ตอนที่ 14 : Larry : ทางเลือก (100 เปอร์)
บทที่ 10
ทางเลือก
เมื่อมาถึงบ้านของหญิงสาวแฮร์รี่ก็รีบวิ่งไปที่ประตูรั้วสูงใหญ่ก่อนจะตัดสินใจปีนเข้าไปด้วยความเร่งรีบ เมื่อก้าวไปถึงภายในห้องลำขาแกร่งก็ต้องชะงักนิ่ง นัยน์ตาสีเขียวสดจ้องมองแฟนสาวของตนที่กำลังถูกมัดอย่างเป็นห่วง ลำแขนที่เคยขาวเนียนของหญิงสาวบัดนี้กลับเต็มไปด้วยรอยช้ำเขียวเป็นจ้ำ สภาพของหญิงสาวตอนนี้ช่างดูน่าสงสารจับใจจนแฮร์รี่แทบอยากจะวิ่งเข้าไปแก้มัดให้เสียเดี๋ยวนี้
“อื้อ...อื้อ” หญิงสาวที่ถูกมัดปากมัดมือมัดเท้าเบิกตากว้างพร้อมกับส่ายหัวไปมาทั้งน้ำตา ร่างผอมบางสั่นระริกพร้อมกับมองคนที่กำลังจ่อวัตถุสีดำมาที่บริเวณหัวของตนเองกับแฟนหนุ่มสลับไปมา
“ยินดีต้อนรับ แฮร์รี่” เสียงทุ้มใสดังมาจากชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าหม่น ใบหน้าขาวนวลภายใต้เงามืดประดับด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างต้อนรับ
“นายทำบ้าอะไร ลูอิส!!” ร่างสูงพูดขึ้นเสียงเข้ม
“ปกป้อง...ฉันกำลังปกป้องนาย” ถ้อยคำที่ตอบกลับมามีเพียงคำสั้นๆ เท่านั้น มือเรียวที่กำปืนเอาไว้แน่นสั่นระริกอย่างไม่อาจควบคุมเมื่อสบเข้ากับสายตาอันแข็งกร้าวของอีกฝ่ายที่จ้องมองมาทางเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“นายมันบ้าไปแล้ว!! เดน่าเขาไปทำอะไรให้นาย...ทำไมนายต้องถึงกับจะฆ่าเธอด้วย” แฮร์รี่เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ในตอนแรกเขาเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของพี่ชายต่างสายเลือดแต่ตอนนี้เขากลับสับสนไปหมด...ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูเริ่มไร้เหตุผลขึ้นทุกที
ปึ่ก...
ลูอิสล้วงโทรศัพท์สีดำที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเปิดภาพบางอย่างและโยนไปให้ร่างสูงดู นัยน์ตาสีเขียวมรกตก้มลงไปหยิบของที่ถูกสไลด์มาตามพื้นอย่างระมัดระวัง ทันทีที่เปิดหน้าจอร่างกายสูงแกร่งก็สั่นเกร็งขึ้นมาอย่างน่ากลัว
“ลูอิส!!!” เสียงตะโกนกระชากออกมาอย่างเต็มแรงด้วยอารมณ์ที่เกินกว่าจะรับไหว ภาพวิดีโอของผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่ที่กำลังถูกจับมัดและกำลังร้องขอความเห็นใจจากผู้กระทำ ทำให้โทสะทั้งหมดเดือดดาลขึ้นมา
“พวกเขาตายแล้ว” ลูอิสพูดขึ้นเสียงเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ใด ตอนนี้เขายังไม่รีบร้อนอะไรเพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างก็จะไม่มีทางเปลี่ยนได้อีกแล้ว...ตอนจบอันสมบูรณ์แบบที่เขาได้คิดเอาไว้
“ก...แก ทำไมแกมันเลวได้ขนาดนี้!! นั่นผู้มีพระคุณที่ช่วยเด็กโสโครกแบบแกขึ้นมาจากนรกนะ!!” เหมือนว่าหัวใจดวงนั้นได้ปิดกั้นตัวเองไว้ ต่อให้ร่างสูงจะพร่ำด่ามากมายสักเพียงไหน หัวใจที่ถูกแช่แข็งก็จะไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป
หมับ!!
