้าทาย
“.............” ง่ำ!
“อื้อออ....ฮ่ะ...” แบมแบมตกใจเมื่อริมฝีปากอิ่มโดนงับไม่เบานักด้วยความหมั่นเขี้ยว โดยไม่ทันที่ร่างเล็กจะโวยวายไปมากกว่านั้น มาร์คก็รีบปลอบขวัญด้วยการเลาะเล็มไปทั่วริมฝีปาก ก่อนจะสอดลิ้นเข้ากระหวัดอย่างหนักหน่วง แบมแบมหลับตาลงเมื่อการรุกรานนั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนมากขึ้น มือใหญ่ที่โอบรอบร่างเล็กไว้แน่นค่อยๆคลายออกเมื่อเห็นว่าคนน่ารักโอนอ่อนให้มากแล้ว ผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง กระซิบเสียงแหบต่ำที่ริมฝีปากอิ่มในเชิงเร่งเร้า
“เรียกใหม่เร็ว...”
“แฮ่ก..ก็...จะให้เรียกอะไรเล่า อ้ะ...”จมูกโด่งคลอเคลียอยู่กับแก้มใส แบมเริ่มปลงแล้ว ใครข้างนอกจะเห็นยังไงก็ช่างเถอะ T-T
“หึหึ แบมแบมอยากเรียกอะไรล่ะครับ”
“นายคนบ้าลามก! อ๊า!! เรียกพี่มาร์ค เรียกพี่มาร์คก็ได้!” ก่อนจะโดนฟัดอีกรอบ มือเล็กก็ถูกยกมาปิดที่ปากของมาร์คได้พอดี ออกแรงดันให้หน้าอีกคนถอยห่างออกไป ร้องเรียกชื่ออีกคนเสียงดัง ก่อนจะค้อนให้อีกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของร่างโปร่ง
“ก็แค่เนี้ยะ” มาร์คยอมถอยกลับไปนั่งดีๆที่ตำแหน่งคนขับ ก่อนจะออกรถอย่างอารมณ์ดี ใจเขาอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินแบมแบมเรียกว่า ‘พี่มาร์ค’ ถึงแม้ว่าจะฟังแล้วเหมือนโดนเรียกไปฆ่าก็ตาม
สถานการณ์แบบนี้แจบอมไม่คุ้นชินเลย... ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ใจเต้นด้วยจังหวะโครมครามแบบเดิม กับคนๆเดิม คนที่สามารถแผ่ฟีโรโมนได้ตลอดเวลาอย่างจินยอง
จะให้ใช้คำว่า ‘เดิม’ อีกครั้งก็เกรงว่ามันจะกลายเป็นคำซ้ำที่น่าเบื่อ เพราะจริงๆแล้วถึงเขาจะกลับมาอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ของจินยอง แต่ฉากตอนนี้ก็ไม่ใช่โซฟาเหมือนคืนนั้น มันเปลี่ยนเป็นห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนของจินยองอีกทีหนึ่ง
แจบอมพิงสะโพกกับเค้าเตอร์หินอ่อนติดผนังขนาดไม่กว้างมาก ที่เหมือนออกแบบไว้สำหรับวางของหน้ากระจกเมื่อจินยองโถมมาหาเขาทั้งตัวในขณะที่ริมฝีปากยังคลอเคลียกันอยู่ หลังเขาเอนไปจนหัวชนเข้ากับกระจกเงาบานใหญ่ไม่แรงมากนักแต่ก็ทำให้เกิดเสียงดังก้องในห้องน้ำ จินยองหัวเราะคิกคักก่อนจะเริ่มปลดกระดุมกางเกงเขาออกอย่างรวดเร็วจนเขาต้องตะครุบมือขาวเนียนนั่นเอาไว้
“จินยอง.... เอาเลยหรอครับ”
“อื้อ รออะไรล่ะ นี่แจบอมก็พร้อมให้เรากินแล้วนี่” ว่าพลางลูบมือหนักๆลงไปตรงเป้ากางเกงของแจบอม ที่ขณะนี้ความรู้สึกที่อยู่ข้างในกำลังอัดอั้นบวมเป่งอยากจะออกมาเต็มที่แล้ว ร่างบางช้อนสายตาขี้เล่นให้ก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วจุ๊บริมฝีปากแจบอมเบาๆซ้ำๆสองสามครั้งจนร่างสูงเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ คว้าต้นคอร่างบางให้กระชับเข้ารับจูบอันหนักหน่วง มืออีกข้างสอดเข้าใต้เสื้อตัวบาง สัมผัสเอวบางและแผ่นหลังเรียบเนียนไปทั่ว
จินยองเองก็ไม่ยอมแพ้ แม้สมองจะเบลอไปนิดหนึ่งกับจูบเอาแต่ใจที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวของแจบอม แต่เจ้าตัวก็ยังคงตั้งสมาธิไปที่เป้ากางเกง... เอิ่ม... ไปที่การปลดกระดุมกางเกง..อ๊า แกะออกแล้ว!
