คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 03 ; will comeback
{03}
“ กลับมาแล้ว ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเพื่อลองเชิง คริสแนบหูลงกับกำแพงเพื่อมองหาสัญญาณการตอบรับแทนการมองหาด้วยสายตา เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับเขาจึงหอบเอากล่องเค้กไปซ่อนในตู้เย็นด้วยความรวดเร็ว
เขากะจะทำเซอร์ไพรส์เล็กๆน้อยๆให้กับชานยอล.. มันไม่ใช่เซอร์ไพรส์อะไรที่น่าแปลกใจหรือยิ่งใหญ่ ก็แค่กินเค้กแล้วก็เป่าเทียนด้วยกันเท่านั้น
‘ วันนี้ไม่ใช่วันสำคัญอะไรมากมาย.. มันก็แค่วันแรกที่เราตกลงคบกันเท่านั้นเอง ’ ประโยคที่อีกฝ่ายเคยพูดเอาไว้เมื่อคราวก่อน ไม่เคยทำให้เขาเลิกล้มที่จะนับวันเวลาเพื่อรอให้วันสำคัญสำหรับเขาเวียนมาครบรอบอีกครั้งได้เลย ถึงแม้จะทำให้คริสลังเลใจบ้างเป็นบางครั้ง เวลาเขาจะซื้อเค้กกลับมาก็เถอะ
“ ป่านนี้ยังไม่กลับอีก ไปไหนเนี่ยเจ้าตัวยุ่ง ” คริสหันไปมองนาฬิกาบนฝาห้อง เข็มยาวของนาฬิกาชี้บอกว่าเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว
มือหนาสไลด์หน้าจอโทรศัพท์แล้วกดเบอร์ที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว
ตรู๊ด.. ตรู๊ด..
รออยู่เพียงไม่นาน เสียงที่เขาคิดถึงก็กรอกกลับมาตามสาย
‘ครับ? ฮยองมีอะไรรึเปล่า? ’ ถ้าจะบอกว่าไม่มีอะไรแค่ คิดถึงเลยอยากได้ยินเสียง เขาจะโดนปลายสายโกรธหรือเปล่านะ? ชายหนุ่มยังม่อยากลองเสี่ยงในตอนนี้ คำถามแสดงความเป็นห่วงจึงถูกส่งออกไปแทนคำหยอดที่คิดเอาไว้
“ ทำไมยังไม่กลับอีก? เป็นอะไรรึเปล่า? ” คริสเอ่ยถามไถ่ ไหล่ขวาของเขายกขึ้นหนีบโทรศัพท์เครื่องหรูเข้ากับใบหู ขณะที่ชายหนุ่มพยายามดึงเนคไทออกจากลำคออย่างทุลักทุเล
‘ ผมออกมาทำธุระกับรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ อีกสักพักก็คงกลับแล้วล่ะ เห็นเค้าว่าพายุเข้าทางตอนใต้ ฝนจะตกหนัก ผมไม่ได้เอาร่มออกมาด้วยสิ ฮยองออกมารับได้หรือเปล่า? ’ มือของคริสชะงักค้างเล็กน้อยตอนได้ยินคำขอของอีกฝ่าย ก็อย่างที่ว่า เพื่อรอยยิ้มของ ปาร์คชานยอล ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้หรอก
“ ได้สิ เดี๋ยวฉันออกไปรับ นายอยู่ที่ไหน? ”
‘ หน้าหอสมุดกลางครับ ’ คำตอบของของคนที่อยู่ปลายสายทำให้คริสเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่หอสมุดกลางจะปิด ดูท่าเขาจะต้องรีบหน่อยแล้ว
“ รู้แล้ว เปิดโทรศัพท์ไว้ด้วยล่ะ เดี๋ยวเจอกันนะชานยอล ” ชายหนุ่มผมทองกดตัดสาย เขากวาดตามองโต๊ะอาหารที่จัดเตรียมไว้รอชานยอลเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยอีกครั้ง
“ ออกไปแปปเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ” คริสพึมพำก่อนที่จะตัดสินใจยกเค้กกลับไปไว้ในตู้เย็นอย่างตอนแรก ด้วยความรีบร้อนถอยหลัง ข้อศอกของเขาจึกกระแทกเข้ากับชั้นวางของทางด้านหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ
เพล้ง! เสียงแก้วแตกกระจาย ดึงความสนจากคนที่กำลังปิดประตูตู้เย็นให้หันกลับมามองอย่างรวดเร็ว
