ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NEVER KNEW I NEEDED ; { Krisyeol }

    ลำดับตอนที่ #7 : 06 ; So , my dear

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 55


    cinnamon

     

     



    So, my dear please comeback to be my sunshine ..


    { 06 }

     



     

    “ เพราะผมคงเป็นได้แค่แม่มดชั่วร้ายที่กำลังตกหลุมรักเจ้าชายผู้แสนดี  เพียงแค่นั้น ”

     

     

     

    ชานยอลปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอีกระลอกด้วยหลังมือ  ชายหนุ่มหันกายออกจากเตียงช้าๆ เมื่อคิดว่าบางทีคนที่กำลังนอนอยู่อาจจะต้องการพักผ่อนก่อนที่จะตื่นขึ้นมา  ขาเรียวที่กำลังย่างก้าวห่างออกจากเตียงหยุดชะงักเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสของบางสิ่ง ..

     

    บางสิ่ง..ที่อบอุ่น อ่อนโยนและมั่นคงไม่เคยเปลี่ยนแปลง..

    อ้อมกอดของคริสฮยอง..

     

         สัมผัสที่มาจากวงแขนแกร่งของคนที่เขาคิดว่ากำลังหลับ  อ้อมกอดอบอุ่นที่กระชับแน่นบริเวณเอวของคนตัวบาง จมูกโด่งเป็นสันที่แนบลงชิดกับแผ่นหลังจนทำให้หัวใจเต้นรัว  ลมหายใจอุ่นๆของคนตัวสูงที่เข้าออกเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอทำให้หยดน้ำตาไหลลงมาอีกอย่างช่วยไม่ได้

     

    เขาไม่ได้ร้องไห้หนักแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ....

    “  ทำไมถึงคิดแบบนั้น..  เด็กขี้แยแถมยังชอบเอาแต่ใจแบบนายจะเป็นแม่มดร้ายได้ยังไงกัน?   ”   เสียงทุ้มแหบแห้งกว่าปกติเล็กน้อย  ถ้อยคำที่สมกับเป็นอีกฝ่ายทำให้เขามั่นใจว่าไม่ได้กำลังฝันอยู่

     

    “  เพราะพี่ไม่ยอมตื่นนี่..  ”    ชานยอลตอบโดยไม่หันกลับไปมองเจ้าของคำถาม  มือเรียวยกขึ้นจัดการกับน้ำตาของตัวเองจนเรียบร้อย

     

    “  ตื่นนานแล้ว..  แต่อยากลองนอนหลับตาอยู่อย่างนั้น ”  เสียงแหบๆนั่นตอบหน้าตาเฉย  ชานยอลขมวดคิ้ว ใจหนึ่งอยากจะโกรธ แต่พอนึกภาพที่ชายหนุ่มผมทองนอนหลับตาพริ้มไม่ตอบสนองแบบนั้น คำต่อว่าก็ถูกกลืนกลับลงลำคอไปในทันที

     

    “ แล้วเห็นมั๊ย? ถ้าไม่นอนนิ่งๆแบบนั้นคงไม่เห็นคนบางคนลักหลับคนอื่นหรอก    ”   อีกฝ่ายว่าต่อพลางกระชับวงแขนให้รัดแน่นมากยิ่งขึ้นจนคนถูกกอดต้องก้าวถอยหลังจนชิดขอบเตียง

     

    “ ตากฝนจนไม่สบาย.. แต่ได้ค่าตอบแทนแบบนี้  สำหรับฉัน..  มันคุ้มค่ามากนะ   ” 

     

    อีกแล้ว...    คนๆนี้ไม่เคยโทษเขาเลย   ไม่เคยต่อว่าหรือพูดให้เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ

    ซ้ำยังมาพูดว่ามันคุ้มกับการต้องตากฝนจนไม่สบาย..   

     

    “  ไม่ตลกนะ  ”   ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยก่อนขบเม้มอย่างสกัดกั้นอารมณ์

     

    “ หืม?  ”   อ้อมกอดอบอุ่นคลายออก มือหนาออกแรงดึงข้อมือให้คนที่ยืนอยู่หันกลับมาสบตาตนเอง

     

    “ ทำไมไม่ด่าผม  ไม่ว่าผม  .. ฮยองทำเหมือนผมไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทั้งๆที่ผมปล่อยให้ฮยองตากฝนอยู่นานขนาดนั้น ทั้งๆที่ผมลืม...  ”  

     

    “ ทั้งๆที่ผมเป็นคนลืม...  ทำไมถึงไม่โกรธ..    ”   เสียงสั่นเครือร่ายยาวเป็นชุด  ทำนบน้ำตาแตกออกอีกครั้ง หยาดน้ำใสๆไหลอาบแก้มนวล