ดวงตาคมกริบเหลือบไปเห็นวัตถุสีดำอีกอันที่วางอยู่บนโต๊ะ ร่างสูงจึงรีบฉวยไปหยิบขึ้นมาอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาของร่างโปร่งที่เฝ้าสังเกตอยู่
“นายคิดจะยิงฉันเหรอ?” ลูอิสถามขึ้นพลางยิ้มขำกับท่าทางเงอะงะที่แม้แต่จะจับปืนยังจับไม่เป็น ร่างสูงตวัดมองคนที่เย้ยหยันตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับยกปืนเล็งไปที่หัวของอีกฝ่าย
“อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ วางปืนลงเดี๋ยวนี้ลูอิส ไม่งั้นฉันยิงแน่!!” ร่างโปร่งมองสายตาอันมุ่งมั่นของอีกฝ่ายด้วยแววตาเรียบเฉย มือข้างที่ถือปืนจ่อบริเวณศีรษะของหญิงสาวลดลงอย่างช้าๆ ก่อนจะดึงลงมาขนาบข้างลำตัวนิ่งๆ
“ขอโทษด้วย...” มือบางที่ลดลงไปถูกดึงกลับขึ้นมาจ่อหัวหญิงสาวใหม่อีกครั้ง สิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าผลสุดท้ายอาจจะเป็นเพียงความเจ็บปวดที่หลงเหลืออยู่ แต่เขาจะไม่มีวันเสียใจ!!
“ตัดสินใจเร็วเข้าแฮซ... จะยิงหรือไม่ยิง ไม่งั้นนายอาจจะไม่เหลืออะไร” รอยยิ้มที่จางหายไปหลงเหลือเพียงรังสีแห่งการเข่นฆ่าที่แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
“ทำไมนายถึงต้องทำขนาดนี้ลูอิส!!” คำถามเดิมถูกกรอซ้ำใหม่อีกครั้งราวกับว่าจะยังคงถามต่อไปจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ตัวเขาต้องการ ท่ามกลางอารมณ์ไฟแห่งความแค้นกลับยังมีความคาดหวังเล็กๆ ว่าอีกฝ่ายจะสรรหาเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอมาให้เขาอีกครั้ง...เหตุผลที่เขาสามารถจะให้อภัยได้
“ฉันอยากได้นาย.. เมื่อพ่อแม่นายไม่ยอมรับ เมื่อเดน่าเข้ามาขวางทาง ฉันก็จะฆ่าให้หมด..ฆ่าทุกคนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้นายมา” เสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับสบตามองหญิงสาวที่จ้องมองมาที่เขาทั้งน้ำตา
ปี๊น!!! ปี๊น!!!
เสียงแตรรถที่ดังสนั่นอยู่ทั่วทุกบริเวณของตัวบ้านดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปทางนั้น ยกเว้นแต่ลูอิส..ร่างบางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากอันเรียวเล็กจะสูดหายใจเข้าลึกๆ และวิ่งเข้าไปประชิดร่างสูงอย่างรวดเร็ว
“!!” ร่างสูงใหญ่เสียหลักล้มลงตามน้ำหนักของร่างบางที่ถาโถมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างโปร่งนั่งคร่อมคนหัวหยิกเอาไว้โดยใช้มือข้างที่ถือปืนหันไปจ่อไปทางหญิงสาวเช่นเดิม เช่นเดียวกับปืนของแฮร์รี่ที่จ่ออยู่ตรงบริเวณหน้าอกซ้ายของเขา
“ยิงสิ... ยิง...” เสียงทุ้มหวานเอ่ยออกมาอีกครั้ง มือเรียวข้างที่ว่างจับกระบอกปืนของอีกฝ่ายให้แนบชิดจนแทบจะสิงเป็นเนื้อเดียวกันกับร่างกายของเขา
“…” นิ้วเรียวหนาที่วางไว้ตรงไกปืนสั่นระริกไปหมด นัยน์ตาสีเขียวจ้องมองคนที่อยู่ด้านบนด้วยความรู้สึกสับสน
คนตรงหน้าฆ่าพ่อแม่ของเขา
เขาต้องล้างแค้น
เขาควรจะยิงคนตรงหน้าไม่ใช่เหรอ...