“ แย่ชะมัด ” ชายหนุ่มบ่น มือเรียวปัดๆเศษแก้วที่เกิดจากการแตกกระจายของของต่างๆที่วางอยู่บนชั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันระวัง
“ โอ๊ย! ” ความเจ็บปวดบริเวณปลายนิ้วทำเอาคริสดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว เลือดค่อยๆซึมๆออกจากปากบาดแผลช้าๆ ความเจ็บปวดแล่นริ้วจนเขานิ่วหน้า
“ เดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บแล้วกัน ” ชายหนุ่มละจากกองเศษแก้ว ในหัวมุ่งแต่ว่าจะต้องไปรับชานยอลให้ทันจนไม่คิดจะใส่ใจบาดแผลของตนเอง เขารีบสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกจากบ้านไปโดยไม่ทันสังเกตหนึ่งในบรรดาของที่ตกลงมาพร้อมกับชั้นวาง
เพราะหากแค่ชายหนุ่มพลิกกรอบรูปที่ตกลงมาพร้อมกับของอื่นที่วางอยู่บนชั้นอันนั้นขึ้นมาดูสักนิด
เขาก็จะได้เห็นรอยร้าวลึกที่ตัดผ่ากลางระหว่างรูปคู่ของเขากับ ปาร์คชานยอล อย่างพอดิบพอดี ..
-*-*-*-*-*-*-*-
“ คนไหนเหรอเซฮุน? ” ชานยอลกระทุ้งศอกเรียกรุ่นน้องหลังจากวางสายได้ไม่นาน พวกเขาสองคนมารออยู่ที่หอสมุดกลางเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงแล้ว ที่มาที่นี่ก็เพราะเซฮุนบอกว่าจะพาเขามาดูว่าเป็นคนไหนที่ชายหนุ่มรุ่นน้องแอบชอบอยู่
“ นั่นไง ตรงมุมใกล้ๆชั้นหนังสือนั่นไงครับ ” เซฮุนชี้ไปทางด้านขวาที่เรียงรายไปด้วยชั้นหนังสือ
“ แล้วจะรู้ไหมเนี่ย มุมนั้นมันมีแต่ชั้นหนังสือ ” ชานยอลกุมขมับกับความซื่อบื้อของอีกฝ่าย
“ เอ่อ คนนั้นไงครับที่นั่งอยู่คนเดียว คนที่หน้าหวานๆใส่เสื้อกันหนาวสีแดงๆคนนั้น ” หนุ่มรุ่นพี่หันขวับไปมองหาคนที่มีลักษณะอย่างที่เซฮุนว่า
“ นั่นมัน ผู้ชายนี่?! ” ชานยอลเผลอหลุดปากเสียงดัง จนคนที่มาด้วยต้องใช้ฝ่ามือตระครุบอย่างรวดเร็ว
“ ชู่ว! นี่ห้องสมุดนะครับ เบาๆสิ ...ก็ใช่สิครับ เพราะเป็นผู้ชายไงเลยอยากได้คำปรึกษาจากพี่ ” เซฮุ่นมุ่นหัวคิ้วแล้วขยายความให้รุ่นพี่ของตน ดวงตากลมโตของชานยอลเบิ่งกว้างด้วยความเข้าใจในที่สุด เขาพยักหน้าเป็นเชิงว่า เขารู้แล้วและอีกฝ่ายควรจะปล่อยมือที่ปิดปากของเขาอยู่ออกได้สักที ซึ่งเซฮุนก็คลายมือออกอย่างรวดเร็ว
“ แล้วนายจะให้พี่ทำยังไง? ”
“ วันนี้แค่อยากให้พี่มาเห็นตัวจริงก่อนแค่นั้นเอง ” เซฮุนตอบอ้อมแอ้มด้วยความกลัวว่ารุ่นพี่ของเขาอาจจะโกรธที่ทำให้เสียเวลา
“ ก็น่ารักดีนี่ แล้วนายรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง? ”
“ ผมรู้ทุกอย่าง ” ชายหนุ่มรุ่นน้องตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง
-*-*-*-*-*-*-
คริสมาถึงหน้าหอสมุดกลางโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างสูงควานหาโทรศัพท์ภายในกระเป๋ากางเกงที่ๆมันควรอยู่ แต่มือของเขากลับสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า
“ ให้ตายเถอะ ทำไมวันนี้ดวงซวยแบบนี้นะ ” ชายหนุ่มสถบเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาวางโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้ข้างประตูตู้เย็นตอนก้มเก็บเศษแก้ว
