คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 09 ; and Throw my pain away
{ 09 }
“ ฮื่อ... ” มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาขับไล่ความง่วง ก่อนจะพลิกตัวช้าๆ
อุ่น.. ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจนสัมผัสได้ เป็นสิ่งแรกที่ชานยอลรู้สึกถึงตั้งแต่ลืมตาตื่นเต็มที่
วงแขนแกร่งยังโอบรอบเอวของเขาไม่ปล่อยเลยตั้งแต่เมื่อคืน
ดวงตากลมไล้มองโครงหน้าของเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นอย่างตั้งใจ ลมหายใจสม่ำเสมอกับแผงอกที่ขยับขึ้นลงอย่างเป็นสุขทำให้คนมองรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่น มือเรียวไล้เบาๆไปตามสันจมูกโด่งก่อนมาหยุดลงที่แก้ม นิ้วโป้งลากช้าๆผ่านโหนกแก้มของคนที่หลับตาพริ้ม ถ้าหากไม่ได้มาจับกับมือเขาก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าแก้มของฮยองของเขาจะนุ่มขนาดนี้
‘ ตอนหลับเนี่ย.. น่าเอ็นดูชะมัดเลย ’ ชานยอลชมอีกฝ่ายในใจ รอยยิ้มแรกของวันยกขึ้นประดับบนใบหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะเคลื่อนใบหน้าของตนไปใกล้อีกฝ่ายจนปลายจมูกสัมผัสกับแก้มของคริสอย่างแผ่วเบา
เบาจนแทบจะไม่สัมผัสถึงผิวกาย.. แต่ก็ยังรู้สึกแผ่วๆที่ปลายจมูก
นี่ เขากลายเป็นคนโรคจิตชอบลักหลับชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เส้นผมสีน้ำตาลสั่นไหวตามแรงส่ายศีรษะ ชานยอลไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าตัวเองจะมานั่งลักหลับคนอื่นแบบนี้ โดยเฉพาะคนตรงหน้า
แต่ก็แค่อยากสัมผัสบ้างเท่านั้นแหละ... แค่อยากรู้ความรู้สึกตอนที่ฮยองของเขาทำอะไรพวกนี้กับเขาบ้าง
เพราะงั้น... เขาเลยไม่คิดที่จะหยุดตัวเอง ชานยอลยังคงกดจมูกลงกับใบหน้าของคนที่หลับเป็นเจ้าชายนิทราซ้ำๆ จะเรียกว่าหอมแก้มแบบเต็มปากเต็มคำก็คงไม่ใช่ สิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำอยู่ไม่ต่างอะไรกับการยื่นหน้าเข้าหาอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ แล้วก็สัมผัสแบบเฉียดๆเท่านั้น
“ ผมนี่... โรคจิตชะมัดเลยเนอะ ” ชายหนุ่มหัวเราะเยาะการกระทำของตัวเอง ก่อนฟุบลงกับแผ่นอกของอีกฝ่าย เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอกล่อมให้คนที่กำลังฟังหลับตาพริ้ม สัมผัมเบาๆราวกับปลอบประโลม ฝ่ามือหนาที่กำลังยีผมของเขาทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม
“ ฮยองตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว? ” ชานยอลถามอีกฝ่ายทั้งๆที่ยังแนบใบหูกับแผ่นอกกว้าง รู้หรอกว่าอีกฝ่ายคงแกล้งหลับต่อทั้งๆที่ตื่นแล้วเผื่อจะได้ของแถมอะไรอีกเหมือนคราวที่แล้ว
“ คราวนี้ตื่นไม่ทันมอร์นิ่งคิส.. ” เสียงทุ้มตอบกลับขณะจับปอยผมของอีกฝ่ายเล่น
“ วันนี้ไม่มีสักหน่อย ” ดวงตากลมหลับพริ้มรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากขับให้ใบหน้าที่ดูหวานอยู่แล้วหวานยิ่งกว่าเดิม
“ ขอหน่อยได้ไหม? ” เสียงทุ้มถามขึ้นมาเรียบๆราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาๆไม่ต่างจากขอให้หยิบนู่นหยิบนี่ให้หน่อย
“ ไม่เอา.. ” เจ้าของคำถามไม่ได้รู้เลยว่า คำถามเรียบๆเมื่อครู่นั้นมีผลอย่างมากมายมหาศาลกับคนในอ้อมกอด
“ เบาๆก็ยังดี ” ยิ่งเห็นอาการก้มหน้างุดๆของคนถูกขอร้องคริสยิ่งได้ใจ ถึงเมื่อก่อนกับตอนนี้เขาจะไม่ได้แกล้งชานยอลน้อยไปกว่ากันเท่าไหร่ แต่ผลตอบรับนี่สิแตกต่างกันน่าดู
น่ารัก น่าแกล้งขึ้นเป็นกอง..
