ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NEVER KNEW I NEEDED ; { Krisyeol }

    ลำดับตอนที่ #10 : 09 ; and Throw my pain away

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 55


    cinnamon
     AND THROW MY PAIN AWAY

    { 09 }

     

     

    “ ฮื่อ...  ”   มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาขับไล่ความง่วง  ก่อนจะพลิกตัวช้าๆ

    อุ่น..  ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจนสัมผัสได้ เป็นสิ่งแรกที่ชานยอลรู้สึกถึงตั้งแต่ลืมตาตื่นเต็มที่

    วงแขนแกร่งยังโอบรอบเอวของเขาไม่ปล่อยเลยตั้งแต่เมื่อคืน 

     

             ดวงตากลมไล้มองโครงหน้าของเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นอย่างตั้งใจ  ลมหายใจสม่ำเสมอกับแผงอกที่ขยับขึ้นลงอย่างเป็นสุขทำให้คนมองรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่น   มือเรียวไล้เบาๆไปตามสันจมูกโด่งก่อนมาหยุดลงที่แก้ม  นิ้วโป้งลากช้าๆผ่านโหนกแก้มของคนที่หลับตาพริ้ม ถ้าหากไม่ได้มาจับกับมือเขาก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าแก้มของฮยองของเขาจะนุ่มขนาดนี้  

     

    ตอนหลับเนี่ย.. น่าเอ็นดูชะมัดเลย ’  ชานยอลชมอีกฝ่ายในใจ  รอยยิ้มแรกของวันยกขึ้นประดับบนใบหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะเคลื่อนใบหน้าของตนไปใกล้อีกฝ่ายจนปลายจมูกสัมผัสกับแก้มของคริสอย่างแผ่วเบา

     

    เบาจนแทบจะไม่สัมผัสถึงผิวกาย.. แต่ก็ยังรู้สึกแผ่วๆที่ปลายจมูก

     

    นี่ เขากลายเป็นคนโรคจิตชอบลักหลับชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  เส้นผมสีน้ำตาลสั่นไหวตามแรงส่ายศีรษะ ชานยอลไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าตัวเองจะมานั่งลักหลับคนอื่นแบบนี้ โดยเฉพาะคนตรงหน้า  

     

    แต่ก็แค่อยากสัมผัสบ้างเท่านั้นแหละ...  แค่อยากรู้ความรู้สึกตอนที่ฮยองของเขาทำอะไรพวกนี้กับเขาบ้าง

         


               เพราะงั้น...  เขาเลยไม่คิดที่จะหยุดตัวเอง  ชานยอลยังคงกดจมูกลงกับใบหน้าของคนที่หลับเป็นเจ้าชายนิทราซ้ำๆ จะเรียกว่าหอมแก้มแบบเต็มปากเต็มคำก็คงไม่ใช่ สิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำอยู่ไม่ต่างอะไรกับการยื่นหน้าเข้าหาอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ  แล้วก็สัมผัสแบบเฉียดๆเท่านั้น

     

    “  ผมนี่... โรคจิตชะมัดเลยเนอะ  ”   ชายหนุ่มหัวเราะเยาะการกระทำของตัวเอง ก่อนฟุบลงกับแผ่นอกของอีกฝ่าย เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอกล่อมให้คนที่กำลังฟังหลับตาพริ้ม  สัมผัมเบาๆราวกับปลอบประโลม ฝ่ามือหนาที่กำลังยีผมของเขาทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม

     

    “ ฮยองตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?  ”  ชานยอลถามอีกฝ่ายทั้งๆที่ยังแนบใบหูกับแผ่นอกกว้าง รู้หรอกว่าอีกฝ่ายคงแกล้งหลับต่อทั้งๆที่ตื่นแล้วเผื่อจะได้ของแถมอะไรอีกเหมือนคราวที่แล้ว

     

    “ คราวนี้ตื่นไม่ทันมอร์นิ่งคิส..  ”   เสียงทุ้มตอบกลับขณะจับปอยผมของอีกฝ่ายเล่น

     

    “ วันนี้ไม่มีสักหน่อย  ”  ดวงตากลมหลับพริ้มรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากขับให้ใบหน้าที่ดูหวานอยู่แล้วหวานยิ่งกว่าเดิม

     

