คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Stunned :: 06
Stunned :: 06
เงาตะคุ่มๆไหวกายอยู่บนเตียงในความมืด
มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้นที่ช่วยให้พอมองเห็น เมื่อแบมแบมออกคำสั่งหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมให้เปิดไฟ
คราวก่อนร่างเล็กโอนอ่อนว่าง่ายเพราะน้ำเมา ผิดกับคราวนี้ที่สติครบถ้วน ถึงจะมีอารมณ์ร่วมจากการเล้าโลมอันช่ำชองของเขาแล้ว
แต่ก็ยังมีข้อห้าม ข้อจำกัดไปเสียหมด บางอย่างมาร์คถึงกับเลิกคิ้วอย่างฉงนใจ
แต่พอแบมแบมหลบตาก็พอจะรู้แล้วว่าที่ไอ่นั่นก็ไม่เอาไอ่นี่ก็ไม่ได้เนี่ย พ่นออกมากลบเกลื่อนความเขินทั้งนั้น..
...อย่างนี้ต้องขโมยซะแล้วล่ะ...
“อื้อ.... พี่มาร์ค...”
แบมขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อจู่ๆมาร์คก็ตะกายขึ้นมานอนทับเขาทั้งตัว
ข้อมือเล็กถูกตรึงเอาไว้กับเบาะนอน
ร่างสูงจ้องกลับมาในความมืดพร้อมพูดด้วยเสียงกระซิบที่ทำเอาแบมแบมขนลุกอย่างหวาดหวั่น
“แบมได้ยินเสียงอะไรรึเปล่า”
“เสียงอะไร!?” กระซิบตอบก่อนจะหลับตาปี๋
มาร์คคลายมือออกแล้วเปลี่ยนเป็นเท้าแขนลงกับเตียง ร่างเล็กจึงสะบัดข้อมือหลุดจากการเกาะกุม
ก่อนจะยกขึ้นสอดเข้าเอวคนข้างบน แก้มนิ่มข้างหนึ่งถูกแนบเข้ากับอกกว้าง แบมแบมดึงตัวเองเข้าหามาร์คกอดแน่น
“ไม่ได้ยินหรอ” มาร์คแทบจะหลุดขำแต่ต้องกลั้นไว้ จะเต๊าะเด็กต้องอดทนอดกลั้นให้ได้แกล้งทำเสียงให้ดูน่ากลัวทั้งที่มันไม่ได้มีอะไรเลย...
“อื้อออ เสียงอะไร ไม่ได้ยินทั้งนั้น” เสียงสั่นเครือจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“เสียงหัวใจพี่อ่ะ ไม่ได้ยินหรอ....” .............................
........
......
...
..
(ให้เวลาแดกจุด 4 บรรทัด)
“ไอ...ไอ่พี่บ้า เล่นอะไรห๊ะ แบมกลัวนะ!” ตุบ! ตับ!
แขนเล็กฟาดไปมาจนมาร์คต้องรีบรวบมือเล็กไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยว... โอ้ย! พี่ทำไรผิดเล่า
หืม” ฟอด! ไม่ว่าเปล่า
พอรวบมือน้องได้แล้วกดลงกับเตียงไม่ให้ขยับมาฟาดงวงฟาดงาดได้อีกก็ฉวยโอกาสหอมแก้มใสไปอีกหลายฟอดด้วยความหมั่นเขี้ยว
“จิส์...ไม่ต้องมาหอม รู้ว่าแบมกลัวยังจะแกล้งอีก พอ!ไม่มีอารมณ์แล้ว ปล่อยเลยนะ”
คนตัวเล็กหนีบแก้มตัวเองกับไหล่ ไม่ยอมให้หอม แต่พอทำข้างขวา มาร์คก็หอมซ้าย
พอเลี่ยงทำซ้ายมาร์คก็หอมขวาอีก ทำอยู่สองสามรอบก็เริ่มรู้ตัวว่าเปล่าประโยชน์
ยิ่งทำมาร์คยิ่งหอมได้ถนัด ไม่ช่วยเลย!