“ ไม่ ”
“ แค่แตะเบาๆก็ได้.. ” คนป่วยยังคงพยายามต่ออย่างไม่ลดละ มือหนาข้างที่ไร้พันธะเอื้อมไปเขี่ยใบหูแดงก่ำของอีกฝ่ายเล่น จนในที่สุดเจ้าของดวงตากลมโตก็หันกลับมา ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัสขบเม้มอย่างขัดใจ แก้มพองน้อยๆกับคิ้วขมวดขมุ่นที่เขามักเห็นเป็นสิ่งแรกในตอนเช้าไม่เคยเปลี่ยนไปเลย... เพียงแต่ว่าตอนนี้เขากำลังเห็นตัวเขาเองอยู่ในประกายตาคู่สวยคู่นั้น .. ประกายตาที่สะท้อนออกมาว่าอีกฝ่ายกำลังมองกลับมาหาเขา
“ แค่เบาๆ ”
“ ครับ ” เสียงทุ้มตอบตกลง เปลือกตาหนาปิดลงช้าๆเพื่อรอรับสัมผัสจากคนตรงหน้าที่เคลื่อนตัวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกัน เสื้อนอนที่ถูกขยุ้มจนรู้สึกได้ถึงมือสั่นๆของคนในอ้อมแขน ลมหายใจที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ มอร์นิ่งคริส ” เสียงใสกระซิบข้างๆหู เจ้าตัวยุ่งหัวเราะรวนก่อนดิ้นหลุดจากอ้อมกอดเขาไปเหมือนทุกที คริสได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆกับความเอาแต่ใจกับคนที่วิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว
นี่เขาขอ “ มอร์นิ่งคิส ” ไม่ใช่คำว่า “ มอร์นิ่งคริส ” จากอีกฝ่ายซะหน่อย
“ รู้แบบนี้.. ไม่รีบหายซะก็ดี เมื่อไหร่จะยอมตามใจแบบเมื่อคืนอีกก็ไม่รู้ ” คนตัวสูงได้แต่บ่นพึมพำบนโซฟาอยู่คนเดียว
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
‘ ไม่ต้องห่วงนะ เซฮุนพวกฉันกลับเองได้ รบกวนนายมามากแล้ว ขอบคุณมาก - อู๋ ชานยอล ’
“ เฮ้อ... ” เซฮุนเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงอย่างยากลำบาก ชายหนุ่มไม่ได้ถอนหายใจเพราะโกรธหรือเคืองที่รุ่นพี่ของเขาบอกว่าไม่ต้องไปส่งหรอกแต่เขาถอนหายใจเพราะสงสารตัวเองต่างหาก
หนัก.. เมื่อย.. ปวดไหล่.. คือสิ่งที่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลกำลังประสบอยู่ในตอนนี้ ไหล่ขวาของเขามีศีรษะของคนตัวเล็กในเสื้อกันหนาวสีแดงกำลังพิงอยู่ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นกำไรมากกว่าความลำบากซะอีก แต่ที่เป็นปัญหาคือไหล่อีกข้างต่างหาก
“ สองคนนี้มันอะไรกันเนี่ย.. ” หลักพักพิงบ่นงึมงำเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ นิ้วเรียวค่อยๆยกขึ้นมาจิ้มลงไปกลางกลุ่มไหมสีดำของคนที่ยึดไหล่ซ้ายของเขาเป็นหมอนแล้วหลับสบายอยู่อย่างหมั่นไส้
