ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NEVER KNEW I NEEDED ; { Krisyeol }

    ลำดับตอนที่ #6 : 05 ; Again

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 55


     cinnamon
     

     

    Again

    { 05 }

     

     

     

                    ภาพคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงสีขาวของโรงพยาบาล ทำให้ชานยอลรู้สึกผิดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ       คนที่แทบจะไม่เคยไปหาหมอ ไม่เคยไม่สบายหรือเจ็บออดๆแอดๆ ให้ชายหนุ่มเห็นในตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่อยู่เคียงข้างกันมา  คนแข็งแรงคนนั้นกำลังนอนต่อสายน้ำเกลือก็เพราะความงี่เง่าของตัวเขาเอง

                    ม่านน้ำใสๆก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเฉียบเมื่อเขาเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย  มือหนาคู่นั้นเริ่มอุ่นขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของความอบอุ่นที่คอยปลอบประโลมหัวใจที่เจ็บช้ำของเขาทุกครั้ง  

     

    ทุกครั้งที่มือหนาเคลื่อนมากุมมือของเขา..ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ชายหนุ่มจะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างและเหน็บหนาว   เพราะคนๆนี้เป็นดั่งแสงตะวันที่อบอุ่น..

     

    แสงตะวันที่มอบความอบอุ่นให้เขาด้วยความรู้สึกจากหัวใจตลอดมา...

    เป็นดั่งแสงตะวันที่อยู่ล้อมกายของเขา..  แสงตะวันที่ไม่เคยห่างไปไหน

    อยู่ใกล้……ใกล้เสียจนเขามองผ่านความหวังดีและความรักที่อีกฝ่ายมีให้ไปโดยไม่รู้ตัว

     

     

     

    “ ผมขอโทษ..  ”   ชานยอลยันตัวไปใกล้ๆพลางกระซิบถ้อยคำขอโทษ 

    ลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นสุขของคนที่หลับทำให้ชายหนุ่มใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

    อย่างน้อยคริสก็แค่หลับอยู่เท่านั้น..

     

    พรุ่งนี้เช้าเขาก็จะโดนคนๆนี้ลักหลับเหมือนที่เคยทุกวัน..   

     

     

     

     ......ใช่ไหม?

     

     

    จมูกโด่งเป็นสัน กับเปลือกตาที่หลับพริ้มของเจ้าของเรือนผมสีทองหม่น   ในระยะใกล้เพียงไม่กี่นิ้วแบบนี้ไม่คุ้นตาของเขาเลยแม้แต่น้อย  หรือเป็นเพราะเขาไม่เคยสังเกตหรือเปล่า?  ชายหนุ่มถึงไม่เคยรู้เลยว่าจมูกโด่งเป็นสันนั่นรับกันดีกับรูปหน้าเรียวยาวของคนที่นอนอยู่มากแค่ไหน

     

    ปลายนิ้วค่อยๆเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผากของอีกฝ่ายออกอย่างแผ่วเบา  ...

     

     

    อยากให้คนตรงหน้าตื่นขึ้นมาเหลือเกิน..

     

    ตื่นขึ้นมาด่าทอ และ ต่อว่าที่เขาปล่อยให้ต้องรอนานจนไม่สบาย..

    ตื่นขึ้นมาตอบแทนความผิดครั้งนี้ให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำ...

     

     

    ให้คำด่าทอของพี่ ช่วยลบล้างความรู้สึกผิดในใจของผมออกไปบ้าง...

     

    ยิ่งคริสทำดีกับเขามากมายเท่าไหร่  มันยิ่งทำให้เขาได้ใจ..

     

    เพราะรู้ว่าคนตัวสูงคนนั้นไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น

    มันยิ่งทำให้ชานยอล คิดอยู่เสมอว่าตัวเขาสำคัญกับคริสมากที่สุด

    และคงไม่มีวันที่ใครจะมาแทนที่เขาได้

     

    และเพราะดวงตาคมคู่นั้นไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดตอบแทน

     

    เขาจึงไม่เคยรู้ว่าคนตัวสูงต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน

     

    จนสุดท้ายก็ลืมมองความรู้สึกของอีกฝ่ายไปในที่สุด

     

     

     

     

    ยิ่งคิดถึงเรื่องในวันเก่าๆ หัวใจของชานยอลก็ถูกบีบด้วยความรู้สึกผิดมากขึ้น มากขึ้นทุกที...

