คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02 ; Past and pain
Past and pain
{ 02 }
แอ๊ด .. เสียงบานประตูเปิดออกในกลางดึก ทำให้คนที่พึ่งหลับได้ไม่นานอย่างชานยอลสะดุ้งตื่น ขายาวๆก้าวลงจากเตียงอย่างเร่งรีบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งไปยังสถานที่ ที่เป็นต้นกำเนิดเสียง
“ แพคฮยอน! ” ชานยอลตะโกนเรียกชื่อคนที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู จนอีกฝ่ายตกใจทำกระเป๋าใบใหญ่หลุดมือ
“ ชะ.. ชานยอล ” ใบหน้าซีดเผือดหันกลับมาหาเขา
“ นายกำลังจะไปไหน? ” เขาถามขณะที่เหลือบมองไปที่กระเป๋าใบใหญ่ซึ่งแพคฮยอนกำลังพยายามซ่อนมันไว้อย่างสุดความสามารถ
“ ออกไปข้างนอก.. ” คู่สนทนาตอบเสียงแผ่ว ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาเขาตรงๆ
“ แล้ว.. เอากระเป๋าออกไปทำไม? ”
“ เพราะ... “ อีกฝ่ายสูดหายใจเข้าราวกับต้องการรวบรวมความกล้าให้ได้มากที่สุด
“ ฉัน จะไม่กลับมาอีกแล้ว ” แพคฮยอนตอบ ขณะที่คนฟังรู้สึกเหมือนหัวใจของตนเองได้ถูกสาปให้หลายเป็นเพียงก้อนหิน ในวินาทีนั้น ก้อนหินที่ไม่มีคุณค่าใดๆในสายตาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“ ทำไม? ”
“ เพราะฉันไม่ได้รักนาย.. ” คำว่าไม่ได้รักที่หลุดออกมาจากปากของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย ไม่ต่างอะไรจากคมมีดที่ค่อยๆกรีดเฉือนหัวใจของเขาทีละนิด
“ หรือที่จริง.. ฉันไม่เคยรักนายมาตั้งแต่แรก ” แพคฮยอนพูดต่อ โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าคนที่ต้องรับฟังนั้นต้องทนแบกรับความเจ็บปวดมากมายขนาดไหน
“ พอ.. พอแล้ว ”
“ ฉันขอโทษที่หลอกนาย ขอโทษสำหรับความเชื่อใจ ขอโทษที่ฉันรักนายไม่ได้.. ” คำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากของคนที่เขารัก เหมือนยิ่งกดย้ำให้ใบมีดกรีดลึกลงไปในใจของเขาจนเกือบมิดด้าม รอยแผลแรกที่จะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจ
“ ได้โปรด หยุดเถอะ.... ขอร้อง หยุดสักที ” ชานยอลยกมือขึ้นปิดใบหู หัวใจของเขาไม่สามารถทนรับความปวดร้าวไปมากกว่านี้แล้ว
“ ฉันรักพี่ชอนดุง.. ” ชื่อของพี่ชายแท้ๆที่ลอดเข้ามาในโสตประสาททำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนกับโลกทั้งใบถล่มลงมา มือทั้งสองข้างร่วงลงมาอยู่ข้างลำตัวอย่างอ่อนแรง
ชา.. ไปหมด
ปาร์คชานยอลรู้สึก ชาไปทั้งตัวและหัวใจ...
หัวใจของเขา..
หัวใจที่ยับเยินจนแทบไม่สามารถรับความเจ็บปวดใดๆได้อีก .. แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีน้ำตาสักหยดที่ไหลลงมาอาบแก้ม
เขาว่ากันว่า..
ความเจ็บปวดที่ลึกซึ้งจนร้องไห้ออกมาไม่ได้.. มันเจ็บปวดและทรมานเสียยิ่งกว่า
เวลาที่เราต้องร้องไห้เสียน้ำตาเพราะความเจ็บปวด..
ปาร์คชานยอลพึ่งเข้าใจความรู้สึกนั้นในวันนี้ ..
