คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 07 ; Please comeback
please comeback
{ 07 }
“ เอ่อ.. คุณครับ ได้ยินหมอรึเปล่าครับ? คุณครับ? ” ชายหนุ่มผมดำในชุดกราวน์สีขาวแตะหัวไหล่คู่สนทนาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปนาน
“ หะ หา? ” เซฮุนหลุดจากภวังค์ ดวงตาเรียวเหลือบมองไปยังฝ่ามือของคุณหมอตรงหน้าแล้วยิ้มแหย
“ คุณใช่คนที่มาส่งคนไข้ที่ชื่อ อู๋อี้ฟาน หรือเปล่าครับ? ” คิ้วเรียวของคุณหมอไคขมวดเป็นปมอย่างหัวเสีย
“ เอ่อ.. ”
“ เฮ้อ ผู้ชายผมทองๆที่ตัวเปียกโชกนะครับ สรุปคือไม่ใช่ญาติ ใช่ไหมครับ? ” ไคถอนหายใจอย่างปลงๆ กับท่าทีเงอะงะของคนตรงหน้า
“ อ๋อ ผมแค่มาส่งเฉยๆ รุ่นพี่อยู่ข้างในน่ะครับ ไม่ใช่ญาติแต่ก็คงไม่ต่างเท่าไหร่ ” เซฮุนตอบหลังจากเริ่มตั้งสติได้ ชายหนุ่มยกมือขึ้นถูท้ายทอยของตนแก้เก้อ
“ ขอบคุณมากครับ ” คุณหมอหนุ่มพูดก่อนหันตัวไปเคาะบานประตูสีขาว
ก็อกๆ แอ๊ด..
“ ขออนุญาตครับ ” เสียงเคาะประตูตามมาด้วยการเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะของนายแพทย์หนุ่มแล้วตบท้ายด้วยคำขออนุญาติ ซึ่งดูจะเป็นการเรียงลำดับที่ผิดพลาดเอามากๆสำหรับตอนนี้ ทำเอาคนป่วยกับคนเฝ้าไข้สองคนที่กำลังกอดกันกลมผละออกจากกันแทบไม่ทัน แก้มขาวๆของคนเฝ้าไข้ขึ้นสีแดงสดราวกับกำลังเป็นไข้เสียเอง ขณะที่คนป่วยตวัดดวงตาคมไปมองวิวยามค่ำคืนข้างนอกหน้าต่างราวกับมีอะไรที่น่าสนใจมากมายเอาซะดื้อๆ
“ เอ่อ... หมอมาขัดจังหวะรึเปล่าครับ เอ่อ.. คือ หมอขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ” ไคเหงื่อตก คุณหมอหนุ่มโค้งเร็วๆเป็นการขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะหวานแหววของคนทั้งสอง
“ เปล่าครับ!/ไม่เป็นไรครับ ” คำตอบที่ต่างกันทำให้ ชานยอลหน้าแดงหนักกว่าเดิม ชายหนุ่มหันใบหน้าหนีเจ้าของคำตอบ ‘ไม่เป็นไร’คนนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองอยู่
‘ บ้า.. ตัวเองไม่เป็นไร แต่เขานี่สิเป็นเต็มๆ ’ ชานยอลบ่นพึมพำในใจ
“ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าครับ? ” คริสหันหน้ากลับมามองคนที่เข้ามาขัดจังหวะ น้ำเสียงเรียบเฉยถามคนตรงหน้าเหมือนที่ทำเป็นประจำเวลาคุยกับคนอื่นๆ
สำหรับคนอื่นแล้วล่ะก็....
อยากจะเห็นรอยยิ้มของเขาน่ะเหรอ?
อย่าหวังให้ยาก.. เพราะมันมีไว้ให้คนๆเดียวเท่านั้นน่ะสิ
ถ้อยคำหวานๆและน้ำเสียงอบอุ่น.. พวกนี้ก็ด้วย
จะเอามาโชว์บ่อยๆได้ยังไง เดี๋ยวเจ้าของงอนขึ้นมาคนที่ต้องเหนื่อยง้อก็เป็นเขาอีก
เพราะว่ายกให้ไปหมดแล้วไง..
