ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 :: Fiction :: Stunned :: #MarkBam #BNior

    ลำดับตอนที่ #9 : Stunned :: 09

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 59


    chapter 9


    ร่างเล็กค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงกับโซฟานิ่ม กว่าพี่มาร์คจะยอมกลับ ก็ทำเอาแบมนอนแบ็บกับเตียงไปอีกรอบ นี่ไม่รู้ว่าถ้าพรุ่งนี้อีกฝ่ายไม่ต้องไปควิซตั้งแต่เช้า แต่ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลยสักตัว คืนนี้แบมจะได้ลงจากเตียงรึเปล่า หลับไปอีกเพราะเพลีย ลุกจากเตียงได้จริงๆก็ปาเข้าไปจะเที่ยงคืนแล้ว 


    เพราะพี่มาร์คคนเดียวเลย! 


    ร่างบางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเย็น หลังจากที่ทั้งคู่แยกลงสถานีอื่น ไม่ได้ตามแจบอมไปส่งหญิงสาวด้วยอีกคน 


    "อย่าเพิ่งคิดไปเองสิ แจบอมมันยังไม่ได้ทำอะไรเลย" 


    "ต้องรอให้ทำไปแล้วหรอไง! พี่ก็เข้าข้างกันอีกนั่นแหละ" แบมแบมทำท่าหงุดหงิดอย่างไม่จริงจัง เดินไปหยิบน้ำเย็นๆมาเทใส่แล้วสองใบ หลังเบียดตัวกับพี่มาร์คในรถไฟตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงบ้าน ซึ่งจินยองก็ไม่อยู่เช่นเคย


    "เพื่อนพี่ พี่ก็ต้องเข้าข้างดิ แต่มันไม่ใช่ เรารู้จักแจบอมมาก็นาน ไม่รู้อีกหรอว่ามันเป็นคนยังไง" มาร์ครีบพูดต่อให้จบใจความ ไม่ยอมให้คนตัวเล็กขัดจังหวะ 


    "แบมรู้ แบมไม่ได้โกรธเรื่องนั้น" มันจะกลายเป็นบทละครน้ำเน่าเกินไปละ ซึ่งแบมแบมจะไม่ทน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เน้นน้ำเน่าเท่าไหร่ ตั้งใจให้เป็น Comedy ต่างหาก!


    "แล้ว?"


    "แบมโมโหความเป็นสุภาพบุรุษสุดเนิร์ดของพี่แจบอมต่างหากเล่า" 


    "อ่อ... งั้นพี่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้นะ แจบอมมันคงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว" มาร์คเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาร่างเล็กมองมาอย่างไม่ค่อยพอใจคำตอบนัก แบมแบมถอนใจเบาๆ ก่อนจะตอบออกมา


    "ก็รู้ไง แบมถึงต้องจัดการเอง" ร่างเล็กวางแก้วตัวเองลงบนโต๊ะหน้าโซฟา แล้วยื่นแก้วอีกใบให้มาร์คก่อนจะหยิบขนมเข้าปากก่อนจะกระแทกก้นนิ่มลงบนตักของอีกฝ่าย


    "จะทำอะไรอีกห๊ะ ตัวยุ่ง" มาร์คเกือบทำน้ำในแก้วหกเมื่อโดนจู่โจม(?)อย่างไม่รู้ตัว แต่ก็สอดแขนข้างนึงเข้ากอดเอวบางอย่างรู้จังหวะ จูบตามเส้นกระดูกสันหลังของแบมแบมผ่านเนื้อผ้าเบาๆแล้ววางแก้วลงที่โต๊ะบ้าง ก่อนจะขยับให้ร่างเล็กลงนั่งที่เบาะโซฟาข้างๆกัน แล้วจับขาเรียวทั้งสองข้างมาบางพาดที่ตักแทน แต่แขนข้างเดิมก็ไม่ได้ละออกจากเอวบาง


    "ยังไม่รู้ เดี๋ยวคิดก่อน" แต่ที่แน่ๆ เขาอยู่เฉยไปกว่านี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว


    "แทนที่จะกังวลเรื่องแจบอม คิดเรื่องพี่ชายเราดีกว่ามั้ย เล่นกับไฟแล้วนั้นมันอันตรายนะ ยิ่งถ่านไฟเก่าด้วย" มาร์คหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ถึงจะรู้จากแบมแล้วแต่เขาก็ยังไม่ไว้ใจ เขาไม่เข้าใจ และมองไม่เห็นเหตุผลที่ดีที่จินยองต้องทำแบบนั้นเลย


    "พี่คิดว่าแบมไม่ทำอะไรหรอไง แต่..."


    "แต่ไม่ได้ผล เลยมาลงกับเพื่อนพี่แทน"


    "แบมไม่ได้หาเรื่องมาลงกับพี่แจบอมนะ! แล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรเรื่องถ่านไฟเก่านั่นด้วย พี่แบมไม่คิดอะไรกับพี่ชยอนูแน่ๆ แต่พี่แจบอมเนี่ย จะโดนทำให้หวั่นไหวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้"


    "แล้วมั่นใจได้ยังไงว่าจินยองจะไม่หวั่นไหว" มาร์คลูบแขนตัวเองป้อยๆเพราะโดนฟาดจากประโยคเมื่อกี


    "มั่นใจสิ ก็พี่ชยอนู...ก็... พี่ชยอนู เอ่อ นิสัยไม่ดีกับพี่ พี่ไม่มีทางหวั่นไหวแน่"


    "นี่ยังมีเรื่องอะไรที่ไม่เล่าให้พี่ฟังรึเปล่า" มาร์คหรี่ตาลงอย่างจับผิด... เอาล่ะ ตาเขาบ้างแล้ว เดี๋ยวจะฟัดให้ช้ำเลย


    "ไม่มี!" เสียงสูงได้อีก...