     

    “  หนึ่งชั่วโมง..    ”   คำพูดของคนที่ถูกลืม ทำให้มือเรียวที่กำลังปาดน้ำตาค้างเติ่ง ดวงตากลมเบิกกว้างกับความจริงที่พึ่งได้รับรู้

     

    “ พี่...นั่งรอนายอยู่ตรงนั้นหนึ่งชั่วโมง..  หนึ่งชั่วโมงที่นั่งมองท้องฟ้าร้องไห้งอแงไม่ต่างจากนายตอนนี้  ”   มือหนายกขึ้นลูบแก้มนวลของคนขี้แยอย่างปลอบประโลม คำแทนตัวที่ไม่ได้ใช้มานานทำเอาใบหน้าคมร้อนผ่าว  ไม่เคยชินที่จะเรียกตัวเองว่าพี่เท่าไหร่  แต่ครั้งนี้เขาก็เลือกที่จะใช้มันอีกครั้ง

     

    “  หกครั้งที่นายจูบพี่..  ”   รอยยิ้มที่ไม่เคยมอบให้คนอื่นปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของคนพูด  แววตาจริงใจที่ยืนยันได้ว่าชายหนุ่มไม่ได้พูดโกหก

     

    “  สิบนาทีต่อหนึ่งจูบ..  มันก็คุ้มดีออก ถ้าเทียบกับเวลาที่พี่ใช้รอนายมาตลอด  ”    มือหนากุมฝ่ามือบางมาแนบกับแผ่นอกกว้าง

     

    “ จูบที่มาจากใจ ไม่ใช่แค่การแกล้งทำเหมือนที่ผ่านมา..  ต่อให้ต้องตากฝนรอทั้งวัน..พี่ก็จะทำ  ”  แววตาจริงจังไร้ซึ่งการล้อเล่นยิ่งทำให้ชานยอลเจ็บปวด

     

    “ ผมขอโทษ..   ฮยอง..ผมขอโทษ  ”   เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มโผเข้ากอดอีกฝ่าย ใบหน้านวลกดลงกับไหล่กว้าง  สัมผัสเย็นชื้นที่หัวไหล่ทำให้คริสรู้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังร้องไห้.. 

     

    “  ไม่ว่าหัวใจของนายจะเป็นของใคร...     ”     เสียงทุ้มเว้นจังหวะ

     

    “   ต่อให้นายยังลบเขาออกไปจากใจไม่ได้  ”    มือหนาลูบแผ่นหลังของอีกฝ่าย ขณะที่ยังคงพูดต่อไป

     

    ประโยคที่ออกมาจากใจ ไร้ซึ่งการปรุงแต่งใดๆ...  เหมือนความรู้สึกที่เขามีต่ออีกฝ่าย

    คริสกำลังถาม.. 

    ถามปาร์คชานยอลด้วยคำถามเดียวกับเมื่อหนึ่งปีก่อน

    และหวังว่าคำตอบของคนๆนี้จะไม่เปลี่ยนไป..

     

     

    “ ให้พี่เป็นคนดูแลหัวใจที่เจ็บช้ำของนายได้หรือเปล่า?  ”    

     

     

     

    -*-*-*-*-*-*-

     

     

    “  ฟื้นแล้วสินะ  ”   เซฮุนลอบมองผ่านช่องกระจกเล็กๆหน้าประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย  ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นรุ่นพี่ของเขาอยู่ในอ้อมกอดของคนๆนั้น 

     

    “ แบบนี้ก็คงไม่มีอะไรน่าห่วง  ”    ชายหนุ่มพึมพำขณะทิ้งตัวลงกับที่นั่งสาธารณะหน้าห้องพักคนไข้ เขาทอดสายตาไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย

     

    โรงพยาบาลในยามดึกดูเงียบสงบกว่าหลายๆครั้งที่เขาเคยเข้ามา

    สงบจนทำให้รู้สึกโหวงเหวงชอบกล...  

     

    “ ขอโทษนะครับ คุณใช่ญาติของผู้ป่วยหรือเปล่าครับ?  ”     เสียงทุ้มกว้างของใครสักคนเรียกให้เขาหันกลับมามอง

    “  .....    ”     ทันทีที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย ดวงตาคมจึงเบิกกว้างด้วยความตกใจ

     

    ให้ตายเถอะ..   นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว!

     

    “  เอ่อ...  คุณครับ ผมนายแพทย์ไค หมอเจ้าของไข้.. ไม่ทราบว่าคุณใช่ญาติของคุณอู๋ฟานหรือเปล่าครับ?   ”  

     

    โลกกลมเกินไปแล้วหรือเปล่า? ที่คุณหมอผมดำผู้ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้... 