    “ ขอหน่อยได้ไหม?  ”  เสียงทุ้มถามขึ้นมาเรียบๆราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาๆไม่ต่างจากขอให้หยิบนู่นหยิบนี่ให้หน่อย

     


    “ ไม่เอา.. ”   เจ้าของคำถามไม่ได้รู้เลยว่า คำถามเรียบๆเมื่อครู่นั้นมีผลอย่างมากมายมหาศาลกับคนในอ้อมกอด  

     

    “ เบาๆก็ยังดี  ” ยิ่งเห็นอาการก้มหน้างุดๆของคนถูกขอร้องคริสยิ่งได้ใจ  ถึงเมื่อก่อนกับตอนนี้เขาจะไม่ได้แกล้งชานยอลน้อยไปกว่ากันเท่าไหร่ แต่ผลตอบรับนี่สิแตกต่างกันน่าดู

     

    น่ารัก น่าแกล้งขึ้นเป็นกอง..

     



    “ ไม่  ”

     


    “ แค่แตะเบาๆก็ได้..  ”  คนป่วยยังคงพยายามต่ออย่างไม่ลดละ  มือหนาข้างที่ไร้พันธะเอื้อมไปเขี่ยใบหูแดงก่ำของอีกฝ่ายเล่น  จนในที่สุดเจ้าของดวงตากลมโตก็หันกลับมา  ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัสขบเม้มอย่างขัดใจ แก้มพองน้อยๆกับคิ้วขมวดขมุ่นที่เขามักเห็นเป็นสิ่งแรกในตอนเช้าไม่เคยเปลี่ยนไปเลย... เพียงแต่ว่าตอนนี้เขากำลังเห็นตัวเขาเองอยู่ในประกายตาคู่สวยคู่นั้น .. ประกายตาที่สะท้อนออกมาว่าอีกฝ่ายกำลังมองกลับมาหาเขา

     

    “ แค่เบาๆ  ”

     


    “ ครับ  ”    เสียงทุ้มตอบตกลง เปลือกตาหนาปิดลงช้าๆเพื่อรอรับสัมผัสจากคนตรงหน้าที่เคลื่อนตัวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกัน  เสื้อนอนที่ถูกขยุ้มจนรู้สึกได้ถึงมือสั่นๆของคนในอ้อมแขน ลมหายใจที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

     





    “ มอร์นิ่งคริส  ”   เสียงใสกระซิบข้างๆหู เจ้าตัวยุ่งหัวเราะรวนก่อนดิ้นหลุดจากอ้อมกอดเขาไปเหมือนทุกที คริสได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆกับความเอาแต่ใจกับคนที่วิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว

     



    นี่เขาขอ “ มอร์นิ่งคิส  ”  ไม่ใช่คำว่า “ มอร์นิ่งคริส ”  จากอีกฝ่ายซะหน่อย

     

    “ รู้แบบนี้.. ไม่รีบหายซะก็ดี เมื่อไหร่จะยอมตามใจแบบเมื่อคืนอีกก็ไม่รู้  ”   คนตัวสูงได้แต่บ่นพึมพำบนโซฟาอยู่คนเดียว

     

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-

     

     

    ไม่ต้องห่วงนะ เซฮุนพวกฉันกลับเองได้ รบกวนนายมามากแล้ว ขอบคุณมาก  -  อู๋ ชานยอล

     

      “ เฮ้อ...  ”   เซฮุนเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงอย่างยากลำบาก  ชายหนุ่มไม่ได้ถอนหายใจเพราะโกรธหรือเคืองที่รุ่นพี่ของเขาบอกว่าไม่ต้องไปส่งหรอกแต่เขาถอนหายใจเพราะสงสารตัวเองต่างหาก

     


    หนัก..  เมื่อย..  ปวดไหล่..   คือสิ่งที่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลกำลังประสบอยู่ในตอนนี้ ไหล่ขวาของเขามีศีรษะของคนตัวเล็กในเสื้อกันหนาวสีแดงกำลังพิงอยู่ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นกำไรมากกว่าความลำบากซะอีก  แต่ที่เป็นปัญหาคือไหล่อีกข้างต่างหาก

     