“ อืม.. ” คนหลับครางออกมาเบาๆ จนเซฮุนอดไม่ได้ที่จะเพิ่มแรงกดที่นิ้วลงไปอีก เรื่องอะไรคุณหมอโรคจิตคนนี้ต้องมายืมไหล่เขาหลับด้วยล่ะ
หมับ! ดูเหมือนการกดปุ่มเปิดจะไม่ได้ผลเมื่อคนที่หลับไม่ยอมตื่นขึ้นมา แถมยังส่งแขนปลาหมึกตวัดพาดลำตัวของเขามาเป็นของสมนาคุณอีกต่างหาก มือปลาหมึกกำเสื้อของเขาแน่นชนิดว่าเอาไขขวงมาแงะยังแกะออกไม่ได้
“ เฮ้ย.. มากไปแล้วนะ ” เซฮุนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงดังเพราะกลัวทำให้คนที่กำลังหลับสบายอยู่บนไหล่อีกข้างของเขาตื่นขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะของคนทางขวาอย่างแผ่วเบา
“ ฮื่อ.. ” ลู่หานขยับตัวน้อยๆ ใบหน้านวลซุกใกล้ซอกคอของชายหนุ่มผู้เป็นหมอนกิตติมาศักดิ์ราวกับเป็นหมอนข้างอันโปรด ผิวขาวของเซฮุนขึ้นสีอย่างห้ามไม่ได้เมื่อสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เป่ารดอยู่บริเวณนั้น
“ ให้ตายเถอะ... ฝันอยู่รึเปล่าเนี่ยเรา ”
“ ฟรี้.. ” กลายเป็นเสียงหายใจของชายหนุ่มผมดำที่สกัดไม่ให้โอเซฮุนขึ้นเครื่องบินไปฟินแลนด์ ริมฝีปากหนานั่นขยับมุบมิบเหมือนจะเยาะเย้ยเขาว่า “ หึหึหึ .. ฝันกลางวันไปเถอะ ” ทำเอาชายหนุ่มผู้ตื่นขึ้นมาก่อนชาวบ้านได้แต่พ่นลมหายใจอย่างเซ็งๆ
ใช่สิ้.. เขามันแค่หมอนข้างแต่หมอนี่มันแฟนนี่หว่า
ปึ้ก.. เมื่อหมอนกิตติมาศักดิ์เริ่มหมดอารมณ์ คุณหมอนก็จัดการยักไหล่ซ้ายสองสามทีเผื่อว่าคนที่หลับมาตั้งนานสองนานจะตื่นขึ้นมาได้สักที
“ คุณแม่.. ขอกัมจงนอนอีกนิดน้า.. ” เสียงเบาๆของคนโดนแกล้งทำให้คนแกล้งขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
กัมจง? ไหนบอกว่าชื่อไคไง? เซฮุนแทบอยากจะเกาหัวแกรกๆกับอาการละเมอของอีกฝ่าย
นี่เขากลายเป็นคุณแม่ไปแล้วสินะ
“ เฮ้อ.. อีกสักพักค่อยปลุกแล้วกัน ” เซฮุนปิดเปลือกตาลงอย่างเหนื่อยล้า ชายหนุ่มเองก็ยังนอนไม่เต็มอิ่มที่ตื่นขึ้นมาเมื่อครู่ก็เพราะแรงสั่นจากข้อความของรุ่นพี่ที่เขาเมมชื่อว่า อู๋ชานยอลนั่นแหละ
จริงๆมันก็ไม่ได้แย่หรอกที่ต้องมาเป็นหมอนหนุนให้กับคนสองคนนี้ เพียงแต่โอเซฮุนกำลังรู้สึกผิดต่างหาก
ในเมื่อทั้งสองคนเป็นแฟนกัน แต่เขาที่เป็นใครก็ไม่รู้กำลังมานั่งกั้นกลางระหว่างคนสองคน.. ถึงแม้ในใจอยากจะแย่งเจ้าของดวงตากลมโตไม่ต่างจากดวงตากวางคนนั้นมาเป็นของตัวเองก็ตาม
แต่ทำแบบนี้.. มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกผิดแปลกๆ
รู้สึกเหมือนกำลังทำร้ายคนโรคจิตแบบหมอบ้าๆข้างๆเขานี่เลย...