“ใครแกล้ง... มีผีจริงๆนะ..” มาร์คเข้าสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง
ปากแดงจัดนั่นไม่ได้ยิ้ม พูดจบก็เงียบ จนแบมแบมเงียบตาม
ปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างหวาดหวั่น เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก็อยู่ดีๆจะมีผีในห้องนอนเขาได้ยังไงเล่า!
“....................”
“ไม่เชื่อสิ?”
“ก็ผีอะไรของพี่ล่ะ”
“ผีผ้าห่ม”
“..............”
“หรือจะผีหมอนข้างดี”พอร่างเล็กไม่ตอบ
มาร์คก็กระทุ้งสะโพกตัวเองเขาหาคนตรงหน้าเพื่อเหย้าหยอกอีกครั้ง ขาเรียวแบะกว้างขึ้นอีกอย่างขัดขืนไม่ได้
เมื่อโดนจนส่วนแข็งขืนของเขากระแทกเบาๆที่ช่องทางด้านหลัง
แบมแบมกัดริมฝีปากอย่างกระดาก ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแล้ว
“หึ้ย! ผีลามกน่ะสิ! อื้อ...อย่านะ....อ๊ะ...อื้อ...”
“แบบนี้ชอบมั้ย?”
“อื้อ...”
“แบบนี้ก็ชอบหรอ?”
“อ๊า.....”
“ถ้าโอเคแล้วเดี๋ยวผีผ้าห่มจะ ‘เข้า’ สิงแบมแทนแล้วนะครับ”
นาฬิกาแขวนผนังในห้องนั่งเล่นตี
12
ครั้งบอกเวลา
จินยองรีบงับประตูห้องเพราะกลัวว่าจะทำให้คนที่หลับอยู่ตื่นตามเสียงนาฬิกาเสียก่อน
คิ้วขมวดอย่างสงสัยเมื่อได้ยินเสียงกุกกักหลังเคาท์เตอร์บาร์ ก่อนจะยิ้มขำออกมาเมื่อเห็นว่าร่างเล็กของน้องชายกำลังง่วนอยู่หน้าตู้เย็น
“หิวรึไงเรา”
“พี่! ตกใจหมด...”
แบมแบมพ่นลมหายใจ แล้วตบอกตัวเองเบาๆสองสามครั้งจนจินยองหัวเราะเบาๆ
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ตีนกาขึ้นหมดแล้ว” ได้ทีแกล้งล้อพี่แล้วก็หัวเราะกลับ
“เจ้าเด็กนี่ ล้อพี่หรอ! ใช่สิ
ใครจะไปน่ารักเหมือนแบมล่ะหืม โดนเล่นซะหมดแรงเลยงี้ถึงมาหาอะไรรองท้อง”
จินยองโยงเข้าเรื่องนี้อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ก็มันเป็นเรื่องเดียวที่ล้อแบมแบมได้นี่นา
“อะไรง่ะ พี่รู้หรอ” แบมแบมตาโต วางแก้วน้ำส้มลงในซิงค์น้ำ
รีบวิ่งมานั่งข้างพี่ชายที่โซฟา
“จริงๆพี่รู้ตั้งแต่แบมเข้ามาในห้องพี่แล้วล่ะ”
“เอ้า! แล้วทำไมไม่บอก”
“แล้วจะให้พี่บอกยังไงเล่า!”
แล้วก็หัวเราะออกมาทั้งคู่ เขาได้ยินเสียงคุยงุ้งงิ้งอยู่ด้านนอกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
มันกำลังอยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนั้นจะให้ทำอะไรได้ล่ะ ก็ต้องเลยตามเลย
ยังดีที่กระจกฝั่งด้านในเป็นกระจกเงา มันทำให้ไม่เห็นว่าถูกมองอยู่รึเปล่า
แต่มันก็สร้างความตื่นเต้นในอารมณ์ตอนนั้นอยู่เหมือนกัน..การโดนแอบมองเนี่ย “แล้วนี่หมดแรงจนหิวจริงป่ะ?”