    “ สองคนนี้มันอะไรกันเนี่ย..  ”  หลักพักพิงบ่นงึมงำเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้  นิ้วเรียวค่อยๆยกขึ้นมาจิ้มลงไปกลางกลุ่มไหมสีดำของคนที่ยึดไหล่ซ้ายของเขาเป็นหมอนแล้วหลับสบายอยู่อย่างหมั่นไส้

     


    “ อืม..  ”  คนหลับครางออกมาเบาๆ จนเซฮุนอดไม่ได้ที่จะเพิ่มแรงกดที่นิ้วลงไปอีก  เรื่องอะไรคุณหมอโรคจิตคนนี้ต้องมายืมไหล่เขาหลับด้วยล่ะ

     


    หมับดูเหมือนการกดปุ่มเปิดจะไม่ได้ผลเมื่อคนที่หลับไม่ยอมตื่นขึ้นมา แถมยังส่งแขนปลาหมึกตวัดพาดลำตัวของเขามาเป็นของสมนาคุณอีกต่างหาก  มือปลาหมึกกำเสื้อของเขาแน่นชนิดว่าเอาไขขวงมาแงะยังแกะออกไม่ได้

     


    “ เฮ้ย..  มากไปแล้วนะ  ”  เซฮุนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงดังเพราะกลัวทำให้คนที่กำลังหลับสบายอยู่บนไหล่อีกข้างของเขาตื่นขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ  มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะของคนทางขวาอย่างแผ่วเบา

     


    “  ฮื่อ..  ”  ลู่หานขยับตัวน้อยๆ ใบหน้านวลซุกใกล้ซอกคอของชายหนุ่มผู้เป็นหมอนกิตติมาศักดิ์ราวกับเป็นหมอนข้างอันโปรด  ผิวขาวของเซฮุนขึ้นสีอย่างห้ามไม่ได้เมื่อสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เป่ารดอยู่บริเวณนั้น

     


    “  ให้ตายเถอะ...  ฝันอยู่รึเปล่าเนี่ยเรา  ”

     


    “  ฟรี้..  ”   กลายเป็นเสียงหายใจของชายหนุ่มผมดำที่สกัดไม่ให้โอเซฮุนขึ้นเครื่องบินไปฟินแลนด์  ริมฝีปากหนานั่นขยับมุบมิบเหมือนจะเยาะเย้ยเขาว่า “ หึหึหึ .. ฝันกลางวันไปเถอะ  ”  ทำเอาชายหนุ่มผู้ตื่นขึ้นมาก่อนชาวบ้านได้แต่พ่นลมหายใจอย่างเซ็งๆ

     


    ใช่สิ้..  เขามันแค่หมอนข้างแต่หมอนี่มันแฟนนี่หว่า  

     


    ปึ้ก..   เมื่อหมอนกิตติมาศักดิ์เริ่มหมดอารมณ์ คุณหมอนก็จัดการยักไหล่ซ้ายสองสามทีเผื่อว่าคนที่หลับมาตั้งนานสองนานจะตื่นขึ้นมาได้สักที 

     


    “  คุณแม่.. ขอกัมจงนอนอีกนิดน้า..  ”  เสียงเบาๆของคนโดนแกล้งทำให้คนแกล้งขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

     


    กัมจง?   ไหนบอกว่าชื่อไคไง?  เซฮุนแทบอยากจะเกาหัวแกรกๆกับอาการละเมอของอีกฝ่าย

    นี่เขากลายเป็นคุณแม่ไปแล้วสินะ  

     


    “  เฮ้อ..  อีกสักพักค่อยปลุกแล้วกัน  ”   เซฮุนปิดเปลือกตาลงอย่างเหนื่อยล้า ชายหนุ่มเองก็ยังนอนไม่เต็มอิ่มที่ตื่นขึ้นมาเมื่อครู่ก็เพราะแรงสั่นจากข้อความของรุ่นพี่ที่เขาเมมชื่อว่า อู๋ชานยอลนั่นแหละ

     

     

    จริงๆมันก็ไม่ได้แย่หรอกที่ต้องมาเป็นหมอนหนุนให้กับคนสองคนนี้  เพียงแต่โอเซฮุนกำลังรู้สึกผิดต่างหาก

    ในเมื่อทั้งสองคนเป็นแฟนกัน  แต่เขาที่เป็นใครก็ไม่รู้กำลังมานั่งกั้นกลางระหว่างคนสองคน.. ถึงแม้ในใจอยากจะแย่งเจ้าของดวงตากลมโตไม่ต่างจากดวงตากวางคนนั้นมาเป็นของตัวเองก็ตาม

     


    แต่ทำแบบนี้..    มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกผิดแปลกๆ

     


    รู้สึกเหมือนกำลังทำร้ายคนโรคจิตแบบหมอบ้าๆข้างๆเขานี่เลย...