“ เฮ้อ.. ให้ตายเถอะ หลับดีกว่า ฟุ้งซ่านไปนะเรา ไหนๆก็จะตัดใจแล้วนี่.. ”
จะตัดใจ..
แต่มาคอยป้วนเปี้ยนแถมพ่วงโจทก์มาด้วยแบบนี้จะให้เขาทำยังไง?.. ลู่หาน
โอย หัวโอเซฮุนแทบจะระเบิด!
-*-*-*-*-*-*-*-
“ สรุปว่าผมกลับบ้านได้เลยใช่ไหมครับ? ” คริสนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อนางพยาบาลถอดเข็มน้ำเกลือออก เสียงทุ้มเอ่ยถามชายในกรอบแว่นที่ยืนอยู่ไม่ห่างไปเท่าไหร่ เสื้อกราวนด์สีขาวทำให้คนมองอยู่รู้ว่าชายคนนี้เป็นคุณหมอแน่ๆ
“ กลับได้เลยครับ อ้อ อย่าลืมนัดของคุณหมอไคด้วยนะครับ ” คุณหมอกล่าวย้ำแล้วรวบแฟ้มเข้าไปไว้ในอ้อมกอด รอยยิ้มอบอุ่นส่งมาให้ทั้งสองคนอย่างเอ็นดูแล้วหันกายเดินออกจากห้องไป ทิ้งเจ้าตัวยุ่งให้อยู่กับคนพึ่งหายป่วยเพียงลำพัง
“ กลับกันเถอะ ” คริสหันหน้าไปมองอีกฝ่ายที่หาวหวอดๆ ก่อนจะเดินนำออกจากห้องไป
หมับ.. ชายเสื้อที่ถูกกำด้วยมือของคนที่เดินตามทำให้ขายาวหยุดลงโดยไม่ทันบอกคนเดินตาม ผลก็คือชานยอลที่ชนโครมเข้ากับแผ่นหลังและไหล่กว้างๆของเขาอย่างจัง
“ จะ..เจ็บ ” คนซุ่มซ่ามลูบสันจมูกตัวเองป้อยๆ ดวงตากลมจ้องมองมาราวกับเขาเป็นอาชญากรตัวร้ายที่ไปทำอะไรตัวเองเข้าสักอย่าง
“ เดี๋ยวก็ชิน ”
“ ห้ะ? ฮยองว่าไงนะ ” ชานยอลเลิกคิ้วด้วยความสงสัย คำตอบประหลาดๆของคนตรงหน้าทำให้เขางงเต็ก
“ เจ็บบ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน ”
“ พูดอะไรฮะ? ผมงงฮยองแล้วนะ เมาไข้ยังไม่หายรึเปล่าเนี่ย? ” ท่าทีเอียงคอถามของคนตัวเล็กกว่านั้นน่าเอ็นดูเกินกว่าจะทนไหว มือหนายื่นไปตรงหน้าของชานยอลขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจอยู่ดี
“ ขอมือชานยอลให้ฮยองจับนะ ” รอยยิ้มเปล่งประกายบนใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มที่ใครมาเห็นเข้าก็คงละลายกันเป็นแถบๆ ส่งตรงมาให้ปาร์คชานยอลเพียงคนเดียว พร้อมกับฝ่ามือหนาที่ยื่นมาให้เขาวางมือลงไป