กับคนอื่นๆ.. คริสก็เป็นแค่คนเย็นชาเฉยเมยที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ก็เพราะว่ายกให้แม่มดตัวร้ายคนนั้นไปแล้ว..
เจ้าชายคนนี้เลยไม่มีเหลืออะไรไว้ให้คนอื่นๆ
“ เรื่องนี้น่ะครับ ” ไคตอบพลางชี้มาที่แฟ้มสีฟ้าที่เขาถือไว้แนบอก
“ อ๋อ ครับ ” คริสตอบเสียงเรียบอย่างเข้าใจดี ก่อนหันไปพูดกับคนที่ยืนไม่ห่างจากเตียงเท่าไหร่นัก
“ พี่.. หิว ”
“ หา? หิว? ดึกแล้วนะฮยอง ผม.. ”
“ ลักหลับคนอื่นแล้วยังจะ.. อุ๊บ! ” ฝ่ามือของชานยอลเอื้อมไปปิดปากของคนป่วยพูดมากแทบจะในทันที ชายหนุ่มพยักหน้าเร็วๆสองสามครั้งเป็นเชิงว่า ‘ก็ได้ๆ ผมยอมแล้ว ฮยองอย่าพูดนะ’
“ อยากกินอะไรอุ่นๆ หามาให้หน่อยนะ .. นะครับ ” รอยยิ้มที่แพ็คคู่มากับดวงตาแพรวพราวไปด้วยรอยยิ้ม ในทันทีที่เขาละมือออกจากปากของคนป่วย ทำเอาชานยอลไม่มีแรงจะปฏิเสธได้อีก
‘ให้ตายเถอะ.. นี่เปียกฝนจนเพี้ยนไปแล้วรึไง ไอ่นะ นะครับ นั่นทำเอาใจสั่นแทบบ้า’ เป็นครั้งแรกที่ชานยอลรู้สึกถึงความเอาแต่ใจของคนต่อหน้า หรือว่าที่จริงแล้วคนตัวสูงจะแกล้งยอมอ่อนข้อให้เขามาตลอด พอเห็นเขาแคร์เข้าหน่อยเลยเอาใหญ่ ..
หรือเป็นหัวใจของเขาเองกันแน่นะ.. ที่ปล่อยให้ดวงตาคมกับรอยยิ้มอบอุ่นของคนๆนั้นเข้ามามีอิทธิพลมากขนาดนี้
มากขนาดนี้?... ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ?!?
ปาร์คชานยอลทวนความคิดของตัวเองด้วยความประหลาดใจขณะที่สาวเท้าออกไปนอกห้อง มือบางวางทาบอกของตัวเอง ใบหน้าที่ดูตกตะลึงของเขากับอาการเหม่อลอยจนเดินเลยคนขับรถกิติมาศักดิ์ที่นั่งรออยู่ข้างนอกไปซะเฉยๆ ทำเอาเซฮุนวิ่งตามรุ่นพี่ของเขาแทบไม่ทัน
“ เฮ้ย พี่ชานยอล รอผมด้วยสิ! ”
คริสมองตามใบหน้าเอ๋อๆที่ดูมึนงงของชานยอลไปจนลับสายตา ดูท่าคำพูดของเขาคงจะมีผลไม่น้อยกับอีกฝ่าย คนตัวสูงอมยิ้มน้อยๆเมื่อคิดได้ว่า อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีความหมายกับปาร์คชานยอลขึ้นมาบ้างแล้ว
“ คุณคริสครับ” หลังจากถูกปล่อยให้ยืนเก้อมานาน ไคผู้ที่รอจนรากงอกจึงเอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศปลาบปลื้มดีใจที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วห้อง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนไข้ในความดูแลของเขา
“ ครับ? ผมจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่? ” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียกของอีกฝ่ายพร้อมกับคำถาม
“ พรุ่งนี้ก็กลับได้แล้ว แต่อย่าลืมมาตรวจร่างกายทุกๆสามเดือนนะครับ ”
