คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02 - Sacrificer
Diameter.
“KrisYeol TaoBaek KaiHun”
[ 2 ]
S
Sacrificer
“ นายว่าชานยอลจะไหวไหม? ” แบคฮยอนเป็นฝ่ายเริ่มบทสทนาทันทีที่เพื่อนตัวสูงถูกลากตัวออกจากร้านไป
“ ไม่แน่ใจ แต่มันก็อยู่คนเดียวมาได้ตั้งสองปีแล้วนะ น่าจะไหวอยู่ ” เซฮุนตอบพร้อมถอนหายใจหนักๆ บอกตรงๆเขาเองก็ไม่มั่นใจหรอกว่าปาร์คชานยอลจะไหวหรือเปล่า
“ ได้แต่หวังแล้วแหละเซฮุน สายตาของชานยอลที่มองพี่เขายังไม่เปลี่ยนไปเลย ” แบคฮยอนว่าแล้วยกมือกุมขมับ ทำไมจะไม่รู้ว่าชานยอลคิดอะไร คนตัวสูงที่ดูเข้มแข็งคนนั้นปากก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจจะเลิกร้องไห้หรือยังก็ไม่มีใครรู้
“ มันตัดสินใจตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้ว มันก็ต้องทำให้ได้ ” เซฮุนว่าแล้วก้มลงมองฟองอากาศในถ้วยกาแฟของตนเงียบๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายจมลงในความคิดของตัวเองเช่นกัน
“ ถามจริงๆนะทำไมถึงเลิกกับจื่อเทาล่ะ? ” เซฮุนเปิดประเด็นขึ้นอีกครั้งหลังจากเงียบกันไป คำถามที่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้คนถูกถามทำหน้าไม่ถูก จะไม่ตอบหรือบอกปัดก็คงเป็นไปไม่ได้ในเมื่ออีกฝ่ายจ้องหน้าคาดคั้นเขาอยู่แบบนี้ แถมที่ตรงนี้ยังไม่มีชานยอลเอาไว้ช่วยเบี่ยงประเด็นอีกด้วย
“ ก็บอกไปแล้วว่าดันทุรังต่อไปก็ไม่ได้ประโยขน์อะไร ให้มันจบตอนนี้ก็ดีกว่ายืดเยื้อให้ต่างคนต่างเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ” แบคฮยอนตอบอีกครั้ง คนฟังส่ายหน้าน้อยๆกับคำตอบนั้น
“ นายกลัวตัวเองเจ็บมากกว่าแบคฮยอน ” เซฮุนพูดแล้วยกยิ้ม เขากับแบคฮยอนรู้จักกันก่อนที่จะรู้จักกับชานยอลเสียอีก เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้ สำหรับตัวแบคฮยอนเองก็คงมีโอเซฮุนคนนี้แหละที่เข้าใจเขามากกว่าใครๆ เพื่อนกันปิดยังไงก็ปิดไม่พ้นหรอก
“ เปล่าน่า ” คนตัวเล็กกว่าตอบปัด แล้วยกกาแฟขึ้นดื่มแก้เก้อ พยายามลบความคิดเรื่อยเปื่อยที่ผุดขึ้นมาในหัวทิ้งไป แต่ก็พบว่ามันช่างยากเย็นกว่าที่คิด
“ นายไม่รักหมอนั่นแล้วเหรอ? ” มือที่กำลังถือแก้วกาแฟชะงักไป แบคฮยอนได้แต่หวังว่าเพื่อนสนิทคงจะไม่ทันเห็นมัน ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนแล้วตอบกลับไป
“ ไม่แล้วแหละ เป็นแค่เพื่อนพี่น้องที่เคยรู้จักกันก็ดีแล้ว ”
“ งั้นเหรอ? ” เซฮุนเท้าคางถามอีกรอบ แบคฮยอนอาจจะคิดว่าซ่อนมันได้ทั้งหมด แต่ดวงตาไหววูบนั่นแบคฮยอนไม่สามารถซ่อนมันจากเซฮุนได้หรอก