    "ถ้าไม่บอก พี่จะบอกเรื่องนี้กับแจบอม" 


    "เฮ้ย! ได้ไง พี่สัญญาแล้วนะ"


    "แบมก็เล่าไม่หมดเหมือนกัน"


    "เล่าหมดแล้วจริงๆ แต่ถ้าให้ลึกกว่านั้นมันจะเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว แบมเล่าไม่ได้จริงๆ แบมรู้ว่าไม่ควรปิดเรื่องนี้กับพี่แจบอม แต่ถ้าให้พี่จินยองเล่าเองมันคงดีกว่า พี่มาร์คไม่คิดเหมือนแบมหรอ" ชักจูงเก่งจริงๆให้ตายสิเด็กคนนี้ แต่ก็ยังจะฟัดอยู่ หมายมั่นอยู่ในใจ


    "เอาล่ะๆ เข้าใจแล้ว ไม่บอกหรอก แต่พี่ยังยืนยันคำเดิมว่าเรื่องของแจบอมเราไม่ต้องทำอะไรหรอก แจบอมน่ะมันไว้ใจได้" จากประวัติและการกระทำ เขาก็ยังเชื่อว่าฝ่ายที่รักมากกว่า คือเพื่อนเขาอยู่ดี


    "รู้แล้วล่ะน่า บ่นแต่คนแก่ไปได้" แบมแบมแอบไขว้นิ้วในใจ(?) เรื่องอะไรจะปล่อยเอาไว้เฉยๆ เรื่องพี่แจบอมน่ะ ความยากน้อยกว่าโน้มน้าวใจพี่จินยองหลายเลเวล เวลาเราจะเคลียร์ด่านในเกม เรายังเลือกเคลีย์ด่านที่ตีบอสง่ายกว่าเลย 


    ในเมื่อเรื่องของพี่ แบมยังเลเวลไม่ถึง แบมก็ต้องเลือกตีด่านพี่แจบอมก่อน จะได้มีกำลังเสริม


    "ว่าใครแก่" เอาล่ะ ได้ฟัดแน่!


    "พี่มาร์คไง อ๊ะ ไม่ๆ ต้องเป็นอังเคิลมาร์ค" 


    "หึ ไหน เด็กน้อยมาใกล้ๆสิ ขาเนียนๆอย่างนี้ลุงชอบ" มือเรียวลูบไล้จากขอบกางเกงยีนส์ขาสิ้นที่ขาดวิ่นตามแฟชั่นอย่างสนุกมือ ล้วงเข้าไปที่โคนขาก่อนจะขยำมือที่แก้มก้นนิ่มๆนั้น


    "อึ๋ย! ลุงลามกกก อย่าเข้ามานะ อ๊าาา ฮ่าๆๆ อ๊ะ อย่าน้า..."
     



    แกร่ก

    !!!!



    แบมแบมหลุดจากภวังค์หันไปมองที่ประตู เห็นว่าจินยองหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาก็รีบลุกไปช่วย ไม่ทันได้รู้ตัวว่าตัวเองทำหน้าตาแบบไหน 


    "กลับมาแล้วหรอ วันนี้ไม่เกินเที่ยงคืนแหะ" จินยองกรอกตา เพราะรู้ว่าแบมแขวะเรื่องที่เขาออกไปกับชยอนูมาอีกแล้ว ร่างบางถอดรองเท้าเก็บเข้าที่ พอหิ้วของตามไปวางที่โต๊ะ ที่สว่างกว่าตรงหน้าประตูก็ทำให้เห็นว่าน้องชายหน้าแดงหูแดงไปหมด


    "แบมแบม.. ทำไมหน้าแดงงี้อ่ะ ไม่สบายหรอ" จินยองรีบวางของ แล้วใช้หน้าผากตัวเองแนบกับของน้องเพื่อวัดไข้ แต่ก็ปกติ ตัวก็ไม่ได้ร้อน แบมแบมเองก็ยกมือขึ้นมาแนบแก้มตัวเองก่อนจะเสมองไปทางอื่น ทำไมดันคิดเรื่องบ้าบอจนหน้าแดงแบบนี้ล่ะเนี่ย


    "เปล่า แบมไม่ได้เป็นอะไร แล้วนี่พี่ซื้ออะไรมา หูว! ยาทั้งนั้นเลย หรือว่าพี่สบาย!" แบมแบมกระเด้งตัวไปทาบมือที่ลำคอของจินยองเพื่อวัดไข้พี่บ้าง 


    "ไม่ได้เป็นไรหรอก" จินยองเดินมานั่งตรงมุมโปรดที่โซฟาตัวใหญ่ พิงพนักแล้วหลับตาลงไม่ได้เล่าเรื่องขยายความว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ 


    "มีอะไรหรอ" ร่างเล็กเดินตามมานั่งข้างๆ ก่อนจะขยับเข้าใกล้ ชันเข่าขึ้นมาให้พิงพี่ชายไปทั้งตัว จนจินยองขำหัวเราะออกมาน้อยๆกับท่าทางออดอ้อนนั้น


    "เปล่า..." 