“ เฮ้อ ”
คริสซบหน้าลงกับพวงมาลัยรถอย่างหัวเสีย เขาถอนหายใจหนักๆกับความประมาทของตนเอง
‘ แล้วแบบนี้ชานยอลจะหาเขาเจอได้ยังไง? ’
เสื้อสูทที่วางพาดอยู่ตรงเบาะข้างถูกเจ้าของฝ่ามือหนารวมมาไว้แนบออก คริสเอื้อมมือไปยังเบาะหลังเพื่อคว้าเอาร่ม เมื่อได้ของที่ต้องการชายหนุ่มจึงเปิดประตูรถ แล้ววิ่งฝ่าสายฝนที่เริ่มลงเม็ดไปยืนรออยู่หน้าหอสมุด เพื่อไม่ให้คลาดกับคนที่เขานัด
“ ยืนรอมันตรงนี้แหละ คงไม่โชคร้ายขนาดหากันไม่เจอหรอกนะ ” เขาปลอบใจตัวเองก่อนยืนพิงพนังของอาคารหอสมุด โชคดีที่ฝนตกไม่มาก เขาจึงยังไม่มีปัญหาเรื่องฝนสาด ดวงตาคมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กำลังร่ำไห้ด้วยรอยยิ้ม
“ อย่าร้องไห้ในวันสำคัญของผมเลย .. ”
-*-*-*-*-*-*-*-*-
ซ่า.. เสียงฝนที่เริ่มตกหนักขึ้น ทำให้ชานยอลหันรีหันขวางอย่างกังวล หลังจากฟังรายละเอียดเรื่องเด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อสีแดงคนนั้นที่รุ่นน้องตรงหน้าสาธยายเป็นมหากาพย์ให้ฟังเป็นเวลานานสองนาน เซฮุนเล่นเล่าตั้งแต่กรุ๊ปเลือดไปจนถึงอาหารที่ชอบเล่นเอาเขาตกใจอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่ารุ่นน้องจะเป็นหนักถึงขนาดนี้
“ เป็นอะไรรึเปล่าครับรุ่นพี่? ” เซฮุนเอ่ยปากถามเมื่อเห็นอาการของอีกฝ่าย
“ ฉันไม่ได้เอาร่มมา ” เขาตอบกลับเสียงห้วน มือเรียวยกขึ้นปัดปอยผมไปทัดไว้หลังใบหู
“ ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมขับไปให้ส่งก็ได้ ” เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตากลมเบิกจึงขึ้นอย่างดีใจ ชานยอลพยักหน้าตกลงกับเซฮุนในทันที
“ แล้วเรื่องแผนการของเรา ไว้ค่อยวางแผนกันอีกทีนะ ” ชานยอลตบบ่าของรุ่นน้องเบาๆ แล้วมองไปที่หนุ่มน้อยหน้าหวานที่ตกเป็นเป้าหมายอีกครั้ง
“ ขอบคุณมากครับพี่ชานยอล เรากลับกันเถอะ ” มือเรียวของเซฮุนเอื้อมมาฉุดให้เขาลุกขึ้น
“ อื้ม ” ชานยอลยิ้มรับ แล้วเดินตามรุ่นน้องไป ยังไม่ทันก้าวพ้นประตูชายหนุ่มก็หยุดเดินเอาเสียดื้อๆ คนที่จูงมืออยู่ด้านหน้าจึงหันกลับมาถามด้วยความแปลกใจ
“ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ”
“ เปล่าหรอก ฉันแค่รู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่าง ” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบพลางล้วงกระเป๋ากางเกง เมื่อพบว่าทั้งโทรศัพท์และกระเป๋าตังค์ยังอยู่ครบ จึงเลิกสงสัยไปในที่สุด
“ ฮยองครับ ผมกลับมาแล้ว ” ชานยอลตะโกนเรียกหาคนในบ้าน
“ ฮยองอยู่รึเปล่า? ” เป็นครั้งที่สองที่ไม่มีใครตอบคำถามของเขา มือเรียวถูกันเพื่อหาไออุ่น ชานยอลไม่ค่อยชอบช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้สักเท่าไหร่มันพาลทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดในตอนนั้นแทบทุกครั้ง
ซ่า! ครืน! แสงสีขาวสว่างแวบเข้ามาทางหน้าต่าง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฟ้าผ่าดังลั่นจนเขาสะดุ้งโหยง