“พี่อ่า.... อย่าล้อสิ”ร่างเล็กคล้องแขนพี่ชาย
กลุ่มผมนุ่มๆนั้นวางลงที่ไหล่ จินยองมองเด็กขี้อ้อนก่อนจะใช้คางกดเน้นๆที่กลางหัวของน้องอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่ได้ล้อแล้วนี่ถามจริงๆ มาร์คเป็นไง ดูแลแบมดีรึเปล่า”
“ก็... ดีมั้ง.... แต่ก็บ๊องอ่ะ ลามกอีกต่างหาก ชิส์” คิดถึงแล้วก็อยากจะฟาด
คนอะไรหาเรื่องลามกได้ตลอดเลย เมื่อกี้ก็ผีผ้าห่ม ผีหมอนข้าง ผีผ้าปูที่นอน
บ้าบอชะมัด
“ไม่ชอบหรอ” จินยองเชยคางน้องขึ้นมาก่อนใช้จมูกเกลี่ยปลายจมูกน้องไปมา
แบมแบมทำหน้าย่นก่อนจะหัวเราะเขินอายแล้วกลบเกลื่อนตามประสา
“ก็....”
“งั้นพี่ขอได้มั้ยนะ” จินยองเลิกคิ้วทำปากเป็นรูปตัวอู กลั้นยิ้มจนปวดแก้มเมื่อเห็นแบมแบมตกตะลึงกับคำพูดของเขา
“ละ...แล้วพี่แจบอมล่ะ” คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่รู้ตัว
มองพี่ชายอย่างสับสน ทั้งที่ทุกครั้งเขามักจะรู้ มักจะมองออกว่าพี่กำลังคิดอะไร
แต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง เขากลับไม่แน่ใจไม่รู้เพราะมันเกี่ยวข้องกับผีผ้าห่มหมอนข้างผ้าปูที่นอนที่หลับอุตุอยู่ในห้องรึเปล่า
“แลกกันก็ได้นะ ทีแรกแบมแบมก็ชอบแจบอม ส่วนพี่ก็ชอบมาร์คไม่ใช่หรอ”
“แต่....แต่แบม...ฮึก...”
“เอ้า! โธ่แบม โอ๋ๆ
พี่ล้อเล่นๆ โอ๋ๆๆ นิ่งซะๆ”
“พี่จินยองอ่ะ แบมตกใจหมดเลย ฮือ....” ร่างเล็กปล่อยโฮ
กอดเอวบางของพี่ชายแน่น
ใบหน้าหวานซุกลงกับอกของพี่พูดอู้อี้ตัดพ้อจนจินยองรู้สึกผิด
“พี่ขอโทษๆ ก็เราน่ะปากแข็งชอบเขาขนาดนี้แล้วแท้ๆ ถ้าพี่ไม่ใช่วิธีนี้จะยอมรับมั้ยหืม”
กอดน้องตอบโยกตัวไปมาราวกับกอดเด็กเล็กๆ แบมแบมลุกขึ้นมานั่งหลังตรง มือเล็กเช็ดน้ำตาป้อยๆ
พอหายตกใจก็เริ่มเขิน ทำไมร้องไห้ง่ายๆแบบนี้ก็ไม่รู้
ประตูห้องถูกแง้มปิดอย่างเงียบเชียบ
เขาไม่ได้ฟังจนจบว่าสองพี่น้องคุยอะไรกันต่อบ้าง
มันหูอื้อตาหลายไปหมดตั้งแต่ได้ยินประโยค ‘แลกกันก็ได้นะ’ แล้ว มันทำให้แจบอมตระหนักได้ว่า สำหรับจินยอง
เขาเป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกมากมายที่มีอยู่ ในคืนนั้น ก็รู้อยู่ว่าจะเป็นใครก็ได้
แต่พอมาได้ยินแบบนี้แล้วก็อดรู้สึกแปลบในใจไม่ได้
การที่จินยองยอมคบกันทุกวันนี้คือโชคดีที่เขาต้องรักษามันไว้ให้นานที่สุด...
..........