    "นี่... แบมพูดจริงๆนะ พูดอีกที แล้วก็จะพูดอีกหลายๆทีด้วยจนกว่าพี่จะฟัง ไม่มีความสุขก็อย่าไปทำสิ คนที่เป็นความสุขของพี่ แล้วก็รอให้พี่เป็นความสุขของเขา เขารออยู่นะ" แบมแบมทำหน้างอ น้ำเสียงใส่อารมณ์มากๆเวลาคุยเรื่องนี้ 


    "จริงหรอ... เขาอาจจะมีคนอื่นเป็นความสุขแทนพี่แล้วก็ได้นะ"


    "พี่จินยอง.. ทำไมพูดอย่างนั้นอ่ะ" แบมแบมจ้องพี่ชายตัวเองอย่างเอาเป็นตัวตาย ต้องคาดคั้นความคิดประหลาดๆของจินยองออกมาให้ได้เลย


    "ก็....เฮ้อ.... นี่อ่ะ" จินยองเงียบอยู่ครู่เดียวก็ถอนใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือยื่นให้แบมแบม  ร่างเล็กรับมาดู ที่โชว์อยู่ในหน้าจอคือคลิปที่รอให้กดเพล์เพื่อเปิดดูอยู่ มือเล็กชะงักไปนิดนึง แบมแบมเป็นคนหลอนคลิปที่ส่งๆกันมาในแชทแบบนี้มาก เพราะเคยเจอเป็นหน้าผีบ้าง เป็นคลิปอุบัติเหตุน่ากลัวๆบ้าง แต่เวลาแบบนี้พี่คงไม่แกล้งเขาหรอก ว่าแล้วก็กลั้นใจกดเพล์ดู


    "เอ๊ะ..." ในคลิปคือกลุ่มคนเยอะๆที่ยืนเบียดกันอยู่ ดูไปสักพักแบมก็รู้ว่าในคลิปนี้คือในรถไฟ จากนั้นเมื่อภาพเริ่มซูมเข้าไปที่มุมหนึ่ง เขาก็เพิ่งสังเกตว่าคนที่อยู่ในคลิปนี้คือ.. "พี่แจบอม?"


    "อือ.. ดูต่อสิ" 


    "............" แบมแบมก้มมองตามที่พี่บอก ยิ่งดูเรื่อยๆก็ยิ่งคุ้น เอ๊ะ ผู้หญิงคนนั้น นี่มันเมื่อกี้นี้นี่! ร่างเล็กยังคงเงียบและดูต่อไป คลิปมันอาจจะจบก่อนที่เขาเห็นมาก็ได้ ไม่อยากโวยวายก่อนเดี๋ยวพี่จะจับพิรุธได้ 


    แบมแบมเรียนรู้มาแล้วว่าไม่ควรกระโตกกระตาก ...ถึงพี่จินยองจะไม่จับแบมปล้ำเหมือนพี่มาร์คก็เถอะ


    แต่ไอ่คลิปนี่มันก็ไม่เป็นใจให้เขาเลย ฉากที่เขาเห็นบนรถไฟเหมือนรีเพล์ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อแจบอมก้มหน้าลงไปใกล้ผู้หญิงคนนั้น ร่างเล็กปิดคลิปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่่ชาย


    "จริงๆมีรูปส่งมาก่อนนะ พอพี่ไม่เปิดอ่านก็ส่งคลิปมาอีก"


    "ใครส่ง?"


    "ไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นเมล์แบบ No-reply" 


    "รู้แค่ว่าคนส่งมามันไม่หวังดีก็พอ"


    "รีบสรุปไปรึเปล่าแบม" ร่างเล็กทำตาโตมองหน้าพี่ "พี่จะให้แบมตั้งสมมติฐาน พิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ก่อนงี้หรอ โอ๊ย ตีทำไมเล่า"


    "จริงจังหน่อยสิ" จินยองตีน้องแต่ก็ลูบป้อยๆตามให้เพราะฟังจากเสียงก็คิดว่าน่าจะหนักมือเกินไปเหมือนกัน 


    "นี่ก็จริงจังอยู่ ถ้าหวังดีแล้วต้องลึกลับอย่างนี้เลยหรอ ถ้าพี่แจบอมทำไม่ดีจริง จะเตือนก็บอกกันตรงๆก็ได้ ทำอย่างนี้มันน่าสงสัย และเอาจริงๆนะ วันนั้นพี่แจบอมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย"


    "เรารู้ได้ไง?"


    "ก็แบมก็อยู่ตรงนั้น อยู่ในขบวนนั้นเลย แล้วแบมก็เห็นกะตา ว่ามันไม่ได้มีอะไร" ร่างเล็กโม้เกินจริงไปนิดนึง แต่เพื่อความสบายใจของจินยอง แบมแบมก็ยินดีที่จะรับสมอ้างความเห็นกับตา เพื่อให้พี่รู้สึกดีขึ้น


    "หรอ...."


    "อะไร ไม่เชื่อแบมงี้?"


    "ยังไม่ได้พูดยังงั้นเลยยย" 


    "พี่แจบอมจะไปมองใคร๊ หายใจเข้าหายใจออกก็เฮ้อจินยองอยู่คนเดียว"


    "บ้า" จินยองว่าพลางหันมองไปทางอื่นเพราะกลั้นยิ้มไม่อยู่ มือเรียวกำเป็นกำปั้นยกขึ้นดันแขนน้อง จนอีกฝ่ายเอียงคว่ำไปกับโซฟา
     

    "หูยยย เขินด้วยอ่ะ" 


    "ไอ่เด็กบ๊อง กล้าแซวพี่หรอ มานี่เลย" จินยองหัวเราะออกมาโล่งใจ ก่อนจะถูกสายตารู้ทันของแบมทำเอายิ้มเก้อไป


    "ไม่ต้องมาหลบตา เชื่อแบมเหอะพี่ อะไรมันผ่านไปแล้วก็ช่างมัน มีความสุขอยู่กับปัจจุบันก็พอ พี่ชยอนูจะยังไงก็ช่างเขา พี่ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย อย่าให้เขามีอิทธิพลกับชีวิตพี่จินยองอีกเลยนะ ถึงมันจะไม่เหมือนกันก็เถอะ"


    "......................"