แรงบีบเบาๆที่ฝ่ามือทำให้ปาร์คชานยอลรู้ว่าคนๆนี้ยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ มือหนาที่คอยกุมมือของเขาไว้อย่างปกป้องและทะนุถนอม เหมือนที่อีกฝ่ายคอยดูแลเขาอยู่เสมอ ความอบอุ่นที่ได้รับจนหลายๆครั้งที่เผลอมองข้ามไป ในวันนี้ชานยอลได้แต่สัญญาและเตือนตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันมองข้ามมันไปอีก.. ความรักของคนๆนี้ก็เหมือนกัน
“ คริสฮยองครับ ” เสียงเรียกพร้อมกับการหยุดเดินของคนข้างหลังเรียกให้คริสหันกลับมามอง
“ เราสองคน.... ”
“ ว่าไงครับ? ” รอยยิ้มคลี่ตัวบนใบหน้าของเจ้าของชื่อ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายยิ้มหัวใจเจ้ากรรมของปาร์คชานยอลยิ่งเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม
“ เราสองคน....... ”
“ หืม? ” คนที่รอฟังคำถามมุ่นหัวคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นคนช่างจ้อกลับมามีอาการติดอ่างอีกครั้ง
“ เราสองคนเลิกกันเถอะ.. ” คำพูดที่ปาร์คชานยอลพูดออกมาเหมือนมีใครเอาไม้มาตีแสกหน้าคริส คนตัวสูงพูดอะไรไม่ออก มีเพียงดวงตาเรียวที่มองคนพูดที่ก้มหน้าก้มตาด้วยความตกใจ
“ ชะ..ชานยอล? ”
“ เลิกกันเถอะ.. เลิกกับผม ” ปาร์คชานยอลเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น
“ ก็รู้นี่.. ว่าพี่ไม่เคยขอเป็นเจ้าของ.. ” ดวงตาเรียวมองตรงมาอย่างเจ็บปวดมือหนาเอื้อมมาวางทาบลงไปบนหน้าอกของคนตัวเล็กกว่า
“ ขอแค่ดูแลนายก็พอ.. พี่ขอแค่นั้น ”
“ เลิกกับผม.. ตอบตกลงสิ ” ชานยอลจ้องเข้าไปในแววตาของอีกฝ่าย เขาได้แต่หวังว่าฮยองของเขาจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ
“ พี่..ทำไม่ได้ ” คริสตอบช้าๆ เปลือกตาหลุบลงเหมือนไม่ต้องการรับรู้อะไรอีก ชายหนุ่มผมทองหันหลังให้คนที่ร้องขอ
หมับ.. อ้อมกอดจากด้านหลังที่รั้งเขาให้แนบชิดกับเจ้าของอ้อมกอด ยิ่งทำให้คริสสงสัยและเจ็บปวดมากกว่าเดิม
ปาร์คชานยอลกอดเขาทำไม..ในเมื่อปากก็ยังไล่เขาไปอยู่เลย..
“ เลิกกับผมนะ.. ”
ถอยคำที่เหมือนผลักให้คืนที่ผ่านมาเป็นเพียงฝัน.. ถอยคำที่ทิ่มแทงหัวใจที่เขาเคยคิดว่ามันเจ็บจนชินชาไปแล้ว
จะพูดซ้ำให้หัวใจของเขาตายด้านไปเลยรึไง?