“ บอกว่าไงก็แบบนั้นสิ ว่าแต่นายเถอะ คราวนี้มันหนักจนทนไม่ไหวเลยเหรอ? ” แบคฮยอนเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายยิงคำถามในที่สุด คนตัวเล็กขมวดคิ้วเพ่งมองคนตรงหน้า ยื่นมือไปจับปลายคางแล้วบังคับให้เซฮุนหันซ้ายหันขวาตามที่ต้องการ
“ เบาๆมือหน่อยเพื่อนตัวเล็ก เห็นแบบนี้มันเจ็บนะ ” โดนเซฮุนว่าเข้าให้แบคฮยอนก็ปล่อยมือในที่สุด แต่ดวงตานั้นยังคงจดจ้องอยู่แถวข้างแก้มเซฮุนไม่ห่าง
“ ว่าไงล่ะ ครั้งนี้มันสุดจะทนแล้วเหรอ? ” ถามซ้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจจะตอบคำถามของเขาสักที
“ อือ.. ” คำตอบนั้นแสนจะแผ่วเบา เซฮุนหลุบตาลงต่ำยามนึกถึงสิ่งต่างๆที่เขาทนมาเป็นเวลาสองปี
“ เลิกได้ซะก็ดี ฉันขี้เกียจจะมานั่งทำแผลให้นายทุกอาทิตย์ ”
“ ฮะๆ นั่นสินะ ”
“ จริงๆนะเซฮุน ฉันอยากให้นายเลิกกับจงอินมานานแล้ว แต่นายดันอึดเป็นบ้า ทนให้หมอนั่นซ้อมอยู่ตั้งสองปี ” แบคฮยอนบ่นกระปอดกระแปด ใบหน้ายับย่นอย่างคนไม่พอใจ
“ ตอนนี้ก็เลิกกันแล้วไง ” เซฮุนว่าพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อคิดอะไรบางอย่าง
“ เป็นอะไรหรือเปล่าเซฮุน? ” แบคฮยอนถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆของอีกคน
“ แบคฮยอน ถามจริงๆนะ นายไม่ได้รักจื่อเทาแล้วใช่ไหม? ”
“ อือ.. ทำไมเหรอ? ”
“ ช่วยอะไรฉันอย่างนึงได้ไหม? ”
“ ? ”
“ ฉันอยากรู้จักฮวังจื่อเทา ”
- - - -
บรรยากาศอึดอัดในรถทำให้ชานยอลนึกอยากเปิดประตูแล้วออกจากรถไปไวๆ แต่ถึงจะอยากทำแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ชานยอลถูกพี่สาวลากตัวออกจากร้านตั้งแต่ยี่สิบนาทีก่อน ปาร์คชินเย พี่สาวที่แก่กว่าเขาสองปีเต็มๆ ลูกสาวคนโตของตระกูลปาร์คเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ นักศึกษาที่พึ่งเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคณะบริหารธุรกิจมหาลัยเดียวกับเขามาหมาดๆ พี่สาวที่แสนสมบูรณ์แบบและเป็นความคาดหวังของตระกูล แต่กลับไม่ต่างอะไรจากแม่คนที่สองที่แสนจะโหดเหี้ยมของปาร์คชานยอล คืนลองลงรถตอนนี้สิ บัตรเครดิตกับคอนโดคงโดนริบคืนแน่ๆ ความจริงมันไม่ใช่เรื่องแย่ที่ต้องไปกับชินเย แต่ไอ่บรรยากาศน่าอึดอัดใจจากคนตัวสูงอีกคนต่างหากที่ทำให้ปาร์คชานยอลอยากจะหนีไปจากตรงนี้ให้พ้นๆ
คนตัวสูงที่หายไปจากชีวิตได้สองปีเต็มๆ
คนที่กลับมาพร้อมตำแหน่งใหม่ที่เรียกว่า ‘ ว่าที่พี่เขย ’
นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในร้านกาแฟเมื่อครู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
...