    "พี่จินยอง"


    "อืม... นั่นสินะ" เขาก็เฝ้าถามตัวเองเหมือนกัน ว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันได้อะไรกลับคืนมา ต่อให้แผนที่วางไว้มันสำเร็จ แต่สิ่งที่ได้คือแค่ความสะใจ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ปรารถนามันขนาดนั้น 


    เริ่มต้นทั้งหมดนี้เพียงเพราะโกรธ เพราะตัวเองเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ยังคงทุกข์ใจ มีแค่ตัวเองที่ยังต้องมานั่งกล้่ำกลืนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้เขาจะแสดงออกว่าโอเค เปลี่ยนคู่นอนไปวันๆเหมือนไม่แคร์ แต่จริงๆแล้วมันไม่เคยหายไป ความเจ็บช้ำมันยังซ้อนอยู่ภายใต้หน้ากากที่เขาสร้างปกปิดเอาไว้


    "พี่...." ร่างเล็กเห็นพี่ชายเงียบไป และยังทำสีหน้าเหมือนคืนวันนั้นก็ใจหาย แบมแบมรีบกอดพี่เอาไว้ กลัวว่าจินยองจะกลับไปคิดมากอีก


    "อืมม พี่ไม่ได้เป็นอะไร" คนเป็นพี่กอดตอบ โยกตัวน้องไปมา ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่


    แบมแบมใจชื้นขึ้นเยอะ จากท่าทีของจินยอง ถึงแม้เจ้าตัวจะยอมรับออกมาตรงๆก็เถอะ เหมือนว่าบอสฝั่งพี่จินยองไม่ได้ตียากอย่างที่คิด แบมต้องรีบจัดการฝั่งพี่แจบอมให้เรียบร้อย จะได้รีบเคลียร์เรื่องนี้ให้จบแบบแฮปปี้กันสักที!



    ...................................................




    เย็นวันเรียนธรรมดาๆวันหนึ่งของวันต่อมา มันควรจะเป็นแค่เย็นของวันธรรมดาสำหรับคณะที่มีแต่เด็กเนิร์ด แต่แทนที่ทุกคนจะรีบกลับบ้านทันทีหลังที่คาบสุดท้ายเลิกเหมือนทุกวัน โถงคณะกลับเต็มไปด้วยเหล่าเด็กเนิร์ดที่ไม่ยอมกลับบ้าน แต่กลับนั่งบ้างยืนบ้างล้อมโต๊ะๆหนึ่งอย่างผิดสังเกต 


    ถ้าแหวกเข้าไปกลางวงล้อมจะเห็นคนน่ารักกำลังนั่งยิ้มร่าเริงอยู่ นี่เขามานั่งรอพี่แจบอมเกือบชั่วโมงแล้วยังไม่มีวีแววจะมา จะถามพี่หรือพี่มาร์คเกี่ยวกับตารางเรียนของพี่แจบอมก็ไม่ได้  เพราะถ้าถามต้องโดนจับได้แน่นอน ก็เลยนั่งคุยพี่ๆที่นี่ไปเพลินๆ แต่ได้รู้อะไรกว่าที่คิดเยอะเลย 


    ตอนที่กำลังฟังพี่ปีสามคนนึงเล่าเรื่องตลกที่ฟังมาจากอาจารย์ในภาค เขาก็ได้ยินเสียงส้นรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องหินขัดของบันไดด้านหลัง ทีแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่ได้ยินเสียงผู้ชายพูดเตือนให้ลงบันไดอย่างระวังเท่านั้นแหละ!


    พี่แจบอม!


    สิ่งที่ร่างเล็กหันไปเจอก็คือพี่เขยของเขากำลังเดินลงบันไดโดยจับมือแม่ผู้หญิงคนเดิมคนเดียวในดวงใจของแบมแบม เพื่อไม่ให้แม่นั่นล้มหัวคะมำตกบันไดลงมาเสียก่อน เพราะท่าทางของหล่อนบอกชัดเจนว่าไม่ชินกับการใส่ส้นสูง ร่างเล็กกรอกตา เหอะ! มารยา!


    ไม่เจอวันสองวันบอสด่านนี้อัพเวลเร็วเกินไปละ แบมแบมต้องรีบแล้ว!


    "พี่แจบอม!" ร่างเล็กกระเด็งตัวลุกขึ้นจนคนที่นั่งรอบๆตกใจและหันไปมองตาม บางคนทำหน้าเสียดายเพราะรู้ว่าเดี๋ยวน้องแบมแบมคนน่ารักต้องกลับแล้ว บางคนก็ผิวปากให้กับทั้งคู่ที่มาใหม่


    มันช่วยไม่ได้เลยที่คนอื่นๆจะคิดไปว่าสองคนนี้คบกัน ก็ในเมื่อตัวติดกันเป็นตังเมแบบนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว จนเพื่อนส่วนใหญ่เข้าใจไปว่าแจบอมเลิกกับแฟนแล้ว และตอนนี้ก็คบกับซอนอา 


    ร่างเล็กรีบก้าวเข้าไปประชิดตัวแจบอม แล้วสอดแขนเข้าอีกข้างนึง แล้วดึงเข้าหาตัวเองจนแจบอมต้องละมือออกจากข้อศอกของซอนอา หญิงสาวหน้าตึงไปเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใคร แต่ก็พยายามเก็บอาการ ยิ้มให้แบมแบมแต่กลับโดนคนน่ารักเชิ่ดใส่อย่างเนียนๆ