     


    “  เฮ้อ.. ให้ตายเถอะ  หลับดีกว่า ฟุ้งซ่านไปนะเรา ไหนๆก็จะตัดใจแล้วนี่..  ”

     


     

    จะตัดใจ..

     

    แต่มาคอยป้วนเปี้ยนแถมพ่วงโจทก์มาด้วยแบบนี้จะให้เขาทำยังไง?..  ลู่หาน

     

     

     




    โอย  หัวโอเซฮุนแทบจะระเบิด!

     

     

     

    -*-*-*-*-*-*-*-

     




    “  สรุปว่าผมกลับบ้านได้เลยใช่ไหมครับ?  ”    คริสนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อนางพยาบาลถอดเข็มน้ำเกลือออก  เสียงทุ้มเอ่ยถามชายในกรอบแว่นที่ยืนอยู่ไม่ห่างไปเท่าไหร่  เสื้อกราวนด์สีขาวทำให้คนมองอยู่รู้ว่าชายคนนี้เป็นคุณหมอแน่ๆ



    “  กลับได้เลยครับ อ้อ อย่าลืมนัดของคุณหมอไคด้วยนะครับ  ”   คุณหมอกล่าวย้ำแล้วรวบแฟ้มเข้าไปไว้ในอ้อมกอด  รอยยิ้มอบอุ่นส่งมาให้ทั้งสองคนอย่างเอ็นดูแล้วหันกายเดินออกจากห้องไป ทิ้งเจ้าตัวยุ่งให้อยู่กับคนพึ่งหายป่วยเพียงลำพัง

     

    “  กลับกันเถอะ  ”    คริสหันหน้าไปมองอีกฝ่ายที่หาวหวอดๆ ก่อนจะเดินนำออกจากห้องไป

     

    หมับ..    ชายเสื้อที่ถูกกำด้วยมือของคนที่เดินตามทำให้ขายาวหยุดลงโดยไม่ทันบอกคนเดินตาม ผลก็คือชานยอลที่ชนโครมเข้ากับแผ่นหลังและไหล่กว้างๆของเขาอย่างจัง

     

    “ จะ..เจ็บ  ”   คนซุ่มซ่ามลูบสันจมูกตัวเองป้อยๆ ดวงตากลมจ้องมองมาราวกับเขาเป็นอาชญากรตัวร้ายที่ไปทำอะไรตัวเองเข้าสักอย่าง

     

    “  เดี๋ยวก็ชิน   ”

     


    “  ห้ะ? ฮยองว่าไงนะ  ”     ชานยอลเลิกคิ้วด้วยความสงสัย คำตอบประหลาดๆของคนตรงหน้าทำให้เขางงเต็ก 

     


    “  เจ็บบ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน   ”  

     


    “  พูดอะไรฮะ?  ผมงงฮยองแล้วนะ  เมาไข้ยังไม่หายรึเปล่าเนี่ย?  ”   ท่าทีเอียงคอถามของคนตัวเล็กกว่านั้นน่าเอ็นดูเกินกว่าจะทนไหว มือหนายื่นไปตรงหน้าของชานยอลขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจอยู่ดี

     


    “ ขอมือชานยอลให้ฮยองจับนะ  ”   รอยยิ้มเปล่งประกายบนใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มที่ใครมาเห็นเข้าก็คงละลายกันเป็นแถบๆ ส่งตรงมาให้ปาร์คชานยอลเพียงคนเดียว พร้อมกับฝ่ามือหนาที่ยื่นมาให้เขาวางมือลงไป

     


    แรงบีบเบาๆที่ฝ่ามือทำให้ปาร์คชานยอลรู้ว่าคนๆนี้ยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ มือหนาที่คอยกุมมือของเขาไว้อย่างปกป้องและทะนุถนอม เหมือนที่อีกฝ่ายคอยดูแลเขาอยู่เสมอ ความอบอุ่นที่ได้รับจนหลายๆครั้งที่เผลอมองข้ามไป  ในวันนี้ชานยอลได้แต่สัญญาและเตือนตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันมองข้ามมันไปอีก..   ความรักของคนๆนี้ก็เหมือนกัน