“ ชินเย.. ” ชานยอลพึมพำชื่อพี่สาวเสียงเบา พยายามมองซ้ายมองขวาหาที่หลบแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันเพราะพี่สาวก้าวเข้ามาถึงตัวเขาซะก่อน
“ ปาร์คชานยอล! ไม่มีเรียนรึไง! ” ปาร์คชินเยดึงคอเสื้อของชานยอลไว้ทันก่อนที่เจ้าน้องชายตัวแสบจะมุดลงไปหลบใต้โต๊ะ ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณแม่ที่ตนเคารพรักอย่างจับผิดพร้อมๆกับกึ่งลากกึ่งฉุดให้น้องชายตัวโตกลับมานั่งดีๆบนโต๊ะ
“ ไม่มีหรอกเจ๊ วันนี้เลิกคลาสเร็ว ไม่เชื่อถามสองคนนี้ก็ได้ ” ชานยอลตอบเสียงอ่อยพลางจัดเสื้อนักศึกษาของตัวเองให้เรียบร้อย
“ ให้มันจริงเถอะ อย่าให้ได้ยินอาจารย์คนไหนมาบ่นให้ฟังนะ .. ไม่เป็นไรไม่นั่งแล้ว ” ชินเยว่าต่อก่อนจะปฏิเสธชานยอลที่ทำท่าจะชยับให้เธอนั่งข้างๆ
“ อ้าว ไม่กินอะไรก่อนเหรอ? ” ชานยอลถามด้วยความแปลกใจ เพราะเมื่อกี้พี่สาวของเขายังทำท่าเหมอนจะสั่งอะไรทานอยู่เลย
“ ไม่ล่ะ ว่างใช่ไหมล่ะ ถ้าว่างมากก็ไปกับพี่ ” ปาร์คชินเยออกคำสั่ง
“ เดี๋ยวๆ จะไปไหน? ” ชานยอลยกมือห้ามทัพเมื่อเห็นพี่สาวของตนทำท่าจะดึงคอเสื้อลากให้ตัวเขาลุกไปด้วยอีกครั้ง
“ ไปเลือกการ์ดงานหมั้น ” เจ้าของคำถามอ้าปากค้างไปในทันที สามเดือนที่เขาคลุกตัวอยู่แต่ที่คอนโด เกิดอะไรขึ้นที่บ้านใหญ่บ้างเนี่ย
“ งานหมั้น? งานหมั้นใคร? ” ละลักละล่ำถามแทบจะทันที ภาวนาในใจอยู่เงียบๆว่าขอให้มันไม่เป็นอย่างที่คิด แต่ดูเหมือนในครั้งนี้โชคจะไม่เข้าข้างปาร์คชานยอลเท่าไหร่นัก เพราะคำตอบที่ออกมาจากปากปาร์คชินเยนั้นยิ่งกว่ามีคนเอาน้ำเย็นมาสาดใส่
“ งานหมั้นของพี่ไง จะว่าไปเราไม่อยู่บ้านตั้งนานนี่ จะไม่รู้เรื่องก็ไม่แปลก ”
“ กับใคร? ” คำถามสั้นๆของปาร์คชานยอลทำเอาคนเป็นพี่ขมวดคิ้วยุ่ง
“ จะใครซะอีกก็.. เออ ลืมไปเลยวันนั้นชานยอลไม่อยู่บ้านนี่ งั้นถือโอกาสตอนนี้เลยแล้วกัน ” หญิงสาวพูดแล้วหันไปส่งยิ้มเรียกคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังให้เดินมาใกล้ เส้้นผมสีทองกับแววตาที่ชานยอลอ่านไม่ออกทำให้หัวใจกระตุกวูบ คนที่พยายามลืม คนที่ตัดออกไปจากชีวิตตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนกลับมายืนตรงหน้าของเขาอีกครั้ง
“ นี่ คริส อู๋อี้ฟาน ว่าที่คู่หมั้นของพี่ ”
เหมือนโลกทั้งใบถล่มลงตรงหน้า
คู่หมั้นของพี่สาวงั้นเหรอ?