ความโชคดีของแจบอมส่งผลมาอีกเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ปากเหว
โงนเงน ไม่มั่นคง สายตาคมจับจ้องไปยังคนรัก ดวงตาสดใส
แก้มเนียนปลั่งไปด้วยเลือดฝาด และริมฝีปากอิ่มแดงนั้นกำลังยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น
สองชั่วโมงก่อน แจบอมพบว่าตัวเองต้องอยู่ซ้อมกีฬาให้เด็กปีหนึ่งเพิ่มอีกหนึ่งวันเพราะเพื่อนอีกคนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตกบันไดเมื่อเช้านี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาไม่ได้เจอจินยองเลยเพราะต้องพารุ่นน้องไปเก็บตัวเตรียมแข่งกีฬาเฟรชชี่
ถ้าให้รออีกวันเขาต้องบ้าแน่ๆ
‘เดี๋ยวเราไปหาก็ได้
เราก็อยากเจอแจบอมเหมือนกัน’
ประโยคนี้ทำให้เขาวางสายโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้ม
แจบอมเก็บมือถือใส่เข้าไปในกระเป๋าที่วางอยู่ที่เก้าอี้ยาวข้างสนาม
ก่อนจะเดินเหยียบกรวดเสียงดังกรอบแกรบลงสนามไปด้วยใจอิ่มเอม เพื่อสมทบกับรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ
เตรียมพร้อมซ้อมให้ปีหนึ่ง
จินยองไม่เคยเป็นฝ่ายมาหาเขา นั่นก็เพราะเขาเองที่เป็นคนนัดสถานที่เวลาเจอกันเป็นที่คณะของเจ้าตัว
เพราะไม่อยากให้ลำบากร่างบางต้องมาเสียเวลา และอีกอย่างเขายังไม่มั่นใจนัก
ว่าจินยองจะอยากเปิดเผยกับใครๆเรื่องที่กำลังคบกันรึเปล่า
เขารู้ว่าจินยองไม่ได้ปิดบัง เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่เคยจะหลบซ่อน
เพียงแต่กลัวว่าการเปิดเผยเรื่องนี้อาจทำให้จินยองอึดอัด
แต่ในเมื่อจินยองเป็นคนบอกเองว่าจะมา
ก็แสดงว่าสิ่งที่เขากังวลอยู่มันเป็นเรื่องที่เขาคิดไปเองเท่านั้น
“เฮ้ย! แจบอม” เสียงตะโกนเรียกชื่อเขาดังมาจากที่ริมสนามอีกฝั่ง
ร่างสูงหันไปตามเสียงเรียก แจบอมยิ้มตาโตเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเรียกคือกลุ่มรุ่นพี่บัณฑิตที่เพิ่งจบไปเมื่อปีก่อนกำลังยกมือยกไม้ทักทาย
แต่ละคนก็เคยอยู่ชมรมเดียวกันมาทั้งนั้น
“ปีหนึ่งแบ่งเป็นสองแถว ซ้อมวางแถวหนึ่ง ซ้อมตีแถวหนึ่ง ครบ 20
นาทีให้สลับกัน”
.......กำลังสงสัยรึเปล่าว่านั่นเสียงใคร... ถ้าจะบอกว่าแจบอมเป็นคนพูดใครจะเชื่อมั้ยว่าคนเนิร์ดจะแปลงร่างเป็นรุ่นพี่ปีสามจอมโหดได้
แต่นั่นก็เป็นไปแล้ว เพราะมันเป็นหน้าที่ที่รุ่นพี่ปีสามต้องเป็นคนดุรุ่นน้อง
ซึ่งแจบอมเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าหน้าที่นี้มันเหมาะกับเขาตรงไหน
ครั้งหนึ่งเมื่อเขาถอดแว่นตาลืมไว้ที่ไหนสักแห่งและหาไม่เจออยู่ครึ่งวัน
ทำให้แจบอมต้องขมวดคิ้วตลอดเวลาเพราะมองอะไรไม่เห็น กับท่าทางนิ่งๆเพราะเขาไม่กล้าจะเดินหรือหันซ้ายหันขวาไปไหนมากนักเพราะกลัวจะไปชนใครหรืออะไรนั้น