กริ๊ก มือเรียวควานหาสวิตซ์ไฟท่ามกลางความมืดจนพบ บ้านทั้งบ้านสว่างโร่ขึ้นมาทันตา
“ ไปไหนของเขา ” ชายหนุ่มเกาหัวอย่างหงุดหงิดขณะเดินไปยังห้องครัว
ทันทีที่ไฟในห้องครัวเปิดขึ้น ภาพโต๊ะอาหารที่อีกฝ่ายจัดไว้รอปรากฏขึ้นตรงหน้า ความรู้สึกผิดเข้าทิ่มแทงหัวใจของปาร์คชานยอลเข้าอย่างจัง ดวงตากลมโตมองวันที่ที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
“ ยังนับอยู่อีกเหรอ.. ” ว่าแต่ว่า.. จัดอาหารไว้ แล้วทำไมตัวคนไม่อยู่ล่ะ
ตรู๊ด.. ตรู๊ด....
ครืด... ครืด.... เสียงสั่นของวัตถุทำให้ชานยอลนึกขึ้นได้
เคร้ง! โทรศัพท์เครื่องงามในมือของเขาร่วงลงพื้นจนฝาครอบแตกกระจาย ปาร์คชานยอลวิ่งอย่างเร้วที่สุดเพื่อไปยังหน้าบ้าน
“ เซฮุน! ” เขาตะโกนเรียกพร้อมโบกไม้โบกมือจนรถที่กำลังเคลื่อนที่หยุดลง
“ เเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับพี่ชานยอล? ” เซฮุนเปิดกระจกลงถามชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเมื่อถอยรถมาถึงปากประตูบ้านอีกครั้ง
“ ไปส่งพี่ที่หน้าหอสมุดตอนนี้ได้ไหม? ” ใบหน้าเคร่งเครียดของอีกฝ่ายทำเอาเซฮุนพูดอะไรไม่ออก
“ คะ..ครับ ” ชายหนุ่มได้แต่เปิดประตูให้รุ่นพี่ของเขากลับมานั่งในรถตามเดิม และมุ่งหน้าไปยังสถานที่ๆเขาพึ่งจากมาอีกครั้ง
-*-*-*-*-*-*-*-*-
หนาว.. ความหนาวเย็นในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเข็มนับพันเล่มที่่กำลังทิ่มแทงตัวเขา ราวกับทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็ง คริสพยายามกัดฟันเพื่อไม่ให้เกิดอาการสั่น เสื้อสูทที่เขาคว้ามาตอนลงจากรถถูกนำมาคลุมตัวเพื่อกันฝน
จากสายฝนในตอนแรกกลายเป็นห่าฝนขนาดใหญ่ ที่กำบังของเขาไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไปสายฝนสาดเทมาโดนตัวของเขาจนเปียกปอน เสื้อเชิ้ตสีขาวลู่ลงแนบเนื้อ นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เขายืนอยู่ตรงนี้ ยิ่งนานยิ่งรู้สึกว่าสมองขาวโพลนไปหมด มือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“ อยู่ไหนนะ.. ชานยอล ” ชื่อของคนๆนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ยังรั้งสติของเขาให้คงอยู่
“ บ้าจริง ” เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆปรือปิดลงช้าๆ แม้จิตใจจะร้องห้ามแต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะไม่ตอบสนองเสียแล้ว คนที่เขารอยังไม่มาเลย แล้วแบบนี้ถ้าเจ้าตัวยุ่งไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง ลมหายใจหนักหน่วง และมือทั้งสองข้างที่กำลังสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้
คริสรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายเพราะความหนาวเย็น เขาควรจะไปรอในรถตั้งแต่แรก แต่ถ้าหากทำแบบนั้นฝ่ายที่ต้องมายืนตากฝนแบบนี้อาจจะเป็นคนที่เขารักคนนั้นก็ได้ คิดแบบนั้นชายหนุ่มจึงยิ้มบางๆออกมาในที่สุด
ในชั่ววินาทีที่เหน็บหนาวและทรมาน..