ตลกดีที่อู๋อี้ฟานคนนี้บังเอิญเป็นคนเดียวกับเจ้าของข้อความที่ส่งมาเมื่อสองปีก่อน
บังเอิญเหลือเกินที่เป็นคนเดียวกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น..
‘ คนรักเก่าของปาร์คชานยอล ’
...
ท้ายที่สุดชานยอลก็โดนลากออกมาจากสภากาแฟจนได้ แทบจะไม่มีเวลาเอ่ยคำล่ำลาเพื่อนสนิททั้งสองคนด้วยซ้ำ นึกแล้วก็อดถอนหายใจออกมาอีกไม่ได้ บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขามากเกินไป โดยเฉพาะในครั้งนี้
รู้ตัวอีกทีก็มาถึงร้านเวดดิ้งสตูดิโอแล้ว ชานยอลพยายามจะไม่มองฝ่ามือใหญ่ที่กอบกุมมิอของพี่สาวเขาอยู่แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะไม่มองมัน ชานยอลนึกสมเพชตัวเองในใจที่ยังคงรู้สึกปวดใจทั้งๆที่เป็นคนตัดสินใจเองว่าจะลบอู๋อี้ฟานออกไปให้ได้ตั้งแต่สองปีก่อน พึ่งรู้ว่ารอยแผลที่อีกคนฝากไว้มันเป็นรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันหายก็ในวันนี้เอง อยากจะหัวเราะเยาะกับความอ่อนแอของตัวเองแต่มันคงไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ได้แต่มองภาพคนสองคนที่พูดคุยและยิ้มให้กันที่เคาท์เตอร์ของร้านเพื่อให้หัวใจชาชิน เมื่อสมองได้เลือกตั้งนานแล้วหัวใจเองก็ต้องยอมรับการตัดสินใจนั้นเหมือนกัน
และปาร์คชานยอลเองก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของปาร์คเยจินเช่นกัน
แม้ว่าจะรู้ดีแก่ใจว่าอู๋อี้ฟานเป็นคนยังไง
คงจะต้องยอมรับว่าต่อจากนี้ไป
อู๋อี้ฟานคนนั้นจะกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง
กลับมาในสถานะที่ต่างไปจากเดินโดยสิ้นเชิง
และปล่อยให้ปาร์คชานยอลเก็บความลับนั้นเอาไว้
ความลับที่ว่าเมื่อสองปีก่อนเขาและผู้ชายคนนั้นเลยรักกันมากขนาดไหน
รัก จนแม้กระทั่งในวันนี้นับจากวันที่ได้รับข้อความนั้นก็เป็นเวลาสองปีเต็มๆ
เขาก็ยังคงตัดความรู้สึกเหล่านั้นไม่ขาด
รัก แต่ต้องทำใจยอมรับว่าต่อจากนี้มันจะไม่มีวันเป็นแบบเดิมอีก
เคยอยู่ได้โดยไม่มีคนๆนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต จากนี้ไปก็ต้องอยู่ให้ได้
อยู่ให้ได้โดยที่มีอู๋อี้ฟานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแต่ไม่ใช่ในฐานะคนรักอีกต่อไป
อยู่ให้ได้ โดยที่มีอู๋อี้ฟานเป็น ‘ คนรักของพี่สาว ’
TBC.
#ดอมท
@Wolinr
+ อัพให้สามตอนติดกันแล้ว คงจะหยุดไปสักพักนะคะ!
แล้วจะกลับมาอัพต่อเร็วๆนี้ค่ะ
จะทวงจะทักทาย ติดต่อได้ที่ @Wolinr หรือแฮชแท็ก #ดอมท ทางทวิตเตอร์ค่ะ
ความคิดเห็น