ไปเข้าตาของรุ่นพี่ปกครองปีก่อนเข้าพอดี
“พี่ๆมากันได้ยังไงครับ” เมื่อทักทายรุ่นพี่ครบทุกคน
ก็แยกย้ายกันไปดูน้องบ้าง ไปทักทายคนอื่นบ้าง จนเหลือแค่รุ่นพี่สองสามคนที่เขาสนิทที่สุด
ที่ยังคงยืนคุยกันริมเส้นสนาม
“มาช่วยงานอาจารย์ว่ะ ให้มาไกด์ป.โทเรื่องใช้โปรแกรม Limdep” แจบอมนิ่งไปทันที เมื่อรุ่นพี่พูดถึงวิชาหินสุดโหดของคณะเขา
พูดถึงวิชานี้ก็ทำให้ต้องนึกถึงรุ่นพี่คนหนึ่ง ภาพในอดีตที่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงปีย้อนเข้ามาอย่างห้ามไม่ได้
แต่ก็รีบปัดความคิดตัวเองไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ดีจังครับ ช่วงนี้คงเจอกันบ่อยเลย พี่ๆวันนี้เล่นสักเกมมั้ยครับ” แจบอมยกลูกเหล็กยื่นชวนอย่างอารมณ์ดี
การที่รุ่นพี่ที่จบไปแล้วกลับมาเยี่ยมนี่
ทำให้ความรู้สึกดีๆในอดีตมันย้อนกลับมาอีกครั้ง
เวลาผ่านไปสักพักแจบอมมองนาฬิกาข้อมือ
เห็นว่าเป็นเวลาที่จินยองน่าจะมาถึงแล้ว จึงขอตัวจากรุ่นพี่และปล่อบนักกีฬาปีหนึ่งให้กลับไปพักผ่อน
ร่างสูงเก็บข้าวของตัวเองเรียบร้อยก็เดินมาตามทางเดิน แจบอมสะบัดให้เหงื่อหลุดออกจากไรผมสองสามครั้ง
แล้วยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดใบหน้าลวกๆก่อนจะหยิบแว่นขึ้นมาใส่
พอดีกับที่เขาเห็นจินยองยืนอยู่ไม่ไกล
ร่างบางกำลังยืนคุยกับชายคนหนึ่งซึ่งหันหลังให้เขา
มันคงจะเป็นแค่เรื่องปกติที่จินยองจะยิ้มให้กับคนอื่นบ้าง
เขาคิดว่าตัวเองไม่ได้ประสาทที่เห็นจินยองคุยกับคนอื่นไม่ได้ หรือมันคงจะไม่รู้สึกร้อนใจเท่าไหร่ที่คนอื่นจะพยายามเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มจินยองแบบนั้น
ถ้าเพียงคนคนนั้นไม่ใช่…
“พี่ชยอนู” เป็นจังหวะที่จินยองผงะถอยหลัง ในขณะที่มือข้างนั้นก็ชะงักไป
เจ้าของมือใหญ่หันหลังกลับมา ก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจที่เห็นว่าคนที่ร้องทักเขาเป็นใคร
“แจบอม..”
“เมื่อกี้เจอพวกรุ่นพี่ที่ชมรมแล้วครับ กำลังสงสัยพอดีว่าพี่ไม่มาหรอ”
“อ่า มาด้วยกันน่ะแหละ แต่กำลังจะกลับแล้วน่ะ พอดีเจอ....”
“แจบอมไปกันเลยมั้ย” จินยองที่เงียบมาตั้งแต่ต้นพูดขึ้นมาทันทีราวกับกำลังรอจังหวะ
ชยอนูที่ผายมือไปยังร่างบางข้างกายยืนเก้อ หัวคิ้วขยับเข้าหากันเล็กน้อยไม่พอใจที่โดนตัดบทเสียดื้อๆก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติ
“อ้าว รู้จักกันด้วยหรอ” แต่คำตอบที่ได้มีเพียงรอยยิ้มบางจากริมฝีปากอิ่ม
จินยองโค้งศีรษะให้เพียงเล็กน้อยก่อนจะเดินนำแจบอมออกไป
“ขอตัวก่อนนะครับ”
“แล้วเจอกัน................จินยอง” เสียงสุดท้ายทิ้งช่วงรอให้แจบอมเดินห่างออกไป เสียงถูกลดระดับลงเป็นเพียงแค่กระซิบให้ตัวเองได้ยินเท่านั้น
.......