-Cut-
ร่างเล็กเดินปึงปังจนมาถึงห้อง หน้าหงิกพอๆกับเส้นรามยอนที่อยู่ในถุงที่กำลังกอดอยู่นี่เลย มือเล็กเอื้อมไปเสียบการ์ดไม่ถนัด แต่อยู่จู่ๆถุงกระดาษก็ลอยออกจากอกไป ตอนแรกนึกว่าถุงมันร่วงออกจากมือไป จริงๆแล้วคนที่เดินตามมาติดๆนี่ล่ะที่เป็นฝ่ายดึงออกไปถือเองแถมยังทำหน้าทะเล้นอีก แบมแบมสะบัดหน้าใส่ยังไม่หายหงุดหงิด วันนี้เขาเถียงกับมาร์คเป็นสิบๆเรื่องแต่ยังไม่ชนะสักเรื่อง ล่าสุดก็...
‘ให้เดินไปส่งเถอะ ของเยอะอย่างนี้’
‘ก็ใครห๊ะที่หยิบเอาๆใส่มาจนล้นตะกร้าเนี่ย’
‘เอาน่า พี่จ่ายอยู่แล้ว’
‘งั้นก็เอากลับบ้านไปหมดนี่เลย’
‘จะให้เอากลับยังไง หรือเราจะไปส่ง ก็ได้นะขึ้นห้องพี่แทนขึ้นห้องแบมก็ได้’
‘จิส์... ไม่ต้องมายิ้มอย่างนั้นนะ! จะขึ้นก็ขึ้น’
ใจจริงเขาไม่อยากให้มาร์คเข้ามาใกล้พื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป แต่มันก็คงจะดีกว่าการเข้าไปในถิ่นของคนเจ้าเล่ห์ล่ะนะ ยอมรับเลยว่ากลัวใจตัวเองจะไม่แข็งพอ ที่เคยตั้งใจไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะก็ล่มไม่เป็นท่า เรื่องที่อีกฝ่ายขอคบยังไงก็ต้องไม่ยอบรับง่ายๆเด็ดขาด สุดท้ายก็ยอมให้ครึ่งหนึ่ง คือยอมให้จีบ.... และนั่นคือการคิดผิดสุดๆ เพราะหลังจากนั้นไม่ว่าจะทำอะไรมาร์คก็จะเอาเรื่องนี้มาอ้างตลอดเลย T-T
“พี่กลับมารึยังนะ?... คุณ... เอ่อ.... พี่มาร์ค....เอาของวางบนโต๊ะก่อนก็ได้ เดี๋ยวแบมมาจัด” วางของก่อนจะรีบวิ่งไปดูที่ห้องของจินยอง เมื่อกี้เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ เผลอหลุดเรียกคุณมานิดเดี๋ยวไม่เห็นต้องขู่ด้วยสายตาอย่างนั้นเลย นึกว่ากลัวรึไง! ชิ!
ก๊อก ก๊อก
“พี่...อ่า...ไม่ได้ล็อคประตูนี่นา” แบมแบมหมุนลูกบิดก็รู้ว่าไม่ได้ล็อค จินยองกลับมาแล้วหรอ ร่างเล็กเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะพบว่าไม่มีใครอยู่ เดินลากเท้าไปชะโงกตรงฉากที่ใช้บังสำหรับแต่งตัวก็ไม่มีใคร
ตึก!
“งื้อ!” เสียงอะไรน่ะ!
ตึกๆ!