แต่แล้วทำไม...
ทำไมร่างกายถึงไม่ฟังคำสั่งเขาเลย
“ฉ..ฉันยิงไม่ได้ ลูอิส” หยาดน้ำใสไหลอาบแก้มสากอย่างช้าๆ ความทรมานกัดกินไปทั่วทั้งหัวใจอันหนาวเหน็บ ความแค้นเคืองกับความเสียใจที่อีกฝ่ายฆ่าพ่อแม่แท้ๆ ปะปนกับความลังเลเมื่อมองเข้าไปในดวงตาอันว่างเปล่าของคนเบื้องบน
“สุดท้ายแล้วความใจดีนั่น...ก็ไม่เคยหายไป” รอยยิ้มบางคลี่ออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ถึงเขาจะโหดร้ายหรือต่ำช้าแค่ไหนแต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังลังเล... ทั้งที่จะยิงเขาไปเสียเลยก็ได้แท้ๆ แต่ก็เพราะแบบนี้แหละเขาถึงยอมเสียได้ทุกอย่าง...
“ขอบคุณนะ”
ปัง!!
เสียงอันดังสนั่นตามด้วยผู้ชายชุดดำจำนวนมากวิ่งกรูกันเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ ร่างอันบอบบางของคนที่เคยคร่อมอยู่ร่วงหล่นลงอย่างช้าๆ สัมผัสเปียกชื้นของของเหลวที่เปรอะเปื้อนไปทั่วเสื้อเชิ๊ตตัวเก่งของร่างสูงส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
“ล...ลูอิส” เหมือนดวงใจแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา สัมผัสของของเหลวที่เปรอะเปื้อนไปทั่วมือยิ่งทำให้สมองเริ่มประมวลผลทุกอย่างไม่ทัน
“ลูอิส!! พวกแกรีบโทรเรียกรถพยาบาลเร็ว!!” หญิงสาวที่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากพันธนาการผลักเหล่าผู้ชายชุดดำที่เข้ามาแก้มัดอย่างแรงพร้อมออกคำสั่งก่อนจะกระโจนเข้ามาหาร่างที่นอนนิ่งอย่างร้อนรน
“ลูอิส...ไม่เอา อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ..ฮ..อึ่ก ทั้งที่แฮซก็ไม่ยิงนายแล้วแต่ทำไมนายยังต้องตายล่ะ ทำไมทุกอย่างถึงยังจบแบบนี้..ฮือ” มือผอมเรียวเอื้อมไปแตะร่างที่นอนนิ่งอย่างสั่นๆ ท่ามกลางความงุนงงของข้ารับใช้ที่พ่อตนส่งมาอย่างไม่รู้อะไร
“ทำไมนายต้องยอมทำร้ายตัวเอ...” คำพูดที่เผลอหลุดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจทำให้หญิงสาวต้องรีบยกมือขึ้นมาอุดปากตัวเองไว้แน่น แต่ดูเหมือนว่าจะช้าไปเสียแล้ว
ร่างสูงที่กำลังพยายามลุกขึ้นมาหันขวับทันที ฝ่ามือหนาคว้าไปที่ไหล่ของหญิงสาวเอาไว้แน่น ดวงตาสีเขียวที่เบิกกว้างจ้องมองคนที่กุมความลับบางอย่างคาดคั้น
“เดน่า...เธอรู้อะไร บอกฉันมา...บอกฉัน!!”