“ เลิกกับผมคนนั้น..คนที่มีแต่ความเจ็บปวด คนที่จมอยู่กับความเสียใจจนมองข้ามความรักของฮยอง ”
ประโยคยาวๆที่ดึงสติของคนฟังให้กลับมาอีกครั้ง.. สติที่กลับมาพร้องกับเสียงหัวใจที่เต้นระรัว และอ้อมกอดที่รัดแน่นกว่าเดิมของคนที่อยู่ข้างหลัง
“ ฮยองเลิกกับคนงี่เง่าคนนั้นแล้วมาคบกับผมแทนได้ไหม?.. ”
“ ถะ... ถึงผมคนนี้จะเอาแต่ใจ ถึงจะดื้อ.. จะทำให้ฮยองคิดมาก.. แต่ก็ไม่ได้งี่เง่าเหมือนคนนั้นแน่ๆ ”
“ พะ..เพราะงั้น คบกับผมเถอะนะ ” คนที่ปาร์คชานยอลขอร้องหันกลับมาแล้ว ดวงตาเรียวก็มองกลับมาที่เขาแล้ว.. เพียงแต่มันไม่ได้เต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนที่เคย
คริสกำลังโกรธเขาแน่ๆ.. ไม่น่าเล่นอะไรแบบนี้เลย เด็กหนุ่มเริ่มโทษความซื่อบื้อของตัวเอง น้ำใสๆคลอขึ้นในดวงตากลมทั้งสองข้าง
“ ปาร์คชานยอล.. ” เสียงทุ้มพูดขึ้นเมื่อเห็นเขาก้มหน้างุด แต่ถึงฮยองจะเรียกชื่อเขา ชานยอลก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาอีกฝ่ายอยู่ดี
“ กล้าของพี่เลิกแล้วทำไมไม่กล้ามองหน้า? ”
“ กล้าพูดออกมาแล้วทำไมไม่มองพี่? ”
“ ...ขอโทษ.. ผมแค่ อยากให้ฮยองเจอคนที่ดีกว่า ” ปาร์คชานยอลตอบคำถามแต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นไปอยู่ดี
“ เอาแต่ใจ.. มั่นใจจังเลยนะเจ้าตัวแสบ ” มือหน้าสอดเข้ามาเชยคางให้เขาเงยหน้าขึ้น
“ คนที่ดีกว่าที่ว่า.. ก็คือตัวเองเนี่ยนะ? ” คริสขมวดคิ้วจ้องมองอีกฝ่าย เขาพอเข้าใจแล้วว่าเจ้าตัวแสบต้องการจะทำอะไร แต่พูดแบบนี้เขาอดใจหายไม่ได้จริงๆ
“ อื้ม.. ดีกว่าสิ ก็ผมคนนี้มีสิ่งที่คนก่อนหน้าไม่มีนี่.. ”
“ หืม? ”
“ ตอบตกลงเลิกกันมาก่อน.. อู๋อี้ฟานเลิกกับผมนะ ” ชานยอลยื่นข้อเสนอเมื่อเห็นว่าฮยองของเขาเริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว
“ เฮ้อ.. ก็ได้.. เราเลิกกัน ” คนตัวสูงจำต้องยอมทำตามในท้ายที่สุด ถึงแม้ลึกๆแล้วจะไม่อยากทำก็เถอะ
“ อู๋อี้ฟาน! ” คราวนี้เสียงที่เคยสั่นและตะกุกตะกักของเจ้าของเรื่องถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เจ้าของชื่อเพียงแค่มองหน้าคนเรียกแทนการตอบรับ
“ ถ้าไม่รังเกียจ.. คบกับผมได้ไหมครับ?.. ”
คุยกับไรท์เตอร์มามะ
สวัสดีค่ะ ! พลับกลับมาแล้ว ๕๕๕
หายไปหลายวันเหมือนกันเนอะ คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย? *โดนรุมถีบ*
ช่วงนี้มีเรื่องให้คิด(?)นิดหน่อย+การบ้านและงานบางอย่างคั่งค้าง /มึงดองงานก็บอกมา/
ก็เลยหายไปเลย ตอนนี้ก็มาอัพให้แล้ว แถมเป็นเวลาดีซะด้วย #2MonthsWithEXO
สองเดือนเดบิวท์หนุ่มๆแล้ว เย้เย้ อยู่ด้วยกันไปอีกสองร้อยล้านปีแสงเลยนะ
ตอนนี้เป็นไงบ้างเอ่ยย? 55 มันก็ยังสั้นเหมือนเดิม 555 ใช่ม้า?
เอาน่าๆ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
อ้ะๆ อย่าพึ่งโกรธาน้องยอลลี่กันล่ะ!
ปล. มีคนทายถูกจริงๆด้วยสิว่าเฮียแกพูดอะไร 55 ตอนพิเศษที่จะมาลงออกแนวหนังจีนหน่อยนะคะ
ไว้พลับจะมาลงให้แน่ๆแต่คงเป็นเสาร์อาทิตย์ อยากอ่านกันหรือเปล่า? ๕๕ ห้ะ? ไม่อยาก โอเคเค้าไม่ลงละ
เจอกันตอนหน้าค่ะ นักอ่านที่รัก : )
ความคิดเห็น