“งื้ออออ พี่มาร์คคคค” ร่างบางหลับตาปี๋รีบวิ่งไปที่ประตู ร้องเรียบมาร์คด้วยเสียงที่เหมือนกระซิบกับตะโกนผสมกัน จังหวะเดียวกับที่มาร์คเดินตามมาจึงรับร่างเล็กเข้าอ้อมกอดได้อย่างพอดิบพอดี ก่อนที่แบมแบมๆจะวิ่งไปชนหรือเตะอะไรเข้า
“เป็นอะไร มีอะไร” แขนแข็งแรงโอบกอดไปที่เอวบางก่อนจะใช้มือลูบหลังปลอบ เหมือนเจ้าตัวเล็กจะตกใจกลัวอะไรมาสักอย่าง แต่รู้สึกผิดอยู่นิดๆที่ตัวเองดันชอบช่วงเวลาที่แบมแบมเป็นอย่างนี้นิดหน่อย
“เสียง...มีเสียงอะไรไม่รู้ในห้องพี่จินยองอ่ะ...ฮื้อ...ผีรึเปล่า” คนกลัวผีซุกหน้าลงกับอกกว้าง พูดอู้อี้ฟังไม่ค่อยถนัดแถมยังกอดเอวเขาแน่นอีก โอย...จะน่ารักเกินไปละนะ... ร่างโปร่งตบหลังน้องเบาเบาก่อนจะจุมพิตกลางกลุ่มผมนุ่มปลอบประโลมไปก็ขำไป
“อยู่ที่นี่มานานเพิ่งมากลัวหรอ หึหึ”
“ก็มันไม่เคยมีเสียงแบบนี้นี่!” อย่ามาหัวเราะแบมนะ! ปากอิ่มยื่นอย่างขัดใจ ขมวดคิ้วแล้วฟาดแรงๆที่อกคนพี่ แต่พอมาร์คจะคลายมือก็ไม่ยอมให้ปล่อย กอดแน่นเข้าไปอีก...
“เอ้า! ไม่ปล่อยแล้วพี่จะไปดูให้เรายังไง”
“ไปด้วยกันสิ” ร่างเล็กดันไหล่ให้มาร์คกลับหลังหันแล้วตัวเองเปลี่ยนมากอดเอวอยู่ข้างหลังแทน ค่อยๆเดินตามมาร์คแบบก้าวต่อก้าวเข้าไปในห้องของจินยอง
มาร์คคิดเอาไว้ว่าคงจะต้องเป็นตัวอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นหนู หรือไม่ก็สัตว์ตัวเล็กๆอย่างอื่น แต่ไม่น่าจะใช่ขโมยเพราะระบบการรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯอยู่ในระดับดีมากอยู่แล้ว แต่คงจะต้องปลอดภัยไว้ก่อน ร่างโปร่งจึงหยิบไม้เบสบอลที่แขวนไว้หน้าประตูติดมือมาด้วย กำลังจะก้าวเดินไปตรงประตูห้องน้ำที่แบมบอกว่าได้ยินเสียงจากในนั้น แต่อยู่ๆก็ถูกดันจากข้างหลังให้ไปยืนอยู่ตรงหน้าม่านสีขาวที่อยู่ถัดจากประตูไปแทน
“มายืนทำอะไรตรงนี้อ่ะ ได้ยินเสียงจากในห้องน้ำไม่ใช่หรอ”
“อื้อ... แต่ไม่เปิดเข้าไปสิ แบมกลัว”
“แล้วจะรู้ได้ยังไงอ่าว่าเสียงอะไร” ณ จุดนี้ มาร์คถึงกับงง
“เดี๋ยวดูผ่านกระจกเอา” มาร์คทำหน้าสงสัยก่อนจะถามว่ากระจกวิเศษหรอจนโดนน้องฟาดเข้าให้อีกที ก่อนแบมแบมจะอธิบายว่า หลังม่านสีขาวนี้เป็นกระจกแบบสองด้าน เหมือนที่เขาใช้ในห้องสอบสวนอะไรแบบนั้นเลย คือด้านหนึ่งจะเห็นเป็นกระจกเงา ในขณะที่อีกด้านจะเป็นกระจกใส มันเป็นความเข้าใจผิดของจินยองที่ซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตแล้วไม่อ่านให้ละเอียดก่อน เห็นว่ามันบานใหญ่กว่าแบบอื่น ไม่เกี่ยงราคาเสียด้วย ปรากฏว่าพอของส่งมาที่บ้าน ดันกลายเป็นกระจกแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรก็คิดว่าใช้ได้เหมือนกัน ทีแรกจินยองจะเอาติดไว้ที่ห้องน้ำข้างนอกด้วยซ้ำแต่แบมแบมไม่ยอม นั่งยันยืนยันไม่ยอม สุดท้านจินยองก็ได้แต่หัวเราะแล้วเอามาติดในห้องนอนตัวเอง
ระหว่างที่แบมแบมเล่านั้นก็มีเสียงกึกๆอีกสองสามครั้ง จนทำให้ร่างเล็กหลบไปอยู่ข้างหลังมาร์ค ริมฝีปากวางอยู่ที่ด้านหลังของไหล่ โผล่มาแค่ตา ดึงชายเสื้อยิกๆให้มาร์คเปิดม่าน คนเป็นพี่ส่ายหัวน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดม่านก่อนจะตะลึงพรึงเพริดกันไปทั้งสองคน!