หญิงสาวเม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่น ดวงตาสีทองประกายน้ำตาลเหลือบมองคนทั้งสองด้วยความเสียใจ มือเรียวบางของหญิงสาวเอื้อมไปหยิบปืนของลูอิสที่หล่นอยู่ไม่ไกลนักขึ้นมา
“ลูอิส...ขอโทษจริงๆ ที่ฉันไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้” เดน่าเอื้อนเอ่ยกับร่างอันไร้สติของอดีตคนรักด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสร้อยก่อนจะเล็งปืนไปหาชายชุดดำที่ยืนห้อมล้อมอยู่ เหล่าข้ารับใช้ต่างวิ่งกันแตกฮือด้วยความตกใจเมื่อถูกคุณหนูทำท่าจะลั่นไกใส่
กริ๊ก...
ทุกสิ่งนั้นว่างเปล่า
ใช่ มันไม่มีกระสุนในนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วเพราะร่างบางไม่ได้คิดจะยิงมันและไม่เคยยิง...
“นี่มันเรื่องอะไรกัน...” แฮร์รี่ที่เริ่มสับสนกับเหตุการณ์ทั้งหมดมองคนที่หลับตาพริ้มด้วยความไม่เข้าใจ
“ลูอิสเขาทำเพื่อนายจริงๆ..” เดน่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ ก่อนจะเริ่มเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นานนัก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++50เปอร์+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.
.
.
ปิ๊บ
หลังจากที่พูดกรอกสายบอกใบ้ถึงสถานที่ที่เขาอยู่เสร็จ ร่างโปร่งก็ตัดสายทิ้งพร้อมกับโยนโทรศัพท์ของหญิงสาวออกไปไกลๆ ลูอิสเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่ถูกลากลงมานั่งกับพื้นพร้อมกับคุกเข่าลงไปหาเธอใกล้ๆ
‘น..นายคิดจะทำอะไร’ น้ำเสียงตะกุกตะกักพูดออกมาอย่างหวั่นๆ หลังจากที่โดนคนตรงหน้าทุบอย่างแรงที่บริเวณแขนจนเกิดเป็นรอยช้ำ มือเรียวหยาบกร้านเอื้อมเข้ามาถูบริเวณแขนเนียนของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
‘ขอโทษด้วยที่ทำให้เธอเจ็บอีกแล้ว’ ลูอิสพูดขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหัวเดน่าที่กำลังสั่นกลัวไม่ต่างกับลูกแมวน้อย ถึงแม้การทำร้ายผู้หญิงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องสักเท่าไหร่แต่ถ้าไม่ทำแผนของเขาก็คงไม่มีวันสำเร็จ
‘ลูอิสนายกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมนายถึงโทรไปหาแฮร์รี่ นายกำลังต้องการอะไร’ เมื่อพอจะเข้าใจว่าร่างโปร่งไม่ได้คิดจะฆ่าเธอ หญิงสาวในชุดเดรสสีดำสนิทจึงถามออกไปด้วยความรู้สึกข้องใจ
‘เดน่า...ฉันอยากจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอจะช่วยล้มเลิกแผนการนั้นได้ไหม’ ร่างโปร่งยังคงเมินเฉยต่อคำถามมากมายที่พรั่งพรูออกมาจากหญิงสาว นัยน์ตาสีทองสุกสว่างหรี่ลงกับคำขอร้องเดิมๆ
ทำไมนายถึงต้องให้ความสำคัญกับคนพวกนั้นขนาดนั้น
‘ไม่มีวัน!! ต่อให้นายคุกเข่าขอร้องฉันก็จะไม่ล้มเลิก จนกว่าคนพวกนั้นจะหายไปจากชีวิตนาย!!’ น้ำเสียงแข็งกร้าวพร้อมกับสายตาอันมั่นคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงจ้องกลับมาหาลูอิสเขม็ง ร่างโปร่งถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินก้มๆ เงยๆ เพื่อหาของบางอย่าง