คนหล่อกำลังกลุ้ม... มาร์คเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง จ้องโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาเพิ่งวางสายจากแบมแบมเมื่อห้านาทีก่อน
แต่มันก็ยังคาใจที่วันนี้ร่างเล็กปฏิเสธไม่ให้เขาไปพบเจอ เขาคิดว่าเขาไม่ใช่คนติดแฟน...
คิดว่าไม่ใช่จนกระทั่งเจอแบมแบมนี่ล่ะ ก่อนจะตัดสินใจกดโทรออกอีกครั้ง
Ttttttt Ttttttt
“พี่มาร์คว่า?”
“แบมแบมจะช่วยงานเพื่อนเสร็จกี่โมง เดี๋ยวพี่ไปรับ”
“ก็บอกว่าไม่ต้องไง เดี๋ยวตอนกลับเพื่อนจะไปส่ง”
“แต่พี่อยากไปรับ มีอะไรทำไมให้ไปรับไม่ได้?” จู่ๆก็เสียงแข็งขึ้นมา พาล
หาเรื่องแบบไม่มีเหตุผลจนแบมแบมกรอกตา (แต่กรอกตาให้เห็นไม่ได้นะ)
ปกติคงจะเปิดศึกฟาดฟันกันไปแล้วแต่วันนี้ไม่ได้จริงๆ ร่างเล็กถอนใจแบบไม่มีเสียง
ก่อนจะใช้ไม้เด็ด ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ น้ำแข็งเข้าถูหลังเสียงอ่อน
“ไปกันใหญ่แล้ว มันเลิกดึกแบมแค่ไม่อยากให้พี่มาร์คต้องมานั่งรอไง ไม่งอแงสินะฮะ” มาร์คอมยิ้มกับโทรศัพท์ ก่อนจะเก็กทำเสียงเข้มตอบกลับไปทั้งที่จริงๆกำลังฟินอยู่
“ห้ามกลับดึกนะ ถ้าเกินเวลาแล้วยังไม่ถึงคอนโดโดนคิดดอกเบี้ยบานแน่”
“ดอกเบี้ยไร แบมไปติดหนี้พี่มาร์คเมื่อไหร่”
“ก็ติดเรื่องผีชุดเครื่องนอนไง”
“...บ้า! /บิบี โต๊ะโซนบีนะ/ ไม่พูดด้วยแล้วแค่นี้นะ” ติ๊ด!!!
“แบมแบม! เดี๋ยวสิ!” มาร์คถือโทรศัพท์จ้องอย่างสงสัย
เมื่อกี้ก่อนจะวางเหมือนจะได้ยินเสียงแทรกเข้ามา ถ้าฟังไม่ผิดเหมือนบอกโต๊ะอะไรสักอย่าง
เดี๋ยวนะ แบมแบมบอกจะไปช่วยเพื่อนทำรายงานไม่ใช่หรอวะ แล้ว 'บิบี' นี่มันใคร โต๊ะโซนบีนั่นคืออะไร!!!
To B Con
Edit ชื่อเรียกของแบมแบม และการโต๊ะนิดหน่อยนะคะ ^^
Talk
หวัดดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอโทษยาวๆเลยที่มาต่อช้ามากๆ TAT
ลืมเนื้อหาตอนก่อนหน้านี้กันไปแล้วรึเปล่าคะ
ฮือ... กลับไปอ่านก่อนนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะ
เวลาแต่ละวีคผ่านไปไวเหลือเกินค่ะ
แล้วดันมีเวลาเขียนแค่ช่วงเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ต้องขอโทษจริงๆที่ให้รอนะคะ
เนื้อหาตอนนี้เราเพิ่มปมเรื่องเข้าไปอีกนิดนึงนะคะ
เดี๋ยวจะหวานเลี่ยนไปซะก่อน XD แต่ไม่ม่านะ
เรื่องนี้เราตั้งใจให้อ่านแบบเรื่อยๆไม่กดดันไม่ม่าอะไรค่ะ
จะมีใครรู้มั้ยน้าว่าแจบอมอยู่คณะอะไร แถมชมรมยังดูเนิร์ดมากๆด้วย XD
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
ฝากแท็คในทวิตด้วยนะคะ #ฟิคสะตั้นดึ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น