“ ตอนนี้ทุกอย่างยังปกติดีใช่ไหมครับ? ”
“ ครับ ในตอนนี้นะ ” ไคพูดพลางเก็บปากกาใส่กระเป๋าเสื้อ คุณหมอหนุ่มส่งรอยยิ้มบางๆให้กับคนไข้ของเขาแล้วค่อยๆเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนตัวโตอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง
-*-*-*-*-
“ ถ้ามันไม่อร่อย พี่จะฆ่านาย ” เสียงขู่ฟ่อๆของคนที่นั่งประคองถุงบะหมี่อยู่ที่เบาะหลังทำให้เซฮุนยิ้มกว้าง
“ สำคัญมากเหรอครับ? ผู้ชายคนนั้น ” คำถามของรุ่นน้องที่จู่ๆก็ถามขึ้นเรียกสีหน้ามึนๆของชานยอลให้ปรากฏอีกครั้ง
“ หา? เห? ”
“ คนที่อยู่ที่โรงพยาบาลไงครับ ” ภาพชายหนุ่มผมสีทองแวบเข้ามาในความคิดของชานยอลทันที หนุ่มรุ่นพี่ได้แต่สะบัดหัวรัวๆเพื่อไล่ภาพของคนๆนั้นออกไป
“ เฮ้ย ไม่เลย ใช่ที่ไหน ” ใบหน้าแดงๆกับดวงตาล่อกแล่กนั่นทำให้เซฮุนหลุดขำออกมาพรืดใหญ่
“ โกหกไม่เก่งแล้วยังจะพยายามอีกนะครับ ”
“ เซฮุน ฉันบอกว่าเปล่าก็เปล่าสิ ” คิ้วเรียวของชานยอลขมวดมุ่นด้วยความขัดใจที่อีกฝ่ายจับทางได้
“ ถ้าไม่สำคัญจริง ป่านนี้เราสองคนคงไม่ต้องออกมาซื้อบะหมี่หรอกมั้งครับ ” เซฮุนเอ่ยแซวอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ การได้แกล้งคนปากแข็งนี่เป็นอะไรที่สนุกสุดๆสำหรับเขาเลยทีเดียว
“ ก็แค่ดูแลคนป่วย.. ” เสียงตอบกลับเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ชานยอลรู้สึกเหมือนกำลังโดนต้อนจนจะจนมุมอยู่แล้ว
“ งั้นพี่คงเป็นพยาบาลที่ดีน่าดูเลยนะครับ ตอนพาเขาไปโรงพยาบาลเนี่ย กอดไม่ปล่อยเลย ”
“ เปล่าสักหน่อย.. ” ให้ตายสิ เขามันโกหกไม่เก่งเลยจริงๆ
“ จริงๆเหรอครับ? ”
“ .... ”
“ ไม่สำคัญเลยเหรอ? ” เซฮุนยิ้มเจ้าเล่ห์ล้อเลียนอีกฝ่ายผ่านทางกระจกส่องหลัง อีกนิดเดียวเท่านั้นแหละ...
“ ไม่ ”
“ จริงๆอ่ะ? ”
“ โว้ยยย นายนี่ ” ชานยอลยกมือขึ้นปิดใบหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ซ่อนใบหูแดงๆให้รอดพ้นสายตาของเซฮุนไปไม่ได้
“ สำคัญก็บอกมาดีกว่าน้า.. ”
“ ก็เพราะไม่สำคัญไง! ”
“ โธ่ ผมล่ะสงสารพี่เขาจริงๆนะ ถ้ามาได้ยินนี่คงเสียใจแน่ๆ ”
“ โอเซฮุน! ” ปาร์คชานยอลตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายลั่นรถ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยให้รุ่นน้องของเขาหยุดพูดได้เลย
“ ไม่สบายตัวแล้วยังต้องไม่สบายใจอีก ถ้าผมเป็นพี่เขานะ ป่านนี้คงร้องไห้น้ำตาท่วมไปแล้ว ”
“ ก็...ก็... มะ.. ไม่สำคัญน้อยไงเล่า! ” สุดท้ายคนแก่กว่าก็โดนต้อนจนจนมุม ริมฝีปากบางเม้มแน่นหลังจากเผลอตัวโพล่งออกไปเสียงดัง