‘หลังจากนี้แฮร์รี่จะมาฆ่าฉัน...’ นัยน์ตาสีเฮเซลเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เกินความคาดหมายออกมา
‘น...นายหมายความว่ายังไง แฮซจะมาฆ่านายทำไม มันไม่สมเหตุสมผลเลย’ เดน่าพูดถามขึ้น
‘ก็ไม่แน่หรอก... ถ้าเขาคิดว่าฉันเป็นคนฆ่าพ่อแม่เขา’
‘นายอย่ามาล้อเล่น!! นายต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ ฉันจะโทรบอ--’ เสียงพูดทุกอย่างขาดหายไปในลำคอเมื่อถูกอีกฝ่ายนำผ้ามาผูกรัดบริเวณริมฝีปากไว้แน่นจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ และยังไม่ทันที่จะได้ขยับตัวลูอิสก็รีบมัดเชือกหญิงสาวไว้อย่างรวดเร็ว
‘ฉันไม่เคยล้อเล่นเดน่าเธอก็น่าจะเข้าใจ... รู้มั้ย ฉันเคยลองคิดที่จะบอกความจริงกับพวกเขาว่าเธอกำลังวางแผนอะไร เคยคิดว่าถ้าบอกไปอาจจะช่วยทุกอย่างให้ดีขึ้นได้ แต่สุดท้ายฉันก็ทำไม่ลง...’
‘คนที่บ้านนั้น...ทั้งแฮซทั้งพ่อทั้งแม่ ทุกคนต่างรักเธอมาก ทุกคนคาดหวังในตัวเธอ ฉันไม่อยากเห็นสีหน้าอันเศร้าสร้อยพวกนั้นและทุกอย่างมันก็ไม่ใช่ความผิดเธอ ฉันเป็นคนทำร้ายทำให้เธอเป็นแบบนี้’ สัมผัสอุ่นหยาบกร้านบริเวณแก้มใสทำให้น้ำตาเอ่อคลอ
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้โง่ขนาดนี้
ทำไมต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างเพียงลำพัง
ทำไมถึงยังยอมรับผิดไว้ทั้งหมด
ทำไมถึงไม่โทษ...ไม่โกรธเธอเลย
‘ทั้งพ่อแม่และเธอเป็นคนสำคัญของแฮร์รี่ ฉันจะไม่มีวันทำให้เขาเสียใจอีก เธอเข้าใจความหมายมันใช่ไหม... ถ้าหากไม่มีฉันเธอก็จะไม่ทำอะไรผิดๆ ถ้าหากไม่มีฉันแฮร์รี่ก็ไม่ต้องรู้สึกเศร้า...’ คนตัวเล็กพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่สิ้นหวัง จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดทั้งหมดก็คือเขาถ้าหากไม่มีเขาทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้
เขานี่แหละ...ที่เป็นตัวปัญหา
‘จบแบบนี้ดีที่สุดแล้ว จบในฐานะที่ฉันเป็นตัวร้ายส่วนเธอคือหญิงสาวผู้แสนดี เพราะฉะนั้นสัญญาได้ไหมว่าจะไม่บอกใครเรื่องนี้ให้ทุกอย่างเป็นไปในแบบที่ควรเป็น อย่างน้อยสิ่งที่ฉันทำก็จะได้ไม่สูญเปล่า’ จะแก้ไขทุกอย่างก็คงจะไม่ทันเสียแล้วยิ่งเห็นสิ่งที่คนตรงหน้าทุ่มเทก็ยิ่งทำให้เข้าใจว่าเธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับผู้ชายตรงหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
‘เดน่า... เธอฝืนมามากพอแล้ว เมื่อก่อนเธอเป็นหญิงสาวที่สวยและน่ารักแต่เพราะฉันจึงทำให้เธอต้องเปลี่ยนไป...ขอโทษนะ’ ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูจูบซับบริเวณหน้าผากกว้างของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาราวกับเป็นจูบแห่งการจากลา สุดท้ายร่างโปร่งก็ทำได้เพียงแค่นี้...หรืออาจจะเป็นเพราะเขานึกออกเพียงแค่วิธีนี้เท่านั้น
‘ฮ..ฮึก อือ..’ เดน่าส่ายหัวไปมาเป็นระวิง เธอจะล้มเลิกแผนการนี้ก็ได้..เธอยอมแล้วแต่อย่าจากเธอไปเลยได้ไหม สิ่งที่เธอต้องการคือความรักไม่ใช่ความตายจากคนที่เธอรัก อย่าทำแบบนั้นเลย...อย่าทิ้งเธอไว้คนเดียว เสียงครางอื้ออึงในลำคอที่ต้องการสื่อให้อีกฝ่ายได้รู้
แต่เสียงนั้น...