ในห้องนั่งเล่นทั้งมาร์คและแบมแบมนั่งข้างๆกัน ไร้เสียงพูดคุย ทั้งคู่ไม่ได้จะแข่งกันเงียบแต่เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ไม่รู้จะพูดอะไรกันดี แต่ไม่ใช่ว่าจะอยู่ดูหลังสดที่แสดงโดยเพื่อนรักกับพี่ชายจนจบหรอกนะ แบมแบมปิดตามาร์คแล้วลากออกมาตั้งแต่ตอนที่แจบอมยกตัวจินยองขึ้นแล้ว มาร์คไม่ทันได้เห็นก้นอันอวบอิ่มของพี่ชายเขาแน่นอน
“อ๊ะ....” มือเล็กวางแก้วน้ำที่เพิ่งยกขึ้นดื่ม มือไม้ดูเกะกะ เล่นมือตัวเองสักพักพอคลายออกก็เผลอไปโดนเข้าที่หน้าขาของมาร์ค แบมแบมรีบชักมือกลับก่อนจะขยับไปชิดโซฟาอีกข้างอย่างอึดอัด
“นี่ จะขยับไปนั่งไกลทำไมล่ะ”
“ก็นั่งจะได้นั่งสบายๆไง เอ๊ะ!!” ในเมื่อถามดีๆแล้วไม่ยอมขยับกลับมา มาร์คก็ขยับตามมาจนชิดชนิดที่ว่าไร้ช่องให้อากาศผ่าน แบมแบมขึ้นเสียงไม่พอใจก่อนจะถูกเชยคางไปรับจุมพิตที่ข้างแก้ม แบมแบมส่งสายตายหวาดหวั่นกลับไปมอง แต่มาร์คทำแค่นั้นเขาจึงไม่ได้โวยวายต่อ แต่วางใจได้ไม่ถึงนาทีร่างโปร่งก็จูบเบาเบาอีกทีที่ใบหูและไล่ลามลงมาถึงต้นคอ ร่างเล็กขนลุกกราวไปทั้งร่างอย่างเสียวซ่าน ก่อนจะครางร้องห้ามออกมาแผ่วเบาเมื่อมาร์คจูบอย่างดูดดื่มที่หลังคอ
“อื้อ...ไม่เอานะ”
“ไม่เอาจริงๆหรอ...” กระซิบที่ข้างหูก่อนจะแลบลิ้นมาชิมจนแบมแบมต้องหดคอหนี
“ไม่เอาสิ แค่จีบกันอยู่มาทำอย่างนี้ได้ไง”
“นี่ล่ะวิธีจีบของพี่” คราวนี้กระซิบตอบที่ปากพร้อมจ้องเข้าไปตัวดวงตาที่แสนจะหวั่นไหวและสับสน แบมแบมหลบตาลง กระซิบกลับ
“งั้นแบมจะไปจีบคนอื่นอย่างนี้บ้าง”
“กล้าหรอ?” มาร์คเท้าแขนกับผนักโซฟาขังแบมแบมเอาไว้ กัดริมฝีปากล่างของน้องให้รู้ว่าไม่พอใจจนแบมแบมรู้สึกชาไปนิดหน่อย ร่างบางเงยหน้าขึ้นสบตาเป็นคำตอบ
“อื้อม... ไม่อะ...เอา” ร้องห้ามอีกครั้งเมื่อมือซุกซนนั้นละออกจากโซฟามาสัมผัสเรือนร่างของเขาแทน
“ไม่เอา? ตรงนี้เป็นขนาดนี้แล้วนา..” มือใหญ่ขยำไปที่กลางลำตัวของแบมแบม จนร่างเล็กบิดกายเร่าๆขยับเข้าหามือของมาร์คอย่างไม่รู้ตัว
“ฮื้อ....พี่มาร์ค.. ไม่เอาตรงนี้”
Talk
สวัสดีค่า ขอโทษที่หายไปนานนะคะ T-T ตอนนี้เนื้อหายังไม่ไปถึงไหนเลย แต่อย่างน้อยน้องแบมก็ยอมให้พี่มาร์คจีบแล้วล่ะ XD
พี่มาร์คหื่นจังเลยค่ะ และนางต้องซาดิสท์นิดๆแน่ๆเลย นางชอบเห็นเวลาน้องกลัวหรือร้องไห้ นางชอบใจกับอาการทุกข์ใจของน้องทุกรูปแบบ ฮ่า
คัทกันในแท็คนะคะ **ยิ้มอ่อน**
#ฟิคสะตั้นดึ
สายลมหมายเลข0986
twitter : @__0986
ความคิดเห็น