    "แบมแบม! มาทำอะไรที่นี่ครับ" ดวงตาภายใต้กรอบแว่นโค้งยิ้มตามมุมปาก ฉายแววแปลกใจที่เห็นน้องที่นี่ ช่วงนี้ที่ยุ่งๆ เขาได้เจอแบมแบมบ้างเวลาน้องแวะไปที่ห้อง เวลาเจอกันร่างเล็กก็จะเล่าถึงพี่ชายตัวเองให้เขาฟัง พอให้หายคิดถึงในช่วงที่ไม่ได้เจอกันได้บ้าง


    "มาหาพี่แจบอมฮะ แบมมานั่งรอตั้งนานแล้ว"


    "อ้าว แล้วไม่โทรหาพี่ล่ะครับ"


    "แบมกลัวพี่แจบอมยุ่งอยู่ฮะ แต่พี่ๆเขาบอกว่าเดี๋ยวพี่ก็มา แบมเลยนั่งเล่นรอ" แขนเล็กสอดเข้ากอดแขนร่างสูงเอาไว้ พูดไปยิ้มไปก่อนจะยิ้มเผื่อแผ่มาถึงซอนอาด้วย แต่เป็นรอยยิ้มที่ออกไปทางเย้ยหยันซะมากกว่า


    ซอนอาพยายามข่มใจตัวเองไม่ให้แสดงอาการไม่พอใจออกมาทางสีหน้า หล่อนรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ยังไม่แน่ใจกับเจตนาเท่าไหร่


    "มีอะไรรึเปล่าถึงมาหาพี่ มาร์คมันทำอะไรให้งอนรึเปล่า" โห พี่แจบอม นี่อย่างกะเตี๊ยมกันเลยอ่ะ พี่รู้ได้ไงว่าแบมจะใช้มุขนี้


    "ฮะ... แบมอยากปรึกษาเรื่องพี่มาร์คหน่อย พี่แจบอมกลับกับแบมเลยได้มั้ยฮะ" แบมแบมวางกลุ่มผมของตัวเองไปกับไหล่กว้าง สายตายังคงจ้องไปที่ตำแหน่งเดิม ร่างเล็กเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วก็ยิ้่งชอบใจ แต่ต้องมาโดนขัดใจเพราะประโยคต่อมาของแจบอม


    "พี่ต้องไปส่งเพื่อนก่อนครับ อ่อ นี่ซอนอานะ ส่วนนี่แบมแบมครับ รอพี่ได้มั้ย หรือจะกลับไปรอที่บ้านก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ไปหา" หันไปมองยัยเจ้คนนั้นที่กำลังยิ้มอยู่ก็โมโห แต่พอหันกลับมาเจอหน้ายิ้มของร่างสูงก็ไม่รู้จะทำใจโกรธได้ยังไง โธ่.. พี่เขยเป็นสุภาพบุรุษอะไรขนาดนี้ 


    "ทำไมต้องไปส่งล่ะฮะ พี่เขากลับเองไม่ได้หรอ" แต่พอดี... แบมแบมไม่ได้มาเล่นๆ


    "อ๋อ ทางกลับบ้านซอนอาค่อนข้างเปลี่ยวน่ะ " แจบอมตบหัวน้องเบาเบาอย่างเอ็นดู ก่อนจะเอียงคอเพื่อให้มองหน้าร่างเล็กที่ซบไหล่เขาอยู่ อธิบายเหมือนพูดกับเด็กเล็กๆ


    "หรอฮะ บ้านพี่ซอนอาอยู่แถวไหนหรอฮะ" 


    "ก็...แถวๆ สถานี XXXX น่ะจ้ะ" หญิงสาวต้องตอบไปอย่างเสียไม่ได้ เพราะจู่ๆแบมแบมก็ทำท่าทางน่ารักหันมาถามเธอ เธอไม่อยากจะคุยกับแบมแบม เพราะไม่รู้ว่าเด็กคนนี้คิดจะทำอะไร เธอไม่ใช่คนที่คุ้นเคยกับการรับมือเรื่องแบบนี้นัก


    "แล้วเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านนี้หรอฮะ" จะมาไม้ไหนกัน...


    "ก็เปล่าจ้ะ พี่อยู่มาตั้งแต่เด็กๆเล็กๆเลย" 


    "อ้าวหรอฮะ แปลกจังเลย อยู่มาตั้งแต่เกิด ทำไมอยู่ๆช่วงนี้กลับบ้านเองไม่ได้ซะล่ะฮะ" ร่างเล็กยิ้มหวานให้อีกหนึ่งที ก่อนจะหันมามองหน้าแจบอมโดยที่ไม่สนใจหล่อนอีกต่อไป


    "เพราะเวลาเลิกประชุมมันดึกแล้วมันค่อนข้างอันตรายน่ะครับ" แจบอมเป็นฝ่ายอธิบายให้เอง เขาคิดว่าสิ่งที่น้องถามคือคำถามธรรมดา เพราะแบมแบมถามด้วยน้ำเสียงปกติ คนซื่ออย่างแจบอมจึงไม่ทันสังเกตว่าที่น้องถามไม่ใช่เพราะอยากรู้จริงๆ


    ....แต่กำลังเหน็บอีกฝ่ายจังๆต่อหน้าต่อตาเลยล่ะ...