กลับส่งไปไม่ถึง...
คำอ้อนวอนนั้นไม่มีใครได้รับฟังอีกต่อไป
.
.
.
“พวกนายกล้าดียังไง!! ใครเป็นคนสั่งให้ยิงลูอิส!!” เสียงหวานกรีดร้องลั่นภายในบ้านของตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลประกายทองวาววับจ้องมองเหล่าสุนัขรับใช้ที่วิ่งหนีรัศมีปืนไปหน้าบ้านกันหมดอย่างแค้นเคือง
“คุณท่านบอกว่าได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากคุณหนู...ก็เลยสั่งให้พวกกระผมมาดู เอ่อ...พวกผมเห็นมีคนเล็งปืนใส่คุณหนูก็เลยเข้าใจว่า…” การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงสั่นๆ ด้วยความหวาดกลัว
“พวกแกไปตามรถพยาบาลมาเดี๋ยวนี้!! ถ้าลูอิสเป็นอะไรไป...ฉันเอาพวกแกตายแน่!!” เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายตนออกคำสั่งเหล่าข้ารับใช้บางส่วนจึงรีบวิ่งกันออกไปในทันที
เพราะเธออีกแล้ว...
“สุดท้ายแล้วก็เพราะฉันอยู่ดีที่ทำให้นายตาย...อึ่ก คนที่สมควรตายไปควรจะเป็นฉันมากกว่าแท้ๆ ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้..ฮึก” หลังจากที่ทุกคนออกไปหญิงสาวก็พูดออกมาด้วยริมฝีปากอันสั่นเครือ เป็นเพราะเธอกดโทรไปหาพ่อตอนที่หลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า...เพราะความเข้าใจผิดของเธอทุกอย่างจึงกลายเป็นแบบนี้
“ง..งั้นลูอิสก็ไม่ได้ฆ่าพ่อกับแม่” แฮร์รี่ถามด้วยเสียงสั่นๆ หญิงสาวที่ได้ยินจึงได้แต่พยักหน้าทั้งน้ำตา หัวใจอันแข็งกร้าวแทบจะหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินความจริงที่ไม่เคยล่วงรู้ ราวกับถูกน้ำเย็นสาดเข้าเต็มหน้า ร่างกายมันด้านชาไปหมดจนขยับอะไรไม่ได้
คนตรงหน้าโกหกเขาอีกแล้ว...
โกหกเพื่อเขา
เพราะไม่อยากให้เขาเสียใจ...