     


    “ คริสฮยองครับ  ”   เสียงเรียกพร้อมกับการหยุดเดินของคนข้างหลังเรียกให้คริสหันกลับมามอง

     


    “  เราสองคน....  ”  

     


    “ ว่าไงครับ?  ”   รอยยิ้มคลี่ตัวบนใบหน้าของเจ้าของชื่อ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายยิ้มหัวใจเจ้ากรรมของปาร์คชานยอลยิ่งเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม

     


    “ เราสองคน.......    ”  

     


    “  หืม?  ”   คนที่รอฟังคำถามมุ่นหัวคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นคนช่างจ้อกลับมามีอาการติดอ่างอีกครั้ง 

     


     

    “ เราสองคนเลิกกันเถอะ..  ”    คำพูดที่ปาร์คชานยอลพูดออกมาเหมือนมีใครเอาไม้มาตีแสกหน้าคริส  คนตัวสูงพูดอะไรไม่ออก มีเพียงดวงตาเรียวที่มองคนพูดที่ก้มหน้าก้มตาด้วยความตกใจ

     


    “ ชะ..ชานยอล?  ”

     

    “  เลิกกันเถอะ.. เลิกกับผม   ”    ปาร์คชานยอลเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น

     


    “  ก็รู้นี่..  ว่าพี่ไม่เคยขอเป็นเจ้าของ..  ”    ดวงตาเรียวมองตรงมาอย่างเจ็บปวดมือหนาเอื้อมมาวางทาบลงไปบนหน้าอกของคนตัวเล็กกว่า

     


    “  ขอแค่ดูแลนายก็พอ..  พี่ขอแค่นั้น  ”

     


    “  เลิกกับผม.. ตอบตกลงสิ  ”   ชานยอลจ้องเข้าไปในแววตาของอีกฝ่าย  เขาได้แต่หวังว่าฮยองของเขาจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ

     


    “  พี่..ทำไม่ได้  ”   คริสตอบช้าๆ เปลือกตาหลุบลงเหมือนไม่ต้องการรับรู้อะไรอีก  ชายหนุ่มผมทองหันหลังให้คนที่ร้องขอ

     



    หมับ..    อ้อมกอดจากด้านหลังที่รั้งเขาให้แนบชิดกับเจ้าของอ้อมกอด  ยิ่งทำให้คริสสงสัยและเจ็บปวดมากกว่าเดิม 

     

     

    ปาร์คชานยอลกอดเขาทำไม..ในเมื่อปากก็ยังไล่เขาไปอยู่เลย..

     

     




    “ เลิกกับผมนะ..  ”

     

     




    ถอยคำที่เหมือนผลักให้คืนที่ผ่านมาเป็นเพียงฝัน..  ถอยคำที่ทิ่มแทงหัวใจที่เขาเคยคิดว่ามันเจ็บจนชินชาไปแล้ว

    จะพูดซ้ำให้หัวใจของเขาตายด้านไปเลยรึไง?

     


    “ เลิกกับผมคนนั้น..คนที่มีแต่ความเจ็บปวด คนที่จมอยู่กับความเสียใจจนมองข้ามความรักของฮยอง  ”

    ประโยคยาวๆที่ดึงสติของคนฟังให้กลับมาอีกครั้ง.. สติที่กลับมาพร้องกับเสียงหัวใจที่เต้นระรัว  และอ้อมกอดที่รัดแน่นกว่าเดิมของคนที่อยู่ข้างหลัง

     

     

    “  ฮยองเลิกกับคนงี่เง่าคนนั้นแล้วมาคบกับผมแทนได้ไหม?..  ”   

     

    “ ถะ... ถึงผมคนนี้จะเอาแต่ใจ ถึงจะดื้อ.. จะทำให้ฮยองคิดมาก.. แต่ก็ไม่ได้งี่เง่าเหมือนคนนั้นแน่ๆ  ”

     

    “  พะ..เพราะงั้น  คบกับผมเถอะนะ  ”  คนที่ปาร์คชานยอลขอร้องหันกลับมาแล้ว ดวงตาเรียวก็มองกลับมาที่เขาแล้ว.. เพียงแต่มันไม่ได้เต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนที่เคย