     ดันบังเอิญเป็นคนเดียวกับที่จูบลู่หานในลานจอดรถหอสมุดเมื่อตอนนั้น ?!

    โอย...  โอ เซฮุนอยากจะบ้าตาย...

     

    -*-*-*-*-*-

     

     

     

    “  ไม่เอา....  ”    คำตอบของชานยอลทำให้คริสตกใจ  ไม่ได้คิดเอาไว้เลยว่าอีกฝ่ายจะตอบแบบนี้..

     

    “  ทำไมล่ะ?  ”   กลั้นใจถามทั้งๆที่กำลังเจ็บปวดจนใจจะขาด 

     

    ชายหนุ่มรู้ดีว่าแทบจะไม่มีหวังที่เขาจะได้รับความรักจากอีกฝ่ายเช่นเดียวกับที่เขามอบให้..

    แต่ถึงจะไม่มีหวัง   แต่เขาก็อยากอยู่เคียงข้างคนๆนี้..

     

    เพราะแบบนั้นถึงได้ร้องขอ..

     

    ขอแค่ได้ดูแลหัวใจที่เจ็บช้ำดวงนั้นก็พอ...  ไม่ต้องมีสิ่งใดตอบแทน

     

    เขาไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ..   แต่คำตอบเมื่อครู่ทำเอาเขาพูดอะไรต่อไปไม่ถูกไปชั่วขณะหนึ่ง.. 

    ขอแค่นั้น...  ปาร์คชานยอลยังให้เขาไม่ได้เลยงั้นเหรอ?

     

     

    “ พี่ไม่ได้หวังให้นายมารัก..  พี่รู้อยู่ตลอดว่านายยังไม่พร้อมให้พี่เข้าไปอยู่ในนั้น  ”  คริสดันตัวอีกฝ่ายออก มือหนาทาบลงไปบริเวณที่มีสิ่งที่เขาพูดถึงอยู่  รอยยิ้มแสนเศร้าฉายชัดบนใบหน้าคมคาย  ร่องรอยความเศร้าที่กระจายตัวจนชานยอลยกมือบางทั้งสองข้างขึ้นแนบแก้มของเขา

     

    “  ให้พี่ไม่ได้เลยเหรอ?..  แค่ช่วยดูแลหัวใจ ไม่ใช่เข้าไปเป็นเจ้าของ  นายก็ให้ไม่ได้เหร..  ”   ริมฝีปากบางที่ทาบทับลงมาอย่างรวดเร็วดูดกลืนถ้อยคำที่เขากำลังจะพูดต่อไปจนหมด  สัมผัสนุ่มละมุนที่ทำให้หัวสมองขาวโพลน

     

     

    ปาร์คชานยอลกำลังจูบเขาอยู่...จริงๆ

     

     

    “ ถ้าเป็นเมื่อก่อน  ผมคงอนุญาตไปแล้ว  ”   เจ้าของใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ตอบหลังจากถอนริมฝีปากของตนออก

     

    “  ทำไมไม่ลองขอให้ผมรักฮยองบ้าง?  ”  

     

    “ ไม่อยากถูกปฏิเสธ..    ”   เสียงทุ้มตอบสั้นๆ

    “ แล้วที่ผ่านมาไม่เสียใจเหรอที่ผมทำแบบนั้น.. หลอกใช้ความรัก  ใช้ความใจดีของฮยองรักษาหัวใจของตัวเอง  ”  

    “  แค่นายอยู่ข้างๆมันก็เกินพอ..  ”  

    “  ดีเกินไปแล้ว  ”   ชายหนุ่มตรงหน้าตัดพ้อ

     

    “  ผมจะไปหาคนแบบคริสฮยองได้จากที่ไหนอีกนะ..    ”    เสียงหัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะกลบเสียงของเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ถึงแบบนั้นหูของเขาก็ยังได้ยินประโยคของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

     

    “ มีอยู่ตรงนี้แล้วยังจะไปหาที่ไหนอีก?  ”   คริสตอบพร้อมอ้าแขนให้อีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆ

    “  เรามาลองรักกันจริงๆดีไหม?..      ”   คำถามที่เร่งให้จังหวะหัวใจของชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองเร็วขึ้นอีก ขณะที่อีกฝ่ายกลับมาซุกตัวลงในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง

     

    “  ให้ผมได้ตอบแทนความรู้สึกของฮยองบ้าง  ” 

     

    “ คำว่าตอบแทน...มันไม่ใช่ความรักซะหน่อยเด็กดื้อ  ”    มือหนายีผมคนในอ้อมกอดด้วยความเอ็นดู 