แม้ไม่มีน้ำตาสักหยด แต่เขาก็กำลังร่ำไห้ หัวใจที่พังยับเยินของเขากำลังกรีดร้องฟูมฟาย
แม้ไม่มีหยาดน้ำไหลออกจากดวงตา แต่น้ำตาแห่งความเสียใจกำลังล้นทะลักอยู่ภายในทรวงอกของเขา
“ พี่ขอโทษชานยอล ” เสียงทุ้มของปาร์คชอนดุงพี่ชายบังเกิดเกล้าที่เดินเข้ามายืนข้างๆแพคฮยอน ไม่ต่างอะไรกับการเอาน้ำเย็นจัดมาสาดให้เขารับรู้ว่านี่คือความจริง ความจริงที่เขาไม่สามารถวิ่งหนีไปได้
“ ตั้งแต่เมื่อไหร่? ” เขาถามด้วยเสียงสั่นเครือ แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมองไปยังพี่ชายของเขา
“ ต้นปีที่แล้ว ” ปาร์คชอนดุงลบสายตาของน้องชาย ขณะที่วงแขนโอบกอดคนที่เขารักไว้อย่างปกป้อง
“ พวกนาย... รักกันงั้นเหรอ? ” มีเพียงอาการพยักหน้าของแพคฮยอน เท่านั้นก็เป็นเครื่องยืนยันได้มากพอแล้วสำหรับชานยอล
“ ฉันรู้นายรักฉัน ชานยอล และนายก็รักพี่ชอนดุง ได้โปรดเถอะ.. ฉันขอร้อง ถ้านายรักฉันจริงๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป ให้ฉันมีความสุขกับความรักของฉัน ฉันไม่สามารถฝืนหัวใจตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ”
แล้วความรักของเขาล่ะ? มันไม่เคยมีความหมายสำหรับแพคฮยอนเลยรึไง คำถามผุดขึ้นในหัวใจของชานยอล เป็นอีกครั้งที่คำพูดของอดีตคนรัก ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชายแท้ๆของเขา ทำร้ายหัวใจของเขาจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
“ ไปซะ ” ชายหนุ่มกำหมัดแน่นอย่างอดกลั้น ขณะเงยหน้าขึ้นสบสายตาของคนที่เขารักทั้งสองคน
“ ป... ไป! ” ชานยอลตะโกนจนสุดเสียง ความรักของเขาถูกทรยศโดยคนสองคนที่เขารักมากที่สุด
ไม่ต่างอะไรกับหัวใจ โลกที่เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสุขของชานยอลไม่หลงเหลืออีกแล้ว ..
“ พี่.. ขอโทษ ” ปาร์คชอนดุงหันกลับมาอีกครั้ง ริมฝีปากหนาขยับช้าเป็นถ้อยคำขอโทษ
แต่ทว่าหัวใจของเขาไม่สามารถที่จะให้อภัยได้ในตอนนี้.. ความเจ็บปวดที่ได้รับมันมากมายจนบดบังความรักที่สองพี่น้องเคยมีให้กันจนไม่หลงเหลือที่ว่างใดๆ
ไม่เอาแล้ว...
ไม่เอาอีกแล้ว..
พอกันทีกับสิ่งที่เรียกว่าความรัก.. มันก็เป็นเพียงแค่ความเจ็บปวดและคำหลอกลวงเท่านั้น ..
ไม่เอาอีกแล้ว.... พอกันที... ในโลกใบนี้ยังมีใครอีกไหมที่เขาจะสามารถเชื่อและวางใจให้เข้ามาดูแลหัวใจที่บาดเจ็บดวงนี้ได้...
คงไม่มีอีกแล้ว..
โลกแห่งความเจ็บปวดและความเสียใจปิดประตูลงกลอนขังเขาไว้ในนั้น.. โซ่ตรวนที่เรียกว่าความรักตรึงเขาไว้ให้จมอยู่แต่กับความโศกเศร้า.. มีเพียงเสียงหัวใจที่ร่ำไห้อย่างเจ็บปวดเท่านั้นที่ดังสะท้อนกลับไปกลับมา
ชานยอลเดินกลับไปยังห้องนอนของเขาโดยใช้พนังสีขาวเป็นเครื่องช่วยพยุง .. ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทิ้งตัวลงกับเตียงนอนอย่างไร้เรี่ยวแรง..
หยาดน้ำตาที่เขาอดทนกลั้นเอาไว้เมื่อครู่ไหลลงมาไม่ขาดสาย..
ต่อจากนี้..
ปาร์คชานยอลจะไม่เหลือหัวใจไว้ให้ใครอีก...