    นี่เขาทำให้คนๆนี้เจ็บช้ำมากมายแค่ไหนกันนะ

     

     

     

     

     

    ว่ากันว่า

    คนเราจะเห็นคุณค่าของสิ่งสำคัญก็ต่อเมื่อใกล้จะต้องสูญเสียมันไป

     

     

    ความรู้สึกในตอนนี้ของชายหนุ่มเองก็ไม่ได้แตกต่างจากประโยคๆนั้นสักเท่าไหร่..

     

    กว่าจะเห็นคุณค่าก็เกือบจะสายเกินไป..

    มือบางกุมมือหนาของอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับไม่ยอมให้ใครแย่งคนๆนี้ไปจากเขาได้ง่ายๆ..

     

     

     

    ชานยอลเป็นคนเห็นแก่ตัวถึงแม้เขาจะรู้ดีแก่ใจว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อคริสนั้นยังไม่ชัดเจน

    แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากเสียใจภายหลัง  หากจะปล่อยให้คนที่ยอมมอบความรักทั้งหมดที่มีให้เขาโดยไม่มีเงื่อนไข

    หรือข้อแม้ใดๆ คนนี้จากไป

     

    เขาไม่พร้อมที่จะอยู่กับความเศร้าเพียงคนเดียวในตอนนี้

    ยังไม่พร้อมจะปล่อยให้หัวใจที่บาดเจ็บดวงนี้อยู่โดยไม่มีใครสักคนคอยดูแล

     

    “  เพราะฉะนั้น,,ฮยองรีบๆตื่นขึ้นมาได้แล้ว..  ”

     

    ชานยอลคิดถึงเสียงทุ้มๆที่คอยทำลายความเงียบให้กับโลกอันแสนเงียบเหงาของเขา...

    เขาคิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆที่เคยได้รับเสมอ..ไม่ว่าจะขอร้องหรือไม่ก็ตาม

    คิดถึงสัมผัสในตอนเช้า..  สัมผัสแผ่วเบาแต่ก็ไม่เคยไม่รู้สึกถึงริมฝีปากที่จรดลงมาแนบกับหน้าผาก

    คิดถึงมืออุ่นๆที่อบอุ่นเสียยิ่งกว่าการใส่ถุงมือยี่ห้อดี 

    คิดถึงสายตาที่ไม่เคยมองใครอื่นนอกจากเขา... 

     

    เขากำลังคิดถึง... คริส 

     

    “ คิดถึงมากนะ...  ”     ริมฝีปากบางขยับเป็นถ้อยคำที่ ถ้าหากว่าคนที่หลับไม่ยอมตื่นคนนั้นได้ยินคงหัวใจพองโต

     

    แต่เมื่อเขาพูดมันออกมาตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ลืมตา..มันจะมีประโยชน์อะไร..

     

     

     

     

    แต่ถึงกระนั้น..

     

    คำกระซิบแผ่วเบาเมื่อครู่ก็เป็นคำว่าคิดถึงคำแรกที่ปาร์คชานยอล มอบให้คนอีกคนจากใจจริง

     

     

     

    “  ฮยองรู้ไหม? ในนิทานที่เล่าต่อกันมานานสองนานแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาเจ้าหญิงที่หลับไม่ยอมตื่นจะถอนคำสาป เธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายเป็นการปลุกล่ะ ..  ”   ชานยอลเล่าด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น 

     

    “ แล้ว.....ถ้าผมทำแบบนั้น ..  ”   ชายหนุ่มกลั้นสะอื้นจนเสียงขาดห้วน

    “ ฮยองจะตื่นขึ้นมาคุยกับผมหรือเปล่า?   ”      มือทั้งสองข้างวางแนบแก้มของคริสอย่างชั่งใจ  ก่อนที่ชานยอลจะตัดสินใจก้มลงที่ละน้อยจนปากอิ่มทาบทับอยู่บนริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา  สัมผัสแผ่วเบาดั่งที่เขาเคยได้รับแทบทุกเช้าบริเวณหน้าผาก 

     

    ยังคงมีเพียงความเงียบและเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ชายหนุ่มรับรู้หลังจากถอนริมฝีปากออก..

     

    “ เพราะผมไม่ใช่เจ้าหญิงใช่ไหม?..  พี่ถึงไม่ยอมลืมตาขึ้นมา  ”   เสียงสั่นเครือเอ่ยช้าๆ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดฉายชัดบนใบหน้านวล

     

    อีกครั้งที่เขาก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากหนาของคริสแล้วไม่มีการตอบสนองใดๆ ...

    แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังจุมพิตอีกฝ่ายซ้ำๆ ราวกับจะชดเชยในส่วนที่คนๆนั้นไม่เคยได้รับจากเขา

     

    “ ไม่อยากเห็นหน้าผมแล้วงั้นเหรอ?.....  ”    ชานยอลตัดพ้อคนที่นอนนิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว แม้รู้ดีแก่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางตอบ

     

    คริส  ต้องทนรับความเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ... กับการกระทำโง่ๆมากมายของเขา

     

    “ ผมทำให้พี่เสียใจใช่ไหม?  ”

     

    “  ขอโทษนะ....  ที่ผมโกหกตลอดมา  ”    น้ำใสๆไหลผ่านแก้มนวลเป็นทาง

     

    ความสับสนประดังประเดเข้ามาจนเขาสับสนไปหมด

     

    ที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้….  มันจะใช่ความรักหรือเปล่า?

     

     

    ริมฝีปากบางค่อยๆถอนออกช้าๆอีกครั้ง 

     เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบที่เขาสัมผัสริมฝีปากของคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงนี้

     

    ปลายนิ้วโป้งยกขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาของเขาที่หยดลงบนแก้มของอีกฝ่าย

     

    ไม่ว่าจะเป็นคำสาปหรือบทลงโทษจากพระเจ้าที่เขากำลังได้รับอยู่ในตอนนี้

    หากต้องการให้คนเห็นแก่ตัวแบบเขาได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดและทรมาน

     

     

    ตอนนี้เขารู้สึกแล้ว

     

    หัวใจของปาร์คชานยอลกำลังทรมานด้วยความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนของตัวเอง

     

     

    “  เพราะผมไม่ใช่เจ้าหญิงใช่ไหม?... จูบของผมถึงปลุกให้เจ้าชายตื่นขึ้นมาไม่ได้ ”   ชายหนุ่มนิ่วหน้ามองใบหน้าซีดเซียวของคริสด้วยสายตาที่ไม่มีใครเข้าใจ

     

     







     

    “ เพราะผมคงเป็นได้แค่แม่มดผู้ชั่วร้ายที่กำลังตกหลุมรักเจ้าชายผู้แสนดี  เพียงเท่านั้น ”

     

     

     








     



     

    Writer’s part :’(

    ดราม่ายังไม่จบอย่าพึ่งเก็บผ้าเช็ดหน้าสิคะ *โดนรุมตบ*

    ตอนนี้ช่างสั้นเหลือเกิน..ขอโทษนะคะ

    ฮรือไรท์เตอร์ดูเป็นคนใจร้ายมากเลย  ทำร้ายสองคนนี้อยู่แทบทุกตอน

    ทนหน่อยนะคะ นักอ่านผู้น่ารัก หลังฟ้ามืดครึ้มและฝนตก ท้องฟ้าจะต้องสดใสขึ้นแน่นอนค่ะ

    อย่าพึ่งรีบทิ้งกันไปก่อนนะคะ ;)

     

                ความจริงแล้ว ไรท์เตอร์ไม่มั่นใจมากๆค่ะ ว่าแต่ละตอนที่เขียนไปนั้นเศร้าจนทำให้ใครร้องไห้ได้บ้างรึเปล่า ?   จริงอยู่ที่เขียนไปร้องไห้ไป  แต่พออ่านตรวจทานแก้ไขซ้ำๆความซึ้งที่เคยรู้สึกมันก็ค่อยๆหายไป  มันเลยทำให้ไรท์เตอร์ไม่รู้ว่าตัวเองสื่อความรู้สึกของตัวละครได้ดีแค่ไหน จนบางทีความมั่นใจที่เคยมีเวลาจะเขียนก็หายไปซะดื้อๆ ๕๕๕

     

    ขอขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ไรท์เตอร์เป็นคนชอบบ่นมากๆเลย ๕๕

    ขอบคุณทุกๆคนนะคะที่เข้ามาอ่านจนยอดวิวทะลุแซงอีกเรื่องที่เปิดก่อนไปซะแล้ว โธ่ถัง !

    ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ที่ทำให้ไรท์เตอร์อมยิ้มและเกือบร้องไห้ทุกครั้งที่อ่าน มีกำลังใจจะเขียนต่อก็เพราะทุกคนจริงๆค่ะ  *ปาดน้ำตา*

     

    ปล. ตอนเย็น(อาจจะค่ำๆ)จะมาลงตอนพิเศษให้นะคะ ถ้ายอดวิวครบห้าร้อย เย้เย้ ๕๕
    ไรท์เตอร์เขามาดูอยู่เรื่อยๆเน้อ ๕๕

     

    เจอกันตอนหน้า สัญญาว่าจะมาพร้อมกับรอยยิ้มค่ะ :D

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×