    "แต่วันนี้ไม่ดึกนี่ฮะ เพิ่งหกโมงครึ่งเอง หรือว่าไม่ดึกก็ต้องไปส่ง"


    "อ่า..." แจบอมก็พึ่งมาสังเกตตัวเองเหมือนกัน เพราะต้องประชุมอยู่ทุกวัน เลยเหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้วที่เขาจะต้องไปส่งเพื่อนที่บ้านทุกวัน กลับถึงหอก็ถึงจะโทรหาจินยอง ทั้งที่บางวันมันก็ไม่ได้ดึก


    "เมื่อกี้แบมคุยกับเพื่อนพี่แจบอม เห็นว่ามีพี่คนนึงเขาบอกว่าบ้านอยู่สถานีเดียวกับพี่ซอนอาเลยฮะ อย่างนี้พี่ซอนอาก็มีเพื่อนกลับบ้านแล้ว" เพราะระหว่างรอ แบมแบมนั่งคุยกับเพื่อนๆของแจบอมอยู่นาน เรื่องที่คุยเลยเรื่อยเปื่อยไปมา พอร่างเล็กถามเรื่องที่อยากรู้ไปเกี่ยวกับแม่คู่กรณียาหยีของเขา จึงไม่มีใครคิดว่ามันผิดปกติ ก็พร้อมใจกันเล่าให้คนน่ารักฟัง จนแบมแบมได้ข้อมูลมาเยอะพอสมควรเลย 


    "แต่!.... คนอื่นเขาอาจจะต้องรีบกลับก่อนก็ได้" มาถึงตอนนี้หล่อนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ว่าวันนี้น้องชายของแฟนแจบอมมาที่นี่ทำไม ซอนอาพยายามหาเหตุผลมาต่อรอง เธอทำมาขนาดนี้แล้ว ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปง่ายๆเด็ดขาด  


    "แบมถามมาให้แล้วฮะ ช่วงวีคสุดท้ายก่อนงานพี่ๆกลับดึกกันหมด พี่โดอุนเองก็กลับดึกได้" แจบอมมองไปทางโดอุนที่กำลังนั่งหัวเราะ คุยกับเพื่อนคนอื่นอย่างออกรส ไม่ได้ต้องนั่งทำฉากเวทีอย่างทุกวัน พอหันมาเห็นว่าแจบอมมอง และเห็นว่าซอนอาและแบมแบมยืนอยู่ด้วย ก็พยักหน้าให้ เชิงว่าเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว


    "แต่พี่ไม่ได้สนิท..."


    "โอ๊ะ กับพี่แจบอมถือว่าสนิทมากกว่าเพื่อนที่เรียนประถมมาด้วยกันอย่างพี่โดอุนหรอฮะเนี่ย" แบมแบมยิ้มตาใสตอบกลับอาการไม่พอใจของหญิงสาว ซอนอาขมวดคิ้วกลับมาอย่างไม่ปิดบังอีก หล่อนประมาทเด็กนี่เกินไป 


    ที่จริงมันไม่ได้เป็นความลับที่ต้องปกปิดอะไร แต่อย่างน้อยแจบอมก็ไม่ควรรู้เรื่องนี้ เพราะมันจะทำให้ความจำเป็นที่แจบอมจะต้องไปส่งเธอที่บ้านถูกลดลงไป 


    และทำให้โอกาสที่เธอจะทำให้เขาเปลี่ยนใจน้อยลงไปอีก


    "พี่แจบอม ถ้าไม่ต้องไปส่งพี่ซอนอาแล้วเรารีบไปกันเถอะฮะ นอกจากเรื่องพี่มาร์ค แบมมีเรื่องพี่จินยองจะคุยกับพี่ด้วย"


    ชื่อจินยองทำเอาแจบอมลืมสนใจทุกอย่าง แม้จะลังเลเรื่องเพื่อนอยู่แต่เป็นใครก็ดูออกว่าใจแจบอมเทไปทางไหน นั่นยิ่งทำให้แบมแบมชอบใจที่สุด พี่เขยเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจากวันแรกที่รู้จักกัน ยังเป็นพี่แจบอมที่ให้ความสำคุญกับพี่จินยองเป็นอันดับแรกเสมอ


    "แจบอมกลับกับน้องเถอะ แบมแบมคงมีเรื่องสำคัญจริงๆ เดี๋ยวเรากลับเองได้" จนในที่สุดหล่อนก็ต้องยอมรามือไว้แค่นี้ ดื้อดึงไปก็รังแต่จะทำให้ภาพพจน์ที่สร้างมาเสียหมด 


    "โอเคครับ ไว้เจอกันนะ" 


    "บ้ายบายฮะ พี่ซอนอา" :)


    *เต๊ง!*


    ชนะใสๆ บอกแล้ว แบมแบมไม่ได้มาเล่นๆ



    .........................................



    ไปๆมาๆเรื่องที่คุยกับแบมแบมวันนี้มีแค่เรื่องของจินยองเท่านั้น ยิ่งคุยกันเขายิ่งรู้สึกผิด เขามัวแต่ยุ่งเรื่องที่คณะ และคิดน้อยใจเรื่องของชยอนูอยู่คนเดียว โดยไม่รู้เลยว่าจินยองก็คิดมากเหมือนกัน 


    แม้จะมีความวุ่นวายใจเกิดขึ้น แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ จากสิ่งที่แบมแบมบอก ทำให้เขามั่นใจขึ้นมานิดหน่อยว่าตัวเองก็พอจะมีความสำคัญกับจินยองอยู่เหมือนกัน