     

    คริสกำลังโกรธเขาแน่ๆ..    ไม่น่าเล่นอะไรแบบนี้เลย   เด็กหนุ่มเริ่มโทษความซื่อบื้อของตัวเอง  น้ำใสๆคลอขึ้นในดวงตากลมทั้งสองข้าง

     

    “  ปาร์คชานยอล..  ”   เสียงทุ้มพูดขึ้นเมื่อเห็นเขาก้มหน้างุด แต่ถึงฮยองจะเรียกชื่อเขา ชานยอลก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาอีกฝ่ายอยู่ดี

     

    “ กล้าของพี่เลิกแล้วทำไมไม่กล้ามองหน้า?  ”  

     

    “  กล้าพูดออกมาแล้วทำไมไม่มองพี่?  ” 

     




    “  ...ขอโทษ..  ผมแค่  อยากให้ฮยองเจอคนที่ดีกว่า  ”  ปาร์คชานยอลตอบคำถามแต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นไปอยู่ดี



    “  เอาแต่ใจ..  มั่นใจจังเลยนะเจ้าตัวแสบ  ”   มือหน้าสอดเข้ามาเชยคางให้เขาเงยหน้าขึ้น

     

    “  คนที่ดีกว่าที่ว่า..  ก็คือตัวเองเนี่ยนะ?  ”  คริสขมวดคิ้วจ้องมองอีกฝ่าย เขาพอเข้าใจแล้วว่าเจ้าตัวแสบต้องการจะทำอะไร แต่พูดแบบนี้เขาอดใจหายไม่ได้จริงๆ

     

    “  อื้ม.. ดีกว่าสิ ก็ผมคนนี้มีสิ่งที่คนก่อนหน้าไม่มีนี่.. ”

     


    “  หืม?  ”

     


    “  ตอบตกลงเลิกกันมาก่อน.. อู๋อี้ฟานเลิกกับผมนะ  ”   ชานยอลยื่นข้อเสนอเมื่อเห็นว่าฮยองของเขาเริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว

     


    “  เฮ้อ..  ก็ได้.. เราเลิกกัน  ”   คนตัวสูงจำต้องยอมทำตามในท้ายที่สุด ถึงแม้ลึกๆแล้วจะไม่อยากทำก็เถอะ

     

    “  อู๋อี้ฟาน!  ”  คราวนี้เสียงที่เคยสั่นและตะกุกตะกักของเจ้าของเรื่องถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เจ้าของชื่อเพียงแค่มองหน้าคนเรียกแทนการตอบรับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “  ถ้าไม่รังเกียจ..  คบกับผมได้ไหมครับ?..  ”

     

     

     

     









     

      คุยกับไรท์เตอร์มามะ 
    สวัสดีค่ะ ! พลับกลับมาแล้ว ๕๕๕ 
    หายไปหลายวันเหมือนกันเนอะ คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย? *โดนรุมถีบ*
    ช่วงนี้มีเรื่องให้คิด(?)นิดหน่อย+การบ้านและงานบางอย่างคั่งค้าง /มึงดองงานก็บอกมา/
    ก็เลยหายไปเลย ตอนนี้ก็มาอัพให้แล้ว แถมเป็นเวลาดีซะด้วย   
    สองเดือนเดบิวท์หนุ่มๆแล้ว เย้เย้ อยู่ด้วยกันไปอีกสองร้อยล้านปีแสงเลยนะ 

    ตอนนี้เป็นไงบ้างเอ่ยย? 55 มันก็ยังสั้นเหมือนเดิม 555 ใช่ม้า?
    เอาน่าๆ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ

    อ้ะๆ อย่าพึ่งโกรธาน้องยอลลี่กันล่ะ!

    ปล. มีคนทายถูกจริงๆด้วยสิว่าเฮียแกพูดอะไร 55 ตอนพิเศษที่จะมาลงออกแนวหนังจีนหน่อยนะคะ
    ไว้พลับจะมาลงให้แน่ๆแต่คงเป็นเสาร์อาทิตย์  อยากอ่านกันหรือเปล่า? ๕๕  ห้ะ? ไม่อยาก โอเคเค้าไม่ลงละ

    เจอกันตอนหน้าค่ะ นักอ่านที่รัก : ) 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×