“ทำไมนายต้องยึดติดกับฉันขนาดนี้...ทำไมถึงต้องยอมฉันถึงขนาดนี้” ความเศร้ายิ่งถาโถมเข้ามาเมื่อทราบเรื่องทั้งหมด และแล้วก็ได้เข้าใจว่าทำไมมือของเขาถึงได้สั่นไปหมด ยามที่จับปืนเล็งไปหาคนในอ้อมกอด คงเป็นเพราะมันอาจจะรู้มาตั้งแต่แรกก็เป็นได้ว่าตนเองกำลังจะทำลายสิ่งสำคัญที่ดีที่สุดในชีวิตไป
“อึ่ก..อ..อย่าร้องสิ” เสียงคนที่นอนในอ้อมกอดทำให้น้ำตาที่ควรจะหยุดยิ่งไหลมากกว่าเดิม ขอบคุณพระเจ้า...ขอบคุณที่ยังไม่พรากคนในอ้อมกอดนี้ไป
“นายม..ไม่ควรเศร้า ทุกคนยังปลอดภัย” เสียงทุ้มหวานที่แผ่วลงเรื่อยๆ เอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก
“ไม่ใช่...ไม่ใช่ทุกคน นายกำลังจะตาย..นายทำแบบนี้ไปทำไม” ทุกครั้งคำถามก็ยังคงเหมือนเดิม แต่คำตอบที่ได้ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะกระจ่างชัดหรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเขาเองที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจ
“เพื่อรอยยิ้มของนาย.. ทุกสิ่งมีแค่นี้แฮซ เพราะความสุขของนายก็คือของ...ฉัน นั่นคือความหวังและเหตุผลที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้...แต่วันนี้มันกำลังจะหายไป..พ..เพราะฉัน ถ..ถ้าไม่มีฉัน..นาย..ก็จะมี..ความสุข...” เสียงที่เริ่มขาดหายไปเช่นเดียวกับสติที่เริ่มจะเลือนลาง ดูเหมือนว่าการจะมองใบหน้าคมคายของคนที่โอบอุ้มตนเองตอนนี้ช่างยากลำบากเหลือเกิน
“ข..ขอโทษที่ทำให้ชีวิตนายพัง...” ดวงตาสีฟ้าหม่นปรือลงอย่างช้าๆ เป็นสัญญาณให้รู้ว่าเวลาของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว
“นายจะไม่เป็นไร...อดทนไว้นะ” ลำแขนแกร่งกระชับคนที่เริ่มตัวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ เข้ามาแนบชิด รอยแผลนั้นยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่ขาดสายแต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามกดมันไว้อย่างเต็มที่
ได้โปรดพระผู้เป็นเจ้า...
อย่าพึ่งพรากเขาไปจากผม
อย่าช่วงชิงสิ่งสำคัญของผมไปเลย...ได้โปรด
ลมหายใจอันรวยรินกับความรู้สึกอันตายด้านที่เกินกว่าจะรู้สึกเจ็บปวดได้แล้วบ่งบอกถึงเวลาที่หดหายไปทีละน้อย ดูเหมือนเวลาของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว ถึงจะน่าเสียดายที่ระยะเวลาภายใต้อ้อมแขนแกร่งนี้ช่างสั้นเหลือเกิน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอเวลาเขาอีกนิด
อย่างน้อยให้เขาได้บอกมันออกไป
ก่อนที่เราอาจจะไม่ได้พบกันอีก
.
.