“ ไม่สำคัญน้อย? พี่ครับ มันคืออะไรน่ะ ” ชายหนุ่มรุ่นน้องขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ศัพท์อะไรของปาร์คชานยอลล่ะเนี่ย
“ ไม่สำคัญน้อย... ก็.. รักมากไง ” ดวงตากลมเหลือบมองต่ำ ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อรู้สึกตัวว่าพูดผิดพลาดครั้งใหญ่ไปซะแล้ว
“ มะ..มะ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันพูดผิด ”
“ พี่พูดเองนะครับ.. ผมยังไม่ได้ถามเลยว่ารักหรือเปล่า? ”
“ ไม่ใช่รัก! ฉันหมายถึง ไม่สำคัญน้อย แต่สำคัญมากต่างหาก .. หยุดแกล้งฉันได้แล้ว! ” ปาร์คชานยอลทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่อเห็นดังนั้นเซฮุนจึงงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้
“ ครับผมไม่แกล้งแล้ว.. แต่ขอเอาเทปนี้ไปให้พี่เขาฟังนะครับ ” มือหนาชูโทรศัพท์ในมือแกว่งไปมาเป็นเชิงว่า เขาได้อัดที่อีกฝ่ายพูดเอาไว้ในนี้จนหมดแล้ว
“ โอเซฮุน อย่านะ ม่ายยยยยยย! ” เสียงอ้อนวอนโหยหวนดังลั่นในรถอีกพักใหญ่ๆ จนทั้งสองกลับมาถึงโรงพยาบาลนั่นแหละ คนที่โวยวายถึงได้เงียบเป็นเป่าสากขณะที่ก้าวดุ่มๆหอบข้าวของที่ซื้อมาเข้าห้องพักคนไข้ไปโดยทิ้งหนุ่มรุ่นน้องไว้จัดการภายหลัง
“ มีความรักนี่มันดีชะมัดเลยเว้ย! ” ชายหนุ่มตะโกนก้องไปกับท้องฟ้ายามราตรี แขนแกร่งรวบเข้าหาตัวเพื่อคลายความหนาวเย็น
ฤดูฝนกำลังผ่านไปแล้ว... อีกไม่นานหิมะแรกคงจะมาเยือน ...
หิมะแรก... ที่ทำให้เขาได้เจอกับคนที่มีเจ้าของคนนั้น...
“ ลู่หาน... ”
...ให้ตายเถอะ เขาเลิกคิดถึงดวงตากลมโตคู่นั้นไม่ได้เลยจริงๆ....
มาบ่นกับไรท์เตอร์ ;
เย้ยยย มันหดสั้นอีกแล้ว *โดนรุมตบ*
เอาน่าๆเดี๋ยววันเสาร์อาทิตย์จะมาอัพตอนยาวๆให้นะคะ
ช่วงนี้ทุกอย่างช่างดูหวานแหววสีชมพูซะจริง เป็นช่วงที่ไม่ถนัดเลย(แปลว่าเอ็งชอบดราม่าสินะ)
โหยย ก็เค้าเห็นพวกตัวร้องไห้กันมาหลายแล้ว ขอเอามดมาเรียกน้ำตาลกันบ้าง
๕๕๕๕ แต่อย่าคิดนะคะว่าจะปล่อยให้สองคนนี้มีความสุขนาน
ไรท์เตอร์ซาดิสม์ชอบนักล่ะค่ะ ทรมาณเมนตัวเอง #เอาให้มันร้องแอร๊ยๆไปเลย
ช่วงนี้ก็ถือเป็นช่วงพักผ่อนก่อนที่จะเข้าสู่... //ตัดสปอยลล์ชึ้บ!
ยังไงก็อย่าทิ้งกันไปไหนล่ะ รักนะคะ จุ้บๆ :D
ปล.ขอขอบคุณกำลังใจจากทางทวิตเตอร์ด้วยนะคะ รักพี่ตูนจุ๊บุๆ ใครฟอลมาก็ทักได้เน้อ พลับไม่กัดค่ะ!
อยากให้ไรท์เตอร์จำชื่อได้เม้นท์/เมนชั่นแล้วบอกชื่่อมาเลยค่ะ เค้าไม่มีทางลืม! //อะไรของเธอ
เจอกันตอนหน้า ราตรีสวัสดิ์ฝันดีนะคะ!
ความคิดเห็น