    แม้จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แม้ว่าด้วยเหตุผลมากมายก็ตามที่แจบอมไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ในเวลาตีสาม แต่แจบอมก็ห้ามใจไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้องเขาแล้ว อยากเจอก็อยากเจอ แต่ก็ไม่อยากจะรบกวนเวลานอนของจินยอง เลยตัดสินใจว่าจะนั่งรออยู่ตรงหน้าห้องนี่แล้วกัน อย่างน้อยก็อยู่ใกล้จินยองขึ้นมาอีกนิด


    ร่างบางกระสับกระส่าย พลิกตัวไปมาสองสามรอบ ง่วงก็ง่วงนะแต่ความวุ่นวายใจมันทำให้เขานอนไม่หลับ ก็แบมแบมเล่นไม่บอกอะไรเลยนอกจาก


    'แบมคุยกับพี่แจบอมแล้วนะ'


    เรื่องอะไรก็ไม่บอก โทรกลับไปก็ไม่รับอีก แถมคืนนี้ยังไม่กลับ หนีไปนอนกับมาร์คนู้น จินยองลุกขึ้นจากที่นอน สองขาก้าวไปยังห้องครัว ตั้งใจจะดื่มนมอุ่นๆสักแก้วเผื่อจะทำให้หลับง่ายขึ้น พรุ่งนี้จะซักให้ละเอียดเลย 


    ตึก 


    'โอ้ย'


    จินยองคิดว่าตัวเองหูแว่วไป แต่ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรชนประตูอีกสองสามครั้ง เพราะเป็นช่วงเวลาที่เงียบมากแล้ว เสียงเบานิดเดียวก็ทำให้ได้ยินชัด คว้าไม้เบสบอลก่อนจะก้าวไปที่ประตู ใครมันมาทำอะไรหน้าห้อง 


    ร่างบางเขย่งเท้าส่องดูจากตาแมวที่ประตู ก็ไม่มีใครนี่นา...


    "หรือว่าจะเป็นพวกที่เมาแล้วเพิ่งกลับห้อง" กำลังจะหันหลังกลับ


    ตึก ตึก


    ....



    "............" ปกติจินยองก็ไม่ได้เชื่อเรื่องผีนะ ปกติก็ไม่ได้กลัว... แต่พอมันมีเสียงแปลกๆแบบนี้เวลาอยู่คนเดียวมันก็ทำให้ใจแป้วๆไปเหมือนกัน 


    "เอาวะ..." จินยองฮึบกับตัวเอง กำไม้เบสบอลแน่น จากที่ง่วงๆอยู่นี่ตื่นเต็มตาแล้ว "ฮึ้ย!!!"


    "เหวอออ" จินยองดึงประตูเปิดอย่างรวดเร็วทำให้คนที่พิงอยู่หงายหลังมาตามประตู 


    "แจบอม!" แจบอมหัวโขกเข้ากับพื้นเพราะไม่ได้ระวังตัว ร่างบางตกใจ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็รีบนั่งลงไปประคอง งงก็งง ขำก็ขำ


    "อ่า.. ครับจินยอง"


    "ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ ทำไมมาแล้วไม่บอก"


    "เอ่อ.. ผมเห็นว่ามันดึกแล้ว เลยไม่อยากกวนเวลานอนจินยองครับ" 


    "ก็เลยนั่งให้ยุงกัดเล่น" แจบอมไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มกลับมาให้ ยิ้มแบบที่เขาชอบยิ้มทุกทีนั่นล่ะ ยิ้มจนตาปิด ยิ้มแบบที่จินยองหมั่นเขี้ยว "มีอะไรหรอ"


    "คิดถึงครับ"


    "เลยมาหาหรอ"


    "ครับ"


    "........"


    "จิน..."


    "เราก็คิดถึงแจบอมนะ"


    ไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนั้น มีแค่เสียงของริมฝีปากที่สัมผัสกันอย่างอ่อนนุ่ม แผ่วเบา แขนของจินยองยกขึ้นโอบคออีกฝ่ายไว้ เมื่อแจบอมเริ่มละเลียดริมฝีปากไปตามลำคอหอมกรุ่น ผิวคางที่ไม่เรียบเพราะหนวดที่ไม่ได้โกนเสียดสีกับคอขาวจนร่างบางหัวเราะออกมาเพราะจักจี้


    เขาดีใจนะ ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเลย แน่นอนเขาแน่ใจแล้วว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่กับแจบอมเขายังกังวล ไม่รู้ว่าวันไหนที่แจบอมจะเปลี่ยนใจ แต่ไม่ว่าจะห่างกันนานแค่ไหน แจบอมก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน 


    เขาควรจะเชื่อแบมแบมแต่แรก ยึดความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง รักตัวเองให้มากกว่าการแก้แค้นบ้าบอ


    จินยองจูบตอบไปตรงสันกราม ครางในคออย่างพอใจเมื่อมือร้อนๆของแจบอมสัมผัสที่ขอบกางเกงก่อนจะไล่ลงไปที่สะโพกอิ่ม


    ร่างบางลืมตามองไปที่ประตูเห็นว่าถูกปิดเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าแจบอมปิดประตูตอนไหน จนเมื่อจินยองรู้สึกตัวว่าโดนพามาที่โซฟา


    'อ่า..โซฟาอีกแล้วแหะ'


    แต่วันนี้ดึกไปหน่อย จะโต๊ะกินข้าว ห้องน้ำด้วยคงไม่ไหว จากโซฟาแล้วไปที่เตียงเลยแล้วกันเนอะ

     
    ................................................