สิ่งที่เขาคิดถึงก็ยังคงเป็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายเช่นเดิม..
พระเจ้าครับ...
อย่าใจร้ายนักเลย.. ได้โปรดให้ผมบอกเขาอีกสักครั้งก่อน..
ริมฝีปากหนาขยับช้าๆอย่างอยากลำบาก
“ พี่..รออยู่ตรงนี้นะ..ชานยอล.. ” ภาพสุดท้ายที่ชายหนุ่มเห็นในห้วงความคิดก็ยังไม่พ้นภาพของรอยยิ้มที่เป็นเหมือนแสงตะวันสำหรับเขา ปาร์คชานยอลกำลังส่งยิ้มมาให้เขา ยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้เขาด้วยหัวใจ ไม่ใช่การแกล้งทำอย่างที่เคยได้รับทุกครั้ง
แม้กายจะเหน็บหนาวเพียงใด แต่หัวใจของชายหนุ่มในตอนนี้กลับอบอุ่นไปด้วยความรัก
เพราะเขารักอีกฝ่ายมากเหลือเกิน อู๋ฟานรักปาร์คชานยอลมากกว่าสิ่งใดทั้งหมด ต่อให้ต้องทรมานเพราะคำว่ารักที่อาจจะไม่มีอยู่จริงของเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลคนนั้น แต่เขาก็เลือกที่จะพันธนาการตัวเองไว้กับคำๆนั้น ผูกมัดตัวเองไว้กับความรักที่ไม่เคยได้รับการตอบรับ
และเพราะว่ารัก..
เขาจึงยังอยู่ตรงนี้ และ เพราะว่ารัก เขาจึงอยู่ตรงนี้ตลอดมา
อยู่เคียงข้างเจ้าของกลิ่นกายที่คุ้นเคย เส้นผมสีน้ำตาลที่เขาชอบจับ คนๆเดียวกับที่เป็นเจ้าของดวงตากลมโตขี้เอาแต่ใจ
ชายหนุ่มเลือกที่จะอยู่เพื่อดูแลหัวใจที่เจ็บปวดรวดร้าวของปาร์คชานยอล
ต่อให้หัวใจของเขาต้องทรมานแค่ไหนก็ตาม..
‘เพื่อรอยยิ้มของนาย ฉันยอมแลกกับทุกสิ่งทุกอย่าง’
‘..แล้วเพื่อคำว่ารักของนาย..’
‘ฉันต้องแลกกับอะไร?’
.. ปาร์คชานยอล ..
Writer’s part :3
โฮ......... *แจกผ้าเช็ดหน้าให้กับนักอ่าน* มีใครน้ำตาซึมบ้างไหมคะ? ไรท์เตอร์น้ำตาไหลเลยล่ะตอนแต่งตอนนี้
สงสารพี่คริสมาก โธ่อู๋ฟานของน้อง *โดนตบ* วันนี้ไรท์เตอร์รีบมาลงให้แต่เช้า เพราะต้องออกไปข้างนอก
หลังจากอาทิตย์หน้าสปีดการอัพคงลดลงแล้วล่ะคะ งานเริ่มรุมเร้าแล้ว ชีวิตเด็กม.ปลายนี่มันวุนวายจริงๆ
รักทุกคนมากนะคะ >3< ขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอด
มีคำแนะนำอะไรยังไงเม้นท์ทิ้งไว้ได้นะคะ ไรท์เตอร์อ่านทุกเม้นท์เลย
ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้หญิงฟินง่าย(?) ๕๕๕ แค่เห็นมีคอมเม้นท์มาอันสองอัน แค่นี้ก็ลุกมานั่งปั่นให้แล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณจริงๆนะคะ
พบกันตอนหน้าค่ะ J
ความคิดเห็น