-*-*-*-*-*-*-*-*-
“ เอ่อ พี่ชานยอลครับ รุ่นพี่ครับ ” เซฮุนขานชื่ออีกฝ่าย พลางโบกมือหย็อยๆในระดับสายตาของอีกฝ่าย
“ หะ หา? ” ชานยอลสะดุ้งโหยง
“ เอ่อ เมื่อกี้ที่ผมถาม.. คือ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก.. เลิกกันไปนานแล้วล่ะ ” รอยยิ้มบางๆถูกยกมาปกปิดร่องรอยความเศร้า ชื่อของคนๆนั้นยังคงตามหลอกหลอนเขาจนถึงทุกวันนี้ แม้เวลาจะผ่านมาสองปีกว่าแล้วก็ตาม ความรู้สึกเจ็บปวดในตอนนั้นไม่ได้เลือนหายไปจากใจของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ อ่า ผมขอโทษนะครับ ” เซฮุนรับรู้ได้ถึงกระแสความเศร้าในคำตอบที่ได้รับ ชายหนุ่มอยากจะทึ้งหัวตัวเองซะเดี๋ยวนั้น เขาไม่น่าถามอะไรที่ทำให้รุ่นพี่ต้องคิดมากเลย
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า นายถามทำไมหรอ? ” ชานยอลถามกลับ
“ ผมแค่อยากขอคำปรึกษาครับ ” ใบหน้าขึ้นสีอ่อนๆของชายหนุ่มรุ่นน้องทำให้เขาเข้าใจในทันที
“ ปรึกษาเรื่อง? ” ชานยอลลองหยั่งเชิงถามไปงั้นๆ เขารู้ดีแก่ใจว่าเรื่องที่เซฮุนต้องการปรึกษานั้นคือเรื่องอะไร
“ ผม...... แอบชอบคนๆนึงอยู่ครับ ”
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
“ เอาชิ้นนั้นครับ ” คริสพูดพลางชี้ไปที่เค้กในตู้กระจก รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากปรากฏขึ้นยามนึกถึงสิ่งที่จะกลับไปทำ
เพียงนึกภาพรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้ ใบหน้าที่ขึ้นสีน้อยๆ กับคำพูดที่ชอบพูดจากวนโมโห คริสก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
ดูเหมือนว่า ปาร์คชานยอล มีอิทธิพลกับหัวใจของเขามากเกินไปแล้ว
“ เรียบร้อยค่ะ ” เสียงพนักงานที่ยื่นกล่องเค้กให้เรียกให้คริสหลุดจากความคิดของตน มือหนาเอื้อมไปรับของสำคัญมาถือไว้อย่างหวงแหน
“ ขอบคุณมากครับ ” เขาส่งยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเดินออกจากร้าน ร่างสูงฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีไปตามทาง
จนกระทั่ง...
" อึก.. " ชายหนุ่มผมสีทองหม่นครางด้วยความเจ็บปวด มือข้างที่ว่างยกขึ้นกุมเสื้อสูทจนยับยู่
ถึงแม้เขาจะถูกความเจ็บปวดเล่นงานจนแทบจะเดินต่อไม่ไหว.. แต่ถึงอย่างนั้น แขนอีกข้างของชายหนุ่มก็ยังกอดกล่องเค้กไว้อย่างระมัดระวัง
“ ไม่เป็นไร.. แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ” เขาพึมพำกับตนเองขณะใช้เสาไฟเป็นเครื่องช่วยยันกายขึ้นก้าวเดินต่ออีกครั้ง
‘ ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มของคนเขาที่รักอีกสักครั้ง.. ขอให้ได้พูดจากปากว่าเขารักอีกฝ่ายมากแค่ไหน
และได้ยินคำว่ารักที่ออกมาจากใจของคนๆนั้นจริงๆ แค่เพียงสักครั้งเดียว.. เท่านี้เขาก็คงไม่ต้องการอะไรอีก ’
...พระเจ้าครับ..
...ผมไม่ได้ร้องขอมากเกินไป...
..ใช่ไหมครับ? ..
‘ ขอแค่เพียงสักครั้งที่เขาจะพูดคำว่า “ รัก ” ออกมาจากใจจริงๆ ’
Let’s talk with writer ;
มาต่อตอนสั้นๆอย่างรวดเร็ว.. ๕๕ กำลังอยู่ในช่วงฟิตค่ะ
ตอนนี้ไรท์เตอร์กำลังมีความสุขปนความทุกข์กับการอัพฟิคทั้งสองเรื่อง *กุมขมับ*
เป็นยังไงบ้างคะนักอ่านทั้งหลาย กับตอนที่สอง ? /ตอบมาเลยนะ!}
ปล. ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ จะทันเรื่องนู้นอยู่แล้ว ๕๕
รักคนอ่าน แต่รักคนเม้นท์มากกว่าค่ะ!
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ :D
ความคิดเห็น