    ไม่ต้องรอนาน ในที่สุดวันงานกิจกรรมที่ทำให้แจบอมยุ่งมาตลอดทั้งเรื่องก็มาถึงสักที แจบอมให้บัตรเข้างานทั้งจินยอง แบมแบมและมาร์ค เพื่อให้มาสนุกด้วยกัน จริงๆมันก็เป็นกิจกรรมของมหาลัยแต่จัดให้เฉพาะ Fresh man ปีหนึ่ง ฉะนั้นนักศึกษาปีอื่นๆก็ต้องแย่งชิงบัตรเข้างานกันหน่อย เพราะปีนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงของวงดนตรีมหาลัย และการประกวดดาวเดือนคณะแล้ว ยังมีนักแสดงที่กำลังมีผลงานเป็นที่ชื่นชอบซึ่งเป็นศิษย์เก่ามาร่วมในงานนี้อีกด้วย

    สถานที่จัดกิจกรรมคือโรงยิมของมหาลัย ขนาดประมาณสนามบาสเกตบอล 2 สนาม และลานยิมนาสติกอีก 1 ลาน แจบอมให้จินยองมาก่อนเวลางานเริ่ม เพราะไม่อยากให้วุ่นวายตอนตรวจบัตร 


    จินยองจึงเลือกที่นั่งที่ตนคิดว่าโอเคแล้วเผื่อของแจบอม แบมแบมและมาร์คด้วย แต่สำหรับแจบอมที่คงจะยุ่งตลอดการจัดงานจะได้มานั่งดูรึเปล่านั้น ค่อยกว่ากันอีกที


    "พี่จินยองคะ"


    "ครับ" ร่างบางหันไปตามเสียงเรียก เป็นเด็กสาวที่สวมเสื้อสต๊าฟยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร


    "พี่แจบอมให้หนูมาบอกว่ารอพี่อยู่ที่ห้องกระจายเสียงบนนู้นน่ะค่ะ" เด็กสาวชี้มือไปที่ห้องที่เห็นเป็นหน้าต่างอยู่ด้านหลังแป้นบาสฯ ที่เปิดไฟไว้ แต่ไม่เห็นว่ามีใครอยู่บ้าง จินยองสงสัยอยู่เหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้ แจบอมเป็นคนบอกเองให้เขามาหาที่นั่งรอก่อน 


    แต่ก็คงจะมีเรื่องอะไรให้เขาช่วยล่ะมั้ง จินยองลังเลอยู่สักพักเพราะไม่รู้จะจัดการยังไง ถ้าถือของไปด้วยก็อาจจะเสียที่นั่งดีๆ แต่จะให้ทิ้งของไว้ก็ไม่กล้าอีก โชคดีที่แบมแบมกับมาร์คมาพอดี จินยองกวักมือเรียกน้องชาย ก่อนที่จะลุกแล้วเดินไปตามทางที่น้องสต๊าฟคนนั้นบอก


    ห้องกระจายเสียงเป็นห้องที่จัดเตรียมไว้สำหรับนักพากย์การแข่งขัน จึงตั้งอยู่บนชั้น 2 เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นความเป็นไปในสนาม จินยองเดินขึ้นบันไดผ่านของที่วางระเกะระกะเพราะเป็นช่วงจัดงานไปอย่างไม่ยากนัก จนเมื่อถึงชั้นบนก็เห็นว่ามีสต๊าฟบางคนกำลังขนของอยู่ประปราย 


    ชั้นสองนี้มีประตูอยู่สองบาน บานแรกแง้มไว้ จินยองมองลอดเข้าไปข้างในจึงเห็นว่าเป็นห้องเก็บแผ่นเสียง พอขยับออกมามองเลยไปยังประตูบานที่สอง ติดป้ายไว้ชัดเจนว่าห้องกระจายเสียง ร่างบางจึงผละจากประตูบานแรกแล้วเดินต่อไปยังอีกห้องทันที


    เมื่อเปิดประตูก้าวเข้าไป จินยองจึงเห็นว่าห้องมันไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่มองซ้ายมองขวาแล้วก็ไม่เห็นว่าแจบอมจะอยู่ในห้อง จะมีก็เพียงแต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่จินยองรู้สึกคุ้นตายืนหันหลังอยู่ และเมื่อเธอหันมาเขาจึงรู้ว่าคนที่เรียกเขามาที่นี่ไม่ใช่แจบอมหรอก แต่เป็น


    "สวัสดีค่ะคุณจินยอง"


    ซอนอา...

     
    To be con


    เขียนเองแล้วหมั่นไส้ตัวเอง แกจะให้บีเนียร์เขามึนใส่กันอีกนานมั้ยห๊ะะะ
    ให้เขาได้กลับมาเจอกันแล้วนะคะทุกคน แต่ก็ยังอุตส่าห์จบตอนแบบนี้ ยังมีใครอ่านอยู่มั้ย เฮลโล่วว

    ขอโทษที่หายไปนานเลยค่ะ TvT ช่วงนี้ได้หยุดจริงๆเลยมีเวลาเขียนอย่างจริงจังสักที

    ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ไม่หลุดพลอตหรืออะไรทำนองนั้น ตอนหน้าก็จะจบแล้วค่ะ เย้!!!

    สำหรับคนที่รอให้จบก่อนแล้วค่อยอ่าน จะได้อ่านสักที โอ้มายก๊อดดด หลังจากที่รอกันมานาน

    ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์เลยนะคะ ; - ; นานๆมาทีแต่ก็ยังมีคนอ่าน ยังมีคนติดตาม ดีใจมากๆเลย

    ขอบคุณมากๆค่ะ

    ป.ล. ตอนนี้น้องแบมทำดีเว่อร์ๆ น้องแบมเริ่ดมากกกก ปลื้มมมม XD
    ป.ล.2 ธีมเป็นอะไรไม่รู้ ใส่ธีมไม่ได้ เสียไต T-T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×