    “  แล้วต้องใช้คำว่าอะไรถึงจะหมายถึงความรัก?  ”   คำถามซื่อๆที่ทำเอาเขาไปต่อไม่ถูก  จริงๆชายหนุ่มก็ไม่รู้หรอก ว่า แท้จริงแล้ว..  ความรัก มันคืออะไรกันแน่

     

    “  ไม่รู้..     ”   

    “  เรื่องแบบนี้มันเข้าใจยากชะมัด  ”    ปาร์คชานยอลบ่นอุบอิบ  สำหรับเขาแล้ว...  ในตอนนี้แค่ได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดนี้ก็มากเกินพอ

     

    “ สักวันนายจะเข้าใจ  ” 

    “  ภาษาคนแก่เด็กไม่เข้าใจครับ..  ”    เจ้าตัวยุ่งที่หยุดร้องไห้ไปแล้วบ่นงึมงำ

    “  เรามาลองรักกันจริงๆดีไหม? .. เรื่องแบบนี้มันลองได้ซะทีไหน  ถ้ารักไปแล้ว  มันถอนตัวออกมาไม่ได้หรอก  ”

    “ ผมจริงจังนะ..   ”   

    “ มั่นใจแล้วเหรอว่าไม่ได้หลอกตัวเองน่ะ หืม?  ”    นิ้วเรียวเกลี่ยข้างแก้มนวลเบาๆ

    “  ให้เวลาผมพิสูจน์ตัวเองหน่อยสิ  ”    พนันได้เลย คริสเชื่อว่าคนในอ้อมกอดคงกำลังทำหน้ายู่ปากจู๋แน่ๆ

    คนที่ทำให้เขายิ้มออกมาได้ง่ายๆ คงมีแต่คนๆนี้เท่านั้น..

    พิสูจน์ตัวเองงั้นเหรอ?... 

     

     

    “  แค่อย่าเห็นพี่เป็นตัวแทนของใครก็พอ...  ได้ไหม?   ”

    “  อื้ม..  ผมสัญญา..  ”  

     

    คริสไม่ได้หวังว่าชานยอลจะพูดคำว่าสัญญา เพราะแค่อีกฝ่ายรับปากว่าจะทำ

    หัวใจของเขาก็พองโตด้วยความสุขที่ล้นปริ่มจนแทบทะลัก

     

    คงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด...  ถ้าปาร์คชานยอลหันหลับมารักเขาบ้าง

     

    แต่แค่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนี้...    มันก็เกินกว่าที่เขาเคยวาดฝันเอาไว้เสียอีก..

    วันนี้เป็นวันที่คริสจะจำไปจนวันตายอย่างแน่นอน..

    วันที่ปาร์คชานยอล จูบแล้วก็กอดเขาก่อน..

    วันที่การกระทำทั้งหมดออกมาจากใจ..  ไม่ใช่การแกล้งทำเหมือนทุกที

    วันที่เขาได้เข้าใกล้คำว่า “  รัก  ” ของคนๆนั้นมากขึ้นไปอีกนิด

     

     

    “ ถ้านายเป็นแม่มดจอมวายร้าย....  ”

    “  ดูท่า...  เจ้าชายคงหลงเสน่ห์แม่มดตัวร้ายจนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้วล่ะ  ”

     





    writer's part ;
    ง่วงจังเลย...  *โดนนักอ่านเตะปลิว*
    แวะมาอัพให้ตอนดึกอีกแล้ว ๕๕
    ต่อจากนี้คงจะไม่อัพทุกวันแล้วล่ะค่ะ

    ไรท์เตอร์ไม่ไหวจริงๆ 

    ปล.ตอนนี้ไม่ได้ดราม่าแล้วสักหน่อย เอาผ้าเช็ดหน้าไปซักกันก่อนสิคะ :D

    อ้อ.. ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ออัพตอนพิเศษค่ะ
    เอาตอนนี้ไปทดแทนแล้วกันเนอะ

    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ดีๆนะคะ
    เลิ้บยูจู้บ! ไรท์เตอร์ชอบมากก

    อ้อ ขอบคุณสำหรับยอดวิวที่เกินห้าร้อยไปแล้วด้วย
    เย้เย้! จริงๆแล้วฟิคเรื่องนี้จะแบ่งเป็นสองภาคนะคะ (ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด)
    เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงนะคะ ยังอยู่กันไปอีกนานแสนนานค่ะ /สปอยล์

    เจอกันตอนหน้ายังไม่ชัวร์วันที่ค่ะ..
    { อีกนิด ; ใครเล่นทวิตเตอร์ก็ฟอลๆมาคุยกันได้เด้อ @_phalb เวิ่นคริสยอลซะส่วนใหญ่นะคะ } 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×