“ฉันรักนายมากนะ แฮร์รี่”
ความในใจที่เก็บไว้มาเนิ่นนานตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน เพียงเพราะความใจดีนั้นทำให้เขาได้มีชีวิต เพราะรอยยิ้มนั้นทำให้เข้าใจคำว่าความสุข เพราะคนๆ นี้ทำให้เขาได้รู้จักความรัก ในความเป็นจริงเราต่างไม่เคยมองกันและกันเป็นพี่น้องเพราะรู้ดีว่าเรานั้นไม่ใช่ พอมารู้สึกตัวอีกทีสิ่งที่เขาสัมผัสได้ก็มีเพียงคำว่ารัก…
“ล..ลูอิส เฮ้...อย่ามาเล่นตลกกับฉันนะ” ร่างในอ้อมอกที่หลับตาลงสนิทไปทำให้ร่างสูงกระตุกวูบ อ้อมแขนแกร่งเขย่าคนในอ้อมกอดพลางคิดในใจว่าอีกฝ่ายอาจจะแค่แกล้งเขา
“นี่...นายจะไปแบบนี้ไม่ได้นะ ฮ..อึก นายยังไม่ได้ฟังคำตอบจากฉันเลย” ตอนนี้เสียงจากคนตัวเล็กที่ไม่เคยส่งถึงได้ฝังรากลึกลงไปภายในหัวใจที่แหลกสลาย แต่ทำไมกัน...ทำไมครั้งนี้กลับเป็นเสียงของเขาที่ส่งไปไม่ถึง
“ไหนบอกว่าจะทำให้ฉันมีความสุขไง...อึ่ก...ตอนนี้ฉันไม่มีความสุขเลยสักนิด ไม่มี...” กว่าจะได้เข้าใจก็สายเกินไปแล้ว ทั้งที่เคยคิดมาตลอดว่าชีวิตของเขาคงจะดีกว่านี้หากไม่มีคนในอ้อมกอดแต่เปล่าเลย
ไม่ใช่แค่คนในอ้อมกอดหรอกที่เป็นคนขี้โกหก
เขาเองก็ไม่ต่างกัน...ตัวเขาที่มันเป็นเด็กจอมโป้ปด
ชอบเอาศักดิ์ศรีมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองนั้นไม่ผิด
ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจถึงทุกความหมายของความหวังดี...
แต่ทุกครั้งกลับมองข้ามทุกความห่วงใยที่อีกฝ่ายนั้นมอบให้
ปฏิเสธทุกความสุขที่ตัวเองนั้นเฝ้าปรารถนา
ทั้งที่...เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้จ้องมองดูผู้ชายคนนี้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แฮร่ การหักมุมที่ดีคือความไม่แน่นอน555
ที่จริงตอนแรกที่เร็นวางพล็อตนี่โหดกว่านี้แต่พอเอาไปปรึกษาคนอื่นทุกคนนี่ส่ายหัวไปมาระรัว
ตอนแรกฉากยิงนั่นจะเป็รแฮร์รี่เป็นคนยิงและเนื้อหาเข้าสู่ดาร์กไซด์โดยสมบูรณ์
แต่ตอนหลังก็ชอบอีกพล็อตคือพล็อตนี้มากกว่าที่......//สัญญาณขาดหาย
ถ้าจบเรื่องนี้แล้วยังมีคงตาม...แล้วอยากอ่านโหมดดาร์กไซด์บอกได้นะคะจะเขียนลงให้555 เป็นตอนจบแบบที่ 3 ไป
ตอนนี้หนังสือเหลือ 30 เล่มแล้วนะคะมีคนติดต่อซื้อไปแล้ว(ดีใจ อิอิ)
ใครที่ยังสนใจแล้วไม่อยากรอถึงอาทิตย์หน้ายังติดต่อซื้อเข้ามาได้นะคะ
โอนวันนี้ส่งของให้พรุ่งนี้ค่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอัพต่อแบบมึนๆ ตอนนี้ไม่สบายแบบไม่อยากลุกขึ้นมาเลยแต่เราต้องลุก5555
รู้ว่ายังมีคนตามนะ555ดูจากยอดวิวเอา แต่เม้นได้น้า เร็นจะได้ไม่เหงา
เจอกันที่เก่าเวลาเดิม ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วซึ่งบอกได้แค่ว่าตอนจบต่างจากในหนังสือนะคะ
ใครที่อ่านแล้วชอบก็ยังสั่งซื้อได้นะ 30 เล่มเท่าเดิม 555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

20 ความคิดเห็น
-
#20 Katou Laltryashki (จากตอนที่ 14)วันที่ 22 เมษายน 2560 / 18:24ฮ โฮฮฮฮฮฮฮฮ นี่มันอะไรกัน ฮืออ#200
-
#13 กานตา (จากตอนที่ 14)วันที่ 5 มิถุนายน 2559 / 16:24สนุกมากเลยค่ะแต่จะจบเราม่าไหมเนี่ย งืออ .__.#130